ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 642 งานชุมนุมใหญ่สวนบ๊วย

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 642 งานชุมนุมใหญ่สวนบ๊วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 642 งานชุมนุมใหญ่สวนบ๊วย

สำหรับเรื่องที่พวกจันทราสะท้อนน้ำแย่งฆ่า BOSS ของน้องดาบกับสะพานสวรรค์น้อย เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ถือสาเลยแม้แต่น้อย

สำหรับอิงกูคนนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็แค่หวังให้นางตายเฉยๆ

ส่วนจะตายด้วยน้ำมือใครก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเยี่ยเว่ยหมิง และเมื่อดูจากการแสดงออกของสะพานสวรรค์น้อย ก็เหมือนจะไม่สำคัญสำหรับนางเช่นกัน

ที่สำคัญก็คือ ในที่สุดนางก็กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากเฒ่าทารกหลุดจากการถูกกักขังแล้ว กำลังจะเกิดเหตุการณ์ ‘นกยวนยางเคียงคู่เล่นน้ำ’ อีกครั้ง จู่ๆ ฝ่ายหญิงก็ถูกคนสังหารตาย จุดนี้สำคัญมาก

เป็นเรื่องที่คนทั่วไปชอบอกชอบใจจริงๆ!

หลังจากกล่าวอำลาสะพานสวรรค์น้อยอย่างเบิกบานใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็กลับไปที่สำนักมือปราบเทพทันที ผลปรากฏว่าพอเข้าประตูใหญ่มาก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยของโหยวจิ้นทักทายเขาตั้งแต่ไกลๆ “เว่ยหมิงเอ๋ย ทำไมเพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ รีบมานี่สิ ข้ามีภารกิจสำคัญจะมอบหมายให้เจ้าจัดการ”

“อ้อ?”

สำหรับน้ำเสียงที่เหมือนสนิทกันของโหยวจิ้น ตอนแรกเยี่ยเว่ยหมิงยังรู้สึกว่าขัดกับความรู้สึกมาก แต่เมื่อเวลานานไป เขาก็เริ่มชินแล้วเช่นกัน

หลังจากเอ่ยรับ เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบเดินเข้าไปหา

เป็นเพราะชินแล้วเช่นกัน หน้ากากเหล็กของโหยวจิ้นไม่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกกดดันอีกต่อไป เขาจึงเป็นฝ่ายทักทายก่อนด้วยใบหน้ายิ้มทะเล้น “หัวหน้าโหยว เมื่อครู่ข้าเพิ่งได้ยินลู่ติ่งกงบอกว่าท่านมีภารกิจสำคัญ ให้ข้ารีบเดินทางกลับมาทันที จะว่าไปแล้ว เป็นภารกิจอะไรกันแน่”

แม้จะได้ยินเบาะแสมาจากเหวยเสี่ยวเป่ามาแล้วนิดหน่อย แต่วิธีการเปิดเผยครึ่งเดียวแบบนั้นไม่เหมาะสมจริงๆ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าให้โหยวจิ้นเล่าเองตั้งแต่ต้นดีกว่า

โหยวจิ้นยังคงใช้น้ำเสียงแหบพร่าอธิบาย “เว่ยหมิง ด้วยความใส่ใจของเจ้า คงจะสังเกตได้แล้วว่าช่วงนี้ในยุทธภพมีชาวยุทธ์หลายคนตายด้วยสุดยอดวิชาที่มาจากที่เดียวกัน”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วพยักหน้า จากนั้นบอกว่า “เพราะการตายประเภทนี้แทบจะระบุตัวคนร้ายได้ ชาวยุทธ์พวกนั้นแทบจะตัดสินทันทีว่าผู้ร้ายคือมู่หรงแห่งกูซู…

…กระทั่งตอนนี้ ผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาเหยื่อก็คือไต้ซือเสวียนเปยจากเส้าหลิน แต่ด้วยทักษะวิชาของเขา หากมู่หรงฟู่อยากจะสังหารก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเส้าหลินจึงไม่ทำให้มู่หรงแห่งกูซูลำบากใจเพราะเรื่องนี้…

…ส่วนที่เหลือมีแต่ชาวยุทธ์ทั่วไปทั้งนั้น เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้…

…ตอนทำภารกิจก่อนหน้านี้ข้าเคยเจอครั้งหนึ่ง หลายสิบคนรวมกลุ่มกันไปหาเรื่องที่สกุลมู่หรงแห่งกูซู ผลปรากฏว่าแม้แต่หน้าของมู่หรงฟู่ก็ไม่ได้เห็น โดนจอมหาเรื่องที่ชื่อเปาปู้ถงไล่กลับไปหมดแล้ว”

โหยวจิ้นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนบอกอีกว่า “ที่เจ้าพูดเดิมทีก็ไม่ผิด แต่ช่วงนี้ในยุทธภพกลับมีคนที่ฐานะไม่ธรรมดาคนหนึ่งตายเพราะสุดยอดทักษะอันเลื่องชื่อของตัวเองเช่นกัน เขาคือรองประมุขพรรคกระยาจก หม่าต้าหยวน!”

จะว่าไปแล้ว ทั้งเนื้อเรื่อง ‘แปดเทพอสูรมังกรฟ้า’ แทบจะเกี่ยวข้องกับหลักการที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ นั่นก็คือลูกชดใช้หนี้ให้พ่อ

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าต้วนอวี้มีน้องสาวที่ดีหลายคน และไม่เอ่ยถึงซวีจู๋ที่ถูกวางอุบายจนกลายเป็นหลวงจีนน้อย อย่างไรเสียความสัมพันธ์ของพวกเขาสองพ่อลูกก็ไร้หัวใจอยู่แล้ว

ส่วนบิดาของเฉียวเฟิงเหนือกับมู่หรงใต้ ยามจะวางอุบายลูกชายตัวเองขึ้นมาก็ไม่เกรงใจเลยสักนิด อีกทั้งสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองก็คือ แม้ทั้งสองจะมีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนกันว่าจะวางกับดักลูกชายตนเอง ใส่ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา จนทำให้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาสองคนเป็นพ่อลูกกันจริงหรือเปล่า

แต่มู่หรงปั๋ววางกับดักลูกตนเองอย่างมีขอบเขตมากกว่า นอกจากเสวียนเปยที่ค้นพบความลับที่เขาแกล้งตาย ตอนฆ่าปิดปากจึงต้องใช้ ‘ดาวเคลื่อนดาราคล้อย’ พวกศัตรูที่เขานำมาสู่มู่หรงฟู่ ก็ล้วนอยู่ในขอบเขตที่มู่หรงฟู่รับมือได้สบายๆ

ยกตัวอย่างเช่นเหยาปัวตังกับซือหม่าหลินก่อนหน้านี้ ก็ล้วนเป็นตัวละครประเภทนั้น

หากมู่หรงฟู่แสดงความสามารถได้ดีพอ ก็จะถือโอกาสครั้งนี้สร้าง ‘คนร้ายที่แท้จริง’ ขึ้นมาได้ ให้คนที่ ‘โยนความผิดให้มู่หรงแห่งกูซู’ รับตัวไว้ใช้งานเอง

ต้องบอกเลยว่านี่คือหมากกระดานใหญ่ ถือว่าใช้วิธีการ ‘ทำจริงให้เป็นเท็จ ทำเท็จให้เป็นจริง’ ออกมาได้อย่างแยบยลถึงขีดสุด

ทว่าการกระทำที่คล้ายกลับรอให้จนตรอกแล้วค่อยบุกเช่นนี้ ก็จะเกิดผลกระทบเพราะ ‘ทฤษฎีหงส์ดำ’ ได้ง่ายมาก

ส่วนเรื่องที่หม่าต้าหยวนถูกสังหาร ก็เป็นเพียงหงส์ดำตัวหนึ่ง!

ถ้าไม่เกิดเรื่องระดับนี้ขึ้น เชื่อว่าคนเจ้าแผนการอย่างมู่หรงปั๋ว หากไม่มีความมั่นใจก็ไม่มีทางไปหาเรื่องเผือกร้อนอย่างพรรคกระยาจกง่ายๆ แน่

ถึงอย่างไรในโลกของแปดเทพอสูรมังกรฟ้า พรรคกระยาจกกับเส้าหลินเปรียบเสมือนดาวเหนือของไท่ซาน แตกต่างจากพวกพวกปลาเน่าในยุทธภพโดยสิ้นเชิง

เมื่อเรื่องราวใหญ่โตขึ้น ก็อาจจะทำให้ชื่อของมู่หรงแห่งกูซูหายไปจากยุทธภพ อย่างน้อยก็ถูกทำร้ายให้บาดเจ็บไปถึงเส้นเอ็น

นี่ไม่ใช่สิ่งที่มู่หรงปั๋วอยากเห็นแน่นอน

แต่น่าเสียดาย เหมือนว่าวิธีการเล่นแบบนั้นของเขา เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้

เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว แม้จะเป็นความบังเอิญ แต่ก็เป็นสิ่งที่แน่นอนเช่นกัน!

อย่างไรเสีย ตอนนี้มู่หรงปั๋วก็สร้างชื่อเสียงว่ามู่หรงแห่งกูซูใช้ ‘ทำร้ายศัตรูด้วยวิธีการของศัตรู’ สังหารคนไปทั่วเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นหากมีคนต้องการจะทำอะไรสักอย่างเพื่อล้างแค้นอย่างลับๆ เรื่องราวประเภทฆ่าคนปิดปากก็นำมาใช้เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายได้เลย

ถึงอย่างไรบาดแผลที่เกิดจากทักษะยุทธ์บางอย่างก็ไม่อาจเลียนแบบได้ง่ายๆ

หลังจากอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ให้เยี่ยเว่ยหมิงฟังแล้ว โหยวจิ้นก็พูดต่อ “เรื่องนี้ดูเหมือนง่าย แต่หากมีใครตั้งใจใช้ประโยชน์ขึ้นมา ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอย่างศึกระหว่างยุทธภพฝั่งเหนือและฝั่งใต้ หรือไม่ก็ทำให้ยุทธภพภาคกลางเสียหายอย่างหนักผ่านวิธีการอื่น…

…เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้น สำนักมือปราบเทพจึงตัดสินใจที่จะส่งผู้เล่นทั้งหมดไปสืบเรื่องนี้ที่สวนบ๊วยอู๋ซี ทำให้ยุทธภพสงบลง”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วหลุดขำ “ยังจะบอกว่าผู้เล่นทั้งหมดอีก พูดให้ชัดก็คือมีแค่สี่คนเองไม่ใช่หรือ”

“ไม่ใช่!” โหยวจิ้นแก้ไขให้ถูกต้องอย่างจริงจัง “พูดให้ถูกก็คือมีสามคน เพราะคนสุดท้ายที่ทำภารกิจทักษะอักษร ‘ผี’ ยังทำภารกิจไม่เสร็จ”

[ติ๊ง! รับภารกิจสำนัก ‘งานชุมนุมใหญ่สวนบ๊วย’]

[งานชุมนุมใหญ่สวนบ๊วย]

หม่าต้าหยวน รองประมุขพรรคกระยาจกถูกสังหารด้วยทักษะวิชาของตนเอง พรรคกระยาจกต้องการเรียกร้องความยุติธรรม จึงเรียกรวมยอดฝีมือในพรรคไปรวมตัวกันที่สวนบ๊วยอู๋ซี ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพที่ได้รับภารกิจกรุณาไปสืบหาความจริง และป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีเจตนาไม่ซื่อใช้ประโยชน์จากเรื่องในครั้งนี้ก่อปัญหา

ระดับภารกิจ: 7 ดาว

รางวัลภารกิจ: ดูจากระดับความสำเร็จในการทำภารกิจ

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: หักค่าจ้างครึ่งปี

……

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงรับภารกิจแล้ว โหยวจิ้นก็กำชับอีกว่า “เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ออกเดินทางล่วงหน้าเจ้าแล้ว หลังจากเจ้าไปถึงสวนบ๊วยก็ไปรวมตัวกับพวกเขาได้ ร่วมมือกันทำภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้ารับแล้วหันตัวเดินออกจากสำนักมือปราบเทพทันที ตรงไปยังจุดพักม้าเพื่อให้ส่งตัวไปที่อู๋ซี จากนั้นวิ่งต่อไปยังสวนบ๊วย

ตอนที่เขาไปถึง ในสวนบ๊วยก็มีคนมารวมตัวกันแล้วไม่น้อย

แต่ดูจากท่าทางแล้ว งานชุมนุมของพรรคกระยาจกยังไม่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

เพราะดูจากเหตุการณ์ในตอนนี้ กลุ่มคนจากพรรคกระยาจกเหมือนกำลังทำตัวเป็นป้าข้างบ้านที่กำลังรอดูละครสนุกๆ

บ่าวรับใช้คนที่สามของสกุลมู่หรง เจ้าบ้านของบ้านจินเฟิง เปาปู้ถงฉายาท่านเปาสาม ตอนนี้กำลังถูกผู้เล่นหลายคนจับกดสั่งสอนอยู่บนพื้น…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด