ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 530 สมบัติดินแดนเผ่ามนุษย์ ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณ! (1)

Now you are reading ผู้กล้าเหนือกาลเวลา Chapter บทที่ 530 สมบัติดินแดนเผ่ามนุษย์ ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณ! (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 530 สมบัติดินแดนเผ่ามนุษย์ ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณ! (1)

…………….

ศักราชเสวียนจั้น ปีสองเก้าสามสอง ปลายเดือนสิบ

ลูกหลานรุ่นที่สามพันเก้าร้อยสิบห้าของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว บุตรลำดับเจ็ดของจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นผู้ยิ่งใหญ่สูงส่งทรงอำนาจเกรียงไกร ผู้ปกครองใต้หล้าและจักรวาล กู่เยวี่ยจางอั้น รับราชโองการไปช่วยเขตปกครองผนึกสมุทร เปิดพระราชนิเวศน์วังที่เก้าของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวในเขตปกครองผนึกสมุทร

องค์ชายเจ็ดอัญเชิญฟ้าทมิฬชื่อหมู่ในลงมาเยือนในพระราชนิเวศน์วังที่เก้า กลืนกินเทพปีศาจที่สถิตย์อยู่ในราชนิเวศน์ กำจัดภัยแอบแฝงของเขตปกครองผนึกสมุทร ดำรงความสุขสันติให้เขตปกครองผนึกสมุทรไปอีกพันปี

ยิ่งปฏิบัติตามราชโองการจากจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นผู้ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จลุล่วง ทำให้เส้นทางแห่งชัยชนะเดินมาทางเผ่ามนุษย์

เรื่องนี้ฮือฮาไปทั่วทั้งสี่ดินแดน สะท้านสะเทือนไปทั้งแปดทิศ เผ่าพันธุ์ทั้งหลายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ล้วนตื่นตะลึงครั่นคร้าม

หมื่นเผ่าพันธุ์เขตปกครองผนึกสมุทรโห่ร้องยินดี เผ่ามนุษย์ฮึกเหิมภาคภูมิ จักรพรรดิเผ่ามนุษย์ชื่นชม ออกปากชมเชยด้วยตัวเอง

เดือนเดียวกัน หลังจากพระราชนิเวศน์วังที่เก้าของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวเขตปกครองผนึกสมุทรเปิดได้เก้าวัน จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรภายใต้ดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิถูกเผ่าฟ้าทมิฬล้อมอยู่หลายเดือน ปะทะกันอยู่ตลอด ในที่สุดก็สำแดงอำนาจความน่าเกรงขาม

ยิงดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณดวงหนึ่งไปในพื้นที่เผ่าฟ้าทมิฬ

ดวงอาทิตย์นี้กลมเกลี้ยงมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ประดุจดวงตะวันกล้า เป็นสัญลักษณ์การผงาดขึ้นของเผ่ามนุษย์ ระเบิดตัวเองในพื้นที่มืดมิดเผ่าฟ้าทมิฬ แผ่เปลวเพลิงท่วมฟ้า ประกายแสงมหาศาลไม่สิ้นสุดออกมา

เผาไหม้ดินแดนเผ่าฟ้าทมิฬทั้งหมด ทำให้ท้องฟ้าถล่มทลาย ทำให้ผืนดินแห้งแตกระแหง ทำให้เผ่าฟ้าทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วนแตกดับ ทำให้ผู้บำเพ็ญเผ่าฟ้าทมิฬทั้งหมดบาดเจ็บสาหัส

ยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นลมพายุพัดกวาดไปทั่วทั้งแปดทิศ ทำให้ทะเลเพลิงกลายเป็นชั่วนิรันดร์ ให้แสงกลายเป็นจุดดึงดูดสายตา

พื้นที่มืดมิดเผ่าฟ้าทมิฬถูกแสงสว่างปกคลุม

คำนวณแบบคร่าวๆ แสงและความร้อนนี้จะคงอยู่ไปเป็นเวลาหกสิบปี ส่วนผลกระทบจะยาวนานกว่านั้น ภายในพันปี ในพื้นที่เผ่าฟ้าทมิฬยามราตรียากจะมาเยือน เปลวไฟจะคงอยู่ไปอีกนานนม

สิ่งมีชีวิตจะแตกดับนับไม่ถ้วน รูปร่างลักษณะของสมาชิกในเผ่าที่เกิดใหม่จะถูกเปลี่ยน

เรื่องนี้ทันทีที่เกิดขึ้น แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์สะท้านสะเทือน ทุกเผ่าต่างตื่นตระหนกครั่นคร้าม เผ่าที่เข้าร่วมล้อมโจมตีดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิต่างล่าถอย ปิดผนึกชายแดน ต่างหวาดกลัวตัวสั่นงันงก

ยิ่งมีเผ่าสูงส่งจับตามอง ฟ้าดินสั่นไหว

เรื่องนี้ บุกเบิกความเจริญรุ่งโรจน์ที่ไม่เคยมีมาก่อนนับแต่โบราณกาลมา เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนในหลายหมื่นปี

จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นชื่อเสียงเลื่องลือ ฟ้าดินร่วมประจักษ์ หมื่นเผ่ารับรู้

ในวันที่ปล่อยดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณวันนั้นจักรพรรดิมนุษย์ยิ่งประกาศแก่แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ทั้งแปดทิศ เผ่ามนุษย์ นับจากวันนี้เผ่ามนุษย์ไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไป พวกเรา…มีพลังปกป้องตัวเองแล้ว!

เพราะดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณก็คือสมบัติแดนสงคราม!

อีกทั้งไม่ได้เกิดจากเทพเจ้า แต่เป็นเผ่ามนุษย์สร้างขึ้นมา!

เดือนเดียวกันนี้ หลังจากผ่านการโจมตีอันดุเดือดแสนสาหัส กองทัพเผ่าฟ้าทมิฬตื่นตะลึง เพลิงพิโรธท่วมฟ้า แต่ก็ไม่ถอยทัพ

กลับยิ่งเพิ่มแรง สำแดงสมบัติแดนสงครามเช่นกัน ทำลายแดนเมืองหลวงจักรพรรดิไปสามส่วน

เผ่าฟ้าทมิฬดือรั้นไม่รู้สำนึก กำเริบโอหังมั่นใจว่าคำพูดของเผ่ามนุษย์ไม่ใช่ความจริง

ใช้วิสัยทัศน์อันคับแคบวิเคราะห์ว่าสมบัติดินแดนของเผ่ามนุษย์ไม่ได้สร้างออกมา คิดว่าดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณเผ่ามนุษย์แตกต่างจากสมบัติดินแดนในความหมายดั้งเดิมมากมาย

มันไม่ได้มีรูปร่างที่จับต้องได้ แต่เป็นวิชาที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว

เผ่าฟ้าทมิฬมั่นใจ นี่จะต้องหลงเหลือมาจากอดีต มีเพียงดวงเดียวแน่นอน!

แตรแห่งสงครามเป่าดังต่อไป

ศักราชเสวียนจั้น ปีสองเก้าสามสอง เดือนสิบเอ็ด

วันที่เจ็ดหลังจากปล่อยดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณดวงแรก จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นสำแดงอานุภาพอีกครั้ง ปล่อยดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณเข้าไปในพื้นที่เผ่าฟ้าทมิฬอีกแห่งหนึ่งและชายแดนแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่ละดวง!

ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณสองดวงสร้างทะเลเพลิงท่วมฟ้า สาดแสงที่ไม่มีวันมอดดับ เพียงพริบตา พื้นที่ที่สองของเผ่าฟ้าทมิฬถล่มทลาย ผืนดินลุกไหม้ ท้องฟ้าแดงฉาน

สมาชิกในเผ่านับไม่ถ้วนโหยหวนครวญคราง เน่าเปื่อยไปในแสง กลายเป็นเถ้าธุลีในเปลวเพลิง จะผู้บำเพ็ญก็ดี คนธรรมดาทั่วไปก็ดี รวมถึงเผ่าต่างๆ ที่เข้าเป็นพวกกับเผ่าฟ้าทมิฬในนั้นล้วนอเนจอนาถน่าสังเวชเป็นอย่างยิ่ง

จำนวนที่ล้มตายยากจะคำนวณได้ ราวพลานุภาพแห่งเทวะซัดลงมา

แผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ได้รับผลกระทบไปด้วย ลมพายุเปลวเพลิงร้อนแรงกวาดโหม แข็งแกร่งไม่อาจต้านทาน ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น

ทันทีที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เผ่าที่คอยจับตามองแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ต่างนิ่งเงียบ

เผ่าฟ้าทมิฬสั่นสะท้าน ท่ามกลางเสียงร้องคร่ำครวญเสียสละชีวิตสมาชิกในเผ่าไปนับไม่ถ้วน สำแดงวิชาเทพหวังจะให้ชื่อหมู่ลงมาเยือน ลงทัณฑ์เผ่ามนุษย์

ทว่า…ล้มเหลว

อัญเชิญเทพเจ้าสามครั้ง ล้มเหลวทั้งสามครั้ง

เผ่าฟ้าทมิฬขวัญกำลังใจหดหาย จำต้องถอย ทว่ากองทัพเมืองหลวงจักรพรรดิเผ่ามนุษย์ไล่ล่าสังหาร สงครามนี้เลือดอาบย้อมฟ้าดิน เผ่าฟ้าทมิฬ…พ่ายแพ้ยับเยิน ทำได้เพียงอาศัยสมบัติแดนสงคราม ถอยไปตั้งรับในเผ่า แปรเปลี่ยนให้เป็นม่านฟ้าเย็นเยียบ สกัดกั้นเผ่ามนุษย์

ศึกนี้สะท้านสะเทือนเผ่านับไม่ถ้วนในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของเผ่ามนุษย์ฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้น นามนี้สมกับบุคคล

เผ่ามนุษย์แม้จะได้รับชัยชนะ แต่จักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นไม่คิดจะได้คืบเอาศอก ไม่ได้ไล่สังหารไปในเผ่าฟ้าทมิฬ แต่ประกาศบอกกับทุกฝ่ายในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ว่า การประดิษฐ์ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณเป็นจักรพรรดิมนุษย์จิ้งอวิ๋นเสนอความคิดเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว

ตลอดมาได้พบกับอุปสรรคและความยากลำบากมากมาย จวบจนวันนี้ก็ทำมันได้สำเร็จแล้ว

ส่วนทฤษฎีจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นก็ไม่ได้ปิดเป็นความลับ ทันทีที่เปิดเผยดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณออกมา เรื่องนี้ก็ยากจะรักษาความลับได้ ในเมื่อไม่ช้าก็เร็วล้วนรู้กันทั้งนั้น มิสู้ยืดอกอย่างผ่าเผย แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเผ่ามนุษย์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยิ่งสยบพวกชั่วช้าสามานย์พวกนั้นได้ดียิ่งขึ้น

ดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณเกี่ยวพันกับเผ่าแสงสายัณห์!

คนทั้งโลกล้วนรู้ว่าเผ่าแสงสายัณห์เป็นพันธมิตรกับเผ่ามนุษย์ ดวงตาทั้งสองของพวกเขาพิเศษมาก สามารถดูดซับแสงอาทิตย์ได้ เก็บแสงและความร้อนไว้ในนั้น ขายดวงตาให้กับทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมื่อหลายหมื่นปีก่อน แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ไม่มีเผ่าแสงสายัณห์ เผ่าแสงสายัณห์…เป็นสายแยกของเผ่ามนุษย์ ถูกสร้างขึ้นมาในยุคจักรพรรดิมนุษย์จิ้งอวิ๋น

ดวงตาของพวกเขาก็คือดวงอาทิตย์แห่งรุุ่งอรุณขนาดย่อม

ทันทีที่ประกาศข่าวนี้ออกไป จริงเท็จยากวิเคราะห์ แผนการหลายหมื่นปีของเผ่ามนุษย์ทำให้เผ่าทั้งหลายใจหวาดหวั่น โดยเฉพาะการวางแผนที่เป็นชุดของศึกครั้งนี้ยิ่งทำให้พวกเขาตกตะลึง

และศึกนี้ยังไม่จบสิ้น

เดือนเดียวกัน ในยามที่เผ่าฟ้าทมิฬแพ้พ่าย บุตรชายคนที่เจ็ดของจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้นที่อยู่ในเขตปกครองผนึกสมุทร หลังจากช่วยเขตปกครองผนึกสมุทรได้แล้ว หลังจากสร้างคุณูปการครั้งใหญ่ให้เผ่ามนุษย์ ก็นำกองทัพหกสิบล้านนายออกรบกับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์

กองทัพแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เอาสามมณฑลที่เสียไปกลับคืนมาได้ เข้าไปในส่วนลึกของแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ ทำสงครามมาตลอดทาง เลือดไหลเป็นแม่น้ำ ฟ้าดินฝนเลือดโปรยปราย

เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์พ่ายแพ้ไม่เป็นกระบวน ล้มตายนับไม่ถ้วน สูญเสียดินแดน

องค์ชายเจ็ดมีพลังพรสวรรค์ไม่ธรรมดา สติปัญญาความสามารถเลิศล้ำ ยิ่งมีจิตใจที่กล้าหาญ ไม่สนความปลอดภัยของตัวเอง สังหารศัตรูอย่างห้าวหาญ บุกขยายดินแดน เอาพื้นที่ครึ่งดินแดนคืนมา!

สี่จักรพรรดิตื่นตกใจโมโห ช่วงวิกฤตอันตราย จักรพรรดิบรรพชนเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ทะลวงพลังบำเพ็ญ ไหล่แบกมหาพิภพหนึ่งใบ ในที่สุดก็ก้าวสู่ระดับเตรียมสู่เทวะ ฟ้าดินแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนสี

ยิ่งตัดสัมพันธ์สายเลือดของตัวเองกับเผ่าฟ้าทมิฬ ทำให้เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์หลุดพ้นจากฟ้าทมิฬนับจากนี้ ได้รับอิสระอีกครั้ง

ทันทีที่ระดับเตรียมสู่เทวะปรากฏตัวขึ้น ทั้งแปดทิศเมฆโหมทะลัก บุตรคนที่เจ็ดของจักรพรรดิมนุษย์เก็บรัศมีอำนาจแข็งแกร่งเทียมทานลงไป ในยามที่ประจัญหน้ากัน องค์ชายเจ็ดแสดงความมีคุณธรรมเมตตา ทำให้เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ซาบซึ้ง ยินดีสงบศึก

เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์เหนื่อยหน่ายกับสงครามแล้ว และองค์ชายเจ็ดก็จริงใจอย่างยิ่ง สุดท้ายจักรพรรดิบรรพชนคลื่นศักดิ์สิทธิ์ เข้าใจความหมายขององค์ชายเจ็ดเป็นอย่างดี ตกลงที่จะกลับคืนสู่เผ่ามนุษย์

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ทำให้ขุนนางและประชาชนเผ่ามนุษย์จับตามอง จักรพรรดิมนุษย์เฝ้าหวัง

แต่เรื่องกลับคืนสู่เผ่ามนุษย์ไม่อาจทำได้สำเร็จในเวลาสั้นๆ ย่อมต้องผ่านการพูดคุยหารือรายละเอียดจากทั้งสองฝ่าย

ส่วนองค์ชายเจ็ดในฐานะที่เป็นผู้นำของเรื่องทุกอย่างนี้อยู่ที่แผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ต่อ ทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ

จึงทำให้สงครามที่ดำเนินมาครึ่งปีนี้เดินมาถึงจุดสิ้นสุด

ศึกนี้เผ่าฟ้าทมิฬเสียหายแสนสาหัส เผ่ามนุษย์ได้รับชัยชนะ กำราบสยบหมื่นเผ่า

โดยเฉพาะองค์ชายเจ็ดช่วยเขตปกครองผนึกสมุทร ทำภารกิจตามราชโองการสำเร็จ ขยายดินแดน นำเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์กลับคืน เรื่องราวทั้งหมดนี้ทำให้ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือ กลายเป็นวีรบุรุษ คนมองว่าเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งรัชทายาทในอนาคต

ไม่ว่าจะเป็นเขตปกครองผนึกสมุทร หรือจะเป็นเผ่ามนุษย์เขตปกครองอื่นๆ หลังจากที่ได้อ่านประกาศและรายงานสงครามรับรู้ทุกอย่างนี้ ก็ต่างยินดีโลดเต้น ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง ฮึกเหิมเป็นที่สุด

ยิ่งมีผู้คนมากมาย สิ่งของต่างๆ ในยามที่ตั้งศาลสักการะบูชาจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้น ก็เพิ่มป้ายอายุยืนองค์ชายเจ็ดเข้าไปด้วย

อย่างไรเสียนี่ก็เป็นการขยายดินแดนครั้งแรกของเผ่ามนุษย์นับตั้งแต่ศักราชเสวียนจั้นมา!

กระทั่งว่าหากสืบย้อนกลับไป ก็เป็นการเอาดินแดนกลับคืนมาครั้งแรกของเผ่ามนุษย์หลังจากที่จักรพรรดิมนุษย์ตงเซิ่งกระทำการใหญ่ไม่ประมาณตนพ่ายแพ้ยับเยินด้วยเช่นกัน!

ความยิ่งใหญ่ของความหมาย แค่คิดก็รู้

ขณะเดียวกันเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ทรยศหักหลังตีจากในศักราชเต้าซื่อ เรื่องนี้เป็นความเจ็บปวดของจักรพรรดิมนุษย์เต้าซื่อในตอนนั้น ยิ่งเป็นความเจ็บปวดของเผ่ามนุษย์ ตอนนี้ในศักราชเสวียนจั้น องค์ชายเจ็ดทำให้พวกเขาซาบซึ้งกลับคืนมา นี่นับเป็นคุณงามความชอบใหญ่หลวง!

นับจากนี้ กระดานหมากแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์กระดานนี้ ก็นับว่าจบไปขั้นหนึ่ง

คนนอกล้วนมองที่เปลือกภายนอก ข้างในเป็นเช่นไร ถูกผิดมีคุณงามความชอบล้มเหลว แล้วแต่มุมมอง ไม่ใช่แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคก็สามารถวิเคราะห์ได้โดยสมบูรณ์

และนี่ ก็คือสงคราม

สงครามไม่ใช่แค่การรบราฆ่าฟันง่ายๆ เจ้าโจมตีมาข้าโจมตีกลับ นั่นเป็นการละเล่นของเด็กหรือการคิดจินตนาการทั้งนั้น

ความจริงแล้วความโหดร้ายของสงครามคนทั้งหลายมองส่วนมากล้วนเป็นความโหดเหี้ยมในสนามรบ แต่มองข้ามเรื่องมากมายในนั้น

ต่อให้เป็นเผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทร นอกจากผู้เข้าร่วมแล้ว คนอื่นๆ ความจริงแล้วล้วนไม่เข้าใจทั้งนั้น และไม่มีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพราะไม่เข้าใจถึงได้มีความสุข

ยกตัวอย่างเช่นสวี่ชิงตอนนี้ เขานั่งอยู่ในหอกระบี่ มือถือกระบี่อาญาสิทธิ์ มองรายงานสงครามและข้อมูลแต่ละข่าวๆ ที่ส่งมาในนั้น เขาเงียบนิ่งมาโดยตลอด

ข้างนอกมีเสียงโห่ร้องยินดีดังมาเป็นระยะๆ ทุกวันล้วนดังก้องมา

นับจากที่เขาค้นพบความจริงจนถึงตอนนี้ผ่านมายี่สิบวันแล้ว

ในยี่สิบวันนี้ ทุกวันล้วนมีรายงานสงคราม ทุกวันล้วนมีประกาศแจ้ง เหมือนกับเสียงโห่ร้องยินดีข้างนอก

ทั้งเขตปกครองอยู่ในความตื่นเต้นดีใจ คนธรรมดาทุกคนใบในหน้าล้วนมีรอยยิ้มกว้าง แม้แต่ผู้ครองกระบี่ในเขตปกครองผนึกสมุทรที่เห็นเจ้าวังรบตายกับตาตัวเองในสีหน้าก็มีความเคารพเลื่อมใสเพิ่มขึ้นมา มีความโล่งใจเพิ่มขึ้นมากันทั้งนั้น

ข่งเสียงหลงไม่ปรากฏตัวหลายวันแล้ว เขาดื่มเหล้าเพียงลำพัง ดื่มเหล้ามาโดยตลอด

สวี่ชิงก็ดื่มเช่นกัน เขายกกาเหล้าข้างตัวขึ้นมา ดื่มลงไปอึกแล้วอึกเล่า

จวบจนหลังจากนั้นหลายวัน

จากสถานการณ์ที่มั่นคงแน่นอนแล้ว องค์ชายเจ็ดได้กลับมายังเขตปกครองผนึกสมุทรก่อนที่การเจรจากับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์จะเริ่ม

การกลับมาของเขาทำให้คนในเขตปกครองหลวงตื่นเต้นยินดี พิธีการยิ่งใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ ราวต้อนรับจักรพรรดิมนุษย์

หลังจากพิธีดำเนินไปหนึ่งวันเต็มๆ กลางดึก ในหอตำหนักเจ้าเขตปกครอง องค์ชายเจ็ดยืนอยู่เพียงลำพังตรงนั้น ทอดสายตามองฟ้าดินที่อยู่ไกลๆ

นานหลังจากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างสงบนิ่ง

“เรื่องนี้ขอบคุณมาก”

ขณะที่คำพูดดังก้อง ข้างกายองค์ชายเจ็ดมีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง ใบหน้าไม่มีเค้าความโหดเหี้ยม ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เป็นปลัดเขตปกครองนั่นเอง

“ข้าช่วยท่าน ท่านช่วยข้า เรื่องนี้สมเหตุสมผล ไม่จำเป็นต้องเอ่ยขอบคุณ”

ปลัดเขตปกครองหัวเราะ มองฟ้าดินไปกับองค์ชายเจ็ด สีหน้าแฝงด้วยความสะท้อนใจเล็กๆ

องค์ชายเจ็ดเงียบนิ่ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็เอ่ยอย่างราบเรียบขึ้นมา

“สิ่งที่ข้าต้องการคือคุณงามความชอบ สิ่งที่เผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ต้องการคือวิธีกำจัดสายเลือดเผ่าฟ้าทมิฬ และความเป็นไปได้ในการทะลวงระดับเตรียมสู่เทวะ สิ่งเหล่านี้พวกเราล้วนได้มาแล้ว

“เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าต้องการเป็นเพียงแค่ของที่จักรพรรดิมนุษย์จิ้งอวิ๋นทิ้งเอาไว้ในวังหลวงเท่านั้นจริงๆ หรือ”

ปลัดเขตปกครองได้ยินก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“แน่นอน ข้าไม่โกหก นอกจากนั้นท่านลืมไปเรื่องหนึ่ง ข้ายังอยากเป็นเจ้าเขตปกครองผนึกสมุทรด้วย”

พูดจบปลัดเขตปกครองก็ถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้นอีก

“แล้วก็จักรพรรดิมนุษย์ยังมีสมบัติดินแดนตั้งนานแล้วอีกด้วย ฝีมือยอดเยี่ยม แผนการเลิศล้ำ มิน่าเล่าท่านถึงได้ร่วมมือกับข้า เพราะมองด้วยมุมมองทั่วไปแล้ว สงครามครั้งนี้ท่านไม่มีทางได้รับคุณงามความชอบสักเท่าไร ล้วนแต่เป็นคุณงามความชอบของจักรพรรดิมนุษย์ทั้งนั้น ภารกิจของท่านเดิมก็แค่ช่วยเขตปกครองผนึกสมุทร อีกทั้งประเด็นสำคัญคือเปิดแดนต้องห้ามเซียนป้อนอาหารให้ชื่อหมู่ สร้างโอกาสในการใช้สมบัติดินแดนเผ่ามนุษย์”

“การรวบรวมพลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทรสำคัญกับเจ้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ” องค์ชายเจ็ดเหมือนไม่ได้ยิน ใบหน้าไร้อารมณ์ เอ่ยอย่างราบเรียบ

“พลังดวงชะตาที่ได้รับการชำระล้างจากลูกกลอนประกายเคราะห์ชะตาชีวิตสำคัญมาก และเจ้าเขตปกครองคนก่อนก็เป็นตัวตายตัวแทนที่เหมาะสมที่สุดจากการคัดเลือกของข้า

“หลังจากที่เขาดูดซับพิษไปแล้วตอนนี้พลังดวงชะตาของเขตปกครองผนึกสมุทรเปลี่ยนมาปลอดภัย ผลไม้ลูกนี้ใกล้สุกแล้ว เป็นของกำนัลที่ข้าจะมอบให้กับการกลับคืนมาของนายข้า” ปลัดเขตปกครองเอ่ยเสียงอ่อนโยน ไม่ปกปิดแม้แต่น้อย และไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะกลับคำพูด

องค์ชายเจ็ดรูม่านตาหดเล็ก เอ่ยเสียงต่ำทุ้ม

“เจ้าเป็นใครกันแน่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด