ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ!

อันที่จริง หากมีทางเลือก เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่อยากประจัญหน้ากับเจ้าสำนักอย่างอวี๋ชางไห่เช่นกัน

ทว่าก่อนหน้านี้ แค่อวี๋ชางไห่ใช้สายตา ก็ทำให้คนในทีมสำนักมือปราบเทพขลาดกลัวทั้งที่ยังไม่ได้สู้แล้ว ถ้าปล่อยให้เสียอาการอย่างนี้ต่อไป ก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่มีความกล้าหาญพอจะต่อสู้อีก

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นหายนะ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงเสี่ยงยั่วโมโหอีกฝ่าย ทำให้ขวัญกำลังใจทหารฝ่ายตัวเองไม่ปั่นป่วนก่อนออกรบ!

เมื่อผู้เชี่ยวชาญลงมือ เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่หรือมั่ว!

เพียงแต่เมื่อได้เห็นอวี๋ชางไห่ใช้กระบี่ต่อหน้าต่อตา เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายแตกต่างกับขยะสี่ตัวที่เขารับมือด้วยก่อนหน้านี้

เป็น ‘เคล็ดกระบี่กระบี่ลมสน’ เหมือนกัน แต่เมื่อแสดงประสิทธิภาพออกมาจากมืออวี๋ชางไห่ กลับห้าวหาญไร้เทียมทาน

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกกดดันอยู่บ้าง อีกฝ่ายแค่เหนือกว่าหลินจื้อเพ่ยก่อนหน้านี้เสียที่ไหนกัน?

นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ฉันจะเอาชนะในตอนนี้ได้เลย!

ความคิดมากมายแวบผ่านเข้ามาในหัว กระบี่ชิงจู๋ในมือเขาฟันออกมาด้วยลักษณะห้าวหาญไร้ที่เปรียบเช่นเดียวกัน ดูจากลักษณะพลังที่แสดงออกมา ทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าสำนักที่อยู่ตรงหน้า

แต่ความจริงแล้ว กระบวนท่านี้ของเขาทั้งสร้างดาเมจให้ศัตรูไม่ได้ ทั้งไม่มีผลต่อการก่อกวนศัตรู นอกจากจะดูโหดในสายตาคนรอบข้างแล้ว ข้อดีที่เหลือก็แค่ปกป้องตัวเอง จุดนี้คือข้อดีที่ควรค่าแก่การชื่นชม

เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ชุดนี้ ท่ามกลางวิทยายุทธ์มากมายในใต้หล้า หากพูดถึงความสามารถในการปกป้องตัวเอง ก็ถือว่าเหนือกว่าวิทยายุทธ์แขนงอื่นแล้ว

ทว่าต่อให้จะมีความสามารถในการปกป้องตัวเองอย่างไร แต่ความสามารถในการต้านรับก็มีขีดจำกัด เมื่ออยู่ในเงื่อนไขที่ต้องใช้กำลังน้อยกว่าเอาชนะกำลังที่มากกว่าเหมือนเอาสี่ตำลึงไปปาดพันชั่ง เจ้าก็ต้องมีพลังให้ได้สี่ตำลึงเสียก่อน!

ความสามารถที่แตกต่างระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับอวี๋ชางไห่ แน่นอนว่าแม้ไม่มากถึง 1000: 0.4 แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เคล็ดกระบี่กระจอกอย่าง ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ จะชดเชยให้เต็มได้อยู่ดี

เปรี้ยง!

ตอนที่กระบี่สองเล่มกระทบกัน ก็เกิดเสียงราวกับฟ้าผ่าดังก้องอยู่บนถนน ในขณะเดียวกันนี้เอง ความสามารถที่แตกต่างของมือกระบี่ทั้งสองก็แสดงออกมาหมดเปลือกด้วยการโจมตีนี้

ภายใต้การโจมตีนี้ ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตัวสั่นทันที ร่างกายเขาเซไปมาหลายครั้ง ถอยหลังต่อเนื่องสามก้าวกว่าจะดันทุรังต้านแรงกระแทกไหว ส่วนอวี๋ชางไห่ก็เพียงโซเซเล็กน้อยก่อนจะหมุนคมกระบี่อีกครั้ง แล้วไล่สังหารมาทางเยี่ยเว่ยหมิง

อวี๋ชางไห่คนเลิศ เจ้าสำนักชิงเฉิงคนปัง!

ต่อให้อยู่ในโหมดภารกิจ ค่าสเตตัสประจำตัวกับเลเวลลดลงเยอะมาก แต่ก็ยังไม่ใช่ BOSS ที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสู้ด้วยซึ่งหน้าไหว

ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ไหวเช่นกัน!

ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงถูกอวี๋ชางไห่โจมตีจนสะเทือนถอยหลัง เงาร่างหนึ่งชายหนึ่งหญิงก็พุ่งสังหารเข้ามาจากฝั่งซ้ายและขวาของเขาแล้ว ดาบและกระบี่ในมือแบ่งโจมตีไปตรงกระดูกซี่โครงฝั่งซ้ายและขวาของอวี๋ชางไห่

ท่าดาบมั่นคง เคล็ดกระบี่อ่อนช้อย แม้จะเป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกันโจมตีศัตรู แต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างรู้ใจกันมาก

“ฮ่ะ!” ในขณะเดียวกันนี้เอง เสียงตะคอกของผู้หญิงก็พลันดังขึ้นเหนือศีรษะของอวี๋ชางไห่ ตามด้วยเงาร่างอรชรอ้อนแอ้นที่โผเข้ามาในท่าโหม่งศีรษะลง ใช้ฝ่ามือขวาโจมตีไปตรงหน้าอวี๋ชางไห่หนึ่งที แต่เก็บมือซ้ายไว้ตรงเอว มีอีกท่าไม้ตายหนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้

สามคนที่รับคู่ต่อสู้ไปจากมือเยี่ยเว่ยหมิงคือเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ สองมือปราบจากสำนักมือปราบเทพ ส่วนอีกคนก็คือยอดฝีมือสาวงามจากสำนักที่ปิดบังตัวเองอย่างสำนักสุสานโบราณ

ขณะที่เผชิญกับการขนาบโจมตีจากสามยอดฝีมือ ขนาดเยี่ยเว่ยหมิงยังไม่กล้าใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ไปเผชิญหน้าโดยตรงเลย แต่อวี๋ชางไห่กลับไม่หวาดกลัวต่อสิ่งนี้สักนิด เห็นกระบี่ในมือเขาควงหมุนจนเกิดเงาเลือนรางเหมือนดอกกระบี่ ในระหว่างที่กวาดหนึ่งทีและแทงหนึ่งที ก็โจมตีโดนดาบของเฟยอวี๋และกระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยอย่างแม่นยำไร้ที่เปรียบ

ได้ยินเพียงเสียง แกร๊ง! แกร๊ง! ดังชัดเจน ยอดฝีมือสองคนที่โดดเด่นกว่าผู้เล่นอื่นก็ถูกท่วงท่าสบายๆ ของเขาเล่นงานจนกระเด็นออกไปอย่างนี้แล้ว หลังจากหลังกระแทกกำแพงบ้านชาวบ้าน ทั้งสองถึงได้ฝืนควบคุมร่างกายให้นิ่งได้

ในขณะเดียวกันนี้เอง การโจมตีเหนือศีรษะจากซานเย่ว์ก็มาถึงแล้ว อวี๋ชางไห่ที่ชักกระบี่กลับมาโต้ตอบไม่ทันได้แต่ยกฝ่ามือซ้ายขึ้นมาตบโจมตีขึ้นไปข้างบน กระแทกมือขาวเรียวเล็กของของซานเย่ว์ด้วยท่าทางดุดันปานฟ้าผ่าทันที

เพี้ยะ!

สองฝ่ามือชนกัน เพียงส่งเสียงเบาๆ ที่ไม่สะดุดหู ทว่าซานเย่ว์ที่เป็นหนังหน้าไฟกลับเหมือนโดนสายฟ้าฟาด ร่างถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายตบสะเทือนจนกระเด็นถอยหลังไปไกลมาก มือซ้ายที่รวบรวมพลังมานานก็ลงมือโจมตีไม่ทัน สะเทือนจนพลังกระจัดกระจายไปหมดแล้ว

ซานเย่ว์ที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรงตัวลอยอยู่กลางอากาศ นางกระอักเลือดสดคำใหญ่ออกมา ค่าพลังชีวิตที่อยู่เหนือศีรษะถูกพรากไปแล้วหนึ่งในสามส่วน ร่วงตกลงข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงเหมือนว่าวสายป่านขาด เกือบจะหัวคะมำคาที่จนอับอาย!

ส่วนอวี๋ชางไห่ที่โจมตีจนศัตรูล่าถอยไปหลายคน ตอนนี้ในมือกำลังควงกระบี่ โจมตีอาวุธลับของถังซานไฉ่และลูกดอกจากหน้าไม้ของโหยวโหยวที่ยิงเข้ามาจนตกพื้นพร้อมกัน

อันที่จริง การโจมตีจากสองตัวละครสำคัญของสำนักถังเหมินแม้จะดูเหมือนไร้ประโยชน์ แต่กลับช่วยชีวิตซานเย่ว์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ใช้ฝ่ามือเดียวกำจัดการโจมตีของซานเย่ว์ อวี๋ชางไห่ก็คิดจะถือโอกาสใช้ดาบปลิดชีพนางไปด้วยเสียเลย เคราะห์ดีที่สองคนนี้ลงมือทันเวลา ทำให้อวี๋ชางไห่ต้องเก็บกระบี่กลับมาป้องกัน ถึงได้ทำให้ทีมเล็กของสำนักมือปราบเทพหลีกเลี่ยงผลร้ายสูญเสียสมาชิกในทีมตั้งแต่ยกแรกในการต่อสู้ไปได้

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ดีกว่าไปสักเท่าไร

ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงล่อมอนสเตอร์ก่อน ในสถานการณ์ที่ทุกคนที่เตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว แม้จะร่วมมือกันก็ยังสร้างผลงานไม่ได้ ตอนนี้เสียความได้เปรียบไปแล้ว แล้วพวกเขาจะกู้สถานการณ์กลับมาอย่างไรได้อีก

แต่กลับเห็นว่าในขณะที่อวี๋ชางไห่ต้านอาวุธลับของทั้งสอง มือซ้ายของเขาก็พลันล้วงเข้าหน้าอก จากนั้นสะบัดข้อมือโจมตีอาวุธลับออกมหลายชิ้นอย่างเงียบเชียบ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ข้อมือของโหยวโหยวจึงถูกโจมตีบาดเจ็บไปโดยปริยาย ทำให้นางโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้อีกต่อไป จากนั้นอวี๋ชางไห่ก็โจมตีเหมือนตอนแรกไม่มีผิด โปรยอาวุธลับออกมาอีกกำ ทำให้แขนของถังซานไฉ่บาดเจ็บ แล้วยังโดนพรากพลังชีวิตไปเกือบครึ่ง

อวี๋ชางไห่คนนี้สมแล้วที่เป็นเจ้าสำนัก!

ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หมัดเท้า หรืออาวุธลับ ก็ล้วนบดขยี้ยอดฝีมือระดับบนในหมู่ผู้เล่นที่อยู่ตรงนี้ได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีสักคนที่ปะทะกับเขาซึ่งๆ หน้าแล้วรับหนึ่งกระบวนท่าได้โดยไม่ถอย

จากสิ่งนี้จะเห็นได้ว่า ความสามารถที่แตกต่างกันของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเลขจะชดเชยได้แล้ว

แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะเชื่อมั่นมาตลอดว่าระบบไม่มีทางมอบหมายภารกิจที่ไม่มีทางทำสำเร็จให้ แต่ตอนนี้จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ว่าภารกิจระดับหกดาวขึ้นไปจะอยู่นอกเหนือคอนเซ็ปต์นี้หรือเปล่า

ขณะที่กำลังคิด ซานเย่ว์กับเฟยอวี๋ก็ฮึดขึ้นมาสู้ใหม่แล้ว พวกเขาพุ่งออกไปอีกครั้ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันน่ากลัวของอวี๋ชางไห่ ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นตายหนึ่งเจ็บหนึ่ง เฟยอวี๋ติดสถานะบาดเจ็บสาหัส หากไม่ใช้เวลาสักระยะ ก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะฟื้นฟูพลังต่อสู้กลับมาได้

ส่วนซานเย่ว์ก็ถูกอวี๋ชางไห่แทงกระบี่เดียวทะลุหัวใจ ในขณะที่ทุกคนตามมาช่วยไม่ทัน นางก็โดนอีกหนึ่งฝ่ามือตบหน้าอกจนกลายเป็นแสงสีขาวหายไปแล้ว กลายเป็นการสูญเสียสมาชิกครั้งแรกของสำนักมือปราบเทพขณะทำภารกิจ!

เยี่ยเว่ยหมิงมองฉากนี้จนเลือดลมเดือดพล่านอยู่พักหนึ่ง อยากให้ตัวเองปะทุความสามารถอะไรสักอย่างออกมาเหมือนมียีนพิเศษ แล้วพุ่งเข้าไปสู้กับเจ้าคนน่ารังเกียจคนนี้แบบปลาตายตาข่ายขาด[1]ไปเลย

ทว่าในตอนนี้ กลับถูกสะพานสวรรค์น้อยถ่วงแข้งถ่วงขาไว้แน่น สลัดทิ้งไม่ได้

“พี่ใหญ่เยี่ยเว่ยหมิง!” ขณะกำลังดึงเยี่ยเว่ยหมิงไม่ให้พุ่งเข้าไปสู้ตายกับอวี๋ชางไห่ สะพานสวรรค์น้อยก็ถึงขั้นคุยแชทส่วนตัวในหน้าอินเตอร์เฟสระบบไม่ทัน จึงบอกต่อหน้าโดยตรงเลยว่า “ข้ามีวิธีการหนึ่งที่สู้กับอวี๋ชางไห่ได้ แต่ต้องขอความร่วมมือจากเจ้านะ”

“จะสู้กับพ่อรึ คนโง่อย่างพวกเจ้าสองคนช่างมั่นหน้าเสียจริงนะ!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะเหยียดหยาม อวี๋ชางไห่โบกกระบี่พุ่งเข้ามาแล้ว

ไม่สนว่าสะพานสวรรค์น้อยจะพูดจริงหรือเท็จ อวี๋ชางไห่ไม่ให้โอกาสเขาทำแผนการนี้สำเร็จ

[1] ปลาตายตาข่ายขาด 鱼死网破 หมายถึง ต่อสู้กันจนตายกันไปข้างหนึ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 71 BOSS ครบเครื่องเรื่องหมัดฝ่ามือ เคล็ดกระบี่ อาวุธลับ!

อันที่จริง หากมีทางเลือก เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่อยากประจัญหน้ากับเจ้าสำนักอย่างอวี๋ชางไห่เช่นกัน

ทว่าก่อนหน้านี้ แค่อวี๋ชางไห่ใช้สายตา ก็ทำให้คนในทีมสำนักมือปราบเทพขลาดกลัวทั้งที่ยังไม่ได้สู้แล้ว ถ้าปล่อยให้เสียอาการอย่างนี้ต่อไป ก็กลัวว่าพวกเขาจะไม่มีความกล้าหาญพอจะต่อสู้อีก

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นหายนะ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงเสี่ยงยั่วโมโหอีกฝ่าย ทำให้ขวัญกำลังใจทหารฝ่ายตัวเองไม่ปั่นป่วนก่อนออกรบ!

เมื่อผู้เชี่ยวชาญลงมือ เดี๋ยวก็รู้ว่าใช่หรือมั่ว!

เพียงแต่เมื่อได้เห็นอวี๋ชางไห่ใช้กระบี่ต่อหน้าต่อตา เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายแตกต่างกับขยะสี่ตัวที่เขารับมือด้วยก่อนหน้านี้

เป็น ‘เคล็ดกระบี่กระบี่ลมสน’ เหมือนกัน แต่เมื่อแสดงประสิทธิภาพออกมาจากมืออวี๋ชางไห่ กลับห้าวหาญไร้เทียมทาน

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกกดดันอยู่บ้าง อีกฝ่ายแค่เหนือกว่าหลินจื้อเพ่ยก่อนหน้านี้เสียที่ไหนกัน?

นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ฉันจะเอาชนะในตอนนี้ได้เลย!

ความคิดมากมายแวบผ่านเข้ามาในหัว กระบี่ชิงจู๋ในมือเขาฟันออกมาด้วยลักษณะห้าวหาญไร้ที่เปรียบเช่นเดียวกัน ดูจากลักษณะพลังที่แสดงออกมา ทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าสำนักที่อยู่ตรงหน้า

แต่ความจริงแล้ว กระบวนท่านี้ของเขาทั้งสร้างดาเมจให้ศัตรูไม่ได้ ทั้งไม่มีผลต่อการก่อกวนศัตรู นอกจากจะดูโหดในสายตาคนรอบข้างแล้ว ข้อดีที่เหลือก็แค่ปกป้องตัวเอง จุดนี้คือข้อดีที่ควรค่าแก่การชื่นชม

เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ชุดนี้ ท่ามกลางวิทยายุทธ์มากมายในใต้หล้า หากพูดถึงความสามารถในการปกป้องตัวเอง ก็ถือว่าเหนือกว่าวิทยายุทธ์แขนงอื่นแล้ว

ทว่าต่อให้จะมีความสามารถในการปกป้องตัวเองอย่างไร แต่ความสามารถในการต้านรับก็มีขีดจำกัด เมื่ออยู่ในเงื่อนไขที่ต้องใช้กำลังน้อยกว่าเอาชนะกำลังที่มากกว่าเหมือนเอาสี่ตำลึงไปปาดพันชั่ง เจ้าก็ต้องมีพลังให้ได้สี่ตำลึงเสียก่อน!

ความสามารถที่แตกต่างระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับอวี๋ชางไห่ แน่นอนว่าแม้ไม่มากถึง 1000: 0.4 แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เคล็ดกระบี่กระจอกอย่าง ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ จะชดเชยให้เต็มได้อยู่ดี

เปรี้ยง!

ตอนที่กระบี่สองเล่มกระทบกัน ก็เกิดเสียงราวกับฟ้าผ่าดังก้องอยู่บนถนน ในขณะเดียวกันนี้เอง ความสามารถที่แตกต่างของมือกระบี่ทั้งสองก็แสดงออกมาหมดเปลือกด้วยการโจมตีนี้

ภายใต้การโจมตีนี้ ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตัวสั่นทันที ร่างกายเขาเซไปมาหลายครั้ง ถอยหลังต่อเนื่องสามก้าวกว่าจะดันทุรังต้านแรงกระแทกไหว ส่วนอวี๋ชางไห่ก็เพียงโซเซเล็กน้อยก่อนจะหมุนคมกระบี่อีกครั้ง แล้วไล่สังหารมาทางเยี่ยเว่ยหมิง

อวี๋ชางไห่คนเลิศ เจ้าสำนักชิงเฉิงคนปัง!

ต่อให้อยู่ในโหมดภารกิจ ค่าสเตตัสประจำตัวกับเลเวลลดลงเยอะมาก แต่ก็ยังไม่ใช่ BOSS ที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะสู้ด้วยซึ่งหน้าไหว

ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ไหวเช่นกัน!

ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงถูกอวี๋ชางไห่โจมตีจนสะเทือนถอยหลัง เงาร่างหนึ่งชายหนึ่งหญิงก็พุ่งสังหารเข้ามาจากฝั่งซ้ายและขวาของเขาแล้ว ดาบและกระบี่ในมือแบ่งโจมตีไปตรงกระดูกซี่โครงฝั่งซ้ายและขวาของอวี๋ชางไห่

ท่าดาบมั่นคง เคล็ดกระบี่อ่อนช้อย แม้จะเป็นครั้งแรกที่ร่วมมือกันโจมตีศัตรู แต่ก็ให้ความร่วมมืออย่างรู้ใจกันมาก

“ฮ่ะ!” ในขณะเดียวกันนี้เอง เสียงตะคอกของผู้หญิงก็พลันดังขึ้นเหนือศีรษะของอวี๋ชางไห่ ตามด้วยเงาร่างอรชรอ้อนแอ้นที่โผเข้ามาในท่าโหม่งศีรษะลง ใช้ฝ่ามือขวาโจมตีไปตรงหน้าอวี๋ชางไห่หนึ่งที แต่เก็บมือซ้ายไว้ตรงเอว มีอีกท่าไม้ตายหนึ่งที่ยังไม่ได้ใช้

สามคนที่รับคู่ต่อสู้ไปจากมือเยี่ยเว่ยหมิงคือเฟยอวี๋กับซานเย่ว์ สองมือปราบจากสำนักมือปราบเทพ ส่วนอีกคนก็คือยอดฝีมือสาวงามจากสำนักที่ปิดบังตัวเองอย่างสำนักสุสานโบราณ

ขณะที่เผชิญกับการขนาบโจมตีจากสามยอดฝีมือ ขนาดเยี่ยเว่ยหมิงยังไม่กล้าใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ไปเผชิญหน้าโดยตรงเลย แต่อวี๋ชางไห่กลับไม่หวาดกลัวต่อสิ่งนี้สักนิด เห็นกระบี่ในมือเขาควงหมุนจนเกิดเงาเลือนรางเหมือนดอกกระบี่ ในระหว่างที่กวาดหนึ่งทีและแทงหนึ่งที ก็โจมตีโดนดาบของเฟยอวี๋และกระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยอย่างแม่นยำไร้ที่เปรียบ

ได้ยินเพียงเสียง แกร๊ง! แกร๊ง! ดังชัดเจน ยอดฝีมือสองคนที่โดดเด่นกว่าผู้เล่นอื่นก็ถูกท่วงท่าสบายๆ ของเขาเล่นงานจนกระเด็นออกไปอย่างนี้แล้ว หลังจากหลังกระแทกกำแพงบ้านชาวบ้าน ทั้งสองถึงได้ฝืนควบคุมร่างกายให้นิ่งได้

ในขณะเดียวกันนี้เอง การโจมตีเหนือศีรษะจากซานเย่ว์ก็มาถึงแล้ว อวี๋ชางไห่ที่ชักกระบี่กลับมาโต้ตอบไม่ทันได้แต่ยกฝ่ามือซ้ายขึ้นมาตบโจมตีขึ้นไปข้างบน กระแทกมือขาวเรียวเล็กของของซานเย่ว์ด้วยท่าทางดุดันปานฟ้าผ่าทันที

เพี้ยะ!

สองฝ่ามือชนกัน เพียงส่งเสียงเบาๆ ที่ไม่สะดุดหู ทว่าซานเย่ว์ที่เป็นหนังหน้าไฟกลับเหมือนโดนสายฟ้าฟาด ร่างถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายตบสะเทือนจนกระเด็นถอยหลังไปไกลมาก มือซ้ายที่รวบรวมพลังมานานก็ลงมือโจมตีไม่ทัน สะเทือนจนพลังกระจัดกระจายไปหมดแล้ว

ซานเย่ว์ที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรงตัวลอยอยู่กลางอากาศ นางกระอักเลือดสดคำใหญ่ออกมา ค่าพลังชีวิตที่อยู่เหนือศีรษะถูกพรากไปแล้วหนึ่งในสามส่วน ร่วงตกลงข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงเหมือนว่าวสายป่านขาด เกือบจะหัวคะมำคาที่จนอับอาย!

ส่วนอวี๋ชางไห่ที่โจมตีจนศัตรูล่าถอยไปหลายคน ตอนนี้ในมือกำลังควงกระบี่ โจมตีอาวุธลับของถังซานไฉ่และลูกดอกจากหน้าไม้ของโหยวโหยวที่ยิงเข้ามาจนตกพื้นพร้อมกัน

อันที่จริง การโจมตีจากสองตัวละครสำคัญของสำนักถังเหมินแม้จะดูเหมือนไร้ประโยชน์ แต่กลับช่วยชีวิตซานเย่ว์ไว้ได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ใช้ฝ่ามือเดียวกำจัดการโจมตีของซานเย่ว์ อวี๋ชางไห่ก็คิดจะถือโอกาสใช้ดาบปลิดชีพนางไปด้วยเสียเลย เคราะห์ดีที่สองคนนี้ลงมือทันเวลา ทำให้อวี๋ชางไห่ต้องเก็บกระบี่กลับมาป้องกัน ถึงได้ทำให้ทีมเล็กของสำนักมือปราบเทพหลีกเลี่ยงผลร้ายสูญเสียสมาชิกในทีมตั้งแต่ยกแรกในการต่อสู้ไปได้

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ดีกว่าไปสักเท่าไร

ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงล่อมอนสเตอร์ก่อน ในสถานการณ์ที่ทุกคนที่เตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว แม้จะร่วมมือกันก็ยังสร้างผลงานไม่ได้ ตอนนี้เสียความได้เปรียบไปแล้ว แล้วพวกเขาจะกู้สถานการณ์กลับมาอย่างไรได้อีก

แต่กลับเห็นว่าในขณะที่อวี๋ชางไห่ต้านอาวุธลับของทั้งสอง มือซ้ายของเขาก็พลันล้วงเข้าหน้าอก จากนั้นสะบัดข้อมือโจมตีอาวุธลับออกมหลายชิ้นอย่างเงียบเชียบ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ข้อมือของโหยวโหยวจึงถูกโจมตีบาดเจ็บไปโดยปริยาย ทำให้นางโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้อีกต่อไป จากนั้นอวี๋ชางไห่ก็โจมตีเหมือนตอนแรกไม่มีผิด โปรยอาวุธลับออกมาอีกกำ ทำให้แขนของถังซานไฉ่บาดเจ็บ แล้วยังโดนพรากพลังชีวิตไปเกือบครึ่ง

อวี๋ชางไห่คนนี้สมแล้วที่เป็นเจ้าสำนัก!

ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หมัดเท้า หรืออาวุธลับ ก็ล้วนบดขยี้ยอดฝีมือระดับบนในหมู่ผู้เล่นที่อยู่ตรงนี้ได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีสักคนที่ปะทะกับเขาซึ่งๆ หน้าแล้วรับหนึ่งกระบวนท่าได้โดยไม่ถอย

จากสิ่งนี้จะเห็นได้ว่า ความสามารถที่แตกต่างกันของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเลขจะชดเชยได้แล้ว

แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะเชื่อมั่นมาตลอดว่าระบบไม่มีทางมอบหมายภารกิจที่ไม่มีทางทำสำเร็จให้ แต่ตอนนี้จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ว่าภารกิจระดับหกดาวขึ้นไปจะอยู่นอกเหนือคอนเซ็ปต์นี้หรือเปล่า

ขณะที่กำลังคิด ซานเย่ว์กับเฟยอวี๋ก็ฮึดขึ้นมาสู้ใหม่แล้ว พวกเขาพุ่งออกไปอีกครั้ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันน่ากลัวของอวี๋ชางไห่ ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นตายหนึ่งเจ็บหนึ่ง เฟยอวี๋ติดสถานะบาดเจ็บสาหัส หากไม่ใช้เวลาสักระยะ ก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะฟื้นฟูพลังต่อสู้กลับมาได้

ส่วนซานเย่ว์ก็ถูกอวี๋ชางไห่แทงกระบี่เดียวทะลุหัวใจ ในขณะที่ทุกคนตามมาช่วยไม่ทัน นางก็โดนอีกหนึ่งฝ่ามือตบหน้าอกจนกลายเป็นแสงสีขาวหายไปแล้ว กลายเป็นการสูญเสียสมาชิกครั้งแรกของสำนักมือปราบเทพขณะทำภารกิจ!

เยี่ยเว่ยหมิงมองฉากนี้จนเลือดลมเดือดพล่านอยู่พักหนึ่ง อยากให้ตัวเองปะทุความสามารถอะไรสักอย่างออกมาเหมือนมียีนพิเศษ แล้วพุ่งเข้าไปสู้กับเจ้าคนน่ารังเกียจคนนี้แบบปลาตายตาข่ายขาด[1]ไปเลย

ทว่าในตอนนี้ กลับถูกสะพานสวรรค์น้อยถ่วงแข้งถ่วงขาไว้แน่น สลัดทิ้งไม่ได้

“พี่ใหญ่เยี่ยเว่ยหมิง!” ขณะกำลังดึงเยี่ยเว่ยหมิงไม่ให้พุ่งเข้าไปสู้ตายกับอวี๋ชางไห่ สะพานสวรรค์น้อยก็ถึงขั้นคุยแชทส่วนตัวในหน้าอินเตอร์เฟสระบบไม่ทัน จึงบอกต่อหน้าโดยตรงเลยว่า “ข้ามีวิธีการหนึ่งที่สู้กับอวี๋ชางไห่ได้ แต่ต้องขอความร่วมมือจากเจ้านะ”

“จะสู้กับพ่อรึ คนโง่อย่างพวกเจ้าสองคนช่างมั่นหน้าเสียจริงนะ!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะเหยียดหยาม อวี๋ชางไห่โบกกระบี่พุ่งเข้ามาแล้ว

ไม่สนว่าสะพานสวรรค์น้อยจะพูดจริงหรือเท็จ อวี๋ชางไห่ไม่ให้โอกาสเขาทำแผนการนี้สำเร็จ

[1] ปลาตายตาข่ายขาด 鱼死网破 หมายถึง ต่อสู้กันจนตายกันไปข้างหนึ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+