บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 18สองฝ่ามือเมื่อกี้ยังไม่ค่อยดัง

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 18สองฝ่ามือเมื่อกี้ยังไม่ค่อยดัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่18สองฝ่ามือเมื่อกี้ยังไม่ค่อยดัง

หยูนเฉียวพูดว่า“วันนี้แม่นางจูนช่วยข้าไว้และยังให้ยาปรุงจิตกับสูตรยาปรุงจิตหยูนเฉียวขอบคุณอย่างยิ่งต่อไปหากแม่นางจูนต้องการไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมาหาข้าในเมืองหลวงตระกูลหยูนได้ทุกเมื่อขอเพียงเป็นสิ่งที่หยูนเฉียวสามารถทำได้ข้าจะช่วยแน่นอน”

ตระกูลหยูนในเมืองหลวงหนุ่มน้อยคนนี้เป็นคนของตระกูลหยูนในเมืองหลวงตระกูลใหญ่เทียบเท่าตระกูลจูนนั่นตอนนี้จ้าวเห้อเสียใจแทบตายทำไมเขาถึงไม่เป็นคนที่ช่วยหยูนเฉียวกลับให้เด็กจอมโกหกนั่นได้หน้าไป

จูนจิ่วไม่ได้ปฏิเสธรับตรามานางยิ้มให้หยูนเฉียวแล้วพูดว่า“ได้ข้าจะจำไว้”

คิดไม่ถึงว่าหยูนเฉียวจะเป็นคนของตระกูลหยูนในเมืองหลวงนี่ถือเป็นความโชคดีที่ได้มาโดยบังเอิญสำหรับจูนจิ่วบางทีอีกไม่นานเมื่อกลับบ้านไปเขาอาจช่วยอะไรได้บ้าง

ในเวลานี้เถ้าแก่ร้านขายยาได้ห่อยาไว้ให้เสร็จหมดแล้วเพราะมีเยอะมากดังนั้นจึงใช้รถม้าช่วยขนรอจูนจิ่วมาเอาไป

“แม่นางจูนให้ข้าไปส่งเจ้านะ”

“ไม่ต้องหากเรายังมีวาสนาต่อกันคงจะมีโอกาสได้เจอกันอีก”จูนจิ่วยิ้มโบกมือให้หยูนเฉียวรอยยิ้มนี้ยังแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์และอวดดีบวกกับดวงตาสดใสคู่นั้นทำให้หยูนเฉียวมองจนอึ้งไปพักหนึ่ง

เมื่อได้สติกลับมาจูนจิ่วก็จากไปแล้ว

หยูนเฉียวรู้สึกเคลิบเคลิ้มพึมพำว่า“ยังไม่ได้ถามว่าไปหานางได้ที่ไหนเลย”

“คุณชายหยูน”จ้าวเห้อยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าหยูนเฉียว“เมื่อกี้ข้าไม่รู้ฐานะของคุณชายหยูนหากได้ล่วงเกินไปขอคุณชายหยูนให้อภัย”

“เชอะเมื่อกี้ไม่รู้ว่าใครหมอไม่มีน้ำยากล้ามาพูดว่าคุณชายของข้าหมดหนทางรักษา”บ่าวใช้ด่าทออย่างไม่สบอารมณ์

สีหน้าจ้าวเห้ออึ้งจนบิดเบี้ยวไปมา

เขามองดูสีหน้าหยูนเฉียวก็ไม่มีท่าทีที่ดีต่อเขาใบหน้าที่หล่อเหลาสีหน้ากลับเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดั่งหนุ่มน้อยตรงหน้าจูนจิ่วแล้วถือเป็นคนล่ะคนกันเลย

จ้าวเห้อกรอกตาไปมารีบพูดขึ้นว่า“คุณชายหยูนข้าแค่อยากถามว่าพอทราบที่อยู่ของแม่นางคนนั้นไหมข้าอยากรับนางไว้เป็นศิษย์”

ฮ่า

หมอจ้าวเห้อกล้าคิดที่จะรับนางเป็นศิษย์เด็กที่ชื่อจูนจิ่วคนนั้นโชคดีจริงๆ

เถ้าแก่ร้านขายยากำลังนึกอิจฉาอยู่ในใจก็ได้ยินหยูนเฉียวพูดขึ้นว่า“รับนางเป็นศิษย์?เจ้ายังไม่มีความสามรถนั้น”

ผัวะผัวะ

ดั่งสองฝ่ามือตบบนหน้าจ้าวเห้อสีหน้าจ้าวเห้อดำคล้ำจ้องเขม็งหยูนเฉียวอย่างโมโหติดตรงฐานะของหยูนเฉียวจึงไม่กล้าอาระวาดหายใจเข้าลึกๆด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว“คุณชายหยูนถามความรู้ทางการแพทย์ของข้าก็ยังถือว่าสามารถเป็นอาจารย์ของเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมได้อยู่”

“ความรู้ทางการแพทย์ของแม่นางจูนเจ้าเทียบไม่ได้เลย”พูดตรงๆฝีมือจูนจิ่วล้ำหน้าเจ้าเป็นโขเจียมตัวหน่อยเถอะ

สองฝ่ามือเมื่อกี้ไม่ค่อยดังตอนนี้ดังพอไหม?

“เจ้า”จ้าวเห้ออ้ำอึ้งพูดไม่ออก

หยูนเฉียวไม่แม้แต่จะแลดูเขาหยิบยาปรุงจิตแล้วพาบ่าวใช้จากไป

เหลือเพียงจ้าวเห้อไว้เพียงคนเดียวสีหน้าบูดเบี้ยวโกรธจนหัวใจเต้นอย่างแรงกล้าดูถูกว่าฝีมือการแพทย์ของเขาสู้จูนจิ่วไม่ได้?แค่เด็กน้อยจอมโกหกคนหนึ่งจะมีความสามารถทางการแพทย์เก่งกว่าเขาได้ยังไง?

ครุ่นคิดอยู่อย่างหงุดหงิดจ้าวเห้อยื่นมือคลี่ดูกากยาที่หลงเหลืออยู่บนโต๊ะเขายกมาขึ้นมาดมแววตาเป็นประกายจ้าวเห้อเงยหน้ามองไปยังเถ้าแก่“เมื่อกี้ตอนที่นางหยิบยาเจ้าเห็นไหมว่ามีอะไรบ้าง?”

“เห็นข้าเห็นอยู่”

“ดีเจ้ารีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้หยิบมาเหมือนกันทุกอย่างหนึ่งชุดจำไว้เอาแค่ที่นางใช้ทำยาปรุงจิต”

……………..

จูนจิ่วไม่รู้ว่าต่อมาเกิดอะไรขึ้นตอนนี้นางอาศัยจังหวะที่ในตรอกซอยไม่มีคนยกมือเอายาทั้งหมดเก็บไว้ในกำไลข้อมือรอเมื่อคนงานในร้านขายยากำลังจะออกมาช่วยกลับเห็นตรงหน้าเหลือแต่ความว่างเปล่าเด็กคนนั้นขนยาพวกนั้นกลับไปยังไงเนี๊ย?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด