บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!
“การหลอมสมบัติวิเศษยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางไม่ยาก ข้ากลับไปก็เริ่มสร้างได้เลย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ว่าข้ามีหนึ่งคำถาม หวังว่าศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะอธิบายได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “ศิษย์น้องหญิงเชิญถามมา”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำชำเลืองตามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แวบหนึ่ง ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจำได้ว่าในบัญญัติบรรพชนฝ่ายเราไม่ได้กำหนดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะต้องตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์! แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์บางท่านในฝ่ายเราใช้นามบัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์ยอมพลีกายให้เขา

กระทั่ง…กระทั่งยังมีข่าวลือว่าเขาทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์แล้ว”

แม้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางจะมีผลประโยชน์พัวพันสูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะขายวิญญาณตัวเอง

สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซีเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตน จะไม่ยอมให้นางโดนเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมเด็ดขาด!

โดยเฉพาะคนที่น้ำลายไหลกับความงามของจางอวิ๋นซี และยังเป็นบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ศัตรูเก่าอีก

ขณะพูดอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเจ้าเสน่ห์น่าหลงใหล ทว่าคนที่สนิทสนมกับนางจะรู้ว่านี่หมายความว่านางกำลังโกรธจัด

กระทั่งลมหายใจยังกระชั้นขึ้นเล็กน้อย เกิดระลอกคลื่นขึ้นในใจ

พอได้ฟังคำถามของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแล้ว เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อาจารย์อาเข้าใจผิดหรือไม่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแค่นเสียงขึ้นจมูก “เข้าใจผิดรึ เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ใช้บัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเจ้าน่ะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ข้าเปล่า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำบีบคั้นเสิ่นเทียน พลังโถมเข้าไปดั่งคลื่นลูกใหญ่ “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์”

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อันนี้ข้าเปล่าจริงๆ”

พลังของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำช้าลงเล็กน้อย ก่อนจะมองเสิ่นเทียนด้วยความสงสัย “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้หลงใหลในความงามของนาง”

เสิ่นเทียนรีบส่ายหน้า “ถ้าข้าหลงใหลนาง ขอให้ฟ้าผ่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโมโหแล้ว เส้นผมยาวสีทองปลิวไสวอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหมายความว่าไม่ได้ถูกใจนางรึ”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาผิดเอง เขาไม่ควรคุยเหตุผลกับผู้หญิง

โดยเฉพาะอาจารย์อาท่านนี้ เหมือนจะเป็นมารดาครึ่งหนึ่งของศิษย์พี่หญิงด้วย

เขาจึงเบนสายตาขอความช่วยเหลือไปหาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ “อาจารย์”

……

เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดังเนิบๆ มาจากกลางสายฟ้าประกายเซียน “เอาล่ะศิษย์น้องหญิง เสิ่นเทียนไม่ได้บังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเขาจริงๆ อีกทั้งในมุมมองข้า เทียนเอ๋อร์รูปหล่อเช่นนี้ ต่อให้เป็นซีเอ๋อร์เองก็ต้องยินดีแน่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำทำเสียงขึ้นจมูก “จะเป็นไปได้อย่างไร ซีเอ๋อร์ไม่ชอบการคลุมถุงชนที่สุด สรุป ข้ามีแค่คำพูดเดียว จะมาหารือดีๆ อะไร เรื่องนี้ไม่มีทาง ถึงซีเอ๋อร์จะเป็นบุตรสาวท่าน แต่ข้าก็ดูแลนางมาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ภายภาคหน้าซีเอ๋อร์จะยินดีตบแต่งกับใครก็ให้นางเลือกเอง ไม่ว่าใครก็บังคับนางไม่ได้

ถ้าไม่อย่างนั้น แม้ข้าจะยังไม่ก้าวสู่ขอบเขตผู้อริยะ แต่แดนบูรพาก็ต้องมีสหายผู้ยึดมั่นในคุณธรรมยินดีช่วยแน่”

ขณะกล่าวอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกๆ ทีหนึ่ง “ศิษย์พี่ท่านตัดอารมณ์และความปรารถนาไปแล้ว ก็อย่าตัดคุณธรรมไปด้วยเลย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “ศิษย์น้องเอาที่ไหนมาพูด เทียนเอ๋อร์กับซีเอ๋อร์ยังขาวสะอาด หรือว่าไปฟังพวกลูกศิษย์พูดลือกันมั่วซั่วมาล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ต่อให้เป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอพาบุตรชายข้ากลับไปหลอมสมบัติที่ยอดเขาบัวทองคำก่อน”

เอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยิงแพรสีเงินสายหนึ่งออกจากแขนเสื้อ ม้วนรอบกายฉินอวิ๋นตี๋ในทันที จากนั้นก็แบกฉินอวิ๋นตี๋ที่ถูกห่อไว้หลายชั้นขึ้นด้วยมือ ก่อนจะแปลงเป็นแสงสีทองพุ่งทะยานออกไป

ฉินอวิ๋นตี๋พูด “อู้ๆๆ อู้ๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำขี่ปราณเหาะไปอย่างเฉยชา “อย่าดิ้น กลับบ้านกับแม่”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อื้อๆๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเอ่ยนิ่งๆ “วางใจเถอะ จากนี้จะไม่บังคับเจ้ารวมแก่นพลังแล้ว”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ อู้ๆ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่อยากตั้งใจฝึกฝนวิชาอัสนี แม่ก็จะไม่บังคับ แต่กลับยอดเขาบัวทองคำครั้งนี้ แม้จะถ่ายทอดคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลงให้เจ้า เจ้าต้องพยายามฝึกฝนเข้า”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

นัยน์ตาผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฉายประกายแวววาว “เยี่ยหลานอวี่เจ้าตายมานานเช่นนี้แล้ว ให้ข้าเสียดายมาร้อยปี แต่อย่าคิดว่าเจ้าตายแล้วจะตัดสินแพ้ชนะระหว่างเราไม่ได้ ยังมีรุ่นต่อไปอีก!

ลูกแม่ แม่อยากให้เจ้าทุ่มเทฝึกฝนคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลง ทำให้อวิ๋นซีลุ่มหลงให้ได้ เอาชนะบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ นี่คิดความยึดมั่นที่ติดตัวมากับแม่ แม่หวังให้ลูกได้ดี เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ!”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ๆๆ!”

…….

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกับฉินอวิ๋นตี๋จากไปแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเสิ่นเทียนกลางวิหารใหญ่มองตากันไปมาด้วยความตกใจ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า “เทียนเอ๋อร์เพิ่งเข้าฝ่ายเราก็สร้างคุณความดีเช่นนี้แล้ว หาได้ยากจริงๆ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองตามองนักพรตชราข้างๆ ก่อนเอ่ย “มีคุณความดีก็ต้องมีรางวัล เจ้าอยากได้รางวัลอะไรบอกมาได้เลย”

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย ข้าไม่อยากเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านตกลงหรือไม่ เฮ้อ ไม่มีทางหรอก

เสิ่นเทียนคิดๆ แล้วก็พูดไป “อาจารย์ ศิษย์มีพลังบำเพ็ญยังน้อย ยังไม่มีสมบัติป้องกันเลย”

เสิ่นเทียนจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่อันหนึ่ง แข็งแกร่งยิ่ง

หลังใส่พลังวิญญาณเข้าไปมากพอก็อัญเชิญร่างแยกช่วงหลอมรวมเทพออกมาได้

ถ้าอาจารย์ให้สมบัติล้ำค่าแบบนั้นกับข้า จากนี้ไปไหนก็วางใจได้บ้างแล้ว

อะไร ในตัวเสิ่นเทียนมีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไม่ใช่รึ

เหอะๆ ป้ายคำสั่งนั้นใช้หนึ่งครั้งต้องเผาศิลาวิญญาณอย่างน้อยสามถึงห้าพันก้อน อีกทั้งใช้ครั้งหนึ่งแล้ว ต้องใช้หลายชั่วโมงในการดูดกินศิลาวิญญาณใหม่มาฟื้นพลัง

ยามที่เจออันตรายจริงๆ ก็ยังไม่มั่นคงมากพอ

ไปหาอาจารย์ ขอสมบัติป้องกันมาบ้างดีกว่า!

…….

เมื่อได้ฟังคำขอของเสิ่นเทียนแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็พยักหน้า “หาได้ยากที่บุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนระมัดระวังเช่นนี้ ก็ได้!”

พูดจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สะบัดแขนเสื้อเบาๆ แสงสีดำสายหนึ่งยิงออกจากสายฟ้าประกายเซียน มันมาตกตรงหน้าเสิ่นเทียน แสงสีดำค่อยๆ สลายไป เผยรูปลักษณ์จริงอย่างชัดเจน

เสิ่นเทียนพลันทำหน้าเศร้า “เหตุใดเป็นเกราะเต่าดำอีกแล้ว”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “เทียนเอ๋อร์พูดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เกราะเต่าดำ มันเป็นหมวกเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับสูง มูลค่าสูงกว่าเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับกลางสิบเท่า

หลอมจากเปลือกของสัตว์อสูร ‘เต่าอสูรยมโลก’ สามารถต้านการโจมตีของช่วงหลอมรวมเทพ ขอแค่เทียนเอ๋อร์สวมมันไว้ แม้แต่ผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองจะปิดล้อมจู่โจมเจ้า ก็ทำอันตรายเจ้าไม่ได้ทั้งนั้น!”

เสิ่นเทียนมองหมวกเกราะหนักที่เปล่งแสงสีดำอ่อนๆ ตรงหน้าพลางพูดด้วยความขมขื่นอยู่ในใจ “ขอบคุณอาจารย์”

เฮ้อ รับไปแล้วกัน!

ถึงอย่างไรนอกจากเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว ข้าจะไม่สวมหมวกเกราะแบบนี้เด็ดขาด

อะไรนะ ถ้าเจออันตรายถึงชีวิตหรือ

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่…แค่กๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าก่อนจะมอบป้ายคำสั่งสีทองอีกชิ้นให้ “นี่คือป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นป้ายคำสั่งที่ใช้ผ่านทางเข้ายอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

เจ้าถือป้ายคำสั่งนี้ก็จะควบคุมค่ายกลทั้งหมดในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ควบคุมยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ก่อนหน้านี้เจ้ารีบกลับ ตอนนี้อาจารย์จะให้เจ้าไว้ด้วยเลยแล้วกัน!

ถ้าไม่มีเรื่องใดแล้วก็กลับไปหลอมสร้างสมบัติวิเศษเถอะ!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “ศิษย์ขอตัว”

……

เสิ่นเทียนออกไป ในวิหารจึงเหลือเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับนักพรตชราที่รู้เห็นทุกอย่าง

ตอนนี้ทุกคนไปแล้ว นักพรตชราถึงเค้นรอยยิ้มออกมา “แค่กๆ ศิษย์น้องรอง ความจริง…ความจริงการหลอมอัสนีเทพหยินหยางนี่ ศิษย์พี่เองก็ช่วยไปกดตลาดให้ได้นะ

แค่มีศิษย์พี่อยู่ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้อริยะมาโจมตี ก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน! อีกอย่างเจ้าดูสิ บุตรศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงเหมือนกันด้วย คือว่า…ศิษย์พี่ชำนาญการหลอมกายที่สุดมาตั้งแต่แรกแล้วนะ!”

เห็นผู้อาวุโสหัวมรกตทำหน้า ‘เฝ้ารอคอย’ และ ‘กระหาย’ แล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

“ฮิๆๆๆๆ~ ศิษย์พี่ เรียกท่านปู่ให้ฟังก่อนสิ”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!
“การหลอมสมบัติวิเศษยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางไม่ยาก ข้ากลับไปก็เริ่มสร้างได้เลย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ว่าข้ามีหนึ่งคำถาม หวังว่าศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะอธิบายได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “ศิษย์น้องหญิงเชิญถามมา”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำชำเลืองตามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แวบหนึ่ง ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจำได้ว่าในบัญญัติบรรพชนฝ่ายเราไม่ได้กำหนดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะต้องตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์! แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์บางท่านในฝ่ายเราใช้นามบัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์ยอมพลีกายให้เขา

กระทั่ง…กระทั่งยังมีข่าวลือว่าเขาทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์แล้ว”

แม้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางจะมีผลประโยชน์พัวพันสูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะขายวิญญาณตัวเอง

สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซีเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตน จะไม่ยอมให้นางโดนเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมเด็ดขาด!

โดยเฉพาะคนที่น้ำลายไหลกับความงามของจางอวิ๋นซี และยังเป็นบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ศัตรูเก่าอีก

ขณะพูดอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเจ้าเสน่ห์น่าหลงใหล ทว่าคนที่สนิทสนมกับนางจะรู้ว่านี่หมายความว่านางกำลังโกรธจัด

กระทั่งลมหายใจยังกระชั้นขึ้นเล็กน้อย เกิดระลอกคลื่นขึ้นในใจ

พอได้ฟังคำถามของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแล้ว เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อาจารย์อาเข้าใจผิดหรือไม่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแค่นเสียงขึ้นจมูก “เข้าใจผิดรึ เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ใช้บัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเจ้าน่ะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ข้าเปล่า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำบีบคั้นเสิ่นเทียน พลังโถมเข้าไปดั่งคลื่นลูกใหญ่ “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์”

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อันนี้ข้าเปล่าจริงๆ”

พลังของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำช้าลงเล็กน้อย ก่อนจะมองเสิ่นเทียนด้วยความสงสัย “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้หลงใหลในความงามของนาง”

เสิ่นเทียนรีบส่ายหน้า “ถ้าข้าหลงใหลนาง ขอให้ฟ้าผ่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโมโหแล้ว เส้นผมยาวสีทองปลิวไสวอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหมายความว่าไม่ได้ถูกใจนางรึ”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาผิดเอง เขาไม่ควรคุยเหตุผลกับผู้หญิง

โดยเฉพาะอาจารย์อาท่านนี้ เหมือนจะเป็นมารดาครึ่งหนึ่งของศิษย์พี่หญิงด้วย

เขาจึงเบนสายตาขอความช่วยเหลือไปหาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ “อาจารย์”

……

เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดังเนิบๆ มาจากกลางสายฟ้าประกายเซียน “เอาล่ะศิษย์น้องหญิง เสิ่นเทียนไม่ได้บังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเขาจริงๆ อีกทั้งในมุมมองข้า เทียนเอ๋อร์รูปหล่อเช่นนี้ ต่อให้เป็นซีเอ๋อร์เองก็ต้องยินดีแน่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำทำเสียงขึ้นจมูก “จะเป็นไปได้อย่างไร ซีเอ๋อร์ไม่ชอบการคลุมถุงชนที่สุด สรุป ข้ามีแค่คำพูดเดียว จะมาหารือดีๆ อะไร เรื่องนี้ไม่มีทาง ถึงซีเอ๋อร์จะเป็นบุตรสาวท่าน แต่ข้าก็ดูแลนางมาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ภายภาคหน้าซีเอ๋อร์จะยินดีตบแต่งกับใครก็ให้นางเลือกเอง ไม่ว่าใครก็บังคับนางไม่ได้

ถ้าไม่อย่างนั้น แม้ข้าจะยังไม่ก้าวสู่ขอบเขตผู้อริยะ แต่แดนบูรพาก็ต้องมีสหายผู้ยึดมั่นในคุณธรรมยินดีช่วยแน่”

ขณะกล่าวอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกๆ ทีหนึ่ง “ศิษย์พี่ท่านตัดอารมณ์และความปรารถนาไปแล้ว ก็อย่าตัดคุณธรรมไปด้วยเลย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “ศิษย์น้องเอาที่ไหนมาพูด เทียนเอ๋อร์กับซีเอ๋อร์ยังขาวสะอาด หรือว่าไปฟังพวกลูกศิษย์พูดลือกันมั่วซั่วมาล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ต่อให้เป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอพาบุตรชายข้ากลับไปหลอมสมบัติที่ยอดเขาบัวทองคำก่อน”

เอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยิงแพรสีเงินสายหนึ่งออกจากแขนเสื้อ ม้วนรอบกายฉินอวิ๋นตี๋ในทันที จากนั้นก็แบกฉินอวิ๋นตี๋ที่ถูกห่อไว้หลายชั้นขึ้นด้วยมือ ก่อนจะแปลงเป็นแสงสีทองพุ่งทะยานออกไป

ฉินอวิ๋นตี๋พูด “อู้ๆๆ อู้ๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำขี่ปราณเหาะไปอย่างเฉยชา “อย่าดิ้น กลับบ้านกับแม่”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อื้อๆๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเอ่ยนิ่งๆ “วางใจเถอะ จากนี้จะไม่บังคับเจ้ารวมแก่นพลังแล้ว”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ อู้ๆ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่อยากตั้งใจฝึกฝนวิชาอัสนี แม่ก็จะไม่บังคับ แต่กลับยอดเขาบัวทองคำครั้งนี้ แม้จะถ่ายทอดคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลงให้เจ้า เจ้าต้องพยายามฝึกฝนเข้า”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

นัยน์ตาผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฉายประกายแวววาว “เยี่ยหลานอวี่เจ้าตายมานานเช่นนี้แล้ว ให้ข้าเสียดายมาร้อยปี แต่อย่าคิดว่าเจ้าตายแล้วจะตัดสินแพ้ชนะระหว่างเราไม่ได้ ยังมีรุ่นต่อไปอีก!

ลูกแม่ แม่อยากให้เจ้าทุ่มเทฝึกฝนคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลง ทำให้อวิ๋นซีลุ่มหลงให้ได้ เอาชนะบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ นี่คิดความยึดมั่นที่ติดตัวมากับแม่ แม่หวังให้ลูกได้ดี เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ!”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ๆๆ!”

…….

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกับฉินอวิ๋นตี๋จากไปแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเสิ่นเทียนกลางวิหารใหญ่มองตากันไปมาด้วยความตกใจ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า “เทียนเอ๋อร์เพิ่งเข้าฝ่ายเราก็สร้างคุณความดีเช่นนี้แล้ว หาได้ยากจริงๆ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองตามองนักพรตชราข้างๆ ก่อนเอ่ย “มีคุณความดีก็ต้องมีรางวัล เจ้าอยากได้รางวัลอะไรบอกมาได้เลย”

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย ข้าไม่อยากเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านตกลงหรือไม่ เฮ้อ ไม่มีทางหรอก

เสิ่นเทียนคิดๆ แล้วก็พูดไป “อาจารย์ ศิษย์มีพลังบำเพ็ญยังน้อย ยังไม่มีสมบัติป้องกันเลย”

เสิ่นเทียนจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่อันหนึ่ง แข็งแกร่งยิ่ง

หลังใส่พลังวิญญาณเข้าไปมากพอก็อัญเชิญร่างแยกช่วงหลอมรวมเทพออกมาได้

ถ้าอาจารย์ให้สมบัติล้ำค่าแบบนั้นกับข้า จากนี้ไปไหนก็วางใจได้บ้างแล้ว

อะไร ในตัวเสิ่นเทียนมีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไม่ใช่รึ

เหอะๆ ป้ายคำสั่งนั้นใช้หนึ่งครั้งต้องเผาศิลาวิญญาณอย่างน้อยสามถึงห้าพันก้อน อีกทั้งใช้ครั้งหนึ่งแล้ว ต้องใช้หลายชั่วโมงในการดูดกินศิลาวิญญาณใหม่มาฟื้นพลัง

ยามที่เจออันตรายจริงๆ ก็ยังไม่มั่นคงมากพอ

ไปหาอาจารย์ ขอสมบัติป้องกันมาบ้างดีกว่า!

…….

เมื่อได้ฟังคำขอของเสิ่นเทียนแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็พยักหน้า “หาได้ยากที่บุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนระมัดระวังเช่นนี้ ก็ได้!”

พูดจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สะบัดแขนเสื้อเบาๆ แสงสีดำสายหนึ่งยิงออกจากสายฟ้าประกายเซียน มันมาตกตรงหน้าเสิ่นเทียน แสงสีดำค่อยๆ สลายไป เผยรูปลักษณ์จริงอย่างชัดเจน

เสิ่นเทียนพลันทำหน้าเศร้า “เหตุใดเป็นเกราะเต่าดำอีกแล้ว”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “เทียนเอ๋อร์พูดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เกราะเต่าดำ มันเป็นหมวกเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับสูง มูลค่าสูงกว่าเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับกลางสิบเท่า

หลอมจากเปลือกของสัตว์อสูร ‘เต่าอสูรยมโลก’ สามารถต้านการโจมตีของช่วงหลอมรวมเทพ ขอแค่เทียนเอ๋อร์สวมมันไว้ แม้แต่ผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองจะปิดล้อมจู่โจมเจ้า ก็ทำอันตรายเจ้าไม่ได้ทั้งนั้น!”

เสิ่นเทียนมองหมวกเกราะหนักที่เปล่งแสงสีดำอ่อนๆ ตรงหน้าพลางพูดด้วยความขมขื่นอยู่ในใจ “ขอบคุณอาจารย์”

เฮ้อ รับไปแล้วกัน!

ถึงอย่างไรนอกจากเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว ข้าจะไม่สวมหมวกเกราะแบบนี้เด็ดขาด

อะไรนะ ถ้าเจออันตรายถึงชีวิตหรือ

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่…แค่กๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าก่อนจะมอบป้ายคำสั่งสีทองอีกชิ้นให้ “นี่คือป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นป้ายคำสั่งที่ใช้ผ่านทางเข้ายอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

เจ้าถือป้ายคำสั่งนี้ก็จะควบคุมค่ายกลทั้งหมดในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ควบคุมยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ก่อนหน้านี้เจ้ารีบกลับ ตอนนี้อาจารย์จะให้เจ้าไว้ด้วยเลยแล้วกัน!

ถ้าไม่มีเรื่องใดแล้วก็กลับไปหลอมสร้างสมบัติวิเศษเถอะ!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “ศิษย์ขอตัว”

……

เสิ่นเทียนออกไป ในวิหารจึงเหลือเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับนักพรตชราที่รู้เห็นทุกอย่าง

ตอนนี้ทุกคนไปแล้ว นักพรตชราถึงเค้นรอยยิ้มออกมา “แค่กๆ ศิษย์น้องรอง ความจริง…ความจริงการหลอมอัสนีเทพหยินหยางนี่ ศิษย์พี่เองก็ช่วยไปกดตลาดให้ได้นะ

แค่มีศิษย์พี่อยู่ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้อริยะมาโจมตี ก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน! อีกอย่างเจ้าดูสิ บุตรศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงเหมือนกันด้วย คือว่า…ศิษย์พี่ชำนาญการหลอมกายที่สุดมาตั้งแต่แรกแล้วนะ!”

เห็นผู้อาวุโสหัวมรกตทำหน้า ‘เฝ้ารอคอย’ และ ‘กระหาย’ แล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

“ฮิๆๆๆๆ~ ศิษย์พี่ เรียกท่านปู่ให้ฟังก่อนสิ”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!
“การหลอมสมบัติวิเศษยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางไม่ยาก ข้ากลับไปก็เริ่มสร้างได้เลย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ว่าข้ามีหนึ่งคำถาม หวังว่าศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะอธิบายได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “ศิษย์น้องหญิงเชิญถามมา”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำชำเลืองตามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แวบหนึ่ง ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจำได้ว่าในบัญญัติบรรพชนฝ่ายเราไม่ได้กำหนดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะต้องตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์! แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์บางท่านในฝ่ายเราใช้นามบัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์ยอมพลีกายให้เขา

กระทั่ง…กระทั่งยังมีข่าวลือว่าเขาทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์แล้ว”

แม้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางจะมีผลประโยชน์พัวพันสูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะขายวิญญาณตัวเอง

สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซีเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตน จะไม่ยอมให้นางโดนเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมเด็ดขาด!

โดยเฉพาะคนที่น้ำลายไหลกับความงามของจางอวิ๋นซี และยังเป็นบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ศัตรูเก่าอีก

ขณะพูดอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเจ้าเสน่ห์น่าหลงใหล ทว่าคนที่สนิทสนมกับนางจะรู้ว่านี่หมายความว่านางกำลังโกรธจัด

กระทั่งลมหายใจยังกระชั้นขึ้นเล็กน้อย เกิดระลอกคลื่นขึ้นในใจ

พอได้ฟังคำถามของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแล้ว เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อาจารย์อาเข้าใจผิดหรือไม่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแค่นเสียงขึ้นจมูก “เข้าใจผิดรึ เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ใช้บัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเจ้าน่ะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ข้าเปล่า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำบีบคั้นเสิ่นเทียน พลังโถมเข้าไปดั่งคลื่นลูกใหญ่ “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์”

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อันนี้ข้าเปล่าจริงๆ”

พลังของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำช้าลงเล็กน้อย ก่อนจะมองเสิ่นเทียนด้วยความสงสัย “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้หลงใหลในความงามของนาง”

เสิ่นเทียนรีบส่ายหน้า “ถ้าข้าหลงใหลนาง ขอให้ฟ้าผ่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโมโหแล้ว เส้นผมยาวสีทองปลิวไสวอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหมายความว่าไม่ได้ถูกใจนางรึ”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาผิดเอง เขาไม่ควรคุยเหตุผลกับผู้หญิง

โดยเฉพาะอาจารย์อาท่านนี้ เหมือนจะเป็นมารดาครึ่งหนึ่งของศิษย์พี่หญิงด้วย

เขาจึงเบนสายตาขอความช่วยเหลือไปหาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ “อาจารย์”

……

เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดังเนิบๆ มาจากกลางสายฟ้าประกายเซียน “เอาล่ะศิษย์น้องหญิง เสิ่นเทียนไม่ได้บังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเขาจริงๆ อีกทั้งในมุมมองข้า เทียนเอ๋อร์รูปหล่อเช่นนี้ ต่อให้เป็นซีเอ๋อร์เองก็ต้องยินดีแน่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำทำเสียงขึ้นจมูก “จะเป็นไปได้อย่างไร ซีเอ๋อร์ไม่ชอบการคลุมถุงชนที่สุด สรุป ข้ามีแค่คำพูดเดียว จะมาหารือดีๆ อะไร เรื่องนี้ไม่มีทาง ถึงซีเอ๋อร์จะเป็นบุตรสาวท่าน แต่ข้าก็ดูแลนางมาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ภายภาคหน้าซีเอ๋อร์จะยินดีตบแต่งกับใครก็ให้นางเลือกเอง ไม่ว่าใครก็บังคับนางไม่ได้

ถ้าไม่อย่างนั้น แม้ข้าจะยังไม่ก้าวสู่ขอบเขตผู้อริยะ แต่แดนบูรพาก็ต้องมีสหายผู้ยึดมั่นในคุณธรรมยินดีช่วยแน่”

ขณะกล่าวอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกๆ ทีหนึ่ง “ศิษย์พี่ท่านตัดอารมณ์และความปรารถนาไปแล้ว ก็อย่าตัดคุณธรรมไปด้วยเลย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “ศิษย์น้องเอาที่ไหนมาพูด เทียนเอ๋อร์กับซีเอ๋อร์ยังขาวสะอาด หรือว่าไปฟังพวกลูกศิษย์พูดลือกันมั่วซั่วมาล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ต่อให้เป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอพาบุตรชายข้ากลับไปหลอมสมบัติที่ยอดเขาบัวทองคำก่อน”

เอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยิงแพรสีเงินสายหนึ่งออกจากแขนเสื้อ ม้วนรอบกายฉินอวิ๋นตี๋ในทันที จากนั้นก็แบกฉินอวิ๋นตี๋ที่ถูกห่อไว้หลายชั้นขึ้นด้วยมือ ก่อนจะแปลงเป็นแสงสีทองพุ่งทะยานออกไป

ฉินอวิ๋นตี๋พูด “อู้ๆๆ อู้ๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำขี่ปราณเหาะไปอย่างเฉยชา “อย่าดิ้น กลับบ้านกับแม่”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อื้อๆๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเอ่ยนิ่งๆ “วางใจเถอะ จากนี้จะไม่บังคับเจ้ารวมแก่นพลังแล้ว”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ อู้ๆ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่อยากตั้งใจฝึกฝนวิชาอัสนี แม่ก็จะไม่บังคับ แต่กลับยอดเขาบัวทองคำครั้งนี้ แม้จะถ่ายทอดคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลงให้เจ้า เจ้าต้องพยายามฝึกฝนเข้า”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

นัยน์ตาผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฉายประกายแวววาว “เยี่ยหลานอวี่เจ้าตายมานานเช่นนี้แล้ว ให้ข้าเสียดายมาร้อยปี แต่อย่าคิดว่าเจ้าตายแล้วจะตัดสินแพ้ชนะระหว่างเราไม่ได้ ยังมีรุ่นต่อไปอีก!

ลูกแม่ แม่อยากให้เจ้าทุ่มเทฝึกฝนคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลง ทำให้อวิ๋นซีลุ่มหลงให้ได้ เอาชนะบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ นี่คิดความยึดมั่นที่ติดตัวมากับแม่ แม่หวังให้ลูกได้ดี เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ!”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ๆๆ!”

…….

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกับฉินอวิ๋นตี๋จากไปแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเสิ่นเทียนกลางวิหารใหญ่มองตากันไปมาด้วยความตกใจ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า “เทียนเอ๋อร์เพิ่งเข้าฝ่ายเราก็สร้างคุณความดีเช่นนี้แล้ว หาได้ยากจริงๆ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองตามองนักพรตชราข้างๆ ก่อนเอ่ย “มีคุณความดีก็ต้องมีรางวัล เจ้าอยากได้รางวัลอะไรบอกมาได้เลย”

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย ข้าไม่อยากเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านตกลงหรือไม่ เฮ้อ ไม่มีทางหรอก

เสิ่นเทียนคิดๆ แล้วก็พูดไป “อาจารย์ ศิษย์มีพลังบำเพ็ญยังน้อย ยังไม่มีสมบัติป้องกันเลย”

เสิ่นเทียนจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่อันหนึ่ง แข็งแกร่งยิ่ง

หลังใส่พลังวิญญาณเข้าไปมากพอก็อัญเชิญร่างแยกช่วงหลอมรวมเทพออกมาได้

ถ้าอาจารย์ให้สมบัติล้ำค่าแบบนั้นกับข้า จากนี้ไปไหนก็วางใจได้บ้างแล้ว

อะไร ในตัวเสิ่นเทียนมีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไม่ใช่รึ

เหอะๆ ป้ายคำสั่งนั้นใช้หนึ่งครั้งต้องเผาศิลาวิญญาณอย่างน้อยสามถึงห้าพันก้อน อีกทั้งใช้ครั้งหนึ่งแล้ว ต้องใช้หลายชั่วโมงในการดูดกินศิลาวิญญาณใหม่มาฟื้นพลัง

ยามที่เจออันตรายจริงๆ ก็ยังไม่มั่นคงมากพอ

ไปหาอาจารย์ ขอสมบัติป้องกันมาบ้างดีกว่า!

…….

เมื่อได้ฟังคำขอของเสิ่นเทียนแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็พยักหน้า “หาได้ยากที่บุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนระมัดระวังเช่นนี้ ก็ได้!”

พูดจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สะบัดแขนเสื้อเบาๆ แสงสีดำสายหนึ่งยิงออกจากสายฟ้าประกายเซียน มันมาตกตรงหน้าเสิ่นเทียน แสงสีดำค่อยๆ สลายไป เผยรูปลักษณ์จริงอย่างชัดเจน

เสิ่นเทียนพลันทำหน้าเศร้า “เหตุใดเป็นเกราะเต่าดำอีกแล้ว”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “เทียนเอ๋อร์พูดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เกราะเต่าดำ มันเป็นหมวกเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับสูง มูลค่าสูงกว่าเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับกลางสิบเท่า

หลอมจากเปลือกของสัตว์อสูร ‘เต่าอสูรยมโลก’ สามารถต้านการโจมตีของช่วงหลอมรวมเทพ ขอแค่เทียนเอ๋อร์สวมมันไว้ แม้แต่ผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองจะปิดล้อมจู่โจมเจ้า ก็ทำอันตรายเจ้าไม่ได้ทั้งนั้น!”

เสิ่นเทียนมองหมวกเกราะหนักที่เปล่งแสงสีดำอ่อนๆ ตรงหน้าพลางพูดด้วยความขมขื่นอยู่ในใจ “ขอบคุณอาจารย์”

เฮ้อ รับไปแล้วกัน!

ถึงอย่างไรนอกจากเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว ข้าจะไม่สวมหมวกเกราะแบบนี้เด็ดขาด

อะไรนะ ถ้าเจออันตรายถึงชีวิตหรือ

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่…แค่กๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าก่อนจะมอบป้ายคำสั่งสีทองอีกชิ้นให้ “นี่คือป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นป้ายคำสั่งที่ใช้ผ่านทางเข้ายอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

เจ้าถือป้ายคำสั่งนี้ก็จะควบคุมค่ายกลทั้งหมดในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ควบคุมยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ก่อนหน้านี้เจ้ารีบกลับ ตอนนี้อาจารย์จะให้เจ้าไว้ด้วยเลยแล้วกัน!

ถ้าไม่มีเรื่องใดแล้วก็กลับไปหลอมสร้างสมบัติวิเศษเถอะ!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “ศิษย์ขอตัว”

……

เสิ่นเทียนออกไป ในวิหารจึงเหลือเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับนักพรตชราที่รู้เห็นทุกอย่าง

ตอนนี้ทุกคนไปแล้ว นักพรตชราถึงเค้นรอยยิ้มออกมา “แค่กๆ ศิษย์น้องรอง ความจริง…ความจริงการหลอมอัสนีเทพหยินหยางนี่ ศิษย์พี่เองก็ช่วยไปกดตลาดให้ได้นะ

แค่มีศิษย์พี่อยู่ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้อริยะมาโจมตี ก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน! อีกอย่างเจ้าดูสิ บุตรศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงเหมือนกันด้วย คือว่า…ศิษย์พี่ชำนาญการหลอมกายที่สุดมาตั้งแต่แรกแล้วนะ!”

เห็นผู้อาวุโสหัวมรกตทำหน้า ‘เฝ้ารอคอย’ และ ‘กระหาย’ แล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

“ฮิๆๆๆๆ~ ศิษย์พี่ เรียกท่านปู่ให้ฟังก่อนสิ”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 111 เรียกท่านปู่ให้ฟังหน่อย!
“การหลอมสมบัติวิเศษยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางไม่ยาก ข้ากลับไปก็เริ่มสร้างได้เลย”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ว่าข้ามีหนึ่งคำถาม หวังว่าศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จะอธิบายได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้าช้าๆ “ศิษย์น้องหญิงเชิญถามมา”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำชำเลืองตามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แวบหนึ่ง ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจำได้ว่าในบัญญัติบรรพชนฝ่ายเราไม่ได้กำหนดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะต้องตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์! แล้วเหตุใดข้าถึงได้ยินมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์บางท่านในฝ่ายเราใช้นามบัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์ยอมพลีกายให้เขา

กระทั่ง…กระทั่งยังมีข่าวลือว่าเขาทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์แล้ว”

แม้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางจะมีผลประโยชน์พัวพันสูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะขายวิญญาณตัวเอง

สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซีเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตน จะไม่ยอมให้นางโดนเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมเด็ดขาด!

โดยเฉพาะคนที่น้ำลายไหลกับความงามของจางอวิ๋นซี และยังเป็นบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ศัตรูเก่าอีก

ขณะพูดอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาเจ้าเสน่ห์น่าหลงใหล ทว่าคนที่สนิทสนมกับนางจะรู้ว่านี่หมายความว่านางกำลังโกรธจัด

กระทั่งลมหายใจยังกระชั้นขึ้นเล็กน้อย เกิดระลอกคลื่นขึ้นในใจ

พอได้ฟังคำถามของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแล้ว เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อาจารย์อาเข้าใจผิดหรือไม่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำแค่นเสียงขึ้นจมูก “เข้าใจผิดรึ เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ใช้บัญญัติบรรพชนบังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเจ้าน่ะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ข้าเปล่า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำบีบคั้นเสิ่นเทียน พลังโถมเข้าไปดั่งคลื่นลูกใหญ่ “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้ทำลายความบริสุทธิ์ของซีเอ๋อร์”

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก “อันนี้ข้าเปล่าจริงๆ”

พลังของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำช้าลงเล็กน้อย ก่อนจะมองเสิ่นเทียนด้วยความสงสัย “เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้หลงใหลในความงามของนาง”

เสิ่นเทียนรีบส่ายหน้า “ถ้าข้าหลงใหลนาง ขอให้ฟ้าผ่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโมโหแล้ว เส้นผมยาวสีทองปลิวไสวอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าหมายความว่าไม่ได้ถูกใจนางรึ”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาผิดเอง เขาไม่ควรคุยเหตุผลกับผู้หญิง

โดยเฉพาะอาจารย์อาท่านนี้ เหมือนจะเป็นมารดาครึ่งหนึ่งของศิษย์พี่หญิงด้วย

เขาจึงเบนสายตาขอความช่วยเหลือไปหาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ “อาจารย์”

……

เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดังเนิบๆ มาจากกลางสายฟ้าประกายเซียน “เอาล่ะศิษย์น้องหญิง เสิ่นเทียนไม่ได้บังคับให้ซีเอ๋อร์แต่งงานกับเขาจริงๆ อีกทั้งในมุมมองข้า เทียนเอ๋อร์รูปหล่อเช่นนี้ ต่อให้เป็นซีเอ๋อร์เองก็ต้องยินดีแน่”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำทำเสียงขึ้นจมูก “จะเป็นไปได้อย่างไร ซีเอ๋อร์ไม่ชอบการคลุมถุงชนที่สุด สรุป ข้ามีแค่คำพูดเดียว จะมาหารือดีๆ อะไร เรื่องนี้ไม่มีทาง ถึงซีเอ๋อร์จะเป็นบุตรสาวท่าน แต่ข้าก็ดูแลนางมาเหมือนลูกสาวแท้ๆ ภายภาคหน้าซีเอ๋อร์จะยินดีตบแต่งกับใครก็ให้นางเลือกเอง ไม่ว่าใครก็บังคับนางไม่ได้

ถ้าไม่อย่างนั้น แม้ข้าจะยังไม่ก้าวสู่ขอบเขตผู้อริยะ แต่แดนบูรพาก็ต้องมีสหายผู้ยึดมั่นในคุณธรรมยินดีช่วยแน่”

ขณะกล่าวอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกๆ ทีหนึ่ง “ศิษย์พี่ท่านตัดอารมณ์และความปรารถนาไปแล้ว ก็อย่าตัดคุณธรรมไปด้วยเลย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยนิ่งๆ “ศิษย์น้องเอาที่ไหนมาพูด เทียนเอ๋อร์กับซีเอ๋อร์ยังขาวสะอาด หรือว่าไปฟังพวกลูกศิษย์พูดลือกันมั่วซั่วมาล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ต่อให้เป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอพาบุตรชายข้ากลับไปหลอมสมบัติที่ยอดเขาบัวทองคำก่อน”

เอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยิงแพรสีเงินสายหนึ่งออกจากแขนเสื้อ ม้วนรอบกายฉินอวิ๋นตี๋ในทันที จากนั้นก็แบกฉินอวิ๋นตี๋ที่ถูกห่อไว้หลายชั้นขึ้นด้วยมือ ก่อนจะแปลงเป็นแสงสีทองพุ่งทะยานออกไป

ฉินอวิ๋นตี๋พูด “อู้ๆๆ อู้ๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำขี่ปราณเหาะไปอย่างเฉยชา “อย่าดิ้น กลับบ้านกับแม่”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อื้อๆๆๆๆๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเอ่ยนิ่งๆ “วางใจเถอะ จากนี้จะไม่บังคับเจ้ารวมแก่นพลังแล้ว”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ อู้ๆ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่อยากตั้งใจฝึกฝนวิชาอัสนี แม่ก็จะไม่บังคับ แต่กลับยอดเขาบัวทองคำครั้งนี้ แม้จะถ่ายทอดคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลงให้เจ้า เจ้าต้องพยายามฝึกฝนเข้า”

ฉินอวิ๋นตี๋งุนงง

นัยน์ตาผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฉายประกายแวววาว “เยี่ยหลานอวี่เจ้าตายมานานเช่นนี้แล้ว ให้ข้าเสียดายมาร้อยปี แต่อย่าคิดว่าเจ้าตายแล้วจะตัดสินแพ้ชนะระหว่างเราไม่ได้ ยังมีรุ่นต่อไปอีก!

ลูกแม่ แม่อยากให้เจ้าทุ่มเทฝึกฝนคัมภีร์เสน่ห์ฟ้าใหลหลง ทำให้อวิ๋นซีลุ่มหลงให้ได้ เอาชนะบุตรชายของเยี่ยหลานอวี่ นี่คิดความยึดมั่นที่ติดตัวมากับแม่ แม่หวังให้ลูกได้ดี เจ้าอย่าทำให้แม่ผิดหวังนะ!”

ฉินอวิ๋นตี๋ “อู้ๆๆ!”

…….

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำกับฉินอวิ๋นตี๋จากไปแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเสิ่นเทียนกลางวิหารใหญ่มองตากันไปมาด้วยความตกใจ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้า “เทียนเอ๋อร์เพิ่งเข้าฝ่ายเราก็สร้างคุณความดีเช่นนี้แล้ว หาได้ยากจริงๆ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชำเลืองตามองนักพรตชราข้างๆ ก่อนเอ่ย “มีคุณความดีก็ต้องมีรางวัล เจ้าอยากได้รางวัลอะไรบอกมาได้เลย”

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย ข้าไม่อยากเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ท่านตกลงหรือไม่ เฮ้อ ไม่มีทางหรอก

เสิ่นเทียนคิดๆ แล้วก็พูดไป “อาจารย์ ศิษย์มีพลังบำเพ็ญยังน้อย ยังไม่มีสมบัติป้องกันเลย”

เสิ่นเทียนจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมีป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่อันหนึ่ง แข็งแกร่งยิ่ง

หลังใส่พลังวิญญาณเข้าไปมากพอก็อัญเชิญร่างแยกช่วงหลอมรวมเทพออกมาได้

ถ้าอาจารย์ให้สมบัติล้ำค่าแบบนั้นกับข้า จากนี้ไปไหนก็วางใจได้บ้างแล้ว

อะไร ในตัวเสิ่นเทียนมีป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ไม่ใช่รึ

เหอะๆ ป้ายคำสั่งนั้นใช้หนึ่งครั้งต้องเผาศิลาวิญญาณอย่างน้อยสามถึงห้าพันก้อน อีกทั้งใช้ครั้งหนึ่งแล้ว ต้องใช้หลายชั่วโมงในการดูดกินศิลาวิญญาณใหม่มาฟื้นพลัง

ยามที่เจออันตรายจริงๆ ก็ยังไม่มั่นคงมากพอ

ไปหาอาจารย์ ขอสมบัติป้องกันมาบ้างดีกว่า!

…….

เมื่อได้ฟังคำขอของเสิ่นเทียนแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็พยักหน้า “หาได้ยากที่บุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนระมัดระวังเช่นนี้ ก็ได้!”

พูดจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สะบัดแขนเสื้อเบาๆ แสงสีดำสายหนึ่งยิงออกจากสายฟ้าประกายเซียน มันมาตกตรงหน้าเสิ่นเทียน แสงสีดำค่อยๆ สลายไป เผยรูปลักษณ์จริงอย่างชัดเจน

เสิ่นเทียนพลันทำหน้าเศร้า “เหตุใดเป็นเกราะเต่าดำอีกแล้ว”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “เทียนเอ๋อร์พูดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เกราะเต่าดำ มันเป็นหมวกเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับสูง มูลค่าสูงกว่าเกราะเต่าดำสมบัติวิญญาณระดับกลางสิบเท่า

หลอมจากเปลือกของสัตว์อสูร ‘เต่าอสูรยมโลก’ สามารถต้านการโจมตีของช่วงหลอมรวมเทพ ขอแค่เทียนเอ๋อร์สวมมันไว้ แม้แต่ผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองจะปิดล้อมจู่โจมเจ้า ก็ทำอันตรายเจ้าไม่ได้ทั้งนั้น!”

เสิ่นเทียนมองหมวกเกราะหนักที่เปล่งแสงสีดำอ่อนๆ ตรงหน้าพลางพูดด้วยความขมขื่นอยู่ในใจ “ขอบคุณอาจารย์”

เฮ้อ รับไปแล้วกัน!

ถึงอย่างไรนอกจากเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว ข้าจะไม่สวมหมวกเกราะแบบนี้เด็ดขาด

อะไรนะ ถ้าเจออันตรายถึงชีวิตหรือ

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่…แค่กๆ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าก่อนจะมอบป้ายคำสั่งสีทองอีกชิ้นให้ “นี่คือป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นป้ายคำสั่งที่ใช้ผ่านทางเข้ายอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

เจ้าถือป้ายคำสั่งนี้ก็จะควบคุมค่ายกลทั้งหมดในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ควบคุมยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้ ก่อนหน้านี้เจ้ารีบกลับ ตอนนี้อาจารย์จะให้เจ้าไว้ด้วยเลยแล้วกัน!

ถ้าไม่มีเรื่องใดแล้วก็กลับไปหลอมสร้างสมบัติวิเศษเถอะ!”

เสิ่นเทียนพยักหน้า “ศิษย์ขอตัว”

……

เสิ่นเทียนออกไป ในวิหารจึงเหลือเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับนักพรตชราที่รู้เห็นทุกอย่าง

ตอนนี้ทุกคนไปแล้ว นักพรตชราถึงเค้นรอยยิ้มออกมา “แค่กๆ ศิษย์น้องรอง ความจริง…ความจริงการหลอมอัสนีเทพหยินหยางนี่ ศิษย์พี่เองก็ช่วยไปกดตลาดให้ได้นะ

แค่มีศิษย์พี่อยู่ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับผู้อริยะมาโจมตี ก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน! อีกอย่างเจ้าดูสิ บุตรศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงเหมือนกันด้วย คือว่า…ศิษย์พี่ชำนาญการหลอมกายที่สุดมาตั้งแต่แรกแล้วนะ!”

เห็นผู้อาวุโสหัวมรกตทำหน้า ‘เฝ้ารอคอย’ และ ‘กระหาย’ แล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง

“ฮิๆๆๆๆ~ ศิษย์พี่ เรียกท่านปู่ให้ฟังก่อนสิ”

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+