[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 160 บทที่ 8 17
บทที่ 8 ตอนที่ 17
เทศกาลเปิดสถาบันไม่ใช่แค่เปิดสถาบันโซลมินาติเท่านั้น แต่เป็นงานสำคัญของเหล่านักเรียนอีกด้วย
ในวันงานจะให้ผู้คนมากมายจากภายในและภายนอกเข้าออกระหว่างวัน
ชั้นเรียนยังคงมีตามปกติ แต่มีการเปิดให้คนภายนอกได้มาดูการสอนดังนั้นจึงค่อนข้างกระตือรือร้น
แต่ว่างานสำคัญจะถูกจัดขึ้นในตอนเย็น
งานเลี้ยงซึ่งมีเหล่าคนสำคัญมากมายจากแต่ละประเทศมาเข้าร่วมและเหล่านักเรียนที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง แมวมองแต่ละประเทศต่างก็มองหานักเรียนมีศักยภาพเพื่อไปทำงานให้กับประเทศของตน
ในทางกลับกันอาคาร์ซัมนั้นถึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะมีคนจากภายนอก
แขกจำนวนมาก อย่าง ขุนนางชั้นสูงและคนคุ้มกัน
จะต้องใช้ประโยชน์จากการที่แขกมาในการกระตุ้นเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ
「อืมมม ค่อนข้างประหม่าซะแล้วสิ……」
ในขณะที่สถาบันและเมืองอยู่ในความรื่นเริง โนโซมุที่สวมชุดทางการ ในขณะที่วิคเตอร์คอยจับตามองดูเขาอยู่
ตอนนี้โนโวมุอยู่ในบ้านรับแขกที่ตั้งอยู่ในกับลานประลอง
เป็นสถานที่สำหรับสร้างความบันเทิงให้บุคคลสำคัญที่มาเยือนสถาบัน แต่แน่นอนว่าสถานที่ๆโนโซมุไม่คุ้นเคยมาก่อน และมีแต่สิ่งอำนวยความสะดวกที่เข้าใจได้ยาก
สำหรับโครงสร้างของอาคารนั้นทำมาอย่างหรูหราซึ่งชวนให้นึกถึงคฤหาสน์ของไอริสและมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชั้นหนึ่งซึ่งกว้างใหญ่พอที่จะจัดงานเลี้ยงได้ ซึ่งที่แห่งนี้ถูกใช้ในการจัดงานครั้งนี้
ชั้นสองจะมีห้องแต่งตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิง
ในงานเลี้ยงเปิดสถาบัน เป็นเรื่องปกติตลอดทั้งปีที่จะใช้ชั้นหนึ่งในการจัดงานและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องสำคัญในชั้นสอง
แต่ว่าห้องที่โนโซมุไปพักอยู่ในตอนนี้มีไว้สำหรับเหล่านักเรียนชายที่เข้าร่วมงานและหากมองดีๆจะเห็นคนคุ้นหน้า
เนื่องจากสร้างเอาไว้เป็นห้องรับรองจึงมีนาฬิกาขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทย์อยู่บนผนัง
「โนโซมุ ประหม่าเหรอ?」
ทอมที่เข้าหาโนโซมุก้มลงและพูดคุยกับเขา
「ทอมเหรอ อืมก็นิดหน่อย…….」
「ในงานที่คนมุงดูการประลองเป็นเกือบหมื่นคนกลับเฉยๆ แต่พอเป็นงานเลี้ยงกลับ…เป็นคนละคนหรือไง」
「ช่วยไม่ได้ ก็เคยพูดมาก่อนแล้วนี่ ว่าไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่ๆแบบนี้มาก่อน」
โนโซมุถอนหายใจและยักไหล่ออกมา
「มาร์และคนอื่นล่ะ?」
「อยู่นี่เฟ้ย」
「ฮายฮาย!」
เมื่อหันไปมองตามเสียงก็เห็นมาร์และฟีโอที่แต่งกายในชุดทางการ
「สมแล้วที่เป็นโนโซมุ ช่างดูเร้าร้อนเหลือเกินนะ」
「ยังมีหน้าจะมาพูดกับผมแบบนี้อีกเหรอ……」
「คิดูสิข้าน้อยกับมาร์ต้องวุ่นกับเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าในงานวิชาการ แต่โนโซมุกลับไปสู้อย่างสบายใจเฉิ่ม?」
「เอ่อ ทอมเองก็นำเสนอเรื่องบทความในตอนเช้าใช่ไหม?」
「ก็เป็นการนำเสนอทักษะด้านเวทย์ที่ใช้งานได้จริงมากกว่าวิทยานิพนธ์มากกว่านะ อืมเป็นการสาธิตเรื่องการควบคุมพลังเวทย์ชั้นสูงและความผันผวนของพลังเวทย์ และก็การใช้งานเวทย์รูน สังเกตความผันผวนต่างๆด้วยการสาธิตให้ดู……」
「แค่ได้ยินก็ปวดหัวแล้วนะ」
「อ่าาาา….แต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เป็นเรื่องที่ดีเลยที่ได้มาร์และทิม่า มาช่วย~」
ในเทศกาลเปิดสถาบันจะจัดการเรียนขึ้นตามปกติ แต่ก็มีสถานที่ๆเหล่านักเรียนสามารถนำเสนอความสามารถทางวิชาการได้
「งั้นเหรอ?」
「อ่าาา และก็เวทย์ที่สลักบนหลังมือของข้า และก็การไหลเวียนพลังเวทย์ของทิม่าที่เปิดอยู่ตลอดเวลา และลูกธนูของซีน่า……」
「แล้วข้าน้อยก็เป็นคนควบคุมมันเอง」
「เพราะงั้นก็เลยมีแค่พวกเราสี่คน?」
เพื่อตอบคำถามของโนโซมุ ฟีโอและมาร์พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ
เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่เหล่ามาร์ ฟีโอ และคนอื่นๆใช้กันในช่วงที่โนโซมุควบคุมตัวเองไม่ได้
เนื้อหาเป็นเพียงแบบฝึกเชิงปฏิบัติง่ายๆโดยทิม่าใส่พลังเวทย์ที่ถูกเตรียมโดยทอมและฟีโอเป็นคนควบคุม แม้จะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่ายแต่ผลลัพธ์มันแสดงให้เห็นได้ชัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพแต่ละเทคนิคและความช่วยเหลือในการควบคุมพลังเวทย์ทำให้ได้รับการประเมินที่สูงมาก นี่เป็นผลมาจากการร่วมมือกันของทั้งสี่คน ทำให้ผู้คนจากสถาบันวิจัยต่างๆค่อนข้างจะสนใจ
ความยากคือการเลือกใช้สื่อที่สลักอักษรรูนและเทคนิคการควบคุมพลังเวทย์ การทำให้พลังเวทย์ถูกควบคุมไหลเวียนในปริมาณน้อยแต่มีความเข้มข้นสูงและการคงสภาพไม่ให้ตัวสื่อเวทย์พังนั่นล่ะคือความยาก
ถึงกระนั้น แม้จะมีข้อจำกัดมากมาย แต่ว่าด้วยการร่วมมือของพวกเขาก็ทำให้ทุกคนต่างชื่นชม
「อืมมม ส่วนชั้นเรียนของโนโซมุเป็นการต่อสู้จำลองใช่ไหม?」
「ตามปกตินั่นแหละแต่……」
「ถ้าเป็นตามปกติจริงๆ ก็น่าสงสารนะ」
「?」
มาร์พูดขณะนึกภาพของโนโซมุ ซึ่งเผลอปลดปล่อยการโจมตีอันรุนแรงที่สุดโดยไม่รู้ตัว และรอยยิ้มของเขาก็ดูมีเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้น
ในขณะเดียวกันมาร์คิดว่ากับสหายคนนี้แล้วไม่ค่อยได้แคร์สายตารอบข้างสักเท่าไหร่
「ลองคิดดูสิ ได้ต่อสู้กับเควินด้วยใช่ไหม แล้วเป็นยังไงล่ะ? ไอ้หมาบ้านั่นคงจะไล่กัดนายไม่เลิกเลยอะดิใช่ม้าาาาา?」
บางทีอาจจะได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง ฟีโอเข้าหาเขาพร้อมกับโอบไหล่โนโซมุ
「เอิ่ม คือ มันจบลงก่อนที่จะรู้ผลแพ้ชนะ」
「อะไรว้าาาาา น่าเบื่อชะมัดเลย」
ฟีโอบ่นด้วยความหงุดหงิดเพราะผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาด
อันที่จริงแล้วค่อนข้างน่ารำคาญที่จะไปยุ่งกับเควิน แต่ยิ่งไปกว่านั้น เขากังวลเกี่ยวกับอีกอร์ต และความผิดพลาดที่เขาได้ก่อขึ้นมา
「เฮ้อ……」
「อุ๊ยแหม ถอนหายใจออกมาด้วยก็รู้อยู่หรอกนะว่าการที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้หมาบ้านั่นมันน่ารำคาญ……」
「ไม่ใช่แบบนั้นหรอก……。แม้จะยุ่งยากก็เถอะ แต่มีอย่างอื่น……」
คำพูดเหล่านั้นทำให้โนโซมุเผลอพูดขึ้นมา
มาร์และคนอื่นๆที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับโนโซมุหลังจบงานต่อสู้จำลอง
ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟอร์ซิน่า อีกอร์ต เฟบูรัล เข้าหาเขาและถามคำถามเชิงกดดัน
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูทางการเมืองของไอริส ก็ตอบคำถามออกไปแบบไม่ทันคิด และโดนดูถูก
นอกจากนี้ยังดูถูกไอริสและคนอื่นๆ เขาจึงทนไม่ไหวและเข้าหาอีกอร์ตด้วยคมดาบคิในมือ
「ปล่อยจิตสังหารใส่ขุนนางผู้ยิ่งใหญ่……」
ทอมเองก็เคยมีประสบการณ์เคยเจอโนโซมุตอนเอาจริง แม้ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงก็ตาม
ใบหน้าของทอมเปลี่ยนเป็นสีฟ้าซีดเมื่อได้เห็นคมดาบคิของโนโซมุที่ทำให้เห็นภาพหลอนของตัวเองที่ถูกฟันขาดสองท่อน
มันคงไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำกับขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ได้
「ฮ่าฮ่าฮ่า! มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ!」
ในขณะที่พวกเขาตกตะลึงกับการกระทำของโนโซมุหัวเราะออกมาดังๆ
「แย่สิ แย่ชิบหายเลยล่ะ!」
「ทำไมที่นี่อาคาร์ซัมไม่ใช่เหรอไง มันไม่ใช่ฟอร์ซิน่าสักหน่อย?」
「นั่นกูถูก แต่……」
ดังที่มาร์กล่าวว่าที่นี่คืออาคาร์ซัมแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เป็นกลางซึ่งอำนาจของประเทศไม่สามารถใช้ที่นี่ได้
นี่จะเป็นปัญหาใหญ่หากอยู่ในฟอร์ซิน่า แต่ไม่น่าถูกหยิบยกมาเป็นเรื่องในอาคาร์ซัม
คนที่อยู่ในตำแหน่งมักจะสนใจว่าคนอื่นคิดเห็นอย่างไร
「ในความเป็นข้าน้อยไม่คิดว่าความประทับใจในตัวโนโซมุจะลดลงหรอกน้า」
「……เอ๊ะ?」
「แต่ในกรณีนี้ มันมีปัญหามากกว่าที่จะทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายมากกว่านั่นคือพูดแบบขอไปทีกับไม่พูดอะไรเลย」
「หมายความว่ายังไง?」
「คราวนี้เป็นฝ่ายอีกอร์ตที่ชวนโนโซมุคุยยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นฝ่ายเปิดก่อนอีก เป้าหมายนั่นคือดูปฏิกิริยาของโนโซมุตั้งแต่เริ่มต้นที่เหลือก็แค่ของแถมตามมาล่ะนะ
แน่นอนว่าในระหว่างที่เห็นปฏิกิริยาของโนโซมุแล้วหมอนั่นคิดจะชิงความได้เปรียบด้วยการข่มขู่ตระกูลฟรานซิสแล้วจะเข้าครอบครอง」
จากข้อมูลของฟีโอ ไม่ว่าโนโซมุจะตอบสนองยังไงมันก็ไม่ผิดเพราะอีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อน
จุดประสงค์นั่นคือเพื่อค้นหาว่านักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งกับตระกูลฟรานซิสสนิทสนมกันได้ยังไง
「อย่างไรก็ตาม หากโดนยั่วยุง่ายๆต่อหน้าสาธารณชน ก็จะถูกมองว่าเป็นพวกไม่ได้เรื่อง และก็คงไม่รู้ว่าจะถูกขอทำอะไรต่อมิอะไร ในแง่นั้น การกดดันฝ่ายตรงข้ามด้วยอำนาจที่เหนือกว่าจึงเป็นมาตรการรับมือที่ถูกต้องแล้ว」
เดินทีความสัมพันธ์ของตระกูลฟรานซิสและตระกูลเฟบูรัลเป็นที่รู้จักกันในประเทศวายการทะเลาะกันแค่หนึ่งถึงสองครั้งมันไม่ได้ร้ายแรง
แต่เป็นการดีกว่าที่จะแสดงที่จะโชว์ของเพื่อให้อีกฝ่ายเข้ามาในฝั่งของคนเองจะได้จัดการได้ง่ายๆ
「ยิ่งไปกว่านั้นกรณีของโนโซมุนั้นทำไปเพื่อปกป้องเจ้าหญิงผมดำด้วย จากมุมมองของบุคคลที่สามแล้วก็เป็นที่ชัดเจนว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายผิด ในแง่นั้นอีกอร์ตที่ทำตัวไร้สามัญสำนึกเกินไปไม่มีสิทธิ์จะต่อต้านแล้วต้องหนีออกไปนั่นเอง」
คราวนี้โนโซมุสู้กับอีกฝ่ายเพราะพวกไอริสโดนดูถูก ไม่ใช่เพราะตัวเองโดน
ขุนนางส่วนใหญ่มักหยิ่งในศักดิ์ศรี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพวกปากปีจอ
หากชั่งน้ำหนักถึงข้อดีและข้อเสียของการกระทำทั้งสองฝ่าย ฝ่ายที่ตอบโต้ออกมาที่หลังย่อมได้สิทธิ์อย่างชอบทำอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนหรือตระกูลอีกอร์ตจะมีอำนาจมากแค่ไหน หากไม่รู้วิธีปรับตัวเหมือนตระกูลฟรานซิสและตระกูลพัลรีนก็เท่านั้น
「โนโซมุคิดแบบนั้นรึเปล่าล่ะ?」
「ผมเองก็ทนไม่ไหวหรอกนะเพราะไอริสและคนอื่นๆถูกต่อว่า ผมเองก็คิดว่าที่นี่คืออาคาร์ซัมต่อให้หยาบคายต่อขุนนางมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่ไม่ได้คิดเหตุผลอะไรลึกซึ้งแบบฟีโอหรอกนะ」
อันที่จริงโนโซมุจะรู้สึกแย่มากกว่านี้หากยังคงเงียบอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
แต่เหตุผลที่เขาสามารถแสดงท่าทีแข็งกร้าวได้เพราะไม่สามารถยอมให้พวกไอริสโดนดูถูก
เมื่อจิตใจมันร้อนผ่าวไปด้วยความโกรธมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับ เป็นเหมือนการระบายอารมณ์เสียมากกว่า
「ในสังคมชนชั้นสูง การยั่วยุเป็นเรื่องธรรมดาใช่ไหม? ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บมันมาใส่ใจ」
「แล้วทำไมโนโซมุถึงไปใส่ใจเรื่องพวกนั้นแต่แรกล่ะ?」
「ก็เพราะว่าไม่คิดว่ามันจะลามไปถึงพวกไอริสที่ต้องโดนดูถูกด้วย……」
ท้ายที่สุดเขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมาเพราะคำพูดหยาบคายที่มีต่อพวกไอริส
ความจริงที่ว่ามันก็ผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้วแต่มันก็ยังมีความวิตกกังวลค้างอยู่ในใจ
「ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ถึงมันจะยั่วยุเจ้าหญิงผมดำ แต่สิ่งเหล่านั้นก็แค่คำทักทายของพวกขุนนางประสาทแดกเท่านั้น นี่เธอไม่ได้บอกเหรอ?」
「เอ่อ ไอริสก็บอกอยู่ว่ามันเป็นเรื่องปกติ」
「งั้นเหรอ งั้นหราาาาาา」
ไร้สาระน่า ฟีโอโบกมือราวกับจะพูดเช่นนั้น พร้อมกับมองโนโซมุที่กำลังกังวล
ด้วยท่าทางอันเบาสมองแบบนี้ โนโซมุก็รู้สึกว่าความกังวลเริ่มคลี่คลาย
「ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาแล้วนะ」
เมื่อได้ยินคำพูดของมาร์ โนโซมุจ้องมองไปยังนาฬิกาที่ตั้งอยู่ในห้องและเวลาจะเริ่มต้นงานเลี้ยงใกล้เริ่ม
ประตูห้องรับรองถูกเปิดออกและอาจารย์ก็เข้ามา
「ถึงเวลาแล้ว สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย เชิญมาที่งานเลี้ยงด้วย」
ด้วยเสียงดังกล่าวเหล่านักเรียนจึงออกไป
นักเรียนคนหนึ่งยิ้มอย่างมั่นใจ บางคนประหม่า
「ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ」
「อ่า」
มาร์และคนอื่นๆออกจากห้องตามนักเรียนคนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นเพราะคำแนะนำที่ได้จากไอริสหรือเพราะการประกาศในตอนเช้าทำให้เขาได้รับการรับรองเป็นอย่างดี
โนโซมุลุกขึ้นตามมาร์และคนอื่นๆไป
「โนโซมุ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดี เพราะงั้นมาสนุกไปกับมันเถอะ」
ฟีโอที่เดินกลับหลังมาโบกมือพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น
「นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีเลยมั้งที่ไอ้จิ้งจอกนี่จะพูดอะไรเข้าท่า ไม่ใช่ว่างานแบบนี้จะตัดสินอนาคตของพวกเราอย่างแน่นอนสักหน่อย」
「อ่าาา……….ก็ไม่ได้คิดว่าจะชิวได้เหมือนฟีโอ แต่คิดว่าไม่เป็นไรที่จะคิดว่างานเลี้ยงในครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต?」
ตามคำพูดของฟีโอ มาร์ยกนิ้วโป้งกับทอมที่ยิ้มอย่างขมขื่น
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นเยอะจนเกินไป และยังต้องมาคอยดูแลโนโซมุที่กำลังประหม่า
งานเลี้ยงทางสังคมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต ยิ่งไปกว่านี้ ยังเป็นสถานที่ตัดสินอนาคตอีก
แม้ว่าจะเป็นสถานที่ไม่รู้จัก แต่โนโซมุก็ทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด
「ทำตัวให้สนุกงั้นเหรอ……」
รอยยิ้มปรากฏขึ้นริมฝีปากของเขา แม้ว่าจะเป็นห่วงหลายๆสิ่งหลายอย่างแต่ก็เปลี่ยนใจได้อย่างรวดเร็ว
ยิ้มอย่างขมขื่นเล็กน้อยเพื่อให้กำลังใจตัวเอง โนโซมุนึกถึงบางอย่างขึ้น
「ลองคิดดูดีๆแล้ว ต้องขอบคุณไอริสมากจริงๆ」
หลังจากที่อีกอร์ตจากไปโนโซมุก็ขอโทษกับการกระทำอันหยาบคายของเขา เท่าที่ทำได้
ซึ่งนั่นมันไม่ดีเลย
ถึงกระนั้นก็เป็นหนี้บุญคุณต่อคุณนายพัลรีนเรื่องมารยาทและการฝึกเต้นรำ
“ไอริสไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมี ซีน่า ลิซ่า และคนอื่นๆที่ผมยังไปรบกวนอีกมาก……”
โนโซมุที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนศึกอาเซล ไอริสและคนอื่นๆต่างช่วยเขา
ความจริงที่ว่าโนโซมุหันดาบให้กับพวกพ้องตัวเองถึงสองครั้งก็ไม่ได้หายไป
แม้จะมีความเสียใจอยู่เต็มอก และมันเกือบจะปะทุขึ้นในตอนที่ฝึกกับซอนเน่
แต่ว่านอกจากความเสียใจดังกล่าวแล้ว ยังมีความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นในใจโนโซมุ
มันเหมือนกับว่า “ผมจะทำอะไรให้พวกเขาได้บ้าง”
อยากจะช่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความรู้สึกของโนโซมุก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติ
บอกตามตรง ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง นี่เป็นเพราะเขามัวแต่ฝึกทุกวัน
ถึงกระนั้นความจริงที่ว่าตอนนี้จิตใจของเขายกระดับขึ้นในเชิงที่ดีขึ้น แม้จะเสียใจภายหลัง แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ตัวเขาได้ติบโตขึ้นไปอีกขั้น
「เอาล่ะ……」
อยากจะขอบคุณความรู้สึกเหล่านั้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถตอบแทนพวกเธอได้….
ด้วยแรงกระตุ้นในใจจากส่วนลึกในอกเขา โนโซมุจึงมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง
Comments