บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ 80พวกสมรู้ร่วมคิดต้องฆ่า
บทที่80พวกสมรู้ร่วมคิดต้องฆ่า
นั่นมันบัตรเทียนโจ้ง
พอได้รับมันมาแล้วขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเป็นศิษย์สำนักเทียนโจ้งอย่างเป็นทางการแล้วพวกเขาข้ามน้ำปีนเขามาก็เพื่อบัตรเทียนโจ้งมิใช่หรือ?
สายตาที่ร้อนแรงจ้องมองที่บัตรเทียนโจ้งในมือของจูนจิ่วอย่างบ้าครั่งหยูนเฉียวเห็นพวกเขาเดินล้อมเข้ามาในใจชงักไปครู่“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร”
“ส่งมอบบัตรเทียนโจ้งมา”มีคนหนึ่งยื่นมือมาทางจูนจิ่ว
“เหมียว”เสี่ยวอู่ขนพองฟูยิงแยกเขี้ยวยิงฟันคิดอยากจะแย่งบัตรเทียนโจ้ง?อยากโดนเล็บแมวข่วน
จูนจิ่วกวาดตามองไปที่พวกเขานิ่งสงบเหมือนเดิมเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้วบัตรเทียนโจ้งเป็นสิ่งล่อลวงที่ยากจะปฏิเสธแต่ทว่าหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยกลับโกรธจัดยิ่งกว่าหยูนเฉียวพูด“บัตรเทียนโจ้งเป็นของที่พวกข้าได้มาเองทำไมต้องส่งมอบด้วย?”
จูนเสี่ยวเหล่ยพูด“ใช่ไม่มีทางเอาบัตรเทียนโจ้งให้พวกแกหรอก”
มองที่หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยที่ไม่มีท่าทีจะอ่อนข้อให้เลยคนกลุ่มนั้นดูลังเลไปครู่ทันใดนั้นคำพูดหนึ่งดังมาจากกลุ่มคนดังกล่าว“บัตรเทียนโจ้งเป็นของที่พวกข้าเฝ้าดูแลอยู่ที่นี่อย่างใจจดใจจ่อคือเจ้าที่มาแยกบัตรเทียนโจ้งของพวกข้าไปเอาออกมานะ”
ชั่วขณะหนึ่งทุกคนร้องตะโกนโวยวาย“ใช่บัตรเทียนโจ้งเป็นของพวกข้า”
“เราเฝ้าอยู่ที่นี่บัตรเทียนโจ้งก็ต้องเป็นของพวกเราสิเอาออกมานะมิเช่นนั้นอย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือน”
“อ้อ?ไม่เตือนอย่างไรล่ะ?”จูนจิ่วลุกขึ้นกระตุกริมฝีปากยิ้มหยันแล้วมองไปที่พวกเขานางยื่นมือออกไปกระดิกนิ้ว“อยากได้บัตรเทียนโจ้งก็มาแย่งสิ”
“ส่งมอบบัตรเทียนโจ้งมา”มีคนพุ่งเข้าหาจูนจิ่วทันที
เขาดึงมีดที่เอวออกมากกลับมีความคิดที่จะหมายเอาชีวิตเพื่อให้ได้บัตรเทียนโจ้งมาสายตาจูนจิ่วฉายแววประกายเย็นเยือกจนเข้ากระดูก
ตูบ(เสียงเตะ)
จูนจิ่วเตะเขาจนบินกระเด็นมีดก็บินออกไปลอยไปปักที่พื้นสะบัดไปมา
ทุกคนเห็นแล้วอึ้งไปเลยเสียงเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้งเป็นประกายให้ทุกคนโวยวาย
“ทุกคนไปพร้อมดันเพื่อนำบัตรเทียนโจ้งกลับมา”
“ไป”
“ฆ่าพวกมันซะแย่งบัตรเทียนโจ้งกลับมาให้ได้”
คนทั้งหมดบุกพร้อมกันใบหน้าดุร้ายน่ากลัวทำราวกับว่าจูนจิ่วเป็นศัตรูที่ฆ่าบุพการีของพวกเขาอย่างั้นความหวังที่โลภมากมันทะลุเพิ่มขึ้นในเวลานี้แหละ
จูนจิ่วขยับเขยื้อนมือไม้ครู่หนึ่งใช้ปลายหางตามองไปที่หยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยว่า“ลงมือ”
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยตอบสนองเร็วดีกำกระบี่แน่นชุลมุนฆ่าฟันกับคนกลุ่มนั้นก่อนหน้านี้ระหว่างก็ได้ฆ่าเสื้อร้ายหมาป่าทั้งสองถือว่าได้พอซ้อมมือมาบ้างจัดการกับคนกลุ่มนี้ก็ไม่นับว่าเหนื่อยมาก
ทั้งยังมีเสี่ยวอู่ที่แทรกอยู่ภายในใช้เล็บข่วนในการช่วยพวกเขาไม้อยากให้จูนจิ่วต้องเป็นห่วง
เสียงหอก
หอกยาวยิงเล็งมาที่จูนจิ่วยังดีที่เอียงตัวหลบทันจูนจิ่วยกมือขึ้นจับที่หอกยาวนั้นแล้วดึงมาข้างหน้าชายหนุ่มนั้นร้องเสียงหลงถูกดึงมาที่ตรงหน้าจูนจิ่วต่อยหมัดเข้าที่กลางอกเลือดพุ่งออกจากปากปืนยาวในมือจับไว้ไม่แน่นจนถอยหลังไปหลายก้าวแล้วล้มลงที่พื้น
จูนจิ่วแย่งหอกยาวมาจากชายหนุ่มจับไว้ที่ฝามือหอกยาวที่อยู่ในมือพละกำลังมีเยอะกว่าตอนที่อยู่กับชายหนุ่มนับร้อยเท่า
นางยืนอยู่ที่เดิมไม่ต้องก้าวเท้าเดินคนที่บุกมาข้างหน้าใช้ฮอกยาวสะบัดกวาดปาล้มลงกลิ้งที่พื้นทีละคนร้องอย่างเจ็บปวดก็มีบางคนที่โชคดีไม่ถูกหอกยาวยิงใส่แต่กลับยิ่งน่าเวทนากว่า
จูนจิ่วแค่เตะต่อยธรรมดาสามารถให้คนหนุ่มสาวที่ไม่ต้องการเสียเลือดเสียเนื้อสำหรับวัยหนุ่มๆที่โดนเตะต่อยไม่มีโอกาสสู้คืนเลย
ตูบตูบตูบตูบ
ล้มลงทีละคนตรงหน้าตอนนี้โล่งมาก
จูนจิ่วหันกลับมามองไปที่จูนเสี่ยวเหล่ยนักจิตชั้นหนึ่งที่กำลังวิ่งไล่จนใบหน้าขาวซีด“เฮอ”หัวเราะเบาๆจูนจิ่วยกหอกยาวทำราวกับว่าเป็นปาลูกดอกออกไป
เสียงปา
เสียงหอกปลิวมาหอกยาวปลิวผ่านเสื้อที่ไหล่ปักเข้าที่ชายหนุ่มจนล้มปักอยู่ที่พื้นทำให้ชายหนุ่มตกใจร้องโหยหวนจนฉี่ราดเลยจูนจิ่วขมวดคิ้วรู้สึกรังเกียจนางรีบเก็บสายตามองไปทางหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ย
จูนจิ่วพูด“ยังดีไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“แม่นางจูนเจ้าไม่เป็นไรนะ?”หยูนเฉียวเข้ามาหายังรีบเร่งมองจ้องไปที่จูนจิ่วมองตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเฉพาะจุดที่มีรอยเลือดต้องหยุดดูให้แน่ใจเสียก่อน
จูนจิ่วยักคิ้วริมฝีปากยิ้มอย่างโอ้อวดนางพูดว่า“ยังไม่มีคนที่ทำร้ายข้าได้”
แล้วมองไปที่ผู้คนที่ร้องโอดอวยบนพื้นนัยน์ตาจูนจิ่วแฝงด้วยความอาฆาต“ไปให้พ้น”
คนที่นอนอยู่ที่พื้นรีบลุกขึ้นทันทีไม่กล้าให้จูนจิ่วส่งมอบบัตรเทียนโจ้งอีกแล้วหัวยังไม่กล้าหันมามองรีบหนีเอาชีวิตรอดกลัวว่าจูนจิ่วจะเปลี่ยนใจจะมาซ่อมพวกเขาอีก
หยูนเฉียวขมวดคิ้ว“ปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เลยหรือ?”
จูนจิ่วพูด“ไม่ได้มีเวรกรรมต่อกันแค่ถูกคนสั่งให้ทำก็เป็นได้แค่โล้กำบังชกต่อยสั่งสอนไปแล้วก็พอเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของจูนจิ่วว่าหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยก็ตกใจพร้อมๆกันหยูนเฉียวพูดว่า“ถูกคนสั่งให้ทำงั้นหรือ?โล้กำบัง?แม่นางจูนเจ้าหมายความว่ายังไงหรือว่าเบื้องหลังพวกเขามีคนคิดอุบายอยู่?”
“ใช่ใช่พี่สาวเก้าทำไมพวกเราไม่พบเจออะไรเลย?”จูนเสี่ยวเหล่ยงงงวยและเกาหัวหยิกๆ
พวกเรามาพร้อมกันทำไมพวกเขาไม่รู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติ?
คนที่ไม่สังเกตจริงๆคือจูนเสี่ยวเหล่ยคนเดียวหยูนเฉียวใคร่ครวญในหัวหนึ่งรอบเขาตอบกลับในทันที“ความหมายของแม่นางหลานคือคนเหล่านั้นที่พูดจาในที่ลับมีปัญหา?”
“ใช่หากเดาไม่ผิดพวกเขาคือคนที่จูนหยูนเสวี่ยสั่งให้มาฆ่าข้า”
“จูนหยูนเสวี่ยโหดเหี้ยมจริงๆอยู่เมืองหลวงทั้งยังทำทีเป็นเทพีบัวขาวที่แท้ก็ผู้หญิงจิตใจดำอำมหิต”หยูนเฉียวพูดอย่างรังเกียจ
จูนเสี่ยวเหล่ยเป็นคนตระกูลจูนนางขมวดที่คิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไร
หยูนเฉียวพูดอีกว่า“แม่นางจูนพวกเราต้องหาคนเหล่านั้นออกมามิเช่นนั้นพวกเขาอาจทำการมิดีลับหลังได้ยังไงก็ถือเป็นตัวอันตราย”
“ใช่ต้องจัดการแต่ว่าเราไม่จำเป็นต้องไปหาเองพวกเขาจะมาถวายตัวเอง”จูนจิ่วมองต่ำในตาลุ่มลึกแฝงความอาฆาตอยู่กล้ารับงานนี้จากจูนหยูนเสวี่ยก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่อาจเสียชีวิตได้ตลอดเวลา
คนที่บริสุทธิ์นางไม่ฆ่า
พวกที่มันคบคิดคบการชั่วพวกเดียวกันจะต้องฆ่าให้ตาย
จูนจิ่วยกสายตาสูงมองไปที่คนทั้งสองด้วยสายตาอ่อนๆนางพูดว่า“พวกเจ้าแค่แกล้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นขึ้นเขาไปตามปกติเพียงไม่นานพวกเขาจะมาส่งถึงที่เองล่ะ”
“ดี”
“อืมๆฟังพี่สาวเก้าบอกพวกข้าตีคนเลว”
จูนจิ่วกรัตุกยิ้มที่มุมปากพวกเขาขึ้นไปต่อ
หลังจากที่พวกเขาไปแล้วตรงที่เดิมปรากฏคนห้าคนที่มาจากในป่าพวกเขาก้มหน้าลงยังเห็นร่องรอยการต่อสู้แล้วก็รู้สดแล้วมองไปที่ต้นไม้โบราณบัตรเทียนโจ้งไม่มีแล้ว
คนหนึ่งคนที่สีหน้าดูไม่ได้เลยหนึ่งในนั้นพูดว่า“คิดไม่ถึงว่าคนพวกนั้นจะไร้ประโยชน์ขนาดนี้แค่แย่งบัตรเทียนโจ้งยังทำไม่ได้”
“แย่งไม่ได้ก็ไม่เป็นไรพวกเขาแค่ปลายเสื้อผ้าของจูนจิ่วยังไม่ได้แตะเลยโอ๊ยปวดมากเลย”คนพูดเอามือกุมที่ท้อง
พวกเขาเมื่อครู่ก็อยู่ในท่ามกลางกลุ่มคนออกไปตอนที่ยังชุลมุนกันแต่ผลที่ได้กลับโดนชกต่อยไปหนึ่งรอบตอนนี้หากพูดว่าไร้ประโยชน์ก็ต้องหมายรวมตัวเองด้วย
“เมื่อครู่พวกเราไม่สามารถแสดงตนที่แท้จริงได้หากใช้กำลังจริงจูนจิ่วนั่นจะหนีไปได้หรือ?”
“ใช่พวกเราไม่สามารถแสดงตนที่แท้จริงได้หากให้คนอื่นรู้เป้าหมายของพวกเราตอนนี้พวกเศษสวะพวกนั้นไม่อยู่แล้วเรารีบตามไปอย่าปล่อยให้จูนจิ่วรอดไปได้ภารกิจชัดเจนเป้าหมายคือต้องฆ่านางให้ได้“
ในห้าคนนั้นหญิงสาวเพียงคนเดียวถามอย่างสงสัย“แล้วอีกสองคนที่อยู่ข้างนางล่ะ”
“ฆ่าให้หมดอย่าปล่อยให้ข่าวแพร่ออกไปหากเพร่งพรายออกไปพวกเราก็ไปที่สำนักเทียนโจ้งไม่ได้แล้ว”“ดี”ทั้งห้าคนสบตากันรีบไล่ตามไปทางที่พวกจูนจิ่วจากไปพวกเขาหัวเราะน่ากลัวแฝงไปด้วยความอาฆาตพยาบาท
Comments