บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 372 พึ่งหมาบิณฑบาตอาหาร

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 372 พึ่งหมาบิณฑบาตอาหาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​เหว่​ยม​อง​ค้อน​หวัง​คุ​นที​หนึ่ง​ “ใคร​พวก​นาย​ฮะ คน​เขา​เป็น​นักบวช​ ควรจะ​เรียก​ว่า​ไต้​ซือ​ ไต้​ซือ​ ท่าน​ขาย​หมา​ไหม​?”

เดิมที​ฟางเจิ้งคิด​ว่า​เฉิน​เหว่​ย​จะเข้าใจ​บ้าง​ แต่​อ้า​ปาก​ที​ ที่แท้​ก็​เป็น​มือใหม่​ทาง​พุทธศาสนา​เช่นกัน​ ฟางเจิ้งประนม​สอง​มือ​ว่า​ “อ​มิตา​พุทธ​ อาตมา​ไม่ขาย​หมา​นี่​หรอก​”

หวัง​คุ​น​กับ​เฉิน​เหว่​ย​ถามไป​อย่างนั้น​ พวกเขา​ชอบ​หมาป่า​เดียวดาย​จริงๆ​ แต่​ฟางเจิ้งไม่ขาย​ พวกเขา​ก็​ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​

ทว่า​สอง​คน​ไม่ยอม​เลิกรา​แน่ๆ​ หวัง​คุ​นก​ลอก​ตา​ครุ่นคิด​แล้ว​พูด​ “หลวงจีน​ ท่าน​พัก​อยู่​ที่ไหน​?”

เฉิน​เหว่​ย​พลัน​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​หวัง​คุ​น​ทันที​ “ไต้​ซือ​ ท่าน​บำเพ็ญ​เพียร​ที่วัด​ไหน​?”

ฟางเจิ้งส่ายหน้า​เล็กน้อย​ “ครั้งนี้​อาตมา​เดินทาง​มาบำเพ็ญ​เพียร​ ยัง​ไม่มีที่พัก​ชั่วคราว​”

“ง่ายๆ​ ไป​บ้าน​ผม​สิ! พ่อแม่​ผม​ออก​ไป​แล้ว​ ผม​อยู่​บ้าน​คนเดียว​” หวัง​คุ​น​เอ่ย​ทันที​

เฉิน​เหว่​ย​ก็​อยาก​พูด​แบบนี้​ แต่​พ่อแม่​เขา​อยู่​บ้าน​ จะเชิญมาตามอำเภอใจ​ไม่ได้​ ฟางเจิ้งมอง​หวัง​คุ​น​ แม้เจ้าเด็ก​นี่​จะเชิญเขา​ แต่​ความจริง​แอบมอง​หมาป่า​เดียวดาย​ พูดตรงๆ​ คือ​หวัง​คุ​น​เชิญหมาป่า​เดียวดาย​นั่นเอง​!

ฟางเจิ้งหัวเราะ​แห้ง​ๆ ใน​ใจ แสดง​เป็น​ไต้​ซือ​มานาน​ สุดท้าย​ก็​ยัง​ต้อง​พึ่ง​หมาป่า​เดียวดาย​เรื่อง​ที่พัก​และ​อาหาร​

ทว่า​ก็​ดีกว่า​หิว​! ฟางเจิ้งเลย​ประนม​สอง​มือ​กล่าวว่า​ “อ​มิตา​พุทธ​ ขอบคุณ​ประสก​มาก​”

“ไม่เป็นไร​ๆ คือ​ว่า​พวกเรา​ยังมี​เรียน​ด้วยตัวเอง​ภาค​ค่ำ​อีก​คาบ​หนึ่ง​น่ะ​ รอ​ผม​ก่อน​นะ​” หวัง​คุ​น​โบกมือ​อย่าง​มีความสุข​มาก​ ตอนนี้​เสียง​ระฆัง​เข้าเรียน​ดัง​ขึ้น​แล้ว​ หวัง​คุ​น​กัน​เฉิน​เหว่​ย​รวมถึง​นักเรียน​ที่​อยากรู้อยากเห็น​กลุ่ม​หนึ่ง​กลับ​ไป​เข้าเรียน​พร้อมกัน​

ฟางเจิ้งก็​ไป​ไหน​ไม่ได้​ จึงพา​หมาป่า​เดียวดาย​ไป​รอหน้า​ประตู​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่มีที่​ไป​…

ตอนนี้​เอง​ หนุ่ม​รปภ.​เข้ามา​ใกล้​อีกครั้ง​ “ผม​จำท่าน​ไว้​แล้ว​นะ​ ถ้าท่าน​ทำ​เรื่อง​ไม่ดีละ​ก็​ หึๆ​…”

ฟางเจิ้งหมด​คำ​จะพูด​ หนุ่ม​รปภ.​นี่​คงจะ​ได้ยิน​ว่า​หวัง​คุ​น​ชวน​เขา​ไป​พัก​ที่​บ้าน​ กลัว​ว่า​เขา​จะเป็น​คนเลว​แล้ว​หลอกลวง​หวัง​คุ​น​

ฟางเจิ้งขี้เกียจ​จะเถียง​ ถึงอย่างไร​อีก​ฝ่าย​ก็​ทำ​ด้วย​เจตนา​ดี​

ไม่นาน​นัก​ก็​เลิก​คาบ​เรียน​ด้วยตัวเอง​ภาค​ค่ำ​ หวัง​คุ​น​แทบจะ​พุ่ง​ออกมา​เป็น​คน​แรก​ เฉิน​เหว่​ย​ตามหลัง​มา เพียงแต่​สอง​คน​วิ่ง​ไป​พลาง​มอง​ตา​ดุ​ๆ ใส่กัน​ไป​พลาง​ เถียง​อะไร​กัน​บางอย่าง​ ทว่า​มอง​จาก​ส่วนลึก​ใน​แววตา​สอง​คน​นี้​แล้ว​กลับ​มีมิตรภาพ​ลึกซึ้ง​ ไม่ได้​จะทะเลาะ​กัน​จริงๆ​

“ไต้​ซือ​ ไป​กัน​เถอะ​ กลับบ้าน​กัน​!” หวัง​คุ​น​พูด​จบ​ก็​สะบัดหน้า​ใส่เฉิน​เหว่​ยอ​ย่าง​ลำพองใจ​

เฉิน​เหว่​ย​ทำ​เสียง​ขึ้น​จมูก​สอง​ที​ ไม่ได้​ว่า​อะไร​ เดิน​ไป​อีก​ทาง​ แต่​จะหันมา​มอง​หมาป่า​เดียวดาย​ตลอด​ หมา​ที่​เล่น​บาส​ได้​…ใคร​ล่ะ​จะไม่ชอบ​? ใคร​จะไม่สนใจ​อยากรู้​?

ตลอดทาง​หวัง​คุ​น​ลำพองใจ​มาก​ จะลูบคลำ​หมาป่า​เดียวดาย​ตลอด​ หมาป่า​เดียวดาย​ถูก​ลูบ​ก็​พยายาม​หลบ​ไป​ทาง​ฟางเจิ้ง แต่​หวัง​คุ​นค​น​หน้าด้าน​วิ่ง​เข้ามา​ลูบ​ต่อ​ทันที​…

หมาป่า​เดียวดาย​เงยหน้า​มอง​ฟางเจิ้งด้วย​ความไม่พอใจ​ “อาจารย์​ เจ้านี่​ลวนลาม​ศิษย์​ ท่าน​ไม่สนใจ​เลย​เหรอ​?”

ฟางเจิ้งยิ้ม​น้อย​ๆ ไม่ได้​พูด​อะไร​ตอบ​ หมาป่า​เดียวดาย​เข้าใจ​แล้ว​ ฟางเจิ้งใช้ความบริสุทธิ์​ของ​มัน​แลก​อาหาร​กิน​…มัน​พลัน​พูดไม่ออก​ น้ำตาไหล​เป็น​พัน​สาย​ พลาง​ตรึกตรอง​ว่า​จากนี้​จะลง​เขา​ตาม​ฟางเจิ้งมาอีก​ดี​หรือไม่​

บ้าน​หวัง​คุ​น​ไม่ถือว่า​อยู่​ไกล​จาก​โรงเรียน​ และ​ก็​ไม่ไกล​จาก​สนาม​บาส​ที่​เล่น​เมื่อ​ตอนกลางวัน​ ทว่า​เขตชุมชน​เล็ก​ชั้นสูง​มาก​ ทั้ง​ยังมี​เขต​บ้านพัก​ขนาดเล็ก​อีก​แห่ง​ จะเห็น​ได้​ว่า​ฐานะ​ทางบ้าน​หวัง​คุ​น​ไม่เลว​เลย​

หวัง​คุ​น​คุย​กับ​รปภ.​ ก่อน​จะพา​ฟางเจิ้งเข้า​เขต​เล็ก​ไป​

พอ​เข้ามา​ข้างใน​ ฟางเจิ้งอด​ถามไม่ได้​ “ประสก​ เขต​เล็ก​ที่นี่​ดู​ใช้ได้​เลย​ ทำไม​ตอนกลางวัน​ถึงไป​เล่น​บาส​ที่​สนาม​บาส​นั่น​ล่ะ​?”

หวัง​คุ​น​ยิ้มแห้ง​ๆ “ช่วยไม่ได้​นี่​ครับ​ ตอนนี้​ขาดแคลน​สนาม​บาส​มาก​ เมื่อก่อน​เขต​เล็ก​ของ​พวกเรา​มีที่หนึ่ง​ แต่​จากนั้น​ห่วง​บาส​ถูก​รื้อ​ กลายเป็น​พื้นที่​กิจกรรม​ของ​ผู้สูงอายุ​และ​ที่​เล่น​กับ​เด็ก​กับ​หมา​อะไร​แบบ​นั้น​ ตอนนี้​สนาม​บาส​น้อยลง​เรื่อยๆ​ ส่วน​โรงเรียน​…ผม​ไม่ได้​อะไร​หรอก​ แต่​เพื่อน​หลาย​คน​ไม่กล้า​เล่น​บาส​เต็มที่​ตอน​พักกลางวัน​ เพราะ​รู้กัน​ว่า​ตอนนั้น​เพื่อน​ที่​ขยัน​กำลัง​อ่านหนังสือ​แข่งกับเวลา​ อาจารย์​ก็​อยู่​ด้วย​ บางคน​แก​ร้ง​ทำเป็น​ตั้งใจ​เรียน​เพื่อให้​เห็น​ว่า​ตัวเอง​ขยัน​ สร้างภาพ​จำดี​ๆ ต่อหน้า​อาจารย์​ พอ​พวกเขา​นำ​แบบนี้​เลย​กลายเป็น​กระแสนิยม​ ตอนกลางวัน​จะเล่น​กัน​ไม่ได้​ ต้อง​เรียนหนังสือ​!

ตอนนี้​ถ้าออก​ไป​เล่น​บาส​ก็​จะไม่ใช่นักเรียน​ที่​ดี​! ถึงขนาด​ว่า​ตอนแรก​บ่ายโมง​ถึงจะเข้าเรียน​กัน​ แต่​เพราะ​พวกเขา​เลย​ต้อง​ไป​โรงเรียน​เพื่อ​เรียน​ล่วงหน้า​ก่อน​ ไม่มีใคร​อยาก​ดู​แย่​ใน​สายตา​อาจารย์​ประจำ​ชั้น​หรอก​ ดังนั้น​ถ้าจะเล่น​บาส​จริงๆ​ ก็​ต้อง​ไป​เล่น​นอก​โรงเรียน​

แน่นอน​ว่า​ยังมี​อีก​สาเหตุ​หนึ่ง​ โรงเรียน​มีสนาม​บาส​ที่​เดียว​ คน​จ้อง​เยอะ​มาก​ กว่า​จะแย่ง​มาได้​ก็​ยาก​สุด​ๆ ปกติ​กลุ่ม​หนึ่ง​จะยึด​ครึ่ง​สนาม​ หรือไม่​ก็​เป็น​กลุ่มคน​มารวม​ๆ กัน​ ลูก​บาส​เจ็ด​แปด​ลูก​ชู้ต​ใส่ห่วง​บาส​เดียว​ ท่าน​ว่า​ตอนนี้​ใคร​จะกล้า​บ้าอำนาจ​ยึด​ทั้ง​สนาม​บาส​ล่ะ​?”

ฟางเจิ้งอึ้ง​งัน​ เขา​เคย​เจอ​สถานการณ์​แบบนี้​จริงๆ​ จึงเข้าใจ​วิธี​ของ​พวก​หวัง​คุ​น​ทันที​ เรื่อง​แข่งขัน​ การ​มีสนาม​สัก​แห่ง​ที่​ไม่มีใคร​รบกวน​นั้น​สำคัญ​มาก​

ระหว่าง​คุย​กัน​อยู่​นี้​ หวัง​คุ​น​พา​ฟางเจิ้งเข้า​เขต​เล็ก​ บ้าน​เขา​ไม่ใช่บ้านพัก​เดี่ยว​ แต่​เป็น​ตึก​เล็ก​สูงเจ็ด​ชั้น​ บ้าน​เขา​อยู่​ชั้น​สาม เมื่อ​ผลัก​ประตู​เปิด​เข้าไป​ ข้างใน​ตกแต่ง​ไม่หรูหรา​ แต่​ใช้ความสว่าง​และ​เรียบง่าย​เป็นหลัก​

“เข้ามา​เถอะ​ ช่วงนี้​ผม​อยู่​บ้าน​คนเดียว​ ใน​ตู้เย็น​มีของกิน​ อยาก​กิน​อะไร​ก็​เชิญตามสบาย​เลย​ ผม​จะไป​ทำอาหาร​” หวัง​คุ​น​พูด​พลาง​โยน​กระเป๋า​หนังสือ​แล้ว​เดิน​เข้า​ห้องครัว​

ฟางเจิ้งมึนงง​ มอง​ออกจาก​คำพูด​ของ​หนุ่ม​รปภ.​ได้​ไม่ยาก​เลย​ว่า​หวัง​คุ​น​ไม่ถือว่า​เป็น​เด็กดี​ใน​สายตา​อาจารย์​ แต่​หลังจาก​รู้จัก​เขา​มาช่วง​หนึ่ง​ ฟางเจิ้งพบ​ว่า​หวัง​คุ​น​ไม่ใช่เด็ก​เลวร้าย​อะไร​ เพียงแต่ว่า​เขา​แสวงหา​สิ่งที่​แตกต่าง​จาก​นักเรียน​ส่วนใหญ่​ เขา​ไม่ชอบ​เรียนหนังสือ​ ชอบ​เล่น​บาส​ เขา​เอา​เวลา​อ่านหนังสือ​ของ​คนอื่น​มาเล่น​บาส​ เลย​กลายเป็น​เด็ก​สร้าง​ความวุ่นวาย​อีก​แบบ​ใน​สายตา​อาจารย์​และ​เพื่อน​ๆ กลายเป็น​เด็ก​เลว​ใน​สายตา​เด็ก​เรียน​

ฟางเจิ้งถามด้วย​ความแปลกใจ​ “เรา​ทำอาหาร​เป็น​ด้วย​เหรอ​”

“เป็น​ พ่อแม่​ผม​ออก​ไป​ต่างจังหวัด​บ่อยๆ​ ออก​ไป​ที​ก็​ครึ่ง​เดือน​ บางครั้ง​ก็​เดือน​สอง​เดือน​ ผม​เริ่ม​ทำอาหาร​เอง​ตอน​อายุ​สิบ​ขวบ​ ผม​ไม่ชิน​กับ​อาหาร​ใน​ร้านอาหาร​…ไต้​ซือ​ ท่าน​งด​อาหาร​อะไร​รึเปล่า​” หวัง​คุ​น​ถาม

ฟางเจิ้งพยักหน้า​ “งด​ อาตมา​กิน​ข้าวสวย​ก็​พอแล้ว​”

“จะได้​ยังไง​? พวก​ท่าน​มาเป็น​แขก​ ผม​มีผักสด​ วันนี้​เรา​จะกิน​ผัด​ผัก​กัน​” หวัง​คุ​น​ส่ายหน้า​ พอ​หลับ​มาถึงบ้าน​ หวัง​คุ​น​ให้​ความรู้สึก​ที่​ไม่เหมือน​นักเรียน​กับ​ฟางเจิ้ง แต่​เหมือน​ผู้ใหญ่​ที่​สุขุม​และ​โต​เต็ม​วัย​แล้ว​

ผัด​ผัก​เสร็จ​อย่าง​รวดเร็ว​ หวัง​คุ​น​ตัก​ข้าว​ชามใหญ่​วาง​บน​พื้น​ หมาป่า​เดียวดาย​ไม่สนใจ​สอง​คน​นี้​ทันที​ เอาแต่​กิน​อย่าง​มีความสุข​

หวัง​คุ​น​นั่ง​กินข้าว​กับ​ฟางเจิ้งบน​โต๊ะ​ คอย​มอง​หมาป่า​เดียวดาย​อยู่​ตลอด​ และ​ถามอย่าง​อยากรู้อยากเห็น​ว่า​ “ไต้​ซือ​ หมา​นี่​ฉลาด​จริงๆ​ ท่าน​สอน​มัน​ยังไง​เหรอ​”

ฟางเจิ้งยิ้ม​ “สัตว์​มีไหวพริบ​ ใช้ใจสื่อสาร​ พวกเขา​จะฟังเข้าใจ​เอง​”

หวัง​คุ​น​ยิ้มเจื่อน​ “ลึกล้ำ​จังเลย​…”

“ถ้าอย่างนั้น​เอา​แบบ​ง่ายๆ​ ถ้าประสก​จริงใจ​กับ​มัน​ มัน​ก็​จะจริงใจ​กับ​ประสก​ ประสก​สอน​อะไร​มัน​ ขอ​แค่​ใช้ใจสอน​มัน​ก็​พอ​ ทุกสิ่ง​บน​โลก​มีสติปัญญา​ พวก​มัน​ฉลาด​กว่า​ที่​ประสก​จินตนาการ​อีก​” ฟางเจิ้งเอ่ย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด