[นิยายแปล]グリード×グリード (Greed x Greed) 19
ตอนที่ 19
――――ช่วงที่คาเนะฮิโตะหนีไปจากโรงงานร้าง
มานะกำลังเผชิญหน้ากับเลบอย
「――――คู่ต่อสู้ของข้า เป็นผู้หญิงงั้นรึ?」
เลบอยเอ่ยปากพูด ดูค่อนข้างไม่พอใจ
จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
「ดูเหมือนจะไม่พอใจเลยนะที่คู่ต่อสู้เป็นฉัน?」
「อ่า ก็ใช่น่ะสิ….เพราะนายท่านของข้าน่ะกำลังหงุดหงิด!」
「『คมดาบวารี』!」
เพื่อตอบสนองต่อลูกไฟที่เข้ามากะทันหัน มานะตอบโต้ด้วย『คมดาบวารี』ทันที
แต่……。
「ช้าไปแล้ว!」
ขณะที่มานะปล่อยเวทย์ เลบอยก็ใช้เวทย์ไร้ร่าย…ซึ่งไม่ปล่อยโอกาสให้มานะเลย
เพราะฉะนั้นมานะเลยต้องใช้『คมดาบวารี』แต่ตอนที่เธอปล่อยออกไป ก็มีลูกไฟมาจากอีกทิศทาง
「――――『คมดาบวารี』!」
อย่างไรก็ตามมานะใช้เวทย์ไร้ร่ายอีกครั้งและจัดการกับเปลวเพลิงที่เข้ามา
แต่……。
「อะไรนะ!?」
น่าแปลก ที่มานะสามารถสร้าง『คมดาบวารี』ได้สองครั้งในการร่ายครั้งเดียว
นี่เป็นเทคนิคการร่ายแบบคู่ขนาน และเดิมทีมันจะใช้ได้กับเวทย์ชนิดเดียวกันเท่านั้น
นี่เป็นเทคนิคชั้นสูงที่ใช้เวทย์แบบขนานคู่กันตั้งแต่การใช้เวทย์สองครั้งขึ้นไป
คมดาบวารีอันหนึ่งพุ่งเข้าใส่เปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามา
และอีกอันบินตรงไปทางเลบอย
「ฮ่า」
「ชิ!」
อย่างไรก็ตามเลบอยสูดลมหายใจเข้าและปล่อยเปลวเพลิงเพื่อสกัดการโจมตี
「เก่งกว่าที่คิดนะ น้อยครั้งที่จะได้เห็นการใช้เวทย์คู่ขนานแบบนี้?」
「……」
เลบอยที่ประมาทก็กล่าวชื่นชม แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่ง
「(ไร้ร่ายงั้นเรอะ ไม่สิ ต่างจากเวทย์ทั่วไป น่าจะเป็นเจ้านายงั้นเหรอ)」
มานะมั่นใจขณะยิงเวทย์ใส่เลบอย
ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างสาหัส
「(พวกจอมมารจะหนีไปได้ไหม ตราบใดที่การช่วยเหลือมาถึงก็คง……)」
หลังจากคาดเดาพลังของเลบอย มานะก็สรุปได้ว่าไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่……。
「รู้สึกแย่กว่าที่คิดสินะ ความช่วยเหลือคงมาไม่ถึงหรอก?」
「……หมายความว่าไงยะ」
「――――ก็นะข้าสร้างบาเรียมิติคู่ขนานเพื่อปิดกั้นจากโลกภายนอก」
「!」
มานะได้ยินเช่นนั้นก็เคร่งเครียดทันที
แผนคือปล่อยให้คาเนะฮิโตะหนีไปและขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม หากมีบาเรียปิดกั้นไปทั่วแล้ว คาเนะฮิโตะก็ไม่สามารถไปขอความช่วยเหลือได้
แน่นอนว่าประธานน่าจะสังเกตถึงบางอย่างแปลกๆ หากเวลาผ่านไป แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ว่าฉันจะแพ้ก่อนจะถึงเวลานั้น
มานะพยายามคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ แต่เลบอยก็ยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม
「เอ่อ…ดูเหมือนว่าจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้แล้วสินะ ดังนั้นได้เวลาจบเรื่องนี้ซะที」
เลบอยยกมือขวาขึ้นอย่างสบายๆ
「เอาล่ะ จงออกมา――――เอมี่(アミー)!」
เมื่อเลบอยตะโกนแบบนั้น วงกลมเวทย์ก็ปรากฏบนฝ่ามือ
วงเวทย์ที่ทำหน้าที่เหมือนประตูและมีบางอย่างปรากฏขึ้น
――――มันเป็นเปลวเพลิงที่ลุกโชน
เมื่อเปลวเพลิงเผาไหม้วงเวทย์รูปร่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไปจนคล้ายมนุษย์
จากนั้นก็โผล่ออกมาเป็นร่างมนุษย์ผมยาวสีแดง มือขวาถือหอกยาวและมีศีรษะที่ถูกตัดขาดอยู่ทางซ้าย
「――――ไม่ได้เจอกันนานนะ เลบอย」
จากนั้นชายผมยาวก็กล่าวทักทายเลบอย
เมื่อเห็นแบบนั้นเลบอยก็หัวเราะ
「อา ผ่านมาสักพักแล้วนะเอมี่」
「ที่เรียกชั้นมาแบบนี้ก็หมายความว่า――――」
「――――เป็นคำขอจากนายท่าน」
「เหะ?」
「ชิ!」
ผู้ชายที่ชื่อเอมี่หันความสนใจมาที่มานะ
มีเปลวไฟวูบวาบในดวงตานั้น และมีความรู้สึกน่ากลัวที่ได้มองมัน
และมานะก็รู้ตัวตนที่แท้จริงของเอมี่
「(ยังไงก็ตาม………นี่มันผู้คุมประตูนรก……!)」
เป็นปีศาจตัวที่ 58 จาก 72 เสาหลักแห่งโซโลม่อน――――นั่นคือเอมี่
มีเทพและปีศาจมากมายอยู่ในแผนกต่อต้านมายา
อย่างไรก็ตามน้อยครั้งที่จะได้พบเจอคลาสระดับ『เทพ』、『ปีศาจ』ส่วนมากจะเจอแต่ระดับพลทหารมากกว่า
แต่ว่าเอมี่นั้นเป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ 1 ใน 72 เสาหลัก ของโซโลม่อน
เมื่อเอมี่มองไปที่มานะก็เอียงคอ
「อืม แม้ว่าจะเป็นความปรารถนาของนายท่าน แต่ดูอ่อนแอจังเลยนะ……」
「ถูกต้องก็เพราะนี่เป็นเพียงโบนัส สิ่งที่นายท่านหมายตาคือจอมมารแห่งความโลภไงล่ะ」
「……ถ้าแบบนั้นก็ยุ่งยากน่ะสิ……」
「ไม่ ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย จากสิ่งที่เห็นแล้ว เจ้านายและตัวแมมมอนเองดูจะอ่อนปวกเปียกสุดๆ」
「งั้นเหรอ หากเป็นตามที่นายท่านบัญชา ชั้นก็พร้อมที่จะลงมือ」
「เอ๊ะ……『คมดาบวารี』!」
เมื่อได้ยินแบบนั้นมานะก็ไม่รอช้า รีบยิงเวทย์ออกไปเพื่อชิงความได้เปรียบ
แต่……。
「อ่อนหัดนัก」
「!」
น่าแปลกก่อนที่คมดาบวารีจะแตะต้องเอมี่ มันก็ระเหยไปเพราะความร้อนที่ปล่อยออกมาจากร่างของเขา
「คิดจะยืนหยัดสู้กับชั้นงั้นเหรอ?」
「หุบปากน่า! 『มังกรวารี』!」
เมื่อมานะยกมือขึ้นก็มีมังกรน้ำตัวมหึมาปรากฏขึ้นมา
มังกรน้ำพุ่งไปหาเอมี่ราวกับจะกลืนกิน……。
「น่าเบื่อชะมัด」
เอมี่กำมังกรไว้ในมือขวาและบดขยี้มันทิ้ง
เพียงเท่านี้มังกรน้ำก็ตายทันที
จากนั้นเอมี่ที่ดูตกใจก็เรียกเลบอย
「นี่…ยัยนี่มันก็แค่ลูกกระจ๊อกไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่จัดการเองล่ะ」
「อย่าพูดแบบนั้นสิ เพราะแบบนั้นเลยเรียกเอมี่มาเพื่อจบงานให้เร็วที่สุดไงล่ะ」
「เฮ้อ…ก็ได้ หลังจากที่จัดการเสร็จ ก็ช่วยส่งพลังเวทย์มาให้ด้วยล่ะ」
「แน่นอน」
ในขณะนั้นร่างกายของเอมี่ก็ลุกเป็นไฟ
「เกรงว่า….แม่สาวน้อยงานนี้ชั้นจะต้องปิดจ๊อบโดยด่วน」
「คิดว่าจะยอมให้จัดการง่ายๆงั้นเหรอ ช่างเห็นแก่ตัวเสียจริง」
「เห็นแก่ตัว? หมายความว่าไง――――ทำไม」
「!」
เมื่อเอมี่กางแขนออก เปลวเพลิงก็ล้อมรอบมานะ
เปลวไฟลุกลามขึ้นไปบนเพดานของโรงงานร้างและตกลงมาบนศีรษะของมานะ
「หนอย……『ถ้ำวารี(水牢)』!」
มานะสัมผัสที่พื้นและมีกำแพงน้ำเข้าปกป้องตัวเอง
เมื่อเปลวไฟกระทบกับน้ำ ไอน้ำก็กระจายไปรอบๆ
มานะที่พยายามสกัดกั้นการโจมตี แต่ไม่เหมือนเปลวไฟของเลบอย เปลวไฟของเอมี่รุนแรงมาก ทะลุผ่านม่านน้ำได้ง่ายได้
「อึก……『เมจิค ชีลด์(魔盾)』――――ย๊ากกกกกกห์!」
แม้ว่าจะสร้างโล่เวทย์ขึ้นมาในทันที แม้แต่โล่นั้นก็ถูกทำลายอย่างง่ายดายและมานะก็กระเด็นไป
ในขณะเดียวกันมานะ ก็ขยับร่างอย่างสิ้นหวัง ขณะที่เปลวไฟเข้าใกล้เธอก็ใช้ 『ปืนใหญ่วิญญาณน้ำ』เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี
นอกจากนี้หลังจากโดนการโจมตีพัดปลิวไป เธอก็โยนบางสิ่งจากกระเป๋าไปรอบๆ แต่เนื่องจากผลกระทบจากไอน้ำทำให้ เอมี่และเลบอยมองไม่เห็น
มานะกลิ้งไปบนพื้นและเริ่มลุกขึ้นมา
「(โดยพื้นฐานแล้ว เวทย์จะไม่สามารถใช้ได้ถ้าหากเจ้านายเรียก เทพหรือปีศาจออกมา ถ้าอย่างงั้น……!)」
มานะยกมือขึ้นปรับท่าทาง
「……『ปืนใหญ่วิญญาณน้ำ』!」
「หะ」
ในช่วงเวลาต่อมาเลเซอร์น้ำก็พุ่งเข้าหาเลบอย
「เล็งมาที่ข้างั้นรึ」
「ไม่มีทางที่ชั้นจะยอมให้เป็นแบบนั้นหรอกนะ」
อย่างไรก็ตามเอมี่ก็เข้ามาสกัดการโจมตีของมานะออกไป
「เป็นเรื่องจริงที่จะไม่สามารถใช้『เสื้อคลุม(纏衣)』ที่เป็นเวทย์กำบังได้ในขณะที่อัญเชิญปีศาจออกมา และน่าเสียดายที่เอมี่ของข้าไม่ได้อ่อนแอเกินจะรับการโจมตีไม่ไหวหรอกนะ」
『เสื้อคลุม』มานะเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่อย่างที่เลบอยพูด มันง่ายมากที่ข้ารับใช้จะสกัดการโจมตีให้เจ้านาย
「ถ้างั้น ? คงจบแค่นี้สินะ?」
「……」
ด้วยการโจมตีปกติ แม้ว่าจะโจมตีใส่เลบอยก็โดนป้องกันตลอด
อย่างไรก็ตาม มานะเองไม่มีพลังพอที่จะต่อสู้กับเอมี่
แต่ว่า……。
「……นั่นสินะ ต่อให้พยายามมากแค่ไหนก็สู้ไม่ไหวหรอกค่ะ」
「เหหห? ถ้าเข้าใจก็ดีแล้ว แล้วจะทำยังไง? จะยอมโดนฆ่าเงียบๆงั้นเหรอ?」
โดยไม่สนใจคำเยาะเย้อของเอมี่ มานะหลับตาลงและรวบรวมพลังเวทย์ในร่างกาย
「――――วิญญาณแห่งวารีเอ๋ย หนึ่งในสี่วิญญาณธาตุผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่」
「!」
นั่นคือคำร่ายที่มานะตัดออกไปทั้งหมด
อากาศสั่นสะเือนอย่างรุนแรง และเศษหินโดยรอบก็เริ่มปรากฏขึ้น
ราวกับตอบสนองต่อคำร่าย พลังเวทย์ของมานะก็เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง และมันก็ส่งผลต่อสภาพแวดล้อม
ต่อหน้าการร่ายของมานะ เลบอยได้แต่งง แต่ใบหน้าของเอมี่นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
「……ยุ่งยากจริงๆเลย……!」
เอมี่เข้ามามานะด้วยพลังอันมหาศาลเพื่อขัดขวางการร่ายเวทย์
แต่……。
「หะ?」
กระสุ่นน้ำพุ่งเข้ามาเลบอยจากทิศทางไหนก็ไม่ทราบได้
เอมี่ที่พยายามจะขัดจังหวะการร่ายของมานะ ก็รีบจัดการกระสุนน้ำที่โผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้
จากนั้นก็มี หินแปลกๆที่มีวงเวทย์สลักอยู่วางไว้ตรงนั้น
นี่เป็นสิ่งที่มานะโยนทิ้งไว้ตอนที่โดนเอมี่โจมตี และหินนั่นต่างก็เต็มไปด้วย『กระสุนน้ำ』เต็มไปหมด
หินก้อนนี้จะปล่อยเวทย์อัตโนมัติ ดังนั้นเลยไม่รบกวนการร่ายของมานะ
「――――ดิฉันมีนามว่ามานะ บุคคลตรงหน้าข้าพเจ้าเป็นลูกหลานของปีศาจผู้ชั่วช้า」
「หะ!แย่แล้วววววววว……!」
เอมี่พยายามจะหยุดมานะโดยเร็วที่สุด แต่เนื่องจากหินที่มานะทิ้งไว้ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดั่งใจ
ดังนั้น――――。
「ได้โปรดตอบรับการเชิญชวนของข้า――――อันดีน(ウンディーネ)!」
ทันทีที่ร่ายเสร็จคลื่นน้ำขนาดมหึมาก็กระจายไปรอบๆ
เปลวไฟที่อยู่รอบๆดับสลายหายไป
ในที่สุดน้ำปริมาณมากก็มารวมตัวกันตรงหน้ามานะและรูปร่างค่อยๆเปลี่ยนไป……。
「……ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ มานะ」
มวลน้ำนั้นแปลงร่างเป็นหญิงสาวตัวน้อย
Comments