[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 168 บทที่ 8 25
บทที่ 8 ตอนที่ 25
ชั้นเรียนของเวรี่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปใช้คาบเรียนปฏิบัติโดยทิม่าและเวรี่บรรยายคลาสเวทมนตร์ของตน
โนโซมุที่ไม่มีอะไรทำก็เรียกมาร์ที่อยู่ข้างๆเขา
「นี่ มาร์มาที่นี่บ่อยแค่ไหนเหรอ?」
「ก่อนหน้าพิธีเปิดเล็กน้อยน่ะ นับตั้งแต่ที่นายเริ่มฝึกซ้อมกับตาแก่」
「เอ๋ งั้นเหรอ……」
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะมาที่นี่หลังจากที่โนโซมุเริ่มฝึกกับซอนเน่
เมื่อเร็วๆนี้โนโซมุก็มัวแต่หมกหมุ่นกับการฝึกและไม่ได้สังเกตเลยว่ามาร์และทิม่ากำลังทำอะไรหลายๆอย่างโดยที่เขาไม่รู้
สิ่งเหล่านี้เองก็ทำให้โนโซมุประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นพวกเขาปฏิบัติตัวแตกต่างไปจากเดิม
「ค่อนข้างน่าตกใจเลยนะ」
「เอ๊ะ? ตรงไหนงั้นรึ?」
「ก็อย่างแรกเลยการที่มาร์มาอยู่ที่นี่ อีกอย่างก็ไม่ค่อยได้เห็นทิม่าที่มีท่าทีจริงจังแบบนี้มาก่อนเลยในสถาบัน」
เป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับมาร์ที่อยากแข็งแกร่งขึ้นและพยายามฝึกเทคนิคผสาน จะใช้เวลาทำอย่างอื่นนอกจากการฝึก และทิม่าที่มากลายเป็นอาจารย์ให้กับเหล่าเด็กๆแบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทิม่าที่ดูพูดเก่งขึ้นจนผิดหูผิดตา เธอกำลังพูดในชั้นเรียนอย่างจริงจัง
เธอให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับการปรับใช้พลังเวทย์ และตำหนิเหล่าเด็กที่พยายามทำอะไรเสี่ยงๆ
「อ๋อ เรื่องนั้นเองเหรอพอดีเธอมีน้องชายที่อายุประมาณเท่านี้ให้คุยด้วยเป็นเพื่อนตลอด」
「งั้นหรอกเหรอเนี่ย……」
ตามคำพูดของโนโซมุ มาร์ก็บอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง เขาถอนหายใจออกและเงียบลง
บางทีอาจเป็นเพราะความขี้อายแก้มนั้นเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย และเริ่มมองไปมา
มาร์ที่จ้องมองไปยังทิม่าที่กำลังดูแลเด็กๆดูเหมือนจะมีความสุข
「แปลกจังเลยนะ……」
「หืมมม คิดงั้นหรอกเหรอ? บางทีเพราะอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากเกินไป ชั้นเองก็พยายามผ่อนปรนเรื่องการฝึกและมาช่วยในชั้นเรียนของทิม่าด้วย」
โนโซมุคิดว่ามาร์เปลี่ยนไป แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนตัวเองเพราะทิม่า
แม้ว่าโนโซมุจะรู้ว่ามาร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าหาทิม่า แต่ทางทิม่าเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองและจะทำตัวคุ้นเคยกับมาร์
「ผ่อนปรน?」
「ตอนแรกเธอยืนกรานเลยว่าเธอเกลียดที่ตัวเองมีพลังเวทย์มากมาย ต่อมาก็แบบว่า “ฉันเองก็เริ่มชอบที่ตัวเองมีพลังขึ้นมาแล้วค่ะ”ประมาณนั้น……」
「เหหหหห……」
นับตั้งแต่ที่โนโซมุกับทิม่ารู้จักกันพวกเขาต่างผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันตลอด หกเดือนที่ผ่านมา
ประสบการณ์เหล่านั้นเพียงพอจะเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอ
โนโซมุแอบมองดูที่มาร์ซึ่งกำลังเฝ้าดูทิม่าด้วยท่าทางมีความสุข
บางทีปัจจัยที่ส่งผลต่อทิม่ามากที่สุดก็คงไม่พ้นมาร์นี่ล่ะ
ตอนแรกพวกเขาสองคนก็ดูเข้ากันไม่ค่อยได้เลยนะ
แต่มันก็เริ่มเปลี่ยนไปที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองเริ่มใกล้กันมากขึ้น ใกล้ชิดกันเกินที่เขาจะรู้ตัว เขายังคงยิ้มอย่างมีความสุข
ในขณะที่กำลังคิดแบบนั้น โนโซมุก็โดนเรียกจากด้านข้าง
「นี่ พี่ชาย ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?」
โนโซมุมองไปต้นทางของเสียงและผมเด็กผู้หญิงสามคนยืนอยู่
ในหมู่พวกเธอมีคนตรงกลางที่เดินเข้ามาใกล้โนโซมุ
「เอ๊ะ….คือว่า……」
โนโซมุรู้สึกแปลกๆที่เธอคนนั้นเดินเข้าหาเขา
ในขณะที่โนโซมุพยายามนึกว่าเหมือนเคยเจอกับเธอที่ไหนมาก่อนเธอคนนั้นก็เป็นฝ่ายเริ่มพูด
「ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ขอบคุณที่ช่วยหนูเอาไว้ในตอนนั้น」
「ตอนนั้นเหรอ……」
「ตอนที่ฉันออกจากห้องสมุดพร้อมกับโซเมียจังและถูกพี่ชายคนหนึ่งเข้าโจมตีค่ะ」
「อ๋อ เหตุการณ์ตอนเรื่องของเคนนี่เอง แล้วเธอไม่เป็นไรแล้วนะ?」
เธอคนนี้เป็นเพื่อนของโซเมียที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกทำร้ายในตอนระหว่างกลับจากห้องสมุดกับโซเมีย
เธอชื่อรันซ่า เป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของโซเมียสนิทกันมากขนาดที่พากันเรียนจนดึกดื่นเลย
「ค่ะ ตอนนั้นต้องขอบคุณพี่ชายมากๆเลยค่ะ เพราะงั้นก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย」
ด้วยรอยยิ้มอันสดใสไร้กังวลเธอโค้งคำนับต่อเขา
「หนูขอเรียกว่าพี่ชายโนโซมุได้ไหมคะ แล้วก็ดิฉันมีคำถามสักสองสามคำถามอยากจะถามพี่ชายด้วย」
「เอ่ออยากจะถามอะไรงั้นเหรอครับ? เอ่อ แย่แล้วสิ มาร์ ทำไมแกทำสีหน้าแบบนั้นฟะเห้ย ทำไมทำหน้าเหมือนผมเป็นพวกเศษเดนที่ล่อลวงเด็กกัน?」
「…………」
ทันใดนั้นโนโซมุก็รู้สึกว่ามีบรรยากาศอันแสนหนักหน่วงมาจากด้านข้างและหันไปเห็นว่ามาร์เริ่มมีท่าทีรังเกียจมากขึ้นเรื่อยๆ
「พี่ชายมาร์ เป็นอะไรไปเหรอคะ? ทำไมถึงทำสีหน้าแบบนั้นกันล่ะคะ ถ้าทำสีหน้าแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนพี่สาวทิม่าเกลียดเอาหรอกนะคะ?」
「อย่ามาคุยกับชั้น!」
「เฮ้ย มาร์พูดแรงไปไหม……」
โนโซมุพยายามตำหนิมาร์สำหรับท่าทางที่หยาบคายต่อเด็กๆ แต่คำพูดของโนโซมุก็ถูกขัดโดยรันซ่า
「อืม ไม่เป็นไรหรอกนะคะพี่โนโซมุ ก็แค่พี่มาร์เค้าขี้อายไปหน่อยเท่านั้นเองค่ะ」
โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับความกล้าหาญของเธอเมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของมาร์
แม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้เขาจะค่อนข้างนิสัยดีขึ้น แต่มาร์ก็ยังคงเป็นคนเจ้าปัญหาเหมือนเดิม
การทะเลาะกันนอกสถาบันเป็นเรื่องธรรมดาและด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกย้ายมาอยู่ที่ห้องสิบ
เมื่อพูดถึงเรื่องในอดีตของเขา แค่ได้เห็นหน้าเขาเหล่าเด็กๆก็ได้ร่ำไห้
「ถ้างั้น พี่โนโซมุหนูมีคำถามอยากจะถามได้ไหมคะ?」
「โนโซมุทางที่ดีแกควรหยุดอย่าได้ตอบคำถามเธอเด็ดขาด」
โนโซมุค่อนข้างกังวลกับคำพูดของมาร์ แต่เขาตัดสินใจตอบคำถามกับเด็กๆที่มีข้อสงสัย
「……อ่า ว่ามาสิครับ」
「เอาล่ะ ! ทุกคนไม่เป็นไรนะถามได้เลย!」
ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอรันซ่ากวักมือเรียกเด็กผู้หญิงอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเธอเข้ามาหา
「ทางนี้คือแมรี่ ส่วนคนทางนั้นคือคิเนีย พี่ชายใช่พี่ชายที่โซเมียเล่าให้ฟังบ่อยๆสินะคะ?」
「ทั้งหมดนี่คือเพื่อนของโซเมียงั้นเหรอ?」
「ค่ะ! พวกเราเป็นเพื่อนกันและเล่นด้วยกันอยู่บ่อยๆ」
ทั้งสองคนดูเหมือนจะสนิทกับโซเมียมาก
ทั้งสามคนมองโนโซมุด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อย่างไรก็ตาม สายตาของพวกเธอแตกต่างจากทุกทีโนโซมุมองเมื่อตอนที่โชว์เทคนิคดาบสไคล์มิคางุระก่อนหน้านี้ และด้วยเหตุผลบางอย่างมันรู้สึกนุ่มฟูอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่โนโซมุแสดงสีหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่แปลกประหลาดก็มองไปที่รันซ่าพร้อมกับเธอที่ถามออกมาแบบตรงๆ
「ดังนั้นแล้วหนูของถามว่าพี่โนโซมุกับโซเมียไปไกลกันแค่ไหนแล้วคะ?」
「……ว่าไงนะครับ?」
ไม่เข้าใจคำพูดของรันซ่าเลยจริงๆ โนโซมุจึงถามออกไปด้วยสีหน้ามึนงง
「เพราะเธอเอาแต่พร่ำเพ้อถึงพี่โนโซมุไม่หยุดเลยค่ะ แต่เธอก็ไม่ได้บอกว่าสนิทใกล้ชิดขนาดไหน ดังนั้นตอนนี้ก็โอกาสดีเลย เพราะหนูอยากจะถามว่าพี่ชายสนิทกับโซเมียมากแค่ไหนค่ะ」
「เอิ่ม หมายความว่ายังไงเหรอครับ……」
「เอ๋ ก็กำลังถามว่าไปถึงขั้นไหนแล้วไงคะ ! จูบกันแล้วใช่ไหม!!!! แล้วหลังจากนั้นล่ะ? อาบน้ำด้วยกันรึเปล่าคะ? โอ้และที่แน่นอนสนิทกับพี่สาวของโซเมียด้วยสินะคะ จัดทั้งพี่ทั้งน้องเลยสินะคะ!!!」
(TN: จูบกันจริง FBI Open Up)
「ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยนะครับ! พูดอะไรกันครับเนี่ย!」
เนื้อหาของคำถามที่รวดเร็วโดยไม่มีช่องว่างก็เหมือนกับเผยแพร่ชีวิตของโซเมียโดยตรง
ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นเนื้อหาเชิงละเอียดอ่อนมาก และหากเผลอเออ ออ นิดหน่อยก็จะทำให้เนื้อหาบิดพริ้วไปได้เลย
นอกจากนี้พวกเธอยังรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไอริส
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามที่ไม่คาดคิดโนโซมุปฏิเสธออกมาชัดเจน
ในทางกลับกันรันซ่าที่โดนปฏิเสธคำถามมีสีหน้าเบิกตากว้างราวกับจะไม่เชื่อ
「แน่ใจเหรอคะว่ายังไม่ได้ทำ? จูบล่ะคะ?ยังไม่ได้ออกเดทกันด้วยซ้ำเลยเหรอคะ?」
รันซ่าเปลี่ยนเสียงที่เหมือนลูกแมวน้อยเป็นน้ำเสียงจริงจังด้วยความอยากรู้อยากเห็น
สถานการณ์เป็นเหมือนการไล่ต้อนมากกว่าถามคำถาม และโนโซมุก็ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
「……เอ่อ เดทงั้นเหรอเคยนะ?」
「โอเค เดทแล้วสินะคะ แล้วจูบล่ะ? โดยธรรมชาติแล้วถ้าเป็นพี่ชายจะต้องทำเป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะ?」
「…………」
เห็นได้ชัดหากตอบไปหนึ่งข้อ ก็จะโดนถามต่ออีก
เมื่อคิดว่าไม่สามารถทนต่อคำถามเหล่านั้นได้โนโซมุก็ได้แต่เงียบ
แต่ว่าเธอนั้นฉลาดเป็นกรด และเธอสามารถรู้ความจริงได้จากความเงียบของโนโซมุ
「เข้าใจแล้วค่ะ เป็นฝ่ายโซเมียที่รุกใส่สินะคะ แล้วมันเริ่มจากสถานการณ์แบบไหนเหรอคะ!? ม้านั่งสองคน!? หน้าคฤหาสน์ที่ไปส่งระหว่างกลับบ้าน? หรือบนเตียงคะ!?」
「เอ่อ……」
ไม่ว่าจะตอบหรือเงียบโนโซมุก็ต้องเหวอกับคำถามสุดหวานแว๋วซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดของรันซ่ายังอธิบายสถานการณ์ที่โนโซมุเคยเผชิญได้
อาจเป็นเพราะความสนใจมากเกินไปมากกว่าความรักในทางเพศที่กำลังจะเข้าวัยแรกรุ่น แต่ถึงยังงั้นมันก็เฉียบคมเกินไป
บางทีอาจจะแค่เพียงเรื่องรักใคร่ธรรมดา แต่โซเมียมักจะตอบเพื่อนเธอแบบชวนเข้าใจผิดๆก็เลยตระหนักได้ว่าพวกเธอนี่ฉลาดจริงๆ
ในเวลาเดียวกันโนโซมุก็คิดว่าเธอเหมือนกับฟีโอและมิมูรุไม่มีผิด
ถ้าไฟติดแล้วก็จะลามท่วมทุ่ง และเป็นคนที่ชอบสร้างปัญหาต่อความร้าวฉานของครอบครัวผู้ที่ถูกถามอยู่บ่อยๆ
「ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วไงว่าอย่าไปตอบพวกเธอ……」
มาร์ส่งเสียงออกมา
เห็นได้ชัดว่ามาร์เองก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน
แต่อาจเป็นเพราะเขาเป็นเหยื่อต่อรันซ่าก็เลยปฏิเสธเธอหลังจากนั้นมา
โนโซมุเกาหัวกับความจริงที่ว่าลางสังหรณ์ไม่ดีที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้
「เอ่อ เอ่อ ถ้าโซเมียไม่ได้พูดอะไรผมก็ไม่มีอะไรอยากจะพูดครับ…」
「อาร่า~หนูก็คิดว่าพี่ชายอยากจะพูดความสัมพันธ์ระหว่างโซเมียแบบเปิดเผยซะอีก~~เป็นไปได้ว่าพี่โนโซมุก็ขี้อายพอๆกับพี่มาร์?」
ผมอดไม่ได้ที่จะคิดว่า “ยัยนี่มันร้าย” เกือบจะหลุดออกจากปากเขา แต่โนโซมุก็รีบหยุด
เป็นความจริงที่โนโซมุใช้เวลาหลายปีแก้ไขความสัมพันธ์กับเพื่อนสมัยเด็ก เขายังมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองและยังรู้สึกหดหู่หลังจากอาละวาดของอาเซลแต่สำหรับโนโซมุคู่ต่อสู้ของเขา ก็คือเด็กสาวที่อายุพอๆกับโซเมีย
อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เห็น เขาจึงทำตัวสงบนิ่ง
「ยัยนี่มันเป็นบ้าอะไรเนี่ย!」
ในทางกลับกันมาร์นั้นสบถออกมาแทนใจโนโซมุ
「เหหหหหหหหหหห~เห็นได้ชัดเลยว่าพี่มาร์เองก็ชอบพี่ทิม่าเหมือนกัน แต่ก็ปฏิเสธที่จะยอมรับ และไม่พยายามจะตอบคำถามของหนูด้วยซ้ำ ความสัมพันธ์นี่ซับซ้อนจริงๆเลยนะคะ?」
「ยัยเด็กนี่……」
ดูเหมือนว่ามาร์เองก็พอจะสงบสติได้ในระดับหนึ่ง แต่ความอดทนก็ยังต่ำและมาร์ก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ
ในทางกลับกันโนโซมุโล่งใจที่ดวงตาของรันซ่าเล็งเป้าไปที่มาร์
แม้ว่าจะบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะทิ้งเพื่อนคนนี้เป็นเหยื่อล่อเช่นกัน
อย่างไรก็ตามถ้ายังคงเอะอะต่อไปเดี๋ยวคาบเรียนได้ยุ่งเหยิงแน่นอน
「มาร์คุง รันซ่าจัง ทั้งคู่กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ?」
แน่นอนว่าทิม่าที่เข้ามาช่วยเวรี่ที่ยอมแพ้ก็เข้ามาเตือนด้วยน้ำเสียงดุเดือด
อย่างที่มาร์พูด ทิม่านั้นดูเหมือนพี่สาวที่พึ่งพาได้
「พี่ทิม่า พี่ทิม่า พวกเราไม่ได้ทำอะไร……」
「ทำไมถึงต้องโกรธชั้นด้วยล่ะ……」
อย่างไรก็ตามสำหรับรันซ่าตอนนี้ทิม่าอาจดูเหมือนพี่สาวที่น่ากลัว
บางทีอาจรู้ว่ากำลังเล่นอะไรแผลงๆในชั้นเรียนรันซ่าที่โดนดุก็ยักไหล่และหดตัวลง
ในทางกลับกันมาร์ซึ่งเพิ่งถูกแกล้งก็โดนดุไปด้วย
「ไม่รู้หรอกนะคะว่ารันซ่าพูดเรื่องอะไรของพี่ แต่มาร์คุงเองก็ไม่ควรจะเสียงดังใส่เด็กนะคะ」
เพราะแบบนั้นเองมาร์ก็ต้องสยบต่อทิม่า
แน่นอนว่าการเปล่งเสียงต่อต้านกับเด็กสาวรุ่นเดียวกับโซเมียมันไม่มืออาชีพ
ดูเหมือนว่ามาร์จะตระหนักถึงเรื่องนี้และก้มศีรษะขอโทษ
「เอิ่ม แย่มาก……」
「รันซ่าเองก็ยังอยู่ระหว่างเรียนกลับเข้าคลาสหาอาจารย์เวรี่ได้แล้วค่ะ」
「อะ ค่าาาา!」
「นอกจากนี้ โนโซมุเองก็ใจดีที่จะมาสอนพวกเธอด้วยนะ ก็อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้พี่เขาเป็นผู้มีพระคุณของพวกเราแต่ฉันไม่ประทับใจกับการที่ทำให้คนที่มาสอนเราอับอายหรอกนะคะ?」
รันซ่าพยายามปกปิดความอึดอัดและตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริงแต่ก็มีคำเทศนาเพิ่มเติม
แท้จริงแล้วตอนนี้เธอเป็นเหมือนยักษ์เลย
「ค่า พี่โนโซมุ หนูขอโทษด้วยนะคะที่ถามอะไรแปลกๆ」
「ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ผมเองก็แค่ตกใจเฉยๆ」
แม้จะน่ากลัว แต่รันซ่าก็โค้งคำนับอย่างสุภาพ
ตราบใดที่ขอโทษก็แล้วกันไป
รันซ่ายังเป็นเพื่อนของโซเมียและใจจริงเธอเป็นเด็กดี
เมื่อรันซ่าและคนอื่นๆโค้งคำนับโนโซมุกับมาร์ ทิม่าก็พยายามกลับไปหาเวรี่
โนโซมุและมาร์ก็ตัดสินใจจะไม่รบกวนพวกเธอ ดังนั้นจึงย้ายไปยังขอบสนามฝึกเพื่อสังเกตจากที่ไกลๆ
「อะ เอ่อ พี่โนโซมุ รอสักครู่นะคะ」
อย่างไรก็ตาม เมื่อโนโซมุพยายามจะเดิน รันซ่าก็หยุดเขาไว้
ทิ้งเพื่อนๆกลับไปเข้าเรียนและวิ่งหาโนโซมุอีกครั้ง
「ครับ?」
「อย่างน้อยมีสิ่งสุดท้ายที่อยากจะขอค่ะได้ไหมคะ?」
คำพูดของรันซ่าค่อนข้างลังเล
ไม่มีท่าทีตลกก่อนหน้านี้และด้วยเหตุผลบางอย่างเธอค่อนข้างกังวล
โนโซมุเหลือบมองทิม่าและเธอสบตากับเขาและพยักหน้าเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการให้ตอบคำถามในครั้งนี้
โนโซมุหันหน้าไปหารันซ่าอีกครั้งเธอก็พูดด้วยความหวาดกลัว
「โซเมีย จะมาไหมคะวันพรุ่งนี้? เมื่อเร็วๆนี้เธอพยายามอย่างหนักมาก ดังนั้นเธอเลยป่วยสินะคะ?」
เธอเป็นห่วงโซเมียเพื่อนสนิทของเธอ
เธอต้องรู้เกี่ยวกับการพบกันระหว่างตระกูลฟรานซิสและตระกูลวาจาร์ต
และสถานการณ์ของตระกูลฟรานซิสทำให้เธอต้องกังวลเช่นเดียวกับโนโซมุ
「……อืม ไม่เป็นไรหรอกครับ พรุ่งนี้เธอจะต้องมาแน่นอน」
สิ่งที่โนโซมุสามารถสื่อได้คือำพูดที่ไม่มีมูลความจริงซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามันคือความปรารถนาของโนโซมุ
ถึงกระนั้นด้วยความหวังที่จะปัดเป่าความวิตกกังวลของเธอได้เล็กน้อย โนโซมุก็ยิ้มให้กำลังใจรันซ่า
「……ไม่เป็นไรหรอกครับ สบายใจได้」
เมื่อได้ยินคำตอบของโนโซมุ รันซ่าก็ยิ้มแต่สีหน้ายังมีความกังวล
จากการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ เธอเป็นเด็กฉลาดและพอจะเข้าใจคำโกหกของโนโซมุ
เธอรู้ถึงสถานการณ์ของครอบครัวโซเมียและมันไม่ง่าย
ถึงกระนั้นเมื่อพูดถึงการระงับความวิตกกังวลและรอยยิ้มผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอในขณะเดียวกันพวกเธอนั้นยังเด็กและบอบบาง
「พี่โนโซมุ ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือโซเมียและพี่สาวของโซเมียนะคะ」
「……อืม ถ้าทำได้จะทำให้ดีที่สุดนะ」
โนโซมุตอบ รันซ่าถ้าเขาไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของโซเมียได้อย่างน้อยเขาก็จะแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้างและพยายามอย่างเต็มที่
ความเจ็บปวดแล่นผ่านหน้าอกของโนโซมุและความเสียใจที่จะไม่หายไปแม้ว่าจะมีไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อได้ยินความตั้งใจของโนโซมุ รันซ่าก็ไม่พูดอะไรและรีบออกไปกลับไปเรียต่อ
โนโซมุไม่เห็นสีหน้าของรันซ่าขณะที่เธอหันหลังและจากไป แต่ทิม่าและเวรี่ก็ยิ้มทักทาย
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความปรารถนาของพวกเขา โซเมีย ไม่ได้มาที่อีครอสในวันรุ่งขึ้น
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
เมื่อชั้นเรียนของเวรี่จบลงโนโซมุออกจากอีครอสพร้อมกับอันริ มาร์ และทิม่า
เดินผ่านประตูหลักของอีครอสและออกไปบนสวนสาธารณะกลาง
「อาจารย์อันริ สำหรับเตาเผา……」
「ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวเค้าพาไปเองน้า~」
อันริสัญญาว่าจะพาไปและกลับไปที่อาคารเรียนในอีครอส สงสัยว่าเขายังมีธุระที่ต้องทำอยู่ในฐานะอาจารย์อยู่หรือไม่
หลังจากส่งอันริขณะที่เขากลับไปที่อีครอส โนโซมุก็โล่งใจที่จะได้ทำกระดิ่งสักที
โนโซมุโล่งใจและกำลังจะกลับหอพักเมื่อมาร์เดินอยู่ข้างๆมาร์ก็เรียกเขา
「เอ่อ ถ้างั้นโนโซมุมานี่」
「เอ่อ ทั้งคู่จะไปไหนเหรอ?」
「ยังมีธุระในสถาบัน มาพูดถึงเรื่องเทคนิคผสานของทอมและมาร์……」
เห็นได้ชัดว่ามาร์และคนอื่นๆได้มีธุระที่สถาบัน
「ถ้างั้นลาก่อนไว้เจอกันพรุ่งนี้」
「อ่า ไว้เจอกัน」
โนโซมุบอกลามาร์และโนโซมุก็เดินไปในเมือง
「เอาล่ะไปกันเลยดีกว่า」
มาร์ที่เห็นโนโซมุกำลังจากไป ไปในทิศทางตรงกันข้าม
ถัดจากเขามีทิม่าที่ตามไปด้วย
มาร์ในตอนนี้ดูเหมือนจะเปี่ยมไปด้วยพลังงานและเขาค่อนข้างกระตือรือร้น
ในทางกลับกันสีหน้าของทิม่านั้นไม่สู้ดี
「เอ่อ มาร์คุง แน่ใจเหรอว่าต้องการแบบนี้?」
「อ่าาา คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะก้าวหน้าไปอีกขั้น」
「งั้นเหรอ……」
น้ำเสียงของทิม่าถามราวกับจะยืนยัน
พวกเขาสองคนฝึกท่าผสานด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ แต่ความกังวลของทิม่านั้นต่างจากแต่ก่อน
เธอไม่สามารถสลัดความวิตกกังวลออกไปได้
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของมาร์ที่ทิม่าเห็นนั้นมีเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะไม่ท้อถอย
「จะมาหยุดอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ ต้องตามหมอนั่นให้ทัน」
สำหรับมาร์ โนโซมุเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดและเป็นคู่แข่ง
เขาเองก็เช่นกัน เนื่องจากความล้มเหลวในการควบคุมเทคนิคผสาน
จากประสบการณ์นั้น เขาเข้าใจถึงความล้มเหลวของตัวเอง และพยายามจะฝึกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และเขาก็เริ่มเรียนรู้ทีละขั้นตอน
อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนว่ามีความต่างอย่างชัดเจนที่ทำให้เขาไม่พัฒนา
ด้วยความช่วยเหลือของทอม ทิม่า และฟีโอ มาร์สามารถใช้เทคนิคผสานได้ในเวลาจำกัด และมันยังไม่เพียงพอ
หากเติบโตช้าแบบนี้ ก็ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ และไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้
ต้องหาวิธีควบคุมมันให้ได้
ความโกรธที่พ่อทิ้งไว้ให้ได้เบื้องหลังและความกระหายในอำนาจที่อาศัยอยู่ในหัวใจของเขา
แต่ยิ่งไปกว่านั้นมาร์ไม่อยากแพ้เพื่อนสนิท
แม้ว่าเขาจะควบคุมพลังตัวเองได้แต่ไม่สามารถขัดเกลาเทคนิคได้ดี ก็เหมือนกับโนโซมุที่ปลดปล่อยพันธนาการออกมา
「ใกล้จะสำเร็จแล้ว นอกจากนี้จะพยายามเท่าที่ทำได้ แล้วจะได้เห็นกัน?」
「อืม……」
ทั้งมาร์และทิม่าได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบๆ โนโซมุ และไอริสในเทศกาลเปิดสถาบัน
ทั้งมาร์และทิม่าเคยสู้กับลูกาโต้มาก่อน แต่พวกเขาสองคนเป็นคนนอกมากกว่าโนโซมุที่เป็นตัวหลัก
ความใกล้ชิดของตระกูลฟรานซิสและตระกูลวาจาร์ตที่มีความสนใจผิดปกติของโนโซมุ
มาร์ซึ่งเพิ่งอ่อนไหวต่อความวุ่นวายต่อสภาพแวดล้อมของเขาที่เริ่มส่งสัญญาณแห่งหายนะอีกครั้ง
「ถ้าล้มเหลวอีกก็ขอฝากด้วยนะ」
「อืม ฉันจะพยายามซัพพอร์ตอย่างเต็มที่……」
ถนนอยู่ในสายตาแล้วสิ่งที่ต้องทำก็คือขั้นตอนสุดท้าย
ขั้นตอนสุดท้ายในการก้าวข้ามกำแพง
และแม้ว่าจะรู้ว่าหากล้มเหลวก็เท่ากับความตาย แต่ก็เต็มใจที่จะเข้าหามัน
ในทางกลับกันมาร์ทิ้งทุกอย่างหลังจากความล้มเหลวทิม่าถอนหายใจด้วยความตกตะลึง
ถึงกระนั้นแม้จะอยู่ท่ามกลางความวิตกกังวลของเธอ เธอก็สามารถพูดกับเพศตรงข้ามได้แล้ว
「ไปกันเถอะค่ะ」
「……อืม」
มาร์และทิม่าพยักหน้าเพื่อยืนยัน
ทั้งสองคนยืนอยู่ท่ามกลางตะวันที่กำลังตกดิน
ได้ตอนเดียวครับ เหลืออีก 20 กว่าตอนก็จบแล้ว
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง
Comments