พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 345 สมบัติล้ำค่า

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 345 สมบัติล้ำค่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 345 สมบัติล้ำค่า

ในห้องโถงรับรองแขกด้านหน้าของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ จู่ ๆ หญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ก็ตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หญิงสาวตื่นขึ้น นางก็มองไปรอบ ๆ กายด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่หลังจากที่นางมองไปรอบ ๆ แล้ว และเห็นว่าไม่มีใครที่สนใจนาง นางจึงรู้สึกสบายใจขึ้นทันที

ในขณะนี้อู่จิ๋วได้ลงไปที่เวทีประมูลและกระซิบกับผู้ดูแลการประมูลอยู่ 2-3 คำ จากนั้นเขาจึงเดินไปยังห้องโถงรับรอบแขกที่อยู่ด้านหน้าและยืนรอที่ทางเข้าของห้องโถงเพื่อรอหญิงสาวปริศนาตามที่หลิงตู้ฉิงสั่ง

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เมื่อสักครู่ทางเราได้รับคำขอจากทางผู้ขายมาว่า ทางผู้ขายจะไม่รับสมบัติวิเศษ โอสถ หรือเหรียญคริสตัลใด ๆ ในการแลกเปลี่ยน ทางผู้ขายจะรับแต่วัสดุต่าง ๆ ในการเสนอราคาเท่านั้น!” ผู้จัดการประมูลมองไปรอบ ๆ พลางตะโกนประกาศขึ้น “และมีอีกอย่างที่พวกท่านต้องคำนึงถึงสักหน่อยนั่นก็คือ ต่อจากนี้อาจมีสิทธิ์เหลืออยู่เพียงแค่สิทธิ์เดียวในการประมูล”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง แม้แต่อาวุธระดับจักรพรรดิก็ไม่คู่ควรให้บุคคลปริศนาที่ขายสิทธิ์นี้สนใจงั้นเหรอ?

แต่ในขณะเดียวกัน บางคนที่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจและเริ่มตะโกนเสนอราคากันขึ้นบ้างแล้ว ส่วนบรรดาพวกสำนักใหญ่ที่เสนอราคาเป็นพวกแรก ๆ กลับนิ่งเงียบ

ในอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวที่พึ่งตื่นขึ้นเมื่อครู่ ในเวลานี้นางมองไปที่อู่จิ๋วที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าอาคาร เนื่องจากนางจำได้ว่าเป็นชายคนนี้ที่นำร่างปลอมของนางเข้าไปพบกับหลิงตู้ฉิง

เมื่อนึกถึงคำพูดของหลิงตู้ฉิงและท่าทางที่กำลังรออะไรบางอย่างของอู่จิ๋ว นางจึงรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่

แต่นางจะแลกกับเขาจริง ๆ หรือ?

นางเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการรับมือกับหลิงตู้ฉิง ที่ดูพิสดารหรือ ลั่วหยุน ที่เป็นถึงผู้ดูแลของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่นี่ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญนางก็ยังไม่สามารถต่อกรได้ด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ที่นางหาญกล้าไม่ถอยให้กับคนของสันเขาทรราชนั่นก็เพราะ ‘ตวนเสี่ยวอี่’ เป็นเพียงร่างปลอมของนาง

อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนางในห้วงความฝันเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น ถ้าหลิงตู้ฉิงต้องการจับตัวนางมันก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเขามาก ๆ

นางลังเลอยู่นาน แต่เมื่อนึกถึงความสำคัญของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับบวกกับความน่าเชื่อถือของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่ถูกกล่าวขานมาเป็นหมื่นปีว่าไม่เคยโกงลูกค้ามาก่อน นางจึงกัดฟันแล้วเดินไปหาอู่จิ๋ว

หากนางอาศัยความสามารถของตัวนางเอง นางคงจะไม่มีทางบรรลุเป้าหมายที่นางตั้งไว้ได้ตลอดชีวิต นางจำเป็นต้องเสี่ยงดวงเข้าไปยังเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาของนาง

และตอนนี้โอกาสนี้มาถึงแล้ว นางจำเป็นต้องได้มันแม้ว่านางจะต้องคุกเข่าลงกราบกรานก็ตาม

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว นางจึงเดินตรงดิ่งเข้ามาหาอู่จิ๋วทันที

อู่จิ๋วที่เห็นว่าจู่ ๆ หญิงสาวนางหนึ่งเดินเข้ามาหา เขาจึงถามขึ้น “เจ้าคือคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนกับเราใช่ไหม? เจ้าต้องแน่ใจนะ ไม่เช่นนั้นจะต้องเจ้าแบกรับผลที่ตามมา”

หลังจากเห็นว่าหญิงสาวพยักหน้าตอบรับอย่างมั่นใจ อู่จิ๋วก็นำนางไปหาหลิงตู้ฉิงและลั่วหยุน

ลั่วหยุนเหลือบมองไปที่หญิงสาวและส่ายหัว “เจ้าจะยังปลอมใบหน้าไปอีกทำไม? จงเผยใบหน้าที่แท้จริงซะ ไม่มีใครในที่นี่จะทำอะไรเจ้าทั้งนั้น และนำของที่เจ้าจะนำมาแลกออกมาให้พวกข้าดูได้แล้ว”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล เอาของของเจ้าออกมาให้กับข้า แล้วข้าจะให้สิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณที่ล่วงลับแก่เจ้า”

“ข้าชื่อตวนจู้!” หญิงสาวกล่าวพลางปรับเปลี่ยนใบหน้าของตนเองให้กลับคืนเป็นใบหน้าเดิม ซึ่งจากบุคคลิกในตอนแรกที่ดูธรรมดาก็กลายเป็นหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานในทันที “ข้าหวังว่าท่านจะรักษาสัญญาได้ไม่งั้นข้าจะไม่ปล่อยพวกท่านไปแน่”

ลั่วหยุนพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “เจ้าจะทำอะไรกับพวกข้าได้? ถ้าเจ้าตายทุกอย่างมันก็จบ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะกลับชาติมาเกิดอีกรอบ เอาล่ะจงเอาของของเจ้าออกมาสักที”

หลิงตู้ฉิงยังหัวเราะ “เอาออกมาเถอะ ข้าไม่โกหกเจ้าหรอก”

ภายใต้การกระตุ้นของทั้งสอง ตวนจู้ได้หยิบวัตถุสองชิ้นออกมา

ซึ่งในมือทั้งสองข้างของนาง หนึ่งคือวัตถุที่ส่องแสงเป็นประกายในขณะที่ในมืออีกหนึ่งข้างนั้นว่างเปล่า

“หินจันทราศักดิ์สิทธิ์!” ลั่วหยุนมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่ หลิงตู้ฉิง

เขารู้ว่าหลิงตู้ฉิงกำลังมองหาหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ จะพบมันที่นี่

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงยอมแลกเปลี่ยนกับนาง

แต่นางบอกว่ามีสองอย่าง? สิ่งที่นางยื่นให้ดูก็มีแต่ หินจันทราศักดิ์สิทธิ์ แล้วอะไรคือของอีกสิ่งหนึ่ง?

ลั่วหยุนที่เห็นว่ามืออีกข้างของตวนจู้ว่างเปล่า ด้วยความสงสัยเขาจึงลองตรวจสอบมือข้างนั้นอีกครั้งด้วยพลังวิญญาณของตนเอง

ซึ่งในที่สุดเขาก็ค้นพบว่ามันคือวัตถุที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

จากนั้นลั่วหยุนที่อดเก็บความสงสัยของตัวเองไม่ไหว เขาจึงลองส่งพลังวิญญาณของตัวเองเข้าไปในวัตถุปริศนาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านี้ และผลที่ออกมาก็คือ จู่ ๆ อีกร่างหนึ่งของลั่วหยุนก็ปรากฏขึ้นซึ่งมันถึงกับทำให้เขาต้องอุทาน “ไอ้นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยงั้นเหรอ?”

ของที่สามารถทำให้อีกร่างหนึ่งของเขาปรากฎขึ้นจากไหนก็ไม่รู้ ของแบบนี้มันน่ากลัวเกินไป

นี่มันไม่ใช่ว่าหากดวงจิตเช่นเขาได้ครอบครองมัน มันจะเท่ากับว่าเขามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเพิ่มขึ้นมาช่วยเขาอีก 1 คนงั้นเหรอ?

แต่แล้ว ลั่วหยุนก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดระดับการบ่มเพาะของ ‘ลั่วหยุน’ ตัวปลอมถึงได้ต่ำขนาดนั้น?

ทำไมมันถึงมีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตแสงดาราเท่านั้น?

ลั่วหยุนรู้สึกประหลาดใจ สิ่งนี้ใช้ทำอะไรกันแน่? แม้ว่าเขาจะจำลองร่างของ ‘ลั่วหยุน’ ที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารากว่าร้อยล้านคน มันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญเพียงคนเดียว

“ร่างปลอมที่มันสร้างขึ้นมาสามารถจำลองความแข็งแกร่งแค่ขอบเขตรวมแสงดาราได้เท่านั้นงั้นเหรอ?” ลั่วหยุนอดไม่ได้ที่จะถาม

ตวนจู้แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนขณะที่ตอบ “มันสามารถจำลองได้ถึงแค่ขอบเขตรวมแสงดาราได้เท่านั้น…”

ถ้ามันสามารถจำลองความแข็งแกร่งขอบเขตนภาหรือขอบเขตสวรรค์ได้ นางคงจะไม่เอามันมาแลกสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแน่นอน ดังนั้นเมื่อนางถูกถามขึ้นเช่นนี้นางจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

เพราะไม่ว่าสมบัติวิเศษของนางจะพิสดารสักแค่ไหน ในทางปฏิบัติแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนัก!

ลั่วหยุนถอนหายใจและหยุดศึกษามัน

“แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ไปหน่อย แต่เพียงแค่หินจันทราศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับแลกกับสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ” ลั่วหยุนหันกลับมาและพูดกับหลิงตู้ฉิง “แม้ว่าท่านจะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเรา แต่เนื่องจากท่านเข้าร่วมการประมูล ท่านต้องแบ่งผลประโยชน์ให้กับเรา 2 ใน 10 ส่วน นอกจากนี้ท่านยังไม่ได้จ่ายค่า เจ้าหญิงภูติ ตนนั้นกับข้า… ท่านต้องจ่ายราคาที่เหมาะสมกับทางเราสำหรับของเหล่านี้ทั้งหมด”

“ข้ารู้แล้ว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและมองไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของตวนจู้

รอยยิ้มของเขาสดใสมากขึ้นเรื่อย ๆ “เอาล่ะ สาวน้อย มอบของทั้ง 2 สิ่งของเจ้ามาให้ข้าได้แล้ว และเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนอกจากที่เจ้าจะได้สิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแล้ว ข้าจะหาอาจารย์ที่เหมาะสมกับเจ้าให้เจ้าด้วย”

นางมอบสิ่งของให้กับหลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ ทั้งที่ในใจของนางค่อนข้างกังวล

หลิงตู้ฉิงรับของทั้งสองมาอย่างมีความสุข จากนั้นเขามองไปที่ลั่วหยุนและพูดว่า “เจ้าเต็มใจที่จะเป็นอาจารย์ของนางรึเปล่า?”

ลั่วหยุนขมวดคิ้วมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “แม้ว่าท่านจะรับปากกับข้าว่าจะช่วยข้ากำจัดวิญญาณปีศาจ แต่ข้าก็ได้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล…”

“ข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงโบกมือ “ถ้าเจ้าเต็มใจที่จะเป็นอาจารย์ของนาง ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาใครอื่น ส่วนเรื่องค่าตอบแทนสำหรับส่วนแบ่งราคาประมูลและราคาของเจ้าหญิงภูติ ข้าจะให้เจ้าแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง”

“ท่านต้องจ่ายมาให้ข้าก่อน!” ลั่วหยุนยืนยัน

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดช้า ๆ “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ‘สะพานทองคำ’ รึเปล่า?”

ลั่วหยุนพยักหน้าและพูดว่า “มันคือสมบัติที่ถูกสร้างและเปิดใช้งานได้ด้วยเงินเท่านั้น

และถ้าหากใครสามารถดึงอำนาจสูงสุดของมันออกมาได้ พลังของมันจะสามารถสยบได้แม้แต่เหล่าเทวะบนสรวงสวรรค์”

แต่ว่าหลังจากที่ของสิ่งนี้มันหายไปและการล่มสลายของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ มันก็ไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อของมันอีกเลย ว่าแต่ที่ท่านพูดถึงมันนี่คือท่านมี สะพานทองคำ ไว้ในครอบครองงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ลั่วหยุน พลางพูดว่า “ข้าไม่มี สะพานทองคำ นั่นหรอก แต่ข้ามีวิธีการสร้างมันขึ้นมา! นี่น่าจะเพียงพอสำหรับค่าตอบแทนแล้วใช่ไหม?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) 345 สมบัติล้ำค่า

Now you are reading พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) Chapter 345 สมบัติล้ำค่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 345 สมบัติล้ำค่า

ในห้องโถงรับรองแขกด้านหน้าของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ จู่ ๆ หญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ก็ตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หญิงสาวตื่นขึ้น นางก็มองไปรอบ ๆ กายด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แต่หลังจากที่นางมองไปรอบ ๆ แล้ว และเห็นว่าไม่มีใครที่สนใจนาง นางจึงรู้สึกสบายใจขึ้นทันที

ในขณะนี้อู่จิ๋วได้ลงไปที่เวทีประมูลและกระซิบกับผู้ดูแลการประมูลอยู่ 2-3 คำ จากนั้นเขาจึงเดินไปยังห้องโถงรับรอบแขกที่อยู่ด้านหน้าและยืนรอที่ทางเข้าของห้องโถงเพื่อรอหญิงสาวปริศนาตามที่หลิงตู้ฉิงสั่ง

“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เมื่อสักครู่ทางเราได้รับคำขอจากทางผู้ขายมาว่า ทางผู้ขายจะไม่รับสมบัติวิเศษ โอสถ หรือเหรียญคริสตัลใด ๆ ในการแลกเปลี่ยน ทางผู้ขายจะรับแต่วัสดุต่าง ๆ ในการเสนอราคาเท่านั้น!” ผู้จัดการประมูลมองไปรอบ ๆ พลางตะโกนประกาศขึ้น “และมีอีกอย่างที่พวกท่านต้องคำนึงถึงสักหน่อยนั่นก็คือ ต่อจากนี้อาจมีสิทธิ์เหลืออยู่เพียงแค่สิทธิ์เดียวในการประมูล”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง แม้แต่อาวุธระดับจักรพรรดิก็ไม่คู่ควรให้บุคคลปริศนาที่ขายสิทธิ์นี้สนใจงั้นเหรอ?

แต่ในขณะเดียวกัน บางคนที่ได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจและเริ่มตะโกนเสนอราคากันขึ้นบ้างแล้ว ส่วนบรรดาพวกสำนักใหญ่ที่เสนอราคาเป็นพวกแรก ๆ กลับนิ่งเงียบ

ในอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวที่พึ่งตื่นขึ้นเมื่อครู่ ในเวลานี้นางมองไปที่อู่จิ๋วที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าอาคาร เนื่องจากนางจำได้ว่าเป็นชายคนนี้ที่นำร่างปลอมของนางเข้าไปพบกับหลิงตู้ฉิง

เมื่อนึกถึงคำพูดของหลิงตู้ฉิงและท่าทางที่กำลังรออะไรบางอย่างของอู่จิ๋ว นางจึงรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่

แต่นางจะแลกกับเขาจริง ๆ หรือ?

นางเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการรับมือกับหลิงตู้ฉิง ที่ดูพิสดารหรือ ลั่วหยุน ที่เป็นถึงผู้ดูแลของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่นี่ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญนางก็ยังไม่สามารถต่อกรได้ด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ที่นางหาญกล้าไม่ถอยให้กับคนของสันเขาทรราชนั่นก็เพราะ ‘ตวนเสี่ยวอี่’ เป็นเพียงร่างปลอมของนาง

อย่างไรก็ตาม หลิงตู้ฉิงได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนางในห้วงความฝันเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น ถ้าหลิงตู้ฉิงต้องการจับตัวนางมันก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับเขามาก ๆ

นางลังเลอยู่นาน แต่เมื่อนึกถึงความสำคัญของเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับบวกกับความน่าเชื่อถือของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่ถูกกล่าวขานมาเป็นหมื่นปีว่าไม่เคยโกงลูกค้ามาก่อน นางจึงกัดฟันแล้วเดินไปหาอู่จิ๋ว

หากนางอาศัยความสามารถของตัวนางเอง นางคงจะไม่มีทางบรรลุเป้าหมายที่นางตั้งไว้ได้ตลอดชีวิต นางจำเป็นต้องเสี่ยงดวงเข้าไปยังเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาของนาง

และตอนนี้โอกาสนี้มาถึงแล้ว นางจำเป็นต้องได้มันแม้ว่านางจะต้องคุกเข่าลงกราบกรานก็ตาม

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว นางจึงเดินตรงดิ่งเข้ามาหาอู่จิ๋วทันที

อู่จิ๋วที่เห็นว่าจู่ ๆ หญิงสาวนางหนึ่งเดินเข้ามาหา เขาจึงถามขึ้น “เจ้าคือคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนกับเราใช่ไหม? เจ้าต้องแน่ใจนะ ไม่เช่นนั้นจะต้องเจ้าแบกรับผลที่ตามมา”

หลังจากเห็นว่าหญิงสาวพยักหน้าตอบรับอย่างมั่นใจ อู่จิ๋วก็นำนางไปหาหลิงตู้ฉิงและลั่วหยุน

ลั่วหยุนเหลือบมองไปที่หญิงสาวและส่ายหัว “เจ้าจะยังปลอมใบหน้าไปอีกทำไม? จงเผยใบหน้าที่แท้จริงซะ ไม่มีใครในที่นี่จะทำอะไรเจ้าทั้งนั้น และนำของที่เจ้าจะนำมาแลกออกมาให้พวกข้าดูได้แล้ว”

หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ไม่ต้องกังวล เอาของของเจ้าออกมาให้กับข้า แล้วข้าจะให้สิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณที่ล่วงลับแก่เจ้า”

“ข้าชื่อตวนจู้!” หญิงสาวกล่าวพลางปรับเปลี่ยนใบหน้าของตนเองให้กลับคืนเป็นใบหน้าเดิม ซึ่งจากบุคคลิกในตอนแรกที่ดูธรรมดาก็กลายเป็นหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานในทันที “ข้าหวังว่าท่านจะรักษาสัญญาได้ไม่งั้นข้าจะไม่ปล่อยพวกท่านไปแน่”

ลั่วหยุนพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ “เจ้าจะทำอะไรกับพวกข้าได้? ถ้าเจ้าตายทุกอย่างมันก็จบ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะกลับชาติมาเกิดอีกรอบ เอาล่ะจงเอาของของเจ้าออกมาสักที”

หลิงตู้ฉิงยังหัวเราะ “เอาออกมาเถอะ ข้าไม่โกหกเจ้าหรอก”

ภายใต้การกระตุ้นของทั้งสอง ตวนจู้ได้หยิบวัตถุสองชิ้นออกมา

ซึ่งในมือทั้งสองข้างของนาง หนึ่งคือวัตถุที่ส่องแสงเป็นประกายในขณะที่ในมืออีกหนึ่งข้างนั้นว่างเปล่า

“หินจันทราศักดิ์สิทธิ์!” ลั่วหยุนมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่ หลิงตู้ฉิง

เขารู้ว่าหลิงตู้ฉิงกำลังมองหาหินจันทราศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ จะพบมันที่นี่

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงยอมแลกเปลี่ยนกับนาง

แต่นางบอกว่ามีสองอย่าง? สิ่งที่นางยื่นให้ดูก็มีแต่ หินจันทราศักดิ์สิทธิ์ แล้วอะไรคือของอีกสิ่งหนึ่ง?

ลั่วหยุนที่เห็นว่ามืออีกข้างของตวนจู้ว่างเปล่า ด้วยความสงสัยเขาจึงลองตรวจสอบมือข้างนั้นอีกครั้งด้วยพลังวิญญาณของตนเอง

ซึ่งในที่สุดเขาก็ค้นพบว่ามันคือวัตถุที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

จากนั้นลั่วหยุนที่อดเก็บความสงสัยของตัวเองไม่ไหว เขาจึงลองส่งพลังวิญญาณของตัวเองเข้าไปในวัตถุปริศนาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านี้ และผลที่ออกมาก็คือ จู่ ๆ อีกร่างหนึ่งของลั่วหยุนก็ปรากฏขึ้นซึ่งมันถึงกับทำให้เขาต้องอุทาน “ไอ้นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยงั้นเหรอ?”

ของที่สามารถทำให้อีกร่างหนึ่งของเขาปรากฎขึ้นจากไหนก็ไม่รู้ ของแบบนี้มันน่ากลัวเกินไป

นี่มันไม่ใช่ว่าหากดวงจิตเช่นเขาได้ครอบครองมัน มันจะเท่ากับว่าเขามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเพิ่มขึ้นมาช่วยเขาอีก 1 คนงั้นเหรอ?

แต่แล้ว ลั่วหยุนก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดระดับการบ่มเพาะของ ‘ลั่วหยุน’ ตัวปลอมถึงได้ต่ำขนาดนั้น?

ทำไมมันถึงมีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตแสงดาราเท่านั้น?

ลั่วหยุนรู้สึกประหลาดใจ สิ่งนี้ใช้ทำอะไรกันแน่? แม้ว่าเขาจะจำลองร่างของ ‘ลั่วหยุน’ ที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารากว่าร้อยล้านคน มันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สามัญเพียงคนเดียว

“ร่างปลอมที่มันสร้างขึ้นมาสามารถจำลองความแข็งแกร่งแค่ขอบเขตรวมแสงดาราได้เท่านั้นงั้นเหรอ?” ลั่วหยุนอดไม่ได้ที่จะถาม

ตวนจู้แสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนขณะที่ตอบ “มันสามารถจำลองได้ถึงแค่ขอบเขตรวมแสงดาราได้เท่านั้น…”

ถ้ามันสามารถจำลองความแข็งแกร่งขอบเขตนภาหรือขอบเขตสวรรค์ได้ นางคงจะไม่เอามันมาแลกสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแน่นอน ดังนั้นเมื่อนางถูกถามขึ้นเช่นนี้นางจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

เพราะไม่ว่าสมบัติวิเศษของนางจะพิสดารสักแค่ไหน ในทางปฏิบัติแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรนัก!

ลั่วหยุนถอนหายใจและหยุดศึกษามัน

“แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ไปหน่อย แต่เพียงแค่หินจันทราศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับแลกกับสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ” ลั่วหยุนหันกลับมาและพูดกับหลิงตู้ฉิง “แม้ว่าท่านจะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเรา แต่เนื่องจากท่านเข้าร่วมการประมูล ท่านต้องแบ่งผลประโยชน์ให้กับเรา 2 ใน 10 ส่วน นอกจากนี้ท่านยังไม่ได้จ่ายค่า เจ้าหญิงภูติ ตนนั้นกับข้า… ท่านต้องจ่ายราคาที่เหมาะสมกับทางเราสำหรับของเหล่านี้ทั้งหมด”

“ข้ารู้แล้ว” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและมองไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของตวนจู้

รอยยิ้มของเขาสดใสมากขึ้นเรื่อย ๆ “เอาล่ะ สาวน้อย มอบของทั้ง 2 สิ่งของเจ้ามาให้ข้าได้แล้ว และเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนอกจากที่เจ้าจะได้สิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแล้ว ข้าจะหาอาจารย์ที่เหมาะสมกับเจ้าให้เจ้าด้วย”

นางมอบสิ่งของให้กับหลิงตู้ฉิงอย่างเงียบ ๆ ทั้งที่ในใจของนางค่อนข้างกังวล

หลิงตู้ฉิงรับของทั้งสองมาอย่างมีความสุข จากนั้นเขามองไปที่ลั่วหยุนและพูดว่า “เจ้าเต็มใจที่จะเป็นอาจารย์ของนางรึเปล่า?”

ลั่วหยุนขมวดคิ้วมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “แม้ว่าท่านจะรับปากกับข้าว่าจะช่วยข้ากำจัดวิญญาณปีศาจ แต่ข้าก็ได้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล…”

“ข้ารู้!” หลิงตู้ฉิงโบกมือ “ถ้าเจ้าเต็มใจที่จะเป็นอาจารย์ของนาง ข้าจะได้ไม่ต้องไปหาใครอื่น ส่วนเรื่องค่าตอบแทนสำหรับส่วนแบ่งราคาประมูลและราคาของเจ้าหญิงภูติ ข้าจะให้เจ้าแน่นอนไม่ต้องเป็นห่วง”

“ท่านต้องจ่ายมาให้ข้าก่อน!” ลั่วหยุนยืนยัน

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดช้า ๆ “เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า ‘สะพานทองคำ’ รึเปล่า?”

ลั่วหยุนพยักหน้าและพูดว่า “มันคือสมบัติที่ถูกสร้างและเปิดใช้งานได้ด้วยเงินเท่านั้น

และถ้าหากใครสามารถดึงอำนาจสูงสุดของมันออกมาได้ พลังของมันจะสามารถสยบได้แม้แต่เหล่าเทวะบนสรวงสวรรค์”

แต่ว่าหลังจากที่ของสิ่งนี้มันหายไปและการล่มสลายของตำหนักศาสตราศักดิ์สิทธิ์ มันก็ไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อของมันอีกเลย ว่าแต่ที่ท่านพูดถึงมันนี่คือท่านมี สะพานทองคำ ไว้ในครอบครองงั้นเหรอ?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ลั่วหยุน พลางพูดว่า “ข้าไม่มี สะพานทองคำ นั่นหรอก แต่ข้ามีวิธีการสร้างมันขึ้นมา! นี่น่าจะเพียงพอสำหรับค่าตอบแทนแล้วใช่ไหม?”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+