บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 79บัตรเทียนโจ้งชิ้นที่หนึ่ง

Now you are reading บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ Chapter 79บัตรเทียนโจ้งชิ้นที่หนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่79บัตรเทียนโจ้งชิ้นที่หนึ่ง

ในเวลาปกติขาวๆนุ่มๆเสี่ยวอู่ผู้ที่ชอบออดอ้อนเก่งขนาดนี้เชียว?

ช้าก่อนหยูนเฉียวเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้หันหน้ากลับไป“ยังมีอีกหนึ่งตัวมันพุ่งไปที่แม่นางจูนแล้ว”

แค่มองย้อนกลับไปหยูนเฉียวมองไปก็ต้องตะลึงอีกแล้วเห็นงูตัวนั้นกำลังจะพันที่ตัวจูนจิ่วจูนจิ่วเพียงขยับยกมือจับไปที่หัวของงูตัวนั้นอย่างแม่นยำตรงจุดนิ้วมือออกแรงบีบงูพิษจึงอ้าปากออก

นี่ยังไม่จบนะ

ลำดับต่อมาจูนจิ่วหยิบขวดยาที่เตรียมไว้ออกมาเอามาทาบที่เขี้ยวพิษของงูเพื่อรับน้ำพิษงูนั้นดิ้นรนสุดชีวิตในสายตาของจูนจิ่วไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรการกระทำนี้ทำเอาคนสองคนมองดูตาค้าง

“เหมียวเหมียว”เสี่ยวอู่ขี้อ้อนคนเสียงเรียกอ่อนนุ่มนั้นดึงสติของทั้งสองคนกลับมา

เห็นเพียงเสี่ยวอู่คาบงูพิษอีกตัวมาถึงตรงหน้าจูนจิ่วจูนจิ่วกวาดตามองไปหนึ่งรอบขมวดคิ้วอย่างรังเกียด“เจ้าฆ่ามันตายแล้วน้ำพิษคุณภาพไม่ดีแล้วไม่เอาแล้ว”

“เหมียวQAQ”เสี่ยวอู่ร้องเรียกอย่างเสียใจคนที่เห็นก็นึกสงสารอยากร้องไห้คนที่ฟังก็เสียใจ

เสี่ยวอู่คายงูพิษที่ตายแล้วออกจากปากอย่างโมโหพร้อมใช้ตีนแมวเหยียบย่ำไปหลายทีเป็นงูที่พิษร้ายแรงมากไม่ใช่หรือ?ทำไมอ่อนแอแบบนี้ตายเร็วมากเหมียวโมโห

จูนจิ่วไม่เพียงแต่เอาน้ำพิษออกมาแต่ยังถอนเอาเขี้ยวพิษงูมาด้วยซึ่งถูกแช่ในน้ำพิษนานนับปีเขี้ยวพิษเก็บไว้เป็นอาวุธลับก็ไม่เลวนะงูพิษนี้ยาวพอสมควรถลกหนังมันนำมาทำเป็นเข็มขัดก็ดีส่วนเนื้องูก็ดูอ่อนนุ่มดีจูนจิ่วเอาให้หยูนเฉียว“เก็บไว้เดี๋ยวย่างเนื้องูให้พวกเจ้ากิน”

งูพาที่โยนมายังมีชีวิตอยู่แต่ว่าไม่มีพาแล้วไม่มีอันตรายใดๆหยูนเฉียวบีบมันให้ตายอย่างเงียบๆมองไปทางจูนจิ่วสายตาดูสับสน“ที่แท้แม่นางจูนจะบีบเอาน้ำพิษสินะ?”

จูนจิ่วพูด“น้ำพิษของงูพิษนี้มันคุ้มค่าที่จะเก็บสะสมไว้เจ้ากับจูนเสี่ยวเหล่ยเมื่อครู่ทำได้แย่มายังสู้เสี่ยวอู่ไม่ได้เลยตลอดเส้นทางนี้ฝึกฝนดีๆหน่อยห้ามใครอู้งานเด็ดขาด”

“เหมียวๆๆ”เสี่ยวอู่เหมือนถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งได้ใจจนเชิดหน้าชูคอ

เห็นหรือยังเขาถูกชมแล้ว

หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยมองหน้าสบตากันและพยักหน้ารับคำพวกเขาคือเพื่อนร่วมทีมของจูนจิ่วอย่าทำตัวเป็นตัวถ่วงเด็ดขาดหยูนเฉียวพับแขนเสื้อขึ้นเป็นคนขี้โรคมาสิบกว่าปีเขาจะต้องลุกขึ้นสู้เขาจะปกป้องแม่นางจูนให้ได้จูนเสี่ยวเหล่ยเช็ดฝามือถูมัดแน่นนางก็จะตั้งใจทำดีๆแล้ว

หลังจากฆ่างูพิษได้แล้วพวกเขาไม่ได้หยุดพักแต่ปีนเขาต่อไปอีกบนยอดเขาเป่ยโจ้งสูงสามพันเมตรในป่ามีทั้งงูพิษและสัตว์ร้ายพวกเขายังจะต้องตามหาบัตรเทียนโจ้งเวลาสามวันกระชันชิดมากจะใช้ฟุ่มเฟือยไม่ได้

พวกเขารู้ว่าบัตรเทียนโจ้งมีรูปร่างแบบไหนแต่กลับไม่รู้ว่าซ่อนอยู่ที่ไหนทำได้เพียงเพ่งมองไปตามทางที่เดินหาทุกสารทิศ

แล้วเดินทางไปข้างหน้าอีกหลายร้อยเมตรหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยฆ่าพวกสัตว์ร้ายตลอดทางฆ่าหมาป่าตอนที่หายใจเหนื่อยหอบได้ยินข้างหน้ามีเสียงพูดของคนเสี่ยวอู่ปีนอยู่บนต้นไม้ร้องเหมียวๆสองครั้งข้างหน้ามีคนกลุ่มคนใหญ่ด้วย

จูนจิ่วขยับที่ใบหูได้ยินเสียงที่ลมพัดพามาขาดๆหายๆ“บัตรเทียนโจ้ง”“เถาวัลย์”“เถาวัลย์ทิพย์”

สามอันนี้ชัดที่สุด

นัยน์ตาเป็นประกายจูนจิ่วเปิดปากพูด“เราไปดูกันเถอะ”

“ดีไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นรวมตัวอยู่ที่นั่นทำอะไรกัน?”

“พวกเขาเจอบัตรเทียนโจ้งแล้ว”จูนจิ่วตอบ

“อะไรนะ?”หยูนเฉียวลืมตากว้างรีบวิ่งตามมาพร้อมกับจูนเสี่ยวเหล่ยนี่คือครั้งแรกที่มีคนพูดถึงบัตรเทียนโจ้งนับตั้งแต่ที่เข้ามาในเขานี้จะต้องไปดูหน่อยแล้วล่ะ

เดินตามเสียงคนที่ดังมาสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นอันดับแรกคือกลุ่มคนหนึ่งจำนวนสิบคนรวมตัวกันอยู่หน้าต้นไม้โบราณต้นหนึ่งชี้นิ้วไปๆมาๆสายตาดูร้อนรนดีใจแต่กลับแฝงไปด้วยความหวดกลัวไม่มีใครเดินเข้าไปได้แต่มองอย่างไม่พอใจ

ได้ยินเสียงฝีเท้าคนกลุ่มนั้นรีบหันหน้ากลับมา

เมื่อเห็นจูนจิ่วสายตามองมาที่จูนจิ่วแสดงแววตาประหลาดใจแต่ว่าความประหลาดในถูกแปรเปลี่ยนเป็นระวังตัวและเตรียมพร้อมท่ามกลางคนเหล่านั้นมีกี่คนที่แอบสบตากันนัยน์ตาซ่อนความอาฆาตไว้หาจูนจิ่วเจอแล้ว

จูนจิ่วกวาดสายตามองไปที่พวกเขาหนึ่งรอบจากนั้นมองไปที่บนตกไม้โบราณ

ต้นไม้โบราณนี้มีอายุไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันปีลำต้นใหญ่และหนาต้องใช้จำนวนคนห้าหกคนในการโอบล้อมต้นไม้กิ่งที่แข็งแรงแผ่ขยายไปทั่วสี่ทิศใบไม้เขียวขจีสมบูรณ์ข้างบนยังมีเถาวัลย์เกี่ยวพันลมพัดโชยมาโยกย้ายตามแรงลมเบาๆ

บัตรเทียนโจ้งอยู่บนต้นไม้นี้และห้อยอยู่บนเถาวัลย์ก้านหนึ่งซึ่งมองเห็นอย่างชัดเจน

แต่ที่น่าแปลกคือคนกลุ่มนี้แค่มองตาละห้อยแบบนั้นไม่มีใครไปแย่งเลยนัยน์ตาจูนจิ่วครุ่นคิดนางเน้นมองไปที่กลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่กี่คนที่มีสีหน้าเจ็บปวดและโมโห

หยูนเฉียวพูดว่า“น่าแปลกทำไมพวกเขาไม่ไปแย่งบัตรเทียนโจ้ง?”

“เพราะว่าปีนขึ้นไปไม่ได้หรือ?”จูนเสี่ยวเหล่ยถามอย่างซื่อๆ

หยูนเฉียวส่ายหัว“ไม่ใช่แน่นอนความสูงแค่นี้อย่าว่าแต่นักจิตเลยคนธรรมดาก็ปีนขึ้นไปได้น่าจะมีสาเหตุอื่น”

มองไปที่คนกลุ่มนั้นหลังจากที่พวกเขามาหยุดการซุบซิบทันทีจ้องมองมาทางพวกเขาพร้อมกันมีความรู้สึกว่าเหมือนรอให้พวกเขาทำอะไรสักอย่างดูแบบน้แล้วคนกลุ่มนี้จะไม่บอกสาเหตุกับพวกเขาแน่นอน

หยูนเฉียวมองมาทางจูนจิ่ว“แม่นางจูนเจ้าคิดอย่างไร?”

“ลองแล้วก็รู้เองเสี่ยวอู่ไป”

“เหมียว”น้อมรับคำสั่ง

เสี่ยวอู่เพียงแค่กระโดดจงใจเหยียบที่หัวคนเพื่อกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ทำให้หลายคนร้องตกใจทำได้แค่จ้องมองในขณะเดียวกันก็ประหลาดใจทำไมสามคนนั้นไม่ปีนต้นไม้ให้แมวตัวหนึ่งไป?หรือว่าแม่ตัวนี้ฟังภาษาคนรู้เรื่องถึงจะไปเอาบัตรเทียนโจ้งมาให้พวกเขา

ทุกคนมองจ้องที่เสี่ยวอู่ปลายเล็บที่แกลมคมยืดเกาะที่ผิวต้นไม้ปีนต้นไม้อย่างง่ายพริบตาเดียวปีนไปถึงครึ่งทางแล้ว

ในเวลานั้นมีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น

เสียงใบไม้

เถาวัลย์ที่เกี่ยวพันอยู่ที่ต้นไม้โบราณกลับมีชีวิตขค้นมาเถาวัลย์แต่ละก้านสะบัดไปมาสะบัดจู่โจมไปที่เสี่ยวอู่จูนจิ่วขมวดคิ้วที่แท้คำพูดของพวกเขาที่พูดว่า“เถาวัลย์”“เถาวัลย์ทิพย์”คือสิ่งนี้นี่เอง

หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยออกเสียงตกใจพร้อมกัน“เสี่ยวอู่ระวังอันตราย”

“อย่าไปเสี่ยวอู่แก้ปัญหาได้”จูนจิ่วพูดห้ามปรามหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง

พวกเขาใจร้อนแต่ก็เชื่อจูนจิ่วมากกว่าดังนั้นไม่ได้ออกตัวช่วยได้แต่มองตรงไปที่ลำตัวของเสี่ยวอู่กำมือแน่นเป็นห่วงจริงๆเสี่ยวอู่ที่น่ารักตัวอ่อนนุ่มขาวๆจะต้องมาต่อสู้กับเถาวัลย์ตั้งมากมายจะไหวไหม?

เห็นเพียงเสี่ยวอู่ที่ร่างกายแข็งแรงรวดเร็วดั่งแสงต่อให้เถาวัลย์จากทั่วทุกทิศจะมาจับก็ไม่โดนตัวเสี่ยวอู่แม้แต่ปลายขนเดียวกลับยิ่งทำให้เสี่ยวอู่ยิ่งปีนยิ่งสูงใกล้บัตรเทียนโจ้งเข้าไปถูกที

เถาวัลย์ร้อนใจแล้ว

เสียงเถาวัลย์เถาวัลย์หลายชนิดถักทอเป็นตาข่ายจะคลุมเสี่ยวโอวเสี่ยวอูไม่ได้หลบและไม่ถอย

เหยียดกรงเล็บออกตวัดลงเสียงตาข่ายฉีกตาข่ายเถาวัลย์ถูกทำให้เป็นหลุมและเสี่ยวอูก็เล็ดลอดออกทางนั้นอย่างรวดเร็วแต่เถาวัลย์กลับคว้าขาหลังของเซียวอู่ไว้แล้วลากกลับไป

เสี่ยวอู่ดึงไม่หลุดโกรธจัดจนต้องตะโกนเสียงดุใส่

เถาวัลย์หยุดชงักเหมือนกับว่าถูกเสียงตะโกนของเสี่ยวอู่ทำให้ตกใจจากนั้นกลับไปห้อยไว้ที่ต้นโบราณเหมือนสิ่งไม่มีชีวิตต่อไปเมื่อไม่มีการขวางกั้นเสียวอู่นำบัตรเทียนโจ้งลงมาอย่างง่ายดายแล้วคาบไว้ที่ปากกระโดดลงมานำมามอบให้กับจูนจิ่ว

“เหมียว”ภารกิจของนายท่านเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น

จูนจิ่วนั่งยองๆลูบที่ใต้คางของเสี่ยวอู่“น่ารักจัง”บริเวณรอบๆเงียบอย่างป่าช้าคนกลุ่มนั้นจิตใจกระวนกระวายแม่งเอ๊ยนั่นมันเป็นแมวใช่ไหม?เก่งขนาดนั้นเชียวเมื่อเห็นบัตรเทียนโจ้งในมือของจูนจิ่วพวกเขาค่อยๆเดินมาล้อมรอบจูนจิ่วพวกเขาสามคน……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด