ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 532 ปลัดเขตปกครอง โปรดชี้แนะ! (1)
บทที่ 532 ปลัดเขตปกครอง โปรดชี้แนะ! (1)
สวี่ชิงช่วงยี่สิบวันนี้ ขณะที่ใช้เหตุผลมากมายนับไม่ถ้วนเกลี้ยกล่อมตัวเอง อันที่จริงก็ยังไม่อาจควบคุมตนเองให้ไปคิดถึงบทสรุปอื่นได้
เขาจึงรู้มาโดยตลอด หากตนก้าวออกมา เช่นนั้นภัยพิบัติที่รอตนอยู่ จะแบ่งออกเป็นสามความเป็นไปได้
ความเป็นไปได้แรก หลังจากที่ตนปรากฏตัวก็จะถูกสังหารทิ้งอย่างรวดเร็ว แม้มีความเป็นไปได้นี้ แต่ก็ไม่มากนัก
ถึงอย่างไรท่ามกลางสายตาคนทั้งหมด แม้ว่าตนจะคัดค้าน แต่การคัดค้านไม่ใช่การสร้างความวุ่นวาย
จึงมีความเป็นไปได้ที่สอง นั่นก็คือถูกคาดโทษและจับกุม หลังจากนี้จะเป็นหรือตายก็อยู่ที่ชั่วความคิดของคนอื่น
ส่วนความเป็นไปได้ที่สาม ก็คือทั้งหมดราบรื่น แต่จากนั้นก็จะมีภัยแฝงเร้นขนาดใหญ่ และก่อให้เกิดหายนะไร้ที่สิ้นสุด
แน่นอนว่าในปัจจัยที่เขาล้มเหลวแล้ว
ดังนั้น ตอนที่สวี่ชิงก้าวออกมาอันดับแรกก็พูดว่าตนจักรพรรดิหยั่งใจหมื่นจั้ง ใช้เรื่องนี้ลบล้างความเป็นไปได้แรกออก ส่วนการปรากฏตัวและคุ้มกันของพวกรองเจ้าวังในอันดับต่อมา ไม่อยู่ในความคาดคิดของเขา
สิ่งนี้ทำให้เขาผ่านช่วงแรกไปได้อย่างราบรื่น จากนั้นตอนที่เขาเอ่ยถึงคำสั่งเสียเจ้าวังครองกระบี่ และหยิบแผ่นหยกออกมายืนยันพร้อมรายงาน เขาก็ผ่านช่วงที่สองไปแล้ว
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการตัดสินชี้ขาดแล้ว แต่คำพูดของสวี่ชิงก็ไม่ได้หักล้างการชี้ขาดก่อนหน้านี้ และใช่ว่าเข้าข้างโหวเหยา แต่ยิ่งเพิ่มข้อสงสัยให้เผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทรเข้าใจรายละเอียดได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
แม้ปลัดเขตปกครองจะได้ใจประชาชนไปอย่างท่วมท้น แต่ก็ยังเทียบกับเจ้าเขตปกครองคนเก่าไม่ได้
ส่วนคุณความดีอันยิ่งใหญ่ของเจ้าวัง ผู้คนก็ไม่ได้ลืมเลือนไปจากความทรงจำอย่างง่ายดายเช่นนั้น
สวี่ชิงใช้คำพูด ย้ายภูเขาขนาดใหญ่สองแห่งนี้ออกไป ผนวกกับสถานะจักรพรรดิหยั่งใจหมื่นจั้งของตน แลกมาซึ่งโอกาสในการเอ่ยปากตอนนี้
ด้านหน้า สั่นคลอนประชาชนเมืองหลวงเขตปกครอง
ด้านหลัง สั่นคลอนผู้บำเพ็ญผนึกสมุทรที่ร่วมสงคราม
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าเพราะอะไรปลัดเขตปกครองจึงมองสวี่ชิงอย่างล้ำลึก ราวกับทำความเข้าใจตัวเขาใหม่อีกครั้งในตอนสุดท้าย
เพราะหากสวี่ชิงเอ่ยปกป้องโหวเหยาขึ้นมาเพียงเล็กน้อย หักล้างการตัดสินชี้ขาดก่อนหน้านี้ เช่นนั้นเขาก็สยบได้ในพริบตา
เวลานี้ ฟ้าดินก็เงียบสงัด
ในโอกาสที่ตนเองสร้างขึ้นมา ท่ามกลางสายตาของคนมากมายที่จับจ้อง ภายใต้การรวมตัวของกวานพลังดวงชะตาเหนือศีรษะ สวี่ชิงยืนอยู่กลางอากาศ สูดลมหายใจลึก
เขาเข้าใจ เวลานี้ทุกประโยคที่ตนพูดออกมาล้วนสำคัญมาก จะให้เกิดรูรั่วใดขึ้นไม่ได้ หากพูดผิดเพียงประโยคเดียว จะย้อนกลับไปอีกไม่ได้ตลอดกาล
เขาจึงนิ่งเงียบไปหลายช่วงอึดใจ จ้องปลัดเขตปกครองเขม็ง เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
“เดือนสี่ปีนี้ เจ้าเขตปกครองคนเก่าดับสูญอย่างลึกลับ ในขณะเดียวกันเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ก็เข้าโจมตี ความสงบสุขแปดร้อยปีของเขตปกครองผนึกสมุทรถูกทำลายลงด้วยเหตุนี้ เผ่าฟ้าทมิฬรุกรานดินแดนจักรพรรดิเผ่ามนุษย์ ขัดขวางเจ้าเขตปกครองคนใหม่และกองหนุนที่ส่งมา ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรโดดเดี่ยวไร้การช่วยเหลือ ลมพายุโหมกระหน่ำ ผู้คนหวาดผวา
“เจ้าวังครองกระบี่รับคำสั่งในช่วงอันตราย ให้วังครองกระบี่รับหน้าที่คุ้มครองเขตปกครอง พิทักษ์เขตปกครองผนึกสมุทร
“ในเดือนเดียวกัน ข้าใช้สถานะอาลักษณ์ ติดตามข้างกายเจ้าวังจัดการรายงานสงคราม ปลายเดือนสี่ แนวหน้าเขตปกครองผนึกสมุทรขอความช่วยเหลือเร่งด่วน เจ้าวังนำกองทัพใหญ่เขตปกครองผนึกสมุทร ปกป้องเผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทร ปฏิบัติตามคำสาบานของผู้ครองกระบี่ ตรงไปยังแนวหน้าด้วยตนเอง ตอนนั้น ข้าเป็นคนสวมเกราะให้กับเจ้าวัง”
เสียงของสวี่ชิงดังก้องไปแปดทิศ คำพูดนี้ใช่ว่าไร้ความหมาย เขาต้องขุดความทรงจำของคนนับแสนในที่แห่งนี้ขึ้นมา เขาต้องทำให้ประชาชนในเมืองหลวงเขตปกครองระลึกถึงภาพในครึ่งปีก่อนหน้านี้
ต้องให้พวกเขาได้รู้ ว่าใครที่ปกป้องทั้งหมดเอาไว้ในตอนนั้น
“ก่อนเจ้าวังเดินทางไป ไม่ได้ให้ข้าติดตามไปด้วย แต่ใช้ตัวแทนอำพราง ส่งข้าไปที่มณฑลประกายอรุณลับๆ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการตายของเจ้าเขตปกครองคนเก่า
“เจ้าวังสงสัยว่าสาเหตุการตายเจ้าเขตปกครองคนเก่านั้นมาจากลูกกลอนเม็ดหนึ่งที่ชื่อว่าประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ลูกกลอนนี้มีชื่อมาแต่โบราณ มีประวัติศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ สรรพคุณของมันคือระเบิดคนที่รวบรวมดวงชะตาเอาไว้ ยิ่งดวงชะตาเข้มข้น พลังทำลายล้างก็ยิ่งมาก
“เจ้าเขตปกครองคนเก่ารวมดวงชะตาผนึกสมุทรเอาไว้ ภาพการตายของเขาสอดคล้องกับพิษแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต”
“ส่วนเพราะอะไรเจ้าวังจึงคิดถึงลูกกลอนแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ในบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนของวังครองกระบี่มีบันทึกไว้ บันทึกนี้ข้าไม่รู้ว่ายังอยู่หรือไม่ แต่ต่อให้ไม่อยู่แล้ว ก่อนที่เจ้าเขตปกครองตาย วังครองกระบี่มีภารกิจให้ไปรับตัวสายลับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ ได้รับกล่องปรารถนาว่างเปล่ามาใบหนึ่ง คนที่เข้าร่วมมีอยู่ไม่น้อย ล้วนเป็นพยานให้ได้
“แต่การใช้ลูกกลอนแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต จำเป็นต้องทำเงื่อนไขหนึ่งให้ได้ นั่นคือต้องมีแสงประกายอรุณหนึ่งสาย บางทีนอกเขตแดนอาจจะมี แต่มณฑลประกายอรุณของเขตปกครองผนึกสมุทรก็มีเช่นกัน เจ้าวังจึงให้ข้าไปที่นั่น ตรวจสอบว่ามีแสงประกายอรุณที่ถูกไม่มีการจดบันทึกหรือไม่
“ทั้งหมดที่ข้าพูด อยู่ในแผ่นหยกนี้ มีการบันทึกไว้อย่างชัดเจน!
“จากนั้นข้าจึงทำตามคำสั่งเจ้าวัง มุ่งตรงไปยังมณฑลประกายอรุณ คลี่คลายวิกฤตของโถงครองกระบี่ที่มณฑลประกายอรุณ ตรวจสอบที่นั่นจนได้หลักฐาน เรื่องนี้โถงครองกระบี่มณฑลประกายอรุณเป็นพยานได้ ร่องรอยตลอดทางก็เป็นหลักฐานได้ ข้าก็มีแผ่นหยกบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานได้เช่นกัน ส่วนบทสรุป คือในมณฑลประกายอรุณ มีแสงประกายอรุณสายหนึ่งปรากฏขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีการบันทึกเอาไว้”
เมื่อสวี่ชิงเอ่ยออกมา ข่งเสียงหลงลอยตัวขึ้นมาจากพื้น เอ่ยเสียงดัง
“ข้าเข้าร่วมภารกิจรับตัวสายลับ ข้าเป็นพิสูจน์การมีอยู่ของบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนรวมถึงกล่องปรารถนาที่ว่างเปล่าได้ เนื้อหาตรงตามสิ่งที่สวี่ชิงพูดไม่ผิดเพี้ยน!”
ชั่วพริบตา กองทัพใหญ่นับแสนบนแท่นพิธีพากันสูดลมหายใจ คนธรรมดาทั้งเมืองหลวงเขตปกครองก็สั่นสะท้านขึ้นมา
องค์ชายเจ็ดเก็บงำสายตา ปลัดเขตปกครองสีหน้าไร้อารมณ์
สวี่ชิงสูดลมหายใจ พูดต่อ
“ข้ารายงานทั้งหมดนี้กับเจ้าวังแล้ว ในเดือนเดียวกัน เจ้าวังก็สู้จนตัวตาย ข้าจึงแอบทำการตรวจสอบต่อ”
สวี่ชิงพูดถึงจุดนี้ ปลัดเขตปกครองถอนใจแผ่วเบาออกมา
“สหายเลี่ยงซิว ก็คิดเหมือนกับข้าสินะ”
สวี่ชิงดวงตาแข็งค้าง
สายตาปลัดเขตปกครองเบนจากสวี่ชิง มองไปทางกองทัพใหญ่นับแสนนั่น ในน้ำเสียงแฝงความปวดร้าวเล็กน้อย
“สิ่งที่สวี่ชิงพูด ก็เป็นสิ่งที่ข้าคิดอยู่ในใจ ข้าเคยเห็นบันทึกอักษรลับสิบเก้าม้วนนั่น
“อันที่จริงตั้งแต่ต้นจนจบ หาใช่เพียงสหายเลี่ยงซิวที่กำลังตรวจสอบ ข้าก็ตรวจสอบอย่างลับๆ เช่นกัน แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ข้ามีความลังเลอยู่เล็กน้อยมาโดยตลอด พลังบำเพ็ญเจ้าเขตปกครองสูงส่ง ใครจะวางยาโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้เล่า
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายเจ้าเขตปกครอง เจ้าเขตปกครองก็เป็นทั้งสหายร่วมงานและยังเป็นสหายสนิทของข้า ยิ่งเป็นวีรบุรุษแห่งเขตปกครองผนึกสมุทร ข้าหวังว่าจะรู้สาเหตุการตายของเขาที่ถูกต้องได้ มีเพียงเช่นนี้ พวกเราจึงจะล้างแค้นให้เขาได้อย่างแท้จริง!
“จวบจนสงครามก่อนหน้านี้ยุติลงชั่วคราว ในที่สุดข้าก็มีเบาะแสบางส่วน และประกาศออกมาหมดแล้วเช่นกัน ทว่าที่สวี่ชิงกล่าวมาก็มีเหตุผล ควรจะให้เผ่ามนุษย์ในเขตปกครองผนึกสมุทรได้รู้ความจริง”
ปลัดเขตปกครองพูดจบ ก็ยกมือขวาขึ้นโบก ฉับพลันกระดานหมากล้อมก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
บนกระดานนี้มีหมากที่ยังเล่นไม่จบอยู่ ตัวหมากขาวดำบนนั้น กำลังประหัตประหารกัน
“นี่คือกระดานหมากล้อมของเขตปกครอง ผู้ลงหมากนี้ปกตินอกจากเจ้าเขตปกครองแล้ว ยังมีข้า สหายเลี่ยงซิวรวมถึงเหยาเทียนเยี่ยน
“มีแค่พวกเราสี่คน ที่เคยสัมผัสกระดานนี้”
ดวงตาปลัดเขตปกครองฉายแววย้อนรำลึก ถอนหายใจเสียงแผ่วเบา หันหลังประสานหมัดให้องค์ชายเจ็ดข้างๆ
“ต้องรบกวนฝ่าบาท ทำเช่นเดียวกับตอนที่พวกเราค้นพบความลับการวางยาพิษในวันนั้นด้วย ใช้เลือดจักรพรรดิ สำแดงเคราะห์ดวงชะตา”
องค์ชายเจ็ดสีหน้าไร้อารมณ์ หลังจากมองปลัดเขตปกครองผาดหนึ่ง ก็ยกมือขึ้นกัดปลายนิ้ว เลือดสดสีแดงหยดหนึ่ง จะหยดลงไปที่กระดานหมากล้อม
เลือดสดหยดนั้นแฝงสายโลหิตที่น่าตกตะลึงไว้ ทำให้เผ่ามนุษย์ทั้งหมดร่างสั่นเทิ้มตาม พริบตาต่อมา เลือดหยดนี้ก็หยดลงไปบนกระดานหมากล้อม
ฉับพลันกระดานหมากล้อมก็เหมือนถูกเลิกผ้าคลุมหน้า มีปราณดำเป็นกลุ่มๆ ฟุ้งออกมา เมื่อมองอย่างละเอียดก็จะเห็นว่าต้นกำเนิดปราณดำนี้มาจากตัวหมาก
“ปราณดำนี้ ก็คือพิษของแสงประกายเคราะห์ชะตาชีวิต ข้ามองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ เจ้าเขตปกครองก็เช่นกัน มีเพียงต้องใช้สายโลหิตของจักรพรรดิเสวียนโยวแห่งแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ถึงทำให้ปรากฏออกมาได้”
“คนที่วางพิษ ก็ใช้กระดานหมากล้อมนี้”
เมื่อปลัดเขตปกครองเอ่ยออกมา รอบด้านก็สั่นสะเทือน
ภาพนี้สมจริงมาก
ส่วนปลัดเขตปกครองตอนนี้ก็ขมขื่น มองฟ้าดินอย่างอาลัยอาวรณ์ เอ่ยเสียงแผ่ว
“อันที่จริง ปลัดเขตปกครองอย่างข้า เดิมหลังจากตัดสินใจรับช่วงต่อเจ้าเขตปกครอง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้รักษาการณ์คนสุดท้ายแก่เขตปกครองผนึกสมุทร ใช้ชีวิตที่เหลือไม่มากนี้ อบรมสั่งรองเจ้าวังหนึ่งในสามคนให้รับช่วงต่อ หลี่อวิ๋นซาน เจ้าเป็นตัวเลือกแรกของข้าเลยนะ”
พูดจบ ปลัดเขตปกครองก็ยกมือขึ้น ฉับพลันปราณเลือดก็แผ่ขยายไปตามนิ้วเขาอย่างรวดเร็วจากการที่เลือดจักรพรรดิหยดนั้นที่กระดานหมากล้อมยังไม่สลายไป จุดที่แล่นผ่าน ปราณดำเข้มข้นก็ปรากฏขึ้นบนร่างปลัดเขตปกครอง
จนหลังจากที่ปราณเลือดกวาดผ่าน ปลัดเขตปกครองที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็มีปราณดำปกคลุมทั้งร่าง เห็นเส้นสีดำแต่ละทางบนผิวหนัง ลักษณะของมัน…คล้าคลึงกับภาพมายาก่อนที่เจ้าเขตปกครองจะแตกดับมาก
“เพราะ ข้าก็ติดพิษเช่นกัน
“ข้าเคยจับตัวหมากของกระดานหมากล้อมนั่น และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ก่อนจะเกิดสงคราม ข้าก็เพียรพยายามมาโดยตลอด
“สวี่ชิง มีครั้งหนึ่งที่เจ้ามาขอเข้าพบข้าก็เห็นความอิดโรยของข้าไม่ใช่หรือ ข้ารู้ดีว่าพิษนี้ไม่มียาถอนพิษ ตอนนั้นข้าจึงบอกกับบ่าวรับใช้ว่าข้าไม่รับยาแล้ว
“เจ้าเขตปกครองแตกดับ สหายเลี่ยงซิวแตกดับ ข้าก็อยู่ได้อีกไม่นาน มีแต่เหยาเทียนเยี่ยนที่หนีไป แล้วใครเป็นคนร้ายเล่า”
ปลัดเขตปกครองยื้มขื่น
คำพูดของเขาดังกึกก้อง ปราณดำที่ปรากฏขึ้นบนร่างราวกับสายอัสนีพันหมื่นสาย ฟาดผ่าลงมากลางแท่นพิธี ฟาดผ่าลงมากลางเมืองหลวงเขตปกครอง ครืนครันไปหมด
ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนหวั่นไหว
แม้แต่ในใจสวี่ชิงก็โหมระลอกคลื่นกระหน่ำซัด ความศรัทธาอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่แต่เดิมของเขาเวลานี้เริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย
“สวี่ชิง เจ้าเป็นเด็กดี เรื่องในวันนี้ ยิ่งพิสูจน์ว่าเจ้ามีจิตใจและคุณธรรมหมื่นจั้งจริงๆ ดีมาก ดีมาก” ปลัดเขตปกครองเอ่ยเสียงแผ่ว สีหน้าอบอุ่น
“เช่นนั้นตอนนี้ จิตใจหมื่นจั้งของเจ้า ยินยอมให้ข้ากลายเป็นเจ้าเขตปกครอง ปกป้องพวกเจ้านับจากนี้หรือไม่”
สวี่ชิงเงียบนิ่ง
ประโยคนี้ คนที่ได้ฟังทั้งหมด ล้วนเห็นเป็นความเมตตากรุณา มีเพียงองค์ชายเจ็ดข้างๆ ที่เมื่อได้ยิน ความกริ่งเกรงปลัดเขตปกครองคนนี้ในใจก็เพิ่มขึ้นถึงสามส่วน
จักรพรรดิหยั่งใจเจ้าได้หมื่นจั้งแล้วอย่างไร
เจ้าเผชิญหน้ากับผู้คนนับหมื่นอย่างกล้าหาญแล้วอย่างไร
ในเมื่อข้าไม่ได้ลงมือเพราะอับอายจนโกรธเคือง ไม่เคยสังหารใครอย่างลนลาน ข้าแค่พูดคุยกับเจ้าด้วยเหตุผล จากนั้น…ข้าแค่อยากได้ยินคำว่า “ได้” จากปากเจ้าเท่านั้น
ใช้ใจประชาชน กดข่มใจหมื่นจั้งของเจ้า
ผืนแผ่นดินนิ่งเงียบสงัด สายตานับไม่ถ้วนมองไปทางสวี่ชิง
Comments