บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 411 ขอบคุณท่านเคราะห์สวรรค์ ที่เจียดเวลามาฟ้าผ่า!
บทที่ 411 ขอบคุณท่านเคราะห์สวรรค์ ที่เจียดเวลามาฟ้าผ่า!
ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศอึมครึม
แสงสีดำเมฆเคราะห์ภัยไหลหลาก เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่จะถาโถมลงมา
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เคราะห์สายฟ้าก็ยังไม่ระเบิด แต่ขดตัวบนฟ้า ทำให้คนตื่นกลัว
เมื่อเห็นดังนั้น คนมากมายก็ตกใจระคนสงสัย “เกิดอะไรขึ้น เคราะห์สวรรค์รวมนานขนาดนี้เหตุใดยังไม่ผ่าลงมาอีก”
การฝ่าเคราะห์อริยะปกติจะผ่าลงมาเร็วมาก ไม่ตกตะกอนนานขนาดนี้
แต่พวกเขารออยู่หลายชั่วยาม แม้แต่กลางวันยังกลายเป็นกลางคืน ก็ยังไม่เห็นเคราะห์อัสนีระเบิด!
ต้องรู้ว่ายิ่งเคราะห์อัสนีรวมนานเท่าไรยิ่งมีอานุภาพรุนแรงมากเท่านั้น พลังที่ระเบิดออกมายิ่งน่ากลัวมากขึ้น!
กลิ่นอายพลังของเมฆเคราะห์ภัยนี้น่ากลัวถึงที่สุด ประกายสายฟ้าสว่างวูบวาบ เต็มไปด้วยอานุภาพน่ากลัว เหมือนจะทำลายฟ้าดินได้!
ท่ามกลางเมฆเคราะห์ภัยดำมืดดั่งน้ำหมึก เกิดเป็นเคราะห์อัสนีสีทอง เปล่งแสงสว่างจ้าเหมือนดวงตะวันลอยขึ้น จะส่องแสงนภาค่ำคืนมืดสว่างจ้าอย่างยิ่ง!
นั่นคือเคราะห์อัสนีเหมือนมังกรเวียนว่าย แสงเรืองรองส่องสว่าง ภาพลักษณ์มีชีวิตชีวา ทะลวงไปไม่หยุดกลางเมฆเคราะห์ภัยหนาแน่น แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว
…..
เมื่อเห็นภาพนี้ แม้แต่ผู้อริยะยังใจสั่นไหว “ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้า”
อัสนีเทพกำเนิดฟ้าเป็นมหาเคราะห์ฟ้าดิน ปกติจะไม่ปรากฏในเคราะห์สวรรค์ต่ำกว่าเจ้าอริยะหกด่านเคราะห์!
แต่ตอนนี้ อัสนีเทพกำเนิดฟ้าตัดสลับกันไม่หยุด พลังยิ่งใหญ่ยากจะปัดป้อง ทำให้ผู้อริยะมากมายเกิดความกลัวอยู่ในใจ!
มหาเคราะห์น่าสะพรึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง เหมือนจะพลิกกลับพื้นที่นี้!
ขณะเดียวกันก็มีคนพบเงื่อนงำ
“อานุภาพของเคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้านี่ เหมือนจะเทียบกับเคราะห์อริยะแท้ของจริงไม่ได้!”
แม้เคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้าจะมีอานุภาพเหี้ยมโหด แต่ในด้านความแกร่งและจำนวน ก็ยังด้อยกว่าเคราะห์อริยะหกด่านเคราะห์ไม่น้อย
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้าก็ไม่ได้จะผ่านกันไปได้ง่ายๆ
แค่กลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาก็ทำให้ผู้อริยะส่วนใหญ่หวาดกลัวกันอย่างยิ่งแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนสนใจคือ เคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้าเกิดขึ้นจากรุ่นเยาว์คนหนึ่ง!
นี่ไม่ได้หมายความว่าเคราะห์อัสนีแรกในระดับผู้อริยะของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เทียบเท่ากับเคราะห์สวรรค์ผู้อริยะหกด่านเคราะห์หรือ
ซี้ด~
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง!
น่ากลัวมาก!
สามารถฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะในช่วงอายุร้อยปีได้ นี่หาได้ยากยิ่งในประวัติศาสตร์ทั้งห้าดินแดน มิหนำซ้ำ เสิ่นเทียนเพิ่งรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เกรงว่าคงไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ!
ไม่ถึงร้อยปีก็ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ และยังเทียบกับเคราะห์อัสนีของอริยะแท้อีก!
นี่ต้องมีพรสวรรค์สุดยอดเพียงใดกัน
ไม่ว่าจะเป็นผู้อริยะของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ หรือเหล่าโอรสสวรรค์ต่างตื่นตกใจกันอย่างยิ่ง!
หากบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทะลวงพลังสำเร็จ จะไม่แซงหน้าผู้อริยะกลุ่มใหญ่ไปเลยหรือ
เปรี้ยง!
เมฆเคราะห์ภัยหมุนม้วนอย่างบ้าคลั่ง เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ประกายสายฟ้าสว่างวาบ อานุภาพเทพไม่มีสิ้นสุดถาโถมลงมา!
เคราะห์อัสนีสีทองสว่างจ้าถึงที่สุด แม้แต่กลิ่นอายพลังยังบ้าคลั่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มังกรอัสนีสีทองตัดสลับไปมาในทะเลหมอก แผ่อำนาจทำลายล้างฟ้าดิน!
เห็นได้ชัดมากว่าเมฆเคราะห์ภัยรวมถึงจุดขีดสุดแล้ว จะระเบิดออกมาทุกด้านแล้ว!
ทุกคนเพ่งสมาธิมองยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์!
พวกเขาอยากดูว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะฝ่าเคราะห์อริยะนี้ไปได้จริงๆ หรือไม่!
ตอนนี้เอง!
ม่านแสงกางออก แสงเรืองรองถอยไป!
ยอดค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาที่ปกคลุมยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขยายออกช้าๆ ภาพในนั้นลอยขึ้นมาตรงหน้าทุกคน
เสิ่นเทียนปรากฏบนยอดตำหนักบุตรศักดิ์สิทธิ์ นั่งขัดสมาธิ เปล่งแสงทั้งตัว สิบนิ้วตวัดไปมา ร่างเป็นภาพงดงาม
ตรงหน้าเขาเป็นหม้อครามยักษ์ใบหนึ่ง เปล่งแสงหมื่นจั้ง แผ่พลังยิ่งใหญ่
…..
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเพ่งสายตามอง
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้กำลังฝ่าเคราะห์อริยะ แต่กำลังหลอมโอสถรึ
ทุกคนตาค้างอ้าปากกว้าง เคราะห์สวรรค์น่ากลัวเช่นนี้กลับเกิดขึ้นเพราะเตาหลอมโอสถหม้อหนึ่ง
นี่เป็นโอสถระดับใดกันแน่ถึงทำให้เกิดเคราะห์ฟ้าดินใหญ่ได้
แม้แต่โอรสสวรรค์ที่สนิทกับเสิ่นเทียนอย่างพวกฉีเซ่าเสวียนยังทำหน้ามึนงง “สหายเสิ่นหลอมโอสถเป็นด้วยรึ”
พวกเขาไม่เคยเห็นเสิ่นเทียนหลอมโอสถมาก่อน แต่ตอนนี้ดูจากศาสตร์การหลอมโอสถแล้ว ไม่ด้อยไปกว่าปรมาจารย์นักหลอมโอสถเลย!
ซี้ด สหายเสิ่นมีความสามารถมากมายเช่นนี้ ซ่อนไว้ลึกมากเลย!
นี่ทำให้พวกฉีเซ่าเสวียนตื่นตะลึงและยังอดปลงอนิจจังไม่ได้ “สหายเสิ่นสมกับเป็นแบบอย่างของพวกเรา!”
พึงรู้ไว้ว่าระดับความยากในการฝึกฝนศาสตร์หลอมโอสถไม่ด้อยไปกว่าการฝึกบำเพ็ญดั้งเดิมเลย อัจฉริยะบำเพ็ญมากมายอยากจะฝึกควบการหลอมโอสถ แต่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านนี้
อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านการหลอมโอสถมากมาย แต่ในด้านการฝึกบำเพ็ญกลับพอไปวัดไปวา การจะโดดเด่นทั้งสองด้านพร้อมกันนั้น เรียกได้ว่าเป็นขนหงส์เขากิเลน
แต่นี่ก็ยืนยันได้ว่าพรสวรรค์ของเสิ่นเทียนน่ากลัวถึงที่สุด นับได้ว่าเป็นที่สุดในประวัติการณ์!
อย่างน้อยเกือบหมื่นปีมานี้ ไม่มีทางที่จะมีใครฝึกควบได้อย่างเสิ่นเทียนในยุคนี้!
ต่อให้เป็นจักรพรรดิศาสตร์โอสถอันดับหนึ่งเมื่อแสนปีก่อน ก็ยังไม่โหดเท่านี้!
ทุกคนมัวแต่ตื่นตะลึง แต่เสิ่นเทียนกลับไม่หยุดการกระทำเลย เขาเปลี่ยนมือไปมาไม่หยุด ร่างเป็นเขตแดนเวทมหัศจรรย์ต่างๆ ตบเข้าไปในหม้อจักรพรรดิชิง
นี่คือการเก็บงานช่วงสุดท้าย กำลังจะรวมโอสถแล้ว
พลังงานมหัศจรรย์ไหลรวมเข้าไปในหม้อจักรพรรดิชิง เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์มหามรรคตกลงมา ประกายเซียนหนาทึบปกคลุมลงมาไม่หยุด
แสงสว่างของหม้อจักรพรรดิชิงหลอมรวมเข้าไปในหม้อทั้งหมด แสงเทพมากมายเข้าไปข้างใน เหมือนกลับไปสู่ความสามัญ แต่มีกลิ่นหอมสดชื่นกระจายออกมานิดๆ ลอยอยู่ในอากาศ อบอวลไปรอบๆ
…..
กลิ่นหอมสดชื่นนี้เบาบางมาก แทบจะไม่ได้กลิ่นเลย
แต่ผู้แข็งแกร่งแกนหลักของขุมอำนาจใหญ่ในที่นี้มีพลังบำเพ็ญแข็งแกร่ง ประสาทสัมผัสฉับไว ทั้งยังกำลังเพ่งสมาธิมองอีก!
ต่อให้มีเพียงกลิ่นหอมอ่อนๆ พวกเขาก็ยังจับได้อย่างชัดเจน!
ครู่ต่อมา ผู้แข็งแกร่งทุกคนตัวสั่นไหวอย่างรุนแรง!
โอรสสวรรค์ที่มีพลังบำเพ็ญค่อนข้างอ่อนแอสัมผัสได้ถึงพลังที่ลี้ลับ จึงนั่งขัดสมาธิลง ตกอยู่ในห้วงตระหนักรู้
แม้แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หลอมรวมเทพกับผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ยังรู้สึกจิตใจโปร่งใส เหมือนจิตวิญญาณกำลังผลัดเปลี่ยน!
“นี่มันโอสถอะไร จะเหนือธรรมดาเกินไปหน่อยกระมัง!”
บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหวังเสินซวีร้องตกใจ ดวงตาเขาลุกวาวเร่าร้อนขึ้นมา!
แค่กลิ่นหอมของโอสถ เขาก็รู้สึกว่าเส้นเลือดกำลังกระตุ้น เหมือนจะผลัดเปลี่ยน
หวังเสินซวีตื่นเต้นขึ้นมา อดร้องอุทานไม่ได้ว่า “โอสถนี่มีประโยชน์กับแซ่หวัง เพิ่มอายุขัยให้แซ่หวังได้!”
หากได้โอสถนี้มา จะไม่เติมอายุขัยเต็มในพริบตา จากนี้อยากจะสับใครก็สับได้เลยไม่ใช่รึ
โอสถนี้โหดกว่าคัมภีร์วสันต์อมตะนิรันดร์ ฤทธิ์ยาบริสุทธิ์ฟื้นฟูอายุขัยที่หวังเสินซวีเสียไปจำนวนมากได้ และที่สำคัญกว่านั้นยังไม่ต้องทำท่าทางเต่าอีก!
นี่คือโอสถเทพสูงสุดที่หวังเสินซวีเฝ้าใฝ่หา!
ฉีเซ่าเสวียนก็เช่นกัน พลังคึกคัก ดวงตาเปล่งประกายสว่างจ้า
ถึงเขาจะมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ ก็ยังรู้สึกว่าโอสถนี้มีประโยชน์กับตนมาก! โอสถสูงสุดระดับนี้ มีผลปรับฟ้าแก้ดินได้!
ความจริงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เสิ่นเทียนกำลังหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!
เสิ่นเทียนใช้โอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดไปจำนวนมากเพื่อหลอมโอสถเสริมสวรรค์หม้อนี้
โอสถศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ เสิ่นเทียนได้มาในแดนลับต่างๆ ล้ำค่ายิ่ง มีมูลค่าสูงสุด
หากไปอยู่โลกภายนอก จะก่อให้เกิดพายุฝนกลิ่นคาวเลือด ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์มากมายเป็นบ้า แม้แต่ผู้อริยะยังใจสั่น!
ทว่า โอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดล้ำค่าเช่นนี้ เสิ่นเทียนกลับมีเป็นเข่ง มีหลายสิบชนิด
นี่ทำให้ถึงวัตถุดิบหลักจะไม่ใช่โอสถจักรพรรดิ แต่คุณภาพของโอสถเสริมสวรรค์นี้ก็ยังเหนือกว่าระดับอริยะ!
ในนั้น แม้จะมีสาเหตุมาจากศาสตร์หลอมโอสถของเสิ่นเทียนเหนือกว่าอีกขั้นก็ตาม แต่เมื่อโอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดมากมายควบคู่กัน เกื้อหนุนกันแล้ว ก็ยังมีประโยชน์สำคัญอยู่ในนั้น
ถึงอย่างไรปริมาณก็เปลี่ยนแปลงคุณภาพได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอสถศักดิ์สิทธิ์สุดยอดมากขนาดนี้หลอมด้วยกัน เรียกว่าหาได้ยากยิ่ง!
หลังผ่านการหลอมยกระดับความบริสุทธิ์ยาวนานถึงยี่สิบวัน คุณภาพของโอสถเสริมสวรรค์หม้อนี้ก็ไปถึงระดับเตรียมจักรพรรดิ!
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าเหตุใดแค่กลิ่นหอมโอสถลอยมานิดเดียวกลับทำให้ทุกคนใจสั่นสะท้าน
ต้องรู้ว่าโอสถระดับเตรียมจักรพรรดิเป็นสมบัติสุดยอดที่ล้ำค่าอย่างยิ่งในทั้งห้าดินแดน แม้แต่ผู้อริยะยังคลุ้มคลั่ง!
มูลค่าของมันเป็นรองเพียงโอสถเสริมสวรรค์ระดับจักรพรรดิที่เสิ่นเทียนหลอมก่อนหน้านี้ครึ่งส่วนเท่านั้น ถึงอย่างไรนั่นก็หลอมขึ้นจากโอสถจักรพรรดิสูงสุด แฝงไว้ด้วยกฎเกณฑ์วิถีจักรพรรดิ ไม่ได้จะชดเชยได้ง่ายขนาดนั้น
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มูลค่าของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าระดับเตรียมจักรพรรดิก็ยังล้ำค่ากว่าโอสถระดับจักรพรรดิธรรมดา!
เพราะสรรพคุณของโอสถนี้ คือการยกระดับคุณสมบัติโดยการมองข้ามพลังบำเพ็ญ!
โอสถที่ยกระดับคุณสมบัติการบำเพ็ญได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด มูลค่าก็ยังมากกว่าโอสถอื่นๆ มิหนำซ้ำยังมองข้ามพลังบำเพ็ญและความอ่อนแอแข็งแกร่ง นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก
……
และตอนนี้ ในที่สุดการรวมโอสถก็มาถึงก้าวสุดท้ายแล้ว
เนื่องจากสรรพคุณของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไม่ธรรมดา จึงทำให้เคราะห์สวรรค์มาเยือน จะทำลายโอสถสูงสุดพลิกฟ้านี้
นี่เป็นเรื่องปกติมาก
สิ่งที่เกี่ยวพันถึงมหามรรคฟ้าดินและเหนือธรรมชาติจะต้องถูกเคราะห์อัสนีทำลาย!
ตามหลักแล้ว โอสถเสริมสวรรค์บัวครามเบิกฟ้าระดับจักรพรรดิที่เสิ่นเทียนหลอมก่อนหน้านี้ก็ควรจะถูกเคราะห์สวรรค์เช่นกัน!
ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นโอสถระดับจักรพรรดิ เป็นโอสถสูงสุดแท้จริง ทำให้การคงอยู่ระดับมหาจักรพรรดิใจสั่นไหว ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับของสวรรค์!
แต่เนื่องจากตอนนั้นเสิ่นเทียนหลอมในสุสานจักรพรรดิชิง ตัดขาดกับฟ้าดินไปแล้ว มิหนำซ้ำยังมีจักรพรรดิศาสตร์หลอมโอสถอันดับหนึ่งเมื่อแสนปีก่อนอย่างจักรพรรดิชิงอยู่ด้วย จึงปิดกั้นกลิ่นอายพลังของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไว้ ถึงได้รอดจากเคราะห์ภัย!
ไม่เช่นนั้น โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าระดับจักรพรรดิคงไม่หลอมออกมาง่ายขนาดนั้น จะต้องถูกเคราะห์อัสนีที่น่ากลัวยิ่งกว่าจู่โจม!
จนถึงตอนนี้ โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่เสิ่นเทียนหลอมไม่ได้อยู่ในสถานที่พิเศษปิดกั้นฟ้าดิน ไม่อาจเลี่ยงสัมผัสสวรรค์ได้ ดังนั้น เคราะห์สวรรค์จึงรู้สึกถึงการกำเนิดของโอสถเสริมสวรรค์ จึงมาเยือนแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
“ไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะรับการชะล้างของเคราะห์อัสนีไหวหรือไม่ จะให้โอสถนี้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่”
กลิ่นอายพลังที่กระจายมาจากเคราะห์อัสนีกำเนิดฟ้าทำให้ผู้อริยะมากมายหวาดกลัว ต่อให้เป็นพวกเขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะต้านไหว
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะต้านไหวหรือไม่
เพราะอย่างไรสำหรับผู้อริยะอายุหลายพันปีแล้ว เขาก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น!
แต่จากนั้นคนมากมายก็เบิกตาโตมาก มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…เขากำลังทำอะไร”
ตอนนี้ เสิ่นเทียนไม่ได้เตรียมรับมือกับเคราะห์ภัยเหมือนตอนคนอื่น แต่แหงนหน้ามองฟ้า โค้งตัวให้เคราะห์สวรรค์
เขาพูดเสียงดังกังวาน “ขอบคุณท่านเคราะห์สวรรค์ ที่เจียดเวลาขณะยุ่งอยู่มาฟ้าผ่า!”
…..
พูดไม่ออก
คนมากมายใต้ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ทำหน้ามึนงง
แม้แต่ผู้อริยะพวกนั้นยังมุมปากกระตุกรัว
เจ้าหนูนี่กำลังทำอะไร
คารวะเคราะห์สวรรค์รึ
เจ้าคิดว่าคารวะเคราะห์สวรรค์แล้ว เคราะห์สวรรค์จะไม่ผ่าเจ้ารึ
เล่นอะไรกัน!
ต้องรู้ว่าเคราะห์สวรรค์เกิดจากกฎแห่งสวรรค์ กฎแห่งสวรรค์ไม่มีความปรานี ปราบปรามทุกสรรพสัตว์!
ถึงการยั่วยุเคราะห์สวรรค์อาจจะทำให้อานุภาพเคราะห์สวรรค์รุนแรงกว่าเดิม แต่ก็ไม่เคยมีใครลดอานุภาพเคราะห์สวรรค์ลงได้เพราะความเกรงใจ!
ถ้าสิ่งนี้มีประโยชน์ เช่นนั้นโลกนี้คงไม่มีผีดวงซวยตายตกด้วยเคราะห์สวรรค์มากขนาดนั้นแล้ว!
ผู้อริยะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแค่นยิ้ม “เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตาย!”
เมื่ออยู่ต่อหน้าเคราะห์สวรรค์ มนุษย์เล็กจ้อยราวกับมดปลวก
มันไม่ลดอานุภาพลงเพราะเจ้าคารวะฟ้าหรอก!
ไม่หาทางรับมือเต็มที่ แต่อยากจะหาทางลัดต่างๆ นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายรึ
ผู้อริยะและผู้สูงศักดิ์สวรรค์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยิ้มเยาะ พวกเขากำลังอยากจะหาเรื่องเสิ่นเทียนพอดี ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูนี่จะรนหาที่ตายเอง ประหยัดเวลาพวกเขาไปได้เลย
หากเสิ่นเทียนสิ้นชีพด้วยเคราะห์สวรรค์ นี่จะฉีกหน้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้มากกว่าเอาชนะเขาอีก เพราะอย่างไรพรุ่งนี้ก็เป็นพิธีใหญ่ เย็นวันนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับถูกฟ้าผ่าตาย
ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะต้องถูกหัวเราะเยาะไปหลายพันปี!
แต่จากนั้น ภาพที่ลอยขึ้นมาก็ทำให้ผู้อริยะทุกคนตาค้างอ้าปากกว้าง!
เมฆเคราะห์ภัยบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์เหมือนได้รับผลจากเสิ่นเทียน แม้แต่แสงเคราะห์ภัยยังอ่อนลงไปบ้าง
“ไม่มีทาง!”
ผู้อริยะจากแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันร้องตกใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
แม้แต่ผู้อริยะคนอื่นยังมีสีหน้าหวาดกลัว!
นี่มันอะไรกัน
อานุภาพเคราะห์สวรรค์ลดลงจริงๆ รึ
หรือว่าวิธีนี้จะมีประโยชน์จริงๆ
บางทีอาจเป็นเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นบุตรแท้ๆ ของสวรรค์ แม้แต่เคราะห์สวรรค์ยังไว้หน้าเขาหรือ
ต่อให้เป็นผู้อริยะก็ยังไม่เคยเจอเรื่องแปลกเช่นนี้!
แต่พวกเขาไม่คิดว่าวิธีนี้ของเสิ่นเทียนจะมีประโยชน์จริงๆ กระทั่งยินดีเชื่อว่าเสิ่นเทียนเป็นบุตรแท้ๆ ของสวรรค์มากกว่า เพราะในกาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน มีคนทำเช่นนี้เยอะมาก
เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป เหนือกว่ากฎตายตัวฟ้าดินอีก!
หวังเสินซวีอ้าปากกว้าง คางแทบจะร่วงลงมา อดปลงอนิจจังไม่ได้ “สหายเสิ่น สุดยอดเลย! เมื่อก่อนข้าก็คิดว่าสหายเสิ่นเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่มีดวงชะตาสูงสุด แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นบุตรแท้ๆ ของสวรรค์! เจ๋งสุดยอด!”
หวังเสินซวียกนิ้วโป้งด้วยความเลื่อมใส
ด้านข้าง ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองหวังเสินซวี ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “ปัญญาอ่อน!”
หวังเสินซวีพลันกระโดดขึ้นมา “เจ้าคนแซ่ฉีอย่ารังแกกันเกินไปนัก เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะเผาชีวิตสับเจ้าให้ตาย! ช่วงนี้แซ่หวังได้ตระหนักรู้อะไรมามากมาย ฟื้นอายุขัยมาเป็นร้อยปีแล้ว ความจริง ข้าก็อยากจะสับคนอีกแล้ว!”
“อ้อ เจ้าก็ลองดูสิ”
ฉีเซ่าเสวียนเอ่ยราบเรียบ ปราณม่วงรอบตัวยิ่งใหญ่ ระเบิดพลังอำนาจน่ากลัวออกมา!
ง้าวมังกรสวรรค์โผล่ออกมา หมุนม้วนปราณม่วงมหาศาล ราวกับเทพสงครามมาเยือนโลกมนุษย์!
ช่วงนี้ กำลังรบของฉีเซ่าเสวียนเพิ่มขึ้นไม่น้อย อยากจะหาคนมาฝึกมือพอดี
“จะ…เจ้าคิดจะทำอะไร อย่าคิดว่าแซ่หวังกลัวเจ้านะ ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวส่งผลกระทบถึงสหายเสิ่นฝ่าด่านเคราะห์ แซ่หวังจะสับเจ้าให้ตาย!”
หวังเสินซวีใจฝ่อ ไม่นึกเลยว่าฉีเซ่าเสวียนจะอยากสู้จริงๆ ทำให้เขาเก้อเขินนิดๆ
ถึงเขาจะฟื้นอายุขัยมาบ้าง แต่ก็ไม่พอสู้กับฉีเซ่าเสวียน!
ถึงอย่างไรฉีเซ่าเสวียนก็เป็นอันดับหนึ่งในดินแดนบูรพาก่อนเสิ่นเทียนจะมีชื่อเสียง!
ตอนนี้ ก็เป็นผู้มีชื่อเสียง ‘อันดับหนึ่งใต้ฟ้า’
ถ้าไม่มีอายุขัยสามร้อยห้าร้อยปีเป็นโล่ หวังเสินซวีก็ไม่มั่นใจเท่าไรว่าจะสู้กับเจ้านี่ได้!
…..
“แซ่ฉีไม่รังแกคนแก่ อีกทั้งใกล้จะลงหลุมอยู่แล้วด้วย!”
ฉีเซ่าเสวียนเห็นเขาทำหน้ากลัวก็ขี้เกียจจะสนใจ แต่หันไปอีกทาง
หวังเสินซวีคันยิบในใจกับการเมินของฉีเซ่าเสวียน แต่กลับไม่กล้าออกมือ
แม้หวังเสินซวีจะได้เคล็ดอมตะนิรันดร์เต่าดำ แต่ก็ติดที่การเผาชีวิต อาจจะเพราะเมื่อก่อนอึดอัดใจมานานมาก ช่วงนี้หวังเสินซวีคุยไม่เข้าหูกับใครก็สู้สุดชีวิตทันที
แต่การฟื้นอายุขัยไม่เร็วเท่าการเผา จนถึงตอนนี้หวังเสินซวียังคงผมขาว ไม่กลับมาเป็นร่างวัยหนุ่ม
เพราะทุกครั้งที่ฟื้นอายุขัยมาได้เล็กน้อย ก็จะอดใจเผาต่อไม่ได้
นี่เหมือนว่า…จะไม่ดีเลยจริงๆ~
แต่สู้ไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกลียด หวังเสินซวีบ่นพึมพำ “เจ้าคนแซ่ฉี เจ้ารอข้าก่อนเถอะ!”
ให้เจ้าได้ลำพองใจไปอีกหน่อย อีกไม่นานหรอก!
ชาวโลกหัวเราะเยาะว่าข้าบ้า ข้าจะหัวเราะกลับว่าพวกโง่เขลา!
โอสถสูงสุดจะกำเนิดแล้ว เดี๋ยวจะต้องเข้าไปยกยอสหายเสิ่นก่อนใคร
เหอะๆ หากโม้ให้สหายเสิ่นมีความสุข หลอมโอสถเสร็จเมื่อไร ก็จะได้แบ่งน้ำแกงมาสักถ้วยไม่ใช่รึ
…..
ข้าแซ่หวังฉลาดจริงๆ!
นี่คือโอสถสูงสุด กินเสร็จจะลอยขึ้น!
ถึงตอนนั้นอายุขัยเพิ่มขึ้นมาก เจ้าคนแซ่ฉี แซ่หวังจะสับเจ้าให้ตาย!
…………………….
Comments