ผู้กล้าเหนือกาลเวลาบทที่ 535-2 ไพ่ตายของสวี่ชิง! (2)

Now you are reading ผู้กล้าเหนือกาลเวลา Chapter บทที่ 535-2 ไพ่ตายของสวี่ชิง! (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 535-2 ไพ่ตายของสวี่ชิง! (2)

แม้การผสานไอพลังประหลาดต้นกำเนิดเดียวกันทำให้องค์ท่านอาจจะได้โอกาสทำให้สวี่ชิงร่างระเบิด แต่จากการที่สวี่ชิงผ่านเคราะห์ชีวิตปราณก่อกำเนิดเคราะห์แรก พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นมหาศาล ผลึกวารีสีม่วงก็แผ่พลังได้มากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ทุกอย่างนี้แม้จะทำให้นิ้วเทพเจ้ามีโอกาสดิ้นรนหลุดพ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ

แต่องค์ท่านสามารถรับรู้ได้ในทันที เพียงหนึ่งก้านธูปตัวเองก็จะสามารถหลุดพ้นจากร่างของสวี่ชิงได้อย่างสมบูรณ์ กระทั่งว่าจะเปลี่ยนจากผู้อาศัยมาเป็นเจ้าของร่างก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

และองค์ท่านตอนนี้หลังจากที่ตื่นขึ้นมาก็สัมผัสได้ว่าร่างของตัวเองเสียหายไปแล้ว นี่ทำให้ในใจขององค์ท่านทั้งดีใจทั้งกังวล ที่กังวลคือความน่ากลัวของโลกข้างนอก ที่ดีใจคือนับจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนามีร่างของตัวเอง

ตอนนี้มองสวี่ชิงเอาหัวชนไป เห็นสายตาของเสี้ยวหน้าขนาดเล็กนั่นมองมาที่ตนแฝงด้วยความแปลกประหลาดใจเล็กๆ สมองขององค์ท่านก็หมุนเร็วจี๋ แต่ไม่ว่าจะเกิดความคิดอะไร องค์ท่านก็รู้ดีว่าตัวเองต้องจัดการวิกฤตตอนนี้ก่อน

“เจ้าหนูนี่มอบโอกาสให้ข้า! เพื่อความอิสระ สู่กันสักตั้ง หลังจากเรื่องนี้แล้วข้าจะกลืนกินเจ้าเด็กนี่เสีย”

นิ้วคำราม ตอนนี้พุ่งออกไป พลังเทพดังครืนครันขึ้นมา หลังจากทำให้ร่างของสวี่ชิงขยายใหญ่ขึ้นจากสิบกว่าจั้งเป็นสามสิบจั้งแล้ว ภายใต้มือขวาของสวี่ชิงที่เงื้อขึ้น นิ้วเทพเจ้าก็หลอมรวมมาในนิ้วชี้ของสวี่ชิง

เพียงพริบตา นิ้วชี้ของสวี่ชิงก็แสงสีทองระยิบระยับ โจมตีไปยังเสี้ยวหน้าเทพเจ้าอย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน พวกนายท่านเจ็ดทั้งสามคนที่สู้กับหุ่นเชิดสองตัวบนท้องฟ้า ในเสี้ยวพริบตานี้ก็ไม่สนว่าต้องได้รับบาดเจ็บ ต่างลงมือโจมตี

แสงสีแดงม่วงทั่วทั้งร่างชิงฉินปะทุขึ้น ก่อเป็นทะเลแสงผืนหนึ่งกวาดไปยังเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง

ข้างหลังนายท่านเจ็ดมีมือหยกขาวขนาดร้อยจั้งปรากฏขึ้น แหวกความบิดเบี้ยว ซัดไป

และยังมีโหวเหยา เขาเป็นผู้ที่มีพลังบำเพ็ญสูงที่สุดที่นี่ ตอนนี้ในดวงตาฉายแววแน่วแน่ เหนือศีรษะมีดอกไม้สีเลือดดอกหนึ่งปรากฏ ขณะที่ไหวโอนเอน กิ่งของดอกไม้โค้งราวคันธนู จากการเหี่ยวแห้ง ลูกศรคมสีเลือดดอกหนึ่งปรากฏขึ้น

เมื่อยิงธนูออกไป ลูกศรเลือดมาพร้อมด้วยพลังน่าครั่นคร้าม ขนาดราวรุ้งยาว ถล่มภูเขาล่มสมุทร พุ่งตรงไปยังเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง

ปลัดเขตปกครองไม่หลบหลีก มองสวี่ชิง ดวงตามีความผิดหวัง ส่งจิตเทพออกมา

“ไม่ผิดจากที่ข้าคิดเอาไว้เลย นิ้วเทพเจ้าในร่างของเจ้าก็คือไพ่ตายของเจ้านั่นเอง สวี่ชิง พลังบำเพ็ญของเจ้าไม่พอ การอำพรางที่เจ้าคิด ในสายตาของข้าเห็นได้อย่างชัดเจนมาตั้งนานแล้ว

“หากร่างเดิมของนิ้วนี้ปรากฏขึ้น ก็สามารถสะกดข้าได้จริงๆ แต่องค์ท่านถูกชื่อหมู่กลืนกินไปแล้ว น่าเสียดาย สวี่ชิง ข้าให้โอกาสเจ้า แต่เจ้าก็ยังล้มเหลว”

แสงสีทองของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองแผ่มา ก่อเป็นโครงร่าง ยกมือขวาขึ้นสะบัดไปยังท้องฟ้า ทันใดนั้นประกายแสงสีทองปะทุขึ้นมา แปรเปลี่ยนเป็นร่มสีทองคันใหญ่เหนือศีรษะเขา

ขณะที่สกัดกั้นพลังของโหวเหยาทั้งสามคน ปลัดเขตปกครองก็ยกมือขวาขึ้น กดไปทางนิ้วชี้ของสวี่ชิงที่มาถึง

สัมผัสในพริบตา

เสียงระเบิดเลื่อนลั่นดังก้อง ฝ่ามือของปลัดเขตปกครองที่กดมายังนิ้วของสวี่ชิงยากจะแบกรับ ระเบิดทันที

พลังของของนิ้วเทพเจ้าแข็งแกร่งทรงพลังเกินต้าน ประชิดเข้ามาในพริบตา แต่ในขณะเดียวกับที่มือรางเลือนของปลัดเขตปกครองแตกสลาย มือหยกขาวข้างหนึ่งก็ยื่นมาจากในร่างของปลัดเขตปกครอง แรกเริ่มเล็กมาก แต่ในพริบตาก็มีขนาดมหึมา คว้านิ้วของสวี่ชิงเอาไว้

ทันใดนั้นนิ้วเทพเจ้าสั่นระริก ไม่อาจเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีกแม้เพียงเล็กน้อย และไม่อาจสลัดให้หลุดพ้นได้

พลังน่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่งปะทุมาจากมือหยกขาว มาตามนิ้วสะเทือนทั่วร่างสวี่ชิง

ในยามที่นิ้วเทพเจ้าตกใจโมโห ร่างเทพของสวี่ชิงเลือดเนื้อเหวอะหวะ เริ่มเน่าเปื่อย หลายแห่งแตกสลาย เลือดอาบย้อม เส้นสีทองจำนวนไม่น้อยขาดสะบั้น

ไม่รอให้สวี่ชิงเจ็บปวดหัวใจ นิ้วเทพเจ้าก็ชิงเจ็บปวดสุดขีดก่อน องค์ท่านท่ามกลางเสียงคำรามก็ปะทุพลังทั้งหมดออกมา คิดจะปกป้องร่างนี้ แต่ก็ทำได้แค่ชะลอเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขได้

สวี่ชิงเงียบนิ่งไม่พูดไม่จา

เห็นว่าอันตรายเต็มที ร่มคันใหญ่สีทองเหนือศีรษะปลัดเขตปกครองส่งเสียงดังลั่น

ภายใต้การลงมือจากโหวเหยา นายท่านเจ็ดและชิงฉิน ร่มสีทองคันนี้ก็ยากจะแบกรับเช่นกัน ระเบิดทันที

แต่มือใหญ่ข้างที่สองยื่นออกมาจาร่างของปลัดเขตปกครอง กดไปทางลูกศรของโหวเหยา พลังเทพของนายท่านเจ็ด และแสงของชิงฉินอีกครั้ง

ในยามที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวสะท้านฟ้า ปลัดเขตปกครองเมินข้างหลัง ในดวงตาของเขามีเพียงแค่สวี่ชิงเท่านั้นมาโดยตลอด

ตอนนี้ส่ายหน้า ดวงตามีความเสียดาย กำลังจะเอ่ยปาก สวี่ชิงกลับส่งเสียงขัดขึ้นมา

“ในที่สุดก็เข้าใกล้เจ้าได้แล้ว”

ปลัดเขตปกครองอึ้ง ในพริบตาที่รูม่านตาของดวงตาข้างเดียวบนเสี้ยวหน้าหดเล็ก สวี่ชิงบีบป้ายที่พิเศษมากๆ ป้ายหนึ่งที่อยู่กลางฝ่ามือซ้ายจนแหลกละเอียด!

ป้ายนี้มีประโยชน์เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือส่งข้ามไปในพื้นที่ที่กำหนด

เนื่องจากเกี่ยวพันกับพื้นที่ที่ส่งข้าม ดังนั้นพลังของมันจึงสูงมาก อีกทั้งป้ายนี้เองก็เป็นของวิเศษ มีอยู่ไม่มาก

ชื่อของมันคือยันต์ห้วงวิญญาณ

สถานที่ส่งข้ามที่กำหนดชื่อว่าหุบเหววิญญาณ

ที่นั่นไม่มีเทพเจ้า ไม่มีจักรพรรดิมนุษย์ แต่กลับมีตัวตนที่คุณสมบัติสายเลือดสูงกว่าจักรพรรดิมนุษย์แห่งยุคมหาศาล เหนือกว่าเจ้าเหนือหัว

ตัวตนท่านผู้นี้เคยรวบรวมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ทั้งแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง ตอนที่เขาดำรงตำแหน่ง เสวียนโยวยังไม่ได้มรรคา ท้องฟ้ายังมีไม่มีเสี้ยวหน้าเทพเจ้า

กระทั่งว่าหลังจากที่เขาตายแล้ว แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ตกอยู่ในห้วงสงครามหมื่นเผ่าปั่นป่วนอีกครั้ง ดังนั้นแล้วเผ่ามนุษย์ถึงได้ผงาดขึ้น มีจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวในยุคหลัง

ท่านผู้นี้ก็คือจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลผู้นำเผ่าวิญญาณบรรพกาลรวบรวมแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ให้เป็นหนึ่งนั่นเอง!

โลกหุบเหววิญญาณก็คือสถานที่แห่งความตายที่เขานำพาสมาชิกในเผ่ามา ส่วนเขา…กำลังฟื้นคืน

ในตอนที่สวี่ชิงเห็นดวงตามหึมาข้างนั้นของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล พลังกดดันที่นำมาให้เขาแม้จะไม่น่ากลัวขนาดชื่อหมู่แบบนั้น แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าเทพเจ้า กระทั่งว่ามีเค้ารางว่าแข็งแกร่งกว่าเทพเจ้าแดนต้องห้ามเซียนเล็กน้อย

นี่ถึงจะเป็นไพ่ตายของสวี่ชิง!

ทุกอย่างเมื่อก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการอำพรางทั้งสิ้น เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปลัดเขตปกครองพูด ดังนั้นก่อนที่เขาจะสำแดงไพ่ตายก็จะต้องนำนิ้วเทพเจ้าออกมาก่อน ดึงดูดความสนใจของปลัดเขตปกครอง อีกทั้งดึงระยะห่างให้เข้ามาใกล้มากที่สุด

มีเพียงอีกฝ่ายคิดว่านั่นคือไพ่ตายของเขา ไพ่ตายถึงจะสำแดงออกมาได้

เขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว

สวี่ชิงไม่ใช่หมอดู เขาไม่รู้แผนการของปลัดเขตปกครองหลังจากตัวเองเดินออกไป เขาทำได้เพียงวิเคราะห์พลังคร่าวๆ ของอีกฝ่าย แต่ไม่ว่าจะมีพลังแท้จริงเป็นเช่นไร ไพ่ตายใบนี้สามารถใช้ได้

เดิมสวี่ชิงคิดจะใช้ไพ่ตายใบนี้กับจื่อชิง

แต่ปลัดเขตปกครองไม่ใช่จื่อชิง สวี่ชิงเสียดายนิดๆ

ส่วนสุดท้ายแล้วจะได้ผลจริงๆ หรือไม่ สวี่ชิงก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปเยือนหุบเหววิญญาณอีกครั้ง เผชิญหน้ากับจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลเขาจะไม่เป็นอะไรเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ เขาก็ไม่มั่นใจ

แต่เขารู้สึกว่า ในเมื่อระหว่างเทพด้วยกันยังกลืนกินได้ ในเมื่อชื่อหมู่กลืนกินเทพเจ้าแดนต้องห้ามเซียนได้ เช่นนั้นจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลที่เหมือนกับเทพเจ้า ในขั้นตอนการฟื้นตื่นนี้ก็น่าจะอยากกลืนกินตัวตนที่สู้องค์ท่านไม่ได้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการฟื้นคืน

อย่างไรเสีย จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็หิวมานานมากๆ…วิญญาณสมาชิกในเผ่าที่มาเป็นบางครั้งไม่อาจทำให้อิ่มท้องได้เลย เห็นได้ชัดว่าไม่มีคนให้อาหารสักเท่าไร

ความคิดเหล่านี้ก็คือสิ่งที่สวี่ชิงคิดไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้ในพริบตาที่บีบป้ายแหลกละเอียด พลังดูดรุนแรงมหาศาลกลุ่มหนึ่งก็ปะทุมาจากกลางฝ่ามือของเขาทันที

และภูเขาเนื้อวังหลวงที่เขาเห็นดวงตาของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลในตอนนั้นก็ผุดขึ้นมาในใจอย่างรวดเร็ว

ชายชราเจ้าของโรงเตี๊ยมถนนทองผุดตอนนั้นบอกวิธีการใช้ยันต์ห้วงวิญญาณให้กับเขา เคยบอกว่ามันสามารถกำหนดจุดหมายส่งข้ามไปได้

พลังดูดกลุ่มนี้เนื่องจากคุณสมบัติสายเลือด สวี่ชิงจึงไม่อาจขัดขืนได้ ส่วนทางปลัดเขตปกครองก็ไม่สามารถขัดขืนได้เช่นกัน

โดยเฉพาะมือหยกขาวของปลัดเขตปกครองที่กำลังคว้านิ้วเทพเจ้าที่สวี่ชิงเอามาเป็นเหยื่อล่อ

พวกเขาสัมผัสกัน

ดังนั้น เพียงพริบตา แรงดูดนี้ก็มีพวกเขาทั้งสองเป็นศูนย์กลาง แผ่ขยายออกไปข้างนอกเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พลังมหาศาลเกินต้าน ฟ้าดินเปลี่ยนสี

ไอพลังประหลาดรอบๆ ถูกกำจัดไป ท้องฟ้ามีแสงสลัวกลับคืนมาอีกครั้ง ขณะที่แผ่นดินบิดเบี้ยวก็สะท้อนเงาภูเขา แม่น้ำ ออกมา และพลังดูดแข็งแกร่งมหาศาลก็พวยพุ่งขึ้นทั้งหมด ปะทุไม่รู้จบสิ้น

ปลัดเขตปกครองหน้าเปลี่ยนสี คิดจะถอยไปก็ไม่ทันแล้ว

เขามั่นใจในตัวเองเกินไป

จากการปกคลุมของพลังดูดในตอนนี้ คนทั้งสองที่อยู่ใจกลาง เงาร่างหายไปจากท้องฟ้าแท่นพิธีเขตปกครองหลวงทันที!

นายกองลมหายใจหอบถี่ มือทั้งสองประสานปางมืออย่างรวดเร็ว คล้ายว่ากำลังสัมผัสรับรู้

นายท่านเจ็ดสีหน้าเคร่งเครียด มองไปทางองค์ชายเจ็ดที่จนแล้วจนรอดก็ไม่ลงมืออะไรเลย

โหวเหยาสีหน้าตกใจเช่นกัน ชิงฉินคำราม

และที่นี่ ไม่มีต้นกำเนิดพลังที่แผ่ไอพลังประหลาด ความบิดเบี้ยวบนท้องฟ้ากำลังหายไปจากการจากไปของปลัดเขตปกครอง ความรางเลือนบนผืนดินกำลังเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรหยุดชะงัก

ตาข่ายที่แปรเปลี่ยนมาจากของวิเศษเวทต้องห้ามบนท้องฟ้ากะพริบไม่หยุด ขัดขวางวิญญาณที่ลงมาเยือนทุกตน ยิ่งมีหลายๆ คนที่ได้สติจากการเหม่อลอย เทือกเขาบรรพกาลที่ปรากฏในเขตปกครองผนึกสมุทรพวกนั้นต่างสั่นคลอน

แต่ทุกอย่างยังไม่จบ หุ่นเชิดสองตัวนั้นยังคงเป็นศัตรูตัวฉกาจเช่นเดิม นอกเสียจากปลัดเขตปกครองจะตาย การเชื่อมโยงกับพวกมันขาดสะบั้น ถึงจะสงบลงได้

องค์ชายเจ็ดเงยหน้า จ้องเพ่งหุ่นเชิดสองตัวนั้น

หากหุ่นเชิดสองตัวนี้เสียคำสั่งควบคุมเปลี่ยนมาสงบ เช่นนั้นก็จะเป็นเวลาที่เขาลงมือกอบกู้สถานการณ์

‘ใครจะเป็นผู้ชนะ ค่ายกลส่งข้ามที่สวี่ชิงสุดท้ายบีบแหลกนั่น พลังคุณสมบัติสายเลือดสูงมาก จะดูถูกไม่ได้’ องค์ชายเจ็ดพึมพำในใจ รอคอยต่อไป

ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอน เขาไม่มีทางวางเดิมพันไปฝั่งใดทั้งสิ้น

และในตอนนี้ ในโลกหุบเหววิญญาณที่มีวิญญาณเผ่าวิญญาณบรรพกาลนับไม่ถ้วน ทุกอย่างเงียบสงัด

ท้องฟ้าที่นี่มืดหม่น ผืนดินก็เช่นกัน

ไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น โลกทั้งใบเหมือนมีแต่ภาพเท่านั้น

ท่ามกลางฟ้าดินกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจะเห็นวังหลวงแห่งหนึ่ง

รอบๆ มันมีวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนกำลังลอยวนล้อม

ในวังหลวงมีภูเขาเลือดเนื้อสูงใหญ่ลูกหนึ่ง ท้องฟ้าเหนือยอดเขามีดวงตามหึมาข้างหนึ่งลอยอยู่

วิญญาณสดใหม่จำนวนหนึ่งที่เซ่นไหว้สังเวยเอาไว้รอบๆ องค์ท่านกำลังแผ่เส้นวิญญาณเป็นระลอกๆ ขณะที่ผสานไปในดวงตามหึมา มังกรทองแต่ละตัวพันล้อมรอบๆ ก่อเป็นอักขระตัวแล้วตัวเล่า มาพร้อมกับเส้นวิญญาณเหล่านั้น ผสานไปในดวงตามหึมา

วิญญาณรอบๆ ประเดี๋ยวๆ ร่างทั้งร่างพลันหยุดชะงัก หันไปมองดวงตามหึมา ท่ามกลางความเงียบสงัด ก็ต่างหมอบคารวะ จากนั้นก็ลอยอีกครั้ง

บนพื้นมีโครงกระดูกนับไม่ถ้วน ทุกโครงล้วนเหี้ยมโหดอำมหิตนัก แผ่ความกระหายเลือดและความบ้าคลั่งออกมา แต่กลับยืนเงียบๆ ไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงในตอนที่หมอบคารวะเท่านั้นถึงจะขยับ

ที่นี่ความจริงแล้วไม่ใช่วังหลวงเพียงที่เดียว

ที่ไกลจากนี้ วังหลวงประเภทนี้มีอีกไม่น้อย

เหนือวังหลวงทุกแห่งล้วนมีภูเขาเนื้อชุ่มเลือด ล้วนมีดวงตามหึมาที่เหมือนกันทุกประการ

แต่ตอนนี้ ในวังหลวงมากมายนี้ วังหลวงที่สวี่ชิงเคยมาเยี่ยมเยือนมีวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนวนล้อม ดวงตามหึมาที่ลอยอยู่บนภูเขาเลือดเนื้อพลันสะท้านเฮือก

ความสุขสงบคล้ายว่าถูกทำลาย ห้วงนิทราลึกคล้ายว่าถูกรบกวน

องค์ท่านพลันลืมตาขึ้นมา มองท้องฟ้าท้องฟ้าอย่างโมโหโกรธา จิตเทพที่ทรงพลังแข็งแกร่งจนคล้ายว่าท่วมจมฟ้าดินทำให้โลกวิญญาณบรรพกาลทั้งสั่นไหว พลันปะทุออกมาจากในดวงตามหึมาข้างนี้ กวาดมองไปบนผืนดิน

“ไอ้เด็กเวร เจ้ายังกล้ามาอีกหรือ!!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด