พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่งบทที่ 444 เป็นประโยชน์

Now you are reading พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 444 เป็นประโยชน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงไฟใน​ห้องโถง​หลัก​ของกอง​กิจการ​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​สว่างไสว​ บน​โต๊ะ​เต็มไปด้วย​อาหาร​และ​สุรา​ ทว่า​ภายใน​กลับ​ว่างเปล่า​ ไร้​ซึ่งผู้คน​ ไม่สิ มีอยู่​คน​หนึ่ง​ เจียง​เห​วิน​หยวน​ที่นั่ง​อยู่​หัว​โต๊ะ​ยังคง​นั่ง​อยู่​ใต้​แสงสว่าง​ ใบหน้า​ของ​เขา​ขาวซีด​จน​น่ากลัว​

วันนี้​เป็น​วันเกิด​ของ​เขา​ แม้ว่า​งาน​จะหนัก​และ​เหนื่อยล้า​เพียงใด​ แต่​ก็​ถือว่า​ผ่าน​ไป​ได้​ด้วยดี​

หลังจากที่​ได้​รับรางวัล​ จะกำลังจะ​พ้น​ตำแหน่ง​ผู้ช่วย​ออก​ และ​ถูก​เรียก​เรียก​สั้น​ๆ ว่า​ผู้บัญชาการ​ชายแดน​ได้​เต็มปากเต็มคำ​ ขณะเดียวกัน​ก็​จะได้​ตั้งรกราก​อยู่​ที่​จือ​โจว​

แน่นอน​ว่า​ชีวิต​มัก​มีเรื่อง​ที่​ไม่น่าพอใจ​อยู่​เสมอ​ ตัวอย่างเช่น​พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​ที่​ดู​ไม่สำคัญ​ แต่กลับ​น่าขยะแขยง​เพราะ​ต่อสู้​แย่งชิง​ความดี​ความชอบ​

แต่​สุดท้าย​ปัญหา​ก็​ผ่าน​ไป​ได้​อย่าง​ราบรื่น​

นอกจากนี้​ หลาย​วันก่อน​ อนุภรรยา​ของ​เขา​ได้​คลอด​ลูกชาย​อีก​คน​หนึ่ง​ นี่​นับ​เป็น​ลูกชาย​คน​ที่​สิบ​สามของ​เขา​ และ​เป็นที่​อิจฉา​สำหรับ​คน​มากมาย​ที่​มีทายาท​ได้​ยาก​

แน่นอน​ งาน​วันเกิด​ปี​ที่สี่​สิบ​หก​ เจียง​เห​วิน​หยวน​จัด​ขึ้น​อย่าง​ชื่นมื่น​ แต่​เขา​กลับ​คาดไม่ถึง​ว่า​งานเลี้ยง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เริ่ม​ ก็​ตกใจ​กับ​สาร​ลับ​ที่​ส่งมาจาก​เมืองหลวง​

โจว​!เฟิ่ง!เสียง​!

เสียง​ตะโกน​นี้​ ทำให้​เจียง​เห​วิน​หยวน​พลิก​โต๊ะ​ตรงหน้า​จน​คว่ำ​ ถ้วย​ จาน​ ชาม จานรอง​ กา​เหล้า​ล้มระเนระนาด​กระจาย​เต็ม​พื้น​

“ฆ่ามัน​เสีย​!ฆ่ามัน​เสีย​!”

เขา​ตะโกน​แล้ว​รีบ​เดิน​ออก​ไป​คว้า​มีด​จาก​เอว​ของ​บ่าว​ที่​ยืน​อยู่​บน​ระเบียง​ทางเดิน​ ก่อน​มุ่งตรง​ไป​ที่​ประตู​ใหญ่​

“ใต้เท้า​ ใต้เท้า​ไม่ได้​นะ​ขอรับ​!”

ผู้ติดตาม​คนสนิท​พา​เหล่า​เสนาธิการ​ชิงเค่อ​วิ่ง​กรู​เข้ามา​ขวาง​แล้ว​รีบ​แย่ง​มีด​อย่าง​ไม่คิด​ชีวิต​

“ฆ่ามัน​ ไป​ฆ่ามัน​เดี๋ยวนี้​” เจียง​เห​วิน​หยวน​ตะโกน​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน​

“ใต้เท้า​ อย่า​ว่าแต่​ใต้เท้า​เลย​ มีคน​มากมาย​ของ​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​อยาก​จะฆ่าเขา​” เสนาธิการ​เกลี้ยกล่อม​เขา​ “อันที่จริง​ มัน​ไม่ยาก​เลย​ที่จะ​สังหาร​เขา​ใน​สนามรบ​ ไม่ว่า​จะทำให้​ม้าตกใจ​จน​ตัว​ตาย​หรือ​ธนู​ยิง​ใส่ล้วน​ฟังขึ้น​ทั้งนั้น​ แต่​ตอนนี้​อยู่​ที่​เมือง​หลง​กู่​และ​ไม่มีศึกสงคราม​ จะสังหาร​เขา​อย่างไร​”

ยิ่งไปกว่านั้น​ หลังจาก​ได้รับ​สาร​ลับ​ เขา​ก็​ส่งคน​ให้​ไปหา​โจว​เฟิ่งเสียง​ กลับ​พบ​ว่า​โจว​เฟิ่งเสียง​ที่​อ้างว่า​ล้ม​ป่วย​เลย​ไม่ได้มา​งานเลี้ยง​ถูก​ถอด​ออกจาก​ตำแหน่ง​และ​เข้า​คุก​ด้วยตัวเอง​ บอ​กว่า​ตน​ทำผิด​และ​คำสั่ง​จาก​ราชสำนัก​

“เขา​เข้า​คุก​เอง​ ตาย​ไป​ใน​คุก​เสีย​จะเป็นไรไป​!” เจียง​เห​วิน​หยวน​ดวงตา​แดงก่ำ​และ​กัดฟัน​เอ่ย​

หาก​ขุนนาง​ทหาร​ตาย​ไป​คง​ไม่เป็นไร​ แต่​โจว​เฟิ่งเสียง​เป็น​ขุนนาง​ฝ่ายบุ๋น​และ​อยู่​ระหว่าง​กราบทูล​รับผิด​”

“ใต้เท้า​ ตอนนี้​เขา​ยัง​ตาย​ไม่ได้​ หาก​เขา​ตาย​ พวกเรา​ไม่มีข้ออ้าง​แน่นอน​ขอรับ​” เสนาธิการ​ถอนหายใจ​เอ่ย​

เจียง​เห​วิน​หยวน​จะไม่รู้เรื่อง​นี้​ได้​อย่างไร​

“แต่​ตอนนี้​เขา​ยัง​ไม่ตาย​ พวกเรา​ก็​อธิบาย​ไม่ได้​เหมือนกัน​!” เขา​ตะโกน​

เขา​เดิน​ไปมา​ราวกับ​เสือ​ดุร้าย​ที่​พร้อม​กระโจน​ด้วย​ความโกรธ​แต่กลับ​ถูก​ขัง​ไว้​ใน​กรง​

ทันทีที่​เขา​ได้รับ​สาร​ลับ​ เขา​ก็​เข้าใจ​เรื่องราว​ทั้งหมด​ในทันที​ ความกังวล​ที่​อธิบาย​ไม่ได้​ใน​ใจมาหลาย​วัน​ก็​คลี่คลาย​ลง​อย่าง​สมบูรณ์​

ไม่แปลกใจ​ที่​เขา​รู้สึก​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​!

เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​!เป็น​เช่นนี้​นี่เอง​!

ใคร​เป็น​คน​ปล่อยข่าว​ว่า​สวี​ซื่อ​เกิน​โดน​ทุบตี​ใน​เรือนจำ​ เหตุใด​ทหาร​อาสาสมัคร​แต่ละ​ที่​ถึงบังเอิญ​อยู่​ละแวก​นั้น​พอดี​ และ​เหตุใด​ฟางจ้งเห​อ​ที่​หลบหนี​ถึงถูก​ทหาร​เฝ้าประตูเมือง​รั้ง​ไว้​ได้​อย่าง​บังเอิญ​…

ทั้งหมด​นี้​เตรียม​ไว้​สำหรับ​พวกเขา​ที่ยอมรับ​เหตุการณ์​ป้อม​หลิน​กวน​และ​เขียน​ไว้​ใน​สาส์น​กราบทูล​ และ​สำหรับ​ตราประทับ​ของ​เขา​ที่​ประทับ​ไว้​บน​สาส์น​กราบทูล​นั่น​!

“พวกเขา​ตั้งใจ​หลอกลวง​!นี่​เป็นการ​บิดเบือน​ข้อมูล​!” เจียง​เห​วิน​หยวน​ตะโกน​ “นี่​คือ​การวางแผน​ใส่ร้าย​!อีก​อย่าง​ การ​รายงาน​เท็จ​เรื่อง​ความดี​ความชอบ​ทางทหาร​ไม่ใช่เรื่อง​ใหญ่โต​อะไร​ นี่​ก็​ไม่ใช่การ​รายงาน​ความดี​ความชอบ​เท็จ​เสียหน่อย​ นี่​เป็น​เพียง​การคุย​โอ้อวด​หลัง​สงคราม​เท่านั้น​!พวกเรา​แค่​พูด​โอ้อวด​เกิน​จริง​ไป​บ้าง​ ฆ่าคนดี​เอา​ความดี​ความชอบ​ก็​มีถมไป​…”

เหล่า​เสนาธิการ​รีบ​เกลี้ยกล่อม​เขา​เพื่อ​ไม่ให้​พูด​ต่อ​

ถูกต้อง​แล้ว​ กา​รายงาน​ความดี​ความชอบ​เท็จ​ไม่ใช่เรื่อง​แปลก​อะไร​ พวกเขา​กล้า​รับประกัน​ว่า​ทุกครั้งที่​สงคราม​สิ้นสุดลง​ ทุก​กองทัพ​ล้วน​พูดจา​โอ้อวด​เกิน​จริง​กัน​ทั้งนั้น​

แต่​เรื่องราว​บน​โลก​นี้​ก็​เป็น​เช่นนี้​แล​ เมื่อ​ครั้น​ไม่เป็นไร​คือ​ไม่เป็นไร​ เมื่อ​เกิด​ปัญหา​ก็​ถูก​เล่นงาน​ ทั้งหมด​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​คำพูด​เพียง​อย่าง​เดียว​

อีก​อย่าง​จังหวะ​เวลา​ที่​รายงาน​คราวนี้​ก็​ส่งไป​ถึงก็​ไม่สู้ดี​นัก​

ดัน​ส่งไป​ถึงเมืองหลวง​ตอนที่​พิจารณา​เรื่อง​การแย่งชิง​ความดี​ความชอบ​ใน​ศึก​ป้อม​หลิน​กวน​พอดี​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ตอนที่​ฮ่องเต้​ถูก​หญิง​นาง​นั้น​บีบบังคับ​ให้​ตบ​ปาก​รับคำ​

“นี่​มัน​เหมือน​ตบหน้า​ฮ่องเต้​ชัด​ๆ ทำให้​ฮ่องเต้​เสียหน้า​” เหล่า​เสนาธิการ​ถอนหายใจ​

ฮ่องเต้​ไม่กริ้ว​สิถึงจะแปลก​

การเคลื่อนไหว​ของ​โจว​เฟิ่งเสียง​ครั้งนี้​ ทั้ง​ดุดัน​และ​อำมหิต​เสีย​จริง​

เจียง​เห​วิน​หยวน​เตะ​ชั้น​วาง​จน​ลอย​ อาวุธ​และ​สิ่งของ​ต่างๆ​ ตกลง​กระทบ​พื้น​เสียงดัง​

“ใต้เท้า​ เรา​ต้อง​ขอ​ชี้แจงเหตุผล​ของ​ตน​” เสนาธิการ​เอ่ย​ “แต่​สิ่งที่​สำคัญ​ตอนนี้​คือ​ ท่าน​จะถูก​เรียกตัว​ไป​เมืองหลวง​ไม่ได้​”

หาก​ท่าน​ไป​เมืองหลวง​ ท่าน​ก็​จะต้อง​เสียเวลา​ไป​กับ​การ​ถกเถียง​อย่าง​ไม่มีที่​สิ้นสุด​ แม้ว่า​สุดท้าย​ท่าน​จะชนะ​ เกรง​ว่า​คง​ยาก​ หาก​จะกลับ​มายัง​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​อีก​

ถูกต้อง​ เขา​ไป​ไม่ได้​ หาก​เขา​ไป​จริงๆ​ ก็​จะไม่สามารถ​แก้ไข​อะไร​ได้​แล้ว​

“แล้​วจะ​ไม่ให้​ไป​หรือ​” เขา​กัดฟัน​เอ่ย​

เรื่อง​ของ​โจว​เฟิ่งเสียง​รุนแรง​นัก​ ทาง​เมืองหลวง​คง​กัดไม่ปล่อย​แน่​ รวมทั้ง​ฮ่องเต้​ยังคง​โกรธ​อยู่​ใน​อารมณ์​ จะปล่อย​ผ่าน​ไป​ได้​อย่างไร​

“เรา​มาหา​ทางออก​ก่อนที่​ราชทูต​จะมาถึงเถิด​” เหล่า​เสนาธิการ​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​คำพูด​นี้​

ยาม​ยืน​อยู่​ตรง​ลานบ้าน​ สายลม​ยามค่ำคืน​พัดผ่าน​ แม้ว่า​จะยัง​ไม่ถึงฤดูหนาว​ของ​เดือน​สิบสอง​ เจียง​เห​วิน​หยวน​กลับ​รู้สึก​ถึงลมหนาว​เย็นเยือก​ไป​ถึงกระดูก​

พอ​ท้องฟ้า​สว่าง​ สายตา​ของ​ผู้​คนใน​ห้องโถง​ว่าการ​เปลี่ยนเป็น​สีแดงก่ำ​ แม้จะอด​นอนมา​ทั้งคืน​ แต่​ก็​ไม่มีใคร​ง่วง​ หรือ​กล่าว​ได้​ว่า​รู้สึก​เย็นชา​ไร้ความรู้สึก​กัน​ไป​เสีย​หมด​แล้ว​

เอกสาร​ทางทหาร​จำนวน​นับไม่ถ้วน​กระจาย​อยู่​เต็ม​พื้น​ แต่​พวกเขา​กลับ​หา​วิธี​แก้ไขปัญหา​เร่งด่วน​ตรงหน้า​ไม่ได้​

“ข้า​จะฆ่าโจว​เฟิ่งเสียง​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ไป​เลย​!” เจียง​เห​วิน​หยวน​ตะโกน​อย่าง​ฉุนเฉียว​

เหล่า​เสนาธิการ​รีบ​ห้าม​เขา​ไว้​อย่าง​สุด​พลัง​

“ใต้เท้า​ สละ​ชีวิต​เช่นนี้​ไม่คุ้ม​หรอก​!”

“ใช่ เรื่อง​ยัง​ไม่มีข้อสรุป​ แม้ต้อง​ออกจาก​ทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ ก็​ยังมี​ที่อื่น​รอ​อยู่​ ใต้เท้า​เกา​ต้อง​ช่วย​ท่าน​อย่าง​แน่นอน​ และ​ท่าน​จะได้​กลับมา​โดยเร็ว​!”

อย่าง​น้อย​ตอนนี้​พวกเขา​ก็​ไม่ต้อง​อยู่​ที่นี่​และ​ไม่เข้า​เมือง​เห​ลวง​เหมือน​เมื่อคืน​แล้ว​

เจียง​เห​วิน​หยวน​ยิ้มเยาะ​ใน​ใจ รู้สึก​สิ้นหวัง​ไม่น้อย​ เขา​พ่ายแพ้​ไป​แล้ว​ครึ่งทาง​…

“…ราย​งาน.​..”

เสียง​ตะโกน​ว่า​รายงาน​ลาก​ยาว​ใน​ห้องโถง​ของ​ว่าการ​ ก่อน​จะมีทหาร​รีบ​วิ่ง​เข้ามา​

“รายงาน​เร่งด่วน​จาก​ป้อม​ชิงซาน​ มีกลุ่ม​โจร​ตะวันตก​รวมตัวกัน​ทาง​ตะวันออกเฉียงใต้​ เป้าหมาย​คือ​ชน​เผ่า​ฟาน​จาก​เขา​เฮย​ซาน​ที่​สวามิภักดิ์​ ชน​เผ่า​ฟาน​จาก​เขา​เฮย​ซาน​ขอความช่วยเหลือ​!”

ผู้​คนใน​ห้องโถง​ตกตะลึง​และ​แทบจะ​ไม่เชื่อ​หู​ตัวเอง​

“จำนวน​คน​เท่าไหร่​” เจียง​เห​วิน​หยวน​ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​แม่ทัพ​และ​เป็น​คน​แรก​ที่​ได้สติ​แล้ว​ถามขึ้น​

“สอง​หมื่น​!” ทหาร​ม้าเร็ว​คุกเข่า​รายงาน​และ​ส่งจดหมาย​ที่​ลง​ตราประทับ​ครั่ง​พร้อมกับ​เหรียญทอง​ที่​พิสูจน์​ตัวตน​

สอง​หมื่น​!

ใบ​หน้าที่​เดิมที​ขาวซีด​ของ​ผู้คน​เหล่านั้น​ก็​ยิ่ง​ดู​ไร้​เลือดเนื้อ​ยิ่งกว่า​เดิม​ แต่​ทันใดนั้น​ พวกเขา​ก็​คิด​บางอย่าง​ออก​ ใบหน้า​ได้​เปลี่ยนเป็น​สีแดงก่ำ​อีกครั้ง​อย่าง​รวดเร็ว​

“มาได้​พอเหมาะ​พอ​เจาะ!ฮ่า!ฮ่า!ฮ่า! มาได้​พอเหมาะ​พอ​เจาะ!”

เสียงหัวเราะ​ที่​ทำให้​คน​หูหนวก​ระเบิด​ขึ้น​ใน​ห้องโถง​ว่าการ​ทันที​ มีเพียง​ทหาร​ม้าเร็ว​ที่​ยิ้ม​อย่าง​งวยงง​

ศัตรู​สอง​หมื่น​นาย​ น่ายินดี​นัก​หรือ​อย่างไร​

แน่นอน​ว่า​มีคน​ที่​ไม่ได้​ดีใจ​รวม​อยู่​ด้วย​ ทันทีที่​โจว​เฟิ่งเสียง​ที่นั่ง​รอ​อยู่​ใน​คุก​ทราบ​ข่าว​ สีหน้า​เฉยเมย​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนเป็น​เหม่อลอย​ใน​ทันใด​ ใบหน้า​เขา​ไร้​เลือดฝาด​ แม้ว่า​ร่างกาย​จะยัง​ไม่สูญเสีย​การควบคุม​ แต่​ถ้าหาก​ยืน​อยู่​ใน​ระยะใกล้​ก็​จะมองเห็น​ว่า​มือ​ที่​วาง​อยู่​บน​ตัก​ทั้งสอง​กำลัง​สั่น​อยู่​

“ถึงเวลา​ ฟ้าลิขิต​…” เขา​พึมพำ​

เมื่อ​เทียบ​กับ​ทหาร​ระดับสูง​ที่​สามารถ​ทราบ​ข่าว​ในทันที​ ทหาร​ชั้นผู้น้อย​กลับ​ล่าช้า​กว่า​มาก​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​พวก​ทหาร​ที่อยู่​ใน​เรือนจำ​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่ได้​มีปฏิกิริยา​ใดๆ​ หลังจากที่​ได้ยิน​

“…ก็​ไม่รู้​ว่า​จะให้​พวกเรา​ออกรบ​ด้วย​หรือไม่​…”

“… ทำคุณ​ไถ่โทษ​นะ​หรือ​”

มีคนพูด​ล้อเล่น​ขึ้น​

แต่​สวี​ซื่อ​เกิน​และ​หลิว​ขุย​ซึ่งนั่ง​อยู่​ด้านใน​สุด​กลับ​หัวเราะ​ไม่ออก​ พวกเขา​สบตา​กัน​และ​มองเห็น​ความสิ้นหวัง​ใน​ดวงตา​ของ​พวกเขา​

จบ​แล้ว​…

เจียง​เห​วิน​หยวน​ไป​ไม่ได้​แล้ว​…

สวรรค์​ช่วย​เขา​จริงๆ​ หรือ​

เช่นเดียวกับ​ปฏิกิริยา​ของ​ชาว​กองทัพ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ เมื่อ​สาร​ทางทหาร​เร่งด่วน​มาถึงเมืองหลวง​ บางคน​หัวเราะ​ บางคน​ใบหน้า​ขาวซีด​

ที่​หัวเราะ​ไม่ใช่เพราะ​ชินชา​ใน​สงคราม​ ใบหน้า​ขาวซีด​ก็​ไม่ใช่เพราะ​เกรงกลัว​สงคราม​ แต่​เป็น​การแสดง​อารมณ์​ความรู้สึก​ต่อเวลา​และ​โชคชะตา​

ประตู​ภายใน​ตำหนัก​ว่าราชการ​ของ​วังหลวง​ถูก​ปิด​อีกครั้ง​ ทว่า​ข่าว​นั้น​ได้​แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​เมืองหลวง​อย่าง​รวดเร็ว​เหมือน​เช่นเคย​

“… สงคราม​ใกล้​เข้ามา​ ครั้งนี้​เจียง​เห​วิน​หยวน​ไม่เป็นไร​แล้ว​…”

“…ใช่ ข้อห้าม​เข้มงวด​ที่สุด​ก่อน​ออกศึก​คือ​เปลี่ยน​แม่ทัพ​ ครั้งนี้​ฮ่องเต้​ก็​ไม่กล้า​ลงมือ​กับ​เขา​…”

“…เจียง​เห​วิน​หยวน​ผู้​นี้​ช่างโชคดี​เสีย​จริง​…”

แม้ยัง​ไม่มีข่าว​จาก​ราชสำนัก​ แต่​ชาวเมือง​ภายนอก​และ​คน​ที่​พอ​รู้หนังสือ​บ้าง​ก็​พา​กัน​ได้​ตัดสิน​แทน​ราชสำนัก​แล้ว​

นายใหญ่​จางวาง​กรรไกร​ใน​มือ​ลง​ มองดู​ถาด​ด้านหน้า​แล้ว​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​

“อย่าง​น้อย​ก็​ไม่ได้​ผิดหวัง​ไป​เสีย​ทั้งหมด​ อย่าง​น้อง​ก็​กอบกู้​ชื่อเสียง​ได้​” เขา​เอ่ย​

แต่​คิ้ว​ยังคง​ขมวด​ไม่คลาย​

กอบกู้​ชื่อเสียง​ได้​แล้ว​มีประโยชน์​อัน​ใด​เล่า​ พี่น้อง​จาก​เขา​เม่าหยวน​ซาน​เปลี่ยน​จาก​ไร้​ชื่อ​มามีชื่อเสียง​ ถ้าเป็น​เช่นนั้น​ กอง​กิจ​การทหาร​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ก็​สามารถ​ทำได้​เช่นกัน​

“ถึงเวลา​ฟ้าลิขิต​จริงๆ​ จนปัญญา​ จนปัญญา​” ในที่สุด​นายใหญ่​จางก็​ส่ายหน้า​ ทิ้ง​กรรไกร​ลง​ แล้ว​หันหลัง​กลับ​เข้า​บ้าน​ไป​

แม้ว่า​ครั้งสุดท้าย​ออกจาก​สะพา​นอ​วี้​ไต้​ด้วย​ความโมโห​และ​สาบาน​ว่า​จะไม่กลับมา​อีก​ แต่​เมื่อ​ทราบ​ข่าว​ ท่านชาย​โจว​หก​ก็​รีบ​วิ่ง​มาโดยเร็ว​

แต่​เขา​ก็​ยัง​มาช้าไป​หนึ่ง​ก้าว​

“นาย​หญิง​ไป​ที่​เรือน​ของ​อำมาตย์​เฉิน​แล้ว​ขอรับ​” บ่าว​ที่​ถูก​ทิ้ง​อยู่​บ้าน​เอ่ย​

ไป​เรือน​เฉินเซ่า​อย่างนั้น​หรือ​

ไปหา​เขา​ทำไม​กัน​ ไปหา​เขา​จะได้ประโยชน์​อะไร​ ครั้งนี้​เฉินเซ่า​ไม่ใช่แค่​หลอก​เกา​ห​ลิง​ปอ​ ยิ่งไปกว่านั้น​อย่า​ว่าแต่​จะปกป้อง​ใคร​เลย​ ตอนนี้​ตัวเอง​ยัง​เอา​ตัวเอง​ไม่รอด​

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เฉิงเจียว​เหนียง​มาเยี่ยมเยียน​ คน​ของ​ตระกูล​เฉิน​ก็​ประหลาดใจ​ยิ่งนัก​

พอ​แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​รีบ​ตามมา​ นาง​หยุด​มอง​ร่าง​ที่​ทั้ง​คุ้นเคย​และ​แปลกตา​จาก​ระยะไกล​อย่า​งอด​ไม่ได้​

“แม่นาง​สิบ​แปด​ไม่ไป​หรือ​” เฉิน​ตัน​เหนียง​ที่​ดึง​แขนนาง​ถามอย่าง​สงสัย​

“นาง​มีธุระ​คุย​กับ​ท่าน​พ่อ​ ไว้​พวกเรา​ค่อย​ไปหา​นาง​ทีหลัง​” แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​พูด​พลาง​มอง​ไป​ยัง​หญิงสาว​ที่​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​ท่าน​พ่อ​ตน​

เมื่อ​เทียบ​กับ​สอง​ปี​ที่แล้ว​ นาง​ดู​สูงขึ้น​มาก.​..

“แม่นาง​สิบ​แปด​ แม่นาง​ผู้​นั้น​คือ​แม่นาง​เฉิงหรือ​” เฉิน​ตัน​เหนียง​ถาม

“เจ้าสนิท​กับ​นาง​เป็น​ที่สุด​ ลืม​นาง​ไป​แล้ว​รึ​” แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​ดัน​หน้าผาก​ของ​นาง​แล้ว​เอ่ย​

“ก็​นานมาแล้ว​นี่​ ข้า​เลย​หลงลืม​” เฉิน​ตัน​เนียง​ทำ​หน้ามุ่ย​ มอง​ไป​ทาง​แผ่น​หลัง​ที่​ถูก​ประตู​บดบัง​ แม้ความทรงจำ​จะเลือนลาง​แต่กลับ​รู้สึก​ถึงความ​สนิทสนม​ไม่น้อย​

“พวกเรา​รอ​อยู่​ตรงนี้​ก่อน​” แม่นาง​เฉิน​สิบ​แปด​เอ่ย​ พลาง​มอง​ไป​ยัง​ห้อง​นั้น​ คิ้ว​ของ​นาง​ขมวด​เข้าหา​กัน​แลดู​เป็นกังวล​

เฉินเซ่า​เพิ่ง​กลับ​จาก​วังหลวง​ สีหน้า​ดู​เหนื่อยล้า​

“แม่นาง​เฉิง เรื่อง​นี้​ไม่รีบร้อน​ ทั้ง​ยัง​ไม่ต้อง​กังวล​ ไม่เป็นอะไร​หรอก​” เขา​เอ่ย​

เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​มาที่​เขา​แล้ว​ยิ้ม​เล็กน้อย​

“ใต้เท้า​ เมื่อ​วิถี​ธรรม​เป็นไป​ ความยุติธรรม​ย่อม​ก็​จะเกิดขึ้น​บน​แผ่นดิน​ ข้า​ไม่กังวล​” นาง​เอ่ย​

รอยยิ้ม​นี้​ใน​สายตา​ของ​เฉินเซ่า​กลับ​ทำให้​สีหน้า​เขา​ตึงเครียด​โดยไม่รู้ตัว​

เมื่อ​วิถี​ธรรม​อย่างนั้น​หรือ​…

ใต้เท้า​เฉิน​เล่นพรรคเล่นพวก​ ไม่คำนึงถึง​ความถูก​ผิด​ นี่​คือ​สิ่งที่​ตอนนี้​ท่าน​ต้อง​เข้า​ใจถึงวิถี​ธรรม​

ประโยค​นี้​ดังก้อง​ข้าง​หู​เขา​

ถูกต้อง​ สิ่งที่​เขา​ทำ​ใน​ครั้งนี้​ไม่ได้​คำนึงถึง​ความถูก​ผิด​จริงๆ​ และ​ใช้วิธี​บางอย่าง​ที่สอง​ปีก่อน​ตน​เห็น​ว่า​น่าอับอาย​

เหตุผล​ที่​เขา​จงใจขับไล่​เกา​ห​ลิง​ปอ​ออกจาก​ราชสำนัก​ ก็​เพราะ​บุคคล​ผู้​นี้​ขัดขวาง​งาน​ของ​ราชสำนัก​และ​การ​ดูแล​ประชาชน​ คน​เลวทรามต่ำช้า​เช่นนี้​ ไม่ควร​เลี้ยง​ไว้​ใน​ราชสำนัก​

เขา​ก็​รู้​ดีกว่า​พวก​เกา​ห​ลิง​ปอ​เคย​ใช้วิธี​เหล่านี้​กับ​เขา​ แต่​เขา​ไม่เคย​ใส่ใจและ​ใช้วิธีการ​แบบ​เดียวกัน​โต้ตอบ​ เพราะ​เขา​เชื่อ​เสมอ​ว่า​สิ่งที่​เขา​ทำ​อยู่​นั้น​ไม่ใช่การต่อสู้​กับ​พรรคพวก​ แต่​เป็น​วิถี​ธรรม​แห่ง​ความจงรักภักดี​ของ​เหล่า​ขุนนาง​

แต่​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ดูเหมือน​เขา​จะเปลี่ยนไป​โดยไม่ตั้งใจ​ โดยเฉพาะ​ครั้งนี้​ ใน​ระหว่าง​ที่​เหล่า​เสนาธิการ​และ​ผู้ติดตาม​รวมตัวกัน​หารือ​ เขา​กลับ​ไม่ได้​คัดค้าน​การตัดสินใจ​ของ​พวกเขา​ทั้ง​ยัง​ยอมรับ​ไป​โดยปริยาย​ ไม่ ไม่เพียง​ยอมรับ​ เขา​ยัง​ลงมือทำ​ด้วยตัวเอง​

และ​วิธีการ​เหล่านี้​ย่อม​ทำร้าย​ผู้บริสุทธิ์​จำนวน​ไม่น้อย​อย่าง​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ เช่น​…

เฉินเซ่า​มอง​ไป​ยัง​หญิงสาว​ที่นั่ง​อยู่​ตรงหน้า​ อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ วิธีการ​ที่​เขา​เคย​สนับสนุน​ก็​เกิด​ขึ้นกับ​เขา​เอง​ ไม่รู้​ว่า​นาง​จะคิด​เช่นไร​ นี่​ช่างเป็นเรื่อง​ของ​เวลา​และ​โชคชะตา​เสีย​จริงๆ​

“…เพียงแต่​ใต้เท้า​โชค​ไม่ค่อย​ดี​นัก​”

เสียงพูด​ข้าง​หู​ยังคง​ดังก้อง​ต่อไป​

เมื่อ​ได้ยิน​ถึงตรงนี้​ เฉินเซ่า​รู้สึก​แสบแก้วหู​จาก​คำพูด​ที่​ประชดประชัน​

สำหรับ​แม่นาง​ผู้​นี้​แล้ว​ การ​ประชดประชัน​ไม่นับว่า​เป็น​การกระทำ​ที่​เสียมารยาท​

“แม่นาง​เฉิง เรื่อง​นี้​ข้า​มีคำอธิบาย​ให้​กับ​เจ้าได้​อย่าง​แน่นอน​ สบายใจ​ได้​และ​ไม่ต้อง​กังวล​” เขา​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​และ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​

“จะไม่ให้​กังวล​ได้​อย่างไร​” เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​ไป​ที่​เฉินเซ่า​แล้ว​ยิ้ม​เล็กน้อย​ “แล้ว​ใต้เท้า​ไม่กังวล​หรอก​หรือ​”

ไม่กังวล​หรือ​ หาก​ไม่กังวล​ปาก​คง​ไม่พุพอง​ใน​ชั่ว​ข้ามคืน​หรอก​!

“แม่นาง​เฉิง ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่ช่วย​เจ้า แต่​แค่​ตอนนี้​ยัง​ไม่ควร​รีบร้อน​ ต้อง​ค่อยเป็นค่อยไป​” เฉินเซ่า​สูด​หายใจเข้า​ลึก​แล้ว​นั่ง​ตัวตรง​เอ่ย​

เฉิงเจียว​เหนียง​มอง​มาที่​เขา​แล้ว​ตอบรับ​

“ถ้าเช่นนั้น​ เปลี่ยน​คำพูด​เสีย​ใหม่​” นาง​เอ่ย​ “ให้​ข้า​ช่วย​ท่าน​แทน​ ดี​หรือไม่​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด