บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 109วางยาพิษ

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 109วางยาพิษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่109วางยาพิษ

จูนจิ่วหันกลับไปมองสิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรของหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยจูนจิ่วจึงเดาออกได้ทันทีว่าคนๆนี้คือใคร?หลังจากที่เดินไปข้างหน้าของพวกเขาก็เป็นอย่างที่คิดไว้กู่ซงกำลังเดินมาหาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มมือทั้งสองไขว้อยู่ข้างหลังมีหญ้าฟางอยู่ตรงปากของเขา

กู่ซงยื่นใบหน้าของมาใกล้ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม“จูนจิ่วสวัสดีตอนบ่าย~”

“กู่ซงเจ้ามาที่นี่ทำไม!”หยูนเฉียวกางมือห้ามไม่ให้กู่ซงเข้ามาใกล้เขาจ้องมองกู่ซงด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

จูนเสี่ยวเหล่ยก็จำเจ้าตัณหากู่ซงคนนี้ได้ขึ้นใจนางก็จ้องมองกู่ซงด้วยสีหน้าที่เหมือนมองศัตรูคนเดียวกันพวกเขาไม่ยอมให้เจ้าตัณหาคนนี้เข้าใกล้พี่เก้าได้แม้แต่ก้าวเดียว!

เมื่อเผชิญหน้ากับสองคนที่กำลังห้ามเขากู่ซงจับไปที่จมูกตัวเองแล้วเขาก็มองไปที่จูนจิ่วอีกครั้ง“จูนจิ่วข้ามาที่นี่เพื่อที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มของพวกเจ้า”

หยูนเฉียวแทบอดใจไม่ไหวที่จะบอกว่าจูนจิ่วไม่ต้องการแต่เพราะได้รับการสั่งสอนมาดีทำให้เขาทนไว้ได้แล้วหันไปมองจูนจิ่วรอฟังคำตอบจากนางแต่สีหน้าที่หยูนเฉียวแสดงออกมาบอกอย่างชัดเจนว่าแม่นางจูนรีบปฏิเสธเขาเลย!

นางครุ่นคิดสักพักจูนจิ่วมองไปทางกู่ซงเพื่อถามความคิดเห็นนางเปิดปากพูด“ทำไมข้าต้องยอมให้เจ้ามาเข้าร่วมกับกลุ่มของเราด้วย?”

“ข้าจะเป็นลูกทีมที่ดีหรือจะเรียกว่าสหายที่มีเป้าหมายเดียวกันก็ได้!สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรึว่าเจ้าไม่รู้ว่าที่ข้ามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อเจ้า?”กู่ซงพูดด้วยรอยยิ้มแล้วขยิบตาให้

ถ้าเกิดเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ทำแบบนี้คงถูกซ้อมอย่างหนัก

แต่ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของกู่ซงกลับทำให้คนรู้สึกว่าดูเป็นธรรมชาติต่อให้ไม่ชอบก็คงไม่เกลียดอย่างแน่นอน

จูนจิ่วขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินมาที่นี่เพื่อนางงั้นเหรอ?ต้องยอมรับจริงๆว่ามันทำให้นางรู้สึกสนใจขึ้นมาจูนจิ่วยิ้มแล้วพูดว่า“งั้นก็ได้เจ้าจะตามมาก็ได้”

“แม่นางจูน!”

“พี่เก้า!”หยูนเฉียนและจูนเสี่ยวเหล่ยยืนอึ้งทำไมจูนจิ่วถึงตกลงล่ะ!

ไม่ได้เหมือนกับพวกเขาสองคนที่กำลังยืนอึ้งเสี่ยวอู่ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของจูนจิ่วดวงตาของแมวจ้องไปทางกู่ซงมันคิดในใจหวังว่าคำตอบของกู่ซงจะทำให้ดึงดูดความสนใจเจ้านายได้น่ะไม่งั้นเจ้านายยังไม่ได้ลืมคำที่ตัวเองพูดครั้งที่แล้วถ้าเกิดกู่ซงยังมากวนใจนางอีกจะทำให้เขาคุกเข่าร้องหาพ่อเลย!

แต่ละกลุ่มพักอยู่ที่เทือกเขาของเขาปู่หว่งหนึ่งคืนวันที่สองเหล่าลูกศิษย์ถึงจะออกไปการฝึกพอมองไปรอบๆแต่ละคนนั่งใกล้กองไฟของกันและกันมั่นใจได้เลยว่าพวกที่นั่งอยู่กองไฟเดียวกันก็คือกลุ่มเดียวกัน

พวกเขาแต่ละกลุ่มมีสมาชิกอยู่มากมายอย่างน้อยที่สุดก็มีราวๆแปดถึงเก้าคนพอมองมาที่พวกจูนจิ่วที่มีสมาชิกอยู่แค่สี่คนแถมยังพาแมวมาอีกเหล่าลูกศิษย์เริ่มพึมพำกันมีเสียงถกเถียงมากมาย

“ฮึสี่คนงั้นเหรอจูนจิ่วคิดจะไปตายที่เขาปู่หว่งรึไง?”

“มันก็ไม่แน่หรอกน่ะฝีมือของจูนจิ่วนั้นไม่ธรรมดานางสามารถชนะ……”จู่ๆก็หยุดพูดต่อหญิงสาวที่นั่งข้างๆจูนหยูนเสวี่ยรีบเอามือปิดปากตัวเองหลังจากที่ร้อนรนก็พูดขอโทษเบาๆ“ศิษย์พี่หยูนเสวี่ยข้าขอโทษข้าผิดไปแล้ว”

“ที่จูนจิ่วชนะก็เพราะโชคช่วยเท่านั้นแหละเขาปู่หว่งจะให้บทเรียนกับนาง”จูนหยูนเสวี่ยยิ้มด้วยความเย็นชาที่ชั่วร้ายแต่ว่าบทเรียนในครั้งนี้มันหมายถึงชีวิตของคน

นางต้องการให้จูนจิ่วตายจูนจิ่วต้องตายเท่านั้น!

ต้องตายเท่านั้น!

ไม่ว่าใครที่อยู่ฝั่งจูนจิ่วก็ต้องตายทั้งหมดตระกูลหยุนต้องการยึดอำนาจของบ้านพวกเขาใช่ไหม?งั้นก็กำจัดหยูนเฉียวด้วยซะเลยให้ตระกูลหยุนจำขึ้นใจว่า!พวกเขาไม่ควรที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลจูน!

แล้วก็เจ้าจูนเสี่ยวเหล่ยที่เป็นคนทรยศถ้าเกิดตอนนั้นคนที่ผ่านเข้าไปคือจูนหวั่นเอ๋อร์ยังสามารถให้นางใช้ไปต่อกรกับจูนจิ่วได้แล้วก็เห็นเจ้าคนแปลกหน้าอย่างกู่ซงสายตาของจูนหยูนเสวี่ยเต็มไปด้วยจิตสังหาร

จูนหยูนเสวี่ยคิดในใจนักฆ่าที่พวกเขาจ้างมาคือคนที่มีฝีมืออันดับต้นๆของทั้งสิบแคว้นหลังจากที่สังหารจูนจิ่วได้ก็จะถอยทันทีต่อให้เป็นไท่ซ่างฮ่องก็หาหลักฐานไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของพวกเขา

พอคิดถึงตรงนี้จูนหยูนเสวี่ยรู้สึกพอใจหลังจากที่ลอบสังหารจูนจิ่วที่เขาปู่หว่งแล้วกลับไปที่สำนักเทียนโจ้งรองอาจารย์ใหญ่เหอจงก็คงสังหารโล่ชิวเห้อเป็นที่เรียบร้อยถึงเวลานั้นการที่นางจะได้จำนวนเมล็ดก็อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ!

ไม่รู้ว่าเหอจงวางแผนจะลงมือเมื่อไหร่?

……

ในสำนักเทียนโจ้ง

เหอจงเดินไปที่สำนักเทียนโจ้งแล้วเห็นโล่ชิวเห้อกับเฟิ่งเซียวกำลังนั่งดื่มชาด้วยกันดวงตาของเขาเริ่มมืดมนแล้วเดินเข้าไปพูดว่า“อาจารย์ใหญ่นี้คือรายชื่อและสภาพของศิษย์ที่เข้าร่วมการฝึกทั้งหมด”

“วางไว้ตรงนั้นเถอะรอสักพักข้าจะตรวจดูอีกที”ในใจของโล่ชิวเห้อยังคงมีอคติยังไม่อยากพูดคุยกับเขา

พอเห็นโล่ชิวเห้อมองเขาเพียงแวบเดียวแล้วโบกมือไล่เขากลับแล้วหันกลับไปคุยกับเฟิ่งเซียวต่อ

เหอจงเอามือเข้าไปในเสื้อแล้วจับผงยาที่อยู่ข้างในจากนั้นก็ซ่อนนิ้วของตัวเอง

หันกลับไปเหอจงเตรียมตัวมาดีแสดงใบหน้าที่รู้สึกผิดแล้วเขาก็เปิดปากพูดว่า“อาจารย์ใหญ่เรื่องที่ข้าขอจำนวนเมล็ดให้กับจูนหยูนเสวี่ยเป็นความจริงว่าข้าเห็นแก่ตัวเกินไปทำให้ฝ่าฝืนกฏความเท่าเทียบของสำนักเทียนโจ้ง”

“แต่พอข้านึกถึงต้นอ่อนคุณภาพอย่างจูนหยูนเสวี่ยจึงทำตามใจไปชั่วขณะอยากช่วยลดภาระของนางเรื่องนี้เป็นความผิดของข้าข้าขอขมาอาจารย์ใหญ่ณที่นี้ด้วย”เหอจงขอโทษแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหาข้อแก้ตัวให้ตัวเอง

พอได้ฟังคำขอโทษของเขาโล่ชิวเห้อกับเฟิ่งเซียวก็แสดงใบหน้าที่แปลกใจ

โล่ชิวเห้ออึ้งไปสักพักมองเหอจงแล้วเริ่มยิ้มออกมาอีกครั้งเขาพูดว่า“ทุกคนล้วนทำผิดได้ตลอดเวลาแต่ว่าท่านเป็นถึงผู้มีอำนาจของสำนักเทียนโจ้งเวลาจะทำอะไรก็ควรคิดให้รอบคอบซะก่อน!”

“ครับ!ข้าเข้าใจแล้ว”เหอจงพยักหน้าเขารีบก้าวไปข้างหน้าเทชาออกมาหนึ่งทีใช้โอกาสที่ทั้งสองคนไม่ทันระวังเอานิ้วจุ่มเข้าไปที่ถ้วยชาจากนั้นก็หันกลับมาแล้วมอบมันให้กับโล่ชิวเห้อ

เหอจงพูด“ชาแก้วนี้ถือเป็นคำขอโทษจากข้า”

ดื่มเข้าไป!ดื่มให้ตายไปเลยยิ่งดี!ข้าจะส่งเจ้าไปหายยมบาล!

โล่ชิวเห้อยื่นมือรับด้วยรอยยิ้มจู่ๆเฟิ่งเซียวก็พูดขึ้นมาว่า“ช้าก่อน!”

มือสั่นใจของเหอจงเต้นเร็วขึ้นเขาพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้าเก็บซ่อนอาการตื่นเต้นของตัวเองเขามองไปทางเฟิ่งเซียว“ไท่ซ่างฮ่องมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”

โล่ชิวเห้อยังไม่ทันได้รับถ้วยชามาพอได้ยินเสียงของเฟิ่งเซียวก็หันไปมองเขาด้วยใบหน้าที่มึนงงเห็นเพียงดวงตาที่คมชัดของเฟิ่งเซียวจ้องมองเหอจงตรงๆเหมือนกับมองเขาทะลุปรุโปร่ง!เฟิ่งเซียวจ้องมองเขาไม่คาดสายตาแล้วจ้องถ้วยชาที่อยู่บนมือของเขา

ทันใดนั้นเฟิ่งเซียวก็พูดขึ้นมาว่า“เปลี่ยนถ้วยชา”

“ทำไม!รึว่าไท่ซ่างฮ่องจะคิดว่าข้าวางยาอาจารย์ใหญ่งั้นเหรอ?ฮึข้าเหอจงทนไม่ได้กับความอัปยศแบบนี้!”จู่ๆเหอจงก็โมโหขึ้นมาแล้วดื่มชาแก้วหน้าให้เขาดูแล้วกลืนมันเข้าไปเหอจงจ้องมองเฟิ่งเซียวด้วยความโกรธแค้น

พอเห็นกระทำของเขาเฟิ่งเซียวไม่พูดอะไรแต่ก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีถ้าเกิดเขาสงสัยใครขึ้นมาจะต้องไม่ผิดแน่!แต่พฤติกรรมของเหอจงดูไม่เหมือนว่าจะทำอะไรแบบที่เขาคิด

“พอแล้วไท่ซ่างฮ่องแค่รู้สึกว่าชาถ้วยนี้มันเย็นจนเกินไปรองอาจารย์ใหญ่ก็ไม่ต้องคิดมากมา!”โล่ชิวเห้อเอาถ้วยชาที่อยู่บนมือของเหอจงมาแล้วดื่มหมดในอึกเดียวแล้วยิ้มปลอบเหอจง“ชาถ้วยนี้ข้าดื่มจนหมดแล้ว”

“ฮึ!งั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”เหอจงทำหน้ามืดมนเดินออกไปด้วยความโมโหแต่พอก้าวเท้าออกจากห้องเขาก็เร่งฝีเท้าขึ้นมาทันทีไปหลบอยู่ตรงมุมที่ไม่มีใครเห็นแล้วอ้วกมันออกมาจากนั้นก็รีบกลืนยาถอนพิษเข้าไปโชคดีที่เขาเตรียมตัวมาก่อน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด