ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 264 ภารกิจระดับเก้าดาว...แปลงโฉม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

“เพราะอะไร”

สำหรับการปฏิบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจนของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตก น้องดาบแสดงการประท้วงอย่างชอบธรรมแล้ว

“นี่เป็นคำถามเดียวกันกับที่เขาเพิ่งเอ่ยถาม หลังจากพวกเจ้ารับภารกิจแล้ว ก็ย่อมรู้เอง” หวังเฟยชะงักไปครู่เดียว แล้วกล่าวเสริมว่า “ภารกิจนี้เขารับได้คนเดียวเท่านั้น หรือถ้าพวกเจ้าสองคนรับด้วยกันก็ได้เหมือนกัน แต่ข้าแจกภารกิจนี้ให้เจ้าคนเดียวไม่ได้ เพราะคนที่ทำตามเงื่อนไขในการปลดล็อกภารกิจได้จริงๆ ก็คือเขา ไม่ใช่เจ้า”

“เจ้ามีสิทธิ์รับภารกิจนี้ ก็เป็นเพราะเจ้าบังเอิญเป็นสหายร่วมทีมของเขาพอดี เหตุผลก็เท่านี้เอง”

พอฟังถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายทันที แล้วถามว่า “ท่านกำลังบอกว่า หากพวกเราสองคนรับภารกิจและทำภารกิจสำเร็จ แต่ละคนก็จะเลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาใช่หรือไม่”

หวังเฟยพยักหน้า แล้วกล่าวเสริม “เลือกซ้ำกันไม่ได้”

“ดังนั้น ตอนที่รับภารกิจ ทีมนี้จึงจำกัดได้สี่คน?” นี่ต่างหากคือสาเหตุแท้จริงที่เยี่ยเว่ยหมิงถามถึงเรื่องนี้!

ตอนที่มีผลประโยชน์ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงเพื่อน

โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เรียกเพื่อนมาช่วยได้โดยที่ผลประโยชน์ของตัวเองไม่ลดลง ก็ยิ่งต้องเรียกมาช่วยกัน

แต่ถ้าเลือกได้เพียงสี่รายชื่อ…

เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มพิจารณาว่าอีกสองรายชื่อที่เหลือควรเรียกใครดี

ในเกมนี้ สหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาที่สุดก็คือสะพานสวรรค์น้อย ซานเย่ว์ โหยวโหยวและอินปู้คุย ส่วนคนอื่นๆ เช่น เฟยอวี๋ ถังซานไฉ่ หนิวจื้อชุนและฉางซิงอวี่…แม้ความสัมพันธ์จะไม่เลว แต่เมื่อเทียบกับสี่คนแรก ก็ถือว่ายังแย่กว่านิดหน่อย

ปัญหาตอนนี้ก็คือ ภารกิจนี้ใส่ได้แค่สี่รายชื่อเท่านั้น ต่อให้ตอนนี้เตะน้องดาบออกจากทีม ก็ยังขาดตำแหน่งว่างไปอีกหนึ่งที่อยู่ดี

ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือ[1]ก็เป็นเนื้อเหมือนกัน ชั่วขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรนั้นเอง

น้องดาบที่ไม่รู้ว่าตัวเองใกล้โดนเตะออกจากทีม ตอนนี้ยังพูดเร่งเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไร้เดียงสา “นี่! ข้าว่านะเจ้ามือปราบหน้าเหม็น ภารกิจดีๆ ขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ารีบรับไว้เร็วๆ หน่อยเถอะ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้ายังมัวลังเลอะไรอีก”

ตอนนี้เอง ประโยคเดียวของหวังเฟยกลับช่วยชีวิตน้องดาบกลับมาจากการถูกเตะออกจากกลุ่ม

“ที่จริงในทีมของเจ้าจะมีกี่คนก็ไม่สำคัญ แม้ตำราลับสุดยอดวิชาจะมีเพียงสี่เล่ม แต่ถึงตอนนั้นก็อิงตามลำดับผลงานได้ อยู่ลำดับหลังๆ แม้จะไม่ได้สุดยอดวิชา แต่ข้าก็ให้รางวัลบางส่วนได้เช่นกัน ทั้งยังเป็นรางวัลที่ไม่ทำให้ผิดหวังด้วย เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร”

“เพียงแต่เจ้ามีเวลาพิจารณาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น ถ้าผ่านเวลาที่กำหนด แม้แต่เจ้าเองก็จะเสียโอกาสในการรับภารกิจนี้ตลอดไป”

ได้!

มีเวลาแค่สิบห้านาที ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่มีทางหาสถานที่ที่ ‘ข้างหน้าไม่ติดหมู่บ้าน ข้างหลังไม่ติดร้านค้า’ เจอภายในเวลาสั้นๆ นี้แน่

ด้วยความจนใจ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงทิ้งความคิดที่จะสร้างผลตอบแทนสูงสุด “เช่นนั้นหวังเฟยก็ได้โปรดบอกภารกิจของท่านมาเถิด คุยกันให้เรียบร้อยก่อน ข้าคือเจ้าหน้าที่ทางการของภาคกลาง เรื่องที่ต้องสมคบกับศัตรูขายชาติ ข้าไม่ทำแน่นอน”

“ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น” หวังเฟยกลอกตามองเยี่ยเว่ยหมิง แล้วกล่าวอย่างเนิบนาบ “ข้ามีสหายที่ดีอยู่คนหนึ่ง แต่ถูกสตรีชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ ต่ำช้าไร้ยางอาย จิตใจบิดเบี้ยว หน้าตาสุดแสนอัปลักษณ์ทำลายใบหน้า..บลาๆๆๆ…”

[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจลับ ‘ฟื้นฟูใบหน้าเดิม’]

ฟื้นฟูใบหน้า

สหายคนหนึ่งของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกถูกทำลายใบหน้า กรุณาคิดหาทางฟื้นฟูใบหน้างดงามแห่งยุคกลับมา

ระดับภารกิจ: 9 ดาว

ระยะเวลาภารกิจ: ก่อนที่หวังเฟยและสหายของนางจะตาย

รางวัลภารกิจ: ‘พลังไร้ลักษณ์น้อย’ ‘พลังฝ่ามือรุ้งขาว’ ‘กรงเล็บภูตอเวจี’ ‘ท่าเท้าท่องคลื่น’ เลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม!

……

สหายผู้นั้นของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกคือเป้าหมายภารกิจที่ต้องช่วยรักษา และหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกเองก็เป็น NPC คนสำคัญที่รับหน้าที่แจกรางวัลภารกิจ หากพวกนางตายแล้ว ก็ย่อมถูกตัดสินว่าภารกิจล้มเหลว

ภารกิจที่หวังเฟยท่านนี้แจกให้ ไม่เพียงแค่ไม่ขัดกับจุดยืนของเยี่ยเว่ยหมิง อีกทั้งหลังจากแจกภารกิจแล้ว ยังมีการชี้แนะภารกิจอย่างใส่ใจด้วย

มองออกเลยว่า นางหวังจากใจจริงว่าทั้งสองจะทำภารกิจระดับเก้าดาวที่นางมอบหมายสำเร็จ

“เพื่อช่วยฟื้นฟูโฉมหน้าเดิมให้สหายรักของข้า ข้าเคยไปหาหมอชื่อดังทั่วทั้งใต้หล้า แต่พวกหมอเทวดามักถนัดแต่ช่วยชีวิตคน แต่กลับช่วยลบรอยแผลเป็นไม่ได้ ยังดีที่ความพยายามไม่ทรยศคนตั้งใจ ในที่สุดข้าก็เจอหมอที่ชื่อว่าหลี่กุ่ยโส่วแล้ว เขามีความสามารถในการปั้นใบหน้าใหม่…

…แต่บาดแผลบนใบหน้าสหายของข้ารุนแรงเกินไป หากคิดจะฟื้นฟูหน้าเดิม ต่อให้เป็นหลี่กุ่ยโส่วก็ต้องมีของล้ำค่าหายากมาช่วย…

…นี่คือรายชื่อยาที่เขาให้ข้าไว้ก่อนหน้านี้ เจ้านำไปไว้ดู”

ขณะที่พูด หวังเฟยก็นำจดหมายที่เก่าจนออกสีเหลืองยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิง แล้วพูดต่อว่า “ขอเพียงเจ้ารวบรวมยาเจ็ดอย่างที่เขียนไว้บนนี้จนครบ ก็จะไปขอให้หลี่กุ่ยโส่วมาช่วยฟื้นฟูใบหน้าให้สหายของข้าได้แล้ว ถือว่าภารกิจของพวกเจ้าเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน หลังจากนางฟื้นฟูใบหน้าเดิมกลับมาแล้ว ข้าจะมอบตำราลับสุดยอดวิชาให้…

…แต่หลี่กุ่ยโส่วนั่นที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง พเนจรไปทั่ว แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแน่ หากพวกเจ้าอยากทำภารกิจให้สำเร็จ ก็ต้องหาวิธีตามตัวเขาให้พบก่อน”

เมื่อพูดจบ นางก็ส่งป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “รอให้พวกเจ้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็นำไปอาญาสิทธิ์แผ่นนี้ไปหาข้าที่วังของเซี่ยตะวันตกได้…

…ที่ข้าพูดก็มีเท่านี้ เรื่องที่เหลือก็ต้องรบกวนจอมยุทธ์น้อยทั้งสองแล้ว” หวังเฟยกล่าวพร้อมลุกขึ้น แล้วตะโกนบอกนายพลของหน่วยเหยี่ยวเหล็กที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว เตรียมกลับวัง!”

เยี่ยเว่ยหมิงรับป้ายอาญาสิทธิ์มาดูแล้วเก็บไว้ จากนั้นบอกว่า “หวังเฟยวางใจได้ขอรับ ต่อให้ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา พวกเราสองคนก็จะพยายามเต็มที่เพื่อทำให้ภารกิจนี้สำเร็จให้ได้”

อืม ใช่แล้ว!

แค่ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา

มีอะไรก็พูดตรงๆ นี่คือหลักการใช้ชีวิตในยุทธภพของเยี่ยเว่ยหมิง!

“เป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ” ตอนนี้หน่วยเหยี่ยวเหล็กก็นำรถม้างดงามหรูหราคันหนึ่งมาทางนี้แล้ว หวังเฟยเหมือนนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน ยื่นกล่องไม้ที่สวยประณีตใบหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “นี่คือรางวัลที่เจ้าช่วยฆ่าเสือโคร่งก่อนหน้านี้ น่าจะช่วยเจ้าได้บ้างไม่มากก็น้อย…

…ตามนี้แล้วกัน หวังว่าพวกเจ้าสองคนจะได้รับรางวัลภารกิจจากข้า”

“จำไว้ สี่เล่มล้วนเป็นสุดยอดวิชา!”

พอพูดจบนางก็เหยียบบันไดที่ทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนเตรียมไว้ให้เพื่อขึ้นรถม้า จากนั้นทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนนั้นก็เก็บบันไดไม้ไปวางไว้ตรงจุดที่ไม่สะดุดตาหลังรถม้า เสร็จแล้วถึงได้ต่างคนต่างขึ้นคร่อมม้าศึกของตัวเอง ก่อนจะนำกำลังทหารกลุ่มใหญ่จากไปไกล

ดูจากขั้นตอนการขึ้นรถ ก็มองออกแล้วว่าชีวิตของตระกูลท่านอ๋องแห่งเซี่ยตะวันตกทุจจริตขนาดไหน

เพียงแต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่สนใจปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ตอนนี้ความสนใจของเขาไปอยู่บนรางวัลภารกิจที่หวังเฟยให้แล้ว

[ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสี (ทองคำ)] อาวุธลับที่ทำจากแก้วหลิวหลี เป็นประกายสีรุ้ง

โจมตี +200

กำลังภายใน +30%

จำนวน: 100/100 ใช้แล้วหมดไป]

[1] ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือก็เป็นเนื้อเหมือนกัน 手心手背都是肉 หมายถึงทั้งสองฝ่ายมีความสำคัญพอๆ กัน เลือกไม่ถูก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 264 ภารกิจระดับเก้าดาว...แปลงโฉม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 264 ภารกิจระดับเก้าดาว…แปลงโฉม!

“เพราะอะไร”

สำหรับการปฏิบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจนของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตก น้องดาบแสดงการประท้วงอย่างชอบธรรมแล้ว

“นี่เป็นคำถามเดียวกันกับที่เขาเพิ่งเอ่ยถาม หลังจากพวกเจ้ารับภารกิจแล้ว ก็ย่อมรู้เอง” หวังเฟยชะงักไปครู่เดียว แล้วกล่าวเสริมว่า “ภารกิจนี้เขารับได้คนเดียวเท่านั้น หรือถ้าพวกเจ้าสองคนรับด้วยกันก็ได้เหมือนกัน แต่ข้าแจกภารกิจนี้ให้เจ้าคนเดียวไม่ได้ เพราะคนที่ทำตามเงื่อนไขในการปลดล็อกภารกิจได้จริงๆ ก็คือเขา ไม่ใช่เจ้า”

“เจ้ามีสิทธิ์รับภารกิจนี้ ก็เป็นเพราะเจ้าบังเอิญเป็นสหายร่วมทีมของเขาพอดี เหตุผลก็เท่านี้เอง”

พอฟังถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายทันที แล้วถามว่า “ท่านกำลังบอกว่า หากพวกเราสองคนรับภารกิจและทำภารกิจสำเร็จ แต่ละคนก็จะเลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาใช่หรือไม่”

หวังเฟยพยักหน้า แล้วกล่าวเสริม “เลือกซ้ำกันไม่ได้”

“ดังนั้น ตอนที่รับภารกิจ ทีมนี้จึงจำกัดได้สี่คน?” นี่ต่างหากคือสาเหตุแท้จริงที่เยี่ยเว่ยหมิงถามถึงเรื่องนี้!

ตอนที่มีผลประโยชน์ก็ต้องไม่ลืมนึกถึงเพื่อน

โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เรียกเพื่อนมาช่วยได้โดยที่ผลประโยชน์ของตัวเองไม่ลดลง ก็ยิ่งต้องเรียกมาช่วยกัน

แต่ถ้าเลือกได้เพียงสี่รายชื่อ…

เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มพิจารณาว่าอีกสองรายชื่อที่เหลือควรเรียกใครดี

ในเกมนี้ สหายที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเขาที่สุดก็คือสะพานสวรรค์น้อย ซานเย่ว์ โหยวโหยวและอินปู้คุย ส่วนคนอื่นๆ เช่น เฟยอวี๋ ถังซานไฉ่ หนิวจื้อชุนและฉางซิงอวี่…แม้ความสัมพันธ์จะไม่เลว แต่เมื่อเทียบกับสี่คนแรก ก็ถือว่ายังแย่กว่านิดหน่อย

ปัญหาตอนนี้ก็คือ ภารกิจนี้ใส่ได้แค่สี่รายชื่อเท่านั้น ต่อให้ตอนนี้เตะน้องดาบออกจากทีม ก็ยังขาดตำแหน่งว่างไปอีกหนึ่งที่อยู่ดี

ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือ[1]ก็เป็นเนื้อเหมือนกัน ชั่วขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรนั้นเอง

น้องดาบที่ไม่รู้ว่าตัวเองใกล้โดนเตะออกจากทีม ตอนนี้ยังพูดเร่งเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไร้เดียงสา “นี่! ข้าว่านะเจ้ามือปราบหน้าเหม็น ภารกิจดีๆ ขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เจ้ารีบรับไว้เร็วๆ หน่อยเถอะ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้ายังมัวลังเลอะไรอีก”

ตอนนี้เอง ประโยคเดียวของหวังเฟยกลับช่วยชีวิตน้องดาบกลับมาจากการถูกเตะออกจากกลุ่ม

“ที่จริงในทีมของเจ้าจะมีกี่คนก็ไม่สำคัญ แม้ตำราลับสุดยอดวิชาจะมีเพียงสี่เล่ม แต่ถึงตอนนั้นก็อิงตามลำดับผลงานได้ อยู่ลำดับหลังๆ แม้จะไม่ได้สุดยอดวิชา แต่ข้าก็ให้รางวัลบางส่วนได้เช่นกัน ทั้งยังเป็นรางวัลที่ไม่ทำให้ผิดหวังด้วย เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร”

“เพียงแต่เจ้ามีเวลาพิจารณาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น ถ้าผ่านเวลาที่กำหนด แม้แต่เจ้าเองก็จะเสียโอกาสในการรับภารกิจนี้ตลอดไป”

ได้!

มีเวลาแค่สิบห้านาที ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่มีทางหาสถานที่ที่ ‘ข้างหน้าไม่ติดหมู่บ้าน ข้างหลังไม่ติดร้านค้า’ เจอภายในเวลาสั้นๆ นี้แน่

ด้วยความจนใจ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงทิ้งความคิดที่จะสร้างผลตอบแทนสูงสุด “เช่นนั้นหวังเฟยก็ได้โปรดบอกภารกิจของท่านมาเถิด คุยกันให้เรียบร้อยก่อน ข้าคือเจ้าหน้าที่ทางการของภาคกลาง เรื่องที่ต้องสมคบกับศัตรูขายชาติ ข้าไม่ทำแน่นอน”

“ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น” หวังเฟยกลอกตามองเยี่ยเว่ยหมิง แล้วกล่าวอย่างเนิบนาบ “ข้ามีสหายที่ดีอยู่คนหนึ่ง แต่ถูกสตรีชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ ต่ำช้าไร้ยางอาย จิตใจบิดเบี้ยว หน้าตาสุดแสนอัปลักษณ์ทำลายใบหน้า..บลาๆๆๆ…”

[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจลับ ‘ฟื้นฟูใบหน้าเดิม’]

ฟื้นฟูใบหน้า

สหายคนหนึ่งของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกถูกทำลายใบหน้า กรุณาคิดหาทางฟื้นฟูใบหน้างดงามแห่งยุคกลับมา

ระดับภารกิจ: 9 ดาว

ระยะเวลาภารกิจ: ก่อนที่หวังเฟยและสหายของนางจะตาย

รางวัลภารกิจ: ‘พลังไร้ลักษณ์น้อย’ ‘พลังฝ่ามือรุ้งขาว’ ‘กรงเล็บภูตอเวจี’ ‘ท่าเท้าท่องคลื่น’ เลือกหนึ่งในสี่สุดยอดวิชาบู๊ลิ้ม!

……

สหายผู้นั้นของหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกคือเป้าหมายภารกิจที่ต้องช่วยรักษา และหวังเฟยแห่งเซี่ยตะวันตกเองก็เป็น NPC คนสำคัญที่รับหน้าที่แจกรางวัลภารกิจ หากพวกนางตายแล้ว ก็ย่อมถูกตัดสินว่าภารกิจล้มเหลว

ภารกิจที่หวังเฟยท่านนี้แจกให้ ไม่เพียงแค่ไม่ขัดกับจุดยืนของเยี่ยเว่ยหมิง อีกทั้งหลังจากแจกภารกิจแล้ว ยังมีการชี้แนะภารกิจอย่างใส่ใจด้วย

มองออกเลยว่า นางหวังจากใจจริงว่าทั้งสองจะทำภารกิจระดับเก้าดาวที่นางมอบหมายสำเร็จ

“เพื่อช่วยฟื้นฟูโฉมหน้าเดิมให้สหายรักของข้า ข้าเคยไปหาหมอชื่อดังทั่วทั้งใต้หล้า แต่พวกหมอเทวดามักถนัดแต่ช่วยชีวิตคน แต่กลับช่วยลบรอยแผลเป็นไม่ได้ ยังดีที่ความพยายามไม่ทรยศคนตั้งใจ ในที่สุดข้าก็เจอหมอที่ชื่อว่าหลี่กุ่ยโส่วแล้ว เขามีความสามารถในการปั้นใบหน้าใหม่…

…แต่บาดแผลบนใบหน้าสหายของข้ารุนแรงเกินไป หากคิดจะฟื้นฟูหน้าเดิม ต่อให้เป็นหลี่กุ่ยโส่วก็ต้องมีของล้ำค่าหายากมาช่วย…

…นี่คือรายชื่อยาที่เขาให้ข้าไว้ก่อนหน้านี้ เจ้านำไปไว้ดู”

ขณะที่พูด หวังเฟยก็นำจดหมายที่เก่าจนออกสีเหลืองยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิง แล้วพูดต่อว่า “ขอเพียงเจ้ารวบรวมยาเจ็ดอย่างที่เขียนไว้บนนี้จนครบ ก็จะไปขอให้หลี่กุ่ยโส่วมาช่วยฟื้นฟูใบหน้าให้สหายของข้าได้แล้ว ถือว่าภารกิจของพวกเจ้าเสร็จสิ้นแล้วเช่นกัน หลังจากนางฟื้นฟูใบหน้าเดิมกลับมาแล้ว ข้าจะมอบตำราลับสุดยอดวิชาให้…

…แต่หลี่กุ่ยโส่วนั่นที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง พเนจรไปทั่ว แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันแน่ หากพวกเจ้าอยากทำภารกิจให้สำเร็จ ก็ต้องหาวิธีตามตัวเขาให้พบก่อน”

เมื่อพูดจบ นางก็ส่งป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “รอให้พวกเจ้าเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็นำไปอาญาสิทธิ์แผ่นนี้ไปหาข้าที่วังของเซี่ยตะวันตกได้…

…ที่ข้าพูดก็มีเท่านี้ เรื่องที่เหลือก็ต้องรบกวนจอมยุทธ์น้อยทั้งสองแล้ว” หวังเฟยกล่าวพร้อมลุกขึ้น แล้วตะโกนบอกนายพลของหน่วยเหยี่ยวเหล็กที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว เตรียมกลับวัง!”

เยี่ยเว่ยหมิงรับป้ายอาญาสิทธิ์มาดูแล้วเก็บไว้ จากนั้นบอกว่า “หวังเฟยวางใจได้ขอรับ ต่อให้ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา พวกเราสองคนก็จะพยายามเต็มที่เพื่อทำให้ภารกิจนี้สำเร็จให้ได้”

อืม ใช่แล้ว!

แค่ทำเพื่อตำราลับสุดยอดวิชา

มีอะไรก็พูดตรงๆ นี่คือหลักการใช้ชีวิตในยุทธภพของเยี่ยเว่ยหมิง!

“เป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจจริงๆ” ตอนนี้หน่วยเหยี่ยวเหล็กก็นำรถม้างดงามหรูหราคันหนึ่งมาทางนี้แล้ว หวังเฟยเหมือนนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน ยื่นกล่องไม้ที่สวยประณีตใบหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิง “นี่คือรางวัลที่เจ้าช่วยฆ่าเสือโคร่งก่อนหน้านี้ น่าจะช่วยเจ้าได้บ้างไม่มากก็น้อย…

…ตามนี้แล้วกัน หวังว่าพวกเจ้าสองคนจะได้รับรางวัลภารกิจจากข้า”

“จำไว้ สี่เล่มล้วนเป็นสุดยอดวิชา!”

พอพูดจบนางก็เหยียบบันไดที่ทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนเตรียมไว้ให้เพื่อขึ้นรถม้า จากนั้นทหารเหยี่ยวเหล็กสองคนนั้นก็เก็บบันไดไม้ไปวางไว้ตรงจุดที่ไม่สะดุดตาหลังรถม้า เสร็จแล้วถึงได้ต่างคนต่างขึ้นคร่อมม้าศึกของตัวเอง ก่อนจะนำกำลังทหารกลุ่มใหญ่จากไปไกล

ดูจากขั้นตอนการขึ้นรถ ก็มองออกแล้วว่าชีวิตของตระกูลท่านอ๋องแห่งเซี่ยตะวันตกทุจจริตขนาดไหน

เพียงแต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่สนใจปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ตอนนี้ความสนใจของเขาไปอยู่บนรางวัลภารกิจที่หวังเฟยให้แล้ว

[ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสี (ทองคำ)] อาวุธลับที่ทำจากแก้วหลิวหลี เป็นประกายสีรุ้ง

โจมตี +200

กำลังภายใน +30%

จำนวน: 100/100 ใช้แล้วหมดไป]

[1] ไม่ว่าจะฝ่ามือหรือหลังมือก็เป็นเนื้อเหมือนกัน 手心手背都是肉 หมายถึงทั้งสองฝ่ายมีความสำคัญพอๆ กัน เลือกไม่ถูก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+