[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 156 บทที่ 8 13
บทที่ 8 ตอนที่ 13
T/N: ไม่ได้แปลนานอาจจะจำศัพท์หรือแปลไม่ตรงกับอันเดิม อย่าว่ากันน้า ช่วงนี้เครียดเรื่องงานมาก
รัฐสภาได้ตัดสินใจแนวทางของเมืองอาร์คาซัม ดังนั้นท่านประธาน ไฮเบ๋า โฟก้าและบุคคลสำคัญอื่นๆได้ก้าวเข้ามาในสถาบันในวาระการประชุมครั้งนี้
ทั้งประธานไฮเบ๋าและสมาชิกสภาเองก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา และดำเนินวาระการประชุมราวกับไม่สนใจเนื้อหาของมัน
อาคารรัฐสภาของอาร์คาซัมนั้นเป็นวงกลมขั้นบันได โดยมีประธานนั่งอยู่ด้านบนสุดของศูนย์กลางและเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ภายใต้ประธาน และที่นั่งก็ถูกจัดให้นั่งหันไปทางกึ่งกลางของอาคาร
นอกจากนี้ยังมีเหล่าผู้ชมรอบที่นั่งและวิคเตอร์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ตอนนี้วิคเตเอร์ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาแต่เป็นเพียงผู้ชม
ท้ายที่สุดแล้วรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาจะเป็นคนตัดสินชะตากรรมของอัลคาร์ซัม
เขาไม่มีอำนาจในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐสภาและไม่มีโอกาสให้ทำด้วย
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของวิคเตอร์ยังคงมีอำนาจ และสมาชิกนิติบัญญัติบางคนต่างมองเขาด้วยความหวาดกลัว
「ถ้างั้นเรื่องการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกแต่ล่ะประเทศจะเหมือนกับปีก่อนๆ เริ่มหัวข้อถัดไป……」
วาระการประชุมในครั้งนี้เกี่ยวกับเทศกาลเปิดสถาบัน อย่างไรก็ตาม เทศการเปิดสถาบันถูกจัดมาเป็นสิบครั้งแล้ว เพราะงั้นเนื้อหาก็ไม่ต่างกัน
แน่นอนว่าอาจจะมีเนื้อหาเพิ่มเติมในแต่ละปี แต่ก็ไม่มีอะไรที่ต้องรีบร้อนเป็นพิเศษ
สาเหตุหลักมาจากความจริงที่ว่าจิฮัดที่เป็นผู้นำกลุ่ม “แสงดาว” เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ซ่อนตัวอยู่ในอัลคาร์ซัม
วาระการประชุมยังดำเนินไปตามปกติ ความสงบสุขถูกทำลายโดยคนที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหัน
「ขออนุญาต」
ทันใดนั้นชายร่างใหญ่สูงเกือบสองเมตรในชุดสีดำที่ชวนให้นึกถึงเครื่องแบบทหารก็เข้ามา
จากริ้วรอยบนใบหน้าวิเคราะห์ได้ว่าเขาอายุประมาณ สี่สิบปี
เมื่อสมาชิกสภาเห็นก็ต่างตกใจ
อีกอร์ต เฟบูรัน เป็นหนึ่งในขุนนางผู้มีชื่อเสียงของฟอร์ซิน่า
ร่างกายที่เข้าสู่วัยกลางคนนั้นใหญ่โตแม้จะเทียบกับจิฮัด และดวงตาที่แข็งกระด้างของเขาก็ชวนให้นึกถึงดวงตาทหาร
「ข้าขอเข้าร่วมการอภิปรายครั้งนี้ได้ไหม?」
「ลอร์ดอีกอร์ต ท่านเคยมาที่อัลคาร์ซัมด้วยงั้นเหรอ?」
「อ่าา ก็มาทันพิธีเปิดงานนั่นแหละ ว่าแต่ท่านประธานข้าจะเข้าร่วมได้ไหม?」
「อ่า ได้สิดิฉันไม่มีปัญหา」
「ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง」
อีกอร์ตโค้งคำนับอย่างสุภาพต่อประธษนและนั่งลงท่ามกลางเหล่าผู้ชมที่นั่งของอาคารรัฐสภา
การมาเยือนอย่างกะทันหันของอีกอร์ตทำให้เกิดความปั่นป่วนเล็กน้อยในอาคารรัฐสภา
สมาชิกสภาบางคนมองไปที่อีกอร์ต ขณะที่เขานั่งอยู่ที่ขอบอาคารรัฐสภา แต่เขายังคงจ้องไปยังจุดหนึ่ง
「…………」
「…………」
สายตาของอีกอร์ตอยู่ที่วิคเตอร์ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่และเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง
พวกเขายังคงเงียบซึ่งกันและกัน และมีเพียงดวงตาของพวกเขาเท่านั้นที่สบกัน และประกายไฟอันเงียบสงบได้เกิดขึ้น
ในทางกลับกันท่านประธานไม่สนใจและดำเนินการต่อ
「ดังนั้นมาคุยกันต่อ ณ วาระที่ สาบสิบสอง ความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวน อบิส กิฟุ」
(TN:ขออนุญาตทับศัพท์เลยล่ะกันขี้เกียจคิดคำไทย)
รายการต่อไปนั้นเป็นข้อยกเว้นของวาระการประชุมปกติ
อบิส กิฟุ
มอนสเตอร์ชนิดพิเศษที่ถูกค้นพบเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
มีการพบเห็นหลายครั้งเมื่อทศวรรษที่แล้ว และคิดว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรุกราน
ในขั้นต้น อบิส กิฟุ นั้นตายไปแล้ว และศพของมันก็ถูกเก็บโดยสถาบันกลอรัมม์ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยของอัลคาร์ซัม
อย่างไรก็ตาม เมื่อสองเดือนที่แล้ว อบิส กิฟุ ซึ่งควรจะตายระหว่างการทดลองกลับฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง ทำลายห้องปฏิบัติการและทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ
ความวุ่นวายสงบลงโดยจิฮัด รันเดล ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการเฝ้าระวังและเอาชนะมันที่ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นมันก็ฟื้นคืนชีพมาอีกในรูปแบบปรสิตสิงร่างเหล่าทหาร
ในที่สุดมันก็หลอมรวมกับเคน โนทิส นักเรียนของสถาบันโซลมินาติ แต่ก็พ่ายแพ้ไปอีกครั้ง
เหตุการณ์นี้เหมือนจะเป็นกรณีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายนักเรียน แต่ก็มีผลกระทบมากมายเกิดขึ้น
ความเป็นไปได้ที่จะถูดปรับอัลคาร์ซัมได้เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ถูกระงับเอาไว้ แถมยังมีสายลับที่พยายามจะปลดปล่อยอบิสที่จิฮัดและวิคเตอร์คอยจับตาดูอยู่
อย่างไรก็ตาม มีความเห็นสองฝั่งที่ถูกแบ่งออกนั่นคือฝ่ายที่บอกให้ปิดผนึกมันอย่างสมบูรณ์กับฝ่ายที่ให้ทดลองต่อไป
「โครงการนี้จะได้รับการอธิปรายโดยตรงจากผู้รับผิดชอบ คุณทอร์เกรน เชิญเข้ามาด้วยค่ะ」
「ครับ ขออนุญาตอภิปราย」
เพื่อตอบสนองต่อประธานเขาสวมแว่นแล้วก้าวไปข้างหน้า เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่อยู่ในกลอรัม
「สำหรับข้อมูลของอบิสนั้นที่ทราบในปัจจุบันพบว่าองค์ประกอบในตัวของอบิส นั้นมีความสามารถในการฟื้นฟูสูงมากครับ และหากมันได้สิงสู่ร่างภาชนะที่มีประสิทธิภาพจะทำให้มันยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกซึ่งจะเร่งการฟื้นฟูทั้งตัวเองและร่างภาชนะ อย่างไรก็ตามมันมีความแตกต่างชัดเจนระหว่างทั้งสองครับ」
ตามรายงานของจิฮัด ทหารที่โดนปรสิตสิงนั้นแข็งแกร่งมาก แต่อัตตาพังทลายลงอย่างสมบูรณ์และกลายเป็นสัตว์ร้าย
ขณะเดียวกัน เคน โนทิส ไม่เพียงแต่สามารถเสริมพลังร่างกายของเขา แต่ยังได้รับพลังเหนือมาตรฐาน เช่นสามารถดูดซับความเสียหายของวิญญาณ และการฟื้นฟูที่แม้ว่าต่อจะให้โดนตัดหัวขาด
ในกรณีของเคนมีรายงานว่าเขาได้ยังคงสติเอาไว้ได้ระหว่างการต่อสู้ เมื่อเทียบกับทหารก่อนหน้า
「พอเปรียบเทียบความแข็งแกร่งทางกายภาพของทั้งสองแล้ว เคน โนทิสแข็งแกร่งกว่ามาก คำถามคือทำไมความแข็งแกร่งมันถึงแตกต่างกันได้ถึงขนาดนั้น」
「แล้วข้อสรุปที่ทอร์เกรนได้ล่ะ?」
「ชายทั้งสองนั้นไม่มีโรคมาตั้งแต่กำเนิด นอกจากนี้ เนื่องจากอบิสได้เข้าใกล้ชิดกับจิตวิญญาณของผู้ถูกสิง ไม่ใช่แค่ปัจจัยทางกายภาพที่กำหนดความแตกต่างเท่านั้น」
「และถ้าพูดถึง?」
「นั่นก็ขึ้นอยู่กับภาชนะของปรสิตที่ยิ่งจิตวิญญาณแข็งแกร่งมากเท่าไร ก็ยิ่งมอบความแข็งแกร่งให้มันมากเท่านั้น」
ในการตรวจสอบอบิส ยังดำเนินการตรวจสอบประวัติของคนที่เป็นปรสิตของทั้งสองฝ่าย
และจากการวิจัยจนถึงตอนนี้อบิสนั้นใกล้เคียงกับวิญญาณ
「มนุษย์นั้นสามารถเข้าถึงพลังได้หลายอย่าง ทั้งพลังเวทย์ พลังวิญญาณ และอีกมากมายทำให้เป็นภาชนะชั้นเลิศของตัว เคน โนทิส ที่จะถูกปรสิตเข้าสิงเพราะถูกต้อนจนมุม」
「เป็นผลให้อบิสใช้ช่องว่างจากจิตใจและกลายพันธุ์เกินมนุษย์เกินไปแล้ว……」
เมื่อพูดคนเดียวเช่นนั้น พวกเขาก็พยักหน้าให้กันเล็กน้อย
เคนถูกต้อนจนมุมโดยโนโซมุ เบลาตี้ ที่เขาตกลงไป เคนถูกแทงทะลุรอยแตกของจิตใจของเขาและจิตวิญญาณที่แตกสลายของเขาก็ถูกหลอมรวมเข้ากับอบิสเลยหยุดเป็นมนุษย์
คนประหลาด อาจไม่มีอะไรที่บ่งบอกสถานะของเคนไปได้ดีกว่านี้อีกแล้ว
「อย่างไรก็ตาม อบิส กิฟุ เป็นสิ่งมีชีวิตทางกายภาพ แม้ว่าจะเป็นปรสิตและกลายพันธุ์ แต่ก็ยากที่จะคิดว่าสภาพจิตใจของอีกฝ่ายจะส่งผลต่อมันด้วย……」
「ในเรื่องนั้นมีการค้นพบสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุ เมื่อตรวจสอบร่างของ เคน โนทิส ก็พบร่องรอยของ “รอยประทับ” ที่ละเอียดมากจนแทบมองไม่เห็น」
「รอยประทับ?」
「ใช่ครับ รายละเอียดไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่ารอยประทับนั่นมันต่างจากการผ่าตัดทั่วๆไปบนร่างของเคน โนทิส ซึ่งมันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า สันนิษฐานขั้นต้นได้ว่ารอยประทับนั่นคือคำสาปที่จะทำให้ภาชนะและตัวปรสิตเป็นหนึ่งเดียวกันโดยอัตราการควบคุมจะอยู่ที่ เจ็บสิบ ต่อ สามสิบ……」
「หากเป็นแบบนั้นก็มีแต่พวกที่แข็งแกร่งที่จะต้านทานคำสาปได้และกลายเป็นตัวตนเหนือมนุษย์……」
สิ่งนี้จึงอธิบายได้ว่าทำไมถึงไม่พบอบิสเลย
เนื่องจากไม่แข็งแกร่งพอที่จะให้มันสิงสถิตย์ เพราะทนต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายไม่ไหวเลยตายและหายไป
「แล้ววิธีรับมือ?」
「มีวิธีรับมือหลายอย่าง อย่างแรกคือการลบคำสาปด้วยพลังเวทย์อันทรงพลัง อีกวิธีหนึ่งคือการตัดส่วนที่โดนคำสาปกลืนกินก่อนที่มันจะกัดกินไปทั่วร่างครับ」
ปัญหาคือไม่ทราบว่าต้องใช้พลังเวทย์มากแค่ไหนในการสลัดคำสาปออก
นอกจากนี้ หลังจาก เคน โนทิส เปลี่ยนไปก็จะถูกปรสิตยึดร่างเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ส่วนที่ยุ่งยากก็คือหากปรสิตได้ยึดร่างไปแล้วคำสาปจะไหลเข้าสู่ร่าง มันยากที่จะชำระล้างหรือตัดส่วนที่เป็นส่วนแพร่กระจายคำสาปออก
แต่ว่าหากรู้สาเหตุ ก็สามารถวางแผนรับมือและหลีกเลี่ยงความสับสนได้
สำหรับจิฮัด นี่ถือว่าเป็นปฏิหาริย์แล้ว
「แล้ว สถานะของ เคน โนทิสในตอนนี้คือ?」
「ปัจจุบันถูกแยกออกจากกันและปิดผนึกทางกายภาพในชั้นล่างสุดของสถาบันวิจัย เพื่อไม่ให้มันได้รับการกระตุ้นจากพลังเวทย์ จนถึงตอนนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด」
「เข้าใจแล้ว ดังนั้นต้องการฟังความเห็นว่าควรจะดำเนินการตรวจสอบคดีนี้ต่อไปหรือไม่」
จากนั้นประธานก็เรียกร้องให้สมาชิกลงคะแนนเสียง
คนแรกที่พูดออกมาคือสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เป็นฝ่ายสนับสนุน จากนั้นก็เกิดเสียงทุบโต๊ะดังปั๊ง ขณะที่ตะโกนออกมา
「ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ควรจะมีการตรวจสอบมันอีก รีบกำจัดมันทิ้งโดยเร็วที่สุด!」
ราวกับสะท้อนความคิดเหล่านั้นสมาชิกที่เหลือเองก็สนับสนุน
「ใช่แล้ว เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังดีที่หลีกเลี่ยงมันได้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกจะมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก」
「หากไม่ทำแบบนั้น พวกเราจะถอนตัวออกจากที่นี่ ทุกคนที่นี่จะถอยกลับประเทศของตัวเอง และเมืองอัลคาร์ซัมแห่งนี้จะยังคงอยู่ได้อีกเหรอ?」
ในขณะที่มีคนสนับสนุนให้จัดการอบิส แต่ก็มีฝ่ายที่สนับสนุนให้ปิดผนึกเช่นกัน
「แต่ว่าก็ต้องขอบคุณตัวอย่างเหล่านี้ที่ทำให้การวิจัยคืบหน้าไปมาก คิดว่าควรจะปิดผนึกมันไว้ก่อน……」
「โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอย่างแบบเคน โนทิส เป็นอะไรที่ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีพวกเราอาจจะหาวิธีใช้งานมันได้」
「ในตอนแรกมันคืนชีพได้แม้จะถูกขยี้เป็นผุยผงได้ใช่ไหม ถึงจะบอกว่ากำจัดมันทิ้งแต่จะทำยังไง?」
「บ้าเอ้ย ………… แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก หากมันฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง?มีการรับประกันเหรอว่าจะสามารถรับมือกับมันได้」
「พอแค่นั้นแหละ……」
ทั้งสองฝ่ายถูกห้าม
「คุณทอร์เกรน แล้วตรงนั้นจะทำยังไง? เป็นไปได้ไหมที่อบิส กิฟุจะฟื้นคืนชีพกลับมาในร่างของเคน โนทิส?」
「อธิบายไม่ได้ครับ ยังไงก็ตาม การฟื้นคืนชีพของอบิส นั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวคำสาปแต่อย่างใด ไม่น่าเป็นไปได้ที่มันจะฟื้นคืนชีพหลังจากที่โดนทำลายส่วนคำสาปโดยสมบูรณ์
สำหรับ เคน โนทิส ในตอนนี้ โดนใส่อุปกรณ์ผนึกพลังเวทย์และปิดผนึกเขาด้วยการล่ามทุกอย่างไม่ให้เขาเคลื่อนไหวได้ และไม่มีวี่แววว่ามันจะฟื้นคืนชีพแต่อย่างใด
สาเหตุของการฟื้นคืนชีพครั้งก่อนนั้นมาจากพลังเวทย์ที่ไหลเข้าไปในร่างอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะฉะนั้นคำสาปที่ถูกสลักไว้บนร่างจึงตอบสนองต่อพลังเวทย์ ด้วยเหตุนี้มันเลยไปกระตุ้นสัญชาตญาณของอบิส」
「หืมม……」
「ในความคิดเห็นของผม มันจำเป็นต้องมีมาตรการรับมืออยู่แล้ว แต่ต้องรักษาให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด
ในกรณีนี้ เราอาจไม่มีทางเลือกนอกจากวิจัยในสภาพที่เขาโดนปิดผนึกขั้นสูงสุดเหมือนเดิม?」
หลังจากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสักพัก ก็ไม่มีความคิดเห็นใดอีก
ในท้ายที่สุดของการลงคะแนนก็คือให้ปิดผนึกและดูท่าทีต่อไป
「ในส่วนของวาระที่สามสิบสองได้สรุปแล้วว่าจะทำการปิดผนึกและเฝ้าดูต่อไป ขอบคุณ คุณทอร์เกรน งั้นเรามาเริ่มวาระถัดไป……」
เมื่อสิ้นสุดหนึ่งวาระ ก็ถึงเวลาของวาระถัดไป
อัลคาร์ซัมยังคงเต็มไปด้วยปัญหา
ประธานยังคงดำเนินคดีต่อไปโดยไม่สนใจ
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
「เดี๋ยวก่อนสิ」
รัฐสภาถูกเลื่อนวาระออก และวิคเตอร์กำลังเดินไปตามทางเดินของรัฐสภาและถูกหยุดด้วยเสียงแหบๆ
เมื่อมองย้อนกลับไปไม่มีใครยืนอยู่ในที่แห่งนั้น
「ต้องการอะไรงั้นเหรอ ตอนนี้ข้ากำลังยุ่ง?」
「อะไร ไม่มีเวลาเล็กๆน้อยๆที่จะคุยกับ”เพื่อนร่วมชั้น”เลยรึไง ที่เรียนโรงเรียนประถมเดียวกัน หรือกำลังยุ่งเพราะ “หนี้” ที่มีล่ะ?」
วิคเตอร์และอีกอร์ตเริ่มพูดจาถากถางกัน
อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายนั้นกำลังโกรธจัด
แม้หน้าจะดูยิ้มแต่ภายในใจแทบจะเอามีดแทงกันแล้ว
「หนี้? น่าเสียดายที่บ้านของข้าเองก็มีขนาดใหญ่ ดังนั้นแม้จะต่อให้มีหนีเแต่ก็สามารถจ่ายได้ด้วยตัวเอง เหตุใดเจ้าถึงต้องมายุ่งกับข้า?」
「เป็นไปได้ด้วยรึผ่านมาตั้งสามร้อยปีที่ไม่ต้องจ่ายสักแดงเดียว มันจะไม่เอาเปรียบเกินไปหน่อยเร้อ」
สามร้อยปี เมื่อได้ยินคำพูดนั้นคิ้วของวิคเตอร์ก็กระตุก
เขาอุตสาห์ปกปิดมันว่าเป็นความลับสูงสุดของตระกูลดูเหมือนว่าข้อตกลงนั้นจะถูกรู้เข้า
ในทางกลับกันวิคเตอร์เลิ่กคิ้วเล็กน้อย และพูดกลับอย่างเงียบๆ
「เจ้าน่ะคิดอะไรอยู่ถึงได้มาที่อัลคาร์ซัมการกระทำของเจ้าในตอนนี้มันดูไร้สติเหลือเกินนะ มันกำลังสร้างความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น ไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่สมัยเรียน」
「หมายถึงอัศวินเหล่านั้นน่ะเหรอ? ก็แค่คนคุ้มกันธรรมดาน่า ข้าเองก็มีคู่ต่อสู้ทางการเมืองมากมาย รัฐสภาของเมืองเองก็ไม่ค่อยให้การต้อนรับ เพราะยุ่งกับอบิสนั่น และมันคงจะสายเกินไปแล้วมั้ง」
อัศวินกระดูกเหล็เป็นอัศวินที่รับใช้ตระกูลเฟบูรัล และแม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็เป็นอัศวินชั้นยอดและวางใจได้
แน่นอนว่ามันไม่ใช่กองกำลังที่สามารถเริ่มสงครามกับอัลคาร์ซัมหรือประเทศอื่นๆและชนะได้ แต่มีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้อัลคาร์ซัมต้องเดือดร้อนได้
「มันก็ดีกว่าไอ้ตัวจ้อยที่พยายามเพิ่มประกายไฟให้กับความชั่วร้ายในเมืองแห่งนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฟิลาน่าไม่มองเจ้าไง」
「แหมทำเป็นพูดดีไป แกพยายามป้อนคำหวานใส่เธอแล้วสุดท้ายเป็นไง สุดท้ายก็ดูแลเธอไม่ได้และปล่อยให้เธอตายเนี่ยนะ ? ต้องมีสักกี่คนที่เดือดร้อนเพราะแกเมื่อสิบปีก่อน?」
สิบปีก่อนวิคเตอร์เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกๆที่ส่งกำลังเสริมในเวลานั้น แน่นอนว่ามีการต่อต้านจากภายในและภายนอกประเทศ
กองกำลังติดอาวุธของประเทศต้องข้ามพรมแดน ไม่ว่าจะยามสงบหรือยามรบ เป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นการประกาศสงครามอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนี้ การตั้งกองทัพ การเดินทัพ ค่าบำรุงรักษา และรางวัลของกองทัพล้วนใช้เงินมหาศาล
วิคเตอร์ขจัดการคัดค้านเหล่านั้นทุกวิถีทาง
คลีคลายความชอบธรรมและเหตุผลทุกอย่างทิ้งไป ทำให้ผู้คนเข้าใจคำผิดด้วยคำพูดหลอกลวง ติดสินบนให้กับเหล่าคนที่พยักหน้า และบางครั้งใช้อำนาจข่มขู่
เผด็จการ ไอ้นกหวีด สิ่งเหล่านี้เป็นชื่อเสียของวิคเตอร์ที่โดนพวกต่อต้านใช้คำเหล่านั้นดูถูก
「แม้แต่รูปปั้นที่ไม่ต้องกินข้าวกินอาหารก็ยังสามารถอ้าปากพูดได้งั้นรึ」
「สิบปีที่แล้วข้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เพราะพ่อโง่ๆเป็นเจ้าตระกูล แต่ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าตระกูลคนใหม่ ข้าจะไม่ยอมให้อำนาจเอนเอียงอีกเพราะคำพูดอันไร้น้ำยาของแก」
สิบปีก่อนหัวหน้าตระกูลเฟบูรัล พ่อของอีกอร์ต ได้ให้ความร่วมมือในการก่อตั้งกองกำลังกับตระกูลฟรานซิส โดยจัดหากองกำลัง เสบียง และเงิน
อันเป็นผลมาจากความร่วมมือของสองตระกูลในการก่อตั้งครั้งนี้ ทำให้ฟอร์ซิน่าเป็นในกลุ่มแรกๆที่เข้าช่วยเหลือการรุกรานของปีศาจและเพิ่มศักดิ์ศรีให้กับประเทศ ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับหนี้สินมหาศาลและการเงินเกือบล้มละลาย
การสูญเสียนั้นมากมายเกินกว่าที่คิด และยังคงเป็นเหตุนำพามาถึงปัญหาเศรษฐกิจในฟอร์ซิน่า
「นายท่านคะ รถม้าพร้อมแล้วค่ะ」
ในขณะนั้นเอง มีน่า เมดส่วนตัวของวิคเตอร์ก็ขัดจังหวะ
เมดที่เข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของขุนนางระดับสูง เป็นการกระทำอันหยาบคายมาก แต่เมื่อเห็นมีน่า อีกอร์ตก็ไม่คิดจะว่าอะไร
「นานแล้วนะที่ข้าไม่ได้เจอเจ้า มีน่า」
「เช่นเดียวกันค่ะ ท่านเฟบูรัล」
มีเหตุผลเดียวที่เขาไม่ตำหนิเธอ เช่นเดียวกันเพราะเป็นเพื่อนสมัยเด็ก
「ยังคงรับใช้เจ้าเผด็จการนี่อยู่อีกเหรอ? อัศวินหุ่นดีเช่นเจ้าควรมารับใช้ข้าจะดีกว่ามั้ง แต่ว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มารับตำแหน่งอัศวินเหมือนเดิม?」
อีกอร์ตมีความรู้สึกเกลียดชังต่อตัววิคเตอร์มาก แต่ความรู้สึกของอีกอร์ตที่มีต่อมีน่านั้นไปในทางบวก
อีกอร์ตชอบมีน่า ซึ่งเชี่ยวชาญในการเป็นอัศวิน ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเธอดันไปรับใช้ศัตรูของเขานั่นเอง
「ขอโทษด้วยนะคะ แต่ดิฉันไม่คิดว่าจะสามารถเยียวยาแผลเก่าของท่านได้ นอกจากนี้ ดิฉันเป็นของนายท่านวิคเตอร์แล้ว ไม่มีอะไรที่ดิฉันทำได้แล้วค่ะ……」
「……ไอ้เวรนี่」
อีกอร์ตที่โดนมีน่าปฏิเสธก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย
เขาไม่ได้โกรธเธอแต่เขาโกรธศัตรูตรงหน้า
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันถึงเวลาที่จะเอาคืนแล้ว
「นักเรียนที่เจ้าได้สอนวิชาดาบให้ยังคงสบายดีรึเปล่า? มีข่าวลือว่าไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่เลยนะ」
「หากเป็นท่านไอริส ดิน่า ยังคงเรียนกับเพื่อนร่วมชั้นได้ตามปกติค่ะ ดังนั้นดิฉันคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ」
「นั่นสินะ แต่หมู่นี้ข้าได้ยินมาว่านางหมกหมุ่นอยู่กับผู้ชายจนไม่สนใจอย่างอื่นเลยนี่ ถ้าข้าจำไม่ผิดหมอนั่นมันชื่อ โนโซมุ เบลาตี้?」
อีกอร์ตพูดเช่นนั้นพร้อมกับมองวิคเตอร์
แม้ว่าจะโดนจ้องมองแต่สีหน้าของวิคเตอร์ก็ไม่เปลี่ยน
เมื่อมองไปที่วิคเตอร์ที่ไร้อารมณ์อีกอร์ตยังพูดต่อ
「นักเรียนที่อ่อนด้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เรียนวิชาดาบกับ ชิโนะ มิคางุระ ต้องเป็นคนไม่ธรรมดาแน่ๆ แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมด……」
「อะไรกัน นี่เจ้ามีเวลาว่างมากถึงขั้นมาสอดส่องเหล่านักเรียนเลยรึไงกันเนี่ย?」
「ข้าได้ยินมาว่าหมอนั่นอยู่ในอุบัติเหตุตอนเหตุการณ์ลูกสาวเจ้านี่」
「เฮ้อ….ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ หมอนั่นกับลูกสาวข้าก็แค่เพื่อนกัน ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะได้รับเชิญไปที่คฤหาสน์ ขอโทษด้วยแต่ข้าคงไม่มีเวลาว่างพอที่จะมายืนพูดคุยอะไรไร้สาระ」
วิคเตอร์ถอนหายใจและหันหลัง
มีน่าที่อยู่ข้างๆก็โค้งคำนับอีกอร์ตและเดินตามเขาไป
「เดี๋ยวก่อน ไอ้เผด็จการ」
ขณะที่วิคเตอร์กำลังจะจากไป อีกอร์ตพยายามหยุดเขาไว้
วิคเตอร์เดินต่อไปราวกับว่าไม่อยากจะฟังอีก แต่อีกอร์ตพูดอย่างไม่สนใจ
「เหอะบอกว่าข้าเป็นรูปปั้น แต่จริงๆแล้วมันหมายความว่ายังไง?」
น้ำเสียงที่ตั้งคำถามนั้นดูเต็มไปด้วยความโกรธ
「แกเองก็ทำในสิ่งที่ทำได้แค่ลมปาก สุดท้ายก็ปล่อยให้ฟิลาน่าตายไม่ใช่เหรอไง」
ทำให้ฟิลาน่าตาย
เท้าของวิคเตอร์หยุดเมื่อได้ยินคำนั้น
「ถ้าเป็นข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เธอตายหรอก แม้ว่าจะหมายถึงการฆ่าเด็กในท้องนางก็ตาม」
「เพราะแกเองที่เป็นแบบนั้นแหละ นางถึงไม่ได้ชอบเจ้าไงไอ้สวะเอ๋ย ความคิดต่ำตมสุดๆ」
เมื่อหันกลับมาวิคเตอร์จ้องเขาด้วยดวงตาเดือดดาล
วิคเตอร์และอีกอร์ตนั้นเป็นคู่กัดมาตั้งแต่สมัยเรียน
ไม่ว่าจะเป็นฐานะทางครอบครัว ศัตรูทางการเมือง หรือศัตรูความรัก
น่าแปลกที่พวกเขาดันชอบผู้หญิงคนเดียวกัน อย่างไรก็ตามวิคเตอร์ก็มักจะเป็นฝ่ายที่ชนะใจสาวๆเหล่านั้น
แม้ว่าจะมีสายสัมพันธ์ที่หยั่งรากลึกลงไป แต่พวกเขาก็เป็นดั่งน้ำกับน้ำมัน และในที่สุดก็เริ่มจะแตกหัก
ขณะที่คิดว่าจะแปลวีรบุรุษต่อไปเรื่อยๆ ก็ลืมไว้ว่ายังมีมังกรที่เป็นโปรเจ็ค ค้างอยู่งั้นขอมาเคลียร์เรื่องนี้จนจบ
ป.ล. Xeno กับ Rinkana คนเดียวกัน สถานะตอนนี้ : ตกงาน ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดนิ้ว กระดูกงอกตรงข้อมือเนื่องจากการพิมพ์ วันนี้ได้ตอนเดียวเพราะไปสัมภาษณ์งานมาแล้ว “ไม่ผ่าน” หวังว่าจะเข้าใจกันนะ อารมณ์กำลังดาวน์ พยายามบิ้วด์กลับมาอยู่
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง
Comments