บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 22นังแพศยาผู้นั้นหายหัวไปไหนแล้ว

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 22นังแพศยาผู้นั้นหายหัวไปไหนแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่22นังแพศยาผู้นั้นหายหัวไปไหนแล้ว

จูนจิ่ว“ปี้หลั๋วเอานางไปทิ้งไว้ที่ปากประตูบ้านของจูนไห่เทียนแล้วเตือนเขาเสียหากยังคิดจะลองดีกับข้าครั้งหน้าจะข้าจะไม่ไว้ชีวิต”

“เจ้าค่ะ”ปี้หลั๋วพยักหน้ารับพลางมองไปที่หญิงรับใช้ที่นอนสลบไสลอยู่“นายหญิงจะให้ข้าจัดการอย่างไรกับคนพวกนี้”

“ฆ่ามันเสีย”

“ปี้หลั๋วหยิบดาบขึ้นมาอย่างรวดเร็วเงื้อดาบขึ้นและแทงเข้าที่สาวรับใช้เพื่อสังหาร”

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วจูนเชียนเชียนถลึงตามองโตอย่างไม่มีอะไรจะน่าตกใจไปมากกว่านี้นั่นมันใช่ปี้หลั๋วจริงๆหรือปี้หลั๋วไม่ใช่คนที่บิดาของนางสั่งมาเพื่อให้คอยจับตาดูจูนจิ่วหรือทำไมถึงแปรพักตร์กลับกลายเป็นคนของจูนจิ่วไปได้

มองเห็นปี้หลั๋วที่ตรงเข้ามาเพื่อจับตัวเองจูนเชียนเชียนที่ทั้งโกรธทั้งหวาดกลัวก็ยังจะคิดขัดขืนแต่เนื่องจากเอ็นที่มือและเท้าถูกทำลายไปแล้วนางก็เป็นแค่คนพิการที่ไร้ค่าไร้ราคาไม่มีความสามารถไม่สามารถที่จะยืนหยัดขัดขืนปัดป้องจากการจับกุมตัวของปี้หลั๋วที่ลากเอาตัวออกไปในระหว่างทางห่อผ้าไหมตกลงจากร่างของจูนเชียนเชียน

เสี่ยวอู่เหล่ตามาเห็นมันรีบกระโดดลงจากโต๊ะและใช้กรงเล็บแหวกห่อผ้าไหมนั้นออกเหมือนกับเห็นอะไรเข้าให้เสี่ยวอู่คาบห่อผ้าไหมนั้นตรงไปที่จูนจิ่ว“เจ้านายดูนี่สิ”

จูนจิ่วกำลังนำผงยาโรยลงบนซากศพที่กองอยู่กับพื้นเมื่อผงยากระทบลงบนซากศพอยู่ดีๆร่างก็ถูกเผากลายเป็นผุยผงขี้เถ้าและในท้ายที่สุดเศษซากขี้เถ้าก็ไม่หลงเหลือเอาไว้ให้เห็นมีเพียงร่องรอยของเปลวเพลิงที่ไหม้ตามพรมให้เป็นหย่อมๆราวกับเป็นหลักฐานว่าเมื่อชั่วครู่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวอู่จูนจิ่วเก็บขวดยาพร้อมหันมามอง“อะไรนะ”

เสี่ยวอู่แหวกห่อผ้าไหมที่ปากคาบหินใสที่สะท้อนต้องกับแสงแวววาวก้อนหนึ่งวางลงเบื้องหน้าของจูนจิ่วนี่คือหินทิพย์พลังที่อยู่ด้านในของมันจะช่วยเจ้านายให้ฟื้นฟูพลังได้

“หินทิพย์?”

จูนจิ่วเลิกคิ้วขึ้นนางหยิบหินทิพย์มองดูอย่างพินิจพิเคราะห์และจูนจิ่วก็ได้พบคำตอบจากความทรงจำของนาง

หินทิพย์นับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่งในโลกามันเป็นสิ่งจำเป็นของเหล่าบรรดานักจิตที่ต้องการใช้ฝึกฝนสะสมพละกำลังเมื่อเทียบกับปราณดูดวิญญาณฟ้าดินแล้วพลังของหินทิพย์ยังบริสุทธิ์แก่กล้ามากกว่าและที่สำคัญหินทิพย์ยังดูดและแปรเปลี่ยนปราณสะสมเป็นกำลังภายในได้ง่ายยิ่งขึ้น

เจ้าของร่างเป็นเพียงแค่คนไร้ประโยชน์และแน่นอนว่าอย่างนางคงไม่มีวันที่จะได้มาพบเจอของวิเศษเช่นหินทิพย์แบบนี้แน่ในห่อผ้าของจูนเชียนเชียนหินเป็นก้อนเม็ดกลมมีขนาดเท่ากับหน้าเล็บถูกนางดูแลรักษาพกติดตัวตลอดเสียดิบดีเห็นทีจะต้องเป็นของที่สำคัญจริงๆ

นัยน์ตาของจูนจิ่วเปล่งประกายออกมาพร้อมกับเอ่ยขึ้นหินทิพย์ก้อนเล็กแค่นี้คงไม่พอสำหรับที่ข้าจะใช้ฝึกฝนพละกำลังแต่ว่าข้ารู้ว่าที่ไหนจะสามารถทำหินทิพย์ให้กับข้าได้

“ที่ไหนกันหรือ”กลับกลายเป็นเสี่ยวอู่ที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าจูนจิ่วเสียด้วยซ้ำ

“ที่นอกเมืองเฟิงหลัวก็มีเหมืองแร่ผลิตหินทิพย์ที่นั่นในวันที่สิบห้าของทุกเดือนจะมีงานเปิดให้เข้าชมหินสามารถซื้อหินดิบที่ยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมาได้”

“หืมนั่นมันไม่ใช่หยกมรกตหรอกหรือแต่ว่าเจ้านายเป็นคนฉลาดไปกันเถอะไปกันเถอะพวกเราไปดูงานชมหินกันเถิด”เสี่ยวอู่ลิงโลดพร้อมกับเดินมาพันแข้งพันขาอย่างออดอ้อนและสนับสนุนในที

หากเจ้านายสามารถหาหินทิพย์เอามาฝึกฝนพละกำลังลมปราณได้มันเองจะได้มีเวลาดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ใช้เวลาอยู่ข้างนอกมาเสียนานเต็มแก่เสี่ยวอู่เมื่อออกมาแล้วก็ไม่คิดอยากจะย้อนกลับไปอยู่ที่กกำไลข้อมือนั่นอีก

แค่มองปราดเดียวก็รู้เท่าทันความคิดของเสี่ยวอู่มุมปากจูนจิ่วฉีกยิ้มขึ้นพร้อมกับยื่นมือขึ้นอุ้มเสี่ยวอู่“ได้”

หากออกเดินทางเสียตั้งแต่ตอนนี้พวกเขาจะยังทันได้เข้าร่วมงานชมหิน

ดังนั้นรอให้จูนไห่เทียนกลับจวนและเห็นสภาพของจูนเชียนเชียนที่กลายเป็นคนพิการไร้ประโยชน์แบบนี้แล้วเห็นทีคงรีบออกคำสั่งราวสายฟ้าฟาดส่งคนมาให้จับตัวจูนจิ่วแต่จะบอกให้รู้เอาไว้แต่ไหนแต่ไรมาจูนจิ่วแทบจะไม่เคยอยู่เรือนตงหูเลยด้วยซ้ำ

“จูนจิ่ว!จูนจิ่ว!นังแพศยาไปมุดหัวอยู่ที่ไหนแล้ว”จูนไห่เทียนโกรธแค้นหัวฟัดหัวเหวี่ยงคว้าตัวปี้หลั๋วเอาไว้

สีหน้าของปี้หลั๋วตื่นตะลึงหวาดกลัวจนตัวสั่นเทาพร้อมกับเอ่ยปากขึ้น“นายท่านปี้หลั๋วก็ไม่ทราบเหมือนกันจูนจิ่วให้ทาสรับใช้นำตัวของคุณหนูรองส่งกลับมาที่นี่กลับไปก็ไม่พบนางแล้วเจ้าค่ะ”

“สวะเป็นสวะที่ไร้ประโยชน์กันเสียจริง”จูนไห่เทียนจับปี้หลั๋วโยนออกไปอย่างโมโหโทโส

เขาหาได้ทันสังเกตเห็นไม่เมื่อร่างของปี้หลั๋วกระเด็นล้มลงบนพื้นใบหน้าที่ก้มอยู่ดวงตาก็สะท้อนออกมาเป็นสีมืดดำแปลกประหลาด

จูนเชียนเชียนอยากจะรีบเตือนจูนไห่เทียนว่าแท้จริงแล้วปี้หลั๋วเป็นคนของจูนจิ่วแต่นางไม่สามารถพูดออกมาได้ร่างกายเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบจะสิ้นใจมีเพียงแค่ความพยายามที่จะเบิกตาให้โตขึ้นน้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้

นางเจ็บปวดเจ็บปวดยิ่งนักนางรู้สึกเสียใจที่เป็นฝ่ายไปตามหาจูนจิ่วเสียเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด