บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! 619 จุดเริ่มต้นแห่งความสัมพันธ์! พิชิตกระเพาะอาสึนะ!

Now you are reading บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ! Chapter 619 จุดเริ่มต้นแห่งความสัมพันธ์! พิชิตกระเพาะอาสึนะ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แอดลดราคากลุ่มลับอยู่นะครับ เหลือตอนละ 3 บาท ทักมาหาได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยายแปล

SGS บทที่ 619 – จุดเริ่มต้นแห่งความสัมพันธ์! พิชิตกระเพาะอาสึนะ!

วู่หยานไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าหลังจากตัวเองสะบัดก้นเดินจากไป ณ ที่จัตุรัสผู้เล่นที่เหลือต่างเงียบสนิทเป็นป่าช้าแต่หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงงพุดคุยสับสนวุ่นวายไปหมด

เพื่อนร่วมทีมตีบอสตัวเองกลับเป็น ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ข่าวนี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเปรียบเสมือนโยนระเบิดเข้ามาในหัวพวกเขาทุกคน

ผู้เล่นเริ่มที่จะกระจายข่าวกันปากต่อปาก ยิ่งมากคนข่าวลือก็ผิดเพี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เป็นไปตามที่คิบาโอบอก วู่หยานได้กลายเป็นศัตรูของมวลชนไปแล้ว เขาถูกผู้เล่นมากมายสาปแช่ง และได้รับฉายาใหม่คือ ‘ฆาตกรปีศาจกระหายเลือด’

แต่ก็มีผู้เล่นบางส่วนที่พอได้สติกลับมาจากความช็อค ก็รู้สึกเอะใจว่าเจ้าเบต้าเทสเตอร์นั่นมันไปฆ่าคนมากมายขนาดนั้นตอนไหน? และเมื่อไหร่?

มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เชื่อคำพูดวู่หยาน เพียงแต่ฆ่าไปมากกว่าหมื่นคนเนี่ยนะ? ทำไมไม่เห็นเคยได้ยินหรือได้ข่าวบ้างเลย? ในโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี่ พวกเขาก็ไม่เคยเจอกรณีคนตายมหาศาลเกินหมื่นสักที ไม่สิแค่เกินพันคนก็ไม่เคย ยกเว้นผู้เล่นสองพันชีวิตที่ตายในเกมSAO

อย่าบอกนะว่า เขาฆ่าสองพันคนนั่นหมดด้วยตัวเองคนเดียวเลย?…..

ก็เป็นไปไม่ได้อีกนั่นแหละ ตลกแล้ว

ด้วยความสงสัยเป็นเหตุ หลังจากสุมหัวขบคิดกัน พวกเขาก็ได้สมมติฐานมาข้อนึง

หมอนั่น อาชีพของเขาคนนั้นในโลกแห่งความจริงต้องเกี่ยวข้องกับกองทัพแน่!

บางทีคงจะเป็นทหารมืออาชีพ เพราะนอกจากในสนามรบที่สามารถเด็ดชีวิตคนอื่นได้อย่างไม่ผิดกฎหมายแล้ว พวกเขาก็นึกอย่างอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ

หลังจากได้บทสรุปกันแบบนี้ ความหวาดกลัวที่มีต่อวู่หยานก็เปลี่ยนเป็นความเคารพยำเกรงไป แน่ละว่าไม่ใช่ทุกคน

นอกจากนี้พวกเขายังได้ทราบกันทีหลังด้วยว่า มีเบต้าเทสเตอร์ได้อัพเดทข้อมูลของบอสลงไกด์บุ๊คที่แจกในร้านค้า ข่าวนี้ได้ตอกหน้าคิบาโออย่างร้ายกาจ จากที่หวังจะพูดหว่านล้อมให้คนอื่นทำตามตัวเองก็กลายเป็นโชว์โง่ไป ไม่พอยังเกือบโดนฆ่าด้วย ส่วนวู่หยานจากที่ถูกคนอื่นหวาดกลัวและเกลียดชังก็ได้กลายมาเป็นปรมาจารย์ที่เก่งกาจไป

และเป็นเพราะวู่หยาน การประชุมที่เดิมจะคุยกันเรื่องตีบอสก็ถูกเบนเข็มไปเสียเวลาส่วนใหญ่เป็นชั่วโมงคุยแต่เรื่องวู่หยานกันแทน ส่วนเรื่องคุยตีบอสที่เป็นหัวข้อหลักน่ะเหรอ? แค่สิบนาทีพวกเขาคุยกันจบแล้วล่ะ………

กับทั้งหมดที่กล่าวมานี่ วู่หยานไม่รู้เลย และถึงรู้เขาก็ไม่สนไม่แคร์อยู่ดีว่าคนอื่นจะมองเขาเป็นคนไอชั่วไอเลวหรือพ่อพระคนดียังไง กับวู่หยานชื่อเสียงมันเป็นได้แค่ของไร้สาระ ยังไงตัวเขาก็ไม่คิดจะอยู่โลกนี้นานอยู่แล้ว และมันก็ไม่ผิดด้วยที่ว่าเขาเป็นฆาตกรก็มือคู่นี่มันเปื้อนเลือดโชกเลือดมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว………

ในฐานะตัวตนที่มีพลังระดับแรงค์8 มนุษย์ธรรมดาไม่อยู่ในสายตาวู่หยานกระทั่งคุณสมบัติมาพูดคุยกับเขาก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ แต่ก็มีบ้างที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นก็คือกิลด์แมวดำคืนข้างขึ้น……..

แต่ก็นั่นแหละ อย่างที่ว่ามาทั้งหมด ตอนนี้สถานะของวู่หยานจึงเปลี่ยนไปอีกครั้ง จากเบต้าเทสเตอร์ที่แสนน่ารังเกียจกลายมาเป็นทหารผ่านศึกอันเก่งกาจไปแทน ด้วยสองฉายานี่จึงทำให้มีทั้งผู้คนรักและเกลียดในเวลาเดียวกัน แต่ด้วยฉายาใหม่ที่เพิ่มเข้ามาทำให้จำนวนที่เกลียดเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

ก็แหม่ ใครมันจะไปกล้างัดข้อกับทหารล่ะจริงไหม? ยิ่งเป็นทหารที่ปากบอกคร่าชีวิตคนมาเป็นหมื่น ใครมันจะไปกล้า? พวกเขายังไม่เบื่อหน่ายอยากตายเร็วขนาดนั้น ……..

ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ข่าวนี้ก็ได้ไปถึงหูผู้เล่นทุกคนในSAO ตัวต้นเรื่องอย่างวู่หยานที่ไปได้ยินข่าวเกือบคนสุดท้ายจากเมลที่ซาจิส่งมาให้ พออ่านเสร็จชายหนุ่มก็เกือบจะเป็นลมตรงนั้น เขาไม่คิดเลยว่าจิตนาการของคนบนโลกนี้มันจะบรรเจิดเถิดเทิงถึงเพียงนี้ คำพูดเพียงประโยคเดียวของตนกลับเอาไปคิดต่อเติมจนเป็นเรื่องเป็นราว วู่หยานพูดไม่ออกแล้วจริงๆ

แต่ถึงอย่างงั้น มันก็ไม่ใช่ไม่ดี สถานะทหารได้ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ด้านบวกให้เขาอย่างมาก ช่วยกลบข่าวไม่ดีในฐานะเบต้าเทสเตอร์ได้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นมันตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะ ไอเบต้าเนี่ย……..

………………………………..

ยามค่ำคืน ณ มุมนึงในเมือง………

เป็นเพราะพรุ่งนี้ต้องไปเสี่ยงตายสู้กับบอสแล้ว ดังนั้นหลังจากประชุมกับเสร็จ ผู้เล่นก็ได้มาร่วมตัวกันกินอาหารกินเหล้าคุยกันอย่างครื่นเครงเพิ่มความสัมพันธ์กัน และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจก่อนไปสู้บอส…..

วู่หยานเองก็ไม่ได้ไปไหน เขาเองก็ยังอยู่ในเมืองนี่แหละ แต่เขาไม่ได้ไปกินเหล้ากับคนอื่น ชายหนุ่มหามุมเงียบๆที่สงบไม่ค่อยมีผู้คนแล้วนั่งลงก่อนจะงัดเอาแฮมเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่นที่ทำเองออกมากินพลางเงยหน้ามองชมท้องฟ้ายามค่ำคืน…..

สาเหตุมาจากฮินางิคุที่ชอบกินแฮมเบอร์เกอร์แบบญี่ปุ่น วู่หยานจึงต้องทำให้เธอกินแทบจะทุกวัน เขาทำบ่อยขนาดที่ว่าหลับตาลงยังทำออกมาได้รสชาติเดิมเป๊ะๆเลย และนั่นทำให้วู่หยานติดเป็นนิสัย พอเข้าเกมมาก็ยังทำแฮมเบอร์เกอร์สไตล์ญี่ปุ่น ในกล่องเก็บของเขามีพวกมันสต๊อคเก็บไว้เยอะเลยล่ะ……..

ถ้าให้ผู้เล่นคนอื่นเห็นแฮมเบอร์เกอร์ในมือวู่หยานล่ะก็ มันต้องมีคนตายเป็นเบือพื้นเจิ่งนองไปด้วยเลือดบ้างล่ะ อย่าลืมว่าตลอดหนึ่งเดือนมานี่ผู้เล่นเกือบทุกคนจะได้กินแต่ขนมปังแข็งๆที่สามารถปาหัวหมาแตกได้เท่านั้น เป็นเพราะพวกเขาต้องรีบเร่งปั่นเลเวลหาของหาอุปรกณ์หาเงินแข่งขันกับคนอื่น ทำให้ไม่มีใครมาเสียเวลาห่วงกับรสชาติอาหาร อย่างน้อยก็ไม่ในเร็วๆนี้ วู่หยานถือได้ว่าเป็นคนแรกเลยที่สละเวลามาปั่นเลเวลทำอาหารจนสูงเสียดฟ้าแบบนี้……..

แน่นอนว่าผู้เล่นแถวนี้เห็นแฮมเบอร์เกอร์ในมือวู่หยาน แต่พวกเขาก็ทำได้แค่ดูเท่านั้นไม่มีใครกล้าพอจะเข้ามาหา ถึงเมื่อกี้จะบอกมีคนตายเป็นเบือแต่นั่นมันก็กรณีคนปกทั่วไป วู่หยานมันปกติที่ไหนเอะอะก็พูดจะฆ่าจะฆ่า ความประทับใจที่เขาให้ตอนขู่คิบาโอมันฝังได้ลึกในหัวทุกคนมาก ดังนั้นถึงพวกเขาจะไม่ได้มีอคติกับวู่หยานแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะกลายเป็นเพื่อนกันได้ ด้วยสาเหตุที่ว่าเลยทำให้เดียร์เบลกลายเป็นคนที่ถูกเข้าหาไปแทน…..

ทว่าไม่นานนัก คนๆนึงก็เดินเข้ามาหาวู่หยาน……

รู้สึกถึงคนที่ใกล้เข้ามา วู่หยานก็หันไปมองตามปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อเห็นชัดว่าเป็นใครชายหนุ่มก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ

มองดูคนที่ทั้งเนื้อทั้งตัวถูกผ้าคลุมปกปิดไว้หมดกระทั่งหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่เห็น วู่หยานก็เอียงหัวงุนงง “อะไรกัน เธอเองเหรอเนี่ย มีธุระอะไรล่ะ?….”

อาสึนะไม่ได้ตอบในทันที เธอยืนเงียบอยู่กับที่ราวกับกำลังคิดหาคำที่จะพูดอยู่ ผ่านไปชั่วครู่เธอก็กล่าวว่า “นายเป็น…ทหารจริงๆงั้นเหรอ?……”

พอได้ยินวู่หยานก็กลอกตามองบน “นี่เธอเชื่อคำพูดไร้สาระของเจ้าพวกนั้นจริงเหรอ?…….”

เมื่อได้ยินคำพูดวู่หยานที่ไม่ต่างจากการปฏิเสธ อาสึนะก็กำมือแน่น เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ“ถ้านายไม่ใช่ทหาร แล้วทำไมถึงพูดจะฆ่ากันได้ง่ายๆขนาดนั้นล่ะ?…….”

วู่หยานมองเธอทีนึง ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง สายลมอ่อนๆได้พัดเข้ามาทำปลายเส้นผมวู่หยานขยับไปมา ไม่นานเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ฉันก็แค่…เคยชินกับมันน่ะ……”

คำพูดประโยคนี้แฝงความหมายโดยนัยไว้มากมาย ทำหัวใจอาสึนะสั่นไหว สีหน้าเธอกลายเป็นซับซ้อน……

ทั้งคู่เงียบไปไม่มีใครพูดอะไร พอผ่านไปครู่นึง วู่หยานก็หันกลับไปมองอาสึนะ “เธอมาเพื่อจะถามฉันแค่นี้งั้นเหรอ?…..”

อาสึนะเงียบ

ไม่ใช่เธอไม่อยากตอบ แต่เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่างหาก

มันก็เพราะตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เข้ามาหาเขา………

หนึ่งเดือนก่อน พอรู้ว่ามีโอกาสที่ตนจะไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้ อาสึนะก็แทบจะจิตใจแตกสลาย

แต่เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เลือกจะอยู่ที่เมืองแห่งการเริ่มต้น คอยรอให้คนอื่นเคลียร์เกมให้ เธอไม่อยากนั่งพักอยู่ในเมืองจนแก่ตายไปทั้งแบบนี้ เธอ….ไม่อยากพ่ายแพ้ให้กับโลกใบนี้ไม่ว่ายังไงก็ตาม ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะจับดาบออกมาต่อสู้จนตัวตายดีกว่าเสียความเป็นตัวเองให้กับเกมนี้ให้กับโลกใบนี้

หนึ่งเดือนมานี่ อาสึนะไม่รู้ว่าเธอต้องเข่นฆ่าไปกี่ครั้งแล้ว มันมากเสียจนทำให้จิตใจเธอด้านชา…….

แต่ทว่าผู้ชายตรงหน้า คำพูดของเขาได้ทำให้หัวใจที่ตายแล้วของเธอเกิดระลอกคลื่นขึ้น

เขาเหมือนคนบ้าที่สามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนไว้ได้โดยไม่ว่าจะทำอะไร สำหรับอาสึนะแล้ว ตัวเธอที่ประหนึ่งเป็นคนหลงทางในป่ามานานหลายสิบปี หัวใจตายด้านมานานแสนนาน พอได้เจอกับมนุษย์คนแรก ถึงเขาจะเป็น ‘คนบ้า’แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่เธอต้องอยากเข้าไปคุยกับเขา

ตัวอาสึนะในตอนนี้ก็เป็นอย่างที่ว่ามา ภายใต้จิตใต้สำนึกที่หลงทาง เธอได้เห็นเขาเป็นแสงสว่าง มันจึงอดที่จะเดินเข้าหาไม่ได้จริงๆ…….

เห็นอาสึนะไม่พูด วู่หยานก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เขาส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะยกนิ้วปาดอากาศเรียกหน้าจอระบบเกมแล้วเข้าไปที่หมวดคลังเก็บของ พริบตาต่อมาแฮมเบอร์เกอร์กลิ่นหอมยั่วน้ำลายก็ปรากฏออกมาในมือเขา

วู่หยานโยนใส่อาสึนะ ใช่ได้ยินไม่ผิด เขาไมได้ส่งให้แต่โยนใส่เลย อาสึนะที่ใจลอยอยู่ก็ลนลานรีบยกมือขึ้นมารับ พอเห็นว่าเป็นอะไร เธอก็ยืนช็อค

“นี่มัน…..” ได้กลิ่นหอมอันคุ้ยเคยที่ไม่ได้เจอมานาน อาสึนะก็พูดถามคำถามโง่ๆออกมาด้วยสีหน้าเหลอหลา “….แฮมเบอร์เกอร์?….”

“กินซะสิ….” วู่หยานพูด

กลิ่นหอมของแฮมเบอร์เกอร์ได้เข้าไปในจมูกอาสึนะทำเธอยืนนิ่งเหมือนถูกดึงไปอีกโลกที่รายล้อมไปด้วยเนื้อ พอได้สติกลับมาอาสึนะก็อ้าปากกัดกินอย่างมูมมาม ไม่ถึงหนึ่งนาทีแฮมเบอร์เกอร์ทั้งอันก็หายไปหมดไม่มีเหลือ หลังกินเสร็จหางตาอาสึนะก็ปรากฏหยดน้ำตาขึ้น

มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าตลอดหนึ่งเดือนมานี่ ชีวิตที่ต้องกินแต่ขนมปังไร้รสชาติมันทรมานจิตใจขนาดไหน มันไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็นเลยนะ……..

แอดลดราคากลุ่มลับอยู่นะครับ เหลือตอนละ 3 บาท ทักมาหาได้ที่เพจ ห้องสมุดคนรักนิยายแปล

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด