บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 2เมืองเฟิงหลัวตระกูลจูน

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 2เมืองเฟิงหลัวตระกูลจูน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่2เมืองเฟิงหลัวตระกูลจูน

เสียงจากกำไลมือพูดไม่ผิดตรงคอมือเท้าของผู้ชายล้วนถูกล่ามไว้ไม่รู้ว่าเป็นเหล็กอะไรที่ใช้ล่ามผู้ชายติดผนังไว้กำแพงสูงใหญ่สลักวาดรูปทรงต่างๆอย่างซับซ้อน

เขาโดนสะกดล่ามขังไว้ที่นี่จูนจิ่วมีความรู้สึกว่าม่านที่ปกคลุมหน้าผาค่ายกลหมอกและถ้ำแห่งนี้ล้วนเพื่อมีไว้สะกดล่ามผู้ชายคนนี้

เขาเป็นใคร?ทำไมถึงโดนสะกดล่ามขังไว้ที่นี่

“หวานหอม”น้ำเสียงต่ำแหบๆทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบ

จูนจิ่วเงยหัวขึ้นสบกับดวงตาสีทองคู่หนึ่งพอดี

สว่างสดใสยิ่งกว่าเพชรพลอยใดใดในโลกสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์แฝงด้วยความอบอุ่นที่สามารถหลอมละลายใจคนได้ดวงตาสีทองเพ่งมองจูนจิ่วอย่างตั้งใจอยากจะกลืนกินจูนจิ่ว

เป็นวิญญาณที่ช่างหอมหวานยิ่งนักทำให้เขาตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับลึกจนอดไม่ได้ที่อยากจะลุกล้ำปลุกปล้นซ่อนนางไว้

ผู้ชายพูดขึ้นว่า“เจ้าเป็นใคร?”

จูนจิ่วมองเขาอย่างระมัดระวังไม่ตอบแต่ถามกลับว่า“เจ้ารู้หนทางที่จะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรไหม?”

“ที่แท้ก็เป็นเด็กน้อยที่โดนขังไว้ที่นี่”ผู้ชายหัวเราะเสียงต่ำเสียงหัวเราะมีเสน่ห์บาดใจยิ่งนักแฝงไปด้วยอันตราย

จูนจิ่วจ้องมองผู้ชายม่านตาเริ่มหดลงสัมผัสที่หกบอกนางว่าผู้ชายคนนี้ความเก่งกาจมาก

เก่งกาจจนคนตัวน้อยในกำไลมือต้องหลบซ่อนไว้ไม่กล้าส่งเสียงคนที่นางเคยเห็นมาทั้งชีวิตล้วนเทียบกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลยจูนจิ่วไม่ได้เกรงกลัวกลับสนใจมากกว่า

เก่งกาจอันตราย?เมื่อมาเป็นเพื่อนกันก็จะกลายเป็นตัวช่วย

จูนจิ่วพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า“เจ้าก็โดนล่ามขังไว้ที่นี่ไม่ใช่หรือ?เรามาตกลงกันเจ้าช่วยให้ข้าได้ออกไปข้าก็จะปล่อยเจ้าออกไป”

เมื่อได้ยินดังนี้แววตาผู้ชายฉายแววแปลกใจเด็กคนนี้กล้าต่อลองกับเขาช่างน่าสนใจแต่เขาดูเหมือนไม่อยากเชื่อว่าจูนจิ่วจะสามารถทำได้จึงหัวเราะแล้วถามขึ้นว่า“เจ้าปล่อยข้าออกไปได้?”

จูนจิ่วมองดูค่ายกลตรงด้านหลังผู้ชายอีกครั้งนางเดินตรงเข้าไปใช้การกระทำพิสูจน์ตัวเองหยิบมีดสั้นที่ซ่อนไว้ด้านหลังกดตรงมุมหนึ่งของค่ายกล

“ข้าทำลายที่นี่เจ้าก็จะสามารถออกไปได้”

รูปค่ายกลนี้กับค่ายกลด้านนอกดูก็รู้ว่าเป็นคนคนเดียวกันกระทำจูนจิ่วรู้กฎการวางกลแล้วหาทางออกจึงกลายเป็นเรื่องง่าย

ผู้ชายมองดูจูนจิ่วมุมปากยิ่งยิ้มอย่างลึกซึ้ง“สาวน้อยบอกข้าเจ้าชื่ออะไรข้ารับปากว่าจะพาเจ้าออกไป”

รู้ชื่อของนางมีความสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ?

จูนจิ่วกระพริบตาตอบอย่างหน้าตาเฉยว่า“จิ่วเยว่”

“จิ่วเยว่?”ผู้ชายพึมพำเสียงของเขาแหบอย่างมีเสน่ห์แฝงด้วยรอยยิ้มที่น่าหลงใหล“ข้ารับปากเจ้าลงมือเลย”

จูนจิ่วหมุนข้อมือมีดสั้นเสียบเข้าไปในค่ายกล

เมื่อค่ายกลถูกทำลายบนร่างผู้ชายปกคลุมด้วยแสงสีทองปังโซ่ที่ล่ามเขาไว้ค่อยๆหักสลายเป็นผงค่ายกลบนผนังด้านหลังก็แตกสลายทันที

ร่างกายขยับผู้ชายโอบเอวจูนจิ่วอุ้มนางขึ้นมา

จูนจิ่วกำลังจะดิ้นก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดขึ้นว่า“เด็กน้อยเจ้าอยากไปไหน?”

“เมืองเฟิงหลัวตระกูลจูน”

เพิ่งพูดจบจูนจิ่วก็รู้สึกร่างกายตัวเองเบาขึ้นพริบตาเดียวก็ออกจากบริเวณที่มรหมอกปกคลุมจูนจิ่วเบิกตาโตพวกเขากำลังบิน?ผู้ชายยกแขนใช้แขนเสื้อบังตรงหน้าจูนจิ่วเพื่อช่วยนางบังลม

ผู้ชายใช้เวลารวดเร็วมากเพียงแค่ธูปหนึ่งดอกสั้นๆก็มาถึงเมืองเฟิงหลัวหน้าประตูบ้านตระกูลจูน

จูนจิ่วเงยหัวขึ้นมองเห็นด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านตระกูลจูนไฟไหม้ลุกโชน

นางกระพริบตาในตาฉายแววเคียดแค้นนั่นเป็นที่อยู่ของจูนจิ่วคนเดิมแผนการช่างโหดร้ายนักฆ่าจูนจิ่วคนเดิมตายแล้วยังไม่พอยังจะทำลายร่องรอยทุกอย่างของนาง

จูนจิ่วยื่นมือชี้“ไปตรงนั้น”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด