ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 529 ความจริงเปิดเผย!

Now you are reading ผู้กล้าเหนือกาลเวลา Chapter บทที่ 529 ความจริงเปิดเผย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 529 ความจริงเปิดเผย!

…………….

สวี่ชิงเงียบนิ่งไป

ผ่านไปสักพัก เขาเงยหน้าขึ้น ระลอกคลื่นในใจก็กลายเป็นพายุที่พัดโหมในสมอง ระลอกแล้วละรอกเล่า พัดม้วนไม่หยุด

“ท่านปลัดเขตปกครอง…” สวี่ชิงพำพึมเสียงทุ้ม

เขากับปลัดเขตปกครองพูดคุยกันไม่มากนัก แต่อันที่จริงในใจสวี่ชิงก็รู้สึกเคารพปลัดเขตปกครองมาก

สิ่งนี้มาจากการหลอมยาลูกกลอนของอีกฝ่ายและกลิ่นอายผู้คงแก่เรียนอย่างปรมาจารย์ไป่รวมถึงผู้อาวุโสใหญ่โถงครองกระบี่

สวี่ชิงยังจำได้อย่างชัดเจนจนถึงตอนนี้ ตอนที่เพิ่งจะมาถึงเมืองหลวงเขตปกครอง น้ำเสียงอ่อนโยนของอีกฝ่ายในวังครองกระบี่ แล้วก็คุณูปการอันยิ่งใหญ่ของยาลูกกลอนแก่นแท้ที่ผู้ดูแลซุนสรรเสริญ

จนหลังจากที่เปิดฉากสงคราม สวี่ชิงเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้ง

เขายังนึกถึงภาพตอนที่ตนเผชิญหน้ากับเผ่าเคียงเซียน อีกฝ่ายลงเรือลำเดียวกันกับเขาโดยดุษฎี

หลังจากที่องค์ชายเจ็ดมา ปลัดเขตปกครองก็เข้ากีบอีกฝ่ายได้อย่างลื่นไหล แต่นี่ไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้

ต่อมาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของเขตปกครองผนึกสมุทรล้วนเป็นปลัดเขตปกครองที่ริเริ่ม ทูลขอองค์ชายเจ็ดร่วมกับรองเจ้าวังสามวังใหญ่อีกหลายครั้ง จึงแย่งชิงมาได้

เช่นตอนที่สวี่ชิงเพิ่งมากลับมา แล้วสั่งการเรื่องปราบปรามชนเผ่าพันธมิตรออกไปตอนนั้น ก็เป็นปลัดเขตปกครองที่ยับยั้งไว้

เช่นกฎเกณฑ์และการปกป้องการแลกเปลี่ยนคุณงามความดีหลังจากสงครามวังครองกระบี่ ปลัดเขตปกครองก็หารือกับองค์ชายเจ็ดหลายครั้ง เจรจาให้ผู้ครองกระบี่

เรื่องต่างๆ มากมาย ล้วนมีเงาร่างของปลัดเขตปกครองอยู่เสมอ

และที่เจ้าวังเชื่อให้เขาคอยดูแลในเมืองหลวงเขตปกครอง ก็เห็นได้ชัดว่าแม้เจ้าวังจะสงสัยในระดับหนึ่ง แต่สัญชาติญาณก็ยังเชื่อมั่นมากพอสมควร

โดยเฉพาะในช่วงสงคราม ปลัดเขตปกครองไม่มีการผัดวันประกันพรุ่งแม้แต่น้อย ทุ่มสุดกำลังเพื่อแนวหน้าในสงคราม ทำให้ผู้คนเชื่อมั่น กลายเป็นบุคคลสำคัญ

ที่ยื้อแนวหน้าได้นานถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นคุณูปการของปลัดเขตปกครอง

คนที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่เช่นนี้

คนที่คอยปกป้องแนวหลังในช่วงสงครามเช่นนี้

คนที่หลังจากสงครามยุติชั่วคราว องค์ชายเจ็ดเข้ามาเป็นผู้นำ แต่ยังพยายามหาผลประโยชน์ให้กับเขตปกครองผนึกสมุทรหลายต่อหลายครั้งเช่นนี้

ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นต้นเหตุของทุกสิ่งตอนนี้ สวี่ชิงยังรู้สึกว่าค่อนข้างขัดแย้ง

ก่อนหน้านี้ เขายังไม่เห็นร่องรอยผิดปกติใดของปลัดเขตปกครองเลย และไม่เห็นหลักฐานใดด้วย

สวี่ชิงเงียบนิ่ง สะกดระลอกคลื่นในใจลง

เรื่องนี้ใหญ่เกินไป เขาจะบุ่มบ่ามไม่ได้ แต่นำเรื่องนี้มาเป็นเบาะแส ช่วยสนับสนุนการคิดวิเคราะห์ของตน

จากนั้นเขาก็นึกย้อนถึงเนื้อหาในแผ่นหยกของเจ้าวัง และนึกย้อนถึงข้อมูลที่ตนสืบเสาะหามาได้ที่เขาประกายอรุณ

“จากบันทึกในม้วนอักษรลับสิบเก้าม้วน กล่องปรารถนาที่ว่างเปล่าใบนั้นเคยเก็บลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตไว้ เรื่องนี้เจ้าวังรับรู้ เขาจึงพุ่งเป้าไปที่การสร้างยาลูกกลอนนี้หลังจากที่เจ้าเขตปกครองดับสูญ

“เพราะว่าวิธีที่จะทำให้เจ้าเขตปกครองที่พลังบำเพ็ญแข็งแกร่งแตกดับโดยไร้ลางบอกเหตุมีอยู่น้อยมาก เว้นเสียแต่ระดับเตรียมสู่เทวะเป็นผู้ลงมือ แต่หากเป็นเช่นนี้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องก่อสงครามครั้งนี้

“ดังนั้นเบาะแสทั้งหมด จึงชี้ไปที่ลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต”

สวี่ชิงพึมพำ ในหัวสมองนำเบาะแสทั้งหมดที่ตนเองได้รับมา แปรเป็นแนวคิด ไล่เรียงไปทีละข้อ

“แต่คิดจะใช้งานลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต อันดับแรกคือต้องใช้แสงประกายอรุณสายหนึ่ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เจ้าวังให้ข้าไปตรวจสอบ ถัดมา ก็คือวิธีการวางพิษ”

จุดนี้ ตอนนั้นสวี่ชิงเคยหารือกับข่งเสียงหลง เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีวิธีใดทำให้เจ้าเขตปกครองครึ่งก้าวเตรียมสู่เทวะภายใต้การสนับสนุนของดวงชะตาไม่สังเกตเห็น จากนั้นก็ถูกวางยาพิษ

‘ข้าหาเบาะแสแสงประกายอรุณพบ พิสูจน์แล้วว่ามีสายหนึ่งที่ไม่ถูกบันทึก และเบาะแสนี้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้งานลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต

“ส่วนวิธีการวางยาพิษ…”

สวี่ชิงก้มหน้ามองผงยาลูกกลอนแก่นแท้บนพื้น ล้วงยาลูกกลอนแก่นแท้ในขวดเม็ดสุดท้ายออกมา ดูอย่างละเอียด

สำหรับลูกกลอนแก่นแท้ ก่อนหน้านี้สวี่ชิงเคยศึกษาอยู่รอบหนึ่ง ตอนนั้นผลสรุปของเขาคือลูกกลอนนี้มีประสิทธิภาพในการขับไอพลังประหลาดสูงกว่าลูกกลอนขาว

วิธีหลอมก็แปลกมาก ด้วยความเข้าใจเรื่องยาลูกกลอนของสวี่ชิง ก็ไม่สามารถแยกส่วนประกอบออกมาได้

ในนั้นมีสมุนไพรมากมาย และเหมือนจะหักล้างกันด้วย แต่สร้างขึ้นมาหลังจากที่สรรพคุณทางยาแต่เดิมถูกดัดแปลง

นี่คือวิถีโอสถที่เป็นเอกลักษณ์ของปลัดเขตปกครอง ใช้สภาพแวดล้อมภายนอกดัดแปลงและส่งผลกระทบกับสมุนไพรให้ได้สรรพคุณทางยาตามที่ตัวเองต้องการโดยไม่รู้ตัว

สวี่ชิงดวงตาแข็งค้าง เขาคิดประเด็นสำคัญนี้ออกแล้ว

ตอนนี้เอง ในสมองเขาก็มีมือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งแหวกหมอกลวงตาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้เนื้อหาที่ปลัดเขตปกครองเสี้ยมสอนผู้ครองกระบี่หน้าใหม่อย่างพวกเขาตอนที่พบครั้งแรก ผุดขึ้นมาท่ามกลางหมอกลวงตาอย่างชัดเจน

‘อยากจะเปลี่ยนสภาวะสมุนไพรต้นหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีหวือหวา และไม่จำเป็นต้องใช้หยินหยางปรับเปลี่ยน สำหรับข้า สิ่งที่ต้องใช้คือหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งด้วยความเงียบงัน

‘ท่ามกลางความเงียบงันไม่รู้ตัว เจ้าเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ เปลี่ยนแปลงสารอาหารหล่อเลี้ยงที่มันต้องการ ทำให้มันดูดซับช้าๆ โดยไม่รู้ตัว ได้รับอิทธิพลจากภายใน

‘พูดให้ถูกต้องคือ ข้าไม่ได้ไปเปลี่ยนสภาวะของมัน แต่เป็นพลังของมันเปลี่ยนแปลงสภาวะของตัวเอง สิ่งที่ข้าทำก็แค่สร้างสภาพแวดล้อมและสารอาหารหล่อเลี้ยงชักนำทิศทางการเปลี่ยนแปลงมันก็เท่านั้น

นี่คือคำพูดของปลัดเขตปกครองเมื่อครั้งนั้น

สวี่ชิงในตอนนั้น ไม่ว่าจะฟังประโยคนี้อย่างไรก็รู้สึกนับถือ เลื่อมใสปลัดเขตปกครองที่คิดวิธีนี้ออกมาได้

เพราะอีกฝ่ายปรับปรุงลูกกลอนขาวได้สำเร็จอย่างแท้จริง ใช้วิธีนี้สร้างลูกกลอนแก่นแท้ที่มอบความสุขให้กับเผ่ามนุษย์ในเมืองหลวงเขตปกครอง

แต่ตอนนี้เมื่อนึกย้อนคำพูดเหล่านี้ สายอัสนีน่าครั่นคร้ามก็ฟาดผ่าสมองของสวี่ชิงครืนครัน

‘ที่จริง หากนำคำว่า ‘มัน’ ที่ปลัดเขตปกครองใช้เอ่ยถึงสมุนไพรในการเรียนการสอนตอนนั้น เปลี่ยนเป็นคำว่าเจ้าเขตปกครอง ทั้งหมด…ก็จะลงตัวพอที

‘หากจะวางยาเจ้าเขตปกครอง ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีหวือหวา เพียงหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งด้วยความเงียบงัน

‘ขณะที่เจ้าเขตปกครองไม่รู้ตัว ก็เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่…สภาพแวดล้อม ก็คือเผ่ามนุษย์ของเมืองหลวงเขตปกครอง’

‘ตอนที่เจ้าเขตปกครองไม่ทันสังเกตเห็น ก็เปลี่ยนแปลงของบำรุงที่เขาต้องการเสีย…ของบำรุง ถ้านำไปเชื่อมโยงกับหลักการของลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิต นั่นก็ไม่ใช่ดวงชะตาหรอกหรือ

‘ทำให้เจ้าเขตปกครองดูดซับเข้าไปช้าๆ อย่างไม่รู้ตัว ได้รับอิทธิพลจากภายใน

‘ไม่ใช่ปลัดเขตปกครองเปลี่ยนแปลงสภาวะของเจ้าเขตปกครอง แต่เป็นพลังของเจ้าเขตปกครองที่เปลี่ยนแปลงสภาวะร่างกายของตนเอง สิ่งที่ปลัดเขตปกครองทำ ก็แค่สร้างสภาพแวดล้อมกับของบำรุงที่ชักนำทิศทางการเปลี่ยนแปลงให้เขาเท่านั้น’

ร่างสวี่ชิงสั่นเทาเล็กน้อย ระลอกคลื่นในใจโหมกระหน่ำรุนแรงยิ่งขึ้น

‘ดังนั้น ปลัดเขตปกครองไม่ได้วางยาเจ้าเขตปกครองโดยตรง เขามองเจ้าเขตปกครองเป็นเหมือนสมุนไพรต้นหนึ่ง สิ่งที่เขาจะวางยา…คือเผ่ามนุษย์ที่อยู่ในเขตในเมืองหลวงเขตปกครองทั้งหมด หรือก็คือสภาพแวดล้อมที่สมุนไพรอยู่!

‘ใช้ลูกกลอนแก่นแท้ที่ไม่มีพิษภัยและราคาถูกเป็นพาหะ ผสานพลังแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิตไว้ด้านใน ขณะที่เผ่ามนุษย์จำนวนหลายสิบล้านกินต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ ก็ได้เปลี่ยนแปลงดวงชะตาของพวกเขา เปลี่ยนแปลงของบำรุงของเจ้าเขตปกครอง

‘และนี่คือการใช้ดวงชะตาเผ่ามนุษย์ในดินแดนเมืองหลวงเขตปกครองเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบกับเจ้าเขตปกครอง และบรรลุเป้าหมายการวางยาพิษ

‘วิธีการเช่นนี้…’

สวี่ชิงหายใจหอบถี่ แนวคิดนี้สอดคล้องกับตรรกะ ทุกอย่างตอนนี้ไขกระจ่างแล้ว

กล่องปรารถนาที่ว่างเปล่าในตอนนั้นเคยบรรจุลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตเม็ดหนึ่งเอาไว้ เพราะเก็บอยู่ในกล่องปรารถนานานเกินไป ต่อให้นำลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตออกไปแล้วหลายปี แต่กลิ่นดอกกุ้ยก็ยังตกค้างอยู่ในนั้น ไม่ได้จางหายไป

ภารกิจในตอนนั้น คือสายลับในเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์พบเจอความลับที่ยิ่งใหญ่เข้า จึงหลบหนีกลับมา

มองจากตอนนี้ สายลับที่แท้จริงน่าจะดับสูญไปแล้ว มีแค่พวกสวี่ชิงที่ไปนำเอากล่องปรารถนามาจากมือของเด็กหนุ่มบุตรสายลับคนนั้น

ดังนั้นเมื่อมีม้วนอักษรลับสิบเก้าม้วน จึงส่งหลักฐานให้เจ้าวังเพื่อยืนยันวิธีการตายของเจ้าเขตปกครองในภายหลัง

กระจ่างแล้ว ทุกอย่างไขกระจ่างแล้ว

ต่อมา สวี่ชิงก็นึกถึงเด็กผู้ชายในเขตติงหนึ่งสามสอง อีกฝ่ายคือสิ่งที่แปรมาจากดวงชะตาวูบหนึ่งในเขตปกครองผนึกสมุทร หลังจากที่กล่องปรารถนาถูกนำกลับมาก็เริ่มอ่อนแอ

สิ่งที่สวี่ชิงสัมผัสได้ในตอนนั้นคืออีกฝ่ายอ่อนแอลง ร่างมีสิ่งสกปรกบางอย่างเพิ่มเข้ามา

แต่ไม่นานนักเด็กชายก็ฟื้นฟูกลับมา สวี่ชิงจึงไม่คิดมาก ด้วยข้อมูลที่เขามีในตอนนั้นก็ยากที่จะคิดเชื่อมโยงได้

แต่ต่อมาเจ้าเขตปกครองดับสูญ กรมราชทัณฑ์พังถล่ม เด็กชายหายสาบสูญ

สวี่ชิงคิดว่า นั่นเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการพังถล่มของกรมราชทัณฑ์ ทำให้เขาสลายไป แต่เมื่อมองจากตอนนี้ กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น!

ส่วนเจ้าวังหลังจากที่อ่านอักษรลับสิบเก้าม้วนเสร็จ และกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ แต่น่าเสียดาย สุดท้ายเขาก็เป็นมนุษย์ผู้หนึ่งไม่ได้สมบูรณ์พร้อมเสียทุกอย่าง ทุกอย่างก็สายไป เจ้าเขตปกครองแตกดับ สงครามก็เปิดฉาก

สุดท้าย ก็ทำได้แค่สงสัยทกุคน

สวี่ชิงหนังศีรษะชาหนึบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเขานึกถึงที่เผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วนเข้าใจว่าลูกกลอนแก่นแท้เป็นคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของปลัดเขตปกครอง และปลัดเขตปกครองก็เปิดเผยสูตรยาลูกกลอนทั้งหมดกับเผ่ามนุษย์ในใต้หล้านี้อย่างสง่าผ่าเผยตั้งนานแล้ว

แต่…ไม่มีใครที่มองเห็นความจริงจากในนั้นเลย

ลูกกลอนแก่นแท้ เป็นการโกหกคำโต!

ปลัดเขตปกครอง เย้ยหยันคนทุกผู้ในเขตปกครองผนึกสมุทรมาโดยตลอด!

สวี่ชิงมีสายอัสนีนับร้อยพันหมื่นฟาดผ่าอย่างต่อเนื่องกลางใจ สมองของเขาฉายภาพสายตาของปลัดเขตปกครองที่มองทุกคนขณะสอนในตอนนั้น

ตอนนั้นสิ่งที่เห็นคือความอบอุ่น เวลานี้เมื่อนึกย้อน ในความอบอุ่นนั้น แฝงความยั่วเย้าเหน็บแนมไว้อย่างชัดเจน ทั้งยังฉายแววหยอกล้อ ราวกับว่านี่เป็นแค่ปริศนาคำทายสำหรับเขาเท่านั้น

ข้าบอกคำตอบกับพวกเจ้าแล้ว บอกคำตอบกับทุกผู้ แต่ไยพวกเจ้า…จึงไม่รู้

เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ใหญ่จนหลังจากที่สวี่ชิงกระจ่างแจ้งเรื่องทั้งหมด วินาทีที่ความจริงเปิดเผย สิ่งที่ผุดขึ้นมาไม่ใช่แค่กระจ่างแจ้ง แต่ยังใจสั่นสะท้านด้วย

“ทำไมปลัดเขตปกครองถึงทำเช่นนี้ เขากับเทียนประทีป…”

‘อันที่จริง ก่อนที่ฉู่เทียนฉวินจะตาย ได้บอกคำตอบข้าแล้ว’

สวี่ชิงจำได้มาโดยตลอด ตอนนั้นเขาถามฉู่เทียนฉวินที่กำลังจะตายถึงทิศทางของรัฐม่วงครามและนกเขาราตรี ฉู่เทียนฉวินก็เอ่ยออกมา

‘ตอนที่เจ้ารู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงสีมหาสมุทรอย่างไร เจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง’

สวี่ชิงเงยหน้าขึ้นเงียบๆ มองไปทางเมืองหลวงเขตปกครองท่ามกลางฟ้าราตรีที่มืดมิด

“สีของมหาสมุทร ถ้าทำตามวิธีการของปลัดเขตปกครองนั้นเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก ขอแค่เปลี่ยนสีของแม่น้ำที่ไหลลงสู่มหาสมุทรนับพันหมื่นแห่งอย่างช้าๆ ก็สามารถทำให้มหาสมุทรเปลี่ยนสีไปโดยไม่รู้สึกตัวได้

“นี่ก็คือคำตอบ”

สวี่ชิงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำแผ่วเบา

‘ปลัดเขตปกครองอาจเป็นทั้งม่วงคราม และอาจเป็นนกเขาราตรี

‘เป็นเขา ที่วางยาพิษสังหารเจ้าเขตปกครอง

‘คนที่สวมชุดสีดำลึกลับคนนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นบนสนามรบในตอนนั้น เขาไม่ใช่โหวเหยา แต่เขาคือปลัดเขตปกครอง’

สวี่ชิงรู้ความจริงแล้ว

แต่เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรไปรายงานกับใคร

คนที่ให้เขาตรวจสอบทุกอย่าง ดับสูญไปแล้ว

ส่วนปลัดเขตปกครองตอนนี้คือศูนย์รวมใจเพียงหนึ่งเดียวของเขตปกครองผนึกสมุทร คนเก่าคนแก่ทั้งหมดของเขตปกครองผนึกสมุทรเห็นเขาเป็นผู้นำ ผนวกกับคุณูปการอันยิ่งใหญ่ของลูกกลอนแก่นแท้ กล่าวได้ว่าเบื้องบนอย่างองค์ชายให้ความสำคัญ เบื้องล่างก็ได้ใจของประชาชนไป

ราวกับดวงตะวันกลางท้องฟ้า

เมื่อคิดโยงถึงวิธีการหลังจากที่องค์ชายเจ็ดมาถึง มองออกไม่ยาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสองคนกำลังร่วมมือกัน

‘แดนต้องห้ามเซียน สาเหตุที่มือหยกขาวปรากฏตัวออกมา นั่นก็เพราะเดิมเป็นการแลกเปลี่ยน…’

สวี่ชิงถอนหายใจเบาๆ เปิดประตูหอกระบี่ ยืนอยู่ที่ประตู มองฟ้าดินมืดมิดไกลๆ

สักพัก ที่ขอบฟ้าไกลๆ ก็มีแสงแสงหนึ่ง สว่างไสวเจิดจ้า สาดส่องไปทั้งท้องนภา

การปรากฏตัวของมัน ทำให้รุ่งอรุณของวันนี้ มาไวกว่าปกติพอสมควร

และจากการที่ท้องฟ้าสว่างไสว พื้นดินก็แผ่ระลอกคลื่นอบอุ่นมาด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้บำเพ็ญทั้งหมดของเขตปกครองผนึกสมุทรก็ได้รับการแจ้งเตือนจากปลัดเขตปกครองในพริบตา

“สิบชั่วยามก่อน จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นแสดงสมบัติแดนสงครามที่เป็นของเผ่ามนุษย์เราที่ดินแดนเผ่าฟ้าทมิฬแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด