ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 534 กลับมาจากห้วงบรรพกาล (1)
บทที่ 534 กลับมาจากห้วงบรรพกาล (1)
จากเสียงสะท้อนก้องของคำพูดปลัดเขตปกครอง ผู้บำเพ็ญหลายแสนข้างล่างแท่นพิธีใจเกิดระลอกคลื่นลูกมหึมา ส่วนคนธรรมดาในเขตปกครองหลวงที่มีมากคือความสับสนงุนงง เพราะประวัติศาสตร์หลายๆ เรื่องพวกเขาไม่รู้
สวี่ชิงก็หลังจากที่เป็นผู้ครองกระบี่ ได้เรียนกับปลัดเขตปครองถึงจะได้รู้ประวัติศาสตร์ย่อๆ ของเผ่ามนุษย์
นั่นก็เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นภาพชีวประวัติโดยสังเขปขององค์รัชทายาทรัฐม่วงครามจากในประวัติศาสตร์
ตอนนี้โหวเหยาที่อยู่กลางอากาศ พวกรองเจ้าวังทั้งสามที่อยู่รอบๆ ล้วนสีหน้าเหม่อลอย สายตาที่มองไปทางปลัดเขตปกครองฉายแววซับซ้อน
ฐานะที่แท้จริงของปลัดเขตปกครองทำให้คนนอกคาดไม่ถึง แต่ก็เหมือนว่าจะสมเหตุสมผล
อีกฝ่ายหลายปีมานี้ช่วยเหลือสนับสนุนงานราชการด้วยฐานะปลัดเขตปกครอง อีกทั้งคำสั่งต่างๆ ในช่วงสงครามก็ฉายให้เห็นถึงความคุ้นเคยกับงานดูแลบริหารราชการ
กระทั่งว่านึกย้อนไปอย่างละเอียด การจัดการของปลัดเขตปกครองช่วงสงคราม ทุกอย่างเป็นระเบียบ หากตัดความเหนื่อยล้าที่ฉายออกมาเพื่อการแสดงนั่นทิ้ง ก็จะเห็นถึงความเชี่ยวชาญ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซ่อมแซมและฟื้นฟูหลังสงครามเลย
เรื่องทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้คำสั่งแต่ละคำสั่งๆ ของปลัดเขตปกครอง ดำเนินงานอย่างเหมาะสม
เขาทำได้ดีมากจริงๆ กระทั่งว่าก่อนหน้านี้ในใจของหลายๆ คนยังรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าเจ้าเขตปกครองเสียอีก
ความสามารถเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีกันทุกคน นอกจากจะมีความคุ้นเคยกับงานบริหารราชการแล้ว ยังต้องมีมุมมองสถานการณ์โดยรวมของเขตปกครองผนึกสมุทรทั้งเขตอีกด้วย
ดังนั้น คำพูดของปลัดเขตปกครอง สวี่ชิงเชื่อ แต่กลับยังมีข้อสงสัยอื่นอีก อีกฝ่ายไยจึงกลับชาติเกิดได้ สิ่งที่เขาสังเวยคืออะไร
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่อาจลบล้างความผิดบาปที่ปลัดเขตปกครองกระทำไปได้
ไม่ว่าจะใช้พิษสังหารเจ้าเขตปกครองคนก่อน หรือสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้เขตปกครองผนึกสมุทร สมคบคิดกับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวกลางทำให้เจ้าวังตาย ทุกเรื่องล้วนเป็นหนี้เลือด
ดังนั้นไม่นานนัก จิตสังหารที่มาจากทั่วทั้งเขตปกครองก็พวยพุ่งขึ้นอีกครั้ง
ปลัดเขตปกครองไม่ได้สนใจสายตาสังหารนับไม่ถ้วนรอบๆ และไม่มองพวกโหวเหยา คล้ายว่าตอนนี้ในดวงตาของเขา ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรมีเพียงสวี่ชิง คนที่แต่เดิมเขาไม่สนใจคนนี้เท่านั้น
นายกองที่ยืนอยู่ข้างๆ สวี่ชิงตอนนี้ถอยหลังไปสามสี่ก้าว เขารู้ วันนี้ที่นี่สวี่ชิงถึงจะเป็นเป้าสายตาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
“คำตอบที่เจ้าอยากได้ ข้าตอบเจ้าไปแล้ว ส่วนข้าก็มีคำถามข้อหนึ่งอยากถามเจ้าสักหน่อยเช่นกัน”
ปลัดเขตปกครองจ้องสวี่ชิง เอ่ยสงบนิ่ง
“ที่นี่เดิมเป็นดินแดนของข้า ข้าเอาของของข้ากลับคืน ไม่สมเหตุผลหรือ”
สวี่ชิงส่ายหน้า
“ดินแดนของเจ้าล่มสลายไปตามรัฐม่วงครามแล้ว”
พูดจบ สวี่ชิงก็มองไปยังคนหลายแสนข้างล่างแท่นพิธี มองไปทางเขตปกครองหลวงทั้งเขต
“ตอนนี้เขตปกครองผนึกสมุทรเป็นบ้านของทุกคนที่นี่”
คำพูดของเขาดังก้องในฟ้าดิน ในดวงตาของคนนับไม่ถ้วยฉายประกายวาววับ ในใจของคนนับไม่ถ้วนเกิดความคิดเฉกเช่นเดียวกันขึ้นมา
ปลัดเขตปกครองหัวเราะ
“เช่นนั้นทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีเจ้าเพียงคนเดียวที่ก้าวออกมา ข้าจำได้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเขตปกครองผนึกสมุทร เจ้ามาจากทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ”
สวี่ชิงนิ่งเงียบ เขตปกครองหลวงนิ่งเงียบ ฟ้าดินนิ่งเงียบ
ประโยคนี้ประดุจสายฟ้าผ่าลงมาในใจสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นเป็นระลอก จะท่วมจมทุกสิ่ง แต่กลับมีเงาร่างอาบย้อมด้วยเลือดร่างหนึ่ง จะอย่างไรก็ไม่ถูกท่วมจมไป
“มีชายชราคนหนึ่ง ข้าเคารพเลื่อมใสมาก
“เขารบตายแล้ว แต่ในใจของข้า เขายังมีชีวิตอยู่”
สวี่ชิงเอ่ยเสียงเบา
ผู้ครองกระบี่ที่ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชนบนพื้นเศร้าโศกเสียใจ พวกเขารู้ว่าคนที่สวี่ชิงพูดหมายถึงใคร เงาร่างของเจ้าวังที่ปกป้องเขตปกครองผนึกสมุทรเอาไว้ก่อนตายอยู่ในสมองของพวกเขา ได้กลายเป็นชั่วนิรันดร์ตั้งนานแล้ว
ภาพที่ผสานไปกับตาข่ายของวิเศษเวทต้องห้าม ค่อยๆ แตกสลายไปในความเย็นยะเยือกทีละนิดๆ เป็นความเจ็บปวดชั่วชีวิตของผู้บำเพ็ญที่รอดมาจากแนวหน้าเขตตะวันตก
โดยเฉพาะปกป้องบ้านของข้าสี่ตัวอักษรนี้ที่กล่าวเอาไว้ก่อนตาย ประทับลึกลงไปในใจของผู้ครองกระบี่ทุกคน
“ง่ายๆ แค่นี้เองหรือ” ปลัดเขตปกครองค่อนข้างประหลาดใจ
“ไม่เช่นนั้นเล่า” น้ำเสียงสวี่ชิงสงบนิ่ง
“ข้าคิดว่าเจ้าจะพูดอะไรมากมาย” ปลัดเขตปกครองหัวเราะ
สวี่ชิงไม่พูดอะไร เงยหน้ามองท้องฟ้า
เงาร่างชายชราในใจคนนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ความจริงยังมีอีกประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พูด ชายชราคนนั้นใช้คำพูดการกระทำและการรบตาย ทำให้เขารู้ว่าอะไรถึงจะเป็นผู้ครองกระบี่
ดังนั้นสวี่ชิงจึงสูดลมหายใจลึก เสียงต่ำทุ้ม ดังก้องฟ้าดิน
“ผู้ครองกระบี่ หลักฐานชัดเจน ใต้องค์จักรพรรดิทุกสิ่งสรรพล้วนฟาดฟันทำลายได้”
ประโยคนี้เมื่อดังออกมา ฟ้าดินครืนครันสะท้านเลื่อนลั่น สายฟ้าแต่ละสายๆ วาดผ่านท้องฟ้า จิตสังหารแต่ละกลุ่มๆ พวยพุ่งมาจากเขตปกครองหลวง ข้างล่างแท่นพิธี ผู้ครองกระบี่ที่ผ่านสงครามมาโชกโชนเหล่านั้น ตอนนี้แต่ละคนในดวงตาล้วนแดงก่ำ
พวกเขารู้จักประโยคนี้
วังอาญา วังพิธีการ ผู้บำเพ็ญสองวังนี้แม้จะไม่ได้ทำพิธีสาบานแห่งผู้ครองกระบี่ แต่พวกเขารู้อำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบของวังครองกระบี่
ไม่ใช่แค่พวกเขาที่รู้ คนธรรมดาในเขตปกครองหลวงล้วนรู้เช่นกัน
ตอนนี้ลมพัดแล้ว
ลมแรงกรีดหวีดพัดดังก้องไปทั่วฟ้าดิน คนมากมายมหาศาลเดินออกมาจากบ้านในเขตปกครองหลวง เสื้อผ้าสะบัดดังท่ามกลางสายลม พลังดวงชะตาในร่างพวกเขาล้วนพวยพุ่งขึ้น รวมไปที่สวี่ชิง
เสี้ยวขณะนี้ จิตใจประชาชนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว!
เสี้ยวขณะนี้ ฟ้าดินต่างสั่นคลอน!
เสี้ยวขณะนี้ พลังดวงชะตารวมมาจากทั่วทั้งแปดทิศ รวมมาที่เหนือศีรษะสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นกวานเจิดจรัสที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง คนธรรมดาก็สามารถมองเห็นได้
น้ำหนักที่กวานสวมลงมา มีพลังดวงชะตาเพิ่มพลัง อสูรสมุทรบรรพกาลในร่างสวี่ชิงคำราม แปรเปลี่ยนเป็นปราณทันที
ปราณนี้เดิมก็เป็นร่างของพลังดวงชะตาอยู่แล้ว หลังจากปรากฏออกมาก็สะท้านสะเทือน ทำให้ฟ้าดินคำรามลั่น คลื่นวนใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
นี่ก็คือปราณที่เก้าของสวี่ชิง!
ยิ่งมีประกายแสงพรายรุ้งแผ่มาจากในร่างสวี่ชิง พราวพร่างสาดประกายไปทั่วสารทิศ ก่อร่างเป็นปราณเจ็ดสีท่ามกลางประกายแสง!
ปราณแสงพรายรุ้งทำให้ฟ้าดินอับแสง ประกายแสงหมื่นจั้ง
นี่คือปราณที่สิบ!
ยังไม่จบแค่นั้น ภายใต้การปกคลุมจากพลังดวงชะตา ติงหนึ่งสามสองในร่างสวี่ชิงก็สั่นคลอนเช่นกัน ในนั้นหลอมรวมเป็นมนุษย์จิ๋วคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว รูปร่างคล้ายกับเด็กชายตัวน้อยในตอนนั้น แต่หน้าตากลับเป็นสวี่ชิง
การปรากฏขึ้นของมันทำให้ติงหนึ่งสามสองสมบูรณ์ ศีรษะและสิงโตหิน ตลอดจนชายชราเผ่าจิตรกรรมในนั้นต่างจิตใจสั่นสะท้าน คุกเข่าหมอบคารวะปราณที่สิบเอ็ดปราณนี้!
สุดท้าย แม่น้ำแห่งกาลเวลานอกร่างสวี่ชิงก็ชัดเจนขึ้นมาเล็กน้อย ในแม่น้ำสายนี้มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมา
เขาเดินมาจากห้วงเวลา ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ บนร่างไม่มีรัศมีความงดงามสง่าอะไรเท่าไร ยิ่งเป็นร่างที่ไร้แสงเจิดจรัส แต่เป็นเด็กตัวน้อยที่เสื้อผ้าอาภรณ์ขาดวิ่น ใบหน้าดวงน้อยสกปรก เหมือนคลานออกมาจากกองศพ
แต่ในดวงตาของเขากลับฉายความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว คล้ายว่าชีวิตที่ยกลำบากทุกทนเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เขาก้มศีรษะได้ เขาจะเดินต่อไป เขาจะมีชีวิตต่อไป!
นี่คือปราณที่สิบสองของสวี่ชิง!
ปราณนี้เมื่อปรากฏขึ้น ขุนเขาสายธารร่วมสั่นคลอน ชิงชิวที่อยู่ท่ามกลางคนหลายแสงบนพื้นร่างกายสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางลมหายใจหอบถี่ มองปราณนั้น เหม่อลอย
“พี่เด็กน้อย…”
ทุกอย่างนี้สวี่ชิงไม่รู้ เขาในตอนนี้พลังบำเพ็ญทั้งร่างคำรามลั่น พวยพุ่งปะทุ ปราณสี่ปราณที่ก่อกำเนิดขึ้นมาในพริบตาทำให้พลังบำเพ็ญของเขายกระดับขึ้นมหาศาล มาถึงสภาวะที่มีปราณทั้งสิบสองครบสมบูรณ์
ตอนนี้ท้องฟ้าถูกเหนี่ยวนำ ท่ามกลางความรางเลือน สายฟ้าหลอมรวม นั่นคือเคราะห์อัสนี
การปรากฏขึ้นของปราณทั้งสิบสองทำให้เคราะห์สวรรค์ชะตาชีวิตก่อตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่เหมาะกับเวลา แต่สุดท้ายก็เกิดขึ้น
ท้องฟ้ามืดมิด ฟ้าแลบทั่วฟ้าวนเวียน คล้ายงูสีเงินนับพันนับหมื่นปรากฏบนท้องฟ้า
ผู้บำเพ็ญหลายแสนบนแท่นพิธีตื่นตะลึง คนธรรมดานับไม่ถ้วนในเขตปกครองหลวงหวาดเกรง
เคราะห์สวรรค์จะฟาดลงมาเต็มที แต่ในเสี้ยวพริบตานี้เอง กวานเขตปกครองผนึกสมุทรเหนือศีรษะสวี่ชิง เด็กชายตัวน้อยในนั้นพลันเงยหน้า คำรามใส่ผืนนภา
“สลายไป!”
ภายใต้เสียงคำรามนี้ ปราณทั้งสิบสองของสวี่ชิงลอยขึ้นฟ้าพร้อมกัน ต่างคำรามไปยังเคราะห์สวรรค์บนท้องฟ้าอย่างพร้อมเพียง
“สลายไป!”
เสียงคำรามรวมกัน ในยามที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน คนหลายแสนข้างล่างแท่นพิธีต่างผสานจิตเป็นหนึ่งเดียว
“สลายไป!”
พลังดวงชะตายอมรับ คนทั้งหลายเพิ่มพลัง สายฟ้าฟาดผ่า เคราะห์สวรรค์แหลกสลาย จำต้องถอย
จากนั้นเคราะห์สวรรค์มหาศาลจะไม่ลงมาเยือนก็ไม่ได้ ปกคลุมปราณทั้งสิบสอง ทำการชำระล้างให้พวกมัน
ในยามที่ชะตาสวรรค์เพิ่มพลัง มือขวาของสวี่ชิงยกขึ้น กำไปข้างหลังเหมือนกำกระบี่ที่มองไม่เห็นเล่นหนึ่ง
“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”
อักษรสี่ตัวนี้เมื่อดังมา ผู้ครองกระบี่แสนกว่าข้างล่างแท่นพิธี แต่ละคนในดวงตาแดงก่ำ เงาร่างอาบเลือดในความทรงจำของพวกเขาตอนนี้เหมือนปรากฏบนร่างสวี่ชิง ทับซ้อนไปกับเขา
ดังนั้น เสียงคำรามที่แฝงไว้ด้วยความเหี้ยมโหดแต่ละเสียงๆ ก็ดังมาจากปากของพวกเขา
“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”
“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”
แสงกระบี่แต่ละทางๆ ปะทุขึ้นมาจากพื้นดิน พุ่งตรงมายังสวี่ชิง รวมมาที่มือของเขา เกิดเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว
นั่นคือกระบี่จักรพรรดิของผู้ครองกระบี่
กระบี่เล่มนี้ระยิบระยับ เจิดจ้าพร่างพราย
ยังไม่จบแค่นั้น ในบ้านประชาชนหลังหนึ่งในเขตปกครองหลวง ชายชราขาเป๋คนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ในดวงตาฉายจิตต่อสู้แข็งแกร่ง เขาคือมือผี พัศดีเขตปิ่งแห่งกรมราชทัณฑ์!
เขาก็มีกระบี่เล่มหนึ่งเช่นกัน ในตอนที่กรมราชทัณฑ์พังเละ เขาอดทนเอาไว้ เขาบอกสวี่ชิง วันหนึ่งเมื่อหาฆาตกรที่ทำลายกรมราชทัณฑ์ได้ จะต้องบอกเขา
วันนี้ เขารอมานานมากแล้ว
ตอนนี้มือขวาของเขายกขึ้น กำไปข้างหลัง คำรามออกมา
“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”
คำพูดเขาเมื่อดังออกมาก็พลันชักกระบี่ ทันใดนั้น กระบี่จักรพรรดิที่หล่อเลี้ยงมาแปดร้อยปีก็พวยพุ่งขึ้นท่วมฟ้ามาจากข้างหลัง เกิดเป็นรุ้งยาว สะเทือนสะท้านฟ้าดิน คล้ายว่าไร้ผู้เทียบเทียม พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง
เพียงแค่กระบี่นี้ก็สามารถสังการระดับสมบัติวิญญาณ สั่นคลอนหวนสู่อนัตตาได้แล้ว
กระบี่นี้มาถึงในพริบตา หลอมรวมไปในกระบี่จักรพรรดิของสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว กระบี่จักรพรรดิในมือเขาขยายขึ้นหลายเท่าในทันที สวี่ชิงแววตาวาวโรจน์ มองไปทางปลัดเขตปกครอง
“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง ปกป้องบ้านของข้า!”
กระบี่หนึ่งฟันลงมา!
แสงกระบี่สาดส่องท้องฟ้า ปราณกระบี่ทำลายทุกสิ่ง มาพร้อมด้วยคำสาบานของผู้ครองกระบี่ มาพร้อมด้วยจิตระลึกถึงเจ้าวัง พุ่งตรงไปยังปลัดเขตปกครอง
บนฟ้า นายท่านเจ็ดร่างไหววูบ พุ่งตรงไปหาปลัดเขตปกครอง
โหวเหยาในดวงตาจิตสังหารปะทุขึ้น แสงเลือดท่วมฟ้า พุ่งออกไปเช่นกัน
ชิงฉินก็คำรามขึ้นมาทีหนึ่ง พุ่งออกไปเช่นกัน
แล้วยังมีรองเจ้าวังทั้งสามวัง ผู้ดูแล และผู้บำเพ็ญวังอาญาตลอดจนผู้บำเพ็ญวังพิธีการ พลังบำเพ็ญทั้งหมดปะทุขึ้น โจมตีปลัดเขตปกครอง
โจมตีด้วยพลังทั้งหมด แข็งแกร่งไม่อาจต้านทาน
ปลัดเขตปกครองหลุบตา ไม่ได้หลบหลีก
คล้ายว่าพ่ายแพ้แล้ว!
บ่าวชราของเขาที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสี ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว แต่ภายใต้พลังจากทั่วสารทิศเช่นนี้ เขาไม่มีสิทธิ์หลบ
แสงกระบี่สะท้อนวูบ หัวของบ่าวชรากระเด็น ร่างระเบิดแหลก ในยามที่เลือดเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่ว ใบหน้าของหัวที่ลอยกระเด็น เหมือนน้ำแข็งหิมะละลาย เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง
เป็นนกเขาราตรี!
ไม่ใช่แค่เขา คนของปลัดเขตปกครองทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ยากจะหนีความตาย ทั้งหมดต่างร่างกายและจิตวิญญาณสลายสิ้น พลังทั้งหมดโจมตีไปยังปลัดเขตปกครอง
ปลัดเขตปกครองยืนอยู่กลางอากาศ ไม่หลบหลีกแม้แต่น้อย เพียงแค่ในเสี้ยวพริบตาที่พลังทำลายล้างฟ้าดินนี้ซัดลงมา เขาเงยหน้าขึ้น มองสวี่ชิงที่อยู่หลังแสงกระบี่ จากนั้นก็หลับตาลง
เสี้ยวขณะต่อมา แสงกระบี่ที่รวมพลังจากคนทั้งหลาย แฝงด้วยเจตจำนงตั้งมั่นของทั้งเขตปกครอง มาพร้อมด้วยอำนาจแห่งพลังดวงชะตาก็ประชิดเข้ามาทันที
เพียงพริบตาก็ซัดไปบนร่างปลัดเขตปกครอง
ปลัดเขตปกครองร่างสะท้านเฮือก สีหน้าฉายความเจ็บปวด ผมกลายเป็นเถ้าธุลีอันดับแรก ส่วนเสื้อผ้าและเลือดเนื้อเพียงพริบตาก็หลอมเข้าด้วยกัน ร่างถูกพลังภายนอกบดขยี้ ยุบลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
เลือดเนื้อถูกทำลายไปในทันที หน้าอกยิ่งเห็นชัด มองเห็นกระดูกซี่โครง อีกทั้งยังไม่อาจทนรับได้ จากแวววาวเปลี่ยนมาหยาบกร้าน กลายเป็นผุยผงโปรยปรายปกคลุมอวัยวะภายใน
Comments