บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 76ดึงจนตับไตและใบหน้าเจ็บปวด

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 76ดึงจนตับไตและใบหน้าเจ็บปวด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่76ดึงจนตับไตและใบหน้าเจ็บปวด

เมื่อมองเห็นอาจารย์ของตัวเองเขาคลานไปหาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำตา“อาจารย์ช่วยข้าด้วย”

“เจ้าเจ้าหลัวฉีแขนของเจ้า”สีหน้าของเหอจงเหมือนกับเห็นผี

คนที่อยู่ที่นั่นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกันยากที่จะเชื่อได้สายตามองไปที่แขนข้างขวาของหลัวฉีที่เมื่อครู่ถูกบีดจนเป็นเกรียวแน่นอนว่าต้องหักแล้วตอนนี้หลัวฉีนำเรื่องมาฟ้องร้องเหอจงไปด้วยและเอามือชี้ไปที่แขนของจูนจิ่วด้วยก็แค่แขนข้างขวา?

หลัวฉีตัวเขาเองก็ประหลาดใจเหมือนกันเขาปวดไปทั้งตัวปวดจนชนิดที่แค่พูดเลือดก็ออกจากปากแล้วแต่ทว่าตอนนี้หลัวฉีก็ถูกมือข้างขวาทำให้ตกตะลึงเช่นกันยื่นแขนตัวเองออกไปลูบๆคลำๆอย่างงงๆ

แขนหายแล้ว

เกิดอะไรขึ้น?เมื่อกี้ถูกจูนจิ่วนังเศษสวะนั่นหักแขนไม่ใช่หรือ?ทำไมหายดีแล้ว

หลัวฉีลองขยับแขนไปมานอกจากปวดแล้วก็ปกติดีเหมือนเดิมหลัวฉีงงงวย“แขนข้าหายแล้ว?”

เสียงปรบมือแปะๆๆ

หยูนเฉียวนำทีมปรบมือ“การรักษาของแม่นางจูนเยี่ยมมากเลยเก่งสุดๆ”

“เหมียวๆ”เสี่ยวอู่พยักหน้านั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว

ทุกคนปรบมือชื่นชมตามๆกันใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและชมชอบมีก็แต่เหอจงที่ทำหน้ามุ่ยเสียงปรบมือของทุกคนที่ดังไปถึงเขามันคือเสียงตบหน้าดีๆนี่เองตบจนเขาปวดหน้าปวดใจปวดตับ

จูนจิ่วทำได้อย่างไร?

เห็นแค่จับแล้วบิดๆแขนของหลัวฉีก็หายแล้ว?เขามีชีวิตจนถึงปานนี้ยังไม่เคยพานพบนักกลั่นยาท่านไหนมีความสามารถถึงเพียงนี้นังสารเลวนี่คือใครกันแน่?

ถึงตอนนี้เพิ่งจะนึกถามได้ว่า“เจ้าเป็นใคร?”

“จูนจิ่ว”กระตุกยิ้มที่มุมปากยิ้มอย่างยโสเหิมเกริมดวงตาทั้งคู่มองสบกับเหอจงส่งกระแสสายตาถึงกันไม่มีท่าทีจะยอมกันกลับทำให้หัวใจสั่นสะท้านแผ่นหลังเย็นๆอย่างโกรธแค้น

จูนจิ่ว

นางนี่เองเป็นคนเดียวกับที่จูนหยูนเสวี่ยเคยพูดให้ฟังในใจของเหอจงกลับเกิดกระแสอาฆาตเข้มข้นขึ้นมาอีกระลอกเริ่มด้วยการรังแกจูนหยูนเสวี่ยที่เขาดูแลกำกับอยู่ต่อด้วยทำร้ายลูกศิษย์ของเขาจูนจิ่วผู้นี้เก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด

ให้นางเข้ามาที่ลานเทียนโจ้งไม่ได้ต้องไล่นางออกไปหลังจากนั้นค่อยฆ่านางทิ้งเพื่อล้างแค้น

สายตาที่ใจดำโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งอยู่เข้มยิ่งเข้มข้นเหอจงกำลังจะเปิดปากพูดเสียงหัวเราะที่คุ้นหูดังลอยมาแต่ไกล“ฮ่าๆๆๆดีข้ากำลังจะพูดกับไท่ซ่างฮ่องพอดีเมื่อไหร่จะได้พบกับหมอเทวดาจูนจิ่วคิดไม่ถึงว่ามาถึงที่นี่แล้ว”

“อ้าวผู้อำนวยการ”หันหลังกลับไปดูสูดหายใจเข้าลึกๆสีหน้าดูไม่ดีเลย

แล้วมองไปที่ด้านข้างผู้อำนวยการโล่ชิวเห้อสายที่ที่ดุดันของเฟิ่งเซียวจ้องมาที่เขาความรู้สึกเย็นวูบค่อยๆคืบคลานเข้ามายังแผ่นหลังทีละชั้นๆเหอจงกำหมัดแน่นรอบนี้ไม่ใช่เพราะความโกรธแต่เป็นเพราะหวาดกลัว

พวกเขาเป็นคนรุ่นเดียวกันยิ่งเข้าใจดีถึงชื่อเสียงความดุร้ายของไท่ซ่างฮ่องมากกว่ารุ่นเด็กหนุ่มสาวพวกนี้ดี

หันหัวมองไปทางจูนจิ่วยิ้มเบิกบานทันที“ชิวเห้อคนนี้เด็กน้อยบ้านข้าเองเป็นไงไม่เลวใช่ไหมล่ะ?”

“ใช้ได้ใช้ได้ดีมาก”ชื่นชมจูนจิ่วอย่างไม่เก็บซ่อนความรู้สึกเขาจับที่หนวดเคราขาวยิ้มอย่างมีโอ่อ่ามีเมตตาจิตสายตามองพิจารณาที่จูนจิ่วพอใจจริงๆ

แค่ได้ยินชื่อเสียงหมอเทวดาไยจะเทียบได้กับการเห็นด้วยตาเปล่า

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นต่อให้รักษาจากนักกลั่นยาที่ดีแค่ไหนหลังจากที่เชื่อมกระดูกแล้วก็ต้องพักฟื้นตัวหลายวันถึงจะสามารถขยับตัวได้แต่จูนจิ่วแค่ขยับสองทีทำให้หลัวฉีฟื้นตัวปกติเหมือนแต่ก่อนการรักษานี้จะไม่ทำให้คนตกตะลึงได้อย่างไร

“ผู้อำนวยการ”เหอจงกัดฟันพูดและจ้องไปที่จูนจิ่ว“นังสารเลว……จูนจิ่วทำร้ายศิษย์ลานเทียนโจ้งอย่างเปิดเผยจะให้นางเข้าเรียนที่ลานเทียนโจ้งไม่ได้เด็ดขาดลานเทียนโจ้งของเราจะไม่รับตัวกาลกิณีที่ใจดำอำมหิตแบบนี้เข้ามาเรียนอย่างแน่นอน”

ภายใต้สายจาของเฟิ่งเซียวเหอจงกลืนคำว่านังสารเลวลงไปและเขายังคงโหดร้ายไม่ยอมปล่อยจูนจิ่ว

ไท่ซ่างฮ่องแล้วยังไง?คนที่คุมลานเทียนโจ้งคือพวกเขาเฟิ่งเซียวอย่าคิดเข้ามายุ่งเกี่ยวเหอจงมองไปทางโล่ชิวเห้อกลับถูกสายตาของเขาทำให้ร่างกายเย็นวูบในทันทีใบหน้าก็เช่นกัน

โล่ชิวเห้อพูดว่า“ความจริงเป็นเช่นไรข้าย่อมรู้ดีหลัวฉีลอบจู่โจมก่อนเขาในฐานะที่เป็นศิษย์เทียนโจ้งกลับทำเรื่องลอบจู่โจมนักเรียนที่มาใหม่หากไม่ใช่ว่าจูนจิ่วฝีมือดีหลบไว้ได้ทันไม่เช่นนั้นมีดบินนั้นก็อาจคร่าชีวิตคนอื่นไปแล้วมิใช่หรือ?”

“ไม่ใช่ผู้อำนวยการจูนจิ่วไอ่เศษสวะนั้นมากสุดก็แค่บาดเจ็บไม่ใช่จะฆ่านาง”หลัวฉีแก้ตัว

สายตาของคนทั้งสามเฟิ่งเซียวโล่ชิวเห้อหยูนเฉียวจ้องมองไปทันทีหลัวฉีสั่นสะท้านไปทั้งตัว

โล่ชิวเห้อพูดว่า“หมอเทวดาจูนจิ่วมาที่ลานเทียนโจ้งของข้านับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับลานเทียนโจ้งนำชื่อนางและหยูนเฉียวลงทะเบียนให้เรียบร้อยหลังจากที่ผ่านการคัดเลือกก็จะถือว่าเป็นศิษย์ของลานเทียนโจ้งแล้ว”

“ขอรับ”ศิษย์ที่นั่งอยู่ด้านข้างรีบไปลงทะเบียนทันที

โล่ชิวเห้อมองไปทางเหอจง“รองผู้อำนวยการเจ้าสั่งสอนลูกศิษย์ได้ไม่ดีถึงได้กระทำการเช่นนี้ยังไม่รีบพาหลัวฉีไปขอโทษจูนจิ่วซะ”

“อะไรนะ?ขอโทษ?”เหอจงกับหลัวฉีพูดเสียงดังพร้อมเพรียงกัน

ขอโทษจูนจิ่วเป็นไปได้อย่างไร?

“ตั้งแต่ไหนแต่ไรข้าไม่เคยเก็บกวาดขยะอยู่แล้วขอโทษไม่ต้องแล้ว”จูนจิ่วพูดขึ้นทำให้ผู้คนมองไปที่นาง

ไม่เคยเก็บกวาดขยะ?นั่นกำลังหมายถึงคำขอโทษของเหอจงกับหลัวฉีว่าเป็นเศษขยะไร้ประโยชน์งั้นหรือ?เหอจงสีหน้าดำคร่ำเครียดและหลัวฉีที่เห็นจูนจิ่วกำลังเดินมาลำตัวสั่นเทาทันที“เจ้าจะทำอะไร”

เสียงแขนหัก

จูนจิ่วมือไม้เร็วเกินไปไม่มีใครทันรู้ตัว

พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นหลัวฉีกรีดร้องเจ็บปวดล้มอยู่ที่พื้นแขนข้างขวาของเขาหักอีกแล้วดูแล้วแย่กว่าเมื่อครู่ที่บิดเป็นเกรียว

ทุกคนกลัวสั่นตามๆกันน่ากลัวจูนจิ่วดุร้ายมาก

หลังจากรักษาหลัวฉีหายแล้วกลับหักแขนหลัวฉีอีกรอบวิธีการนี้โหดเหี้ยมจนทำให้คนตื่นตกใจเด็ดขาดจนน่ากลัวนี่ขนาดผู้อำนวยการรองผู้อำนวยการยังอยู่นะจูนจิ่วก็ยังกล้าทำถึงเพียงนี้

มุมปากขยับเล็กน้อยจูนจิ่วหัวเราะอย่างเย็นเยือกไร้ความปราณี“โทษฐานที่ลอบจู่โจมข้าจะต้องเอาคืนกลับมา”

“นังสารเลว”เหอจงโกรธจนสั่นไปหมดหักแขนลูกศิษย์เขาต่อหน้าต่อตาเขาเลยนี่มันตบหน้าเขาชัดๆ?

เหอจงอยากจะฆ่าจูนจิ่วให้ตายเสียตอนนี้เลยแต่สายตาของเฟิ่งเซียวที่มองอยู่ทางด้านหลังทำให้เหอจงไม่กล้าขยับเขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยแค่เขากล้าที่จะก้าวไปหาจูนจิ่วเพียงหนึ่งก้าวเฟิ่งเซียวก็สามารถตีขาเขาให้หักได้

และฟังน้ำเสียงที่เข้มงวดของโล่ชิวเห้อ“นี่เป็นสิ่งที่เขาก่อขึ้นเองรองผู้อำนวยการนำคนกลับไปสั่งสอนให้ดีหากมีครั้งต่อไปจะไม่ละเว้นเด็ดขาด”

“รับทราบ”นัยน์ตาของเหอจงโกรธแค้นยิ่งนักเขามองจ้องไปที่จูนจิ่วหลายครั้งแล้วก็พาหลัวฉีเข้าไปที่ลานเทียนโจ้งอย่างไม่พอใจ

เมื่อเดินออกไปข้างหลังยังมีเสียงจูนจิ่วดังออกมานางพูดว่า“น่าเสียดายที่ลานเทียนโจ้งไม่มีนักกลั่นยาที่ฝีมือเท่าข้าที่สามารถรักษาเขาให้หายโดยเร็ว”

โล่ชิวเห้อพยักหน้า“ใช่เป็นจริงดังนั้นที่ไม่มีใครเก่งวิชาการแพทย์เท่าเจ้า”

เหอจงเดินโซเซโกรธจนหน้าเกือบทิ่มลงที่พื้น

เขากัดฟันแน่นก้าวเดินหนักๆด้วยความโกรธทำราวกับว่าจูนจิ่วคือก้อนอิฐที่พื้นที่เขาเหยียบย่ำได้ตามใจ

เหอจงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแขนหลัวฉีที่จูนจิ่วหักถึงสองครั้งมีผลข้างคียงที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่านักกลั่นยามาแล้วก็สามารถรักษาได้หลัวฉีจะต้องชดใช้กับการลอบจู่โจมอำมหิตที่เขาได้ทำไว้แขนข้างขวาถูกทำลายเขาต้องเรียนรู้ใช้มือซ้ายแล้วล่ะ

ในที่ลับจูนหยูนเสวี่ยที่มีแววตาอาฆาตพยาบาทมองจ้องไปที่ประตูทางเข้าทุกคนชมชอบสรรเสริญผู้อำนวยการก็ชื่นชมจูนจิ่วเช่นกันแล้วยังมีไท่ซ่างฮ่องกับหยูนเฉียวที่ปกป้องดูแลซ้ายขาวอิจฉาและเกลียดปลายเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือเลือดสดไล่ผ่านช่องว่างระหว่างนิ่วมือจูนหยูนเสวี่ยกัดฟันแน่น“จูนจิ่วเจ้าอวดดีได้ไม่นานหรอก”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด