บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 65โดนใส่ร้าย

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 65โดนใส่ร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่65โดนใส่ร้าย

หยูนเสวี่ยทำท่าจะเอ่ยปากนางโกรธจนหน้าดำหน้าแดงแต่กลับพูดไม่ออกสักนิด!นางจะพูดอะไรได้หรือ?เฟิ่งเทียนฉี่และจูนจิ่วยังหมั้นกันอยู่ที่นางพูดแต่ละอย่างราวกับตบเข้าที่หน้าของนาง!

เมื่อมองสายตาที่คนรอบข้างมองนางอย่างครุ่นคิดจูนหยูนเสวี่ยทั้งอายทั้งแค้นรักษาภาพลักษณ์อันบริสุทธิ์สูงส่งไม่ได้แล้วนางเกือบจะเป็นลมล้มพับไป

“เสว่เอ๋อร์!”ซั่งกวนอี่หรงเรียกสติกลับมาในที่สุดนางกุลีกุจอรีบพยุงจูนหยูนเสวี่ยจูนจิ่วต่อกรกับพวกเขาอย่างต่อเนื่องดุเดือดราวสายฟ้าฟาดพวกเขาแทบไม่มีโอกาสพูดอะไรเลยบรรยากาศภายในห้องโถงตอนนี้นิ่งเงียบน่าอึดอัดซั่งกวนอี่หรงรีบครุ่นคิดวางแผน

นางคิดออกแล้ว!

ซั่งกวนอี่หรงจ้องจูนจิ่วด้วยความโกรธเกรี้ยว“งานหมั้นอะไร?เจ้าพูดจาเหลวไหลเจ้ามันนางเพศยาหน้าไม่อายช่างกล้ามาใส่ร้ายเสว่เอ๋อร์”

“ใช่แล้วนี่เจ้ากำลังใส่ร้ายข้าอย่างนั้นรึ?จูนจิ่วจิตใจเจ้ามันโหดร้ายนัก!”จูนหยูนเสวี่ยได้รับความช่วยเหลือจากซั่งกวนอี่หรงคิดหาวิธีต่อกรได้

หากแต่เมื่อเรื่องงานหมั้นของจูนจิ่วกับเฟิ่งเทียนฉี่ถูกเปิดเผยพวกนางก็ผิดแล้ว

เพราะอย่างนั้นซั่งกวนอี่หรงกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิดรีบตวาดออกไป“นี่มันคือแผนการไร้ยางอายคิดจะทำลายชื่อเสียงเสว่เอ๋อร์ของข้า!จูนจิ่วเจ้าร้ายกาจเกินไปแล้วทุกท่านอย่าได้หลงเชื่อคำพูดของนางจูนจิ่วนางเป็นใครพวกท่านไม่รู้อยางนั้นหรือ?”

หยูนเฉียวลุกยืนขึ้นกล่าวพลางแย้มยิ้ม“หมอเทวดาจูนจิ่วผู้คนต่างแย่งชิงเม็ดยาของนางชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแคว้นท่านมีปัญหาอะไรหรือ?”

ซั่งกวนอี่หรงถูกหยูนเฉียวดักคอไว้อัดอั้นจนแทบหายใจไม่ออกผู้คนต่างพยักหน้าเห็นด้วยพาให้นางโกรธจนหน้าเขียว

เรื่องราวเป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?

ไม่ใช่ควรว่าจูนจิ่วนางแพศยาหรอกหรือช่างไม่มียางอายทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลผู้คนควรจะสาปแช่งนางสิ!นางหญิงชั่วคนนี้ก็เพียงแค่ปรุงยาได้เท่านั้นทำราวกับนางเป็นพระเจ้ายังนั้นหรือ?ข่าวลือต่างๆนานาใช้ไม่ได้เลยหรือ?

ในตอนนี้นางรับใช้ชิววี่ก็พุ่งเข้ามาชี้ไปทางจูนจิ่วแล้วกล่าวเสียงดัง“นางคือโจรขโมย!นางขโมยของขวัญงานวันเกิดที่แขกเหรื่อมอบให้กับท่านเจ้าตระกูลทหาร!รีบจับนางขโมยไว้เร็ว!”

“ใช่!นางเป็นขโมย!จับนางไว้”จูนหยูนเสวี่ยรีบตะโกนเสียงดัง

จูนจิ่วหรี่ตามองยิ้มเยาะพลางมองไปยังพวกจูนหยูนเสวี่ยแม้นางจะถูกล้อมไว้แต่หาได้ยอมตามไม่นางกลับเชิดหน้าขึ้นยิ้มเยาะอย่างไม่แยแสทำราวกับพวกจูนหยูนเสวี่ยเป็นเพียงแค่ฝูงลิงเท่านั้น

เฟิ่งเทียนฉี่หลบอยู่ที่มุมหนึ่งมองไปทางจูนจิ่วอย่างไร้สติสายตาเหม่อลอย

จูนสงเทียนเรียกสติกลับมาสายตามุ่งร้าย“จูนจิ่วเจ้ากล้าใส่ร้ายองค์รัชทายาทและทำลายชื่อเสียงบุตรสาวสุดที่รักของข้าและยังขโมยของขวัญไปอีกโทษหนักให้อภัยไม่ได้!ทหารจับนางไปขังไว้ที่โรงไม้!

จูนสงเทียนกล่าวไปพลางสบตากับผู้ดูแลบ้านเพียงแค่จับจูนจิ่วไว้พานางออกไปที่ลับตาคนแล้วกำจัดนางทิ้ง!

“รอก่อน”จูนจิ่วเอ่ยปากอย่างเกียจคร้าน

“รีบไปจับนาง!”ซั่งกวนอี่หรงตวาดเสียงดังนางไม่อยากให้จูนจิ่วเอ่ยปากอะไรทั้งสิ้นเกรงว่าจูนจิ่วจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกมา

ทหารกรูกันเข้ามาผู้คนโดยรอบต่างหลีกทางให้มีเพียงหยูนเฉียวรีบก้าวเข้ามาแต่หยูนจ้งจิ่นขวางเขาไว้“เจ้าร่างกายอ่อนแอข้าเอง!”

“ท่านพี่ท่านรีบไป!อย่าให้พวกมันกลั่นแกล้งแม่นางจูน!”

หยูนจ้งจิ่น“…”

เจ้าน้องชายคนนี้ถูกเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า!ควรจะเป็นห่วงพี่ชายตัวเองมากกว่ามิใช่รึ?ในสายตามีเพียงจูนจิ่วช่างน่าสงสารพี่ชายคนนี้เสียจริงไม่ได้อยู่ในสายตาเจ้าเลย

หยูนจ้งจิ่นลอบถอนหายใจมือขยับอย่างคล่องแคล่วเขากำลังจะลงมือแต่เสียงกรี้ดร้องหยุดเขาไว้เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็ชะงักงันในทันที

การลงมือในพริบตาเดียวทหารเหล่านั้นยังไม่ได้เข้าใกล้จูนจิ่วแต่เพราะอะไรไม่แน่ชัดต่างถูกตีหกคะเมนล้มลงทีละคนหนึ่งในนั้นที่แย่ที่สุดล้มกลิ้งแทบเท้าจูนจิ่วจูนจิ่วก็ยกเท้าเหยียบหน้าอกเขาเอาไว้

กร๊อบ!เสียงกระดูกแหลกละเอียดทหารคนนั้นเบิกตาโพลงเลือดทะลักออกจากดวงตา

ผู้คนรอบข้างต่างพากันกลัวหน้าซีดขาวช่างโหดร้ายยิ่งนัก!

จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นแววตาเย็นเยียบเสียดกระดูกมองไปยังพวกจูนสงเทียนทั้งสามคนด้วยแววตาทรงอำนาจจูนจิ่วยิ้มอย่างเย็นชา“ข้าเกลียดที่สุดเวลามีคนพูดสอดข้า”

ฟู่—

ความเย็นเยียบแผ่ซ่านขึ้นมาจากกระดูกสันหลังพาให้รู้สึกหวาดกลัวอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่จูนจิ่วโมโห

จูนจิ่วมองไปยังชิววี่“เจ้าบอกว่าข้าขโมยของขวัญวันเกิดรึ?หลักฐานอยู่ไหน?”

“ข้าเห็นด้วยตาข้าเองจูนจิ่วเจ้าหยุดพูดกลับกลอกได้แล้ว!”ชิววี่ยืดอกขึ้นจ้องมองไปยังจูนจิ่วนางไม่กลัวหรอก!ที่นี่คือบ้านตระกูลจูนจูนจิ่วนางจะทลายฟ้าก็อย่าคิดจะหนีออกไปได้

น่าเสียดายในที่สายตาของจูนจิ่วแล้วแม้ที่นี่จะเป็นจวนตระกูลจูนหรือไม่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันนางมองไปยังเสี่ยวอู่ไปกันเถอะ

เสี่ยวอู่รับคำสั่งพุ่งตัวกระโดดออกไปราวเหินฟ้า

เงาของเจ้าแมวพาดผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่มีผู้ใดรับรู้ได้ทันได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องของชิววี่เมื่อมองไปนางหายใจด้วยความหวาดกลัว

ดวงตาทั้งคู่ของชิววี่มีเลือดสดสีแดงฉานทะลักล้นออกมารอยเขี้ยวเล็บแมวลากยาวจากหน้าผากไปถึงคางรอยแผลเต็มทั่วใบหน้าภาพตรงหน้าพาให้ผู้คนโดยรอบตกตะลึงแทบสิ้นสตินี่ฝีมือแมวหรือ?ดุร้ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

“เมี้ยว~เมี้ยว~”

มองไปที่เสี่ยวอู่อีกครั้งแมวดุร้ายเมื่อชั่วครูในตอนนี้กลับมาอ้อนคลอเคลียอยู่ข้างๆจูนจิ่วหากไม่รู้มาก่อนอาจคิดว่าเจ้าแมวสองตัวนี้ไม่ใช่แมวตัวเดียวกันพวกเขายิ่งไม่เข้าภาษาแมวของเสี่ยวอู่

เสี่ยวอู่ฮึ่มฮั่มเอ่ยขึ้นเมื่อครู่บอกว่ามองผิดไปในตอนนี้กลับบอกว่าเห็นด้วยตาตัวเองรึ?กล้าใส่ร้ายนายท่านก็ควรจะโดนควักลูกตาออกมาเฮอะ!

สองตาของชิววี่พร่าเลือนไปด้วยเลือดสดนางล้มลงกับพื้นยื่นมือขอความช่วยเหลือไปทางซั่งกวนอี่หรง“นางหญิงช่วยข้าด้วย!ช่วยข้าด้วย!”

ภายในห้องโถงใหญ่นอกจากเสียงกรีดร้องแล้วก็เหลือเพียงเสียงสูดลมหายใจด้วยความกลัว

เมื่อซั่งกวนอี่หรงได้สติคืนมาความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมานางจ้องมองไปยังจูนจิ่วด้วยสายตาเคียดแค้นพลางเอ่ยขึ้น“ทุกท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่!นางคนโฉดผู้นี้ใช้วิธีโหดเหี้ยมอำมหิตพวกท่านอย่าเชื่อคำพูดนาง!ทหารไปเรียกจูนไห่เทียนสองพ่อลูกเข้ามา”

ซั่งกวนอี่หรงเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งยิ้มเยาะอย่างพอใจ“จูนจิ่วเจ้าคิดไม่ถึงใช่ไหมว่าจูนไห่เทียนสองพ่อลูกอยู่ที่นี่?วันนี้ข้าจะฉีกหน้ากากของเจ้าให้ได้ข้าจะฆ่าคนโฉดเช่นเจ้าให้ได้!”

เสี่ยวอู่เมื่อได้ยินเข้ามองไปทางจูนจิ่วนายหญิงพวกมันกำลังพาจูนไห่เทียนและจูนเชียนเชียนเข้ามาแล้ว!

จูนจิ่วแย้มยิ้นขึ้นข้าคาดไว้แต่แรกแล้วไม่ต้องกังวล

นางมองไปยังซั่งกวนอี่หรงที่คาดว่าตนได้ชัยชนะแล้วพลางหยิบเข็มเงินออกมาปาออกไปอย่างเงียบเชียบหลีกหนีจากการสังเกตของฝูงชนปักลงไปยังร่างของซั่งกวนอี่หรงซั่งกวนอี่หรงเพียงรู้สึกเจ็บแปลบในร่างเหมือนมีของเหลวเย็นเยียบไหลเวียนอยู่แต่ผ่านไปชั่วครู่กลับไม่รู้สึกอะไรแล้ว

ซั่งกวนอี่หรงขจัดความรู้สึกแปลกประหลาดในใจออกไปนางจดจ้องด้วยความอาฆาตไปยังจูนจิ่วในตอนนี้ต้องเหยียบจูนจิ่วในจมดิน!ให้นางกลับตัวไม่ได้มีเพียงจัดการจูนจิ่วให้พ้นทางเสว่เอ๋อร์ของนางจึงจะก้าวขึ้นบนตำแหน่งของจูนจิ่วได้!

เพียงชั่วครู่จูนไห่เทียนและจูนเชียนเชียนก็ถูกพาตัวเข้ามาทุกคนมองไปยังจูนไห่เทียนที่เสียสติและยังจูนเชียนเชียนที่เป็นอัมพาตต่างพากันขมวดคิ้วสงสัยว่าซั่งกวนอี่หรงคิดจะทำอะไร

จูนสงเทียนก็ทำท่าประหลาดใจ“ภรรยาข้าพวกมันไม่ใช่คนเมืองเฟิงหลัวหรือ?ทำไมกลายเป็นอย่างนี้แล้ว”

“เรื่องนี้ท่านต้องถามจูนจิ่ว!”ซั่งกวนอี่หรงสีหน้าพอใจยิ่งนักจูนจิ่วเจ้าหมดหนทางแล้ว!นางจ้องแน่วนิ่งไปยังจูนจิ่วพลายเอ่ยขึ้น“ท่านทั้งหลายท่านนี้คือครอบครัวเจ้าตระกูลจูนอีกบ้านหนึ่งและยังมีลูกสาวของเขาต่างมาจากเมืองเฟิงหลัว!พวกเขาแต่ก่อนก็เป็นคนปกติใครจะรู้เมื่อจูนจิ่วเข้าไปอาศัยอยู่กลับไม่รู้กตัญญูกลับวางยาพิษจนบ้านแตกสาแหรกขาด!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด