บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 414 งานประมูลเทพสวรรค์!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 414 งานประมูลเทพสวรรค์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 414 งานประมูลเทพสวรรค์!

เมื่อเห็นโยวอิ่งที่ถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พันเป็นหมูสามชั้นแล้ว เหล่าผู้อริยะต่างโล่งอก

ยังดี ถือว่าจับมารร้ายนี่ได้แล้ว

….

ขุมอำนาจใหญ่รู้ว่าลัทธิวิญญาณร้ายมีอำนาจคุกคามสูงมาก เพียงแต่ว่าพวกเขาซ่อนในเงามืดมาตลอด ระมัดระวังและอยู่เงียบเชียบ

ดังนั้นต่อให้แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่จะล้อมปราบลัทธิวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาตลอด แต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

แต่ตอนนี้ อริยะแท้จากลัทธิวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บุกมาทำชั่วถึงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

กำเริบเสิบสานเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต้องระมัดระวังตัวขึ้นมา!

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสัญญาณที่ไม่ดี!

ลัทธิวิญญาณร้ายสืบต่อกันมายาวนาน ไม่มีใครรู้ว่ามันแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่!

แต่มีจุดหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลย!

หากลัทธิวิญญาณร้ายก่อสงคราม จะต้องเป็นเคราะห์ภัยครั้งใหญ่แน่นอน

ไม่มีแดนศักดิ์สิทธิ์ใดไม่ข้องเกี่ยวด้วย สิ่งมีชีวิตทั้งห้าดินแดนจะสูญสิ้น!

จากปากของโยวอิ่งจึงได้รู้ว่ากองทัพวิญญาณร้ายต่างแดนจะมาถึงห้าดินแดนในอีกไม่ช้าแล้ว นี่ทำให้ผู้อริยะจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายอดเป็นกังวลมิได้ “เคราะห์ภัยกำลังจะมาถึงแล้ว!”

…..

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ “สหายทุกท่าน ประมุขวิหารวิญญาณร้ายถูกปราบแล้ว พิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ยังดำเนินต่อไปตามปกติ”

ผู้อริยะทุกคนตั้งสติกลับมา ก่อนจะมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ลึกล้ำไม่อาจคาดเดาแล้ว เหล่าผู้อริยะต่างปลงอนิจจังจากใจ

“ครั้งนี้ดีที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีสติปัญญาและคุณธรรมสูงส่ง เผาต้นกำเนิดจับประมุขวิหารวิญญาณร้ายนั้นไว้ พวกเราละอายใจเหลือเกิน”

ทุกคนตกตะลึงกับศักยภาพของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ผงาดมาพันปี กลับมีศักยภาพสูงส่งไม่อาจคาดเดา แม้แต่ผู้อริยะเก่าแก่ยังละอายใจเทียบไม่ได้

หากไม่ใช่เพราะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จับโยวอิ่งไว้ ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเจ้าอริยะส่วนใหญ่ของเขา เกรงว่าคงจะไม่มีใครจับเจ้านี่ไว้ได้

ถึงตอนนั้น ผู้อริยะทุกคนคงจะขายหน้ายับเยิน!

มิหนำซ้ำคนนี้ยังเป็นภัยแฝงร้ายแรง หากเขาหนีไปได้จะกลายเป็นฝันร้ายของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่

การถูกผู้แข็งแกร่งลัทธิวิญญาณร้ายระดับอริยะแท้หกด่านเคราะห์ ทั้งยังมีความสามารถอำพรางแกร่งยิ่ง รวดเร็วสูงสุดคนหนึ่งหมายตา ต่อให้เป็นผู้อริยะยังก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “เทียนเอ๋อร์เป็นศิษย์ข้า และยังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

กล้าทำร้ายบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ต่อให้ข้าต้องเสียต้นกำเนิดพลังทั้งหมดก็จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด! ขณะเดียวกัน ศิษย์ทุกคนแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ข้าก็มีหน้าที่ปกป้องพวกเขาเช่นกัน!

หากสาวกวิญญาณร้ายมารุกรานศิษย์ฝ่ายข้า ข้าจะสู้จนเลือดหยดสุดท้าย!

เทพสวรรค์ไม่สูญสิ้น ปณิธานอันยิ่งใหญ่คงอยู่ยืนนาน!”

……

เทพสวรรค์ไม่สูญสิ้น ปณิธาณยิ่งใหญ่คงอยู่ยืนนาน!

โอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์อื่นได้ยินเช่นนั้นก็ใจสั่นสะท้าน

จากนั้นก็เกิดความอิจฉาจากใจจริง

“ดี เทพสวรรค์ไม่สูญสิ้น ปณิธานยิ่งใหญ่คงอยู่ยืนนาน!”

“นี่คืออาจารย์ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ รักเลยๆ!”

“ถือหางมาก เผาต้นกำเนิดปกป้องศิษย์ฝ่ายตัวเองโดยไม่เสียดายเลย!”

“มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ นี่เป็นโชคของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!”

“หันมาดูเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของเราสิ วันๆ เอาแต่หาทางเก็บค่าสอนจากเรา เทียบไม่ได้เลย!”

“เฮ้อ น้องสาวข้าถึงอายุบำเพ็ญเซียนแล้ว จะต้องหาทางส่งนางมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มีคนคุ้มกะลาหัวแล้ว!”

“พูดถูก หากเกิดกลียุคขึ้นมาจริงๆ อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังมีทางรอดมากกว่าอีก”

……

เวลานี้ โอรสสวรรค์มากมายต่างมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาด้วยความคับแค้นใจ

สายตาเล็กๆ นั้นเหมือนกำลังบอกว่าดูเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของคนอื่นเขาสิ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนมุมปากกระตุก เหมือนนั่งบนผ้าเข็ม

รู้สึกว่าในอนาคตอันยาวไกลนี้ แหล่งกำเนิดศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ตน คงจะต้องหมดลงแล้ว!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแบะปาก “ศิษย์น้องเฒ่าเจ้าเล่ห์ เอาอีกแล้ว!”

เขาจะไม่รู้ความคิดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้อย่างไร ปกติจะกรอกน้ำต้มไก่ให้ศิษย์แดนศักดิ์สิทธิ์ตนยังไม่เท่าไร เพราะเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคืออยากจะสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับเสิ่นเทียน!

แต่จะเห็นได้ชัดว่าเขาทำสำเร็จแล้ว

เสิ่นเทียนรู้สึกอบอุ่นในใจ จึงนำขวดหยกเลี่ยมทองสองขวดส่งให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

“อาจารย์ ข้ามีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งกับสามประกายวารีเทพอยู่ ฟื้นฟูต้นกำเนิดที่เสียไปของท่านได้!”

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ “เทียนเอ๋อร์มีน้ำใจ อาจารย์ไม่เป็นไร แค่เสียไปนิดหน่อย ฟื้นสักสองสามวันก็กลับมาเป็นปกติ เจ้าเก็บของเหลวเทพไว้เองเถอะ!”

เสิ่นเทียนโค้งตัวกล่าว “อาจารย์ ท่านทำเพื่อปกป้องศิษย์ เผาต้นกำเนิดอย่างไม่เสียดายเพื่อสู้กับเดรัจฉานวิญญาณร้าย ศิษย์มีพลังบำเพ็ญไม่มากพอ ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่ช่วยคิดอย่างสุดความสามารถ หวังว่าอาจารย์จะไม่ปฏิเสธ!”

“เทียนเอ๋อร์ ไม่เป็นไรจริงๆ!”

“อาจารย์ ช่วยรับไว้เถอะ!”

“โอสถศักดิ์สิทธิ์เยียวยาระดับนี้ เทียนเอ๋อร์เจ้าเก็บไว้เองเถอะ!”

“อาจารย์ ศิษย์ยังมีของเช่นนี้อีกมาก ท่านไม่ต้องเกรงใจ!”

….

ของนี้ ศิษย์ยังมีอีกเยอะ~

การบอกปัดกันไปๆ มาๆ ทำให้เหล่าผู้อริยะตาแดง

นั่นคือของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่งกับสามประกายวารีเทพเชียวนะ!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอาจจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าหน่อย แต่ก็มีจำนวนมากพอจะเติมเต็มเรื่องคุณภาพ!

ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานร้อยชั่ง มากพอจะฟื้นอาการบาดเจ็บต้นกำเนิดหลายครั้ง มิหนำซ้ำยังมีสามประกายวารีเทพที่ล้ำค่ายิ่งกว่า นั่นคือสมบัติสุดยอดในการเยียวยาที่เป็นที่ยอมรับ!

สมบัติสุดยอดเช่นนี้มีประโยชน์กับผู้อริยะอย่างมาก รักษาต้นกำเนิดมหามรรคได้!

หากเอาไปไว้โลกภายนอก ก็มากพอจะทำให้ยอดฝีมือเหลือคนานับแย่งชิงกัน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ

เหตุใดบุตรศักดิ์สิทธิ์บ้านคนอื่นถึงร่ำรวยเช่นนี้

มองไปที่บุตรศักดิ์สิทธิ์บ้านตน เหล่าผู้อริยะอดส่ายหน้ามิได้!

เฮ้อ คนเทียบคนมันช่างน่าโมโหจริงๆ!

ไอ้เด็กยากจนพวกนี้ ไม่มีเงินแล้วจะฝึกบำเพ็ญเซียนอะไร

……

เมื่อเห็นภาพอาจารย์เมตตาศิษย์กตัญญูแล้ว ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมองตาโตแล้ว

ต้องบอกว่าการกรอกน้ำต้มไก่และแลกความรู้สึกดีๆ นั้น เขายังห่างชั้นจากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีกไกล

นักพรตชราพูดด้วยความคับอกคับใจ “ศิษย์หลาน ข้าเองก็ออกแรงไปตั้งมากเพื่อจะจับประมุขวิหารวิญญาณร้ายนั่นนะ! เจ้าหนูนั่นมีศักยภาพเหนือชั้น ดิ้นรนต่อต้านอย่างคลุ้มคลั่ง

ข้าเสียพลังปราณเดิมไปมหาศาลกว่าจะปราบมันได้ เหนื่อยจะตายแล้ว เจ้าว่าควรจะให้โอสถเสริมสวรรค์กับข้าสักสิบเม็ดแปดเม็ดได้หรือไม่ ให้ข้าฟื้นพลังหน่อยน่ะ!”

ทุกคนพูดไม่ออก

ฉายาบัวมรกตไม่ได้มาเพราะเล่นๆ จริงๆ ความหนาของหนังหน้าไม่มีใครเทียบได้!

ยังจะมาใช้พลังปราณเดิมไปมหาศาลอีกรึ

เจ้านักพรตแก่ แค่เคาะกระบองใส่ข้างหลังคนอื่นเขาไม่ใช่รึ

พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัสอะไรกัน

หรือว่ากระบองนั่นของเจ้าไม่แข็งพอ ทุบจนหักแล้ว

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เจ้าก็ไม่ไหวแล้วกระมัง!

…..

เสิ่นเทียนเอ่ยด้วยใบหน้าจนปัญญา กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อาจารย์ลุง อย่าล้อเล่นสิ แค่ทุบกระบองเดียว เหตุใดท่านถึงพูดเหมือนผ่านศึกใหญ่สะท้านฟ้าอะไรขนาดนั้น!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหน้าแดงเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปกปิดเอาไว้ “ข้าบาดเจ็บภายใน ไม่ชัดเจน ข้าบาดเจ็บภายในแล้ว หากไม่ได้โอสถเสริมสวรรค์มาเยียวยา เกรงว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ศิษย์หลานเจ้าจะยอม…”

ยังพูดไม่จบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ทนฟังต่อไปไม่ได้ ปล่อยโซ่อัสนีออกมาจับเขาไป!

“ศิษย์น้องรอเดี๋ยว ข้ายังพูดไม่จบนะ! ศิษย์หลาน เช่นนั้นแค่เก้าเม็ดก็ได้! แปดเม็ด เจ็ดเม็ด หกเม็ด ห้าเม็ดก็ได้! อู้ๆๆ~”

อัสนีเทพกำเนิดฟ้ารวมเป็นลักษณะผ้า ก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะยัดเข้าไปในปากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต ทันใดนั้น เส้นผมของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ตั้งขึ้น

คำพูดขยะมากมายนั้นพลันสะอาดขึ้นทันตา

เมื่อเห็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกลากไปแล้ว ผู้อาวุโสมากมายของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่างโล่งอก

อืม เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทำดี!

จะให้เจ้านี่พูดต่อไปไม่ได้แล้ว น่าขายหน้าจริงๆ!

ถึงอย่างไรแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อันยิ่งใหญ่ก็ต้องมีเกียรติ!

……

หลังผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกลากไปข้างๆ แล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาปรากฏข้างกายเสิ่นเทียน คุ้มกันให้เขา

เสิ่นเทียนเก็บหม้อจักรพรรดิชิงไป ก่อนนำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าสิบเม็ดออกมาให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

“อาจารย์ โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าสิบเม็ดนี้ ศิษย์ขอมอบให้แดนศักดิ์สิทธิ์”

ชาวบ้านไม่มีความผิดแต่ซวยเพราะมีสมบัติ เสิ่นเทียนเข้าใจในคำนี้ดี

มีคนเห็นเขาหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามากขนาดนี้ หากเก็บไว้กับตัวทั้งหมด จะต้องถูกหมายตาแน่

ผู้แข็งแกร่งระดับอริยะพวกนั้นภายนอกดูไม่สนใจ แต่จะต้องคิดอะไรในใจแน่

ถึงอย่างไรโอสถเทพเช่นนี้ก็เหนี่ยวนำเคราะห์อัสนีกำเนิดฟ้าได้

มากพอจะทำให้ผู้อริยะมากมายยอมเสี่ยง!

โยวอิ่งนั่นคือตัวอย่างที่ชัดเจน แม้แต่อริยะแท้หกด่านเคราะห์ยังอดทนไม่ไหว ยอมเผยตัวตนจะมาแย่งชิง!

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าผู้อริยะคนอื่นก็ยากจะต้านความเย้ายวนนี้ได้

และเสิ่นเทียนไม่มีทางอยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตลอดชีวิต ก็ยังต้องออกไปข้างนอก นี่จะถูกคนหมายตาได้ง่ายมาก ถูกวางแผนการร้ายต่างๆ!

แม้ผู้อริยะระดับล่างคนสองคนลอบโจมตีมา เสิ่นเทียนยังไม่เห็นในสายตาได้ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหา!

เข่นฆ่ากันเป็นเรื่องที่เหนื่อยมากเหมือนกัน ลงมือหนักไปจะดึงเส้นความแค้นมาได้ง่ายมาก~

สู้อาศัยตอนนี้ที่มีคนเยอะ มอบโอสถเสริมสวรรค์ให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างโจ่งแจ้งดีกว่า จะได้ลดปัญหาลง

มีเรื่องเพิ่มมาอีกเรื่องสู้เรื่องลดไปหนึ่งเรื่องไม่ได้!

อยู่โลกบำเพ็ญเซียน ก็ต้องมั่นคงหน่อย!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เทียนเอ๋อร์คิดว่าจะจัดการกับโอสถพวกนี้อย่างไร”

เขาเป็นคนฉลาด จะเดาความสัมพันธ์ของคุณและโทษในนั้นไม่ออกได้อย่างไร

ดังนั้นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จึงไม่ปฏิเสธ แต่ถามเสิ่นเทียนว่ามีวิธีใดหรือไม่

เสิ่นเทียนลูบคาง “อาจารย์ เราจะประมูลโอสถเสริมสวรรค์นี้ ผู้ให้ราคาสูงสุดได้ไป ใช้โอสถศักดิ์สิทธิ์หรืออาวุธอริยะมาแลกได้ นอกจากนี้ หากศิษย์หรือผู้อาวุโสฝ่ายเราต้องใช้โอสถเสริมสวรรค์ ศิษย์ก็จะช่วยหลอมให้ได้ แน่นอน วัตถุดิบต้องนำมาเอง จัดหาราคาต้นทุนที่แน่นอน”

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามีผลเพียงเม็ดแรก กินอีกก็ไม่ได้มีผลมากแล้ว!

สู้ประมูลโอสถพวกนี้ออกไป แลกเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์กับอาวุธอริยะจำนวนมากดีกว่า

แบบนี้จะได้เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น และยังได้ทรัพยากรมาจำนวนมากอีก

ถึงอย่างไรขอแค่มีโอสถศักดิ์สิทธิ์เต็มตลอด เสิ่นเทียนก็จะหลอมโอสถเสริมสวรรค์ได้เยอะกว่าเดิมตลอดเวลา!

นี่ไม่ใช่การค้าขายครั้งเดียวจบ แต่เงื่อนไขทำให้ดำเนินการต่อไปได้

ก็แค่โอสถเสริมสวรรค์เอง!

เสียเวลานิดหน่อย จะเอาเจ้านี่เท่าไรก็ได้!

…..

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อม “เทียนเอ๋อร์มีน้ำใจ ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สมบัติทั้งหมดที่ได้มาจากการประมูลโอสถเสริมสวรรค์พวกนี้จะเป็นของเจ้าทั้งหมด!”

เสิ่นเทียนอึ้งไป ก่อนพูดอย่างแน่วแน่ “อาจารย์ ศิษย์เป็นหนึ่งในคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ ย่อมต้องสร้างคุณูปการให้แดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าพวกนี้ เดิมทีศิษย์มอบให้แดนศักดิ์สิทธิ์ ทรัพยากรที่ได้มาย่อมต้องให้แดนศักดิ์สิทธิ์ ศิษย์จะรับไว้ไม่ได้!

ศิษย์คิดมาตลอดว่า ‘อย่าคิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทำอะไรให้เจ้า แต่ให้คิดเยอะๆ ว่าเราจะทำอะไรให้แดนศักดิ์สิทธิ์!’ ศิษย์มีความสุขมากที่ได้สร้างคุณูปการให้แดนศักดิ์สิทธิ์ หวังว่าอาจารย์จะรับน้ำใจของศิษย์ไว้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้าเบาๆ “เด็กโง่ เจ้าใช้ทั้งแรงกายและใจกับทรัพยากรจำนวนมากในการโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์จะไปเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไร เรื่องนี้เอาตามนี้ อย่าทำตัวเป็นพวกเด็กสาวนักเลย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ ไม่ให้โอกาสปฏิเสธเลย

เสิ่นเทียนจนปัญญายิ่งนัก ได้แต่พยักหน้าตกลง

อืม ใช่

จนปัญญายิ่งนัก เสียดาย~

ไม่นานนัก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็นำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าสิบเม็ดออกจากยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

ส่วนเสิ่นเทียนตั้งใจจะพักผ่อนสักครู่ ปิดด่านบำเพ็ญมานานขนาดนี้ หลอมโอสถต่อเนื่องมาสิบสองวัน

เสิ่นเทียนระบายไฟหยางออกไปเยอะ จะต้องพักฟื้นบ้าง

ขณะเดียวกันเขายังต้องซ้อมขั้นตอนเพื่อเตรียมร่วมพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ในวันพรุ่งนี้ และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อความมั่นคงปลอดภัย เสิ่นเทียนยังต้องหลอมบุตรเทพโลหิตไว้ใช้อีกแปดถึงสิบตน!

ถึงอย่างไรทุกคนก็บอกว่าลัทธิวิญญาณร้ายก่อเรื่องแล้ว ห้าดินแดนจะเกิดเรื่องราวมากมาย

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ความปลอดภัยย่อมมาเป็นอันดับแรก

เรื่องราวต่างๆ พวกนี้ จะต้องใช้ไฟหยางและกำลังวังชา

เฮ้อ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว!

คนมาถึงวัยหนุ่มแล้วไม่มีทางเลือกเลย~

…..

ไม่นานนัก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ประกาศเรื่องประมูลโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกไป มีเพียงแบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้เหล่าผู้อริยะรู้ว่าเสิ่นเทียนมอบโอสถกับสำนักแล้ว กันไม่ให้คนพวกนี้มีความคิดไม่ดีอีก

รองลงมาก็เพื่อเสริมสร้างผลการประมูล!

หากไม่มีคนใหญ่คนโตเข้าร่วม นั่นจะเรียกงานประมูลอะไรได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้ศิษย์จัดการเรื่องสถานที่ประมูล สั่งให้เถ้าแก่ซ่งรับหน้าที่ผู้ดำเนินการประมูล

เถ้าแก่ซ่งเคยเป็นเถ้าแก่ร้านวิญญาณสวรรค์ในโลกธรรมดามาก่อน พูดได้ว่าเหมาะสมกับการเป็นผู้ดำเนินงานประมูลที่สุด

ซึ่งตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งเองยังตกใจที่ได้รับความกรุณา

นี่คืองานประมูลเทพสวรรค์ ทุกคนที่นี่เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้แข็งแกร่งสุดยอดจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่

การได้เป็นผู้ดำเนินงานประมูลครั้งนี้ ทำให้เขาดีใจเป็นบ้า

“ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์วางใจเถอะ ศิษย์จะทำอย่างสุดความสามารถ!”

เถ้าแก่ซ่งยิ้มหน้าบานเหมือนดอกเบญจมาศ การได้ดำเนินงานประมูลให้ผู้อริยะเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ทำให้เขาคุยโม้ไปได้พันปี!

“ท่านบรรพบุรุษตระกูลซ่งทุกท่าน ข้าซ่งฟู้กุ้ยมีวันนี้ได้เพราะมีท่านเซียนคอยปกปัก เป็นเกียรติยศแห่งวงศ์ตระกูล!”

หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียน เขาซ่งฟู้กุ้ยอาจจะยังเป็นเถ้าแก่ตัวเล็กตกต่ำในร้านวิญญาณสวรรค์ จะไปได้เข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้อย่างไร จะได้สัมผัสกับคนชั้นสูงเช่นนี้ได้อย่างไร

เรื่องเช่นนี้ หากเป็นเมื่อก่อน แค่ฝันก็ยังไม่กล้าคิดเลย!

ขอบคุณท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

ด้านข้าง หลิวไท่อี่ควักม้วนหยกในอกเสื้อออกมา จดบันทึกเงียบๆ

‘เถ้าแก่ซ่งยกย่องนามของท่านเซียน ได้รับเกียรติยศสูงสุด ได้เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงานประมูลเทพสวรรค์!’

ตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับมีความสุขเสียอีก

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเกียรติยศสูงสุด!

…..

งานประมูลเทพสวรรค์ครั้งนี้เตรียมการมาอย่างดี เพื่อดึงดูดเหล่าผู้อริยะมา เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จึงกระจายข่าวประสิทธิภาพของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกไป

สามารถยกระดับคุณสมบัติของผู้อริยะได้ พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นมหาศาล มีประสิทธิผลพลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตา!

เวลานี้ ดึงดูดให้ผู้แข็งแกร่งมากมายเฝ้าใฝ่หา!

แต่พวกเขาส่วนใหญ่จะสงสัย คิดว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำลังฉวยโอกาสขึ้นราคาโอสถเสริมสวรรค์

ถึงอย่างไร หลังจากเป็นผู้อริยะแล้ว คุณสมบัติกายพวกเขาจะมั่นคงแล้ว แทบจะไม่มีโอสถใดมีผลกับพวกเขา!

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอสถที่ยกระดับทักษะการตระหนักรู้ของผู้อริยะได้ นี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย

หากไม่ใช่เพราะโอสถนี้เรียกเคราะห์อัสนีมา ทั้งยังแผ่กลิ่นหอมโอสถมหัศจรรย์ เป็นโอสถสูงสุดที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ ละก็ พวกเขาก็อาจจะไม่มากัน

แต่เหล่าผู้อริยะก็ยังกอดความสงสัยอย่างมากกับสรรพคุณเสริมความแกร่งของคุณสมบัติและทักษะการตระหนักรู้ มีไม่กี่คนที่เชื่อ

จุดที่สำคัญที่สุดคือ งานประมูลเทพสวรรค์จัดโดยเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

หากพวกเขาไม่ให้เกียรติตรงนี้ ก็เกรงว่าเทพสวรรค์อาจจะไปหาถึงหน้าบ้านด้วยตนเอง!

ถึงตอนนั้นประมือกันเจ็ดวันเจ็ดคืน ก็ยังตัดสินแพ้ชนะไม่ได้…

แค่กๆ แค่คิดก็ปวดไข่นิดๆ แล้ว!

…..

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็ต้องให้เกียรติตรงนี้!

เหล่าผู้อริยะมารวมกัน ใช้จิตสื่อสารกัน ขณะเดียวกันยังรองานประมูลเทพสวรรค์เริ่ม

เถ้าแก่ซ่งสวมชุดคลุมยาวสีแดง เดินขึ้นเวทีด้วยใบหน้าเปล่งแสงสีแดง “ทุกท่าน ผู้เยาว์ซ่งฟู้กุ้ย รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินงานประมูลครั้งนี้!

ของประมูลในวันนี้คือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า หลอมขึ้นโดยบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มีสรรพคุณมหัศจรรย์ชะล้างกระดูก ยกระดับคุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้ได้! เริ่มประมูลที่โอสถศักดิ์สิทธิ์สามต้นหรืออาวุธอริยะหนึ่งชิ้น!”

เถ้าแก่ซ่งมีความชำนาญมาก มีการบ่มเพาะจากการทำงานมาอย่างเชี่ยวชาญ เผชิญหน้ากับผู้อริยะมากมายก็ยังไม่ตื่นตระหนก

แต่ผู้อริยะด้านล่างกลับส่งเสียงดังก้อง

“อะไรนะ”

“แพงอะไรขนาดนี้”

“ถึงโอสถนี่จะมหัศจรรย์ แต่ก็ไม่มีค่าเท่ากับอาวุธอริยะชิ้นหนึ่งกระมัง!”

ทุกคนไม่เชื่อเลยว่าโอสถนี้จะยกระดับคุณสมบัติของผู้อริยะได้ตลอดกาล ถึงอย่างไรมันก็น่าเหลือเชื่อเกินไป หากประสิทธิผลมีเพียงชั่วคราว เช่นนั้นมูลค่าของโอสถนี้คงไม่เท่ากับอาวุธอริยะชิ้นหนึ่ง

ถึงอย่างไรอาวุธอริยะก็ให้การส่งเสริมยาวนานกว่า

ในช่วงสั้นๆ นี้ โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดแรกยังคงเงียบเหงา

แต่ก็ยังมีคนเอ่ยขึ้น เพราะอย่างไรเทพสวรรค์ก็เป็นเจ้าภาพ ก็ต้องให้เกียรติด้วย!

“กล้วยไม้มังกรเร้นระดับศักดิ์สิทธิ์สามต้น!”

“ผลหมื่นอสรพิษระดับศักดิ์สิทธิ์สี่ต้น!”

……

คนที่ร่วมเคาะประมูลมีน้อยมาก สุดท้ายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็ประมูลโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดแรกไป

หลักๆ เป็นเพราะความสัมพันธ์อันดีงามของแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกไม่อยากให้งานของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เงียบเหงา

ประมูลโอสถเสริมสวรรค์เม็ดนี้มา ก็เพราะเรื่องของน้ำใจหลายส่วน

ทว่าตอนที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกรับโอสถมาร่างกลับระหงสั่นไหวนิดๆ ใบหน้าตื่นตะลึง!

เมื่อโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าถึงมือ ก็มีพลังวิญญาณมหาศาลไหลเข้าไปในกายนาง ทำให้ตัวนางเปล่งแสงเทพ

แสงสว่างจ้า แผ่พลังเข้มข้นออกมาพร้อมกับพลังเย้ายวนรุนแรงยิ่ง เหมือนว่าหากกินโอสถเม็ดนี้ก็จะเกิดการผลัดเปลี่ยน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าอย่างไม่ลังเล

นางนั่งขัดสมาธิ หลับตาปิดสนิท ภายในกายมีแสงเทพพุ่งออกมาไม่หยุด มองไปดูมหัศจรรย์อย่างยิ่ง

…..

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ พึมพำกับตัวเอง ‘ข้าก็ต้องการผลลัพธ์เช่นนี้แหละ!’

โอสถสูงสุดที่เทียนเอ๋อร์หลอมด้วยตนเองจะเป็นของธรรมดาได้อย่างไร

คนธรรมดาผู้โง่เขลา รอเลือดทะลักออกมาได้เลย!

ฮิๆๆๆๆ~

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด