[นิยายแปล] Game of the World Tree 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชก็อบลินทั้งสามหันมองพวกพ้องของมันก่อนจะคำรามเสียงต่ำ

     “ซ่อนของสังเวยก่อน แล้วรีบไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก”

     “ข้าเอาตามนั้น”

     “ฮื่ม!”

     พวกมันซ่อนคริสตัลพระโลหิตไว้หลังรูปปั้น แล้วจึงรีบปรี่ตามก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บออกไปนอกวิหาร 

     …

     ดวงจันทร์บนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ดูงดงามยิ่ง ทว่าบรรดาก็อบลินทั้งหลายกลับไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะเชยชมความงามนี้ได้ 

     ทั้งเมืองฟลอเรนซ์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล

     โบราณสถานที่ไร้ระเบียบในเวลานี้ กำลังตกอยู่ในเปลวเพลิงที่ลุกโชนและเสียงโห่ร้องอันกึกก้อง ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายที่ยิ่งกว่าสภาพปกติของมัน 

     เมื่อนักบวชทั้งสามออกมาพ้นเขตวิหาร พวกมันพลันเห็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า ปีศาจ 

     ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์ที่สายตาฝ้าฟางมาตั้งแต่เกิด ทัศนวิสัยของพวกมันจัดว่าย่ำแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามราตรี พวกมันจึงไม่สามารถระบุรูปร่างหน้าตาของผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกมันมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด … คือนัยน์ตาที่ส่องแสงเจิดจ้าในความมืดมิด

     สายตาของเหล่าเอลฟ์ตรงข้ามกับก็อบลิน เอลฟ์แห่งดินแดนซากัสสามารถมองเห็นในยามกลางคืนราวกับเป็นเวลากลางวัน คล้ายกับสัตว์ตระกูลแมวบนดาวสีฟ้า 

     สำหรับค่ำคืนที่ดวงจันทร์ฉายแสงเช่นนี้ แววตาของเอลฟ์ต่างสะท้อนแสงจันทร์จนเป็นประกายคล้ายกับตะเกียงในความมืด 

     พวกเอลฟ์ในเวลานี้ดูคล้ายคลึงปีศาจที่เปี่ยมไปด้วยความดุร้าย ความกระหายและนัยน์ตาที่ฉายแววโหดเหี้ยมอำมหิต แถมพวกเขายังหัวเราะอย่างสนุกสนานในขณะที่ล่าสังหารเหล่าก็อบลิน

     “พวกมันคืออสูรประเภทใดกัน?”

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกตื่นตะลึงกับสถานการณ์ตรงหน้า

     หนึ่งในพวกมันพลันร่ายมนตร์ส่องสว่างด้วยร่างอันสั่นเทา

     บอลแสงลูกหนึ่งพลันลอยขึ้นเหนือพวกมัน เปล่งแสงนวลสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ เผยรูปลักษณ์ของผู้บุกรุกให้เหล่าก็อบลินเห็นอย่างแจ่มชัด

     “เอลฟ์?!”

     นักบวชทั้งสามพรั่นพรึงกับภาพเบื้องหน้า พวกมันเห็นเอลฟ์ร่างใหญ่ที่ดูดุร้ายและบ้าคลั่ง เอลฟ์เหล่านั้นใช้ทั้งดาบโค้งและธนูเป็นอาวุธ แถมชุดผ้าขาด ๆ ของพวกมันต่างเปราะเปื้อนไปด้วยเลือดจนแทบจะถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน

     ไม่ … ไอ้พวกนี้ใช่เอลฟ์แน่เรอะ??!

     เอลฟ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะสิ่งมีชีวิตผู้รักความสงบ แม้ในเวลาที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาจมดิ่งถึงขีดสุด เหล่าเอลฟ์ก็จะแค่ขับไล่ผู้บุกรุกอย่างก็อบลิน แถมไม่เคยเข่นฆ่าสิ่งใด!

     แต่ไอ้พวกนี้ …

     เพียงมองปราดเดียว เหล่านักบวชต่างสังเกตเห็นสิ่งที่เอลฟ์ไม่ควรจะมี …

     ความโลภ ความเมินเฉย และความโหดเหี้ยมไร้ปรานี 

     เหล่าเอลฟ์มองก็อบลินราวกับผู้ล่ามองเหยื่อ พวกมันเข่นฆ่าเพื่อความสนุุก ยิ่งสังหารยิ่งเพลิดเพลิน ลืมกระทั่งบาดแผลของตน ไล่ล่าไม่หยุดยั้งราวกับสภาพร่างกายของพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

     นอกจากนี้ พวกมันจะหยิบฉวยทุกอย่างของก็อบลินที่ถูกพวกมันปลิดชีพ ต่อให้เป็นเพียงตะบองไม้ผุ ๆ หรือเศษผ้าเน่า ๆ …

     โอ้องค์พระบิดา! ไอ้เอลฟ์พวกนี้มันเป็นภูติผีปีศาจจากนรกขุมไหนจำแลงกายมา??!

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกขนพองสยองเกล้า

     ซ้ำร้ายบอลแสงของพวกมันยังเรียกความสนใจจากผู้ล่าได้อย่างชะงัดนัก เหล่าเอลฟ์พลันสังเกตเห็นพวกมันทันที!

     ในวินาทีนั้น แววตาของเอลฟ์ทั้งหลายต่างเปล่งประกายเจิดจ้า นัยน์ตาของพวกมันที่ดูราวกับสัตว์กินเนื้อทำให้นักบวชก็อบลินตัวสั่นอย่างรุนแรง

     “นักบวช! ไอ้นั่นมันนักบวชก็อบลิน!”

     “หัวละ 50 แต้ม! ถ้าโซโล่ก็ 500 แต้ม!”

     “หลบไป! ตี้ตูเจอพวกมันก่อนเฟ้ย!”

     “เชือดมัน!”

     “ของดรอปแจ่ม ๆ รออยู่!”

     เสียงโห่ร้องของเอลฟ์พลันปะทุขึ้นด้วยความตื่นเต้น พวกมันถกเถียงกันเองไปพร้อม ๆ กับตะโกนลั่นและบุกเข้าใส่ก็อบลินทั้งสามราวกับคลื่นสมุทรลูกใหญ่

     นักบวชก็อบลินต่างหวาดกลัวจนชาไปทั้งศีรษะ มันต่างสัมผัสได้ว่าพวกตนโดนห้อมล้อมไปด้วยเหล่ายอดฝีมือระดับเหล็ก จึงตัดสินใจถอยร่นในทันที

     “ห .. หนีเข้าไปในวิหาร!”

     พวกมันพร้อมใจกันหันหลังและวิ่งหนีตายสุดชีวิต

     “เถาวัลย์–!”

     เหล่าก็อบลินวิ่งไปได้เพียงสองก้าว พลันได้ยินเสียงหนึ่งที่สะท้อนมาอย่างเงียบเชียบพร้อมกับพลังเวทมนตร์ที่แผ่ออกมา เถาวัลย์เส้นเขื่องปรากฏขึ้นจากผิวดินพร้อมพุ่งเข้ามาพันธนาการพวกมันไว้

     นักบวชทั้งสามพลันตระหนก 

     พวกมันพยายามดิ้นรนหลบเลี่ยงเถาวัลย์สุดชีวิต แต่แล้วก็อบลินตัวหนึ่งก็พลาดท่า

     “แจ่มมากพี่มู่!”

     เอลฟ์จำนวนมากโห่ร้องยินดี

     ก็อบลินที่ถูกรัดตรึงรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ มันร่ายมนตร์อย่างเร่งรีบ ทว่าภายในใจของมันกลับรู้สึกหวั่นวิตกอย่างแปลกประหลาด

     อันตราย …

     อันตราย!!

     วินาทีนั้นพลันมีแสบสว่างวูบหนึ่งพุ่งผ่านเข้ามาในสายตา

     มันสัมผัสได้เพียงลมเย็นระลอกหนึ่งพัดมาจากเบื้องหลัง พร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ถูกตัดขาด ศีรษะของมันขาดกระเด็นออกจากร่างพร้อมกับโลหิตที่พุ่งเป็นสาย

     ในเวลาเดียวกัน ร่างของเอลฟ์ตนหนึ่งเผยตัวออกมาจากความมืดเบื้องหลังนักบวชก็อบลิน ร่างของเขาถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ลงมืออย่างไร้อารมณ์ ไร้ซุ่มเสียง เป็นนักลอบสังหารผู้เงียบงัน

     “เฮ้ยเจ๋ง! ดาบเดียวจอด!”

     “ปาดคอเน้น ๆ! พี่ข้าวกล่องโหดโคตร!”

     “อาชีพนักล่าโกงงี้เลยจริงดิ?”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันส่งเสียงอึกทึก 

     พวกมันมีนักลอบสังหาร?

     นักบวชก็อบลินที่เหลืออีกสองตัวต่างเหลียวมองพลางเร่งฝีเท้าด้วยความตระหนก

     พวกมันเลือกวิ่งไปคนละทาง ตัวหนึ่งไปทางซ้าย อีกตัวไปทางขวา 

     หนี!

     ต้องรีบเข้าไปในวิหาร!

     ทางรอดทางเดียวคือเข้าไปในวิหาร!

     บรรดาเอลฟ์ต่างร้องตะโกนด้วยความชุลมุนเมื่อเห็นว่านักบวชทั้งสองใช้จังหวะนี้ในการหลบหนี

     “อย่าปล่อยพวกมันไป!”

     “เวทระยะไกล! ขอเวทระยะไกล–!”

     บึมมม!

     บึมมมม!

     กระแสเวทมนตร์รุนแรงพลันปะทุขึ้นพร้อมกับลูกไฟพุ่งเข้าปะทะพื้นดินเบื้องหลังก็อบลินทั้งสอง ดูเหมือนว่าเอลฟ์พวกนี้จะไม่ได้มีความเก่งฉกาจเป็นพิเศษ การโจมตีระยะไกลของพวกมันยังขาดความแม่นยำ

     ในเวลาเดียวกัน นักบวชทั้งสองพลันได้ยินเสียงเหล่าปีศาจตะโกนก้องอีกครั้ง

     “ลูกเมี้ยวน้อย! อย่ายิงไปไหนไม่รู้ววว! ช่วยยิงให้โดนก็อบลินด้วย!”

     “เล็งให้แม่น ขอเบิ้ม ๆ ที่ตัวขวา!”

     ขวา?

     ก็อบลินที่เลือกวิ่งมาทางซ้ายพลันชำเลืองไปทางสหายของมันพร้อมกับแสดงท่าทีเป็นเชิงโล่งใจ

     นักบวชที่กำลังโกยแน่บอยู่ทางขวาแทบจะฉี่รดตัวเองด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

     แต่ก่อนที่ก็อบลินตัวซ้ายจะได้ดื่มด่ำกับความยินดี พลันปรากฏเปลวไฟลูกใหญ่กลืนกินมันไปพร้อมเสียงระเบิดอันกึกก้อง

     “ฮ่าฮ่าฮ่า! แม่นโคตร!”

     “หยั่งเจ๋ง! ยัยเมี้ยวเค็ม!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างส่งเสียงชื่นชมจากเบื้องหลัง

     ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตนักบวชเผ่าก็อบลินตนนั้น มันได้แต่ลอบแค้นเคือง

     ไหนว่าจะยิงทางขวา—!!?

     เมื่อเห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งสองลาโลกไป นักบวชก็อบลินตัวสุดท้ายจึงโกยแน่บสุดแรงเกิดไปพร้อมกับการบริกรรมทุกคาถาที่อาจจะช่วยให้มันรอดพ้นจากความตาย!

     ด้วยการเสียสละของนักบวชทั้งสอง มันสามารถสลัดกลุ่มเอลฟ์และหนีเข้ามาในวิหารได้ในที่สุด!

     มันทรุดตัวลงเบื้องหน้ารูปบูชาพร้อมควานหาคริสตัลพระโลหิตที่ถูกซ่อนไว้ นักบวชก็อบลินพยายามระงับความกลัวและเริ่มบริกรรมพิธีสังเวยด้วยมืออันสั่นเทา

     “ขอ.. ขอสรรเสริญฤดูหนาว และการล่า … องค์พระบิดา ข้า .. ข้าสาวกผู้ซื่อสัตย์ ขอความช่วยเหลือ!”

     เมื่อสิ้นเสียงภาวนานั้น รูปบูชาเบื้องหน้าพลันเปล่งแสงซีดจางออกมา!

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: น้องเมี้ยววววววววว!!!

     วันนี้มีสองตอนนะคะ (ตอนนี้ 1/2)

     เห็นยอดวิวหลังบ้านเวลาลงสองตอน 

     ถั่วพบว่าจะมีตอนนึงที่คนลืมอ่านประมาณ 30% Q – Q

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชก็อบลินทั้งสามหันมองพวกพ้องของมันก่อนจะคำรามเสียงต่ำ

     “ซ่อนของสังเวยก่อน แล้วรีบไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก”

     “ข้าเอาตามนั้น”

     “ฮื่ม!”

     พวกมันซ่อนคริสตัลพระโลหิตไว้หลังรูปปั้น แล้วจึงรีบปรี่ตามก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บออกไปนอกวิหาร 

     …

     ดวงจันทร์บนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ดูงดงามยิ่ง ทว่าบรรดาก็อบลินทั้งหลายกลับไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะเชยชมความงามนี้ได้ 

     ทั้งเมืองฟลอเรนซ์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล

     โบราณสถานที่ไร้ระเบียบในเวลานี้ กำลังตกอยู่ในเปลวเพลิงที่ลุกโชนและเสียงโห่ร้องอันกึกก้อง ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายที่ยิ่งกว่าสภาพปกติของมัน 

     เมื่อนักบวชทั้งสามออกมาพ้นเขตวิหาร พวกมันพลันเห็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า ปีศาจ 

     ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์ที่สายตาฝ้าฟางมาตั้งแต่เกิด ทัศนวิสัยของพวกมันจัดว่าย่ำแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามราตรี พวกมันจึงไม่สามารถระบุรูปร่างหน้าตาของผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกมันมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด … คือนัยน์ตาที่ส่องแสงเจิดจ้าในความมืดมิด

     สายตาของเหล่าเอลฟ์ตรงข้ามกับก็อบลิน เอลฟ์แห่งดินแดนซากัสสามารถมองเห็นในยามกลางคืนราวกับเป็นเวลากลางวัน คล้ายกับสัตว์ตระกูลแมวบนดาวสีฟ้า 

     สำหรับค่ำคืนที่ดวงจันทร์ฉายแสงเช่นนี้ แววตาของเอลฟ์ต่างสะท้อนแสงจันทร์จนเป็นประกายคล้ายกับตะเกียงในความมืด 

     พวกเอลฟ์ในเวลานี้ดูคล้ายคลึงปีศาจที่เปี่ยมไปด้วยความดุร้าย ความกระหายและนัยน์ตาที่ฉายแววโหดเหี้ยมอำมหิต แถมพวกเขายังหัวเราะอย่างสนุกสนานในขณะที่ล่าสังหารเหล่าก็อบลิน

     “พวกมันคืออสูรประเภทใดกัน?”

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกตื่นตะลึงกับสถานการณ์ตรงหน้า

     หนึ่งในพวกมันพลันร่ายมนตร์ส่องสว่างด้วยร่างอันสั่นเทา

     บอลแสงลูกหนึ่งพลันลอยขึ้นเหนือพวกมัน เปล่งแสงนวลสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ เผยรูปลักษณ์ของผู้บุกรุกให้เหล่าก็อบลินเห็นอย่างแจ่มชัด

     “เอลฟ์?!”

     นักบวชทั้งสามพรั่นพรึงกับภาพเบื้องหน้า พวกมันเห็นเอลฟ์ร่างใหญ่ที่ดูดุร้ายและบ้าคลั่ง เอลฟ์เหล่านั้นใช้ทั้งดาบโค้งและธนูเป็นอาวุธ แถมชุดผ้าขาด ๆ ของพวกมันต่างเปราะเปื้อนไปด้วยเลือดจนแทบจะถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน

     ไม่ … ไอ้พวกนี้ใช่เอลฟ์แน่เรอะ??!

     เอลฟ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะสิ่งมีชีวิตผู้รักความสงบ แม้ในเวลาที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาจมดิ่งถึงขีดสุด เหล่าเอลฟ์ก็จะแค่ขับไล่ผู้บุกรุกอย่างก็อบลิน แถมไม่เคยเข่นฆ่าสิ่งใด!

     แต่ไอ้พวกนี้ …

     เพียงมองปราดเดียว เหล่านักบวชต่างสังเกตเห็นสิ่งที่เอลฟ์ไม่ควรจะมี …

     ความโลภ ความเมินเฉย และความโหดเหี้ยมไร้ปรานี 

     เหล่าเอลฟ์มองก็อบลินราวกับผู้ล่ามองเหยื่อ พวกมันเข่นฆ่าเพื่อความสนุุก ยิ่งสังหารยิ่งเพลิดเพลิน ลืมกระทั่งบาดแผลของตน ไล่ล่าไม่หยุดยั้งราวกับสภาพร่างกายของพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

     นอกจากนี้ พวกมันจะหยิบฉวยทุกอย่างของก็อบลินที่ถูกพวกมันปลิดชีพ ต่อให้เป็นเพียงตะบองไม้ผุ ๆ หรือเศษผ้าเน่า ๆ …

     โอ้องค์พระบิดา! ไอ้เอลฟ์พวกนี้มันเป็นภูติผีปีศาจจากนรกขุมไหนจำแลงกายมา??!

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกขนพองสยองเกล้า

     ซ้ำร้ายบอลแสงของพวกมันยังเรียกความสนใจจากผู้ล่าได้อย่างชะงัดนัก เหล่าเอลฟ์พลันสังเกตเห็นพวกมันทันที!

     ในวินาทีนั้น แววตาของเอลฟ์ทั้งหลายต่างเปล่งประกายเจิดจ้า นัยน์ตาของพวกมันที่ดูราวกับสัตว์กินเนื้อทำให้นักบวชก็อบลินตัวสั่นอย่างรุนแรง

     “นักบวช! ไอ้นั่นมันนักบวชก็อบลิน!”

     “หัวละ 50 แต้ม! ถ้าโซโล่ก็ 500 แต้ม!”

     “หลบไป! ตี้ตูเจอพวกมันก่อนเฟ้ย!”

     “เชือดมัน!”

     “ของดรอปแจ่ม ๆ รออยู่!”

     เสียงโห่ร้องของเอลฟ์พลันปะทุขึ้นด้วยความตื่นเต้น พวกมันถกเถียงกันเองไปพร้อม ๆ กับตะโกนลั่นและบุกเข้าใส่ก็อบลินทั้งสามราวกับคลื่นสมุทรลูกใหญ่

     นักบวชก็อบลินต่างหวาดกลัวจนชาไปทั้งศีรษะ มันต่างสัมผัสได้ว่าพวกตนโดนห้อมล้อมไปด้วยเหล่ายอดฝีมือระดับเหล็ก จึงตัดสินใจถอยร่นในทันที

     “ห .. หนีเข้าไปในวิหาร!”

     พวกมันพร้อมใจกันหันหลังและวิ่งหนีตายสุดชีวิต

     “เถาวัลย์–!”

     เหล่าก็อบลินวิ่งไปได้เพียงสองก้าว พลันได้ยินเสียงหนึ่งที่สะท้อนมาอย่างเงียบเชียบพร้อมกับพลังเวทมนตร์ที่แผ่ออกมา เถาวัลย์เส้นเขื่องปรากฏขึ้นจากผิวดินพร้อมพุ่งเข้ามาพันธนาการพวกมันไว้

     นักบวชทั้งสามพลันตระหนก 

     พวกมันพยายามดิ้นรนหลบเลี่ยงเถาวัลย์สุดชีวิต แต่แล้วก็อบลินตัวหนึ่งก็พลาดท่า

     “แจ่มมากพี่มู่!”

     เอลฟ์จำนวนมากโห่ร้องยินดี

     ก็อบลินที่ถูกรัดตรึงรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ มันร่ายมนตร์อย่างเร่งรีบ ทว่าภายในใจของมันกลับรู้สึกหวั่นวิตกอย่างแปลกประหลาด

     อันตราย …

     อันตราย!!

     วินาทีนั้นพลันมีแสบสว่างวูบหนึ่งพุ่งผ่านเข้ามาในสายตา

     มันสัมผัสได้เพียงลมเย็นระลอกหนึ่งพัดมาจากเบื้องหลัง พร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ถูกตัดขาด ศีรษะของมันขาดกระเด็นออกจากร่างพร้อมกับโลหิตที่พุ่งเป็นสาย

     ในเวลาเดียวกัน ร่างของเอลฟ์ตนหนึ่งเผยตัวออกมาจากความมืดเบื้องหลังนักบวชก็อบลิน ร่างของเขาถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ลงมืออย่างไร้อารมณ์ ไร้ซุ่มเสียง เป็นนักลอบสังหารผู้เงียบงัน

     “เฮ้ยเจ๋ง! ดาบเดียวจอด!”

     “ปาดคอเน้น ๆ! พี่ข้าวกล่องโหดโคตร!”

     “อาชีพนักล่าโกงงี้เลยจริงดิ?”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันส่งเสียงอึกทึก 

     พวกมันมีนักลอบสังหาร?

     นักบวชก็อบลินที่เหลืออีกสองตัวต่างเหลียวมองพลางเร่งฝีเท้าด้วยความตระหนก

     พวกมันเลือกวิ่งไปคนละทาง ตัวหนึ่งไปทางซ้าย อีกตัวไปทางขวา 

     หนี!

     ต้องรีบเข้าไปในวิหาร!

     ทางรอดทางเดียวคือเข้าไปในวิหาร!

     บรรดาเอลฟ์ต่างร้องตะโกนด้วยความชุลมุนเมื่อเห็นว่านักบวชทั้งสองใช้จังหวะนี้ในการหลบหนี

     “อย่าปล่อยพวกมันไป!”

     “เวทระยะไกล! ขอเวทระยะไกล–!”

     บึมมม!

     บึมมมม!

     กระแสเวทมนตร์รุนแรงพลันปะทุขึ้นพร้อมกับลูกไฟพุ่งเข้าปะทะพื้นดินเบื้องหลังก็อบลินทั้งสอง ดูเหมือนว่าเอลฟ์พวกนี้จะไม่ได้มีความเก่งฉกาจเป็นพิเศษ การโจมตีระยะไกลของพวกมันยังขาดความแม่นยำ

     ในเวลาเดียวกัน นักบวชทั้งสองพลันได้ยินเสียงเหล่าปีศาจตะโกนก้องอีกครั้ง

     “ลูกเมี้ยวน้อย! อย่ายิงไปไหนไม่รู้ววว! ช่วยยิงให้โดนก็อบลินด้วย!”

     “เล็งให้แม่น ขอเบิ้ม ๆ ที่ตัวขวา!”

     ขวา?

     ก็อบลินที่เลือกวิ่งมาทางซ้ายพลันชำเลืองไปทางสหายของมันพร้อมกับแสดงท่าทีเป็นเชิงโล่งใจ

     นักบวชที่กำลังโกยแน่บอยู่ทางขวาแทบจะฉี่รดตัวเองด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

     แต่ก่อนที่ก็อบลินตัวซ้ายจะได้ดื่มด่ำกับความยินดี พลันปรากฏเปลวไฟลูกใหญ่กลืนกินมันไปพร้อมเสียงระเบิดอันกึกก้อง

     “ฮ่าฮ่าฮ่า! แม่นโคตร!”

     “หยั่งเจ๋ง! ยัยเมี้ยวเค็ม!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างส่งเสียงชื่นชมจากเบื้องหลัง

     ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตนักบวชเผ่าก็อบลินตนนั้น มันได้แต่ลอบแค้นเคือง

     ไหนว่าจะยิงทางขวา—!!?

     เมื่อเห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งสองลาโลกไป นักบวชก็อบลินตัวสุดท้ายจึงโกยแน่บสุดแรงเกิดไปพร้อมกับการบริกรรมทุกคาถาที่อาจจะช่วยให้มันรอดพ้นจากความตาย!

     ด้วยการเสียสละของนักบวชทั้งสอง มันสามารถสลัดกลุ่มเอลฟ์และหนีเข้ามาในวิหารได้ในที่สุด!

     มันทรุดตัวลงเบื้องหน้ารูปบูชาพร้อมควานหาคริสตัลพระโลหิตที่ถูกซ่อนไว้ นักบวชก็อบลินพยายามระงับความกลัวและเริ่มบริกรรมพิธีสังเวยด้วยมืออันสั่นเทา

     “ขอ.. ขอสรรเสริญฤดูหนาว และการล่า … องค์พระบิดา ข้า .. ข้าสาวกผู้ซื่อสัตย์ ขอความช่วยเหลือ!”

     เมื่อสิ้นเสียงภาวนานั้น รูปบูชาเบื้องหน้าพลันเปล่งแสงซีดจางออกมา!

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: น้องเมี้ยววววววววว!!!

     วันนี้มีสองตอนนะคะ (ตอนนี้ 1/2)

     เห็นยอดวิวหลังบ้านเวลาลงสองตอน 

     ถั่วพบว่าจะมีตอนนึงที่คนลืมอ่านประมาณ 30% Q – Q

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา?

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 40 ไหนว่าจะยิงไปทางขวา? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

     นักบวชก็อบลินทั้งสามหันมองพวกพ้องของมันก่อนจะคำรามเสียงต่ำ

     “ซ่อนของสังเวยก่อน แล้วรีบไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ด้านนอก”

     “ข้าเอาตามนั้น”

     “ฮื่ม!”

     พวกมันซ่อนคริสตัลพระโลหิตไว้หลังรูปปั้น แล้วจึงรีบปรี่ตามก็อบลินที่ได้รับบาดเจ็บออกไปนอกวิหาร 

     …

     ดวงจันทร์บนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ดูงดงามยิ่ง ทว่าบรรดาก็อบลินทั้งหลายกลับไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะเชยชมความงามนี้ได้ 

     ทั้งเมืองฟลอเรนซ์กำลังตกอยู่ในความโกลาหล

     โบราณสถานที่ไร้ระเบียบในเวลานี้ กำลังตกอยู่ในเปลวเพลิงที่ลุกโชนและเสียงโห่ร้องอันกึกก้อง ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายที่ยิ่งกว่าสภาพปกติของมัน 

     เมื่อนักบวชทั้งสามออกมาพ้นเขตวิหาร พวกมันพลันเห็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า ปีศาจ 

     ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์ที่สายตาฝ้าฟางมาตั้งแต่เกิด ทัศนวิสัยของพวกมันจัดว่าย่ำแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามราตรี พวกมันจึงไม่สามารถระบุรูปร่างหน้าตาของผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกมันมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด … คือนัยน์ตาที่ส่องแสงเจิดจ้าในความมืดมิด

     สายตาของเหล่าเอลฟ์ตรงข้ามกับก็อบลิน เอลฟ์แห่งดินแดนซากัสสามารถมองเห็นในยามกลางคืนราวกับเป็นเวลากลางวัน คล้ายกับสัตว์ตระกูลแมวบนดาวสีฟ้า 

     สำหรับค่ำคืนที่ดวงจันทร์ฉายแสงเช่นนี้ แววตาของเอลฟ์ต่างสะท้อนแสงจันทร์จนเป็นประกายคล้ายกับตะเกียงในความมืด 

     พวกเอลฟ์ในเวลานี้ดูคล้ายคลึงปีศาจที่เปี่ยมไปด้วยความดุร้าย ความกระหายและนัยน์ตาที่ฉายแววโหดเหี้ยมอำมหิต แถมพวกเขายังหัวเราะอย่างสนุกสนานในขณะที่ล่าสังหารเหล่าก็อบลิน

     “พวกมันคืออสูรประเภทใดกัน?”

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกตื่นตะลึงกับสถานการณ์ตรงหน้า

     หนึ่งในพวกมันพลันร่ายมนตร์ส่องสว่างด้วยร่างอันสั่นเทา

     บอลแสงลูกหนึ่งพลันลอยขึ้นเหนือพวกมัน เปล่งแสงนวลสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณ เผยรูปลักษณ์ของผู้บุกรุกให้เหล่าก็อบลินเห็นอย่างแจ่มชัด

     “เอลฟ์?!”

     นักบวชทั้งสามพรั่นพรึงกับภาพเบื้องหน้า พวกมันเห็นเอลฟ์ร่างใหญ่ที่ดูดุร้ายและบ้าคลั่ง เอลฟ์เหล่านั้นใช้ทั้งดาบโค้งและธนูเป็นอาวุธ แถมชุดผ้าขาด ๆ ของพวกมันต่างเปราะเปื้อนไปด้วยเลือดจนแทบจะถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน

     ไม่ … ไอ้พวกนี้ใช่เอลฟ์แน่เรอะ??!

     เอลฟ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะสิ่งมีชีวิตผู้รักความสงบ แม้ในเวลาที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาจมดิ่งถึงขีดสุด เหล่าเอลฟ์ก็จะแค่ขับไล่ผู้บุกรุกอย่างก็อบลิน แถมไม่เคยเข่นฆ่าสิ่งใด!

     แต่ไอ้พวกนี้ …

     เพียงมองปราดเดียว เหล่านักบวชต่างสังเกตเห็นสิ่งที่เอลฟ์ไม่ควรจะมี …

     ความโลภ ความเมินเฉย และความโหดเหี้ยมไร้ปรานี 

     เหล่าเอลฟ์มองก็อบลินราวกับผู้ล่ามองเหยื่อ พวกมันเข่นฆ่าเพื่อความสนุุก ยิ่งสังหารยิ่งเพลิดเพลิน ลืมกระทั่งบาดแผลของตน ไล่ล่าไม่หยุดยั้งราวกับสภาพร่างกายของพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

     นอกจากนี้ พวกมันจะหยิบฉวยทุกอย่างของก็อบลินที่ถูกพวกมันปลิดชีพ ต่อให้เป็นเพียงตะบองไม้ผุ ๆ หรือเศษผ้าเน่า ๆ …

     โอ้องค์พระบิดา! ไอ้เอลฟ์พวกนี้มันเป็นภูติผีปีศาจจากนรกขุมไหนจำแลงกายมา??!

     นักบวชก็อบลินต่างรู้สึกขนพองสยองเกล้า

     ซ้ำร้ายบอลแสงของพวกมันยังเรียกความสนใจจากผู้ล่าได้อย่างชะงัดนัก เหล่าเอลฟ์พลันสังเกตเห็นพวกมันทันที!

     ในวินาทีนั้น แววตาของเอลฟ์ทั้งหลายต่างเปล่งประกายเจิดจ้า นัยน์ตาของพวกมันที่ดูราวกับสัตว์กินเนื้อทำให้นักบวชก็อบลินตัวสั่นอย่างรุนแรง

     “นักบวช! ไอ้นั่นมันนักบวชก็อบลิน!”

     “หัวละ 50 แต้ม! ถ้าโซโล่ก็ 500 แต้ม!”

     “หลบไป! ตี้ตูเจอพวกมันก่อนเฟ้ย!”

     “เชือดมัน!”

     “ของดรอปแจ่ม ๆ รออยู่!”

     เสียงโห่ร้องของเอลฟ์พลันปะทุขึ้นด้วยความตื่นเต้น พวกมันถกเถียงกันเองไปพร้อม ๆ กับตะโกนลั่นและบุกเข้าใส่ก็อบลินทั้งสามราวกับคลื่นสมุทรลูกใหญ่

     นักบวชก็อบลินต่างหวาดกลัวจนชาไปทั้งศีรษะ มันต่างสัมผัสได้ว่าพวกตนโดนห้อมล้อมไปด้วยเหล่ายอดฝีมือระดับเหล็ก จึงตัดสินใจถอยร่นในทันที

     “ห .. หนีเข้าไปในวิหาร!”

     พวกมันพร้อมใจกันหันหลังและวิ่งหนีตายสุดชีวิต

     “เถาวัลย์–!”

     เหล่าก็อบลินวิ่งไปได้เพียงสองก้าว พลันได้ยินเสียงหนึ่งที่สะท้อนมาอย่างเงียบเชียบพร้อมกับพลังเวทมนตร์ที่แผ่ออกมา เถาวัลย์เส้นเขื่องปรากฏขึ้นจากผิวดินพร้อมพุ่งเข้ามาพันธนาการพวกมันไว้

     นักบวชทั้งสามพลันตระหนก 

     พวกมันพยายามดิ้นรนหลบเลี่ยงเถาวัลย์สุดชีวิต แต่แล้วก็อบลินตัวหนึ่งก็พลาดท่า

     “แจ่มมากพี่มู่!”

     เอลฟ์จำนวนมากโห่ร้องยินดี

     ก็อบลินที่ถูกรัดตรึงรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ มันร่ายมนตร์อย่างเร่งรีบ ทว่าภายในใจของมันกลับรู้สึกหวั่นวิตกอย่างแปลกประหลาด

     อันตราย …

     อันตราย!!

     วินาทีนั้นพลันมีแสบสว่างวูบหนึ่งพุ่งผ่านเข้ามาในสายตา

     มันสัมผัสได้เพียงลมเย็นระลอกหนึ่งพัดมาจากเบื้องหลัง พร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ถูกตัดขาด ศีรษะของมันขาดกระเด็นออกจากร่างพร้อมกับโลหิตที่พุ่งเป็นสาย

     ในเวลาเดียวกัน ร่างของเอลฟ์ตนหนึ่งเผยตัวออกมาจากความมืดเบื้องหลังนักบวชก็อบลิน ร่างของเขาถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ลงมืออย่างไร้อารมณ์ ไร้ซุ่มเสียง เป็นนักลอบสังหารผู้เงียบงัน

     “เฮ้ยเจ๋ง! ดาบเดียวจอด!”

     “ปาดคอเน้น ๆ! พี่ข้าวกล่องโหดโคตร!”

     “อาชีพนักล่าโกงงี้เลยจริงดิ?”

     เหล่าเอลฟ์ต่างพากันส่งเสียงอึกทึก 

     พวกมันมีนักลอบสังหาร?

     นักบวชก็อบลินที่เหลืออีกสองตัวต่างเหลียวมองพลางเร่งฝีเท้าด้วยความตระหนก

     พวกมันเลือกวิ่งไปคนละทาง ตัวหนึ่งไปทางซ้าย อีกตัวไปทางขวา 

     หนี!

     ต้องรีบเข้าไปในวิหาร!

     ทางรอดทางเดียวคือเข้าไปในวิหาร!

     บรรดาเอลฟ์ต่างร้องตะโกนด้วยความชุลมุนเมื่อเห็นว่านักบวชทั้งสองใช้จังหวะนี้ในการหลบหนี

     “อย่าปล่อยพวกมันไป!”

     “เวทระยะไกล! ขอเวทระยะไกล–!”

     บึมมม!

     บึมมมม!

     กระแสเวทมนตร์รุนแรงพลันปะทุขึ้นพร้อมกับลูกไฟพุ่งเข้าปะทะพื้นดินเบื้องหลังก็อบลินทั้งสอง ดูเหมือนว่าเอลฟ์พวกนี้จะไม่ได้มีความเก่งฉกาจเป็นพิเศษ การโจมตีระยะไกลของพวกมันยังขาดความแม่นยำ

     ในเวลาเดียวกัน นักบวชทั้งสองพลันได้ยินเสียงเหล่าปีศาจตะโกนก้องอีกครั้ง

     “ลูกเมี้ยวน้อย! อย่ายิงไปไหนไม่รู้ววว! ช่วยยิงให้โดนก็อบลินด้วย!”

     “เล็งให้แม่น ขอเบิ้ม ๆ ที่ตัวขวา!”

     ขวา?

     ก็อบลินที่เลือกวิ่งมาทางซ้ายพลันชำเลืองไปทางสหายของมันพร้อมกับแสดงท่าทีเป็นเชิงโล่งใจ

     นักบวชที่กำลังโกยแน่บอยู่ทางขวาแทบจะฉี่รดตัวเองด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

     แต่ก่อนที่ก็อบลินตัวซ้ายจะได้ดื่มด่ำกับความยินดี พลันปรากฏเปลวไฟลูกใหญ่กลืนกินมันไปพร้อมเสียงระเบิดอันกึกก้อง

     “ฮ่าฮ่าฮ่า! แม่นโคตร!”

     “หยั่งเจ๋ง! ยัยเมี้ยวเค็ม!”

     เหล่าเอลฟ์ต่างส่งเสียงชื่นชมจากเบื้องหลัง

     ในวินาทีสุดท้ายของชีวิตนักบวชเผ่าก็อบลินตนนั้น มันได้แต่ลอบแค้นเคือง

     ไหนว่าจะยิงทางขวา—!!?

     เมื่อเห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งสองลาโลกไป นักบวชก็อบลินตัวสุดท้ายจึงโกยแน่บสุดแรงเกิดไปพร้อมกับการบริกรรมทุกคาถาที่อาจจะช่วยให้มันรอดพ้นจากความตาย!

     ด้วยการเสียสละของนักบวชทั้งสอง มันสามารถสลัดกลุ่มเอลฟ์และหนีเข้ามาในวิหารได้ในที่สุด!

     มันทรุดตัวลงเบื้องหน้ารูปบูชาพร้อมควานหาคริสตัลพระโลหิตที่ถูกซ่อนไว้ นักบวชก็อบลินพยายามระงับความกลัวและเริ่มบริกรรมพิธีสังเวยด้วยมืออันสั่นเทา

     “ขอ.. ขอสรรเสริญฤดูหนาว และการล่า … องค์พระบิดา ข้า .. ข้าสาวกผู้ซื่อสัตย์ ขอความช่วยเหลือ!”

     เมื่อสิ้นเสียงภาวนานั้น รูปบูชาเบื้องหน้าพลันเปล่งแสงซีดจางออกมา!

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: น้องเมี้ยววววววววว!!!

     วันนี้มีสองตอนนะคะ (ตอนนี้ 1/2)

     เห็นยอดวิวหลังบ้านเวลาลงสองตอน 

     ถั่วพบว่าจะมีตอนนึงที่คนลืมอ่านประมาณ 30% Q – Q

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+