[นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” 93 บทที่ 6 10

Now you are reading [นิยายแปล]โซ่ผนึก “หัวใจ” สายใยผนึก “มังกร” Chapter 93 บทที่ 6 10 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่6ตอนที่10

 

 

พวกโนโซมุที่มาส่งเอลเดอร์ในเมืองแล้วก็รายงานเรื่องทำคำขอเสร็จและออกจากกิลด์มา

 

 

ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว และท้องฟ้ายามค่ำก็ถูกปกคลุมด้วยสีแดงอ่อน

 

 

 

「อืม ! คำขอก็เสร็จสิ้นแล้วแล้วจะทำอะไรต่อไปล่ะ?」

 

「เอ๋?」

 

โนโซมุที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเล็กน้อย

 

「ข้าน้อยหิวแล้วและก็ได้รางวัลจากการทำคำขอซะด้วยสิ อยากจะไปที่ “เรือนร่างของโค”กันหน่อยไหมล่ะ?」

 

「คิดจะไปเล่นพนันอีกแล้วเหรอไง? เดี๋ยวก็กลับมาจนอีกหรอก?」

 

「อะไรกัน ถ้าชนะก็รวยเลยนะขอบอก!」

 

「คิดได้อยู่แค่นั้นล่ะสิ……」

 

เห็นได้ชัดว่าเพราะคิดแบบนั้นแหละเลยหมดตัวอยู่บ่อยๆ

 

 

ตอนได้มันก็มีความสุขอยู่หรอกแต่ตอนเสียก็ต้องมานั่งอมทุกข์จะไม่แปลกเลยหากหมดตัวและกลับมานั่งเศร้าอีกเนี่ยไอ้จิ้งจอกนี่

 

「…………」

 

โนโซมุเงียบไป ตาแก่ข้างๆก็พอๆกัน

 

 

ตาแก่กำลังคิดอะไรอยู่นะ? รู้สึกไม่ดีเลยพอเห็นตาแก่มองพวกสาวๆแบบนั้น

 

「พูดอะไรแบบนั้นกันชีวิตละก็คือปาร์ตี้ไง แม้ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ว่าคนที่ได้สนุกกับมันที่สุดก็คือผู้ชนะนั่นแหละ!」

 

「ความคิดโครตจะเด็กน้อยเลย !  ความอยากที่มีแต่กำเนิดมันก็ต้องพิชิตใจสาวงามสิฟะ! ผู้ท้าชิงหลายคนต่างก็พ่ายแพ้ก่อนจะเจอความยากลำบาก ! การจะเผชิญหน้ากับความยุ่งยากนั้น เราต้องตั้งจิตอธิษฐานว่า “มันต้องได้ยังงี้สิ” ในใจ!」

 

แน่นอนว่าซอนเน่ก็อยู่ในโหมดน่ารำคาญแล้วเพราะฟีโอ

 

 

ทั้งสองคนประกาศเช่นนั้นขณะที่ชูมือขึ้นบนท้องฟ้า คนหนึ่งมีแววตาสีทองลุกโชน ส่วนอีกคนมีลมหายใจสีชมพูออกมาจากจมูก

 

「และใจจริงคืออะไรกันแน่?」

 

「แน่นอนสิฟะ ! ได้พบกับเหล่าสาวสวย ! ออกเดทกัน ! สกินชิพ ! จากนั้นก็เพียงเราสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว!」

 

ความปรารถนาที่เต็มไปด้วยตัณหานั้น ทำให้โนโซมุได้แต่ถอนหายใจ

 

 

ปล่อยให้อยู่ในโลกส่วนตัวไปเถอะสองคนนั้นขณะนั้นเองโนโซมุก็แหงนหน้ามองท้องฟ้า

 

「…………」

 

เฮ้ออ….โนโซมุถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอริสเองก็รู้สึกแปลกๆภายในอกของเธอ

 

 

หลังจากที่กลับมาที่อาร์คาซัมแล้ว โนโซมุนั้นครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่หลายครั้ง

เกิดอะไรขึ้นยังงั้นเหรอ…………ไอริสถามโนโซมุออกไป

 

「โนโซมุเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ? เห็นท่าทางแปลกๆตั้งแต่กลับเมืองมา……」

 

「อ่าาาาา ก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอริสจะเข้าใจรึเปล่า……」

 

โนโซมุเกาหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น เขาหันกลับไปและค่อยๆพูดอย่างช้าๆ

 

「กำลังคิดเรื่องของพวกเอลเดอร์น่ะ」

 

「พวกเอลเดอร์เหรอคะ?」

 

เมื่อโนโซมุกลับมาที่อาร์คาซัม เขาก็ส่งพวกนั้นกลับไปที่หอพัก โดยพิจารณาผลกระทบด้านจิตใจของพวกเขา

เนื่องจากพวกเราต้องมารายงานคำขอที่กิลด์ ก็เลยมารายงานได้ในเวลาเดียวกัน

 

 

โนโซมุกำลังจ้องไปยังเส้นทางเดิมที่เดินจากมา ราวกับเห็นพวกเอลเดอร์อยู่ตรงนั้น

รอยยิ้มอันขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโนโซมุ

 

 

 

「ผมคิดว่ามันน่าทึ่งมากเลยล่ะ……」

 

 โนโซมุพึมพำราวกับอยากจะระบายอะไรบางอย่างออกมา ราวกับว่าเขากำลังอิจฉา?

 

「พูดตามตรง ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะพูดคุยกับพวกลิซ่ายังไงดี แต่เอลเดอร์นั้นสามารถตัดสินใจคำตอบของเขาได้อย่างรวดเร็วและก้าวไปข้างหน้าแทบจะทันที」

 

ก่อนแยกทางที่ทางเข้าเมือง เอลเดอร์ขอโทษเขาสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในกิลด์ก่อนหน้านี้

 

 

จากนั้นเขาก็ขอโทษมันออกมาจากใจจริงจนก้มหัวศีรษะแนบพื้นเลย

 

 

พวกเขาต่างขอบคุณที่พวกโนโซมุเข้ามาช่วยเอาไว้

 

 

โนโซมุที่เห็นแววตานั่นก็รู้สึกสับสน

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุเองก็ยอมรับคำขอโทษแต่โดยดี

 

 

ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วราวกับคนละคน

 

 

ไม่สิ บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นตัวตนของเขาจริงๆ

 

 

ที่สถาบันโซลมินาติมี “การคัดเลือก” บุคลากรตามความสามารถและความสามารถที่อาจจะตื่นขึ้นมาหลังจากการลงทะเบียนได้เริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้การปฏิบัติตัวของผู้คนนั้นแตกต่างออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนอดีตเพื่อนของโนโซมุ

 

 

ในเวลาเดียวกัน โนโซมุเองก็ประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของเอลเดอร์

 

 

เขากล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาดของตัวเอง เขาละทิ้งความอาย และความขายขี้หน้าและยอมรับมันออกมาตรงๆและก้าวไปข้างหน้า แต่สำหรับผมแล้วยังค้นหาคำตอบให้กับลิซ่าไม่ได้เลย

 

 

แน่นอนว่าโนโซมุไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อันที่จริงแล้วแม้ว่าจะสามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็คิดในใจว่า “ต้องไม่เป็นไร”

 

「…………」

 

โนโซมุยังไม่สามารถก้ามข้ามอดีตได้อย่างสมบูรณ์

 

 

นอกจากความเจ็บปวดในอกข้างนี้ รูปร่างหน้าตาของพวกลิซ่ายังคงสะท้อนอยู่ภายในใจของเขา

 

 

ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดยังคงสั่นคลอนจิตใจของเขา และอารมณ์ที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้นั้น

 

 

เพราะความทรงจำของความสุข และความทรงจำอันแสนเศร้าและเจ็บปวดมันซ้อนทับกัน

 

「…เจ้าหนู นั่งลงตรงนั้นสักครู่สิ」

 

จู่ๆซอนเน่ก็พูดแบบนั้นและนั่งลงตรงถนน

 

「เอ๋ กำลังทำอะไรเนี่ย?」

 

「ข้าเองก็อยากจะตอบแทนเจ้าบ้าง เพราะงั้นข้าจะให้คำแนะนำแก่เจ้าเพื่อเป็นการขอบคุณ」

 

ซอนเน่นั่งลงบนพื้นหยิบลูกบอลคริสตัลออกมาจากอกของเขา บางทีมันอาจจะใช้ในการดูดวงของโซเมียมาก่อน แต่คราวนี้เขาจะดูดวงให้กับโนโซมุ

 

 

ซอนเน่กวักมือเรียกโนโซมุที่ถามว่าคริสตัลนั่นมาจากไหน

 

「ก็บอกว่าจะดูดวงให้ไงเพราะงั้นรีบมาเร็วเข้าสิ」

 

「เอ่อ แต่….ก็ได้」

 

เขาสับสน แต่ไม่มีเหตุผลจะปฏิเสธ

 

 

โนโซมุนั่งลงตรงหน้าซอนเน่และสัมผัสกับลูกบอลคริสตัลด้วยรอยยิ้มขมขื่น นอกจากนี้ซอนเน่ยังจับมือโนโซมุเอาไว้

 

 

เมื่อพิจารณาตอนของโซเมียลูกบอลจะเปลี่ยนสีไปตามความกังวลและสภาพจิตใจของผู้ที่สัมผัสมัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของโนโซมุ สีของลูกบอลคริสตัลอย่างโปร่งใสและไม่เปลี่ยนแปลง

 

「ตาแก่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย?」

 

「หืมมม? นี่มันน่าสนใจ……」

 

ซอนเน่เอามือเท้าคางและมองเข้าไปในลูกบอลขณะขมวดคิ้ว สำหรับโนโซมุซอนเน่ดูจริงจังผิดปกติ

 

 

การแสดงออกทางสีหน้านั้นต่างไปจากเดิม โนโซมุรู้สึกแปลกๆ จากนั้นซอนเน่ก็จับมือโนโซมุอีกครั้ง

 

 

วินาทีต่อมานิ้วของโนโซมุก็ชาทันที

 

「เอ๋!」

 

โนโซมุถอนมือออกเมื่อสัมผัสกับลูกบอล สีหน้าของซอนเน่ที่จับมือของเขาไว้ก็กลับมาเป็นตามปกติ

 

「อืม? แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?」

 

「ปะปะปะเปล่า ไม่มีอะไรหรอก……」

 

「นี่พลังเวทย์มันรั่วรึเปล่านะ? ไม่เป็นไร ดูสิลองจับลูกบอลดู」

 

「อ่าาา……」

 

ขณะเอียงคอด้วยความสงสัยโนโซมุก็สัมผัสกับลูกบอลอีกครั้ง และคริสตัลก็เริ่มจางไป

 

 

ตอนแรกลูกบอลเรืองแสงสีฟ้า ในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นสีเทาอ่อนและค่อยๆมืดลง

 

 

ในไม่ช้าซอนเน่ก็ค่อยๆอ้าปากของเขา ขณะที่จ้องมองไปยังลูกบอลคริสตัลที่ถูกย้อมไปด้วยสีเทาเข้ม

 

 

 

「สีเทาเช่นเดียวกับแม่หนูโซเมียในตอนนั้นเลย ดูเหมือนจะลังเลในสิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตามดูเหมือนมาความกังวลของเจ้าจะเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมากเพราะงั้นลูกแก้วเลยย้อมเป็นสีเข้มขนาดนี้」

 

 

 

ขณะพูดอย่างนั้นซอนเน่ก็สกิดลูกบอลคริสตัลที่ถูกย้อมไปด้วยสีเทาจนหมด

 

 

 

「อย่างไรก็ตามเจ้าก็ยังคงรักษาความสงบเหล่านั้นไว้ได้ สีฟ้าที่เห็นในตอนแรกหมายถึงความฉลาดและความสงบ」

 

เมื่อพูดถึงจุดนั้น ซอนเน่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดต่อ

 

「อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาอันแสนลึกล้ำนี่ เจ้าอาจจะคิดมากเกินไปสำหรับบางสิ่ง……」

 

「เอ๋?」

 

คำพูดของซอนเน่ทำให้โนโซมุพูดอะไรไม่ออก

 

 

ตาแก่ตรงหน้าทำสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย ถึงกระนั้นก็ยังจ้องมองโนโซมุด้วยท่าทางอ่อนโยน

 

 

แววตาที่ดูคล้ายกันนั้นทำให้เขานึกถึงอาจารย์ของเขา เป็นสีหน้าแห่งความเศร้าโศกและเสียใจ

 

 

อย่างไรก็ตามซอนเน่ก็ยังคงพูดต่อไปขณะยิ้มที่มุมปากราวกับเดาใจของโนโซมุ

 

 

 

「เดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างคนมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็ขึ้นอยู่แค่นั้น แน่นอนว่ามีสิ่งที่อีกฝ่ายที่ชอบเจ้าและไม่ชอบเช่นกัน…..จากภายนอกแล้ว เจ้านั้นดูจะคิดมากเกินไปและยึดติดกับตัวเองเกินไปนั่นแหละ」

 

หัวใจของโนโซมุถูกกระแทกอย่างรุนแรงอีกครั้ง

 

 

ขณะที่คิดว่าจะต้องก้าวไปข้างหน้า แต่เขาก็ไม่รู้จะก้าวไปที่ไหน

 

 

แน่นอนโนโซมุยังคงลังเลเรื่องระยะห่างระหว่างลิซ่าที่เปิดห่างในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้

 

 

แน่นอนแม้ว่าจะเคยพยายามย่นระยะห่างให้สั้นลงอย่างไรก็ถูกทำลายโดยเพื่อนสนิท

 

 

ข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้โนโซมุลังเลว่าควรจะก้าวข้ามผ่านมันไปอีกดีไหม ไม่สิเขาคิดยังไงกับอดีตเพื่อนของเขาตั้งแต่แรก

 

「ผม……」

 

คนที่อยากจะอยู่เคียงข้าง คนที่อยากจะปกป้อง

 

 

แผ่นหลังที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แม้แต่ตอนนี้ความปรารถนาของเขาก็ยังคงคลุมเครือ

 

「ยิ่งห่างหายไปนาน ยิ่งทำให้คิดมากขึ้นเท่านั้น พอยิ่งคิดมาก หัวใจก็จะมัวแต่ยึดติดคิดไปเอง โดยเฉพาะความทรงจำอันแสนเศร้าที่ทำให้เจ้าต้องน้ำตาซึมครั้งแล้วครั้งเล่า」

 

ช่วงเวลาที่ผมได้ให้คำมั่นสัญญามันผุดขึ้นมาอีกครั้ง ความทรงจำที่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกตอนที่อยู่บ้านเกิด

 

“ถ้าคนที่รักอยากจะทำความฝันให้เป็นจริง ผมเองก็อยากจะช่วย!”

 

คำพูดนั้นย้อนเข้ามาในจิตใจของโนโซมุ ที่มาของเขาและทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ทุกเขาต้องแปรเปลี่ยนทุกสิ่ง ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อคนๆหนึ่ง

 

 

มันเป็นความหวังอันแสนสูงส่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับพิษร้ายที่กัดเซาะจิตใจตัวเอง

 

 

ทั้งไอริสและฟีโอกำลังฟังทั้งสองคุยกันอยู่

 

 

ฟีโอนั้นดูท่าทางจะมีความสุข

 

 

ทางฝั่งไอริสก็เอามือทาบอกราวกับจะบีบมันให้แน่น ราวกับว่าเธอนั้นกังวล

 

 

ในไม่ช้าโนโซมุก็พูดต่อ

 

「ผมไม่เคยคิดแบบนั้นหรอก…..แต่บางทีก็」

 

คำพูดยืนยันจากปากของเขา ตัวเขาเองไม่มีเหตุผลหรือพื้นฐานจะปฏิเสธสิ่งที่ซอนเน่พูดได้เลย อย่างไรก็ตามยังคงมีความขมขื่นที่อธิบายไม่ได้อยู่

 

「ผมอาจจะยังต้องการให้ลิซ่ามุ่งมั่นตามฝันของเธอไป」

 

คำพูดที่เหมือนกับพูดอยู่ตัวคนเดียว โนโซมุพูดออกมาราวกับว่ามั่นใจในตัวเอง ไม่ใช่เพื่อใครทั้งนั้น

 

 

แน่นอนก็ว่ามีความรู้สึกที่ว่า“ชอบ”แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองยังหลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่รึเปล่า แต่ว่าข้อเท็จจริงต่างๆล้วนอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำ

 

 

และด้วยเหตุนั้นทำให้เขามาอยู่ที่นี่ ความจริงนั้นยืนยันความเดียวดายของเขา มันเป็นความจริงที่ว่าตอนแรกเขาก็ได้สนับสนุนเธอมาจนถึงตอนนี้ และแม้ตอนนี้เขาจะต้องหลีกหนีมาจากมันก็ตาม

 

 

อาจารย์ยังเคยบอกไว้อีกว่า

 

 

“หนีความจริงได้ ไม่เป็นไรหรอก แต่จงรู้ตัวไว้เถิดว่าตัวเองกำลังหนีความจริงเหล่านั้นอยู่”

 

 

ชิโนะไม่เคยคาดคั้นคำตอบจากปากของโนโซมุ โนโซมุนั้นคือคนที่จะต้องตัดสินใจเองในส่วนสุดท้าย จากนั้นเขาก็จำคำพูดของชิโนะและซอนเน่ไว้ในใจ

 

 

สิ่งที่อยู่ในหัวของเขาตอนนี้คือภาพของลิซ่าที่ยังเด็ก พูดถึงความฝันของเธออย่างภาคภูมิใจ

 

 

แต่ว่าทันใดนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวผมดำที่จ้องมองมาที่เขาด้วยความอ่อนโยน

 

 

เธอจ้องมาที่โนโซมุโดยไม่ละสายตา สายตาของเธอที่แสดงความสับสนและกังวลกับตัวเขา

 

 

เมื่อเขาเห็นแววตาเช่นนั้น สิ่งที่โนโซมุคิดก็ได้แต่ว่ามันช่วยไม่ได้ ความขมขื่นที่แผ่ซ่านอยู่ในปากนี้ โนโซมุถอนหายใจออกมาและพูดมัน

 

「ผมจริงๆแล้ว……」

 

ใจตัวเองยังคงหวั่นไหว โนโซมุยังคงพูดต่อไปในขณะรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น อย่างไรก็ตามเขาก็หลับตาลงชั่วครู่นึกถึงภาพที่เข้ามาในหัว

 

 

ร่างของหญิงสาวผมแดงที่สะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าตัวเขามีความรู้สึกเช่นใดกับเธอคนนั้นจิตใจของเขาเต้นรัว แต่ไม่รู้ว่านี่คือความชอบหรือความเกลียดชัง

 

 

 

「ลิซ่า……」

 

「โนโซมุ……」

 

มีเพียงเสียงกระซิบที่เล็ดลอดออกมาจากปากตามธรรมชาติเท่านั้นที่หายไปท่ามกลางความมืดมิดของเมืองอาร์คาซัม

 

 

◆◇◆

 

 

พระอาทิตย์กำลังตกดิน เด็กชายและเด็กหญิงทั้งสามกกำลังเดินอยู่บนทางเท้าหินที่ส่องสว่างด้วยหินเวทย์

 

 

เด็กชายผมบอลนด์คาดดาบไว้ที่เอว และหญิงสาวที่ถือไม้เท้า และเด็กผู้หญิงอีกคนที่มีผมสีแดงเพลิงมีดาบและมีดสั้นคาดเอวของเธอเอาไว้

 

 

เด็กชายคนนั้นถือถุงป่านอยู่ในมือ

 

 

จุดหมายปลายทางก็คือกิลด์ของเมืองอาร์คาซัม

 

 

ตอนนี้ก็มืดแล้วและนักผจญภัยที่ทำคำขอเสร็จก็ต่างค้นหาที่พัก ไม่ก็โรงเตี๊ยมที่ชอบ หรือไปย่านบันเทิงต่างๆ

 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักผจญภัยจำนวนไม่น้อยที่เข้าและออกจากกิลด์นี้ กำลังยืนยันคำขอและแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

 

 

ทั้งสามคนยืนอยู่หน้ากิลด์ ซึ่งยังคงมีความคึกคักและหญิงสาวที่ถือไม้เท้าก็เดินออกไปข้างหน้า

 

 

 

「ถ้างั้นฉันจะไปรายงานและรับเงินรางวัลมาเอง ดังนั้นทั้งสองคนไปจองที่นั่งในร้านก่อนได้เลยนะ」

 

「อืม ฝากด้วยนะ คามิลล่า」

 

คามิลล่าพยักหน้าเล็กน้อยและรับถุงป่านไปจากมือเคนและหายเข้าไปในกิลด์

 

「งั้นก็ไปกันเถอะลิซ่า」

 

「อือ……」

 

ลิซ่าพยักหน้าเล็กน้อยตามเสียงของเคน และเมื่อเธอเห็นคามิลล่าที่จากไปแล้วก็ไปยังร้านอาหารที่พวกเธอชอบกัน

 

 

ขณะฟังเสียงความคึกคักของเมือง ทั้งสองก็เดินผ่านการค้าในตอนกลางคืน

 

 

ทั้งสองเดินกอดกันจนไหล่แนบชิดกันแต่จิตใจของลิซ่าไม่ได้อยู่กับตัวเลยตอนนี้

 

 

เคนที่กำลังมองหน้าลิซ่าก็เรียกเธอ

 

「นี่ลิซ่า เป็นอะไรไปน่ะ? วันนี้เห็นทำท่าเหม่อลอยทั้งวันเลย……」

 

「เอ๋!? อะเอ่อ เหรอ?」

 

「ใช่ ทั้งตอนที่เก็บรวมรวมวัตถุดิบยืนยันคำขอเอย และตอนที่ต่อสู้กับสัตว์อสูรด้วย?」

 

คำขอที่พวกเขารับในวันนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่คำขอที่เอาสมุนไพรที่ใช้ทำยามาจากป่า

 

 

แม้ว่าสิ่งของที่เอามาจากเมืองจะมายื่นเควสได้เหมือนกันแต่มันก็มีราคาแพง

 

 

ถึงอาร์คาซัมจะได้รับเงินทุนแต่ละประเทศมา แต่ก็ต้องมีความประหยัดในระดับหนึ่ง

 

 

มิฉะนั้น เส้นทางคมนาคมคงถูกตัดขาดด้วยเหตุผลบางประการ และเสี่ยงต่อการล่มสลายของเมือง

 

 

 

「ไม่จริงสักหน่อย……」

 

「…………」

 

ลิซ่าพยายามปฏิเสธคำพูดของเคนในขณะที่แสร้งทำตัวเป็นสงบนิ่ง แต่เคนก็ขมวดคิ้ว

 

 

ลิซ่าส่ายหัวขณะที่กำลังคิดถึงภาพของโนโซมุที่เธอเห็นตอนที่ เขาไปกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอไปทำคำขอด้วยกัน

 

 

ภาพของหญิงสาวผมดำนั้นตราตึงเข้ามาในใจเธอ

 

 

สำหรับลิซ่าแล้ว ตัวตนของ โนโซมุ เบลาตี้ นั้นไม่สามารถให้อภัยได้อย่างแน่นอน พูดตามตรงแค่เห็นก็โกรธจนร่างกายร้อนผ่าวไปทั้งตัว

 

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้แทนที่จะเป็นหอกเพลิงที่เสียดแทงร่างกายของเธอ แต่มันกลับเป็นลูกศรน้ำแข็งอันแสนเยือกเย็น

 

 

ความรู้สึกเย็นชาส่งผ่านจากแกนกลางไปยังทั่วร่างกาย ทำให้ลิซ่าเห็นตัวเองที่อยู่ในโลกเพียงคนเดียว

 

 

รู้สึกเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่เสียพ่อไปและถูกแฟนสุดที่รักหักหลัง

 

 

ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้อีกครั้ง? ความคิดดังกล่าวแล่นผ่านหัวของลิซ่า

 

 

ฉันควรที่จะโกรธเขาต่อไปสิ

 

 

เธอกอดตัวเอง พร้อมกับย่อตัวรับลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา

 

 

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความเสน่หาของเธอ ความหนาวที่เย็นยะเยือกทะลุหน้าอกของเธอค่อยๆทำให้ร่างกายของเธอหยุดนิ่ง

 

「ลิซ่า ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

ในขณะนั้นเอง เคนก็เข้ามากอดไหล่ลิซ่าเบาๆ ความร้อนจากมือค่อยซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของลิซ่า

 

 

ความร้อนที่ส่งผ่านทำให้แก้มของลิซ่าเริ่มผ่อนคลาย ลิซ่าบิดตัวเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยความร้อนออกจากร่างกาย ราวกับว่าคนที่อยู่ท่ามกลางพายุหิมะมีกองไฟอยู่ตรงหน้า

 

 

อย่างไรก็ตาม ภาพของโนโซมุยังคงอยู่ในใจของลิซ่า

 

 

แผ่นหลังของโนโซมุที่ต่อสู้ปกป้องพวกเธอต่อหน้ามังกรแห่งความตาย และตัวเขาที่ถูกไอริสดิน่าพาตัวไป

 

 

ศรน้ำแข็งที่แทงทะลุหน้าอกมันไม่ยอมละลายและแม้พยายามเอาความร้อนมาบรรเทาแค่ไหนก็ไม่หาย

 

 

ลิซ่าเข้าไปในอ้อมกอดของเคนเพื่อค้นหาความอบอุ่น ราวกับเด็กที่ตื่นกลัวในยามค่ำคืน ในเวลานั้นเคนแตะคางของเธอและหันหน้าไปทางเธอ

 

 

ระยะห่างของทั้งสองค่อยๆลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ใบหน้าของเคนในดวงตาของลิซ่าค่อยๆใกล้เข้ามา

 

 

ลมหายใจของกันและกันลูบไหล้ใบหน้าของอีกฝ่าย และริมฝีปากที่กำลังจะสัมผัสกัน

 

 

อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมา ร่างกายของลิซ่าก็สั่นสะท้าน

 

「อะ!! แย่แล้ว!」

 

「อึก!」

 

แขนของลิซ่าที่มีแรงกลับมาชั่วขณะเมื่อเธอเห็นแบบนั้นก็รีบฉุดร่างของเคนออกจากตัวเธอทันที

 

「อา….ขอโทษนะเคน!」

 

「ไม่เป็นไรหรอก ลิซ่า ไม่ต้องกังวล」

 

ลิซ่ารีบขอโทษเคน เคนโบกมือด้วยรอยยิ้มราวกับบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ

 

「ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ……」

 

ถึงกระนั้นลิซ่าก็ยังขอโทษราวกับว่าเธอไม่สบายใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา และเธอก็ร้องไห้ออกมา

 

 

ขณะที่เขาปลอบลิซ่า เคนนั้นรู้สึกขมขื่นจนสุดพรรณนา

 

 

เธอที่โดนโนโซมุหักหลัง ตั้งแต่นั้นมา ลิซ่าก็ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อเพศตรงข้ามได้อีกเลย

 

 

แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะจับมือกันและกอดกัน แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ล่วงเกินกว่านี้ตัวเธอมันก็มีภูมิคุ้มกันราวกับปฏิเสธ

 

 

เรียกได้ว่าเธอเป็นโรคกลัวความรัก แม้ว่าจะสนทนากับเพศตรงข้ามได้ตามปกติ แต่เมื่อพยายามมีความสัมพันธ์โรแมนติกกับพวกเขาเหล่านั้น ก็จะรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากและปฏิเสธในทันที

 

 

แม้แต่เคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

 

ตอนแรกเคนคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาที่ว่าโนโซมุโดนกำจัดทิ้งให้พ้นทาง สิ่งที่ต้องทำก็แค่ต้องยัดเยียดความโกรธความเกลียดชังโยนใส่โนโซมุทั้งหมด แล้ววันหนึ่งลิซ่าก็จะฟื้นตัวเองกลับมาและเห็นตัวเขาที่อยู่ข้างๆเธอ

 

 

อย่างไรก็ตามสภาพของลิซ่านั้นไม่ได้ดีขึ้นเลย

 

 

ถึงกระนั้น เขาก็เป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้กับเธอได้ในตอนนี้ ความจริงนั้นก็ทำให้เคนรู้สึกพอใจอยู่บ้าง เพราะโนโซมุมักจะแย่งคนที่เขารักไปอยู่ตลอดเวลา

 

「ฉันขอโทษนะเคน ขอโทษนะคือว่าฉันมันขี้ขลาด……」

 

แต่เมื่อเห็นลิซ่าร้องไห้ ความแค้นที่ไม่อาจต้านทานได้ก็ผุดขึ้นในใจของเคน

 

 

ในขณะที่เปลี่ยนความแค้นเป็นความเกลียดชังต่อโนโซมุ เคนทำได้เพียงปลอบลิซ่าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

 

 

มีเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมทั้งสอง ลิซ่าและเคนอยู่ใกล้กันชั่วครู่หนึ่ง แต่เมื่อลิซ่าสงบลงจากนั้นก็แยกกันเดิน    

 

 

ลิซ่าพยายามหัวเราะออกมาทั้งๆที่โกรธตัวเองที่ไม่สามารถยอมรับความรู้สึกของเคนได้

 

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น เธอก็สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ

 

 

 

「เอ๊ะ……」

 

มีคนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

 

 

คนที่เคยอยู่เคียงข้างและให้ความอบอุ่น และอีกคนที่ทำให้จิตใจของเธอต้องยุ่งเหยิง

 

「ลิซ่า……」

 

「นะโนโซมุ……」

 

พวกเขาต่างพูดชื่อของกันและกันออกมา เนื่องจากเหตุการณ์มันกะทันหัน ทั้งลิซ่าและโนโซมุต่างตัวแข็งทื่อ

 

「…………」

 

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง

 

 

โนโซมุที่จู่ๆก็ต้องมาเจอกับทั้งสอง ก็รู้สึกได้ว่าความเกลียดชังที่คุกกรุ่นอยู่ในใจได้ยกระดับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

 

เหมือนกับไฟที่ตกลงมาใส่หญ้าที่ตายแล้ว ควันสีดำอันแสนน่ารังเกียจก็ลามไปทั่วหัวใจของโนโซมุ

 

 

โนโซมุสูดลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ ต้องขอบคุณสิ่งนั้น ความมืดที่เหมือนจะแพร่กระจายไปในใจก็สงบลงชั่วคราว

 

 

โนโซมุก้าวมาข้างหน้า

 

「ลิซ่า ไม่เป็นไรนะ?」

 

โนโซมุก้าวไปข้างหน้า พูดกับลิซ่า

 

 

ไอริสและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังต่างไม่พูดอะไรและเฝ้าดูสถานการณ์

 

 

ลิซ่าขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตอบสนองต่อสายตาที่จ้องมองมา ท่าทางของเธอต่างจากเมื่อก่อนที่พยายามแต่สบถคำพูดใส่เขาและปฏิเสธอย่างหนักแน่น

 

 

โนโซมุเองก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับลิซ่าแต่ตอนนี้เขาก็อยากเปิดใจเพื่อพูดคุยกับเธอ มีบางอย่างที่เขาอยากจะรู้จริงๆ

 

 

ตอนนี้เธอมุ่งเป้าไปยังความฝันได้ด้วยดีอยู่รึเปล่าเหมือนเฉกเช่นตอนเด็กๆ

 

 

แม้ว่าความฝันของโนโซมุจะพังทลายแล้ว แต่อย่างน้อยโนโซมุก็อยากให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นสักนิดก็ยังดี

 

 

อย่างไรก็ตาม เคนยังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

「เคน หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ……」

 

ทันทีที่เขาจำได้ว่าเพื่อนสนิทที่สุดทำให้เขาต้องผิดใจกับคนที่เขารัก ความเกลียดชังที่ถูกกดงำไว้จนถึงตอนนี้ก็ถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง

 

「แกคิดจริงๆเหรอว่าข้าจะถอยกลับเมื่อไม่รู้ว่าแกจะทำอะไรกับลิซ่า?」

 

「ยังมีหน้ามาพูดได้อีกนะ……」

 

เคนที่ทำตัวเป็นปกป้องลิซ่ายิ่งทำให้โนโซมุโกรธหนักขึ้นไปอีก

 

 

ทั้งสองจ้องมองกัน เคนนั้นมองโนโซมุด้วยความเย่อหยิ่ง และโนโซมุเองก็จ้องเคนด้วยความโกรธจัด

 

 

บรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัด

 

 

หากมีโอกาสแม้เพียงนิด มันไม่แปลกเลยที่ทั้งสองจะชักดาบออกมา

 

 

เป็นฝ่ายเคนที่เริ่มก่อน

 

 

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ดึงดาบที่คาดอยู่ที่เอวออกและเดินไปหาโนโซมุพร้อมกับเชิดหน้าชูตา

 

 

ทั้งสองคนสบหน้ากัน

 

「เรื่องทั้งหมดที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะแก? แกยังกล้ามีหน้ามาพูดคุยกับเธอได้อีกเหรอวะ?」

 

「ผมเนี่ยนะต้นเหตุ?」

 

「ใช่ แกนั่นแหละต้นเหตุ」

 

เสียงของเขาเบามากจนลิซ่ากับไอริสดิน่าไม่ได้ยินเสียงพูดคุย เคนเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆโนโซมุและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยว

 

 

เขาบอกว่า “โนโซมุเป็นต้นเหตุ” เพราะเขาอ่อนแอมาจนถึงตอนนี้และคอยฉุดรั้งลิซ่าเอาไว้

 

 

คำพูดของเคนเองก็ดูมีน้ำหนักพอที่จะทำให้โนโซมุรู้ตัวดี แต่เมื่อเขาได้ยิน ก็จะสามารถเห็นแววตาแห่งความโกรธและเกลียดชังเหมือนกับโนโซมุในตอนนี้

 

 

 

「อึก!!」

 

ร่างของมังกรยักษ์นั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของโนโซมุครู่หนึ่ง มังกรที่มี 6 ปีก 5 สี และยังคงส่งเสียงคำรามแห่งความแค้นดังก้องขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ทำให้ความรู้สึกที่อยากจะบดขยี้ทุกอย่างมันตื่นขึ้นมา

 

 

วินาทีต่อมา เปลวไฟแห่งความโกรธสีดำก็ระเบิดออกมาจากอกของโนโซมุ ราวกับตอบสนองต่อความเกลียดชังของเทียแมต ความเจ็บปวดอันแสนรุนแรงแล่นผ่านไปทั่วทั้งอก

 

“เอาล่ะ! ปลดปล่อยข้าซะสิ! ให้ข้าได้ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมันเสียให้หมด!!”

 

เสียงแห่งความเกลียดชังของเทียแมตดังก้องอยู่ในใจของโนโซมุ

 

 

ไม่รู้ว่าเหตุผลนั้นเพราะเหตุใด แต่เนื่องจากโนโซมุนั้นที่ปลดปล่อยความโกรธออกมาทำให้เทียแมตยิ่งปลดปล่อยความเกลียดชังยิ่งกว่าที่เคยเป็น

 

 

ความเกลียดชังและจิตสังหารอันแสนรุนแรง ความโกรธต่อเคนของโนโซมุที่มีอยู่เต็มอกและย้อมจิตใจของโนโซมุให้กลายเป็นสีดำ

 

 

หัวใจของโนโซมุที่ยึดติดอยู่กับความโกรธก็ยิ่งมีแรงแค้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก

 

 

 

“ปลดปล่อยข้าซะ ข้าจะฆ่าพวกมัน!จะฆ่าพวกมันที่ไม่ยอมสนใจในตัวข้า!”

 

มันเป็นแรงแห่งความเกลียดชังที่เข้มข้นมากกว่าที่เคยมีมา

 

 

เหตุผลของเขาฟังดูเป็นเหมือนกับการเตือนตัวเองที่ขับเคลื่อนไปด้วยเสน่หา

 

 

 

“แย่แล้ววววววว……”

 

โนโซมุที่เผลอไปกระตุ้นตัวเทียแมตเข้า และพยายามหยุดมันอย่างสิ้นหวัง

 

 

เหตุผลที่เหลืออยู่ในตอนนี้คือการระงับเทียแมตอย่างสุดกำลัง ไม่ให้มันออกมาอาละวาดและยึดตัวตนของเขาอีกครั้ง และเขาก็รีบกลบเกลื่อนโดยเร็วที่สุด

 

「นะนะนะนะนะนะนะนี่มันท่าจะไม่ดีแล้ววววววว……」

 

ฟีโอที่เห็นสีหน้าของโนโซมุที่เปลี่ยนเป็นความโกรธจัดแบบสุดๆพร้อมปล่อยจิตสังหารอันแสนรุนแรงออกมา แม้แต่ซอนเน่ที่อยู่ข้างๆก็เหงื่อออกหน้าผาก อาจเป็นเพราะเห็นบรรยากาศแปลกๆรอบๆโนโซมุ

 

 

ไอริสที่เฝ้าดูสถานการณ์ของโนโซมุก็รู้สึกหนาวสั่นราวกับว่าตัวของเธอถูกแช่แข็ง

 

 

ในเวลานั้น บรรยากาศของโนโซมุชวนให้นึกถึงเทียแมตที่ตื่นขึ้นมาตอนนั้น แต่ครั้งนี้มันแย่ยิ่งกว่าครั้งนั้นเสียอีก

 

 

 

「อึก! เคนนนนนนน แกกกกกกกกกกกก!!」

 

โนโซมุที่ถูกเติบเต็มไปด้วยความโกรธ อารมณ์ที่ถูกระงับไว้จนถึงตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอันแสนมืดมิดที่พร้อมจะปลดปล่อยสู่สภาพโดยรอบ

 

 

ลิซ่าเองก็ไหล่ตก เคนที่เห็นท่าทางของโนโซมุเองก็ตกใจ

 

 

โนโซมุในปัจจุบันพร้อมที่จะปลดปล่อยความโกรธอันแสนบ้าคลั่งออกมาได้ทุกเมื่อ ไอริสคว้ามือของโนโซมุเพื่อพยายามเรียกสติของเขากลับคืนมาเพราะความไม่สบายใจของเธอ

 

 

 

「โนโซมุได้สติสักที!」

 

“อย่ามาหยุดข้า! ถอยไปซะ!!”

 

โนโซมุที่ลืมอัตตาของตัวเองเพราะความโกรธที่เข้ากลืนกิน ความรู้สึกอันอบอุ่นที่แผ่นซ่านอยู่ในมือของเขา และน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่ก้องอยู่ในหัว

 

 

ในเวลาเดียวกันก็เหมือนกับเสียงระฆังทำให้ตัวเขาตื่นจากภวังค์อันแสนมืดมน

 

「……เอ๊ะ」

 

โนโซมุที่คอยๆกลับมาเป็นตัวเองอย่างช้าๆและไอริสที่มีน้ำตาคลอเบ้ากำลังจ้องมองเขา

 

「โนโซมุ ใจเย็นๆก่อนเถอะค่ะ ได้โปรดล่ะ ขอร้องล่ะ อย่างได้เป็นแบบนั้นอีกเลยค่ะ……」

 

น้ำเสียงอันแสนเศร้าของไอริสดังก้องกังวาลไปทั่ว ไอริสที่เป็นห่วงโนโซมุมากกว่าใครๆในตอนนี้

 

 

เลือดที่ขึ้นหน้าโนโซมุก็ค่อยๆหายไปในทันที อย่างไรก็ตามเทียแมตก็พยายามอาละวาดอยู่

 

 

มังกรยักษ์ที่ยังคงแสดงความเดือดดาลอย่างที่เคยเป็น โนโซมุกัดฟันแน่นและอดทนต่อความโกรธของมัน

 

 

เหงื่อนั้นไหลท่วมหน้าผากของเขา อย่างไรก็ตาม ความโกรธของหมอนั่นไม่บรรเทาลงเลย

 

 

โนโซมุค่อยๆสูดลงหายใจเข้าออกอย่างช้าๆและหลับตาลง เข้าไปในจิตใต้สำนึกของตัวเอง

 

 

ร่างของมังกรยักษ์ที่อาละวาดอยู่ริมทะเลสาบถูกฉายขึ้นมาในใจของเขา

 

 

ขณะที่ค่อยๆสงบลมหายใจ โนโซมุก็จดจ่อกับความอบอุ่นของไอริสที่จับมือเขาอยู่

 

 

ท่าทางของเทียแมตก็ค่อยๆอ่อนแรงลง และก็ค่อยๆหายตัวไป ในโซมุถอนหายใจออกและลืมตาขึ้นมา

 

「อ่าา เอ่อ…….ขอโทษนะครับไอริส……」

 

โนโซมุหอบหายใจอย่างรุนแรง ลิซ่าและคนอื่นๆที่กำลังดูสถานการณ์อยู่ก็พูดไม่ออกเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ขณะที่ไอริสที่น้ำตาซึมเพราะเห็นท่าทีของโนโซมุที่จะกลายเป็นแบบนั้นอีกครั้ง เธอก็ยิ้มและจับมือของโนโซมุและบอกว่า “ดีจังเลยนะคะ โชคดีจริงๆเลยค่ะ”

 

 

ฟีโอและซอนเน่เองก็ต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก โนโซมุเอามือวางซ้อนมือของไอริสและจับมือเธออย่างแรงจากนั้นก็ค่อยๆปล่อยมือออก

 

 

 

「อา..…」

 

ขณะฟังเสียงของไอริสโนโซมุก็หันไปมองเคนและลิซ่า

 

 

เปลวไฟแห่งความโกรธได้จางหายไปแล้ว

 

 

โนโซมุนึกถึงความฝันของลิซ่าที่เคยบอกเขาตอนเด็กๆ

 

 

ในพื้นที่ราบอันที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีนักผจญภัยคนหนึ่งที่กลายเป็นเพื่อนกับลิซ่านั่งอยู่ข้างกัน

 

 

โคลนนั้นเกาะไปทั่วทั้งตัวและใบหน้าของทุกคนกำลังเหนื่อยล้า

 

 

คงจะเป็นหลักจากเอาชนะความยากลำบากมามากมาย การแสดงออกสีหน้าของทุกคนนั้นเหนื่อยพอๆกัน

 

 

มีภาพของเธอที่หัวเราะออกมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับเพื่อนๆของเธอ เกราะและอาวุธก็เปื้อนโคลนไปหมด ใบหน้าที่แสนอ่อนล้านั่น

 

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของลิซ่านั้นส่องสว่างดั่งดวงอาทิตย์ บางทีรอยยิ้มของเธอที่เป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆนั้น เธอก็หันไปมองเพื่อนๆของเธอ

 

 

จากนั้นก็มีคนๆหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า「ไปกันเลยไหม!」จากนั้นทุกๆคนก็ค่อยๆลุกขึ้นมาทีละคน

 

 

และพวกเขาก็ออกเดินทางไปยังที่ราบอันไร้ที่สิ้นสุดโดยมีลิซ่านำหน้าอยู่ แผ่นหลังของพวกเขาดูเติบใหญ่เพราะก้าวผ่านพื้นที่ยากลำบากมามากมาย

 

 

อย่างไรก็ตามไม่มีร่างของชายที่ชื่อโนโซมุอยู่ ณ จุดนั้น ใบหน้าของเพื่อนทุกคนคือคนที่โนโซมุไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย

 

 

ถึงกระนั้นโนโซมุก็รู้สึกพอใจ

 

 

แม้ว่าจะประหลาดใจที่หัวใจของเขาสงบลงแม้จะอยู่ต่อหน้าเคนและคนอื่นๆ จากนั้นโนโซมุก็พูดด้วยน้ำเสียงอันเบา จากที่อันแสนไกลพร้อมกับเขาที่เรียกหาลิซ่า

 

 

 

「ลิซ่า ผมมีเรื่องจะถาม」

 

「นี่โนโซมุ ถ้าจะคุยก็มาคุยกับข้า……」

 

เคนขมวดคิ้วเข้าหาโนโซมุด้วยน้ำเสียงหยาบๆ ดูเหมือนว่าจะไม่ชอบตัวตนของโนโซมุที่โกรธก่อนหน้านี้มากจนทำให้สติหลุด

อย่างไรก็ตามโนโซมุหันไปมองด้วยสีหน้าเศร้าๆเล็กน้อย

 

 

 

「อึก….แววตาแบบนั้นมันอะไรกันวะ……」

 

เคนเป็นศัตรูกับโนโซมุโดยสิ้นเชิง

 

 

ความเกลียดชังของเคนที่ปลดปล่อยออกมามันรุนแรงและดูโหดร้ายเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นโนโซมุก็ทำได้แต่เพียงยิ้มอย่างเศร้าๆ

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุหันไปมองลิซ่าอีกครั้ง เมื่อโนโซมุจ้องมองลิซ่า เธอก็ยักไหล่อย่างหวาดกลัว

 

 

เพราะมันคือตราบาปที่ผมได้ทำไว้ ตัวผมที่วิ่งหนีจนถึงตอนนี้

 

 

โนโซมุค่อยๆพูดออกมาขณะนึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับมาจากมือของไอริส

 

 

 

「ลิซ่า จำได้ไหม ที่เธอเคยคุยกับผมตอนสมัยเด็ก ที่เธอบอกว่าอยากจะเป็นนักผจญภัยเหมือนกับพ่อของเธอ?」  

 

「เอ๋!!」

 

ใบหน้าของลิซ่าบิดเบี้ยวทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของโนโซมุ ผิวของเธอนั้นซีดลงอย่างเห็นได้ชัด และอากาศเย็นๆราวกับลูกศรน้ำแข็งได้ตกกระทบร่างกายของลิซ่าอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ริมฝีปากของลิซ่านั้นสั่นเพราะความเย็นที่ปกคลุมไปทั่วร่างของเธอ

 

 

 

「ลิซ่า ช่วยบอกผมได้รึเปล่า? เธอน่ะยังคงไล่ตามความฝันนั้นจากใจจริงอยู่รึเปล่าในตอนนี้?」

 

ในอกของลิซ่า ความทรงจำเมื่อสองปีก่อนก็ผุดขึ้นมาอีกครั้งตอนที่เธอทิ้งโนโซมุไป

 

 

ตอนที่เธอคิดว่าโดนทรยศและตกอยู่ในความสิ้นหวัง เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองกำลังถูกแช่อยู่ในกรงน้ำแข็ง

 

 

ความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายแช่แข็งจิตใจและร่างกายของเธอ และในตอนท้ายเธอก็ไม่รู้สึกถึงเสียงของเพื่อนสนิทที่เรียกหาเธออยู่ตลอดเวลา

 

 

ด้วยการสนับสนุนของเคนและคามิลล่า เธอก็ฟื้นตัวกลับมาได้ แต่ลูกศรน้ำแข็งที่ปักลงอยู่กลางใจยังไม่เคยละลายจางหายไป และบางครั้งร่างกายของเธอก็แข็งราวกับถูกมันกระตุ้นอยู่บ่อยครั้ง

 

 

และทันทีที่เธอได้ยินคำพูดของโนโซมุ ลูกศรน้ำแข็งก็ได้พุ่งเข้าใส่หน้าอกของเธออีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

「หุบปากไปเลย ! อย่ามาพูดอะไรแบบนั้นกับฉันนะ !นายน่ะไม่ได้รู้เรื่องของฉันเลยสักนิด! นายไม่ใช่คนสำคัญของฉันอีกต่อไปแล้ว!」

 

คำพูดปฏิเสธที่ออกมาจากปากของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพูดของเธอดังก้องไปรอบๆ

 

 

วินาทีต่อมาที่เธอพูดออกไป เธอก็รู้สึกเศร้าเสียใจสุดแสนจะพรรณนา ความรู้สึกเหล่านั้นมันอัดแน่นอยู่ในอก

 

 

อาา….ลิซ่าเผลอขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจและพยายามเงยหน้าขึ้น

 

 

ใบหน้าของเธอเงยขึ้นมามองโนโซมุ และก็พบกับใบหน้าของโนโซมุที่แสดงสีหน้าเศร้าๆออกมาราวกับว่าเขารู้สึกผิดตลอดเวลาที่ผ่านมา

 

「อ่า เป็นผมเองที่หนีมาโดยตลอด แต่ว่าขอแค่ครั้งนี้ช่วยเชื่อผมหน่อยได้ไหม? ผมน่ะจริงๆแล้ว……」

 

「อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ!!」

 

เคนนั้นมีใบหน้าแดงก่ำ พยายามคว้าตัวโนโซมุที่แม้โดนลิซ่าปฏิเสธก็ยังคงพูดต่อไป

 

 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ไอริสก็บุกเข้ามาคว้ามือของเคนและดึงมันออกไป

 

 

เธอยังใช้เวทย์เสริมพลังกายในทันที และรั้งเคนไว้ เคนเองก็ใช้เวทย์เสริมพลังกาย แต่ก่อนที่หมอนั่นจะได้เปิดใช้งานก็เว้นระยะห่างออกมาแล้ว

 

 

 

「อย่ามาขวางจะได้ไหม!」

 

「หนอยยยยยยยย!!」

 

อย่างไรก็ตามเคนคิดว่านี่มันคือเรื่องใหญ่แล้ว และดึงแขนของไอริสออกทันทีและพยายามวิ่งผ่านเธอไป

 

「ขอโทษด้วยนะแต่ตอนนี้คงให้ผ่านไปไม่ได้หรอก」

 

อย่างไรก็ตามคราวนี้ก็เป็นฟีโอที่มายืนอยู่ตรงหน้าเคน เคนไม่สามารถสู้แบบ 2 ต่อ 1 ได้

 

 

โนโซมุที่โดนขัดจังหวะโดยเคนก็พูดออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของลิซ่านั้นซีดเซียว และแม้แต่เท้าของเธอก็ก้าวออกไม่ไหว

 

 

โนโซมุรู้สึกเจ็บใจที่เห็นลิซ่าเป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตามโนโซมุยังคงจ้องมองลิซ่า เดินเข้าไปหาเธอ

 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเองเสียงเรียกชื่อลิซ่าก็ดังก้องระหว่างโนโซมุและลิซ่า

 

「ลิซ่าาาาา!」

 

ลิซ่าที่ถูกเรียกก็หันไปมองทางด้านหลัง

 

 

ลิซ่าพยายามหนีจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุด ตัวตนของเธอนั้นหายไปในความมืดมิด

 

 

เคนตามลิซ่าไป ขณะที่ไอริสและฟีโอก็คิดว่าพลาดซะแล้ว

 

 

โนโซมุพยายามวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าคามิลล่าที่เป็นคนเรียกลิซ่าก่อนหน้านี้ก็หยุดเขาไว้

 

「โนโซมุ คิดจะทำอะไรกันแน่!!」

 

「คามิลล่า……」

 

คามิลล่าพูดเช่นนั้นและคว้าคอโนโซมุ

 

 

เธอรู้ด้วยว่าลิซ่าไม่สามารถมีความรักได้อีกต่อไปแล้ว

 

 

เพราะความกลัวที่ฝังลึกเข้าไปในจิตใจ จึงไม่สามารถกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นได้มากนัก และเธอก็จำใบหน้าลิซ่าที่กลายเป็นคนไร้จิตใจได้ในทันที

 

 

นั่นคือเหตุผลเธอเป็นศัตรูกับโนโซมุมาจนถึงตอนนี้

 

「คิดจะทำร้ายจิตใจลิซ่าต่อไปอีกนานแค่ไหน? รู้ไหมว่าตั้งแต่ตอนนั้นลิซ่าเจ็บปวดมามากแค่ไหนแล้ว!?」

 

เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหูของโนโซมุ

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุหันหน้าไปหาลิซ่าที่กำลังวิ่งอยู่ และเขาก็ทำสีหน้าจริงจัง

 

 

 

「คามิลล่าให้ผมไปหาลิซ่าเถอะ……」

 

「……เอ๋?」

 

เสียงของโนโซมุนั้นดูค่อนข้างเป็นกังวลอย่างมากและราวกับว่าเขามีบางอย่างต้องพูดกับลิซ่าให้ได้

 

 

นานมาแล้ว หน้านั้นเหมือนตอนที่โนโซมุอยู่ด้วยกันกับพวกเขาตามปกติดั่งแต่ก่อน จากนั้น เมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้นที่เสียดแทงเข้าไปในจิตใจของคามิลล่า ในขณะเดียวกันโนโซมุก็เริ่มวิ่งออกไป

 

 

 

「ทำอะไรอยู่ รีบๆไปเร็วเข้าสิ!!」

 

เสียงของโนโซมุดังก้องไปรอบๆ

 

 

คามิลล่า ไอริสรีบวิ่งไล่ตามลิซ่าเพื่อที่จะได้พูดคุยกันสักที

 

 

หลังจากนั้นก็เหลือเพียงตาแก่อยู่คนเดียว

 

 

เกร็ดความรู้เล็กน้อย จะได้ไม่ด่าลิซ่าอยู่ฝ่ายเดียว ลิซ่าเองก็น่าเห็นใจเช่นกัน (อ่านอย่างมีสติ รู้ว่ามีอารมณ์ แต่อย่าอินเกิน ถถถ)

 

โรคกลัวความรัก (Philophobia) จัดเป็นโรคกลัวชนิดหนึ่ง ผู้ป่วยจะรู้สึกกลัวการมีความรักหรือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้อื่นจนไม่กล้าเริ่มต้น หรืออาจรุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อการใช้ชีวิต ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้บางคนมีอาการทางร่างกาย เช่น ตื่นกลัว มีเหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก คลื่นไส้ เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและเสี่ยงทำให้ผู้ป่วยแยกตัวออกจากสังคมได้

 

 

 

อาการของโรคกลัวความรัก

 

 

ผู้ป่วยโรคกลัวความรักจะรู้สึกกลัวการตกหลุมรักหรือไม่กล้ามีความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้อื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการอาจมีความรุนแรงถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นสามารถส่งผลต่อทั้งร่างกายและอารมณ์ แม้ตัวผู้ป่วยเองก็ตระหนักได้ว่าความกลัวที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถควบคุมความกลัวดังกล่าวได้อยู่ดี โดยเมื่อนึกถึงการตกหลุมรักก็อาจรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างรุนแรงจนมีภาวะตื่นกลัว และอาจมีอาการที่สังเกตได้ เช่น หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า มีเหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก ไม่สามารถทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้ตามปกติ คลื่นไส้ เป็นต้น

 

 

 

สาเหตุของโรคกลัวความรัก

 

 

สาเหตุของโรคกลัวความรักนั้นค่อนข้างคลุมเครือเช่นเดียวกับโรคกลัวชนิดอื่น ๆ แต่ก็มีการศึกษาพบว่าโรคกลัวบางชนิดอาจมีพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยเสี่ยง หรือบางครั้งก็อาจเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมอง นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าผู้ป่วยโรคกลัวความรักส่วนหนึ่งมีประวัติได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ถูกทำร้าย หรือถูกทอดทิ้งในวัยเด็กมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ป่วยฝังใจจนไม่กล้าไว้ใจหรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับใคร

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *