บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 496 หนึ่งสู้ร้อย ท่วงท่าสูงสุด!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 496 หนึ่งสู้ร้อย ท่วงท่าสูงสุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 496 หนึ่งสู้ร้อย ท่วงท่าสูงสุด!

โอรสสวรรค์ทุกคนทำหน้างุนงง รู้สึกเหลือเชื่อ

พวกเขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะกล้าพูดอวดดีเช่นนี้ ท้าสู้กับโอรสสวรรค์มากขนาดนี้พร้อมกัน

นี่มันน่าเหลือเชื่อ!

ทุกคนบนแท่นผนึกเทพล้วนเป็นผู้โดดเด่นสุดยอดของขุมอำนาจใหญ่ในห้าดินแดน มีพรสวรรค์เหนือธรรมดา

พลังบำเพ็ญพวกเขาอยู่ราวๆ มหาอริยะสิบด่านเคราะห์ กำลังรบแข็งแกร่งถึงที่สุด

โอรสสวรรค์มากขนาดนี้ร่วมมือกัน กระทั่งสังหารเซียนแท้ได้

ปรากฏว่าเสิ่นเทียนประกาศศักดาจะให้พวกเขาเข้าไปพร้อมกัน

โอหังยิ่งนัก โอหังจริงๆ!

…..

หลังได้ฟังคำพูดนี้ โอรสสวรรค์ใต้แท่นจำนวนมากหัวเราะเยาะ

“น่าสนใจ เจ้านี่อวดดีจริงๆ”

“เจ้าเด็กนี่จะท้าสู้กับสุดยอดโอรสสวรรค์พร้อมกันเกือบร้อยคนรึ”

“ช่างไม่กลัวหน้าแตกเสียจริงเลย”

“ถ้าเขามีศักยภาพนั้น ข้าจะกินภูเขาลูกนี้ให้หมด!”

ทุกคนหัวเราะเยาะไม่หยุด มั่นใจว่าเสิ่นเทียนกำลังเสแสร้ง

เรื่องเช่นนี้เหนือเกินกว่าเหตุผลปกติ ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งอาวุโสก็แทบจะทำไม่ได้

แค่คุยโม้ไม่มีประโยชน์ ยังต้องมีศักยภาพแกร่งมากด้วย พอจะกำราบทุกคนได้

เสิ่นเทียนดูอายุพอๆ กับพวกเขา ต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์แกร่งอย่างไรก็ไม่มีทางกำราบโอรสสวรรค์ทุกคนได้กระมัง!

……

ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่โอรสสวรรค์บนแท่นผนึกเทพยังหัวเราะเยาะ

มีคนพูดอย่างเฉยชา “สหายท่านนี้ อย่าคิดว่าเอาชนะเจียงไท่อี่ได้แล้วจะอวดดีเช่นนี้ได้! กล้าท้าสู้กับเราทุกคน น่าชมเชยความกล้าหาญ แต่ไม่รู้ว่าจะต้านการทุบตีครั้งนี้ได้หรือไม่!”

คนนี้พูดเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม คิดว่าเสิ่นเทียนกำลังหาเรื่องใส่ตัว

ต่อให้เป็นเซิ่งหยางซวีและพวกเซี่ยงฉงโหลวที่อยู่อันดับแรกสุดในรายนามยังไม่กล้าโอหังเช่นนี้

อย่าว่าแต่ท้าสู้กับทุกคนเลย แค่ไม่กี่คนก็พอแล้ว ทุกคนล้วนเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์ แม้จะมีความต่างเรื่องแข็งแกร่งและอ่อนแอ ก็ไม่ถึงระดับที่จะสู้กับทุกคนด้วยตัวคนเดียวได้

เสิ่นเทียนมีสีหน้าเรียบเฉยกับการเย้ยเยาะของคนพวกนั้น “ไม่เป็นไร แซ่เสิ่นพูดคำไหนคำนั้น พวกเจ้า เข้ามาพร้อมกันเลย!”

คนมากขนาดนี้ เข้ามาสู้ทีละคนจะไม่เสียเวลามากรึ

เสิ่นเทียนไม่คิดจะเสียเวลากับเจ้าพวกนี้ต่อไป อยากจะรีบจบรีบเก็บงานหน่อย

คำพูดเสิ่นเทียนเหมือนเชื้อเพลิง พลันจุดไฟบรรยากาศขึ้น

“อวดดียิ่งนัก ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”

“อย่าขวางข้า ข้าจะทุบตีมัน!”

โอรสสวรรค์ในที่นี้พลันตะโกนเสียงดัง เพลิงโทสะพุ่งขึ้นฟ้า

พวกเขาแย่งกันจะท้าสู้เสิ่นเทียน

……

เสี่ยวคุนเผิงพุ่งเข้ามาก่อน ทำเสียงขึ้นจมูก “ไฉนต้องใช้คนเยอะขนาดนั้นกัน แค่ข้าคนเดียวก็พอ!”

มันกระพือสองปีกหยินหยาง กลายเป็นลำแสงสว่างจ้าพุ่งใส่เสิ่นเทียน

พริบตาเดียวห้วงอากาศพังทลาย ปราณหยินหยางและกฎเกณฑ์มิติมากมายผสมผสานกัน ทะลวงผ่านมิติ

ภายใต้การเสริมด้วยสองปีกหยินหยางกันวิชาคุนเผิง เสี่ยวคุนเผิงรวดเร็วอย่างยิ่ง พรวดเดียวก็พุ่งมาหน้าสุดของทุกคน

หวงจิ่วเทียนพลันตะโกนเสียงดัง “เสี่ยวคุนเผิง เจ้ามันไร้คุณธรรม!”

เขาก็พุ่งไปเช่นกัน อยากจะไปถึงก่อน

ทว่าโอรสสวรรค์รอบกายสู้กันแล้ว พลังเทพสี่ทิศแผ่กระจาย อานุภาพยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย

หวงจิ่วเทียนยังไม่ทันพุ่งออกจากวงล้อมก็ถูกลากเข้าไปในสนามรบ สู้กับโอรสสวรรค์ทุกคนอย่างดุเดือด

คนพวกนี้ยังไม่ทันท้าสู้กับเสิ่นเทียนก็ตีกันเองแล้ว

เนื่องจากเสี่ยวคุนเผิงชิงลงมือก่อน ทะลวงผ่านอากาศสำเร็จ พลันมาปรากฏตรงหน้าเสิ่นเทียน

เขาง้างหมัดขวามาพร้อมพลังยิ่งใหญ่ไร้พรมแดน ชกใส่เสิ่นเทียน

หมัดนี้มีอานุภาพดุดันยิ่ง อำนาจเทพลี้ลับไม่อาจคาดเดา ยากจะกล่าวได้

ลำแสงหมัดปกคลุมโลก แฝงด้วยอานุภาพพลังไม่มีสิ้นสุด บางครั้งจะเหมือนคุนยักษ์ดึกดำบรรพ์กดทับลงมา ทลายภูผานที

บางครั้งจะเหมือนเผิงสวรรค์ดึกดำบรรพ์พุ่งขึ้นฟ้าเก้าชั้น ทำลายล้างทุกสิ่ง

เสี่ยวคุนเผิงบุกเข้ามาด้วยกำลังทั้งหมด ไม่มีออมมือเลย

พลังนี้ เตรียมเซียนยังเลือดอาบ

เสิ่นเทียนแน่นิ่ง ดวงตาเฉยเมยยิ่ง

เขายกมือขวาขึ้นช้าๆ และรับการโจมตีของเสี่ยวคุนเผิง

เสิ่นเทียนสำแดงหมัดเทพฟ้าขุ่น ลำแสงหมัดสว่างจ้า เหมือนดาราไร้ขอบเขตลากดาวจักรพรรดินอกฟ้าตกลงมา สว่างพร่างพราวถึงที่สุด

บึ้ม!

สองคนปะทะกัน อานุภาพน่าสะพรึงหมุนม้วนฟ้าดิน

ห้วงอากาศพลันดับสลาย แตกกระจายเป็นซากปรักหักพัง

เสี่ยวคุนเผิงหน้าเปลี่ยนสีไป ทั้งตัวเขากระเด็นไปเหมือนกระสุน กระแทกกับโอรสสวรรค์หลายคน

….

ภาพนี้สร้างความตกใจกับทุกคน

โอรสสวรรค์ที่เดิมทียังสู้กันต้องหยุดมือ ดวงตาเหม่อลอย

พวกเขาพบว่าเสิ่นเทียนเหมือนจะไม่ได้คุยโม้เกินจริง!

เสี่ยวคุนเผิงมีกายเนื้อน่ากลัว ผู้แข็งแกร่งทุกคนรู้กันดี

เขามีพลังป่าเถื่อน เคยชกหมัดเดียวเตรียมเซียนตาย พละกำลังไม่อาจต้านทานได้

พวกเซิ่งหยางซวีกับเซี่ยงฉงโหลวยังไม่กล้าปะทะกับตัวเสี่ยวคุนเผิงตรงๆ

ทว่าผู้แข็งแกร่งที่มีกายเนื้อระดับนี้กลับถูกเสิ่นเทียนชกหมัดเดียวกระเด็น กำราบได้อยู่หมัด

น่ากลัวยิ่งนัก!

คนนี้มาจากที่ใดกันแน่

ไม่ใช่แค่มีวิชาอัสนีแข็งแกร่ง แม้แต่กายเนื้อยังน่ากลัวขนาดนี้!

…..

เสี่ยวคุนเผิงลุกขึ้น ดวงตาเปลี่ยนเป็นเย็นชายิ่ง

เขาเอาสองมือไพล่หลัง แต่กลับตัวสั่น และยังมีเลือดไหล

เห็นได้ชัดว่าพละกำลังของเสิ่นเทียน แม้แต่เขายังต้านไม่ไหว

“ข้าขอลองหน่อย!”

หวงจิ่วเทียนเห็นดังนั้น นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยจิตต่อสู้ร้อนแรง

เขาพุ่งทะยานไปอย่างน่าเกรงขาม รอบกายระเบิดเปลวเพลิงไร้ขอบเขต ลุกโชนขึ้น

เปลวเพลิงสีส้มอมแดงจู่โจมเข้าไป กลายเป็นหงส์เพลิงตัวหนึ่งพุ่งขึ้นท้องนภา

นี่คือเพลิงเทพหงส์ มีอานุภาพไร้ที่สิ้นสุด เผาทำลายห้วงอากาศเป็นความว่างเปล่าได้

ทว่าเสิ่นเทียนสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ระเบิดเปลวเพลิงที่บ้าคลั่งยิ่งกว่า

เพลิงเทพสีแดงหมุนม้วนฟ้าดิน มาพร้อมอำนาจเทพเจ้าสูงสุด ปกคลุมฟ้าดิน

ตอนที่เพลิงเทพหงส์ปะทะกับเปลวเพลิงนี้ก็ถูกกลืนกินไปโดยพลัน

หวงจิ่วเทียนหน้าเป็นสีแดงขึ้นมา ตัวสั่นไหวอย่างแรง ถอยไปพันลี้

เห็นได้ชัดว่าเมื่อเพลิงเทพหงส์ถูกกลืนกิน เขาเองก็ถูกแว้งกัดเช่นกัน

หวงจิ่วเทียนไม่ได้สนใจบาดแผลในกาย แต่มองเปลวเพลิงสีแดงนั้นด้วยความตื่นกลัว “นี่มัน…เพลิงอมตะหงส์เทพ!”

เขาเป็นเผ่าหงส์อมตะ ย่อมรู้ว่าเพลิงอมตะหงส์เทพหมายถึงอะไร

นี่คือเปลวเพลิงสูงสุดของเผ่าหงส์อมตะ แฝงอานุภาพมหาศาล มีเพียงสายเลือดเทพหงส์เข้มข้นถึงขีดสุดจนหวนคืนสู่บรรพบุรุษ ถึงจะเกิดเปลวเพลิงเช่นนี้

ทว่าเปลวเพลิงเทพที่สุดแห่งยุคนี้กลับไปอยู่ในตัวมนุษย์คนหนึ่ง

……

หลังเห็นหวงจิ่วเทียนพ่ายแพ้ถอยไป โอรสสวรรค์ทุกคนตื่นตกใจอย่างยิ่ง

พวกเขามีแววตาจริงจังยิ่ง ไม่กล้าดูถูกเสิ่นเทียนอีก

เอาชนะเสี่ยวคุนเผิงกับหวงจิ่วเทียนในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้ นอกจากเสิ่นเทียนแล้วไม่มีใครทำได้อีก

กำลังรบที่เขาแสดงออกมาเหนือกว่าทุกคนที่นี่ แต่นี่ไม่ขวางทุกคนไว้ ในทางตรงข้ามกลับกระตุ้นจิตต่อสู้ในกายทุกคน

เซี่ยงฉงโหลวดวงตาลุกวาว “สหายเสิ่นหยวนแข็งแกร่งจริงๆ สู้ตัวต่อตัวต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าแน่”

ถึงตอนนี้ เซี่ยงฉงโหลวยอมรับกำลังรบของเสิ่นเทียนเช่นกัน

เขามองตากับเซิ่งหยางซวี ก่อนจะป้องมือให้เสิ่นเทียน “ถ้าอย่างนั้น แซ่เซี่ยงก็ขอร่วมมือกับหยางซวี ขอคำชี้แนะจากสหายเสิ่น!”

เมื่อได้ฟังคำพูดเซี่ยงฉงโหลว เซิ่งหยางซวีมีเส้นเลือดดำขึ้นมาบนหน้าผาก แต่ไม่ได้พูดอะไร

ถึงอย่างไรนี่ก็พัวพันไปถึงเกียรติของสุดยอดโอรสสวรรค์ห้าดินแดน หากให้เสิ่นเทียนเอาชนะไปเรื่อยๆ เช่นนั้นพวกเขาคงจะขายหน้าป่นปี้หมดแน่

อีกอย่าง เมื่อครู่เสิ่นเทียนก็พูดเองว่าร่วมมือกันได้

พวกเขาทำเช่นนี้ไม่ถือว่าผิดต่อคุณธรรม!

เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้ม “ย่อมได้ สหายทั้งสองออกมือได้เต็มที่เลย แซ่เสิ่นจะรับไว้เอง”

เซี่ยงฉงโหลวดวงตาร้อนแรง ดวงตาซ้อนทับถูกกระตุ้นถึงขีดสุด

ฟ้าดินปรากฏลายซับซ้อน พลังแห่งเคราะห์ภัยหมุนม้วนฟ้าดิน

เกิดปรากฏการณ์ดวงตาซ้อนทับมหึมาบนอากาศ บดบังฟ้าบังดวงตะวัน ยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย

อีกด้าน เซิ่งหยางซวีก็ออกมือเช่นกัน

เขาใช้มือใหญ่กดอากาศ ทำให้ห้วงอากาศทลายลงทั้งหมด

ฟ้าดินยุบตัว กระจกโบราณยักษ์ลอยขึ้นมา กดอัดฟ้าดิน

กระจกโบราณเปล่งแสงวาววับ อานุภาพสั่นสะเทือนนภา เหมือนจะทำลายล้างเขตแดนนับพันนับหมื่นลี้

เซิ่งหยางซวีปลุกกระจกโบราณสุญญะ เคลื่อนพลังยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตโจมตีใส่เสิ่นเทียน

สุดยอดโอรสสวรรค์สองคนร่วมมือกัน พลานุภาพมากมายมหาศาล เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน

เสิ่นเทียนดวงตาเปล่งประกายวาว พ่นลมหายใจเบา “บุกได้ดี!”

เขาพุ่งขึ้นฟ้า รับการโจมตีของสองคนก่อน

กระบี่ดาราเบิกฟ้าพลันเข้ามือ กวาดแสงกระบี่มากมาย ลากผ่านห้วงอากาศพันลี้ จู่โจมใส่กระจกโบราณสุญญะอย่างรุนแรง

ชิ้ง!

กระจกโบราณสุญญะสั่นไหวอย่างแรง ต้านการโจมตีนี้ไม่ไหว กระเด็นออกไป

เซิ่งหยางซวีหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ฝืนเก็บกระจกโบราณสุญญะกลับมา ขณะเดียวกันเขายังสำแดงวิชามิติ เข้าไปในมิติไร้ขอบเขต หมายจะทำลายล้างพื้นที่นี้

พริบตาเดียว ฟ้าดินเหมือนถูกกดอัดรวมกัน จะทำลายทุกสรรพสัตว์ที่นี่

เสิ่นเทียนเปลี่ยนทิศโจมตี พลันตบใส่ห้วงอากาศด้านข้าง ทำลายกฎเกณฑ์มากมายลง

ทันใดนั้นห้วงอากาศแตกกระจาย ร่างเงาหนึ่งลอยขึ้นมาโดยพลัน ตกลงอากาศ

เซิ่งหยางซวีมีสีหน้าตื่นตกใจ ไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะหาตำแหน่งเขาพบ

ตอนนี้เซี่ยงฉงโหลวบุกเข้ามาอีกครั้ง พลังแห่งดวงตาซ้อนทับกระชากจิตวิญญาณคน เหมือนจะทำลายทุกสิ่งอย่าง

ในดวงตาเขาแสดงออกมาเป็นกงล้อหายนะล้างโลก อานุภาพล้นฟ้า เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างฟ้าดิน

เสิ่นเทียนเบนสายตา สองมือมีแสงเทพวนเวียน สว่างจ้าถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน สิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินในกายเขาพลันหมุนโคจร ไหลไปรวมไว้ในสองมือทั้งหมด ทำให้แสงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ

“หัตถ์ปฐมกาลทลายเวหา!”

เสิ่นเทียนเอ่ยเสียงเฉยชา มาพร้อมกับความน่าเกรงขามที่ไม่อาจต่อต้าน

เขาควงหมัดปฐมกาลทลายเวหา พลันตบใส่กงล้อหายนะล้างโลก

กึก!

เกิดเสียงดังเบาๆ

กงล้อหายนะล้างโลกที่แปลงมาจากพลังแห่งหายนะแตกกระจายเป็นเศษ โปรยไปรอบๆ

เซี่ยงฉงโหลวถูกกระแทกกลับไปเช่นกัน ร่างถอยไปไม่หยุด เหยียบอากาศแตกมากมาย

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตะลึงงัน

แพ้อีกแล้ว!

ครั้งนี้สองสุดยอดโอรสสวรรค์ร่วมมือกันยังเอาชนะเสิ่นเทียนไม่ได้

คนนี้แกร่งจนน่ากลัว!

……

เสิ่นเทียนมองไปรอบๆ ก่อนเอ่ยราบเรียบ “พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเถอะ! ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าจะไม่มีโอกาสแล้ว”

เหล่าโอรสสวรรค์ได้ยินดังนั้นก็มองหน้ากัน พวกเขาเห็นสถานการณ์รบชัดเจน มั่นใจว่าเสิ่นเทียนไม่ได้พูดโกหก

หากไม่ร่วมมือกัน พวกเขาจะไม่มีหวังเลยสักนิด

“ขอให้สหายเสิ่นชี้แนะด้วย!”

โอรสสวรรค์เกือบร้อยคนป้องมือพร้อมกัน พวกเขาต่างรู้กัน คิดจะร่วมมือกันสู้

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “มาเถอะ!”

เหล่าโอรสสวรรค์เห็นดังนั้นจึงระเบิดพลังมหาศาลในกาย

พวกเขาทุกคนต่างปลุกวิชาสูงสุดของตระกูลตน คิดจะออกมืออย่างเต็มที่

ทันใดนั้นฟ้าดินถูกปรากฏการณ์มากมายปกคลุม โหมซัดสาดมาไม่ขาดสาย

กลิ่นอายพลังหลากสี ปรากฏการณ์ต่างสำแดงสีสันสว่างจ้า

พลังฤทธิ์มหาศาลพุ่งออกมา ส่องสะท้อนฟ้าดิน

มีปรากฏการณ์ดวงจันทร์และตะวันสุกสกาว และยังมีปรากฏการณ์มหาสมุทรกว้างใหญ่ไร้พรมแดน มีปรากฏการณ์น่าตกใจอย่างมังกรแท้ต่างๆ หงส์เทพ กิเลนและเต่าดำเป็นต้น

โอรสสวรรค์เกือบร้อยออกมือพร้อมกัน อานุภาพสั่นสะท้านฟ้าดิน ทำให้ฟ้าดินถอดสี

ภาพนี้ สร้างความตื่นตกใจกับทุกคน

เอ๋าเลี่ยพึมพำกับตัวเอง “กล้าท้าสู้กับสุดยอดโอรสสวรรค์พร้อมกันเกือบร้อยคน ที่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ต่อให้สหายเสิ่นหยวนจะแพ้ในศึกนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงเลื่องลือไปเป็นพันๆ ปี เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครหาญกล้าขนาดนี้ กล้าเอ่ยคำขอเช่นนี้”

แม้เอ๋าเลี่ยจะรู้ว่าเสิ่นเทียนแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาชนะโอรสสวรรค์มากขนาดนี้ได้

ถึงอย่างไรจำนวนก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ทุกคนสู้เสิ่นหยวนไม่ได้ก็จริง แต่ร่วมมือกันแล้วจะยังสู้ไม่ได้รึ

ไม่มีทางเด็ดขาด!

เสิ่นเสี่ยวพูดด้วยความมั่นใจแรงกล้า “ข้าเชื่อว่าอาจารย์จะต้องชนะ!”

……

โอรสสวรรค์เกือบร้อยเคลื่อนไหวพร้อมกัน พลังอำนาจมากมายมหาศาล

พลังนี้ ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับเซียนแท้ ก็ทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวและถอยไปได้

เสิ่นเทียนมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อย รู้สึกถึงแรงกดดันเสี้ยวหนึ่ง

แน่นอนว่าแค่เสี้ยวหนึ่งจริงๆ

ก่อนจะเห็นเสิ่นเทียนประสานมุทรา ข้างหลังปรากฏเป็นถ้ำแสงหนาทึบ กลิ่นอายพุ่งทะลักออกมา

เก้าร่างเงาก้าวออกมาจากข้างหลังเขา มีท่วงท่าสง่างามที่สุด

ทุกร่างเงาคล้ายกับเสิ่นเทียน ชุดคลุมขาวไร้มลทิน กลิ่นอายพลังเหนือสามัญ

ร่างเงาพวกนี้คือเสิ่นเทียนสำแดงจำแลงกายสรรพสัตว์ แยกเป็นเก้าร่างแยกใหญ่ สู้กับทุกคน

ภาพนี้ทำให้เหล่าโอรสสวรรค์ตะลึงงัน

มิน่าเสิ่นเทียนถึงมีความมั่นใจ กล้าท้าสู้กับคนมากขนาดนี้ ที่แท้ก็ยังมีอุบายเช่นนี้อยู่

แต่ธนูอยู่บนคันศร ก็ต้องยิง!

โอรสสวรรค์เกือบร้อยเคลื่อนไหวพร้อมกัน พุ่งใส่เก้าร่างแยกเสิ่นเทียน

สองฝ่ายพลันปะทะกัน ระเบิดพลังเทพไม่มีสิ้นสุด

แต่ยิ่งสู้ เหล่าโอรสสวรรค์ก็ยิ่งตื่นกลัว เพราะพวกเขาพบว่าร่างแยกพวกนี้มีพละกำลังแข็งแกร่งยิ่ง

เก้าร่างแยกเสิ่นเทียนต่างสู้กับโอรสสวรรค์สิบคน ไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย

ร่างแยกพวกนี้สำแดงวิชาสิบกว่าวิชา ลี้ลับไม่อาจคาดเดา คล้ายๆ กับมรดกของโอรสสวรรค์ทุกคน

นี่คือการใช้ขอบเขตที่เหล่าโอรสสวรรค์ชำนาญมากที่สุดเอาชนะพวกเขา

……

ส่วนตัวเสิ่นเทียนเองก็กำลังเผชิญหน้ากับการปิดล้อมของกลุ่มสุดยอดโอรสสวรรค์

เซิ่งหยางซวีกับเซี่ยงฉงโหลวอยู่ด้านหน้า ด้านข้างยังมีเสี่ยวคุนเผิงกับหวงจิ่วเทียน ข้างหลังเป็นอวี้ซวีจื่อกำลังปลุกวิชามรรคมากมาย สำแดงกายมรรคสวรรค์ประทานถึงขีดสุด แผ่เจตจำนงมรรคมหาศาล

และยังมีโอรสสวรรค์น่ากลัวที่คุมหยินหยางตะวันจันทราได้คนนั้น ก็กดดันเข้ามาเช่นกัน

พวกเขาสำแดงพลังแห่งตะวันและจันทรา พลังน่ากลัวสุดขีด

ผู้แข็งแกร่งเตรียมเซียนยังต้านพลังนี้ไม่ไหว ต้องแหลกสลายเป็นผุยผงในพริบตา

ทว่าเสิ่นเทียนยังคงมีสีหน้าเฉยชา

เขาเปล่งแสงรอบกาย ปราณเบิกฟ้ากับสองปราณหยินหยางลอยขึ้นมาทั้งหมด ปกคลุมเขาไว้มิดชิด

เสิ่นเทียนเหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย สู้กับสิบคนด้วยตัวคนเดียว

เขาประนมสองมือ ฉีกห้วงมิติ ลากเซิ่งหยางซวีที่ซ่อนในมิติออกมา ชกหมัดลงไป ฟ้าดินยุบตัว

เซิ่งหยางซวีตกลงมาจากฟ้า กระแทกกับแท่นผนึกเทพแตกเป็นหลุมยักษ์

เสิ่นเทียนออกมืออีกครั้ง ดวงตาเปล่งแสงสว่างจ้า ทะลวงผ่านห้วงอากาศไร้ขอบเขต ปะทะกับแสงเนตรล้างโลกของเซี่ยงฉงโหลว

บึ้ม!

เสียงดังกึกก้อง ฝุ่นดินคละคลุ้ง

เซี่ยงฉงโหลวกระเด็นออกไปเช่นกัน ทับเซิ่งหยางซวีที่จะลุกขึ้นมาใหม่

และตอนนี้เองการโจมตีจากสองด้านข้างมาถึง

เสี่ยวคุนเผิงแปลงกายเป็นคุนเผิงไร้พ่าย ปลุกวิชาคุนเผิงถึงขั้นสุด กระแทกฟ้าดินแตกกระจาย

มันมีพละกำลังน่ากลัวถึงที่สุด ทำลายล้างกฎเกณฑ์ ลำดับปั่นป่วน เหมือนจะดับสลายไป

อีกด้าน หวงจิ่วเทียนแปลงกายเป็นหงส์เทพเก้าสวรรค์ มาพร้อมกับฝนเพลิงดาวตก พุ่งลงฟ้าดิน

พริบตาเดียว ฟ้าดินถูกเปลวไฟไร้พรมแดนปกคลุม สถานการณ์น่าหวาดกลัวยิ่ง

เสิ่นเทียนไม่เกรงกลัว เขาปลุกวิชาคุนเผิงปะทะกันเสี่ยวคุนเผิงตรงๆ

สองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือดยิ่ง ทำลายอากาศหมื่นลี้ กระแสกฎเกณฑ์ดับสลาย

เพียงพริบตาเดียว เสี่ยวคุนเผิงถูกกระแทกลอยออกไปเหมือนว่าวเชือกขาด

บนตัวเขามีรอยหมัดยักษ์ กายเนื้อบาดเจ็บ

ทางด้านหวงจิ่วเทียนยังไม่ทันโจมตีถึงก็ถูกเพลงอมตะหงส์เทพคลุมตัวไว้

แม้เขาจะมีสายเลือดหงส์เทพเก้าสวรรค์ แต่ก็ยังต้านเพลิงเทพร้อนแรงนี้ไม่ไหว

ไม่นานหวงจิ่วเทียนถูกเผาดำเกรียมไปทั้งตัว เกราะนักรบหงส์แตกเป็นเสี่ยงๆ ไปนานแล้ว

ขนนกเขาเสียหายไปทั้งตัว และยังมีกลิ่นหอมเนื้อโชยมาอ่อนๆ ดูน่าสงสารยิ่ง

พอเห็นดังนั้น ทุกคนต่างตื่นตะลึง

เอ๋าเลี่ยเบิกตาโต อ้าปากค้าง

“บ้าจริง สหายเสิ่นหยวนโหดไปแล้ว แค่ไม่กี่ลมหายใจก็เอาชนะโอรสสวรรค์มากขนาดนี้ได้!”

เจียงไท่อี่รู้สึกโชคดียิ่งกว่า เขาตบๆ หน้าอก “ยังดีที่แซ่เจียงอดใจไหวไม่บุกเข้าไป ไม่อย่างนั้นคนที่นอนบนพื้นต้องมีข้าแน่ สหายท่านนี้สุดยอดไปเลย!”

……

ตอนนี้เอง อวี้ซวีจื่อบุกมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน

ช่วงที่เสิ่นเทียนตั้งรับศัตรู เขาปลุกวิชาไร้พ่ายหลายวิชาสำเร็จแล้ว พลานุภาพเอ่อล้นทะลัก

ทว่าเกิดแสงสว่างหมื่นจั้งจากในกายเสิ่นเทียน แผ่เจตจำนงมรรคมหาศาลออกมา

เจตจำนงมรรคมากมายหมุนม้วนฟ้าดิน ทำให้หมื่นกฎเกณฑ์ตกลงมา

อวี้ซวีจื่อมีสีหน้าตกใจ เขาพบว่าเจตจำนงมรรคที่เขาควบคุมปั่นป่วนขึ้นมาด้วยผลจากพลังนี้

“อะไรกัน หรือว่าเขาก็มีกายมรรคสวรรค์ประทานเหมือนกัน ทั้งยังแกร่งกว่าข้าอีกรึ”

อวี้ซวีจื่อเผยดวงตาเหม่อลอย ตะลึงค้างอยู่กับที่

เมื่อเสียเจตจำนงมรรคไป กำลังรบเขาก็ลดลง

“ลอบโจมตีรึ”

เสิ่นเทียนพลันระเบิดพลังทั้งหมด โจมตีใส่อวี้ซวีจื่อ

ชั่วพริบตาเดียว อวี้ซวีจื่อถูกแสงเทพปกคลุม กลิ่นอายพลังบ้าคลั่งยิ่งไหลหลากออกไป ในนั้นยังมีเสียงกายเนื้อปะทะกับเสียงร้องโอดครวญ

จนเมื่อแสงเทพหายไป อวี้ซวีจื่อล้มลงกับพื้น ชักกระตุกไปทั้งตัว

ใบหน้าหล่อเหลาในตอนแรกบวมเป็นหัวหมู

มีรอยหมัดรอยเท้าทั้งตัว และยังมีรอยค้อนและรอยกระบี่

ผีเท่านั้นที่รู้ว่าเขารับการโจมตีไปเท่าไร แม้แต่อวี้ซวีจื่อเองยังจำไม่ได้

เขาทำหน้าอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ร้องทุกข์ไม่หยุด

เหตุใดคนที่โดนหนักสุดถึงเป็นข้า!

นี่ไม่ยุติธรรมเลย!

……

จากนั้นเก้าร่างแยกเสิ่นเทียนรวมเป็นหนึ่ง ระเบิดพลังอำนาจมหาศาล

เสิ่นเทียนดวงตาสว่างจ้า ระเบิดเจตจำนงมรรคมหาศาลจากในกาย

เขากำลังสำแดงยอดพลังวิเศษปรากฏการณ์ครอบจักรวาล แผ่เจตจำนงมรรคออกมาทั้งหมด หมุนตลบไปแปดทิศ

ทุกเจตจำนงมรรคจะเป็นสัญลักษณ์ของวิชาขั้นสุดอย่างหนึ่ง

ทันใดนั้นฟ้าดินรวมอำนาจคุกคามมหาศาล เหมือนเจตจำนงแห่งสวรรค์ตกลงมา จะควบคุมทุกสรรพสัตว์

เมื่อทุกเจตจำนงมรรคปรากฏ กลิ่นอายพลังจากอำนาจคุกคามนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

เหล่าโอรสสวรรค์บนแท่นผนึกเทพหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างรุนแรง

พวกเขารู้สึกว่าหัวใจของตนเหมือนถูกมือใหญ่ไร้รูปบีบไว้ พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

ปัง!

ปัง!

ปัง!

เสิ่นเทียนแค่เสริมเจตจำนงมรรคไร้พ่ายไปหลายสิบชนิด โอรสสวรรค์พวกนั้นก็ต้านไม่ไหว พากันกระเด็นถอยไป

ไม่นานนัก แม้แต่พวกเซิ่งหยางซวีกับเซี่ยงฉงโหลวยังต้องถอยลงจากแท่นผนึกเทพ

มีเพียงเสิ่นเทียนที่ยืนอย่างทระนงบนแท่นผนึกเทพ

แปดทิศหกประสาน ชำเลืองตามองทุกคนด้วยความโอหัง

…..

ชนะแล้ว เขาชนะจริงๆ แล้ว!

หนึ่งสู้ร้อย องอาจห้าวหาญเรียกว่าเป็นที่สุดแห่งยุค!

แม้แต่โอรสสวรรค์ที่พ่ายแพ้ นัยน์ตายังเต็มไปด้วยความเคารพ

พวกเขามองเสิ่นเทียนด้วยดวงตาร้อนแรง

ไม่นึกเลยว่าสหายเสิ่นหยวนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เป็นอัจฉริยะที่สุดในประวัติการณ์!

พวกข้า ยอมรับจากใจจริง!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด