บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 15หลีกไป

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 15หลีกไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่15หลีกไป

“เป็นเพราะเจ้า”จูนจิ่วจ้องมองท่านหมอจ้าวอย่างเย็นชา“โรคหวัดของเขาเป็นโรคที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่วัยเด็กเห็ดหลินจือมีชนิดรุนแรงเจ้าให้ทานสองแผ่นไม่ใช่ช่วยชีวิตเขาแต่เป็นการเร่งให้เขาตายเร็วขึ้น”

“เจ้าพูดไร้สาระ”ท่านหมอจ้าวจ้องเขม็งอย่างโกรธจัด

จูนจิ่วเดินตรงเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าหนุ่มน้อยบ่าวใช้เหลือกตามองดูนาง“เจ้าทำอะไร?”

จูนจิ่วแลดูเขา“หลีกไป”

บ่าวใช้สบตากับจูนจิ่วร่างกายแข็งทื่อทันทีสีหน้าแสดงอาการตกใจจูนจิ่วยื่นมือบ่าวใช้ถอยห่างอย่างหวาดกลัวแล้วก็ไม่กล้าห้ามจูนจิ่วอีก

ท่านหมอจ้าวยืนหน้าบึ้งอยู่ด้านข้างเขาจ้องมองดูจูนจิ่วอย่างไม่กะพริบตาลูบคลำหนวดอย่างไม่สบอารมณ์เขาจะคอยดูเด็กน้อยจอมโกหกนี้จะมีความสามารถแค่ไหนกล้ามาสงสัยเขา

ชื่อจ้าวเห้อของเขาไม่เพียงมีชื่อเสียงในเมืองเฟิงหลัวเทียบกับในวังเขาแพ้หมอหลวงแค่นิดเดียวเองเขาบอกว่าหนุ่มน้อยคนนี้ถึงขั้นระยะสุดท้ายนั่นก็คือไม่สามารถรักษาได้แน่นอนแล้ว

ไม่ว่ายังไงก็จะต้องไม่ใช่เป็นเพราะความผิดของเห็ดหลินจือ

ทุกคนก็แปลกใจยื่นคอยาวๆมองดูมือข้างหนึ่งของจูนจิ่วหยิกตรงหลังมือหนุ่มน้อยพยุงหนุ่มน้อยขึ้นมาแล้วกดตรงท้องเขา

อ๊วก

หนุ่มน้อยอ้าปากอ้วกเอาเห็ดหลินจือที่กินเข้าไปเมื่อกี้ออกมาจนหมด

จูนจิ่วเอายาลูกกอนเม็ดหนึ่งออกมาป้อนให้หนุ่มน้อยกินพร้อมสั่งบ่าวใช้ว่า“ไปเอาน้ำอุ่นมาหนึ่งถ้วย”

“ได้”

บ่าวใช้รีบไปเอาน้ำร้อนที่ร้านตรงข้ามมาป้อนให้หนุ่มน้อยดื่มลงไปแล้วหนุ่มน้อยก็ค่อยๆหายใจอย่างเป็นจังหวะสีหน้าก็ดีขึ้น

ท่านหมอจ้าวเห็นดังนี้แทบไม่อยากเชื่อ“นี่เป็นไปได้อย่างไร”

เขารีบเข้าไปจับดูชีพจรหนุ่มน้อยผลปรากฏว่าชีพจรที่เต้นอ่อนระทวยและผิดจังหวะเมื่อกี้ตอนนี้เพียงแค่พริบตาเดียวชีพจรระบบภายในของหนุ่มน้อยไม่เพียงสมดุลแม้โรคหวัดที่รุนแรงก็หายแล้ว

เมื่อกี้เขายังเยาะเย้ยจูนจิ่วตอนนี้ผลออกมาเหมือนตบหน้าตัวเองสีหน้าท่านหมอจ้าวเดี๋ยวเขียนเดี๋ยวซีด

ทุกคนเห็นท่านหมอจ้าวจับชีพจรหนุ่มน้อยแล้วไม่พูดอะไรแล้วเห็นหนุ่มน้อยอาการดีขึ้นใครจะยังไม่รู้ผลอีก?

ท่านหมอจ้าวสั่งยาให้คนกินผิดจริงๆ

เด็กจอมโกหกคนนี้กลับช่วยชีวิตคนไว้

ทันใดนั้นสีหน้าทุกคนต่างทำตัวไม่ถูกใครก็ไม่กล้าพูดอะไรเมื่อกี้พวกเขาลบหลู่จูนจิ่วอะไรไปบ้างตอนนี้แต่ล่ะคนต่างก็อายไม่กล้าสู้หน้า

“คุณชายไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?”

“ฮ่าฮ่าข้าไม่เป็นไร”หนุ่มน้อยเงยหน้ามองไปยังจูนจิ่ว“ขอบคุณที่เจ้าช่วยข้าไว้ข้าชื่อหยูนเฉียว”

ถึงหนุ่มน้อยจะป่วยแต่สติยังดีเขารับรู้ทุกอย่างรู้ว่าจูนจิ่วต่างหากที่มีบุญคุณช่วยชิวิตเขาไว้

จูนจิ่วมองดูหนุ่มน้อยแล้วพูดขึ้นว่า“จูนจิ่ว”

จูนจิ่ว?

ทุกคนต่างก็เหลือกตาโตเมืองเฟิงหลัวของพวกเขามีจูนจิ่วคนหนึ่งชื่อเสียงโด่งดังว่าขี้ขลาดตาขาวคนคนนี้ก็ชื่อจูนจิ่ว?ไม่พวกนางไม่ใช่คนคนเดียวกันแน่นอน

คนขี้ขลาดตาขาวคนนั้นจะมีความรู้ทางการแพทย์เก่งกว่าท่านหมอจ้าวได้ยังไง

หนุ่มน้อยหยูนเฉียวมีบ่าวใช้ช่วยพยุงตัวยืนขึ้นเขายกมือคำนับจูนจิ่วด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ก่อนหน้านี้หยูนเฉียวอ่อนแรงสีหน้าเจ็บปวดตอนนี้มองดูแล้วเพิ่งพบว่าเขาหน้าตาดีไม่น้อยเป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่ง

จูนจิ่วออกหน้าช่วยชีวิตคนเพราะทนเห็นหมอไร้น้ำยาทำร้ายคนไม่ไหวจุนจิ่วพูดอีกว่า“พกยาปรุงจิตติดตัวไว้ใช้เมื่อมีอาการกำเริบได้ดีกว่าทุกอย่าง”

“ยาปรุงจิตคืออะไร?”หยูนเฉียวสงสัย

จูนจิ่วอึ้งนางลืมไปที่นี่ไม่ใช่หัวเซี่ยการแพทย์ด้อยเกินไปไม่รู้จักยาปรุงจิตเป็นแน่

จูนจิ่วมองดูหยูนเฉียวอย่างถูกชะตานางกวักนิ้วมือ“เจ้าตามข้ามา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด