[นิยายแปล] Akuyaku Reijou no Naka no Hito ~Danzai sareta Tenseisha no Tame Usotsuki Heroine ni Fukushuu Itashimasu~ 16 ผู้สูญเสียความสุนทรีย์ในเสียงดนตรี
ผู้สูญเสียความสุนทรีย์ในเสียงดนตรี
ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนแรกที่บอกกับผมว่า ‘ฉันชอบเสียงไวโอลินของนาย’ ด้วยรอยยิ้มอันสดใส เรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบ เธอไม่เคยหัวเราะเยาะความฝันของผม ‘แอบฝึกดนตรีเพราะทางบ้านให้เป็นนักเวทเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเป็นแฟนเพลงคนแรกให้เอง!’ ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบทุกบทเพลง ซ้ำยังให้กำลังใจ ‘สเตฟานเป็นคนที่สุดยอดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆกันเลยสิ’
เธอมักร้องเพลงที่ได้ยินจากความฝัน และเมื่อถามไปว่าอยากเผยแพร่บทเพลงนั้นหรือไม่ เธอตอบว่า ‘ไม่หรอก แบบนั้นมันจะไม่ดีกับคนที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมาจริงๆ’ เรมิเลียบอกว่า นางฟ้าอาจไปได้ยินมาจากนักประพันธ์ที่อื่นก่อนจะมาร้องให้เธอฟังอีกที เพลงเหล่านั้นยอดเยี่ยมทุกเพลง หากนำไปจดลิขสิทธิ์ก็จะใช้ทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ก็ไม่ควรชักชวนเรมิเลียผู้อ่อนโยนให้ทำเรื่องไม่ถูกต้องเช่นนี้ จึงไม่ได้พูดออกไป
หากไม่มีแฟนเพลงคนแรกคนนี้ ผมคงขาดความมั่นใจจนละทิ้งเส้นทางของนักดนตรีและเลือกที่จะเป็นนักเวทอย่างเต็มตัว แม้ว่าเธอจะฉลาดแต่ก็ซื้อตรงเกินไป บางที่ผมก็กังวลว่าสักวันเธอจะถูกคนไม่ดีหลอกใช้ ผมจึงต้องการทั้ง ‘พลังสำหรับปกป้องผู้หญิงที่รัก’ และ ‘ความสามารถที่ทำให้ผู้หญิงที่รักยิ้มได้’ การตั้งเป้าหมายไปพร้อมกันทั้งสองอย่างเช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโลภ
แต่เรมิเลียนั้นโลภยิ่งกว่า เธอต้องการไขว่คว้าหาความสุขของตัวเอง ขณะทำการสนับสนุนวิลเลียด ทำให้ประเทศมั่งคั่ง ประชาชนทุกคนมีบ้านอยู่ มีงานทำ กินอิ่ม นอนหลับ ปราศจากความกังวลในภัยสงคราม… ผมไม่เคยเห็นขุนนางคนไหนตั้งเป้าได้โลภเท่านี้มาก่อน
ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ ความปรารถนาของเธอทั้งหมด ผมจะช่วยทำให้มันสำเร็จเอง ส่วนเหตุผลที่แท้จริงนั้นคงบอกไม่ได้ เธอเป็นถึงคู่หมั้นอย่างเป็นทางการของมกุฎราชกุมาร จึงบอกได้แค่ ‘ตอบแทนที่สนับสนุนความฝันของผม’ หากไม่นับวิลเลียดแล้วล่ะก็ ผมจะเป็นเพื่อนสนิทอันดับหนึ่งของเรมิเลียเอง
ถึงจะตั้งใจอย่างนั้น แต่ไม่รู้ว่าอะไรมันผิดพลาดตรงไหน ตัวผมที่มักถูกสาวใหญ่แม่หม้ายตามงานเลี้ยงเข้าหาอยู่บ่อยๆจึงเรียนรู้ทักษะหลีกเลี่ยงสุภาพสตรีมามากพอสมควร ได้ตีตัวออกห่างหญิงสาวแห่งดวงดาวสำเร็จโดยไม่ยาก โคลดเองก็เช่นกัน วิลเลียดจึงตกเป็นเป้าของผู้หญิงคนนั้นแทน
เมื่อเวลาผ่านไป วิลเลียดที่ถูกผู้หญิงคนนั้นเกาะติดมากที่สุดก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติต่อคุณพีน่า ‘ข้ารังเกียจผู้หญิงคนนั้นในทุกการกระทำ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจถึงโหยหาแต่เธอ’ อาจเป็นผลของเวทมนตร์บางอย่าง แต่เครื่องรางป้องกันการควบคุมจิตใจของทางราชวงศ์ที่เขาสวมใส่ก็ไม่มีปฏิกิริยา ในฐานะผู้ติดตามคนสนิทของมกุฎราชกุมาร ผมกับโคลดจึงต้องคิดหาวิธีรับมือกับมนตร์เสน่ห์ที่ไม่รู้จัก และเมื่อเร็วๆนี้ เดวิดก็ดูเหมือนจะไม่รังเกียจที่ได้พูดคุยใกล้ชิดกับคุณพีน่าเช่นกัน
ผมกับโคลดร่วมมือกันค้นหาเอกสารตำนานหญิงสาวแห่งดวงดาวที่เคยปรากฏตัวในอดีต และพบว่าหญิงสาวแห่งดวงดาวในบันทึกก็เป็นที่หลงใหลของชายหนุ่มจำนวนมากเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าพวกเขาถูกพลังบางอย่างของหญิงสาวแห่งดวงดาวดึงดูดหรือไม่ พวกเราไม่รู้ผลกระทบจากพลังของเธอ การค้นคว้าจึงไม่คืบหน้า ผมได้ปรึกษาโคลดว่าควรเอาเรื่องนี้ไปแจ้งให้ทางราชวงศ์กักตัวคุณพีน่าเพื่อสังเกตอาการหรือไม่? แต่เขาก็ตอบมาว่า ‘คนอย่างฝ่าบาทไม่มีทางตกหลุมพรางง่ายๆอยู่แล้ว ไม่ไว้ใจเขาเหรอ?’ ถ้าพูดถึงเรื่องความไว้ใจในตัวมกุฎราชกุมาร ก็เถียงได้ยาก
ตอนนี้ต้องเฝ้าสังเกตต่อไปโดยไม่ให้รู้ว่าเริ่มเอะใจ แต่แล้ว เรมิเลียก็มาขอคำปรึกษาเป็นการส่วนตัว เมื่อเข้ามาในห้องก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แม้ในห้องจะมีคนรับใช้ก็ตาม แต่ผมก็ไม่เคยได้อยู่กับเรมิเลียสองต่อสองเช่นนี้มานานมากแล้ว
เป็นเรื่องที่คิดไว้จริงๆ เรมิเลียเป็นกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างวิลเลียดกับพีน่า ผู้หญิงที่แอบหลงรักมานานหลายปีมาขอคำปรึกษาเรื่องความรักกับคนอื่นก็ทำให้เจ็บปวดอยู่นิดหน่อย
เห็นได้ชัดว่าระยะนี้วิลเลียดหลงใหลพีน่าขึ้นมากะทันหัน ด้วย ‘พลังอะไรบางอย่าง’ ดูเหมือนว่าเขาพยายามต่อต้านมันแล้ว… น่าหงุดหงิดแต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาให้ความสำคัญกับเรมิเลียมากพอๆกับที่ผมรู้สึกกับเธอ เพราะฉะนั้นเขาคงจะไม่เลือกอีกฝ่ายแม้ว่าจะเป็นหญิงสาวแห่งดวงดาว เธอคนนั้นอาจมีพลังในการทำให้ผู้คนหลงใหล แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตรวจสอบได้อย่างไร เพราะหญิงสาวแห่งดวงดาวคนนั้นเป็นถึงตัวตนในตำนาน
เพราะฉะนั้น ผมจึงบอกไปว่า ผมจะจับตาดูพวกเขาเอาไว้ ถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจอีกก็ให้มาพึ่งพาผมได้ตลอด… เพื่อเป็นการทำให้เรมิเลียรู้สึกสบายใจ แต่ผมก็เริ่มคิด ถ้าผู้หญิงคนนั้นเกาะติดวิลเลียดเช่นนี้ต่อไป เรมิเลียจะยิ่งกระวนกระวายและหันมาพึ่งพาผมมากขึ้น
…แบบนี้ดีแล้วใช่ไหม? เพราะผมเป็นเพื่ออันดับหนึ่งของเรมิเลีย จะมาพึ่งพากันบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
พวกสาวใหญ่ที่เคยเข้าหาผมได้พูดเอาไว้ว่า ‘หากภรรยาไม่พอใจกับสภาพความเป็นอยู่ มันคือความผิดของสามี’ แน่นอนว่าผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวกันหรอก
การเข้าไปปลอบใจเรมิเลียที่กังวลในเรื่องของวิลเลียด เป็นหน้าที่ของเพื่อนสนิทอย่างผมอยู่แล้ว
ถ้าไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ หัวหน้าจอมเวทแห่งราชสำนัก ก็อาจเปลี่ยนอนาคตได้บ้าง คำสาปได้เข้าสู่ตัวผมกับวิลเลียดเป็นที่เรียบร้อย และผลของมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ระยะนี้ คุณพีน่า…พีน่ามักจะเข้ามาพูดเรื่องที่ถูกเรมิเลียกลั่นแกล้งเพราะความหึงหวงที่พีน่าได้ใกล้ชิดกับพวกผม ซึ่งผมก็ยินดีรับฟังเรื่องพวกนี้ จริงๆก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเรมิเลียผู้ซื้อสัตย์ขนาดไม่ยอมเผยแพร่บทเพลงของนางฟ้าเพราะ ‘ไม่ใช่เพลงที่แต่งเอง’ คนนั้น จะมีความอิจฉาริษยาจนลงมือทำร้ายคนอื่นได้ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ
แต่ในใจกลับเชื่อฟังพีน่า… เพราะ ‘อยากเชื่อว่าเธอหึง’ และผมก็โง่พอที่จะไปต่อว่าเรมิเลียให้หยุดกลั่นแกล้งพีน่า หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยมาพึ่งพาหรือขอคำปรึกษากับผมอีกเลย…ทั้งที่มันควรจะเป็นเรื่องธรรมดา และผมก็รู้สึกไม่พอใจที่เธอไม่คิดพึงพาผมอีกต่อไป
“ที่วิลเลียดเอาใจออกห่างคุณ ก็เพราะคุณไปรังแกพีน่าก่อนไม่ใช่หรือไง?”
เมื่อนึกย้อนกลับไปก็เห็นแต่ความไม่สมเหตุสมผล
ในตอนนั้น ผมเชื่อ… ‘พีน่าไม่รู้จักมารยาทก็จริง ผมเองก็ไม่ชอบพฤติกรรมนั้นเหมือนกัน แต่มันก็เป็นคนละเรื่องกับการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้น’ เชื่ออย่างหมดใจว่าเรมิเลียกลั่นแกล้งพีน่าจริง จากพยานทุกคนที่มาร้องเรียน… กับหลักฐานแน่นหนาจนไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง… มันคือความจริงที่พิสูจน์ได้ ใช่แล้ว…มันเป็นเพียงข้ออ้าง ผมใช้พีน่า…เป็นข้ออ้าง เพื่อให้ตัวเองได้เป็น ‘อันดับหนึ่ง’ ของเรมิเลีย ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตรงนั้น
เมื่อคำสาปถูกถอนด้วยไวน์ฟองที่ราชาปีศาจนำมามอบให้ ความรู้สึกในใจก็เหลือเพียงความสิ้นหวังและเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมพยายามขอโทษแม้จะรู้ว่าไม่ควรได้รับการให้อภัย เรมิเลียก็ร้องไห้และบอกว่าเธอเองก็เสียใจเช่นกัน โดยที่ยังไม่พูดถึงเรื่องการให้อภัย
ผมไม่น่าตั้งความหวังแบบนั้นเลย ควรพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและไม่ทำร้ายเรมิเลียเพื่อความปรารถนาของตัวเอง ในตอนนั้นผมควรจะกันผู้หญิงคนนั้นให้ออกห่างในทันที หากผู้ติดตามของมกุฎราชกุมารรวมตัวกันร้องเรียนไปยังวังหลวงอย่างจริงจัง มั่นใจว่าพวกเขาจะรับฟังอย่างแน่นอน
รักแรกของผม แฟนเพลงคนแรกในฐานะนักดนตรี และเพื่อนสนิทอันดับหนึ่ง ผมได้สูญเสียไปจนหมด และผมก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเสียใจกับเรื่องนั้น
Comments