บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 59 อย่าคิดแงะกำแพงข้า

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 59 อย่าคิดแงะกำแพงข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 59 อย่าคิดแงะกำแพงข้า

ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามทำนองคลองธรรม พัฒนาไปในทางที่ดี นอกจาก…..แมวขนมในอ้อมกอดเขา

จูนจิ่วเอามือเท้าคาง ถามเสี่ยวอู่อย่างสงสัยว่า “เจ้าเป็นอะไรไป?”

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในจวนโม่ เสี่ยวอู๋ก็ออดอ้อนอย่างน่าสงสารทุกวัน ไม่อย่างนั้นก็จะท่าทางเหงาๆ หงอยๆ บางครั้ง จูนจิ่วยังคิดอยู่ว่าจะพาแมวของตนไปหาจิตแพทย์ เสียดายที่นี่ไม่ใช่หัวเซี่ย ไม่มีจิตแพทย์

เสี่ยวอู่อ่อนปวกเปียกกลายเป็นแมวขนม ท่าทางน่าสงสาร “เจ้านาย พวกเราย้ายออกไปดีไหม?”

“ทำไมล่ะ?” จูนจิ่วสงสัย

“โม่อู๋เยว่เป็นคนไม่ดี เขารังแกเสี่ยวอู่ และยังคิดมิดีมิร้ายกับเจ้านายด้วย เจ้านายเก่งขนาดนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องให้โม่อู๋เยว่ช่วยเหลือเลย”

พูดถึงโม่อู๋เยว่ เสี่ยวอู่รีบมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขาลุกขึ้น แยกนิ้วอยู่บนโต๊ะ “เจ้านายพวกเรากำจัดเขาทิ้ง วางยาก็ได้”

จูนจิ่ว “……………”

แมวของนางเหมือนจะป่วยหนักไม่เบา

เสี่ยงอู่ยังคงคิดหาเสนอแนวทาง “ในเมื่อสู้ไม่ไหว แต่เราสามารถวางยาได้ วางยาถ่ายดีไหม? แบบนี้เมื่อร่างกายเขาไม่สบายก็จะสู้เจ้านายไม่ได้ เริ่มจากต่อยเขาก่อน แล้วเราก็หนีไปดีไหม?”

จูนจิ่วยื่นมือ แมวขาวน้อยรีบล้มลง เผยหนังท้องขาวๆ ให้จูนจิ่วลูบคลำ แววตาของเขายังคงมองรอคำตอบของจูนจิ่วอย่างมีความหวัง

ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวอู่ถึงไม่ชอบโม่อู๋เยว่ แต่ จูนจิ่วถอนหายใจ “เสี่ยวอู่ ข้าเสียเปรียบแล้ว”

“เหมียว?”

“เจ้าเห็นเจ้านายของเจ้าเสียเปรียบ จะไม่เอาคืนแล้วจากไปหรือ?” จูนจิ่วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

นางเรียกโม่อู๋เยว่ว่าอาจารย์ จะต้องไม่เรียกเปล่า

เสี่ยวอู่หงอยอย่างไร้ชีวิตชีวา อยู่ที่หัวเซี่ยคนที่เอาเปรียบเจ้านาย ถ้าไม่ตายอย่างทรมานก็จะสูญสิ้นทรัพย์สินจนหมดเนื้อหมดตัว ต่อให้ลองคิดว่าโม่อู๋เยว่จะตกอยู่สภาพแบบไหนถึงจะสะใจ แต่ก็ล้วนเป็นไปไม่ได้

เขามีความกังวลเป็นครั้งแรก เจ้านายของตนสู้โม่อู๋เยว่ไม่ได้

และแล้วแมวน้อยก็ครุ่นคิดอย่างหนัก นอนก็นอนไม่หลับ ดึกดึนเที่ยงคืนปีนออกจากหน้าต่าง เอาซากศพหนูไปทิ้งที่หน้าประตูโม่อู๋เยว่เป็นตัวที่สามสิบแปด

เหมียว โม่อู๋เยว่อย่าคิดว่าจะได้อยู่อย่างมีความสุข

และครั้งนี้ ก็มีเสียงต่ำแหบๆ ของผู้ชายดังขึ้นว่า “สนุกไหม?”

“เหมียว” เสี่ยวอู่ขนพองคิดอยากหนีขึ้นมาทันที

แสงหนึ่งฟาดผ่าน พื้นดินตรงหน้าเสี่ยวอู่ ทิ้งร่องรอยคมดาบไว้

ขนเสี่ยวอู่ยิ่งพอง ไม่ได้กลัว แต่โกรธจัด โม่อู๋เยว่ลงมือจริงๆ เมื่อกี้หากเขาไม่ฉลาดพอแล้วหลบทัน ป่านนี้คงโดนฆ่าตายแล้ว

ร้องเรียกอย่างโกรธแค้น แสงขาวฟาดผ่าน แมวสูงสองเมตรปรากฏอยู่ในจวน เสี่ยวอู่ยกนิ้วฟาดไปทางโม่อู๋เยว่อย่างสุดแรง อดทนไว้ไม่ไหวแล้ว เขาจะจัดการกับโม่อู๋เยว่ กัดเขาให้ตาย

และแล้วความคิดของแมวก็เหมือนดั่งฝันหวาน ความจริงแล้วช่างน่าอดสู

ปัง

ใบหน้าล้มลงแนบกับพื้น เมื่อคลานขึ้นมาใบหน้าก็เปื้อนเต็มไปด้วยขี้ดิน เสี่ยวอู่มองดูตัวเองที่ซ้ายนูนๆ ขวานูนๆ ร้องเรียกเหมียวเหมียวด้วยเสียงอันโกรธแค้นเป็นที่สุด

มองดูในจวน โดนเขาทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี มีเพียงเรีอนของจูนจิ่ว มีแสงสีทองปกคลุมไว้อย่างปลอดภัย ประกายแสงบดบังเสียงรบกวนทุกอย่าง ไม่ส่งผลรบกวนจูนจิ่วนอนหลับ

“เหมียว” เสี่ยวอู่เงยหน้ากระโจนเข้าหาโม่อู๋เยว่

“พอแล้ว” โม่อู๋เยว่ขมวดคิ้วไม่พอใจ

ห้านิ้วของเขากำมือในอากาศ ฤทธิ์เดชปกคลุมร่างกายเสี่ยวอู่ไว้ เสี่ยวอู่ดิ้นรน กลายกลับไปเป็นแมวในชั่วพริบตาเดียว โม่อู่เยว่ปัดมือ จับตัวเสี่ยวอู่มา

มองเสี่ยวอู่ที่ร้องเรียกเหมียวไม่หยุดอย่างเย็นชา โม่อู๋เยว่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ร่างกายมีสายเลือดของเสือขาว แล้วคิดว่าตัวเองเป็นแมวจริงๆ แล้วหรือ?”

ร่างกายเสี่ยวอู่แข็งทื่อขึ้นมาทันที และไม่ร้องเรียกเหมียวแล้ว เขาเบิกตาโต เพ่งมองโม่อู๋เยว่อย่างตกใจแล้วไม่อยากเชื่อ

คนเลวคนนี้รู้สถานะที่แท้จริงของเขาได้ยังไง?

โม่อู๋เยว่พูดขึ้นว่า “เจ้ากลัวข้า ก็เลยอยากให้จูนจิ่วไปจากข้า ทำท่าทางน่าสงสารตั้งหลาย ทำไมไม่ทำต่อ?”

“เหมียว”

“ถามว่าข้าดูออกได้อย่างไร? ตอนที่ข้าไม่อยู่ กรงเล็บของเจ้าคมยิ่งกว่าใคร พอข้าอยู่เจ้าก็จะไม่ต่อต้าน ทำท่าทางน่าสงสาร แล้วไปฟ้องจูนจิ่วว่าข้ารังแกเจ้า ช่างกลิ้งกลอกยิ่งนัก” โม่อู๋เยว่บีบนิ้วเสี่ยวอู่

ก่อนที่เสี่ยวอู่จะพูดอะไร โม่อู๋เยว่ก็พูดขึ้นอีกว่า “ข้าเคยชิมเนื้อเสือขาว เคยดื่มเลือดเสือขาว ไม่รู้ว่าเสี่ยวอู่อยากลองดูไหม?”

ดวงตาแมวเสี่ยวอู่เบิกกลมโต เคยกินเสือขาว

“เจ้าคิดว่าข้าโกหกเจ้า?” โม่อู๋เยว่จ้องมองดูเสี่ยวอู่ ดวงตาสีดำเปลี่ยนกลับไปเป็นสีทอง เหมือนดั่งสัตว์ดุร้าย ทั้งเหี้ยมโหดแล้วเลือดเย็น ไร้ซึ่งความปรานี เสี่ยวอู่รู้สึกหายใจติดขัด หัวใจดวงน้อยเกือบจะแตกสลาย

ก่อนที่เสี่ยวอู่จะทนไม่ไหว โม่อู๋เยว่ก็ปล่อยเขาลง

เมื่อกี้เหมือนดั่งความฝัน โม่อู๋เยว่ยิ้ม พูดขึ้นอย่างเกียจคร้านว่า “ในเมื่อเสี่ยวจิ่วชอบเจ้าขนาดนั้น ข้าจะกินเจ้าได้ยังไง? แต่ว่าเชื่อฟังหน่อย อย่าคิดแงะกำแพงของข้า”

“……..” กำแพงของข้าต่างหาก เจ้านายเป็นของข้า

โม่อู๋เยว่ปล่อยเสี่ยวอู่ ก้มมองดูแมวขาวตัวน้อย “กลับไปเถอะ คราวหน้าถ้าไม่เชื่อฟังอีก ข้าจะบอกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ว่าเจ้าเป็นเสือขาว ไม่ใช่แมว”

กัดโม่อู๋เยว่ตายไม่ได้ กลับโดนสั่งสอนข่มขู่จนแมวเสี่ยวอู่จุกไปทั้งตัว เรื่องในคืนนี้ ทำให้เสี่ยวอู่รู้สึกได้ว่าโม่อู๋เยว่ไม่ใช่คน เขาน่ากลัวกว่าเสือขาวเสียอีก

แต่เขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าโม่อู๋เยว่เป็นอะไร ในความทรงจำของเขา นอกจากรู้ว่าตัวเองเป็นเสือขาวแล้ว นอกนั้นล้วนจำไม่ได้ทั้งสิ้น

เสี่ยวอู่ปืนกลับเข้าห้องไปทางหน้าต่างอย่างน่าสงสาร เหลิ่งยวนปรากฏตัว “เจ้านาย เขาเป็นเสือขาว?”

เหลิ่งยวนตกใจ สัตว์เทพเจ้าเสือขาว? การต่อสู้ในครั้งนั้น สี่สัตว์เทพเจ้าล้วนตายหมดแล้วไม่ใช่หรือ? เขาจะเป็นเสือขาวได้ยังไง แล้วทำไมถึงกลายเป็นแมวขาวอยู่ข้างกายจูนจิ่ว?

“แค่เสือขาวที่สืบทอดไร้ความทรงจำ แม้แต่ข้าเป็นใครยังไม่รู้เลย ไม่น่าเกรงกลัว”

“ครับ แต่เจ้านายต้องกลับไปสักพักแล้ว แหวนพญามังกรปกปิดลมหายใจเจ้านายไม่ค่อยได้แล้ว” เหลิ่งยวนเสนอความคิดเห็นอย่างระมัดระวัง

ในสายตาเขา สามารถมองเห็นลมหายใจที่คนทั่วไปไม่เห็น

ลมหายใจพวกนี้กำลังวนเวียนอยู่รอบกายโม่อู๋เยว่ เริ่มเด่นชัดขึ้นทุกๆ วัน รอถึงเมื่อกระจ่างชัดเจน เจ้านายออกมาจากการคุมขังได้ก็จะถูกเปิดเผย พวกสิ่งประหลาดพวกนั้นรู้เข้า จะต้องรุมเร้าเข้ามาแน่

แววตาลึกของโม่อู๋เยว่ ฉายแววเยือกเย็นอาฆาต

เขาลูบแหวนตรงนิ้ว เขาต้องกลับไป เพื่อกดบังลมหายใจไว้ แต่เขาไม่อยากไป

โม่อู๋เยว่มองเข้าไปในห้อง ในนั้นมีสิ่งเดียวในโลกที่สามารถทำให้วิญญาณของเขามีชีวิตชีวา ความปรารถนาอันมืดมนในใจกำลังเรียกร้อง รีบเร่งให้เขากินจูนจิ่วแล้วค่อยกลับไป แบบนี้จูนจิ่วก็จะตกเป็นของเขา กลายเป็นร่างเดียวกัน ไม่มีใครแย่งไปได้

โม่อู๋เยว่หลับตา ซ่อนแววตาสีทองไว้ สักพัก โม่อู๋เยว่ลืมตาขึ้น “พรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทาง เจ้าอยู่ดูแลปกป้องเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ไม่ว่าใครก็ตาม หากทำร้ายเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ฆ่าให้หมด เสือขาวตัวนั้นจับตาดูให้ดี”

“รับทราบครับ เหลิ่งยวนน้อมรับคำสั่ง”

รุ่งเช้า แสงตะวันสาดส่อง

จูนจิ่วลูบคลำเสี่ยวอู่ที่ยังหลับสนิทอยู่ ยืดแขนบิดขี้เกียจแล้วเดินออกไป มองเห็นโม่อู๋เยว่ยืนอยู่นอกประตูมองดูนาง ด้านหลังโม่อู๋เยว่เต็มไปด้วยซากเศษหักพัง จูนจิ่ว??

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด