บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 391 เยี่ยฉิงชางออกมือ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 391 เยี่ยฉิงชางออกมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 391 เยี่ยฉิงชางออกมือ

กลางสุสานจักรพรรดิ พลังเทพโหมซัดสาด

มหาจักรพรรดิอีกาทองเปล่งแสงสว่างจ้า แผ่อำนาจจักรพรรดิยิ่งใหญ่ออกมา หมุนม้วนฟ้าดิน

“นี่มันอะไรกัน!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตผมขาวลุกซู่ กำกระบองเทพทองคำแน่น จ้องมหาจักรพรรดิอีกาทอง

นกแก่นี่เหมือนจะแปลกๆ!

“ผู้เฒ่าเยี่ย เกิดอะไรขึ้น”

เสิ่นเทียนติดต่อเยี่ยฉิงชาง เขาก็เห็นถึงความผิดปกติของมหาจักรพรรดิอีกาทองเช่นกัน

“ในตัวเจ้านี่มีกลิ่นอายพลังอีกอย่างกำลังลอยขึ้นมา กำลังช่วงชิงการควบคุมวิญญาณแท้”

เยี่ยฉิงชางเอ่ยขึ้น เขาสังเกตเห็นเงื่อนงำรางๆ

อะไรนะ

นั่นคือมหาจักรพรรดิอีกาทอง ผู้แข็งแกร่งสูงสุดของห้าดินแดนนะ!

สิ่งใดกันที่จะยึดวิญญาณแท้ของมหาจักรพรรดิได้

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย หลังจากดวงชะตาลดลงจะล่วงเกินเทพไท่ซุ่ยจริงๆ

แม้แต่มหาจักรพรรดิยังเอาไม่อยู่รึ

…..

“เมื่อไร เป็นไปได้อย่างไร!”

มหาจักรพรรดิอีกาทองกำลังตะโกน

เขาที่เมื่อครู่ยังยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม ตอนนี้ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกตะลึงและเหลือเชื่อ

“แม้วิญญาณเทพจะดับสูญ ก็ไม่มีทางยอมให้เจ้าควบคุมได้!”

มหาจักรพรรดิอีกาทองคำรามเสียงลากยาว แสงทองทั่วร่างแผ่คลื่นพลังงานออกมาอย่างรุนแรง สั่นสะเทือนฟ้าดิน

แสงทองขยับวูบวาบ พลังงานยิ่งใหญ่สูงสุดหลั่งไหลเข้าไปในกายมหาจักรพรรดิอีกาทอง เหมือนจะกำราบอะไรบางอย่าง

แม้แต่มหาจักรพรรดิอีกาทองเองยังคาดไม่ถึงว่าวิญญาณร้ายต่างแดนจะซ่อนอยู่ในตัวเขา ตามเสี้ยววิญญาณเขามายังห้าดินแดนด้วย

ครั้งนี้เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!

พลังงานชั่วร้ายโหมกระหน่ำในกายมหาจักรพรรดิอีกาทอง ทำให้คนขนพองสยองเกล้า

เห็นได้ชัดมากว่าการคงอยู่น่าสะพรึงนั้นคิดจะควบคุมวิญญาณแท้มหาจักรพรรดิอีกาทอง!

“เคี้ยกๆๆๆ ก็แค่ลูกอีกาทองตัวเล็กๆ ยังคิดจะต่อต้านข้ารึ ระหว่างโลกเซียนและมนุษย์ไม่ได้จะทะลวงง่ายขนาดนั้น เจ้าคิดว่าถ้าไม่ได้ข้าแอบช่วย เสี้ยววิญญาณของเจ้าจะกลับมาโลกข้างล่างได้รึ

เดิมทีข้าอยากฝังเมล็ดลงในตัวเจ้า ใช้เจ้าทะลวงเข้ามาโลกแห่งนี้ แต่ไม่นึกเลยว่าเจอกับเรื่องยินดีที่เหนือความคาดหมาย

คุณสมบัติกายของเจ้าเด็กนี่คือที่สุดตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงตอนนี้ หากได้กายเนื้อของเขา จะต้องหลอมเป็นร่างแยกที่สมบูรณ์แบบที่สุดได้แน่นอน

เคี้ยกๆ ข้าปล่อยให้เจ้าดำเนินแผนการไป ก็แค่หาผลประโยชน์ให้ข้าเท่านั้น!”

เสียงเย็นเยือกดังขึ้นในมวลอากาศ ทำให้คนฟังแล้วรู้สึกขนหัวลุก

เวลานี้ ฟ้าดินสั่นสะเทือน

แสงทองสว่างจ้ากับแสงดำมืดมิดตัดสลับกัน พลันปะทุออกมา

พายุคลั่งแหลมคมหมุนม้วน อำนาจบารมีน่าสะพรึง แม้แต่เกาะมหานทียังสั่นสะเทือนตาม

สุดท้ายพลังแห่งแสงทองก็สู้พลังแห่งเงามืดไม่ได้ ถอยไปอย่างเป็นจังหวะ

แม้แต่กายเนื้อของมหาจักรพรรดิอีกาทองยังถูกไอแห่งเงามืดพัวพันอยู่ชั้นหนึ่ง

มหาจักรพรรดิอีกาทองเป็นเสี้ยววิญญาณอยู่แล้ว พละกำลังเทียบกับตอนแรกไม่ได้เลย ผนวกกับก่อนหน้านี้โปรดสัตว์บุตรอีกาทองทั้งเก้าเสียพลังงานไปเยอะมาก ต้านพลังวิญญาณร้ายนี้ไม่ไหวเลย

“พวกเจ้ารีบออกมือทำลายวิญญาณแท้ข้า!”

มหาจักรพรรดิอีกาทองคำรามด้วยความโกรธ เขากำลังกระตุ้นพลังในกายเพื่อกำราบพลังแห่งวิญญาณร้ายนี้

น่าเสียดาย เหมือนว่าจะได้ผลน้อยมาก

“ศิษย์พี่ ออกมือช่วยท่านจักรพรรดิกำราบวิญญาณร้ายด้วย!”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง เขามองออกว่าเรื่องนี้ร้ายแรงเพียงใด

หากรอจนมหาจักรพรรดิอีกาทองต้านไม่ไหวถูกวิญญาณร้ายยึดร่าง นั่นจะเป็นความน่าสะพรึงที่ไม่อาจต่อต้านได้

หากมหาจักรพรรดิอีกาทองถูกวิญญาณร้ายรุกราน ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่เขาควบคุมอยู่ เกรงว่าทุกคนในสุสานจักรพรรดิคงต้องตาย

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมืออย่างเด็ดขาด สายฟ้าขยับวูบวาบรอบตัว กลิ่นอายพลังโหมซัดสาด

อานุภาพสายฟ้าสว่างสดใสสาดลงมา รวมเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าระเบิดใส่ทีละลูก

กลิ่นอายพลังอัสนีเทพกำเนิดฟ้าน่ากลัวถาโถมใส่มหาจักรพรรดิอีกาทอง ทำให้ห้วงอากาศโดยรอบสั่นสะเทือนและดับสลายไป

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมือทีแรกก็เต็มที่แล้ว ไม่มีกักพลังไว้แม้แต่น้อย ถึงอย่างไรนั่นก็คือมหาจักรพรรดิอีกาทอง ควบคุมพลังแห่งมหาจักรพรรดิ กำราบห้าดินแดนแปดทิศได้

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ถูกรุกราน ก็มากพอจะยืนยันความน่ากลัวของวิญญาณร้ายตนนี้ได้

หากไม่ออกมือเต็มที่ การโจมตีปกติคงไม่มีผลอะไรเลย

“มารร้าย กินกระบองของข้าเถอะ!

กระบองกำราบสมุทรตามใจนึก…กระบองทุบนกน้อย!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคำรามเสียงดัง พลันกวัดแกว่งกระบองเทพทองคำในมือ

ตัดสลับกันอย่างเป็นลำดับขั้นตอน กลายเป็นกระบองยักษ์สีทองมหึมายิ่ง กระแทกใส่มหาจักรพรรดิอีกาทอง!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเป็นสุดยอดอัจฉริยะ แม้จะถูกกดพลังบำเพ็ญในสุสานจักรพรรดิ ก็ยังระเบิดพลังได้เหนือกว่าผู้อริยะปกติ

พลังงานสองชนิดออกไปพร้อมกัน มากพอจะทำให้ห้าดินแดนสั่นสะเทือน

“หึ!”

เสียงขึ้นจมูกเย็นชาดังขึ้น

พลังงานสีดำพลันปะทุมาจากในตัวมหาจักรพรรดิอีกาทอง เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ กลืนกินพลังงานของอีกาทองไปทั้งหมด

ขณะเดียวกันหมอกดำทะลักออกมา รวมเป็นมือใหญ่เงามืดตบใส่อัสนีเทพกำเนิดฟ้าและกระบองยักษ์สีทอง

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น ฝุ่นควันลอยขึ้นเป็นเกลียว!

นั่นคือการโจมตีที่ทำให้ผู้อริยะตื่นตกใจได้ ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกทำลายลงทั้งหมดด้วยมือใหญ่เงามืดนี้

พลังแห่งเงามืดยังคงทำลายล้าง ปะทุ หมุนม้วนแปดทิศ

เวลานี้ เงามืดไร้ที่สิ้นสุดปกคลุมฟ้าดิน บดบังห้วงอากาศ เหมือนจะให้คนตกไปในหุบเหวไร้ที่สิ้นสุด

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถอยกรูดไป ประกายเซียนบนผิวกายระเบิด ต้านคลื่นพลังงานนี้กันอย่างบ้าคลั่ง

“บ้าจริง ไฉนถึงรุนแรงเช่นนี้”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกกระแทกออกไป ยากจะต่อต้านได้

“เคี้ยกๆ อีแค่มดปลวกโลกมนุษย์เล็กจ้อย ยังกล้าขวางการมาเยือนของข้าอีก”

มหาจักรพรรดิอีกาทองลอยขึ้นในเงามืด กลิ่นอายพลังเปลี่ยนไปราวกับพลิกฟ้าพลิกดินแล้ว

ร่างมหาจักรพรรดิที่เดิมทีถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงอมทองเปลี่ยนเป็นถูกไอแห่งเงามืดวนเวียน

เขาในตอนนี้ไม่มีความยิ่งใหญ่ ไม่มีภาพลักษณ์สว่างโชติช่วงเหมือนก่อนหน้านี้อีก แต่กลับมีหมอกดำวนเวียน เหมือนกับเทพมารสังหารกระหายเลือด

เทียบกับกลิ่นอายพลังเขาในตอนนี้แล้ว วิญญาณอาฆาตอีกาทองเก้าตัวก่อนหน้านี้เป็นของเล็กเจอกับของใหญ่เลย

อืม นกเล็กเจอนกใหญ่จริงๆ

“คราวนี้เป็นปัญหาใหญ่แล้ว”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจ้องมหาจักรพรรดิอีกาทองตรงหน้าตาเขม็ง กำกระบองเทพทองคำแน่น

ตอนนี้ แม้แต่เขายังทำหน้ายิ้มเล่นไม่ออก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เงียบ แต่ปรากฏการณ์สายฟ้าลอยขึ้นข้างหลังเขาทั้งหมด

สัตว์เทพสิบทิศลอยขึ้นและส่งเสียงคำราม อัสนีเทพกำเนิดฟ้าเหมือนกับเบิกฟ้า ไม่มีกักพลังไว้อีก

หมื่นปีก่อนวิญญาณร้ายต่างแดนรุกรานโลกนี้ แดนเทวาและแดนผาสุกมากมายสูญสิ้น สิ่งมีชีวิตลำบากยากแค้น แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ยังถูกตีแตกพ่าย ต้องใช้ศักยภาพแฝงทั้งหมดถึงจะต้านหายนะในตอนนั้นไว้ได้

ตอนนี้วิญญาณร้ายต่างแดนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังชิงร่างมหาจักรพรรดิอีกาทองไปแล้ว

หากไม่สู้ตาย เกรงว่าวันนี้ทุกคนที่นี่คงไม่อาจมีชีวิตออกไปได้

“ไม่นึกเลยว่าในโลกเล็กห่วยแตกเช่นนี้ จะยังมีมนุษย์รูปงามเยี่ยงนี้อยู่ กายเนื้อสูงสุดระดับนี้ ถึงจะคู่ควรกับฐานะของข้า ข้าจะใช้กายเนื้อนี้มาเยือนโลกนี้ ต้อนรับท่านแม่ทัพใหญ่ของข้ามาเยือน”

มหาจักรพรรดิอีกาทองร่างมารหัวเราะเยาะ ลูกตาสีแดงแสบตาพลันจับจ้องเสิ่นเทียน เห็นได้ชัดว่าตอนนี้มหาจักรพรรดิอีกาทองเป็นเพียงร่างเสี้ยววิญญาณ ไม่อาจคงศักยภาพสมบูรณ์ไว้ได้อีก

วิญญาณร้ายนี่จึงจับจ้องกายเนื้อเสิ่นเทียน หมายจะยึดร่าง

อะไรนะ

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย นี่มันอะไรกัน

เหตุใดพวกหมาๆ แมวๆ ถึงอยากยึดร่างข้ากันจัง หรือว่าหน้าตาดีจะเป็นความผิดของข้า

มหาจักรพรรดิอีกาทองไม่เท่าไร เพราะเขาก็แค่พูดเท่านั้น แต่วิญญาณร้ายที่ไม่รู้มาจากที่ใดนี่เหมือนจะคิดจริงทำจริง!

ระยำ!

ครั้งนี้ทะลวงระดับนิพพาน เหมือนจะบุ่มบ่ามไปหน่อยแล้ว~

เสิ่นเทียนกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยในใจ มหาจักรพรรดิร่างมารก็ง้างมือใหญ่คว้าใส่เขาแล้ว

“เทียนเอ๋อร์ ระวัง”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนจะโบกมือ ประกายสายฟ้าหนาแน่นลอยออกมา

กระบี่เซียนสามฉื่อเข้ามือ กลิ่นอายพลังของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เพิ่มขึ้น ในประกายเซียนไร้ที่สิ้นสุดมีประกายสายฟ้าน่ากลัวปะทุ

ตอนนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหมือนกลายเป็นเคราะห์สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ กุมสายฟ้าทำลายล้างวิญญาณร้าย

นั่นคือบทสูงสุดต้องห้ามในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์…เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์!

นี่อยู่ในวิกฤติทีอันตรายอย่างยิ่งยวด พวกเขาต้องสู้เต็มที่แล้ว

“กล้าคิดร้ายกับศิษย์หลานของข้า ข้าจะทุบหัวเจ้าให้เละ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตระเบิดพลัง กระตุ้นหนึ่งปราณแปลงสามประกาย แบ่งสองร่างออกมา รับมือกับมหาจักรพรรดิร่างมาร!

นี่คือคู่ต่อสู้ระดับมหาจักรพรรดิ ต่อให้เหลือเพียงเสี้ยววิญญาณ ก็มากพอจะทำให้ผู้บำเพ็ญที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิต้องเกรงกลัวกระทั่งหวาดกลัว

“พวกมดปลวก คิดจะเป็นศัตรูกับข้ารึ คิดว่ามดจะเขย่าต้นไม้ได้ง่ายๆ รึ ข้าไร้พ่ายในโลกนี้แล้ว!”

มหาจักรพรรดิอีกาทองร่างมารยิ้มเยาะไม่แยแส ก่อนจะพลิกมือ พลังแห่งเงามืดพลันปะทุขึ้น

เงามืดกลางท้องนภารวมกันเป็นหัตถ์มารเงามืดมหึมา ตบใส่สองคนพร้อมกับพลังทำลายล้าง

“เรียงโซ่เหล็ก ล่ามให้ข้า!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยขึ้นอย่างเฉยชา สายฟ้ารอบตัวพุ่งขึ้นฟ้า แบ่งเป็นกฎเกณฑ์สายฟ้ามากมาย ตัดสลับกันเป็นลำดับขั้น เหมือนจะผนึกฟ้าดิน

ประกายสายฟ้าวาดเค้าโครงไม่หยุด สร้างเป็นยอดค่ายกลเรียงลำดับสะท้านฟ้า ตั้งขึ้นฟ้า ผนึกห้วงอากาศทั้งหมด

หัตถ์มารเงามืดพลันกดลงมา ปะทะกับประกายสายฟ้าไร้ที่สิ้นสุด เกิดสะเก็ดไฟมากมาย ประกายสายฟ้าโหมซัดสาด ไอแห่งเงามืดแผ่กระจายออกไป

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตัวสั่นสะท้าน ประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวอย่างรุนแรง เหมือนรับแรงกดดันที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง

“อ๊าก! ข้าจะกระทุ้งเจ้าให้ตาย!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคำรามเสียงดัง สามร่างเงาพุ่งขึ้นฟ้าพร้อมกัน จู่โจมใส่มหาจักรพรรดิร่างมารด้วยอานุภาพเทพยิ่งใหญ่

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ห้วงอากาศพังทลายลง!

สามร่างเงาลอยลงมาจากฟ้า เอาศีรษะปักลงพื้น กระแทกเป็นหลุมใหญ่บนพื้น

“ระยำ มารร้ายนี่โหดเกินไปแล้ว!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหน้าดำเป็นเถ้าถ่าน เขาสู้เต็มที่แล้วแต่ยังถูกสวนกลับ

ยังดีที่ยอดค่ายกลลำดับที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์วางเอาไว้แข็งแกร่งพอ จึงฝืนต้านการโจมตีของมหาจักรพรรดิร่างมารไว้ได้

หากไม่เช่นนั้น สองคนคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว

“พวกหัวดื้อ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเจ้าจะต้านไว้ได้กี่ครั้ง”

มหาจักรพรรดิร่างมารยิ้มเยาะ ไม่เห็นสองคนอยู่ในสายตาเลย ก่อนจะจู่โจมลงมาอีกครั้ง

อำนาจจักรพรรดิน่าสะพรึงหมุนม้วนเข้ามา ทุกการโจมตีทำให้ยอดค่ายกลลำดับสั่นไหวไม่หยุด พร้อมจะพังลงทุกเมื่อ

“ท่านผู้เฒ่า ถ้าท่านยังไม่ออกมืออีก พวกเราจะตายกันหมดแล้วนะ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตร้องเสียงดัง ใช้พลังระดับอริยะสู้กับมหาจักรพรรดิ นี่มันต่างกันเกินไปแล้ว!

“ไม่นึกเลยว่าต้องให้ข้าออกมือ”

เสียงถอนหายใจยาวดังขึ้น ก่อนจะเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นในกายเสิ่นเทียน

ชายชราชุดคลุมม่วงลอยขึ้นมาช้าๆ ร่างลอยล่อง แต่กลับมีพลังน่าสะพรึง

ชายชราคนนี้ก็คือเยี่ยฉิงชาง!

“อืม ท่านเป็นผู้สูงส่งจากที่ใดกัน”

เมื่อเห็นเยี่ยฉิงชางปรากฏตัว ไอสีดำที่หลั่งไหลบนผิวกายมหาจักรพรรดิร่างมารก็เก็บกลับไปเล็กน้อย เหมือนจะกลัวเยี่ยฉิงชางนิดๆ

“เจ้า ไม่มีสิทธิ์รู้ฐานะของข้า”

เยี่ยฉิงชางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ การวางมาดมาเต็มที่มาก

“เป็นแค่เสี้ยววิญญาณ ยังกล้าอวดดีต่อหน้าข้ารึ ความรู้ตื้นเขิน คอยดูเถอะข้าจะทำลายเจ้าให้สลายเป็นเถ้าถ่าน!”

มหาจักรพรรดิร่างมารทำเสียงขึ้นจมูก ไอแห่งเงามืดรอบตัวไหลเวียน

ทั้งห้วงอากาศรวมเข้ามา หดตัวไปเรื่อยๆ จะบีบระเบิดทุกอย่าง

พลังงานน่าสะพรึงที่ทำลายล้างฟ้าดินได้ถาโถมใส่เยี่ยฉิงชาง

ห้วงอากาศพังทลายลง กฎเกณฑ์ดับสูญ

“ต่อให้เจ้าเคยมีศักยภาพแก่กล้า ตอนนี้ก็เหลือเพียงเสี้ยววิญญาณเท่านั้น กล้าล่วงเกินข้า ข้าจะทำลายล้างวิญญาณเจ้า”

มหาจักรพรรดิร่างมารพูดด้วยความน่ากลัว แต่เสียงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นกลับทำให้เขาตัวแข็งทื่อ

“อืม!

อ้า สบาย!

มา ขอแรงอีกหน่อย!”

เสียงเอ้อระเหยดังมาจากในกระแสพลังงาน ดูพอใจมาก

กระทั่งยังมีความ…เศร้านิดๆ

“อะไรนะ”

มหาจักรพรรดิร่างมารมุมปากกระตุกเล็กน้อย เหมือนสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ

พลังงานเงามืดน่ากลัวนี้ไม่ได้บดขยี้เยี่ยฉิงชาง แต่เหมือนกำลังนวดให้เขา

“อืม เหตุใดถึงหยุดล่ะ ข้าอยู่เฉยมาหลายปี กว่าจะได้คลายเส้นเอ็นไม่ใช่ง่ายๆ น่าเบื่อจริงๆ! ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะฝึกมือกับเจ้าแล้วกัน!”

เพิ่งเอ่ยจบก็มีประกายแสงสายหนึ่งพุ่งเข้ามา

ร่างเงานี้เหมือนกับประกายสายฟ้า พลันมาปรากฏตรงหน้ามหาจักรพรรดิร่างมาร

ก่อนจะเห็นเยี่ยฉิงชางโบกมือ ยกมือขึ้นตบไปทีหนึ่ง

เวลานี้ กลางท้องนภารวมขึ้นเป็นมือยักษ์ข้างหนึ่ง ใหญ่ร้อยจั้ง กดลงมา

บึ้ม!

เหมือนเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ดังสนั่นไปทั้งสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทอง

มหาจักรพรรดิอีกาทองที่ถูกวิญญาณร้ายสิงร่างถูกตบทีเดียวลงไปกับพื้น กระแทกเป็นหลุมลึกใหญ่ ฝุ่นดินฟุ้งกระจาย

“เอ่อ…อ๊ากๆๆ!

สมควรตาย!”

มหาจักรพรรดิร่างมารร้องคำรามด้วยความโกรธ เขาเคยต้องอัปยศเช่นนี้ในดินแดนระดับต่ำอย่างโลกมนุษย์เช่นนี้หรือ

แม้แต่มหาจักรพรรดิอีกาทองที่ลอยขึ้นโลกเซียนไปแปดหมื่นปียังเหมือนกับมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แค่ดีดนิ้วก็สังหารได้

ตอนนี้ เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าได้ปลูกเมล็ดหนึ่งลงในวิญญาณแท้มหาจักรพรรดิอีกาทอง เดิมทีคิดว่ายึดร่างมหาจักรพรรดิอีกาทองแล้วน่าจะไร้พ่ายในห้าดินแดน สังหารสี่ทิศได้อย่างง่ายดาย

ไม่นึกเลยว่าเพิ่งออกมาจะเจอกับสัตว์ประหลาดแก่เยี่ยฉิงชาง ถูกแขวนทุบตี!

“สารเลว!”

มหาจักรพรรดิร่างมารดวงตาแดงก่ำ ประกายแสงสีแดงเหมือนตะวันโลหิต ยิงไอแห่งมารร้ายไร้ที่สิ้นสุดออกมา

ขณะเดียวกัน หมอกดำหลั่งไหลไม่ขาดสาย วนเวียนในตัวมหาจักรพรรดิร่างมาร ทำให้กลิ่นอายพลังเขาน่ากลัวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดมากว่า มหาจักรพรรดิร่างมารจะเอาจริงแล้ว

“โกรธแล้วอย่างไร ก็แค่ทุบตีลูกวิญญาณร้ายพวกเจ้าเท่านั้น!”

เยี่ยฉิงชางทำเสียงขึ้นจมูกเย็นชา ไม่สนใจมหาจักรพรรดิร่างมารที่ระเบิดจิตชั่วร้ายออกมาเลย แต่รวมออกมาเป็นค้อนยักษ์อันหนึ่ง

“สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง…ค้อนตะวันเดือด!

ค้อนงัดจันทร์!

ค้อนวายุคลั่ง!

….”

เยี่ยฉิงชางเหมือนกลายร่างเป็นช่างตีเหล็ก ทุบลงไปทีละค้อนด้วยพลังแห่งหมื่นชั่ง ทุบใส่ตัวจักรพรรดิร่างมาร ทุบจนเขาไม่มีโอกาสได้สวนกลับเลย

ไม่ใช่แค่นั้น เยี่ยฉิงชางยังทุบมหาจักรพรรดิร่างมารไปพลาง ปากยังพูดพึมพำไม่หยุด

“ลูกวิญญาณร้ายชั่ว ไม่รออยู่ในบ้านดีๆ ดันออกมาเที่ยวเล่น เจ้ามาเที่ยวเล่นเช่นนี้ บุพการีเจ้ารู้หรือไม่ วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เจ้าเป็นคน สอนเจ้าว่าอะไรคือความรักของผู้อาวุโส กล้าคิดร้ายกับหลานบุญธรรมดา จะทุบเจ้าให้เละเลย!”

…..

ครืน!

แผ่นดินสั่นสะเทือน!

มหาจักรพรรดิร่างมารสวนกลับไม่ได้เลยภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงของเยี่ยฉิงชาง ถูกฟาดกระเด็นออกไปอย่างแรง

แม้แต่ไอดำเข้มข้นรอบตัวมหาจักรพรรดิร่างมารยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหมือนจะแตกสลายไป

“เสร็จแล้วเรียบร้อย!”

เยี่ยฉิงชางปรบมือ มีสีหน้าเบาสบาย

ในมุมมองเขา วิญญาณร้ายนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาเลย ไม่ต้องกลัว

ทันใดนั้นเองก็มีกลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหนาวสั่นพุ่งขึ้น เหมือนกับเทพมารที่สุดแห่งยุคตื่นขึ้น

หมอกดำเข้มข้นทะลักออกมา เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ปกคลุมฟ้าดิน

ก่อนจะเห็นร่างเงาของมหาจักรพรรดิร่างมารพลันพุ่งออกมาจากหลุมลึก รวมเป็นเงามารยักษ์ข้างหลัง

“หืม”

เยี่ยฉิงชางเพ่งสายตามองเล็กน้อย กลิ่นอายพลังของลูกวิญญาณร้ายนี่แกร่งขึ้นอีกแล้ว

เจ้านี่เหมือนจะมีพลังมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก!

“เหอะๆ วิชาค้อนสวรรค์ร้างรึ ที่แท้ก็เป็นกากเดนแห่งตำหนักเทพสงคราม! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะหนีมาโลกมนุษย์ ทั้งยังน่าเวทนาเช่นนี้!

ตอนเจ้ามีชีวิตคงต้องมีระดับพลังสะท้านฟ้า เหนือเกินกว่าข้าจะเทียบได้แน่นอน น่าเสียดาย ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ ทั้งยังเป็นจอกแหนไร้ราก

เคี้ยกๆ วันนี้ต่อให้ข้าพลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องทำลายวิญญาณของเจ้าให้ได้!”

มหาจักรพรรดิร่างมารคำรามอย่างเหี้ยมโหด กลิ่นอายพลังดุร้าย เหมือนกับเทพมารมาเยือน

เพลิงมารสีดำพวยพุ่งจากในตัวเขา วนเวียนรอบกาย ทำให้กลิ่นอายพลังเขาน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

กลิ่นอายพลังบ้าคลั่งปะทุมาจากในกายมหาจักรพรรดิร่างมาร เหนี่ยวนำให้ห้วงอากาศสั่นสะเทือน เพลิงมารเงามืดเหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน

“นี่กำลังเผาวิญญาณเทพรึ ลูกวิญญาณร้ายนี่จะดึงเจ้าลูกอีกาทองระเบิดตัวเองสู้สุดชีวิตไปด้วยกัน!”

ดวงตาเยี่ยฉิงชางรวมเป็นสมาธิ เขารู้สึกได้ว่าระดับพลังของตัววิญญาณร้ายนี่ไม่อ่อนแอเลย

ตอนนี้ที่มาเยือนเป็นเพียงเมล็ดวิญญาณเทพของเขาเท่านั้น

ทว่าต่อให้เป็นเพียงเมล็ดวิญญาณเทพ การห่อมหาจักรพรรดิอีกาทองระเบิดตัวเองไปด้วยกันก็ยังสร้างเป็นอานุภาพสะท้านฟ้าได้

อย่างน้อยในโลกแห่งนี้ ก็ไม่มีใครต้านได้!

หากเยี่ยฉิงชางอยู่ในช่วงสมบูรณ์ ย่อมไม่กลัว แค่ดีดนิ้วก็สังหารได้

แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ และยังเป็นเพียงร่างแยก

ร่างจริงยังคงดื่มชาอยู่ในหอคอยเทพสงคราม ตอนนี้ได้แต่ใช้วิชาของร่างแยก จึงตรึงมือเล็กน้อยแล้ว

“เคี้ยกๆ เจ้าจะปกป้องเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่รึ วันนี้ข้าจะให้เจ้าเด็กนี่ตายไปพร้อมกับร่างแยกวิญญาณเทพของข้า ตำหนักเทพสงครามพวกเจ้าคิดจะผงาดขึ้นมาอีกครั้งหรือ ฝันไปเถอะ!”

มหาจักรพรรดิร่างมารส่งเสียงคำราม เขารู้ว่าเยี่ยฉิงชางแกร่งมาก หากเขาจะไป คงขวางไว้ไม่ได้เลย

ดังนั้น เป้าหมายในการโจมตีครั้งนี้คือเสิ่นเทียน!

พลังงานน่าสะพรึงสั่งสมไม่หยุด ในเปลวไฟสีดำเข้มมีกลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหนาวสั่นแผ่ออกมา

แค่สัมผัสเล็กน้อยก็เผาผู้อริยะเป็นเถ้าธุลีได้

เยี่ยฉิงชางมองวิญญาณร้ายที่วางมาดเหี้ยมโหดพลางรู้สึกปวดไข่มาก

หากเป็นเขาคนเดียวคงหนีไปแล้ว

เจ้านี่ ขวางเขาไม่ได้เลย

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนอยู่ข้างหลัง หากเยี่ยฉิงชางไปแล้ว หลานบุญธรรมจะทำอย่างไร

“ช่างเถอะ! เพื่อหลานบุญธรรม แค่สละร่างเสี้ยวนี้ไปแล้วอย่างไร”

เยี่ยฉิงชางตะโกนเสียงดังด้วยความถูกต้องชอบธรรม ก่อนเดินหน้าไปช้าๆ

“เปลี่ยนเทพสงคราม!”

เยี่ยฉิงชางคำรามเสียงต่ำทีหนึ่ง เกิดแสงสว่างจ้ารอบตัวก่อนพุ่งเข้าไปในเปลวเพลิงมาร

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

เสียงดังสั่นสะท้าน กระเพื่อมฟ้าดิน

เพลิงมารน่ากลัวทะลักออกมา พลันระเบิดกระจาย ฟ้าดินจมลง

เยี่ยฉิงชางเข้าไปอยู่ใจกลางระเบิด รับพลังที่น่ากลัวที่สุด ทำให้ประกายเซียนรอบตัวเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

“แย่แล้ว เล่นเกินไปแล้ว”

เยี่ยฉิงชางเครากระดก ร่างแยกนี้เหมือนจะอ่อนแอไปหน่อย ต้านไม่ไหวเลย!

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง วิญญาณเทพของมหาจักรพรรดิร่างมารนั้นเผาไปแล้วเก้าส่วนเก้า อานุภาพถึงขีดจำกัด ฟ้าดินสั่นสะเทือน

“หลานสะใภ้เอ๋ย หากเจ้ายังไม่ออกมืออีก หลานบุญธรรมข้าจะตายจริงๆ แล้วนะ!”

เยี่ยฉิงชางมุมปากกระตุกเล็กน้อย ร่างกำลังสลายไปช้าๆ ท่ามกลางเสียงตะโกน

พลังยิ่งใหญ่โหมซัดสาดนั้นพลันถาโถมเข้าใส่เสิ่นเทียน

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด