บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 77จูนหยูนเสวี่ยคือเป็ดป่า

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 77จูนหยูนเสวี่ยคือเป็ดป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่77จูนหยูนเสวี่ยคือเป็ดป่า

ภายในลานเทียนโจ้ง

รองผู้อำนวยการเหอจงใบหน้าทมึนตึงสายตามองตรงไปที่หลัวฉีที่นอนร้องเจ็บปวดอยู่บนเตียง“รองผู้อำนวยการลูกศิษย์ท่านเส้นเอนแขนถูกทำลายกระดูกก็เชื่อมไม่ได้แล้วข้าเสียใจด้วย”

“เสียใจด้วยบ้าบออะไรจูนจิ่วนั้นทำแปปเดียวก็เชื่อมเสร็จแล้วเจ้ายังกล้าพูดว่าศิษย์ข้าช่วยไม่ได้แล้ว”เหอจงหันหน้าจ้องไปทางนักกลั่นยา

นักกลั่นยาไม่กลัวเขาลูบที่หนวดเคราพูดว่า“นั่นน่ะหมอเทวดาจูนจิ่วได้รับการยกย่องจากผู้อาวุโสของสำนักตันเก๋อว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ข้าน้อยยังด้อยนักเทียบนางไม่ได้

“เจ้า”

คนอื่นเขาแก่อายุป่านนี้แล้วยังพูดตรงๆว่าเทียบจูนจิ่วไม่ได้แล้วเขาจะพูดอะไรได้?

เหอจงโกรธจนจะอยากกระอากเลือด“รักษาไม่ได้ก็ไสหัวไปซะหมอเถื่อน”

นักกลั่นยาอยากจะโกรธแต่สายตากวาดมองไปที่หลัวฉีได้แต่รำพึงเสียงฮึ้มแล้วจากไปมองเห็นรองผู้อำนวยการที่ลูกศิษย์เป็นคนไร้ประโยชน์ไปละเขาไม่อยากหาเรื่องให้มากความนักกลั่นยารู้สึกแปลกใจซุบซิบกับตนเองหมอเทวดาจูนจิ่วรักษาแปปเดียวก็รักษาหายเลยหรือ?เห็นทีต้องหาเวลาไปขอชี้แนะหน่อยแล้วล่ะ

เหอจงเป็นนักจิตชั้นหกในหูได้ยินนักกลั่นยาซุบซิบสายตามืดครึ้มในหัวมีเสียงดังเหมือนจะระเบิดให้ได้“จูนจิ่ว”

เพรียง

พลังอัดแน่นทำให้โต๊ะและเก้าอี้ในห้องถูกแรงระเบิดแตกกระจาย

จูนหยูนเสวี่ยเดินเข้ามาเห็นภาพเหตุการณ์นั้นกระตุกยิ้มที่มุมปากเงยหัวเปิดปากพูดใบหน้านางยังคงแสดงท่าทีที่งดงามสง่าสวมใส่ชุดขาวบริสุทธิ์อ้อนช้อยงดงามจูนหยูนเสวี่ยพูดขึ้น“รองผู้อำนวยการเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

นางแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร

เหอจงหันกลับไปหูที่ได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของหลัวฉี“อาจารย์ช่วยข้าด้วยข้าไม่อยากเป็นคนไร้ค่าอาจารย์ต้องช่วยข้านะ”

เหอจงปวดหัวเป็นระลอกๆเขาถอนหายใจหนักหน่วงมองไปที่หยูนจูนเสวี่ยพูดว่า“หยูนเสวี่ยเจ้าพูดไว้ไม่มีผิดจูนจิ่วนังสารเลวนั้นมันเป็นตัวกาลกิณีศิษย์น้องของเจ้าถูกมันเล่นงานตอนนี้ต้องกลายเป็นคนไร้ค่าโอ๊ยข้าอยากจะฆ่านางให้ตายซะเดี๋ยวนี้เลย”

“จูนจิ่วสมควรตายรองผู้อำนวยการท่านกำลังรออะไรอยู่?”

“ไท่ซ่างฮ่องปกป้องนางอยู่ข้าจะลงมือยังไง?”เหอจงแค่นึกถึงจูนจิ่วก็ขบฟันแน่น

จูนหยูนเสวี่ยได้ยินดังนั้นก้มหัวหน่อยๆนัยน์ตาตาแอบซ่อนสายตาที่อาฆาตเคียดแค้นไว้นางก็เห็นไท่ซ่างฮ่องเฟิ่งเซียวแล้วเช่นกันหากนับจากวันนี้ไท่ซ่างฮ่องเดินเข้าออกลานเทียนโจ้งจริงๆนางจะลงมือกับจูนจิ่วได้อย่างไร?

ดังนั้นก่อนที่จูนจิ่วจะเข้าลานเทียนโจ้งจะต้องตายสถานเดียว

จูนหยูนเสวี่ยพูดว่า“หยูนเสวี่ยยินดีที่จะแบ่งเบาความลำบากของรองผู้อำนวยการเพื่อบรรเทาความโกรธในใจ”

“อ้อ?หยูนเสวี่ยเจ้ามีแผนอะไรไหม”เหอจงรีบมองไปทางจูนหยูนเสวี่ยทันทีนัยน์ตาเปล่งประกายรอคอยคำตอบ

“การคัดเลือกนักเรียนใหม่ที่เขาเป่ยโจ้ง”

จูนหยูนเสวี่ยที่น้ำเสียงเย็นเยือกเย่อหยิ่งดั่งหินหยกคำพูดแต่ละคำที่ออกมาแฝงไปด้วยอาฆาตทำให้คนรู้สึกขนลุกซู่

เริ่มแรกเหอจงก็อึ้งๆไปแต่ทว่าก็รีบดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วใบหน้าเผยรอยยิ้มหยัน“ข้าเข้าใจแล้วยังไงก็ต้องพึ่งหยูนเสวี่ยเจ้าแล้วล่ะเจ้าฉลาดดั่งหิมะอุบายเยอะดีวางใจได้เรื่องนี้สำเร็จข้าจะตบรางวัลอย่างงาม”

“ช่วยรองผู้อำนวยการแก้ไขปัญหาและแก้แคนให้กับศิษย์น้องหลัวฉีนับเป็นภาระหน้าที่ที่หยูนเสวี่ยไม่อาจปฏิเสธได้”จูนหยูนเสวี่ยยิ้มกว้างดั่งบัวขาว

นางไม่ได้บอกเหอจงว่านางเป็นคนสั่งให้หลัวฉีไปหาเรื่องจูนจิ่วเองหลัวฉีนั้นมีใจรักนางแน่นอนว่าก็เชื่อฟังนางมากเช่นกันแต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องยังไม่ทันได้หากลับทำให้ให้ตัวเองโดนหาเรื่องซะเองในใจจูนหยูนเสวี่ยเย้ยหยันหลัวฉีไร้ประโยชน์จริงๆ

เหอจง“หยูนเสวี่ยเจ้าวางใจได้สิทธิ์รายชื่อสำนักอู่จงข้าจะเก็บไว้ให้เจ้าหนึ่งสิทธิ์”

“ขอบคุณรองผู้อำนวยการ”จูนหยูนเสวี่ยตื่นเต้นดีใจมากแค่ได้สิทธิ์รายชื่อสำนักอู่จงและได้เป็นศิษย์ของสำนักอู่จงการหมั้นก็ไม่สำคัญอะไรแล้วอีกแล้วไท่ซ่างฮ่องก็มิอาจทำอะไรนางได้นางจะทำให้เฟิ่งเทียนฉี่รู้สึกเสียใจในภายหลัง

เมื่อข้าได้เป็นศิษย์สำนักอู่จงแล้วจูนจิ่วหมอเทวดาหรือ?มายกรองเท้าให้นางก็ไม่เหมาะสม

ศิษย์ที่สมัครในงานเปิดรับสมัครศิษย์สำนักล้วนจะถูกจัดให้อยู่ที่โรงแรมของสำนักเทียนโจ้งตรงตีนเขาเหิงซานแต่ทว่าพวกจูนจิ่วไม่ได้พักที่นั่นมีหยูนเฉียวที่เป็นถึงคุณชายหยูนรองอยู่ด้วยมีที่พักสวยงามตระการตาให้พวกเขาได้เลือกตามใจชอบ

หยูนเฉียวเพิ่งเคยเห็นจูนจิ่วฝังเข็มครั้งแรกมีความรู้สึกอยากจะวิ่งหนี

เมื่อเห็นไท่ซ่างฮ่องเฟิ่งเซียวถูกฝังเข็มครึ่งลำตัวหยูนเฉียวสูดหายใจเข้า“ไม่เจ็บหรือ?”

“ฮึ้มสถานที่ที่อันตรายและยากลำบากก็เคยไปมาแล้วกับแค่เข็มเล็กๆไม่กี่เล่มเจ็บอะไรกัน?เจ้าเด็กน้อยตระกูลหยูนเจ้าเป็นซะอย่างนี้เป็นลูกผู้ชายป่าว?ปอดแหกขนาดนี้ยังกล้าจะชอบเสี่ยวจิ่วใครกันที่ให้ความเชื่อมั่นนี้กับเจ้า?”

เสี่ยวอู่พูดคนที่กลัวกินยามีสิทธิอะไรไปว่าให้คนอื่นที่กลัวเข็ม?ก็พอๆกันแหละ

หยูนเฉียวฟังแล้วรีบตั้งหลังตรงสายตาเปล่งประกายมองไปที่จูนจิ่วเขาพูดว่า“แม่นางจูนข้าไม่ได้กลัวนะข้าแค่แสดงความเป็นห่วงต่อไท่ซ่างฮ่องเอง”

เฟิ่งเซียวพูด“ข้าต้องการความห่วงใยจากเจ้างั้นหรือ?ฮื้ม”

สิ่งที่ทำอยู่มีความหมายแอบแฝงอย่าคิดว่าเขาอายุเยอะแล้วจะรู้ไม่ทันอยากแต่งงานกับเสี่ยวจิ่วจะต้องเป็นผู้มีกำลังแข็งแกร่งแล้วหน้าตาต้องดีด้วยถึงจะเหมาะสมกับเสี่ยวจิ่วสำหรับหยูนเฉียวที่อ่อนแอปวกเปียกคนนี้พักไว้ก่อน

หยูนเฉียวเปิดปากจะโต้กลับจูนจิ่วมองจิกพวกเขาทั้งสองด้วยสายตาเย็นเยือก“หุบปาก”

ทันใดนั้นทั้งสองเงียบสงบลงเสี่ยวอู่นั่งอยู่ตรงที่นอนนุ่มหรี่ตาอย่างมีความสุขกำลังคิดว่าดูสิยังไงนายท่านของเขาก็เก่งที่สุด

รอฝังเข็มเสร็จจูนจิ่วพูดขึ้นทำลายความเงียบสงบลง“การฝังเข็มชุดนี้สามารถอยู่ได้หนึ่งสัปดาห์แต่ระหว่างนี้ห้ามใช้พละกำลังและยิ่งห้ามใช้พลังจิตหากท่านไม่ทำตามที่หมอสั่งครั้งต่อไปก็ต้องฝังเข็มทุกวันฝังเฉพาะจุดที่ปวด”

เฟิ่งเซียวไร้คำพูด“……”

เขารู้สึกกลัว

จูนจิ่วพูดต่ออีกว่า“พิษที่ท่านโดนมันอยู่ลึกเกินไปและทิ้งไว้นานเกินไปบวกกับอายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้หนุ่มแน่นแล้วจำเป็นต้องดูแลรักษากระดูกและเส้นเลือดไว้ให้ดีถึงจะสามารถตอบสนองยาแก้พิษได้ดูแลรักษาดีๆและท่านก็รับปากกับข้าแล้วนะ”

“ดีดีปู่หวงจะเชื่อฟังเสี่ยวจิ่วทุกอย่างเลยงั้นเสี่ยวจิ่วขานเรียกว่าปู่ได้ไหม?”

“ไม่ได้”จูนจิ่วปฏิเสธเสียงแข็งนางหันหลังกลับไปเก็บเข็มเงินหยูนเฉียวทำทีรู้หน้าที่เดินเข้ามาช่วยเก็บของพวกเขาจะต้องเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์สำนักดังนั้นจูนจิ่วเลือกการฝังเข็มผลที่ได้ก็จะอยู่นานกว่าตอนที่หยูนเฉียวรู้ว่าเฟิ่งเซียวโดนยาพิษตกตะลึงไปนานพอสมควรแต่เขาไม่ได้ถามอะไรเก็บความลับนี้ไว้อย่างเงียบๆในขณะเดียวกันก็รูสึกดีใจที่แม่นางจูน

ให้เขารู้เรื่องนี้ได้ก็เท่ากับว่านางเชื่อในตัวเขาด้วย

เฟิ่งเซียวที่มองเห็นหยูนเฉียวที่วนอยู่รอบตัวจูนจิ่วไม่พอใจเขาเปิดปากพูดเพื่อดึงดูดความสนใจของจูนจิ่ว“เสี่ยวจิ่วเจ้ามาที่สำนักเทียนโจ้งแล้วตระกูลจูนไม่เอาคืนพวกเขาแล้วหรือ?”

“เอาคืนแน่นอนตระกูลจูนข้ามอบหมายให้กับหยูนจ้งจิ่นแล้วเขากำลังฮุบอำนาจตระกูลจูนพวกข้าคาดการณ์ว่าก่อนถึงฤดูหนาวจะสามารถฮุบสามในหนึ่งตระกูลจูนจะดับสูญพวกเงินทองและอำนาจของพวกเขาจะเสียไปเปล่าไม่ได้”

คิดจะทำลายตระกูลจูนต้องริบทรัพย์ให้หมดเปลือก

จูนจิ่วเงียบไปครู่หนึ่งอุ้มเสี่ยวอู่แล้วหันลำตัวนางกระตุกที่ยิ้มมุมปากหัวเราะอย่างร้ายกาจบ้าบิ่น“ข้ามาที่สำนักเทียนโจ้งที่นี่ไม่ใช่มีจูนหยูนเสวี่ยอยู่หรือ?”

“แม่นางจูนจะสั่งสอนนางอย่างไร”

ได้ยินมาว่าจูนหยูนเสวี่ยเป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีชื่อเสียงในสำนักเทียนโจ้งข้าบอกจะสอนนางอยู่ต่อหน้าจูนจิ่วหมอเทวดาอัจฉริยะบุคคล?นางมันก็แค่เป็ดป่า”จูนหยูนเสวี่ยรอการแก้แค้นไว้ให้ดี

หยูนเฉียวพูด“อืมๆแม่นางจูนเป็นอัจฉริยะบุคคลจูนหยูนเสวี่ยเป็นเป็ดป่า”

“แน่นอนอยู่แล้วว่าเสี่ยวจิ่วข้าเป็นอัจฉริยะบุคคลใครจะมาเทียบกับเสี่ยวจิ่วได้?”“เหมียวเหมียว”เสี่ยวอู่โกรธจัดพวกเจ้าอย่ามาแย่งงานข้านะข้าคือคนที่จะเยินยอนายเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด