บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 24มีเงินไว้ฟาดหน้าสักฉาด

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 24มีเงินไว้ฟาดหน้าสักฉาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่24มีเงินไว้ฟาดหน้าสักฉาด

จูนจิ่วจำจูนเหลยได้ตั้งแต่ในครั้งแรกสาเหตุก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่อยู่ในความทรงจำของเจ้าของร่างมากที่สุด

เจ้าของร่างอยู่ในตระกูลนี้ต้องตกระกำลำบากถูกรังแกตบตีด่าทอและหยามเหยียดทั้งหมดก็มาจากน้ำมือของจูนเหลยผู้นี้

จูนเหลยกับจูนหวั่นเอ๋อร์พวกเขาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร?

“คุณหนูหวั่น”เมื่อเห็นจูนหวั่นเอ๋อร์เดินทางมาถึงผู้ดูแลงานชมหินก็แสดงท่าทีต้อนรับขับสู้อย่างขยันขันแข็ง“คุณหนูหวั่นมาถึงแล้วครั้งนี้หินดิบมีไม่น้อยส่วนประกอบชั้นเลิศทั้งนั้นจะต้องสามารถเอามาทำเป็นหินทิพย์ได้อย่างแน่นอน”

เมื่อมองไปทางด้านข้างเห็นจูนเหลยที่ถูกลืมไปเสียสนิทผู้ดูแลกลอกตามอง“ไม่ทราบว่าท่านผู้นี้คือ?”

“ท่านผู้นี้คือพ่อบ้านผู้ดูแลประจำตระกูลใหญ่ที่เมืองหลวงใต้เท้าจูนเหลย”จูนหวั่นเอ๋อร์ยิ้มขึ้นพลางแนะนำให้

เมื่อได้ยินว่าผู้ดูแลประจำตระกูลจูนตระกูลใหญ่จากเมืองหลวงเดินทางมาด้วยตนเองท่าทีของผู้ดูแลงานก็ยิ่งนอบน้อมขึ้นไปอีกกล่าววาจาถ้อยคำอันระรื่นหูรีบเชื้อเชิญพวกเขาให้เข้าไป“แขกท่านผู้มีเกียรติทั้งสองท่านเชิญทางนี้”

“ช้าก่อนพ่อบ้านจ้าวเกิดอะไรกับงานชมหินของพวกเจ้าขึ้นกัน?นี่ใครๆก็สามารถมาร่วมงานนี้ได้แล้วหรอ?”จูนหวั่นเอ๋อร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียดสีดูจะพุ่งเป้าไปที่จูนจิ่ว

จูนจิ่วคิดไม่ถึงว่านางเพียงแค่ยืนอยู่ที่ทางเดินจะโดนจูนหวั่นเอ๋อร์หาเรื่องเอาจนได้แต่ทว่าจากที่ดูแล้วจูนหวั่นเอ๋อร์คงยังไม่รู้ว่านางคือใครจูนเหลยก็เช่นเดียวกัน!คนหลังลืมนางไปเสียสนิทแสดงอำนาจบาตรใหญ่สูงส่งแทบจะไม่ได้ชายตาหันมาแลดูจูนจิ่วเลยด้วยซ้ำ

ผู้ดูแลมองเห็นจูนจิ่วสีหน้าก็แปรเปลี่ยนในบัดดล“นางคิดจะทำอะไรกัน”

คนเฝ้าประตูเมื่อสัมผัสได้ถึงความโมโหของผู้ดูแลที่กำลังปะทุขึ้นก็รีบอธิบายกันจ้าละหวั่น“นายท่านขอรับเจ้าเด็กน้อยคนนี้เข้ามาปั่นป่วนเกะกะพวกข้าน้อยจะรีบไล่นางให้ออกไป!”

“เจ้ายังมายืนงงทำอะไรตรงนี้รีบไปเสียไปซะ”

จูนจิ่วไม่ขยับ

จูนหวั่นเอ๋อร์เพ่งเล็งจับจ้องไปที่จูนจิ่วด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยความเร้นลึกถึงแม้นว่านางจะไม่รู้จักกับหญิงสาวคนนี้มาก่อนแต่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรถึงทำให้รู้สึกเกลียดชังได้มากขนาดนี้จูนหวั่นเอ๋อร์เกลียดนางจนเข้าไส้

นางกลอกสายตาจูนหวั่นเอ๋อร์พลันก็นึกถึงแผนการร้ายบางอย่างอยู่ในใจนางจงใจทำท่าทีห้ามปรามคนเฝ้าประตูแกล้งทำท่าแสดงความสงสารเห็นอกเห็นใจกล่าวด้วยวาจาที่เยาะเย้ย“เจ้าอย่าใจร้ายขนาดนั้นดูท่าทีของนางช่างน่าสงสารนักเห็นทีคงจะตั้งใจมาที่งานชมหินเพื่อมาขอทานกระมัง”

“ใช่สิแขกที่มาร่วมงานชมหินได้มีแต่เศรษฐีผู้มีเกียรติเต็มไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์โปรยทานให้นางสักหน่อยเห็นทีจะพอให้นางประทังชีวิตไปได้ตลอดทั้งปี”

ว่าแล้วจูนหวั่นเอ๋อร์หยิบก้อนเงินออกมา“นี่วันนี้คุณหนูผู้นี้อารมณ์ดีเปี่ยมล้นด้วยความเมตตาปรานีอยากจะให้ทานกับเจ้า”

จูนจิ่ว“……”

เสี่ยวอู่โมโหเข้าให้“เจ้านายนางกล้าที่จะดูหมิ่นท่าน”

“จุ๊ๆๆน่าสงสารจนขนาดต้องมาขอทานแบบนี้แล้วไฉนถึงยังพาแมวมาด้วยนะ?ดูแมวตัวนั้นสิช่างซูบผอมข้าคุณหนูผู้นี้จะให้ทานเป็นเงินแก่เจ้าอีกสักก้อน”

เสี่ยวอู่ง่าวววว!รูปร่างคุณชายน้อยอย่างข้ากำลังสวยงามพอดิบพอดีผอม?ตาบอดแล้วหรือยังไง!

เสี่ยวอู่สะกดกลั้นความโกรธที่อยากจะกางเล็บข่วนเข้าที่ใบหน้าของจูนหวั่นเอ๋อร์เก็บเอาไว้ในใจจูนจิ่วมองไปทางจูนหวั่นเอ๋อร์ด้วยสายตาเรียบเย็นที่จ้องตอบนางด้วยท่าทีที่ดูเสแสร้งจูนหวั่นเอ๋อร์รู้สึกฉงนสนเท่ห์ในใจแม่นางคนนี้ดูทีคงไม่ใช่คนโง่ที่จะมายืนให้ถูกรังแกง่ายๆอย่างเป็นหัวหลักหัวตอ

ใครจะรู้ว่าจูนจิ่วนอกจากจะไม่ตกลงรับการช่วยเหลือของจูนหวั่นเอ๋อร์แล้วหนำซ้ำนางยังหยิบทองก้อนที่ทั้งใหญ่และหนักมากระเดาะไปมาในมือมองไปทางผู้ดูแล“เข้าร่วมงานชมหินเท่านี้พอหรือไม่พอ”

“พอ!พอ!ขอรับ”เมื่อมองเห็นทองดวงตาของผู้ดูแลก็สาดเปล่งประกาย

เห็นได้ดังนั้นสีหน้าของจูนหวั่นเอ๋อร์ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีมืดคล้ำลงนางหยิบก้อนเงินออกมาคิดจะทำทานให้คนอื่นผลก็คือผู้นั้นกลับหยิบทองก้อนใหญ่ออกมานี่มันเอาเงินมาฟาดหน้ากันชัดๆ!

สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเป็นสีเขียวสลับดำจูนหวั่นเอ๋อร์กัดฟันกรอดแน่น

มองเห็นจูนจิ่วที่หยิบทองให้กับผู้ดูแลหมุนตัวและเดินเข้าไปจูนหวั่นเอ๋อร์อดรนทนไม่ได้พร้อมกับส่งเสียงขึ้น“หยุดตรงนั้นผู้ดูแลท่านควรจะลองตรวจสอบดูสักหน่อยนะว่ารับเอาทองปลอมมาถูกคนหลอกเข้าให้แล้วหรือเปล่า”

ได้ยินดังนั้นจูนจิ่วหมุนตัวหันมาริมฝีปากเหยียดขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็นมองไปที่จูนหวั่นเอ๋อร์ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขบขันเยาะเย้ย

ผู้ดูแลดูเหมือนจะรู้สึกตัวสงสัยช้าไปหน่อยแต่ก็ยังอุตส่าห์หยิบขึ้นมาลองกัดดูต่อหน้าพวกเขา“ของจริง!”

จูนจิ่วมองไปที่จูนหวั่นเอ๋อร์ด้วยความเห็นอกเห็นใจ“เจ้าคงกลัวความจนเสียจนขึ้นสมองสินะทองของจริงหรือของปลอมเจ้าแยกไม่ออกหรืออย่างไรช่างน่าเวทนาข้าคุณหนูผู้นี้จะให้ทานแก่เจ้าเป็นทองสักก้อน”

ผลั่ก!ทองก้อนหนึ่งถูกโยนใส่เข้าหน้าของจูนหวั่นเอ๋อร์

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด