บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 78ยาพิษหนึ่งหยดสามารถฆ่าคนตายเป็นร้อย

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 78ยาพิษหนึ่งหยดสามารถฆ่าคนตายเป็นร้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่78ยาพิษหนึ่งหยดสามารถฆ่าคนตายเป็นร้อย

การเปิดรับสมัครของสำนักเทียนโจ้งรวมทั้งหมดเจ็ดวันหลังครบเจ็ดวันทุกคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลูกศิษย์จะต้องไปรวมตัวที่ภูเขาเป่ยโจ้งภูเขาเหิงซานเป็นดอยหลักภูเขาที่สลับซับซ้อนเชื่อมโยงกันมีทั้งหมดห้ากลุ่มย่อยภูเขาเป่ยโจ้งซานคือหนึ่งในนั้น

ตอนที่จูนจิ่วกับหยูนเฉียวมาถึงกวาดตามองไปรอบๆหยูนเฉียวพูดว่า“ลูกศิษย์ที่มาสมัครทุกปีมีจำนวนนับหมื่นคนแต่พี่ชายข้าบอกว่าคนที่จะผ่านการคัดเลือกมีไม่ถึงสิบคน”

นี่มันแนวคิดอะไร?

เลือกหนึ่งในหนึ่งพันในหนึ่งพันคนมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสเข้าไปที่สำนักเทียนโจ้งโอกาสหายากคนที่สามารถเข้ารอบไปได้ไม่มีใครที่ไม่ใช่บุคคลที่มีพรสวรรค์มีสติปัญญาพละกำลังล้ำเลิศสมควรแก่คำพูดที่ว่า“อัจฉริยะบุคคล”

“พี่สาวเก้า”น้ำเสียงใสๆดังขึ้นจูนเสี่ยวเหล่ยกระโดดโลดเต้นมาถึงตรงหน้าจูนจิ่ว“พี่สาวเก้าก็อยู่ที่นี่หรือดีจังเลยพวกเราสามารถไปสำนักเทียนโจ้งด้วยกัน”

“จูนจิ่ว”จูนหวั่นเอ๋อร์ก้มหน้าลงทักทายเสียงเบานางก็มาด้วย

จูนหวั่นเอ๋อร์ตอนนี้มองไม่เห็นท่าทีที่โอหังดั่งงูพิษและแมงป่องแล้วนางอยู่ต่อหน้าจูนจิ่วขี้กลัวอย่างกับนกระทาตัวสั่นระริกหวาดกลัวนางไม่รู้ว่าทำไมจูนจิ่วถึงยังเก็บนางไว้หรืออาจเป็นเพราะเพื่อค่อยสอดส่องตระกูลจูน?

แต่ทว่าจูนหวั่นเอ๋อร์ทราบดีหากจูนจิ่วเกิดไม่พอใจอะไรขึ้นมาสามารถส่งนางไปพบยมราชได้ทุกเมื่อ

ไม่แม้แต่จะมองจูนหวั่นเอ๋อร์จูนจิ่วพยักหน้าให้กับจูนเสี่ยวเหล่ยจูนเสี่ยวเหล่ยทำเสียงว้าวแววตาที่สุกสกาวมองไปที่เสี่ยวอู่“พี่สาวเก้าพี่ยังเอาแมวมาร่วมงานคัดเลือกลูกศิษย์ใหม่ด้วยไม่กลัวว่ามันจะวิ่งหนีหายไปหรือได้รับบาดเจ็บหรือ?”

“ไม่หรอก”

เสี่ยวอู่ออกมากจากกำไลปรากฏตัวด้วยภาพพลังจิตอยู่ห่างจากนางนานเกินไปไม่ได้

ในระหว่างที่พูดรองผู้อำนวยการสำนักเทียนโจ้งเดินออกมาเขายกมือขึ้นผู้คนที่เสียงดังเงียบสงบลงทันทีทุกคนมองจ้องไปที่เหอจงอย่างพร้อมเพรียงกันลูกศิษย์ที่สมัครเข้าร่วมการคัดเลือกลูกศิษย์ใหม่อายุเล็กที่สุดมีเก้าขวบใหญ่สุดสิบแปดนี่เป็นข้อกำหนดอย่างหนึ่งของการคัดกรองนักจิต

เหอจงมองไปที่ผู้คนด้วยสายตาเย่อหยิ่งพูดขึ้นว่า“การคัดเลือกลูกศิษย์ใหม่มีกฎสามข้อจงฟังให้ดี”

หนึ่งพวกเจ้ามีเวลาแค่สามวันในการปีนขึ้นไปบนยอดเขาเป่ยโจ้งซานสองหาบัตรเทียนโจ้งให้เจอถึงจะสามารถผ่านด่านและชนะสามเลยกำหนดเวลาขาดบัตรเทียนโจ้งผู้ที่ออกจากเขาเป่ยโจ้งจะถูกปรับแพ้และยืดสิทธิการเข้าสำนัก

ทุกคนลืมตากว้างเพ่งตรงไปที่บัตรเทียนโจ้งที่อยู่ในมือของเหอจงพวกเขาจะต้องท่องจำให้ได้ฝังไว้ในหัว

เหอจงใช้มือชี้ไปที่เขาเป่ยโจ้งพลังจิตซึมเข้าที่เสียงทำให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน“ตอนนี้เริ่มจับเวลา”

พอเวลาเริ่มทุกคนแตกกระจายออกไปทันทีเหมือนถูกแรงระเบิดหันหน้าไปทางเขาเป่ยโจ้งอย่างพร้อมเพรียง

เหอจงนัยน์ตาซ่อนเร้นบางสิ่งสบตากับคนบางคนในท่ามกลางกลุ่มคนให้สัญญาณทางสายตาอย่างเงียบๆหากพบจูนจิ่วในหุบเขาจะต้องถูกฆ่าให้ตายทันที

คนเหล่านี้คือคนที่จูนหยูนเสวี่ยช่วยเขาคัดเลือกเองแม้จะเป็นศิษย์ใหม่แต่ล้วนได้นำพลังจิตสู่ร่างกายกลายเป็นนักจิตต่างคนต่างมีวิธีการที่ใจดำอำมหิตเพียงแค่พวกเขาฆ่าจูนจิ่วให้ตายเขาที่เป็นถึงรองผู้อำนวยการจะตบรางวัลอย่างงามเช่นบอกพวกเขาว่าที่ซ่อนของบัตรเทียนโจ้งอยู่ที่ไหน

มองย้อนกลับเหอจงจ้องมองจูนจิ่วอยู่ไกลๆยิ้มอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย

จูนเสี่ยวเหล่ยสังเกตเห็น“พี่สาวเก้ารองผู้อำนวยการสำนักเทียนโจ้งกำลังจ้องมองมาที่พี่น่ะ”

“เขาคงไม่เคยเห็นหญิงที่งดงามอย่างแม่นางจูนกระมังไม่ต้องไปสนใจเขาไปกันเถอะเข้าไปที่เขาเป่ยโจ้งกันจะให้คนอื่นพบเจอบัตรเทียนโจ้งก่อนไม่ได้”หยูนเฉียวทำเสียงทุ้มต่ำ“ว่ากันว่าบัตรเทียนโจ้งมีจำนวนจำกัดหากถูกแย่งจนหมดก็ไม่มีอีกแล้ว”

“ไปเถอะ”จูนจิ่วเดินนำทาง

เมื่อเข้ามาที่เขาเป่ยโจ้งป่าไม้บดบังเงาทำให้คนไม่สามารถสืบเสาะหาเหลิ่งยวนเดินตามมาอย่างเงียบๆและไม่ลืมที่จะกวาดตามองไปที่เฟิ่งเซียวกับโล่ชิวเห้อที่แอบมองจูนจิ่วอยู่ด้านหลังตาเฒ่าสองคนดีอกดีใจทำเหมือนว่าจูนจิ่วเป็นหลานสาวแท้ๆของพวกเขา

พวกเขาเดินช้าตอนที่เข้าไปในป่าบริเวณรอบๆไม่มีคนแล้วเห็นจูนหวั่นเอ๋อร์เดินออกมาจากด้านหลังต้นไม้จูนเสี่ยวเหล่ยพูดอย่างตกใจ“พี่หวั่นเอ๋อร์พี่อยู่ที่นี่ได้อย่างไง?”

จูนหวั่นเอ๋อร์ไม่ได้ตอบจูนเสี่ยวเหล่ยนางเดินมาคำนับให้กับจูนจิ่วพูดเสียงเบา“จูนหยูนเสวี่ยจ้างคนมาฆ่าเจ้าข้ามองไม่เห็นรูปลักษณ์ของพวกเขา”

“อืม”จูนจิ่วตอบกลับเสียงเฉยๆ

จูนหวั่นเอ๋อร์คำนับอีกครั้งก้มหัวแล้วจากไปฝีเท้านางเร็วมากชั่วครู่เดียวก็หายเข้าไปในป่าแล้วจูนเสี่ยวเหล่ยและหยูนเฉียวมองอย่างตะลึงพร้อมๆกัน

หยูนเฉียวอ้าปาก“จูนหวั่นเอ๋อร์ทำไมเปลี่ยนนิสัยแล้ว?”

เขายังจำได้งานมอบหินที่เมืองเฟิงหลัวจูนหวั่นเอ๋อร์โอ้อวดโอหังที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกับจูนจิ่วแน่นอนว่าตอนท้ายที่ตบหน้านั้นมันโหดร้ายแค่ไหนแต่ทำไมตอนนี้มาถึงที่เมืองหลวงจูนหวั่นเอ๋อร์เชื่อฟังมาก?ยังมารายงานความคืบหน้าให้กับจูนจิ่วด้วย

“แค่ฝึกหมาตัวหนึ่งให้มันเชื่องก็แค่นั้นไม่เห็นน่าแปลกตรงไหนไปเถอะอย่าเสียเวลากับการเดินทางมากนัก”จูนจิ่วก้มหัวแล้วมองไปที่เสี่ยวอู่เสี่ยวอู่กำลังเงยหน้าจูบข้างแก้มนางแล้วร้องเสียงเหมียว

กระโดดลงไปเดินดูลาดราวอยู่ข้างหน้า

หยูนเฉียวถอนหายใจสามารถฝึกจูนหวั่นเอ๋อร์ให้เชื่อฟังได้แม่นางจูนเก่งจริงๆ

จูนเสี่ยวเหล่ยงงงวยไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อท่านพ่อเคยบอกว่าถามมากแล้วจะถูกรำคาญนางชอบพี่สาวเก้าจะให้นางรำคาญไม่ได้

ถนนในป่าค่อยๆเดินยากมากขึ้นสูงชันซับซ้อนทั้งยังมีหนามเต็มไปหมดความมุ่งมั่นในตอนแรกค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบที่เหนื่อยหอบ

เสี่ยวอู่ย้อนกลับมากะทันหันพุ่งมาทางจูนจิ่วร้องเหมียวเหมียว

หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยฟังไม่รู้เรื่องสีหน้าสับสนไม่เข้าใจ“เสียวอู่เจ้าเป็นอะไร?”

“ชู่เงียบ”จูนจิ่วเอาปลายนิ้วทาบที่กลางริมฝีปากเป็นท่าทางแบบปกติกลับทำให้หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยหน้าแดงทั้งคู่ปลายนิ้วขาวกับริมฝีปากแดงสีขาวกับสีแดงเทียบสีกันหัวใจเต้นรัวๆอยากจะจูบน่าอายจัง

จูนจิ่วไม่ได้สังเกตใบหน้าที่แดงก่ำของทั้งสองนางเขยิบไปข้างหน้าเบาๆปลายนิ้วลูบที่ต้นไม้สัมผัสที่เหนียวหนึบลองดมแล้วมีกลิ่นคาวเหม็น

สายตาเย็นเยือกหรี่เบาๆจูนจิ่วเงยหน้ามองขึ้นไปบนหัว“อยู่ที่นี่”

“อะไรนะ?”หยูนเฉียวทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆเมื่อได้เห็นเข้าตกใจเฮือก

งู

งูที่มีพิษร้ายแรงมีเกร็ดหลากสีสองตัวพวกมันนอนหลับพันคอกันราวว่ากำลังหลับอยู่และไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ข้างล่าง

อย่าทำให้พวกเขาตื่นตกใจฝามือหยูนเฉียวกำลังกุมพลังจิตเขานำจูนเสี่ยวเหล่ยค่อยๆถอยตัวออกมาอย่างเบาๆแล้วมองไปทางจูนจิ่วพูดเสียงเบาว่า“แม่นางจูนมานี่เร็วนั่นมันงูพิษชนิดร้ายแรงแค่พิษหยดเดียวฆ่าคนได้เป็นร้อยเลยนะ”

จูนจิ่วตอบ“ข้ารู้”

เมื่อพูดจบจูนจิ่วยกขาเตะไปที่ลำต้นไม้ต้นไม้สั่นสะเทือนใบไม้ร่วงลงพื้นงูทั้งสองตัวก็เช่นกันลืมตาเย็นเยือกที่น่ากลัวทำเสียงข่มขู่

“แย่แล้วอย่าให้งูพิษเข้าใกล้เด็ดขาด”หยูนเฉียวยังไม่ทันถามจูนจิ่วว่าทำอะไรเขาประสานนิ้วทั้งห้าปล่อยพลังฝามือไปที่งูพิษนั่น

ลมฝามือพัดงูทั้งสองออกจากกันแต่ทว่างูพิษไหวตัวเร็วกว่าลมเสียอีกพริบตาเดียวก็พุ่งกลับมาอ้าปากค้างจนเห็นเขี้ยวพิษที่สะท้อนแสงวิบวับหยูนเฉียวร้องเสียงดัง“อย่าให้โดนกัดเด็ดขาดโดนกัดทีเดียวตายแน่”

“ข้ามาช่วยเจ้า”จูนเสี่ยวเหล่ยเป็นนักจิตชั้นหนึ่งนางเข้ามาช่วยหยูนเฉียว

แต่ทั้งสองมือไม้ลุกลี้ลุกลนกลับถูกงูตัวหนึ่งข่มให้ถอยเสี่ยวอู่มองอย่างไร้คำพูดพร้อมร้องเสียงเหมียวตวัดเล็บแมวราวสายฟ้าแลบ

“เหมียว”

งูพิษตัวหนึ่งที่กำลังจู่โจมจูนเสี่ยวเหล่ยเสี่ยวอู่พุ่งไปตวัดตีนฟาดเล็บแมวจนหัวงูกระเด็นออกไปใช้ตีนแมวทั้งสองขาเหยียบงูไว้ที่พื้นอ้าปากคาบหัวของงูพิษสะบัดหัวไปทีลำตัวของงูพิษก็ถูกพาดไว้ที่บนกิ่งไม้แล้วแปปเดียวก็อ่อนตัวลงหยูนเฉียวและจูนเสียวเหล่ยมองอย่างตกตะลึงตาค้าง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด