ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 639 รางวัลภารกิจ

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 639 รางวัลภารกิจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 639 รางวัลภารกิจ

ผู้อาวุโสหลายคนที่อยู่ตรงนั้นสยบให้กับความใจกว้างของเยี่ยเว่ยหมิง แต่หวงหรงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงอาศัยมารสวรรค์ทลายเป็นข้ออ้างเพื่อลงจากต้นไม้และเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง ตอนแรกนางก็รู้สึกเหนือความคาดหมายนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจประเด็นสำคัญต่างๆ ที่อยู่ในนั้นทันที

ดังนั้น จอมยุทธ์หญิงหวงที่พึงพอใจกับการแสดงความสามารถของเยี่ยเว่ยหมิงแบบหนึ่งแสนสองหมื่นคะแนนจึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำท่าเหมือนเพิ่งเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้หรือ ก่อนหน้านี้ข้าไม่สังเกตเห็นเลย”

จากนั้นก็ไม่หาข้อพิสูจน์จากพวกพี่ใหญ่ทั้งหลายแล้ว ถือโอกาสประกาศเสียเลยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็ประกาศเลยแล้วกัน การประลองสนามนี้ อันดับหนึ่งคือสะพานสวรรค์คริสตัล อันดับสองคือเยี่ยเว่ยหมิง!”

สำหรับผลลัพธ์นี้ ทุกคนไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

หวงเย่าซือกับสะพานสวรรค์น้อยที่ยังสู้กันอยู่บนต้นไม้ หลังจากได้ยินว่าการต่อสู้จบลงแล้ว ก็ต่างคนต่างหยุดราวกับสื่อจิตถึงกันได้ หวงเย่าซือกล่าวกึ่งล้อเล่นว่า “ตอนนี้ผลการประลองออกแล้ว หากเจ้าอยากจะลงโจมตีข้าให้ตกต้นไม้ แล้วพวกเราจะหยุดกันทำไมเล่า”

สะพานสวรรค์น้อยยิ้มอย่างงดงาม “ผู้อาวุโสหวงทักษะยุทธ์ล้ำเลิศ อีกทั้งตอนนี้ข้าก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว หากสู้กันต่อไป เกรงว่าหากไม่สู้กันห้าสิบกระบวนท่า คนที่แพ้ตกลงไปต้องเป็นผู้น้อยแน่นอน ผู้อาวุโสยอมหยุดสู้ตอนนี้ ผู้น้อยย่อมดีใจที่ไม่ต้องเสียหน้า”

พอพูดจบก็ลอยลงจากยอดพุ่มไม้ก่อน สื่อว่านางยอมแพ้จากใจจริง ไม่ใช่การเสแสร้ง

หวงเย่าซือเห็นแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นกระโดดตามลงมา แล้วประกาศว่า “ข้าขอประกาศไว้ตรงนี้ อันดับหนึ่งในการประลองยุทธ์เลือกคู่ครั้งนี้มาจากสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง อันดับสองคือสะพานสวรรค์คริสตัลจากสำนักสุสานโบราณ อันดับสามคือศิษย์ของข้าเอง จันทราสะท้อนน้ำ อันดับสี่คือเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่น ศิษย์พรรคกระยาจก สุดท้ายคือเมฆเคลื่อนเดียวดายจากเขาอูฐขาว”

ระหว่างที่พูด สายตาก็กวาดมองบนตัวทั้งห้าคน “สำหรับผลลัพธ์นี้ พวกเจ้าไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ใช่หรือไม่”

“ข้ามีปัญหา” ตอนนี้จู่ๆ เมฆเคลื่อนเดียวดายก็ยกมือบอกว่า “อิงตามกติกาการประลองครั้งนี้ สนามแรกเยี่ยเว่ยหมิงได้ห้าคะแนน สนามที่สองได้สี่คะแนน รวมเป็นทั้งหมดเก้าคะแนน เป็นอันดับหนึ่งในการประลองครั้งนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา”

“แต่สะพานสวรรค์คริสตัลกับจันทราสะท้อนน้ำ ทั้งคู่ได้หกคะแนนเหมือนกัน หากนำคะแนนของพวกเขาสองคนมาเทียบกันตามขั้นตอนการประลอง พวกเขาควรจะสู้กันตัวต่อตัวเพื่อช่วงชิงตำแหน่งรองชะนะเลิศถึงจะถูก…

…แต่ท่านประกาศตำแหน่งรองชนะเลิศอย่างเผด็จการเช่นนี้ สำหรับสหายจันทราสะท้อนน้ำแล้ว นับว่าไม่ยุติธรรมไม่ใช่หรอกหรือ”

หวงเย่าซือได้ยินแล้วเผยสายตาเยียบเย็นทันที จากนั้นหันกลับไปมองจันทราสะท้อนน้ำ อีกฝ่ายเอ่ยปากอย่างให้ความร่วมมือทันที “ศิษย์ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ต่อการจัดอันดับของอาจารย์”

พอพูดจบก็ส่งข้อความส่วนตัวให้เมฆเคลื่อนเดียวดายทันที [สหาย เลิกวางกับดักข้าได้แล้ว]

[ท่านอาจารย์รู้ว่าข้าสู้ไม่ชนะผู้หญิงคนนั้นแน่นอน ถึงได้ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย]

[หากดึงดันจะให้ข้าสู้กับนางให้ได้ นอกจากจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรแล้ว ยังจะเสียค่าความรู้สึกดีจากอาจารย์ไปเปล่าๆ ด้วย ขาดทุนย่อยยับจริงๆ!]

“พี่ใหญ่เยี่ย!” ตอนนี้เอง สะพานสวรรค์น้อยก้าวออกมายืนข้างกายเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว จากนั้นก็ยืนข้างเขาอย่างสงบนิ่ง พร้อมส่งข้อความในช่องแชททีม [พี่ใหญ่เยี่ย ท่านยอดเยี่ยมจริงๆ แม้จะรู้ว่าท่านได้รับภารกิจ แต่ข้านึกไม่ถึงเลยว่าท่านจะทำให้โอวหยางเฟิงบาดเจ็บได้แล้วจริงๆ!]

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วตอบกลับอย่างถ่อมตัวมาก “ไม่มีอะไรหรอก ข้าใช้ ‘กระบี่จงชง’ เร็วไปหน่อย ก็เลยเป็นฝ่ายได้เปรียบเท่านั้นเอง”

สะพานสวรรค์น้อยได้ยินแล้วอึ้ง “ลงมือเร็วเกินไป?”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าเบาๆ เมื่อเห็นนางทำท่าเหมือนเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ก็อธิบายในช่องทีมอย่างใจเย็น [ที่จริงตอนที่การประลองสนามแรกจบลง ข้านำมีดสั้นของกัวจิ้งมาขู่โอวหยางเค่อ ข้าก็เริ่มลงมือแล้ว]

[เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น ข้าก็ใช้นิ้วกลางยั่วยุโอวหยางเฟิงซ้ำๆ มาตลอด ทั้งยังใช้ประโยชน์จากทุกอย่างเพื่อทำให้เขาอับอายและยั่วโมโหเขา ที่จริงก็เพื่อโจมตีด้วย ‘กระบี่จงชง’ ตอนสุดท้าย]

เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนเผยรอยยิ้มที่สื่อว่าทำเช่นนี้สมเหตุสมผลแล้ว [ข้าเตรียมตัวและพยายามตั้งมากมายทั้งตอนแรกและตอนหลัง หากข้าหลอกลวงโอวหยางเฟิงไม่สำเร็จสักครั้ง จะไม่ไร้เหตุผลเกินไปหน่อยหรือ]

ตอนนี้สะพานสวรรค์น้อยถึงได้เข้าใจ จึงไม่คุยผ่านช่องแชททีมอีกแล้ว เปลี่ยนมาพูดกับเยี่ยเว่ยหมิงอย่างจริงจังมากว่า “พี่ใหญ่เยี่ย ขอบคุณมาก”

“ขอบคุณข้าทำไม” เยี่ยเว่ยหมิงถามกลับ

“ข้าไม่สนหรอก” สะพานสวรรค์น้อยยิ้มอย่างสดใจราวกับดอกไม้ “ถึงอย่างไรข้าก็ต้องขอบคุณท่าน”

ที่จริงแล้ว เมื่อครู่นี้เยี่ยเว่ยหมิงมีโอกาสเอาชนะโอวหยางเฟิง

ตอนที่ ‘กระบี่จงชง’ ของเขาโจมตีเป้าหมายสำเร็จจนติดสถานะด้านลบสามรายการ ขอเพียงตอนสุดท้ายใช้ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ สักกระบวนท่า หรือไม่ก็ใช้ท่าไม้ตายที่ลงมือได้รวดเร็วอย่าง ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ก็จะทำให้อีกฝ่ายตกต้นไม้ได้แล้ว

เพียงแต่การทำอย่างนั้น นอกจากจะทำให้เขาได้อวดเก่งมากขึ้น ก็ไม่มีความหมายที่แท้จริงใดๆ อีก ทั้งยังเป็นการทำตรงข้ามกับผลประโยชน์ระหว่างเขากับสะพานสวรรค์น้อยด้วย

ประการแรก ตามที่โจวปั๋วทงบอกมา สะพานสวรรค์น้อยต้องได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ ถึงจะรักษา ‘วิชาต่อสู้ซ้ายขวา’ ของนางเอาไว้ได้

อีกด้านหนึ่ง ในการประลองสองสาม ทำให้จันทราสะท้อนน้ำได้ไปแล้วหกคะแนน หากเยี่ยเว่ยหมิงชนะโอวหยางเฟิง เช่นนั้นแม้เขาจะได้รางวัลชนะเลิศด้วยสิบคะแนนเต็ม แต่ตำแหน่งรองชนะเลิศก็จะตกเป็นของจันทราสะท้อนน้ำ สะพานสวรรค์น้อยก็ทำได้เพียงสู้กับเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นเพื่อชิงตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับสอง

เช่นนั้นไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ นางก็จะรักษา ‘วิชาต่อสู้ซ้ายขวา’ ไว้ไม่ได้แล้ว ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ ที่มี ‘วิชาต่อสู้ซ้ายขวา’ เป็นพื้นฐานก็จะหายไปเช่นกัน!

แบบนั้นน่าเศร้าเกินไป!

แต่เยี่ยเว่ยหมิงต่อให้แพ้สนามนี้ แต่คะแนนที่สะสมมาเก้าคะแนนก็ยังทำให้เขาได้รางวัลชนะเลิศอยู่ดี

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาจำเป็นต้องดื้อด้านอวดเก่งอีกหรือ

ดังนั้น หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงใช้ ‘กระบี่จงชง’ แล้ว ก็ใช้ ‘มารสวรรค์ทลาย’ ที่มีพลังโจมตีแข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ลังเล หากโจมตีให้แรงสักหน่อย โอวหยางเฟิงจะต้องบาดเจ็บซ้ำแน่ พลังชีวิตลดจนเหลือครึ่งเดียวได้ก็ขอบคุณมากแล้ว

เช่นนั้นระดับความสำเร็จภารกิจลับของหวงหรง…

แต่ก็น่าเสียดาย ถึงอย่างไรห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้าก็ยังเป็นห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้า แม้จะถูกกดความสามารถเอาไว้ แต่ก็ถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีบาดเจ็บแล้ว เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ติดสถานะด้านลบสามรายการ แต่ก็ยังหลบ ‘มารสวรรค์ทลาย’ ของเขาได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เขาทำลายเส้นชีพจรตนเองไปโดยเปล่าประโยชน์หนึ่งครั้ง

ซึ่งสาเหตุที่สะพานสวรรค์น้อยยืนกรานขอบคุณ ก็กำลังหมายถึงเรื่องที่เยี่ยเว่ยหมิงมอบชัยชนะให้นางในตอนสุดท้าย

เพียงแต่คนเจ้าเล่ห์อย่างเยี่ยเว่ยหมิง จะยอมรับต่อหน้าทุกคนได้อย่างไรว่าตัวเองโกงการประลอง

ทุกคนรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านอะไรอีก หวงเย่าซือถึงได้พูดต่อ “ถึงแม้ในการประลองครั้งนี้ จอมยุทธ์น้อยทุกคนมีแพ้บ้างชนะบ้าง แต่ในเมื่อทุกคนมาเข้าร่วมประลองแล้ว ก็เท่ากับว่าไว้หน้าข้าหวงเย่าซือ ข้าย่อมไม่ให้พวกเขากลับไปมือเปล่า เพียงแต่รางวัลก็มีทั้งดีทั้งแย่ ยังต้องแจกตามลำดับการประลอง”

ระหว่างที่พูดก็หันไปมองเยี่ยเว่ยหมิง แล้วถามอย่างเนิบนาบ “เจ้าเด็กแสบ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของการประลองครั้งนี้ ว่ามาเถอะ เจ้าอยากได้รางวัลอะไร…

…ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดกระบี่ วิชาหมัด วิชาขา หงชีกง วิชากำลังภายใน วิชาฉีเหมินตุ้นเจี่ย วิชาแพทย์ดาราศาสตร์…ไม่ว่าเจ้าอยากจะได้รางวัลอะไร ข้าก็เติมเต็มความต้องการของเจ้าได้หมด!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด