บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

ร่างมายาของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองยังบุตรพุทธะขู่ตัว

ในใจเขายิ่งคิดยิ่งปวดร้าว ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว เด็กหนุ่มหล่อเหลาเช่นนี้กลับไม่ออกบวช!

ขอพูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็อยากจะบังคับให้เสิ่นเทียนเข้าฝ่ายพุทธ

แน่นอน แม้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะปวดร้าวในใจมาก แต่ภายนอกก็ยังรักษามาดยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ราวกับพระพุทธแท้จริง!

เขามองบุตรพุทธะขู่ตัวอย่างสงบนิ่ง “ขู่ตัว ในเมื่อศิษย์หลานฟางฉางไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าก็กลับมาได้แล้ว!”

ขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวลง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ได้พบกับฟางฉางมานานมากแล้ว ขอเป็นแขกที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สักสองสามวัน ค่อยกลับไปช้าหน่อยไม่ได้รึ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม ยิ้มเมตตาอย่างยิ่ง “เจ้ายังมีพุทธคัมภีร์ที่ยังคัดไม่เสร็จ ขู่ตัว ต้องรู้นะว่า ‘กายเหมือนต้นโพธิ์ ใจดั่งแท่นกระจกใส หมั่นปัดถูบ่อยๆ จึงไม่มีฝุ่น’เจ้าคือบุตรพุทธะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี แบกภาระหน้าที่ในการเผยแพร่พุทธศาสนา และยิ่งต้องรักษาตัวกว่า ห้ามเกียจคร้านเด็ดขาด!

ส่วนเรื่องคุยกัน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบ”

เมื่อได้ฟังเจ้าพุทธะเสียงอัสนีพูดบ่นสั่งสอนแล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวยิ่งกว่าเดิม “ขอรับ ศิษย์เข้าใจ!”

เขาหมุนตัวมามองฟางฉางด้วยความอาลัยอาวรณ์ “ถ้าอย่างนั้นฟางฉาง ครั้งหน้าค่อยพบกันใหม่”

ประกายแสงพุทธบนผิวกายเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกระเพื่อมเบาๆ จิตใจแห่งพุทธะกำลังลุกโชตช่วง ร่างเขาหายไปช้าๆ ไม่อยากมองต่อไปแล้ว

ศิษย์ดีๆ ดันเป็นศิษย์คนอื่น ความรู้สึกนี้มันแย่มากจริงๆ

ประกายแสงลูกประคำหายไปช้าๆ ร่างเงาพุทธะของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับภาพปรากฏการณ์ก็สลายไปอย่างช้าๆ เช่นกัน

เหลือไว้เพียงเสียงที่ยังดังเลือนรางบนยอดเขาบัวขาว “สหายหลงหยวน อาตมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีสติปัญญาไม่เบา หากสนใจ ภายภาคหน้าก็มาตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ฝ่ายข้าได้ บางทีอาจจะได้อะไรไปบ้าง”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีเพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังมาจากโดยรอบ เพราะต้นโพธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

นั่นคือต้นไม้สูงสุดของฝ่ายพุทธที่ย้ายมาปลูกจากส่วนลึกที่สุดของฝ่ายพุทธในแดนทะเลทรายประจิม เล่าลือว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เบิกปัญญานานแล้ว เป็นต้นไม้ล้ำค่าสูงสุดอันดับสิบในรายนามไม้วิญญาณ

หากได้นั่งตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ การตระหนักรู้จะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว ฝึกฝนวิชาใดจะได้รับการปลุกเสก

เล่าลือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีเคยมีเจ้าพุทธะรุ่นหนึ่งตระหนักรู้ใต้ต้นไม้นี้เจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายเขาตระหนักรู้มหาคัมภีร์แท้จริงเสียงอัสนี จนสำเร็จอรหันต์ได้ในทันที!

ยุคนั้นเป็นยุคที่แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีรุ่งเรืองที่สุด!

และต้นโพธิ์ก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี เป็นที่เลื่อมใสอย่างยิ่ง

ปกติมีเพียงเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับบุตรพุทธะที่มีสิทธิ์ตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์

ไม่นึกเลยว่าวันนี้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีแค่มองเสิ่นเทียนแวบเดียวก็รับปากให้สิ่งยั่วยวนเช่นนี้

ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงความชื่นชมที่เขามีต่อเสิ่นเทียน

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

เทียนซิ่วหนอเทียนซิ่ว ขุดมุมกำแพงบ้านข้าต่อหน้าข้าเลยหรือ

เหอะๆ ไม่คิดหน่อยหรือว่าเจ้ามีลูกสาวหรือไม่

……

บุตรพุทธะขู่ตัวอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังเอ่ยลาไป

ถึงอย่างไรถ้ารีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์อาจจะได้คัดพุทธคัมภีร์แค่พันจบ แต่ถ้าถูกกฎของแดนศักดิ์สิทธิ์พากลับไป เกรงว่าคงเพิ่มเป็นหมื่นจบ

เขาบอกลาฟางฉางก่อนเดินมาหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาไม่น้อยเลย อาตมาจะแบ่งให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องในแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีตามที่เจ้าบอก

อีกทั้งอาตมาจะขอให้พวกเขาสวดมนต์อวยพรให้เจ้าด้วย แน่นอน อาตมาไม่ชอบสวดมนต์ก็ไม่สวดนะ”

เมื่อเห็นเจ้าซื่อบื้อตรงหน้าแล้ว เสิ่นเทียนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่นิดๆ

อนาถามาก ออกมาหาสหายได้เที่ยวเล่นนานเท่าไรเอง ก็ต้องกลับบ้านไปทำการบ้านแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดึงบุตรพุทธะขู่ตัวไปข้างๆ “ศิษย์พี่ขู่ตัว แซ่เสิ่นจะให้กลอนเจ้าบทหนึ่ง เจ้ากลับไปพูดให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีฟัง เขาฟังจบบางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องคัดคัมภีร์แล้ว”

ขู่ตัวตาเป็นประกายแล้ว “จริงรึ? บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าหลอกข้านะ”

เสิ่นเทียนเอ่ย “แต่แซ่เสิ่นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะได้ผลหรือไม่”

ขู่ตัวพูดด้วยความดีใจ “ลองดูเถอะ! ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรเสียหาย”

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนพูดเสียงเบา “แต่เจ้าต้องรับปากว่าห้ามบอกว่าข้าบอกมา”

ขู่ตัวมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมา “แต่ถ้าอาจารย์ถามจะทำอย่างไร นักบวชไม่โกหกนะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ศิษย์พี่กลับไปคัดคัมภีร์แล้วกัน!”

บุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าแน่วแน่ขึ้นมาทันที “นักบวชไม่คำนึงพิธีรีตองเล็กๆ! บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน อาตมาบอกว่าฝันเห็นเอาก็ได้”

เสิ่นเทียนยิ้มปลื้มใจ นักบวชนี่ดูไปก็ไม่โง่เหมือนกันนี่!

เขากระตุ้นพลังจิตให้ส่งข้อมูลจำนวนหนึ่งเข้าไปในความคิดบุตรพุทธะขู่ตัว ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

เพราะใครจะไปรู้ว่าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีได้ยินบทสวดนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าตระหนักได้ก็ดี เช่นนั้นระดับพลังของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะสูงขึ้น ก็น่าจะให้รางวัลบุตรพุทธะขู่ตัว

ดังนั้นแล้ว เสิ่นเทียนกับขู่ตัวจะถือว่าได้ผูกวาสนาดีต่อกัน

แต่ถ้าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีคิดว่านี่เป็นคำสอนนอกรีตจะทำอย่างไร ข้าก็ไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

ถึงอย่างไรข้าก็มอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าแล้ว ออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปบทสวดนี่ก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว

เจ้าจะแอบเก็บไว้ก็ดี จะบอกเจ้าพุทธะเสียงอัสนีก็ดี เลือกเองเลย

ในพลังจิตที่เสิ่นเทียนส่งให้บุตรพุทธะขู่ตัวมีคำแถลงการณ์โยนความผิดมาก่อน หลังจากยอมรับคำแถลงการณ์รับผิดชอบที่มีหลายร้อยตัวอักษรแล้วถึงจะเป็นบทสวดพุทธะ

บุตรพุทธะขู่ตัวเหม่อมองคำแถลงการณ์รับผิดชอบมากมายนั้น ก็รู้สึกหนักศีรษะขึ้นหลายส่วน

จนในที่สุดเขาก็ยืนหยัดมาถึงบทสวดพุทธนั้น

บทสวดโพธิ์

เดิมทีโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

พุทธะใสสะอาดไม่แปรเปลี่ยน จะมีธุลีขึ้นที่ใด!

กายคือต้นโพธิ์ ใจคือฐานกระจกใส

กระจกใสเดิมทีสะอาด จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

เดิมทีต้นโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

เดิมทีไร้สรรพสิ่ง จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

ต้นโพธิ์เสาะหาเพียงหัวใจ ไฉนต้องเหน็ดเหนื่อยแสวงหาความลึกลับข้างนอก

เล่าลือว่าหากฝึกฝนตามนี้ แดนตะวันตกจะอยู่แค่ตรงหน้า!

…….

ซี้ด~!

สุดยอด บทสวดพุทธนี่สุดยอดเลย! สุดยอดมาก! สุดยอดที่สุด!

เมื่ออ่านบทสวดพุทธบทนี้จบ บุตรพุทธะขู่ตัวรู้สึกว่าทั้งหัวใจแห่งพุทธได้รับการชะล้าง เมื่อก่อนเขาก็เคยอ่านบทสวดพุทธมามากมาย ยังรู้สึกว่าเละเทะไปหมด อ่านแล้วรู้สึกเล่นคำมากไป

อย่าว่าแต่เข้าใจหลักการพุทธในนั้นเลย แม้แต่อ่านยังลิ้นพันกันไม่หยุด

แต่บทสวดพุทธที่บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนให้ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

แม้บุตรพุทธะขู่ตัวจะยังไม่เข้าใจเลยก็ตาม แต่อ่านแล้วไม่มีติดขัดเลย!

ทั้งยังคุมท่วงทำนองได้!

อืม บทสวดพุทธดีเช่นนี้ จะต้องไปพูดให้อาจารย์ฟัง

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวก็รีบเอ่ยลาทุกคนไป เขาจะรีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีแล้วมอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนี

ในใจบุตรพุทธะขู่ตัวกอดความปรารถนาอันงดงามที่จากนี้ไม่ต้องคัดคัมภีร์พุทธเอาไว้ เกิดความเฝ้ารอคอยอยู่เต็มอก

ทางด้านเสิ่นเทียนกลับมองไปทางที่บุตรพุทธะขู่ตัวจากไปพลางแอบอวยพรให้เงียบๆ

วงรัศมีเหนือศีรษะของเจ้าซื่อบื้อนี่สว่างมาก คนโง่ก็มีโชคของคนโง่อยู่

มอบบทสวดพุทธะโพธิ์ให้เขาก็น่าจะไม่เป็นอะไร

ถึงอย่างไรพยัคฆ์ร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง

เขาคือบุตรพุทธะนะ!

…….

บุตรพุทธะขู่ตัวไปแล้ว ยอดเขาบัวขาวไม่มีคนนอกอีก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนด้วยความชื่นชม สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “เทียนเอ๋อร์ เจ้าตามข้าไปยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้า”

มีเรื่องจะไหว้วานข้ารึ

เรื่องอะไร เรื่องใหญ่ทั้งชีวิตของบุตรสาวท่านรึ

หืม เหตุใดข้าถึงคิดไปทางนั้นกัน!

หญิงแกร่งชายอ่อนแอมันอนาถจะตาย!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

ร่างมายาของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองยังบุตรพุทธะขู่ตัว

ในใจเขายิ่งคิดยิ่งปวดร้าว ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว เด็กหนุ่มหล่อเหลาเช่นนี้กลับไม่ออกบวช!

ขอพูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็อยากจะบังคับให้เสิ่นเทียนเข้าฝ่ายพุทธ

แน่นอน แม้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะปวดร้าวในใจมาก แต่ภายนอกก็ยังรักษามาดยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ราวกับพระพุทธแท้จริง!

เขามองบุตรพุทธะขู่ตัวอย่างสงบนิ่ง “ขู่ตัว ในเมื่อศิษย์หลานฟางฉางไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าก็กลับมาได้แล้ว!”

ขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวลง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ได้พบกับฟางฉางมานานมากแล้ว ขอเป็นแขกที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สักสองสามวัน ค่อยกลับไปช้าหน่อยไม่ได้รึ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม ยิ้มเมตตาอย่างยิ่ง “เจ้ายังมีพุทธคัมภีร์ที่ยังคัดไม่เสร็จ ขู่ตัว ต้องรู้นะว่า ‘กายเหมือนต้นโพธิ์ ใจดั่งแท่นกระจกใส หมั่นปัดถูบ่อยๆ จึงไม่มีฝุ่น’เจ้าคือบุตรพุทธะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี แบกภาระหน้าที่ในการเผยแพร่พุทธศาสนา และยิ่งต้องรักษาตัวกว่า ห้ามเกียจคร้านเด็ดขาด!

ส่วนเรื่องคุยกัน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบ”

เมื่อได้ฟังเจ้าพุทธะเสียงอัสนีพูดบ่นสั่งสอนแล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวยิ่งกว่าเดิม “ขอรับ ศิษย์เข้าใจ!”

เขาหมุนตัวมามองฟางฉางด้วยความอาลัยอาวรณ์ “ถ้าอย่างนั้นฟางฉาง ครั้งหน้าค่อยพบกันใหม่”

ประกายแสงพุทธบนผิวกายเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกระเพื่อมเบาๆ จิตใจแห่งพุทธะกำลังลุกโชตช่วง ร่างเขาหายไปช้าๆ ไม่อยากมองต่อไปแล้ว

ศิษย์ดีๆ ดันเป็นศิษย์คนอื่น ความรู้สึกนี้มันแย่มากจริงๆ

ประกายแสงลูกประคำหายไปช้าๆ ร่างเงาพุทธะของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับภาพปรากฏการณ์ก็สลายไปอย่างช้าๆ เช่นกัน

เหลือไว้เพียงเสียงที่ยังดังเลือนรางบนยอดเขาบัวขาว “สหายหลงหยวน อาตมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีสติปัญญาไม่เบา หากสนใจ ภายภาคหน้าก็มาตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ฝ่ายข้าได้ บางทีอาจจะได้อะไรไปบ้าง”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีเพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังมาจากโดยรอบ เพราะต้นโพธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

นั่นคือต้นไม้สูงสุดของฝ่ายพุทธที่ย้ายมาปลูกจากส่วนลึกที่สุดของฝ่ายพุทธในแดนทะเลทรายประจิม เล่าลือว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เบิกปัญญานานแล้ว เป็นต้นไม้ล้ำค่าสูงสุดอันดับสิบในรายนามไม้วิญญาณ

หากได้นั่งตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ การตระหนักรู้จะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว ฝึกฝนวิชาใดจะได้รับการปลุกเสก

เล่าลือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีเคยมีเจ้าพุทธะรุ่นหนึ่งตระหนักรู้ใต้ต้นไม้นี้เจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายเขาตระหนักรู้มหาคัมภีร์แท้จริงเสียงอัสนี จนสำเร็จอรหันต์ได้ในทันที!

ยุคนั้นเป็นยุคที่แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีรุ่งเรืองที่สุด!

และต้นโพธิ์ก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี เป็นที่เลื่อมใสอย่างยิ่ง

ปกติมีเพียงเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับบุตรพุทธะที่มีสิทธิ์ตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์

ไม่นึกเลยว่าวันนี้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีแค่มองเสิ่นเทียนแวบเดียวก็รับปากให้สิ่งยั่วยวนเช่นนี้

ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงความชื่นชมที่เขามีต่อเสิ่นเทียน

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

เทียนซิ่วหนอเทียนซิ่ว ขุดมุมกำแพงบ้านข้าต่อหน้าข้าเลยหรือ

เหอะๆ ไม่คิดหน่อยหรือว่าเจ้ามีลูกสาวหรือไม่

……

บุตรพุทธะขู่ตัวอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังเอ่ยลาไป

ถึงอย่างไรถ้ารีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์อาจจะได้คัดพุทธคัมภีร์แค่พันจบ แต่ถ้าถูกกฎของแดนศักดิ์สิทธิ์พากลับไป เกรงว่าคงเพิ่มเป็นหมื่นจบ

เขาบอกลาฟางฉางก่อนเดินมาหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาไม่น้อยเลย อาตมาจะแบ่งให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องในแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีตามที่เจ้าบอก

อีกทั้งอาตมาจะขอให้พวกเขาสวดมนต์อวยพรให้เจ้าด้วย แน่นอน อาตมาไม่ชอบสวดมนต์ก็ไม่สวดนะ”

เมื่อเห็นเจ้าซื่อบื้อตรงหน้าแล้ว เสิ่นเทียนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่นิดๆ

อนาถามาก ออกมาหาสหายได้เที่ยวเล่นนานเท่าไรเอง ก็ต้องกลับบ้านไปทำการบ้านแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดึงบุตรพุทธะขู่ตัวไปข้างๆ “ศิษย์พี่ขู่ตัว แซ่เสิ่นจะให้กลอนเจ้าบทหนึ่ง เจ้ากลับไปพูดให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีฟัง เขาฟังจบบางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องคัดคัมภีร์แล้ว”

ขู่ตัวตาเป็นประกายแล้ว “จริงรึ? บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าหลอกข้านะ”

เสิ่นเทียนเอ่ย “แต่แซ่เสิ่นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะได้ผลหรือไม่”

ขู่ตัวพูดด้วยความดีใจ “ลองดูเถอะ! ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรเสียหาย”

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนพูดเสียงเบา “แต่เจ้าต้องรับปากว่าห้ามบอกว่าข้าบอกมา”

ขู่ตัวมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมา “แต่ถ้าอาจารย์ถามจะทำอย่างไร นักบวชไม่โกหกนะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ศิษย์พี่กลับไปคัดคัมภีร์แล้วกัน!”

บุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าแน่วแน่ขึ้นมาทันที “นักบวชไม่คำนึงพิธีรีตองเล็กๆ! บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน อาตมาบอกว่าฝันเห็นเอาก็ได้”

เสิ่นเทียนยิ้มปลื้มใจ นักบวชนี่ดูไปก็ไม่โง่เหมือนกันนี่!

เขากระตุ้นพลังจิตให้ส่งข้อมูลจำนวนหนึ่งเข้าไปในความคิดบุตรพุทธะขู่ตัว ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

เพราะใครจะไปรู้ว่าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีได้ยินบทสวดนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าตระหนักได้ก็ดี เช่นนั้นระดับพลังของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะสูงขึ้น ก็น่าจะให้รางวัลบุตรพุทธะขู่ตัว

ดังนั้นแล้ว เสิ่นเทียนกับขู่ตัวจะถือว่าได้ผูกวาสนาดีต่อกัน

แต่ถ้าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีคิดว่านี่เป็นคำสอนนอกรีตจะทำอย่างไร ข้าก็ไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

ถึงอย่างไรข้าก็มอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าแล้ว ออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปบทสวดนี่ก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว

เจ้าจะแอบเก็บไว้ก็ดี จะบอกเจ้าพุทธะเสียงอัสนีก็ดี เลือกเองเลย

ในพลังจิตที่เสิ่นเทียนส่งให้บุตรพุทธะขู่ตัวมีคำแถลงการณ์โยนความผิดมาก่อน หลังจากยอมรับคำแถลงการณ์รับผิดชอบที่มีหลายร้อยตัวอักษรแล้วถึงจะเป็นบทสวดพุทธะ

บุตรพุทธะขู่ตัวเหม่อมองคำแถลงการณ์รับผิดชอบมากมายนั้น ก็รู้สึกหนักศีรษะขึ้นหลายส่วน

จนในที่สุดเขาก็ยืนหยัดมาถึงบทสวดพุทธนั้น

บทสวดโพธิ์

เดิมทีโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

พุทธะใสสะอาดไม่แปรเปลี่ยน จะมีธุลีขึ้นที่ใด!

กายคือต้นโพธิ์ ใจคือฐานกระจกใส

กระจกใสเดิมทีสะอาด จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

เดิมทีต้นโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

เดิมทีไร้สรรพสิ่ง จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

ต้นโพธิ์เสาะหาเพียงหัวใจ ไฉนต้องเหน็ดเหนื่อยแสวงหาความลึกลับข้างนอก

เล่าลือว่าหากฝึกฝนตามนี้ แดนตะวันตกจะอยู่แค่ตรงหน้า!

…….

ซี้ด~!

สุดยอด บทสวดพุทธนี่สุดยอดเลย! สุดยอดมาก! สุดยอดที่สุด!

เมื่ออ่านบทสวดพุทธบทนี้จบ บุตรพุทธะขู่ตัวรู้สึกว่าทั้งหัวใจแห่งพุทธได้รับการชะล้าง เมื่อก่อนเขาก็เคยอ่านบทสวดพุทธมามากมาย ยังรู้สึกว่าเละเทะไปหมด อ่านแล้วรู้สึกเล่นคำมากไป

อย่าว่าแต่เข้าใจหลักการพุทธในนั้นเลย แม้แต่อ่านยังลิ้นพันกันไม่หยุด

แต่บทสวดพุทธที่บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนให้ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

แม้บุตรพุทธะขู่ตัวจะยังไม่เข้าใจเลยก็ตาม แต่อ่านแล้วไม่มีติดขัดเลย!

ทั้งยังคุมท่วงทำนองได้!

อืม บทสวดพุทธดีเช่นนี้ จะต้องไปพูดให้อาจารย์ฟัง

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวก็รีบเอ่ยลาทุกคนไป เขาจะรีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีแล้วมอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนี

ในใจบุตรพุทธะขู่ตัวกอดความปรารถนาอันงดงามที่จากนี้ไม่ต้องคัดคัมภีร์พุทธเอาไว้ เกิดความเฝ้ารอคอยอยู่เต็มอก

ทางด้านเสิ่นเทียนกลับมองไปทางที่บุตรพุทธะขู่ตัวจากไปพลางแอบอวยพรให้เงียบๆ

วงรัศมีเหนือศีรษะของเจ้าซื่อบื้อนี่สว่างมาก คนโง่ก็มีโชคของคนโง่อยู่

มอบบทสวดพุทธะโพธิ์ให้เขาก็น่าจะไม่เป็นอะไร

ถึงอย่างไรพยัคฆ์ร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง

เขาคือบุตรพุทธะนะ!

…….

บุตรพุทธะขู่ตัวไปแล้ว ยอดเขาบัวขาวไม่มีคนนอกอีก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนด้วยความชื่นชม สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “เทียนเอ๋อร์ เจ้าตามข้าไปยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้า”

มีเรื่องจะไหว้วานข้ารึ

เรื่องอะไร เรื่องใหญ่ทั้งชีวิตของบุตรสาวท่านรึ

หืม เหตุใดข้าถึงคิดไปทางนั้นกัน!

หญิงแกร่งชายอ่อนแอมันอนาถจะตาย!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 177 บทสวดพุทธะโพธิ์ที่ไม่ต้องรับผิดชอบ

ร่างมายาของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองยังบุตรพุทธะขู่ตัว

ในใจเขายิ่งคิดยิ่งปวดร้าว ยิ่งคิดยิ่งปวดร้าว เด็กหนุ่มหล่อเหลาเช่นนี้กลับไม่ออกบวช!

ขอพูดความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในยี่สิบแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาก็อยากจะบังคับให้เสิ่นเทียนเข้าฝ่ายพุทธ

แน่นอน แม้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะปวดร้าวในใจมาก แต่ภายนอกก็ยังรักษามาดยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ราวกับพระพุทธแท้จริง!

เขามองบุตรพุทธะขู่ตัวอย่างสงบนิ่ง “ขู่ตัว ในเมื่อศิษย์หลานฟางฉางไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าก็กลับมาได้แล้ว!”

ขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวลง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ได้พบกับฟางฉางมานานมากแล้ว ขอเป็นแขกที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สักสองสามวัน ค่อยกลับไปช้าหน่อยไม่ได้รึ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม ยิ้มเมตตาอย่างยิ่ง “เจ้ายังมีพุทธคัมภีร์ที่ยังคัดไม่เสร็จ ขู่ตัว ต้องรู้นะว่า ‘กายเหมือนต้นโพธิ์ ใจดั่งแท่นกระจกใส หมั่นปัดถูบ่อยๆ จึงไม่มีฝุ่น’เจ้าคือบุตรพุทธะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี แบกภาระหน้าที่ในการเผยแพร่พุทธศาสนา และยิ่งต้องรักษาตัวกว่า ห้ามเกียจคร้านเด็ดขาด!

ส่วนเรื่องคุยกัน วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบ”

เมื่อได้ฟังเจ้าพุทธะเสียงอัสนีพูดบ่นสั่งสอนแล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวหน้าห่อเหี่ยวยิ่งกว่าเดิม “ขอรับ ศิษย์เข้าใจ!”

เขาหมุนตัวมามองฟางฉางด้วยความอาลัยอาวรณ์ “ถ้าอย่างนั้นฟางฉาง ครั้งหน้าค่อยพบกันใหม่”

ประกายแสงพุทธบนผิวกายเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกระเพื่อมเบาๆ จิตใจแห่งพุทธะกำลังลุกโชตช่วง ร่างเขาหายไปช้าๆ ไม่อยากมองต่อไปแล้ว

ศิษย์ดีๆ ดันเป็นศิษย์คนอื่น ความรู้สึกนี้มันแย่มากจริงๆ

ประกายแสงลูกประคำหายไปช้าๆ ร่างเงาพุทธะของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับภาพปรากฏการณ์ก็สลายไปอย่างช้าๆ เช่นกัน

เหลือไว้เพียงเสียงที่ยังดังเลือนรางบนยอดเขาบัวขาว “สหายหลงหยวน อาตมาว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีสติปัญญาไม่เบา หากสนใจ ภายภาคหน้าก็มาตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ฝ่ายข้าได้ บางทีอาจจะได้อะไรไปบ้าง”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีเพิ่งพูดจบก็ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังมาจากโดยรอบ เพราะต้นโพธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

นั่นคือต้นไม้สูงสุดของฝ่ายพุทธที่ย้ายมาปลูกจากส่วนลึกที่สุดของฝ่ายพุทธในแดนทะเลทรายประจิม เล่าลือว่าต้นโพธิ์ต้นนี้เบิกปัญญานานแล้ว เป็นต้นไม้ล้ำค่าสูงสุดอันดับสิบในรายนามไม้วิญญาณ

หากได้นั่งตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์ การตระหนักรู้จะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว ฝึกฝนวิชาใดจะได้รับการปลุกเสก

เล่าลือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีเคยมีเจ้าพุทธะรุ่นหนึ่งตระหนักรู้ใต้ต้นไม้นี้เจ็ดวันเจ็ดคืน สุดท้ายเขาตระหนักรู้มหาคัมภีร์แท้จริงเสียงอัสนี จนสำเร็จอรหันต์ได้ในทันที!

ยุคนั้นเป็นยุคที่แดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีรุ่งเรืองที่สุด!

และต้นโพธิ์ก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนี เป็นที่เลื่อมใสอย่างยิ่ง

ปกติมีเพียงเจ้าพุทธะเสียงอัสนีกับบุตรพุทธะที่มีสิทธิ์ตระหนักมรรคใต้ต้นโพธิ์

ไม่นึกเลยว่าวันนี้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีแค่มองเสิ่นเทียนแวบเดียวก็รับปากให้สิ่งยั่วยวนเช่นนี้

ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงความชื่นชมที่เขามีต่อเสิ่นเทียน

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

เทียนซิ่วหนอเทียนซิ่ว ขุดมุมกำแพงบ้านข้าต่อหน้าข้าเลยหรือ

เหอะๆ ไม่คิดหน่อยหรือว่าเจ้ามีลูกสาวหรือไม่

……

บุตรพุทธะขู่ตัวอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ยังเอ่ยลาไป

ถึงอย่างไรถ้ารีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์อาจจะได้คัดพุทธคัมภีร์แค่พันจบ แต่ถ้าถูกกฎของแดนศักดิ์สิทธิ์พากลับไป เกรงว่าคงเพิ่มเป็นหมื่นจบ

เขาบอกลาฟางฉางก่อนเดินมาหน้าเสิ่นเทียน “บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน เจ้าให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาไม่น้อยเลย อาตมาจะแบ่งให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องในแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีตามที่เจ้าบอก

อีกทั้งอาตมาจะขอให้พวกเขาสวดมนต์อวยพรให้เจ้าด้วย แน่นอน อาตมาไม่ชอบสวดมนต์ก็ไม่สวดนะ”

เมื่อเห็นเจ้าซื่อบื้อตรงหน้าแล้ว เสิ่นเทียนกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่นิดๆ

อนาถามาก ออกมาหาสหายได้เที่ยวเล่นนานเท่าไรเอง ก็ต้องกลับบ้านไปทำการบ้านแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนก็ดึงบุตรพุทธะขู่ตัวไปข้างๆ “ศิษย์พี่ขู่ตัว แซ่เสิ่นจะให้กลอนเจ้าบทหนึ่ง เจ้ากลับไปพูดให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนีฟัง เขาฟังจบบางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องคัดคัมภีร์แล้ว”

ขู่ตัวตาเป็นประกายแล้ว “จริงรึ? บุตรศักดิ์สิทธิ์อย่าหลอกข้านะ”

เสิ่นเทียนเอ่ย “แต่แซ่เสิ่นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะได้ผลหรือไม่”

ขู่ตัวพูดด้วยความดีใจ “ลองดูเถอะ! ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรเสียหาย”

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนพูดเสียงเบา “แต่เจ้าต้องรับปากว่าห้ามบอกว่าข้าบอกมา”

ขู่ตัวมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมา “แต่ถ้าอาจารย์ถามจะทำอย่างไร นักบวชไม่โกหกนะ”

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถอะ ศิษย์พี่กลับไปคัดคัมภีร์แล้วกัน!”

บุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าแน่วแน่ขึ้นมาทันที “นักบวชไม่คำนึงพิธีรีตองเล็กๆ! บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียน อาตมาบอกว่าฝันเห็นเอาก็ได้”

เสิ่นเทียนยิ้มปลื้มใจ นักบวชนี่ดูไปก็ไม่โง่เหมือนกันนี่!

เขากระตุ้นพลังจิตให้ส่งข้อมูลจำนวนหนึ่งเข้าไปในความคิดบุตรพุทธะขู่ตัว ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ

เพราะใครจะไปรู้ว่าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีได้ยินบทสวดนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าตระหนักได้ก็ดี เช่นนั้นระดับพลังของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะสูงขึ้น ก็น่าจะให้รางวัลบุตรพุทธะขู่ตัว

ดังนั้นแล้ว เสิ่นเทียนกับขู่ตัวจะถือว่าได้ผูกวาสนาดีต่อกัน

แต่ถ้าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีคิดว่านี่เป็นคำสอนนอกรีตจะทำอย่างไร ข้าก็ไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

ถึงอย่างไรข้าก็มอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าแล้ว ออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปบทสวดนี่ก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว

เจ้าจะแอบเก็บไว้ก็ดี จะบอกเจ้าพุทธะเสียงอัสนีก็ดี เลือกเองเลย

ในพลังจิตที่เสิ่นเทียนส่งให้บุตรพุทธะขู่ตัวมีคำแถลงการณ์โยนความผิดมาก่อน หลังจากยอมรับคำแถลงการณ์รับผิดชอบที่มีหลายร้อยตัวอักษรแล้วถึงจะเป็นบทสวดพุทธะ

บุตรพุทธะขู่ตัวเหม่อมองคำแถลงการณ์รับผิดชอบมากมายนั้น ก็รู้สึกหนักศีรษะขึ้นหลายส่วน

จนในที่สุดเขาก็ยืนหยัดมาถึงบทสวดพุทธนั้น

บทสวดโพธิ์

เดิมทีโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

พุทธะใสสะอาดไม่แปรเปลี่ยน จะมีธุลีขึ้นที่ใด!

กายคือต้นโพธิ์ ใจคือฐานกระจกใส

กระจกใสเดิมทีสะอาด จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

เดิมทีต้นโพธิ์ไร้ต้น กระจกใสไร้ฐาน

เดิมทีไร้สรรพสิ่ง จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด!

ต้นโพธิ์เสาะหาเพียงหัวใจ ไฉนต้องเหน็ดเหนื่อยแสวงหาความลึกลับข้างนอก

เล่าลือว่าหากฝึกฝนตามนี้ แดนตะวันตกจะอยู่แค่ตรงหน้า!

…….

ซี้ด~!

สุดยอด บทสวดพุทธนี่สุดยอดเลย! สุดยอดมาก! สุดยอดที่สุด!

เมื่ออ่านบทสวดพุทธบทนี้จบ บุตรพุทธะขู่ตัวรู้สึกว่าทั้งหัวใจแห่งพุทธได้รับการชะล้าง เมื่อก่อนเขาก็เคยอ่านบทสวดพุทธมามากมาย ยังรู้สึกว่าเละเทะไปหมด อ่านแล้วรู้สึกเล่นคำมากไป

อย่าว่าแต่เข้าใจหลักการพุทธในนั้นเลย แม้แต่อ่านยังลิ้นพันกันไม่หยุด

แต่บทสวดพุทธที่บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนให้ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

แม้บุตรพุทธะขู่ตัวจะยังไม่เข้าใจเลยก็ตาม แต่อ่านแล้วไม่มีติดขัดเลย!

ทั้งยังคุมท่วงทำนองได้!

อืม บทสวดพุทธดีเช่นนี้ จะต้องไปพูดให้อาจารย์ฟัง

เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวก็รีบเอ่ยลาทุกคนไป เขาจะรีบกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีแล้วมอบบทสวดพุทธนี้ให้เจ้าพุทธะเสียงอัสนี

ในใจบุตรพุทธะขู่ตัวกอดความปรารถนาอันงดงามที่จากนี้ไม่ต้องคัดคัมภีร์พุทธเอาไว้ เกิดความเฝ้ารอคอยอยู่เต็มอก

ทางด้านเสิ่นเทียนกลับมองไปทางที่บุตรพุทธะขู่ตัวจากไปพลางแอบอวยพรให้เงียบๆ

วงรัศมีเหนือศีรษะของเจ้าซื่อบื้อนี่สว่างมาก คนโง่ก็มีโชคของคนโง่อยู่

มอบบทสวดพุทธะโพธิ์ให้เขาก็น่าจะไม่เป็นอะไร

ถึงอย่างไรพยัคฆ์ร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง

เขาคือบุตรพุทธะนะ!

…….

บุตรพุทธะขู่ตัวไปแล้ว ยอดเขาบัวขาวไม่มีคนนอกอีก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนด้วยความชื่นชม สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ

เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “เทียนเอ๋อร์ เจ้าตามข้าไปยอดเขาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้ามีเรื่องจะไหว้วานเจ้า”

มีเรื่องจะไหว้วานข้ารึ

เรื่องอะไร เรื่องใหญ่ทั้งชีวิตของบุตรสาวท่านรึ

หืม เหตุใดข้าถึงคิดไปทางนั้นกัน!

หญิงแกร่งชายอ่อนแอมันอนาถจะตาย!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+