ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 592 วันสุดท้ายของดาบโลหิต

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 592 วันสุดท้ายของดาบโลหิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 592 วันสุดท้ายของดาบโลหิต

เมื่อหิมะถล่มลงมา เยี่ยเว่ยหมิง ปรมาจารย์ดาบโลหิตและฮวาเถี่ยกั้นก็ถูกฝังอยู่ในหิมะ

ฉากนี้ทำเอาฉางซิงอวี่ที่คอยปฏิบัติการอยู่ข้างนอกเห็นแล้วตกใจ

ขณะเดียวกันนี้เอง ในจุดลับตาคนที่ห่างจากบ้านหิมะหลายร้อยเมตร สุ่ยเซิงที่เพิ่งแอบหนีออกมาก็อุทานอย่างตกใจเช่นกัน “แย่แล้ว! ก่อนหน้านี้ท่านลุงลู่ก็ถูกปรมาจารย์ดาบโลหิตวางกับดักจนตายตอนอยู่ในทุ่งหิมะ ตอนนี้ฮวาเถี่ยกั้นกับจอมยุทธ์น้อยเยี่ยก็ถูกฝังอยู่ใต้หิมะกับปรมาจารย์ดาบโลหิตเช่นกัน เกรงว่า…”

ก่อนหน้านี้ฮวาเถี่ยกั้นคุกเข่ายอมแพ้ในช่วงเวลาสำคัญ ทำให้พลาดโอกาสเดียวในการสังหารปรมาจารย์ดาบโลหิต ตั้งแต่นั้นมาสุ่ยเซิงก็ไม่ยอมรับเขาเป็นท่านลุงรองอีกต่อไป

ตรงกันข้าม สำหรับเยี่ยเว่ยหมิงที่วางแผนล่อให้ปรมาจารย์ดาบโลหิตตกอยู่ในสถานการณ์จนตรอก น้องสาวคนนี้ได้รับผลกระทบจากทักษะวรรณกรรมและแหวนหยกดำเทียนขุย จึงค่อนข้างเกิดความรู้สึกดีตั้งแต่แรกพบ

“จอมยุทธ์น้อยเยี่ยจะต้องไม่เป็นอะไร” ตี๋อวิ๋นที่อยู่ข้างๆ เอ่ย “ระดับความโหดและพิษร้ายของหลิงทุ่ยซือก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบกับปรมาจารย์ดาบโลหิตถือว่าไม่ด้อยไปกว่ากัน แต่ผลปรากฏว่าเขาไม่เพียงแค่สังหารหลิงทุ่ยซือเท่านั้น ทั้งยังช่วยพี่ติงเตี่ยนที่ถูกหลิงทุ่ยซือใช้ลูกสาวมาขู่ออกมาได้ด้วย”

…ตอนนี้ต่อให้คู่ต่อสู้คือปรมาจารย์ดาบโลหิต ข้าก็เชื่อว่าเขาจะต้องเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้เป็นชัยชนะ เปลี่ยนวิกฤติเป็นปลอดภัยได้แน่นอน”

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ในกองหิมะก็พลันมีเงาของคนคนหนึ่งพุ่งออกมา มาหยุดอยู่ข้างกายฉางซิงอวี่ไม่ไกล พอหันกลับไปมอง พบว่าอีกฝ่ายคือฮวาเถี่ยกั้น

ระหว่างที่สู้กับปรมาจารย์ดาบโลหิตก่อนหน้านี้ ฮวาเถี่ยกั้นเผยสันดานขี้ขลาดของมนุษย์ออกมาหมดเปลือก หลังจากบ้านหิมะถล่ม ก็ยิ่งฉวยโอกาสตอนปรมาจารย์ดาบโลหิตถูกเยี่ยเว่ยหมิงก่อกวนพุ่งตัวออกจากกองหิมะทันที

จากนั้นพอหันไปมองในกองหิมะอีกครั้ง ปากก็บอกว่า “ตอนอยู่ในกองหิมะแยกแยะวัตถุไม่ได้ หากข้ากับจอมยุทธ์น้อยเยี่ยร่วมมือกันสู้กับศัตรู เกรงว่าคงมีโอกาสโจมตีผิดคนมากกว่า พวกเราคอยคุมสถานการณ์ให้เขาอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว”

ขณะที่พูด เขาก็แสร้งชำเลืองฉางซิงอวี่ที่อยู่ข้างกายเหมือนไม่ได้ตั้งใจแล้วถามอย่างไม่จริงจังว่า “ซิงอวี่เอ๊ย เมื่อครู่ตอนที่ข้ากับจอมยุทธ์น้อยเยี่ยร่วมมือกันสู้กับโจรชั่วดาบโลหิต ไม่ทันระวังถูกพิษร้ายที่จอมยุทธ์น้อยเยี่ยซ่อนไว้ล่วงหน้าในบ้านหิมะ บนตัวเจ้ามียาถอนพิษหรือเปล่า”

ฉางซิงอวี่ได้ยินแล้วยิ้มเย้ยในใจ แต่ภายนอกกลับทำท่าเหมือนตกใจมาก “สหายเยี่ยยังซ่อนยาพิษไว้ในบ้านหิมะด้วยหรือ ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะไม่รู้เลยสักนิด ส่วนเรื่องยาถอนพิษ ข้าก็ยิ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน”

อิงตามแผนที่เยี่ยเว่ยหมิงวางไว้ก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องฆ่าปรมาจารย์ดาบโลหิตให้ตายก่อน แล้วค่อยฆ่าฮวาเถี่ยกั้นทีหลัง

ขอเพียงทุกคนร่วมแรงกันสังหารปรมาจารย์ดาบโลหิตให้ตายเพื่อจบภารกิจ ฮวาเถี่ยกั้นก็จะนำรางวัลที่เคยสัญญาไว้ออกมา นี่คือปณิธานสูงสุดของระบบ ไม่ว่า NPC คนใดก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้

รอจนได้รางวัลมาไว้ในมือ ทั้งสามก็จะหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล แล้วสังหารฮวาเถี่ยกั้นที่ไร้มโนธรรมคนนี้ด้วยเช่นกัน คนที่ถูกกระตุ้นนิสัยชั่วร้ายอย่างเขาจะได้ไม่หนีออกจากหุบเขาไปทำร้ายคนอื่นต่อในภายหลัง

ดังนั้น ยังไม่ต้องพูดถึงว่าในมือฉางซิงอวี่ไม่มียาถอนพิษ ต่อให้เขามียา เขาก็จะไม่ให้ส่งให้ฮวาเถี่ยกั้นอยู่ดี

พอได้ยินฉางซิงอวี่บอกว่าในมือเขาไม่มียาถอนพิษ ฮวาเถี่ยกั้นก็หน้าบึ้งทันที ไม่สนใจการต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงกับปรมาจารย์ดาบโลหิตอีกแล้ว หามุมสงบโคจรวิชาขับพิษออกจากร่างกายด้วยตัวเอง

ว่ากันตามตรง ฤทธิ์ของไหยาพิษยี่ห้อโหยวโหยวก็คือลดพลังต่อสู้ของศัตรู พิษไม่อันตรายถึงชีวิต ไม่ว่าจะรับมือยากขนาดไหน ขอเพียงเขาได้นั่งขับพิษอย่างสงบใจ ต่อให้ไม่มียาถอนพิษ แต่ก็จะขับพิษออกหมดได้อย่างรวดเร็วอยู่ดี

เมื่อไม่มีเจ้าไม้กวนอุจจาระจอมสร้างปัญหาอย่างฮวาเถี่ยกั้นแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกับปรมาจารย์ดาบโลหิตที่อยู่ใต้กองหิมะกลับสู้กันอย่างระทึกใจมาก

สองคนที่อยู่ในหิมะเคลื่อนไหวไม่สะดวก อีกทั้งสายตายังมองไม่เห็นวัตถุ ทำให้ได้เพียงต่างคนต่างใช้วิชาดาบและเคล็ดกระบี่ที่ตัวเองถนัดที่สุดโจมตีกันและกัน การต่อสู้ที่เงียบเชียบอันตรายกว่าก่อนหน้านี้เป็นร้อยเท่า!

ใต้กองหิมะมีพื้นที่น้อย แต่ปรมาจารย์ดาบโลหิตเติบโตมาจากทุ่งหิมะอันเหน็บหนาวตรงชายแดนทิเบต คุ้นเคยกับลักษณะพิเศษของหิมะเป็นอย่างดี อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีประสบการณ์สู้กับลู่เทียนซูของบุปผาร่วงโรยโปรยตามน้ำในหิมะลึก กล่าวได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของที่นี่

เมื่อครู่นี้ ทันทีที่ทั้งสามถูกหิมะกลบพร้อมกัน ปรมาจารย์ดาบโลหิตที่มีประสบการณ์โชกโชนก็ชักดาบออกมาขุดโพรงใหญ่ในหิมะทันที จากนั้นใช้มือโบกเพื่อนำอากาศจากในนั้นมาไว้ใช้หายใจ แล้วใช้กระบวนท่าใน ‘วิชาดาบโลหิต’ ที่มีความสามารถในการป้องกันฟันใส่เยี่ยเว่ยหมิง ดูเหมือนดุดันผิดปกติ แต่ความจริงกลับกำลังถ่วงเวลา

เป็นอย่างที่คาดไว้ ทั้งสองฟันโจมตีกันมั่วซั่วอยู่ในกองหิมะ แต่กลับไม่มีใครทำให้ใครบาดเจ็บได้

กระทั่งตอนที่ปรมาจารย์ดาบโลหิตยื่นศีรษะเข้าไปในโพรงใหญ่ที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้เพื่อหอบหายใจเป็นครั้งที่สอง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าทางฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงมีเสียงความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติดังมา เขายิ้มเยาะในใจทันที เจ้าเด็กนี่แม้จะดุดันโหดร้าย แต่สุดท้ายก็ยังอ่อนประสบการณ์เกินไป มีหรือที่จะสู้ปรมาจารย์อย่างข้าได้

เขาหยุดหอบหายใจต่อทันที แล้วเดินตามดาบออกไป เร่งโจมตีไปทางเยี่ยเว่ยหมิง

ครู่ต่อมา…

ฉึก!

ตามด้วยเสียงปลายดาบแทงเข้าเนื้อ ปรมาจารย์ดาบโลหิตรู้ว่าดาบนี้ของเขาโจมตีถูกคู่ต่อสู้อย่างแม่นยำ ขณะที่เตรียมจะหมุนดาบคว้านท้องเจ้าเด็กเปรตน่ารังเกียจ กลับพบว่าดาบโลหิตในมือไม่ยอมทำตามคำสั่ง ราวกับถูกพลังประหลาดบางอย่างรัดพันไว้

แย่แล้ว! เป็นคนผีร่วมวิถีของสำนักคงต้ง!

ในโลกของ ‘กระบี่ใจพิสุทธิ์’ แม้จะไม่มีวิทยายุทธ์อันยอดเยี่ยมของสำนักคงต้งอยู่มากมายนัก แต่ถึงอย่างไรในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ก็เป็นโลกรวมยุทธภพที่มีฉากหลังเป็นนิยายกำลังภายในมากมาย

ท่าไม้ตายระดับ ‘คนผีร่วมวิถี’ ปรมาจารย์ดาบโลหิตแม้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินเช่นกัน ตอนนี้จู่ๆ ก็พบว่าดาบในมือตนถูกควบคุม จึงคิดจะทิ้งดาบและถอยทันที

แต่เยี่ยเว่ยหมิงทุ่มเทวางแผนการนี้ สุดท้ายถึงขั้นยอมควักเลือดควักเนื้อตัวเองเพื่อจับตำแหน่งของอีกฝ่ายให้แม่นยำ ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าความปรารถนาจะเป็นจริง มีหรือที่จะยอมให้เขาปลีกตัวออกไปง่ายๆ

วินาทีที่ดาบโลหิตของปรมาจารย์ดาบโลหิตแทงเข้าเนื้อเยี่ยเว่ยหมิง คลื่นกำลังภายในที่ชวนสะดุ้งก็พลันถ่ายทอดออกจากหิมะ

สิ่งที่ตามมาติดๆ ก็คือทุกคนเห็นปราณกระบี่ที่น่าหวาดกลัวสุดขีดกลุ่มหนึ่งผ่ากลางกองหิมะขนาดใหญ่ตรงหน้าราวกับตัดขนมเค้ก

ภายใต้การกวาดม้วนของปราณกระบี่ ร่างของปรมาจารย์ดาบโลหิตถูกสะบัดออกจากกองหิมะแล้ว แต่แขนขวาที่กุมดาบของเขากลับแยกออกจากร่างกายโดยสิ้นเชิง

มารสวรรค์ทลาย!

-1278756

บาดเจ็บสาหัส!

แขนขาด!

ภายใต้กระบี่นี้ ค่าพลังชีวิตของปรมาจารย์ดาบโลหิตที่สูงเกือบสองล้าน ตอนนี้ถูกฟันจนเหลือประมาณหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น ทั้งยังติดสถานะบาดเจ็บสาหัสและแขนขาดพ่วงไปด้วย

นี่ก็คือท่าไม้ตายสุดท้ายที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมไว้ให้ปรมาจารย์ดาบโลหิต!

จิ้งจอกเฒ่าที่มีพลังฝีมือโดดเด่นและเจ้าเล่ห์เหมือนผี ถ้าอยากทำให้ตายจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ

เพื่อรับประกันว่าจะบรรลุเป้าหมายแน่นอน เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้หวังพึ่งโชคชะตาแต่อย่างใด จึงใช้อาวุธที่ล้ำค่าที่สุดข่มท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา นั่นก็คือ ‘มารสวรรค์ทลาย’ นั่นเอง!

เพียงแต่ ‘มารสวรรค์ทลาย’ นี้แม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำได้ทุกอย่าง

จุดด้อยชองมันก็คือความเร็วในการออกกระบวนท่าที่ยังไม่เร็วมากพอ กระบวนท่าไม่ถือว่าแยบยลแต่อย่างใด ก่อนลงมือก็ยิ่งมีสัญญาณที่ชัดเจนมาก

เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากคู่ต่อสู้ที่มีพลังฝีมือแกร่งกล้าคนหนึ่งอยากจะหลบให้พ้นก็ไม่ยาก

เพื่อรับประกันว่าท่าไม้ตายที่โจมตีได้ครั้งเดียวท่านี้มีความแม่นยำแน่นอน เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ตั้งใจออกแบบบ้านหิมะหลังนี้อย่างดีที่สุด ทั้งยังวางกับดักฮวาเถี่ยกั้นให้เข้ามาพร้อมกันด้วย ไม่ใช่เพื่อให้เขาสู้ตายกับปรมาจารย์ดาบโลหิตจริงๆ ตราบใดที่เขาช่วยตนถ่วงแข้งถ่วงขาปรมาจารย์ดาบโลหิตได้ กระทั่งสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงกับปรมาจารย์ดาบโลหิตสู้กันภายใต้กองหิมะได้ก็พอแล้ว

ในสถานการณ์แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงที่เคยอ่านกลยุทธ์มาก่อนย่อมเอาเยี่ยงอย่างปรมาจารย์ดาบโลหิตเช่นกัน นั่นก็คือสร้างพื้นที่ว่างเพื่อหายใจ

เพียงแต่เขายังแสร้งทำเป็นทนไม่ไหว แสร้งทำเหมือนจะหนีออกไปก่อน เพื่อล่อให้ปรมาจารย์ดาบโลหิตรุกโจมตี จากนั้นค่อยใช้ท่าไม้ตาย ‘คนผีร่วมวิถี’ + ‘มารสวรรค์ทลาย’ รวมกันส่งเขากลับบ้านเก่า

ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ระหว่างนั้นถูกฉายอยู่ในหัวเยี่ยเว่ยหมิงนับครั้งไม่ถ้วนตั้งนานแล้ว ตอนนี้พอใช้งานจริงย่อมชำนาญมาก จึงเกิดผลแบบโจมตีครั้งเดียวฟ้าดินมั่นคงโดยตรง!

“อ๋า!…”

ภายใต้ความเจ็บปวดทรมาน ปรมาจารย์ดาบโลหิตส่งเสียงร้องครวญครางเหมือนคนใกล้ตายออกมา

เพียงแต่คนโหดอย่างเขากลับไม่ได้กลิ้งลงพื้นเพราะการโจมตีนี้ เขาฉวยโอกาสตอนฮวาเถี่ยกั้นที่อยู่ใกล้ๆ กำลังโคจรวิชาเยียวยาตัวเองและลุกขึ้นมาขวางทางเขาไม่ทัน ใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นแล้ววิ่งหนีไปยังทิศทางหนึ่งโดยไม่สนใจอื่นใด

ฉางซิงอวี่เห็นแล้วตกใจ ยังไม่ทันได้ตำหนิว่าฮวาเถี่ยกั้นไร้ประโยชน์ ก็ถือทวนไล่ตามหลังไปแล้ว

ทว่าทางภูเขาข้างหน้าขรุขระอันตราย วิชาตัวเบาของเขาหากเทียบกับปรมาจารย์ดาบโลหิตแล้วยังแย่กว่านิดหน่อย เมื่ออีกฝ่ายตั้งใจหนี ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะตามทัน

ตอนที่ปรมาจารย์ดาบโลหิตเห็นว่าตัวเองกำลังจะหนีสำเร็จ จู่ๆ กลับมีเงาร่างสีแดงพุ่งออกมาจากแนวทแยงด้านล่าง ดาบจันทราหิมะเงินแนบติดกับทุ่งหิมะเบื้องล่าง สะท้อนเป็นเส้นโค้งเหมือนเข็มขัดหยก ตอนที่ปรมาจารย์ดาบโลหิตไม่คาดคิดเลยสักนิด ดาบนั่นก็แฉลบผ่านบนขาสองข้างของเขา

-24132

เส้นเอ็นขาด!

ฉึก!

ตอนที่เส้นเอ็นของขาสองข้างถูกตัดขาด ปรมาจารย์ดาบโลหิตก็ส่งเสียงกรีดร้องอีกครั้ง ครั้งนี้หัวคะมำลงพื้นแล้ว จากนั้นก็เบิกตากว้างมองสาวน้อยชุดแดงอย่างรู้สึกเหลือเชื่อ “หนึ่งดาบ เจ้าคนต่ำช้า นี่เจ้าทรยศข้าหรือ”

ไม่มีท่าทีว่าจะตอบคำถามปรมาจารย์ดาบโลหิต น้องดาบยกมุมปากเผยรอยยิ้มครุ่นคิด พึมพำกับตัวเองว่า “เจ้ามือปราบหน้าเหม็นนั่นพูดไม่ผิดจริงๆ ด้วย ปรมาจารย์ดาบโลหิตเจ้าเล่ห์ขี้ระแวง ก่อนเข้าบ้านหิมะต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมให้ละเอียด เวลาที่ลนลานหนีออกมา ก็จะเลือกทางที่เขาเคยสำรวจไว้โดยจิตใต้สำนึก ต้องเป็นทางที่ไม่มีอันตรายแน่นอน”

ระหว่างที่พูด นางกลับหันหน้าไปทางซากหุบเขาหิมะแล้วตะโกนเสียงดัง “นี่! เจ้ามือปราบหน้าเหม็น ทำไมเจ้ายังไม่มาขวางข้าอีกล่ะ…

…อย่าบอกนะว่าเจ้าเตรียมจะให้ทุกคนอาศัยฝีมือตัวเองแย่งฆ่าบอส”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด