[นิยายแปล] Game of the World Tree 51 ความสงสัยของอีฟ

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 51 ความสงสัยของอีฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      “ซามีร์นี่เอง เขาเจอเหล่าเอลฟ์ที่เหลือแล้ว”

      อีฟเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดหลังจากที่ได้ส่งดวงจิตไปหาซามีร์

      ภายหลังจากการเดินทางนับสิบวัน ข้ามผ่านป่าใหญ่และขุนเขา นักบวชผู้เปี่ยมศรัทธาได้พบกับกลุ่มเอลฟ์ในบริเวณหุบเขาแห่งหนึ่งของเทือกเขาทมิฬ พวกเขาคือเผ่าเฟลม หนึ่งในเผ่าของอาณาจักรเอลฟ์จากอดีตกาล

      ซามีร์ได้ยกระดับความศรัทธาของเหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมด้วยพระบัญชาและการแสดงปาฏิหาริย์

      เมื่อสัมผัสได้ถึงกลุ่มแสงที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาในห้วงมิติปัจเจกของตน อีฟรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง 

      สิ่งนี้นับว่าเป็นเป็นก้าวแรกที่ดี แม้จะมีเพียงเอลฟ์อาวุโสบางตนและโฟลซิลเท่านั้นที่เป็นสาวกระดับอุทิศตน แต่พลังศรัทธาจากเอลฟ์ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในระดับตื้นเขินเพราะพวกเขาเพิ่งมอบความศรัทธาแด่เทพธิดา 

      แม้เผ่าเฟลมจะยังไม่สามารถเทียบเคียงเผ่าเกลได้ในด้านความศรัทธา แต่อีฟก็รู้สึกสุขใจกับผลที่ออกมาเป็นอย่างยิ่ง 

      ทว่า เทพธิดาพลันรู้สึกเศร้าโศกเมื่อได้รับรู้ถึงความยากลำบากของช่วงชีวิตที่ผ่านมา ผ่านเสียงสวดภาวนาของพวกเขา

      บรรดาเอลฟ์เผ่าเฟลมต่างต้องร่อนเร่พเนจรเพื่อซ่อนตัวจากทั้งนักล่าเผ่ามนุษย์และออร์ค พวกเขาล้วนขาดอาหารจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย เหล่าเอลฟ์ทำได้เพียงขุดหาพืชกินหัวและลอกเปลือกไม้มาใช้เป็นอาหารประทังชีวิต

      เอลฟ์ชราจำนวนมากต่างล้มตายไปในระหว่างการอพยพ เอลฟ์วัยหนุ่มสาวจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสังหารในการต่อสู้กับศัตรูที่พบตลอดทาง เอลฟ์วัยเยาว์อีกมากมายที่ถูกจับไปเป็นทาสหรือเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก

      ในบรรดาเผ่าทั้งหมด เผ่าเฟลมเคยเป็นชนเผ่าขนาดใหญ่ที่มีประชากรเกือบหมื่นตน แต่ในเวลานี้กลับเหลืออยู่ไม่ถึงสามร้อยชีวิต แถมยังแก่ชรา อ่อนแอ เจ็บป่วย หรือพิการ เลเวลโดยเฉลี่ยของพวกเขาอยู่ต่ำกว่าระดับเหล็กขั้นต้น

      ใน 1,000 ปีที่ผ่านมา เอลฟ์ทั้งหลายต่างใช้ชีวิตด้วยความทรมานแสนสาหัส อีฟมั่นใจว่าถ้าสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป อีกไม่เกินร้อยปี เผ่าพันธุ์เอลฟ์ก็คงเหลือไว้เพียงแค่การกล่าวถึงในตำราทางประวัติศาสตร์เท่านั้น

      “ทุก ๆ ท่านต่างพบเจอความยากลำบากมาตลอด ในฐานะที่เราสืบทอดตำแหน่งมหาพฤกษา… จะขอมอบพรแด่ทุกท่านนะคะ”

      อีฟถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะนำพลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งออกมา เธอส่งพวกมันผ่านความว่างเปล่าไปสู่บรรดาเอลฟ์

      ด้วยพลังของเทพธิดา เหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมผู้ซึ่งหวนคืนสู่ความศรัทธาล้วนรู้สึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหล่ลงมาสู่ร่างกาย… แสงที่อบอุ่นและอ่อนโยนได้ปัดเป่าความเจ็บปวดและโรคภัยทั้งหลายโดยพลัน

      เอลฟ์ทุกตนต่างรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิตที่ปรากฏขึ้นมาในร่างของตน แม้แต่เอลฟ์ชราที่สภาพร่างกายได้ทรุดโทรมไปตามวัย ก็ยังเปี่ยมไปด้วยพละกำลังและความกระฉับกระเฉง 

      นอกจากนี้ พวกเขายังเกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาด ราวกับโซ่ตรวนบางอย่างได้ถูกทำลายลง ราวกับร่างกายและจิตวิญญาณมีอิสระมากขึ้น 

      มันคือคำสาปที่ถูกร่ายใส่เหล่าเอลฟ์ไว้หลังจากสิ้นสุดสงครามแห่งเทพ พวกมันถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เผ่าเอลฟ์ร่วงหล่นลงมาจากระดับเงิน

      อีฟสามารถลบล้างคำสาปนี้ได้เมื่อศรัทธาของพวกเขาหวนคืนมา 

      คำสาปบทนี้มีผลมาตลอดด้วยการร่ายเพียงครั้งเดียว การปัดเป่าโดยเทพธิดาจึงไม่น่าสร้างความสงสัยให้พวกศัตรูทั้งหลาย 

      เมื่อพันธนาการได้ถูกทำลายลง เลเวลของเหล่าเอลฟ์ต่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอลฟ์บางตนถึงกับก้าวผ่านเส้นแบ่งของระดับชั้นและเข้ามาสู่ระดับเหล็กขั้นกลางโดยตรง!

      อย่างไรก็ตาม นี่คือขีดจำกัดในการพัฒนาเลเวลของพวกเขา 

      สาเหตุของเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เพราะอีฟไม่สามารถเพิ่มพลังให้กับพวกเขาได้ แต่เพราะการพัฒนาเลเวลของเหล่าเอลฟ์ไปมากกว่านี้จะเป็นการฝืนศักยภาพของพวกเขา

      บรรดาสาวกเหล่านี้แตกต่างกับกลุ่มผู้เล่น พวกเขาไม่ได้ถือกำเนิดมาจากมหาพฤกษา แต่เป็นลูกหลานของเอลฟ์ดั้งเดิม 

      แม้อายุขัยของพวกเขาจะยืนยาวนับพันปีเช่นเดียวกับเอลฟ์ดั้งเดิม ทว่าร่างกายกลับไม่ได้มีพรสวรรค์เหมือนกับเอลฟ์เหล่านั้น 

      ร่างกายของเหล่าผู้เล่นถูกสร้างโดยอีฟ พวกเขาจึงถือว่าเป็นเอลฟ์ดั้งเดิม

      นอกจากนี้ ร่างกายของผู้เล่นยังได้รับการดัดแปลงในระดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่ได้รับพรสวรรค์ แต่ยังสามารถรองรับพลังศักดิ์สิทธิ์จากอีฟได้มากกว่าปกติ ศักยภาพโดยกำเนิดของพวกเขาเหนือกว่าเหล่าสาวกเผ่าเอลฟ์เป็นอย่างสูง 

      “เทพธิดาทรงโปรด! นี่คือพลังของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ!”

      บรรดาเอลฟ์ต่างตื่นเต้นอย่างมากเมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของตน

      เอลฟ์ชราหลายตนถึงกับภาวนาอย่างขะมักเขม้นทั้ง ๆ ที่กำลังสะอื้นไห้

      “พระมารดาไม่ได้ทิ้งพวกเราไป… พระมารดาไม่ได้จากพวกเราไป…”

      “พระมารดาแห่งธรรมชาติผู้เป็นที่รักยิ่ง พวกข้าซาบซึ้งในความกรุณาของท่าน…”

      “ขอสรรเสริญพระมารดาแห่งธรรมชาติ ขอสรรเสริญเทพธิดาแห่งสรรพชีวิต ขอสรรเสริญผู้ปกครองปวงเอลฟ์!”

      โฟลซิลพลันร่ำไห้เมื่อเห็นบรรดาเอลฟ์พากันตื่นเต้น เธอทรุดกายลงคุกเข่าพลางคำนับไปทางทิศเหนือ

      โฟลซิลนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมาด้วยการประคองของซามีร์

      “กลับบ้าน…”

      โฟลซิลพูดขึ้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของเอลฟ์ชราสั่นเทา เธอทอดสายตาไปยังเหล่าเอลฟ์ที่อยู่ในบริเวณเวที

      “กลับบ้าน..!”

      โฟลซิลกล่าวขึ้นมาอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่น สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาแรงกล้า

      “กลับบ้านกันเถิดพวกเรา!”

      เธอตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงอันสั่นเทาของโฟลซิลที่คลอไปด้วยเสียงภาวนาของเหล่าเอลฟ์ได้กระจายไปไกล

      ไกลแสนไกล…

      …

      …

      เอลฟ์เผ่าเฟลมเริ่มออกเดินทางด้วยความช่วยเหลือของซามีร์

      ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้ร่อนเร่พเนจรอีกต่อไป ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้หลงทางอีกต่อไป

      พวกเขาพบสถานที่ของตน…

      พวกเขากำลังกลับบ้าน

      อีฟทอดถอนหายใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นและวิตกกังวลของบรรดาสาวกกว่าสองร้อยชีวิต 

      “องค์มหาพฤกษา … ท่านทำอะไรเอาไว้ ทำไมพวกเทพถึงเปิดศึกกับท่าน? พวกเขาทำไปเพราะต้องการแย่งพลังศรัทธาและพันธกิจศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เหรอ?”

      อีฟยิ่งทวีความสงสัยที่มีต่อสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว

      แม้ว่าอีฟจะได้รับการสืบทอดพลังอำนาจของมหาพฤกษาและรู้ว่าศัตรูของตนคือใคร แต่ชนวนสงครามแห่งเทพในความทรงจำของอีฟยังคงคลุมเครือ ข้อมูลอย่างเดียวที่ได้รับมาจากต้นไม้โลกองค์ก่อนคือความขัดแย้งในพลังศรัทธา

      แต่เมื่อได้เห็นสภาพอันย่ำแย่ของเผ่าสีเงิน อีฟได้แต่เดาว่าข้อมูลสำคัญบางอย่างน่าจะสูญหายไปจากสิ่งที่ตนได้รับสืบทอดมา 

      แต่ในตอนนี้อีฟยังไม่สามารถไตร่ตรองประเด็นดังกล่าวได้ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการฟื้นฟูอำนาจของตนให้เร็วที่สุด

      สักวันศัตรูของอีฟอาจจะกลับมา สักวันความจริงเกี่ยวกับมหาพฤกษาอาจจะเป็นที่ประจักษ์ 

      สิ่งที่อีฟจำเป็นต้องทำในตอนนี้ คือการเพิ่มพูนอำนาจของตนก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เหล่านั้น เพื่อที่จะเอาชนะศัตรูทั้งหมด และก้าวขึ้นสู่การเป็นเทพผู้ทรงอำนาจที่สุดในดินแดนซากัสอีกครั้ง!

      แน่นอนว่ากระบวนนี้ย่อมเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่มันเป็นไปได้ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าเอลฟ์และบรรดาผู้เล่น

      คิดได้ดังนั้น หัวใจของอีฟพลันเต้นแรงด้วยความมุ่งมั่น

      “การเติบโตของพวกผู้เล่นและการคืนถิ่นของเหล่าเอลฟ์ล้วนเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ฮึฮึ ยิ่งเปิดทดสอบรอบที่สองได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น แถมจำนวนคนเล่นแค่ 300 คนก็เริ่มน้อยไปแล้ว”

      อีฟไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำหนดช่วงเวลาเริ่มการทดสอบรอบที่สองในอีก 45 วันให้หลัง ซึ่งเท่ากับระยะเวลา 10 วันบนดาวเคราะห์สีคราม

      อีฟใช้ช่วงเวลาที่เผ่าเฟลมจะเดินทางกลับมาเป็นปัจจัยในการกำหนดวัน เทพธิดาคำนวณว่าเหล่าเอลฟ์ต้องใช้เวลาร่วม 2 เดือนเพื่อที่จะมาถึงบริเวณใจกลางป่าเอลฟ์ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น อีฟก็จะฝึกฝนเหล่าผู้เล่นใหม่เพื่อรองรับการหวนคืนของเผ่าเฟลมไว้เรียบร้อยแล้ว

      ส่วนบรรดาผู้เล่นจำนวน 300 คนที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งที่หนึ่ง อีฟได้เฟ้นหาศัตรูกลุ่มใหม่ไว้ให้พวกเขาเป็นที่เรียบร้อย

      มันคือเผ่าออร์คที่ตั้งรกรากในบริเวณใกล้เคียงกับป่าเอลฟ์

      แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น…

      เรามาให้เหล่าลูกหาบสำรวจฟลอเรนซ์กันดีกว่าค่ะ ต้องเจออะไรดี ๆ แน่ค่ะ! 

      คิดได้ดังนั้น อีฟจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์สร้างภารกิจใหม่ให้กับผู้เล่น

      ภารกิจหลัก: สำรวจนครศักดิ์สิทธิ์

      …

      …

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: สิ่งที่จะเจอตามแมพเมืองเก่าในเกม RPG → ห้องลับและกล่องสมบัติค่าาาา

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Game of the World Tree 51 ความสงสัยของอีฟ

Now you are reading [นิยายแปล] Game of the World Tree Chapter 51 ความสงสัยของอีฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

      “ซามีร์นี่เอง เขาเจอเหล่าเอลฟ์ที่เหลือแล้ว”

      อีฟเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดหลังจากที่ได้ส่งดวงจิตไปหาซามีร์

      ภายหลังจากการเดินทางนับสิบวัน ข้ามผ่านป่าใหญ่และขุนเขา นักบวชผู้เปี่ยมศรัทธาได้พบกับกลุ่มเอลฟ์ในบริเวณหุบเขาแห่งหนึ่งของเทือกเขาทมิฬ พวกเขาคือเผ่าเฟลม หนึ่งในเผ่าของอาณาจักรเอลฟ์จากอดีตกาล

      ซามีร์ได้ยกระดับความศรัทธาของเหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมด้วยพระบัญชาและการแสดงปาฏิหาริย์

      เมื่อสัมผัสได้ถึงกลุ่มแสงที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธาในห้วงมิติปัจเจกของตน อีฟรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง 

      สิ่งนี้นับว่าเป็นเป็นก้าวแรกที่ดี แม้จะมีเพียงเอลฟ์อาวุโสบางตนและโฟลซิลเท่านั้นที่เป็นสาวกระดับอุทิศตน แต่พลังศรัทธาจากเอลฟ์ส่วนใหญ่จะยังอยู่ในระดับตื้นเขินเพราะพวกเขาเพิ่งมอบความศรัทธาแด่เทพธิดา 

      แม้เผ่าเฟลมจะยังไม่สามารถเทียบเคียงเผ่าเกลได้ในด้านความศรัทธา แต่อีฟก็รู้สึกสุขใจกับผลที่ออกมาเป็นอย่างยิ่ง 

      ทว่า เทพธิดาพลันรู้สึกเศร้าโศกเมื่อได้รับรู้ถึงความยากลำบากของช่วงชีวิตที่ผ่านมา ผ่านเสียงสวดภาวนาของพวกเขา

      บรรดาเอลฟ์เผ่าเฟลมต่างต้องร่อนเร่พเนจรเพื่อซ่อนตัวจากทั้งนักล่าเผ่ามนุษย์และออร์ค พวกเขาล้วนขาดอาหารจากสภาพแวดล้อมอันโหดร้าย เหล่าเอลฟ์ทำได้เพียงขุดหาพืชกินหัวและลอกเปลือกไม้มาใช้เป็นอาหารประทังชีวิต

      เอลฟ์ชราจำนวนมากต่างล้มตายไปในระหว่างการอพยพ เอลฟ์วัยหนุ่มสาวจำนวนนับไม่ถ้วนถูกสังหารในการต่อสู้กับศัตรูที่พบตลอดทาง เอลฟ์วัยเยาว์อีกมากมายที่ถูกจับไปเป็นทาสหรือเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก

      ในบรรดาเผ่าทั้งหมด เผ่าเฟลมเคยเป็นชนเผ่าขนาดใหญ่ที่มีประชากรเกือบหมื่นตน แต่ในเวลานี้กลับเหลืออยู่ไม่ถึงสามร้อยชีวิต แถมยังแก่ชรา อ่อนแอ เจ็บป่วย หรือพิการ เลเวลโดยเฉลี่ยของพวกเขาอยู่ต่ำกว่าระดับเหล็กขั้นต้น

      ใน 1,000 ปีที่ผ่านมา เอลฟ์ทั้งหลายต่างใช้ชีวิตด้วยความทรมานแสนสาหัส อีฟมั่นใจว่าถ้าสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป อีกไม่เกินร้อยปี เผ่าพันธุ์เอลฟ์ก็คงเหลือไว้เพียงแค่การกล่าวถึงในตำราทางประวัติศาสตร์เท่านั้น

      “ทุก ๆ ท่านต่างพบเจอความยากลำบากมาตลอด ในฐานะที่เราสืบทอดตำแหน่งมหาพฤกษา… จะขอมอบพรแด่ทุกท่านนะคะ”

      อีฟถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะนำพลังศักดิ์สิทธิ์จำนวนหนึ่งออกมา เธอส่งพวกมันผ่านความว่างเปล่าไปสู่บรรดาเอลฟ์

      ด้วยพลังของเทพธิดา เหล่าเอลฟ์เผ่าเฟลมผู้ซึ่งหวนคืนสู่ความศรัทธาล้วนรู้สึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไหล่ลงมาสู่ร่างกาย… แสงที่อบอุ่นและอ่อนโยนได้ปัดเป่าความเจ็บปวดและโรคภัยทั้งหลายโดยพลัน

      เอลฟ์ทุกตนต่างรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิตที่ปรากฏขึ้นมาในร่างของตน แม้แต่เอลฟ์ชราที่สภาพร่างกายได้ทรุดโทรมไปตามวัย ก็ยังเปี่ยมไปด้วยพละกำลังและความกระฉับกระเฉง 

      นอกจากนี้ พวกเขายังเกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาด ราวกับโซ่ตรวนบางอย่างได้ถูกทำลายลง ราวกับร่างกายและจิตวิญญาณมีอิสระมากขึ้น 

      มันคือคำสาปที่ถูกร่ายใส่เหล่าเอลฟ์ไว้หลังจากสิ้นสุดสงครามแห่งเทพ พวกมันถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เผ่าเอลฟ์ร่วงหล่นลงมาจากระดับเงิน

      อีฟสามารถลบล้างคำสาปนี้ได้เมื่อศรัทธาของพวกเขาหวนคืนมา 

      คำสาปบทนี้มีผลมาตลอดด้วยการร่ายเพียงครั้งเดียว การปัดเป่าโดยเทพธิดาจึงไม่น่าสร้างความสงสัยให้พวกศัตรูทั้งหลาย 

      เมื่อพันธนาการได้ถูกทำลายลง เลเวลของเหล่าเอลฟ์ต่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอลฟ์บางตนถึงกับก้าวผ่านเส้นแบ่งของระดับชั้นและเข้ามาสู่ระดับเหล็กขั้นกลางโดยตรง!

      อย่างไรก็ตาม นี่คือขีดจำกัดในการพัฒนาเลเวลของพวกเขา 

      สาเหตุของเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เพราะอีฟไม่สามารถเพิ่มพลังให้กับพวกเขาได้ แต่เพราะการพัฒนาเลเวลของเหล่าเอลฟ์ไปมากกว่านี้จะเป็นการฝืนศักยภาพของพวกเขา

      บรรดาสาวกเหล่านี้แตกต่างกับกลุ่มผู้เล่น พวกเขาไม่ได้ถือกำเนิดมาจากมหาพฤกษา แต่เป็นลูกหลานของเอลฟ์ดั้งเดิม 

      แม้อายุขัยของพวกเขาจะยืนยาวนับพันปีเช่นเดียวกับเอลฟ์ดั้งเดิม ทว่าร่างกายกลับไม่ได้มีพรสวรรค์เหมือนกับเอลฟ์เหล่านั้น 

      ร่างกายของเหล่าผู้เล่นถูกสร้างโดยอีฟ พวกเขาจึงถือว่าเป็นเอลฟ์ดั้งเดิม

      นอกจากนี้ ร่างกายของผู้เล่นยังได้รับการดัดแปลงในระดับหนึ่ง ไม่ใช่แค่ได้รับพรสวรรค์ แต่ยังสามารถรองรับพลังศักดิ์สิทธิ์จากอีฟได้มากกว่าปกติ ศักยภาพโดยกำเนิดของพวกเขาเหนือกว่าเหล่าสาวกเผ่าเอลฟ์เป็นอย่างสูง 

      “เทพธิดาทรงโปรด! นี่คือพลังของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ!”

      บรรดาเอลฟ์ต่างตื่นเต้นอย่างมากเมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของตน

      เอลฟ์ชราหลายตนถึงกับภาวนาอย่างขะมักเขม้นทั้ง ๆ ที่กำลังสะอื้นไห้

      “พระมารดาไม่ได้ทิ้งพวกเราไป… พระมารดาไม่ได้จากพวกเราไป…”

      “พระมารดาแห่งธรรมชาติผู้เป็นที่รักยิ่ง พวกข้าซาบซึ้งในความกรุณาของท่าน…”

      “ขอสรรเสริญพระมารดาแห่งธรรมชาติ ขอสรรเสริญเทพธิดาแห่งสรรพชีวิต ขอสรรเสริญผู้ปกครองปวงเอลฟ์!”

      โฟลซิลพลันร่ำไห้เมื่อเห็นบรรดาเอลฟ์พากันตื่นเต้น เธอทรุดกายลงคุกเข่าพลางคำนับไปทางทิศเหนือ

      โฟลซิลนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมาด้วยการประคองของซามีร์

      “กลับบ้าน…”

      โฟลซิลพูดขึ้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของเอลฟ์ชราสั่นเทา เธอทอดสายตาไปยังเหล่าเอลฟ์ที่อยู่ในบริเวณเวที

      “กลับบ้าน..!”

      โฟลซิลกล่าวขึ้นมาอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่น สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาแรงกล้า

      “กลับบ้านกันเถิดพวกเรา!”

      เธอตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น น้ำเสียงอันสั่นเทาของโฟลซิลที่คลอไปด้วยเสียงภาวนาของเหล่าเอลฟ์ได้กระจายไปไกล

      ไกลแสนไกล…

      …

      …

      เอลฟ์เผ่าเฟลมเริ่มออกเดินทางด้วยความช่วยเหลือของซามีร์

      ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้ร่อนเร่พเนจรอีกต่อไป ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้หลงทางอีกต่อไป

      พวกเขาพบสถานที่ของตน…

      พวกเขากำลังกลับบ้าน

      อีฟทอดถอนหายใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นและวิตกกังวลของบรรดาสาวกกว่าสองร้อยชีวิต 

      “องค์มหาพฤกษา … ท่านทำอะไรเอาไว้ ทำไมพวกเทพถึงเปิดศึกกับท่าน? พวกเขาทำไปเพราะต้องการแย่งพลังศรัทธาและพันธกิจศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เหรอ?”

      อีฟยิ่งทวีความสงสัยที่มีต่อสงครามแห่งเทพเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว

      แม้ว่าอีฟจะได้รับการสืบทอดพลังอำนาจของมหาพฤกษาและรู้ว่าศัตรูของตนคือใคร แต่ชนวนสงครามแห่งเทพในความทรงจำของอีฟยังคงคลุมเครือ ข้อมูลอย่างเดียวที่ได้รับมาจากต้นไม้โลกองค์ก่อนคือความขัดแย้งในพลังศรัทธา

      แต่เมื่อได้เห็นสภาพอันย่ำแย่ของเผ่าสีเงิน อีฟได้แต่เดาว่าข้อมูลสำคัญบางอย่างน่าจะสูญหายไปจากสิ่งที่ตนได้รับสืบทอดมา 

      แต่ในตอนนี้อีฟยังไม่สามารถไตร่ตรองประเด็นดังกล่าวได้ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการฟื้นฟูอำนาจของตนให้เร็วที่สุด

      สักวันศัตรูของอีฟอาจจะกลับมา สักวันความจริงเกี่ยวกับมหาพฤกษาอาจจะเป็นที่ประจักษ์ 

      สิ่งที่อีฟจำเป็นต้องทำในตอนนี้ คือการเพิ่มพูนอำนาจของตนก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เหล่านั้น เพื่อที่จะเอาชนะศัตรูทั้งหมด และก้าวขึ้นสู่การเป็นเทพผู้ทรงอำนาจที่สุดในดินแดนซากัสอีกครั้ง!

      แน่นอนว่ากระบวนนี้ย่อมเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่มันเป็นไปได้ด้วยการช่วยเหลือของเหล่าเอลฟ์และบรรดาผู้เล่น

      คิดได้ดังนั้น หัวใจของอีฟพลันเต้นแรงด้วยความมุ่งมั่น

      “การเติบโตของพวกผู้เล่นและการคืนถิ่นของเหล่าเอลฟ์ล้วนเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ฮึฮึ ยิ่งเปิดทดสอบรอบที่สองได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น แถมจำนวนคนเล่นแค่ 300 คนก็เริ่มน้อยไปแล้ว”

      อีฟไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำหนดช่วงเวลาเริ่มการทดสอบรอบที่สองในอีก 45 วันให้หลัง ซึ่งเท่ากับระยะเวลา 10 วันบนดาวเคราะห์สีคราม

      อีฟใช้ช่วงเวลาที่เผ่าเฟลมจะเดินทางกลับมาเป็นปัจจัยในการกำหนดวัน เทพธิดาคำนวณว่าเหล่าเอลฟ์ต้องใช้เวลาร่วม 2 เดือนเพื่อที่จะมาถึงบริเวณใจกลางป่าเอลฟ์ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น อีฟก็จะฝึกฝนเหล่าผู้เล่นใหม่เพื่อรองรับการหวนคืนของเผ่าเฟลมไว้เรียบร้อยแล้ว

      ส่วนบรรดาผู้เล่นจำนวน 300 คนที่เข้าร่วมการทดสอบครั้งที่หนึ่ง อีฟได้เฟ้นหาศัตรูกลุ่มใหม่ไว้ให้พวกเขาเป็นที่เรียบร้อย

      มันคือเผ่าออร์คที่ตั้งรกรากในบริเวณใกล้เคียงกับป่าเอลฟ์

      แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น…

      เรามาให้เหล่าลูกหาบสำรวจฟลอเรนซ์กันดีกว่าค่ะ ต้องเจออะไรดี ๆ แน่ค่ะ! 

      คิดได้ดังนั้น อีฟจึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์สร้างภารกิจใหม่ให้กับผู้เล่น

      ภารกิจหลัก: สำรวจนครศักดิ์สิทธิ์

      …

      …

 _ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

      T/N: สิ่งที่จะเจอตามแมพเมืองเก่าในเกม RPG → ห้องลับและกล่องสมบัติค่าาาา

      ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ 

      Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+