ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ 48 การสอบครึ่งหลัง

Now you are reading ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ Chapter 48 การสอบครึ่งหลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อิโรฮะจ๊ะ อิโรฮะ!”

 

“คะ..!????”

 

ฉันสะดุ้งขึ้นหลังจากได้ยินเสียงคนเรียกฉัน

 

อะไรอ่ะ นี่มันห้องของฉันนี่หน่า..

 

“เป็นอะไรมากไหมจ๊ะ ดูเหมือนว่าลูกจะฝันร้ายด้วย.. จำได้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น อ่ะใช่ ลูกหมดสติไปในช่วงตอนสอบ..”

 

ในช่วงที่สอบนั้น คุณคนคุมสอบได้เห็นว่ามีอะไรผิดแปลกเลยเรียกคุณแม่ของฉัน

 

เธอพาฉันไปที่โรงพยาบาล ให้ฉันตรวจอะไรให้เรียบร้อย และ กินยาตามที่หมอบอก

 

แสงแดดของดวงอาทิตย์ในตอนเช้า ได้สอดส่องผ่านทางหน้าต่าง

 

ฉันน่าจะหลับไปจนถึงตอนนี้

 

ร่างกายของฉันดีขึ้นจนเหมือนกับอาการป่วยของเมื่อวานเป็นเรื่องโกหก

 

คุณแม่ของฉันที่ตอนนี้มีรอยคล้ำใต้ดวงตา แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นห่วงฉันแค่ไหน

 

“ถ้าลูกรู้สึกไม่ค่อยดีวันนี้ก็ไม่ต้องไปสอบก็ได้นะจ๊ะ”

 

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูจะไปสอบ..”

 

“ใช่ลูกถึงแม้ แม่อยากจะให้ลูกไปสอบเพราะว่ามันดีกับอนาคตของลูก แต่ถ้าลูกฝืนมากเกินไปจนเป็นอะไรขึ้นมา มันจะไม่ได้อะไรเลยนะเพราะงั้น ถ้าลูกจะทำตามความคาดหวังของแม่ ลูกปฎิเสธก็ได้…”

 

“ไม่ๆ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราดีขึ้นแล้วด้วยแถมหนูยังมีเหตุผลที่ต้องไปสอบอีกตั้งหาก”

 

“อย่างงั้นเองหรอจ๊ะ แม่เข้าใจแล้วล่ะ งั้นเดียวแม่จะดูแลเกี่ยวกับการเตรียมการทุกอย่างให้นะ ลูกนอนรอได้เลยนะจ๊ะ”

 

“ขอบคุณค่ะ..”

 

ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงและปิดตาลง

 

ฉันไม่กังวลเลยซักนิด คือก็นะวันนี้เป็นวันที่สามแล้วของการสอบ…

 

* * *

 

วันที่สามของการสอบ – วิชาภาษาอังกฤษ

 

<<คือว่าฉันลองไปเช็คมาดูแล้ว อิโรฮะจังไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนใช่ไหมคะ?>>

 

<<ไม่ใช่ค่ะ>>

<<ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย.. สุดยอดมากเลยล่ะ ตอนที่ได้ยินอิโรฮะพูดภาษาอังกฤษมันเหมือนกับว่าเธอพูดภาษานี้มาตั้งแต่เกิด ฉันเกือบจะไปบอกพวกเขาซะแล้วว่าการสอบนี้ไม่ใช่ของนักเรียนแลกเปลี่ยน…>>

 

<<ขอบคุณที่ชมนะคะ คือปกติฉันมักจะคุยกับเพื่อนจากทั่วโลกบ่อยๆเป็นงานอดิเรกอยู่แล้วเพราะงั้นเรื่องนี้เลยเป็นตัวช่วยที่ดีเลยล่ะค่ะ>>

 

<<ถ้าเป็นจากช่วงนี้และอายุนี้ มันเป็นเกมหรือเปล่า?>>

 

<<ใช่แล้วล่ะค่ะ ฉันมักจะเล่นเกมออนไลน์บ่อยเลยล่ะค่ะ..>>

 

<<ฉันมักจะโกรธตลอดเลยล่ะบอกให้เขาเล่นเกมให้พอประมาณ แต่สงสัยฉันคงต้องเปลี่ยนใจแล้วล่ะมั้ง>>

 

<<ก็จริงนะคะ แต่ฉันคิดว่าการเรียนเองก็สำคัญเหมือนกัน แต่ยังไงถึงจะให้เป็นเรื่องของการเล่นเกมหรือการเรียนถ้าเราสนุกไปกับมัน มันก็กลายเป็นทักษะให้กับเราอยู่ดี>>

 

<<อย่างงั้นเองสินะ เธอเป็นเด็กที่ฉลาดมากเลยล่ะ ฉันว่าเธอน่าจะทำการสอบข้อเขียนกับการฟังช่วงเช้าได้ดี ฉันหวังว่าเด็กฉลาดแบบเธอจะได้เรียนที่โรงเรียนเรานะ..>>

 

<<หนูก็หวังแบบนั้นเหมือนกันค่ะ>>

 

<<โอเคงั้นนี่เป็นทั้งหมดของการสอบวันนี้ ขอบคุณที่มาเข้ารับการสอบนะคะ>>

 

<<หนูเองก็เหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากๆงั้นขออนุญาตินะคะ>>

 

พวกเราจับมือกันเสร็จ แล้วฉันก็เดินออกจากห้องไป

 

ฉันปิดประตูและถอนหายใจออกมา

 

บนสนทนาไม่ค่อยแย่ซักเท่าไหร่ ฉันคิดว่างั้นนะ  

 

ฉันมีประสบการณ์ในการสัมภาษณ์มาพอสมควร ทั้งตอนเข้าเข้ามัธยม เข้ามหาวิทยาลัย ทำงานพาร์ทไทม์ การเปลี่ยนสายงาน

 

ในหลายๆเรื่องแบบนั้น สิ่งที่ฉันได้รู้เลยก็คือ ถ้าคนสัมภาษณ์ชอบตัวคุณ คุณก็ชนะ

 

บทสนทนาเป็นไปได้อย่างสวยงาม

 

แต่สิ่งที่ฉันกังวลคือเหตุผลที่ฉันบอกไปในการสมัครสอบนั้น เป็นเรื่องที่ฉันแต่งขึ้นมาทั้งหมด

แต่ยังไงก็สอบเสร็จไปแล้วอ่ะน้า

 

 

 

* * *

สองวันต่อมา.. วันนี้เป็นวันที่ประกาศผลสอบ

 

ฉันยืนอยู่ด้านหน้ากระดานขนาดใหญ่ที่มีผ้าคลุมอยู่เลยไม่เห็นว่ามันเขียนอะไรกับคุณแม่

 

 

 

 

14:59… 58 วินาที , 59 วินาที

 

คนที่ดูเหมือนคุณครูดูนาฬิกาของเขาและจ้องมายังพวกเรา

 

และมีครอบครัวกับเด็กๆ ยืนอยู่ด้านหน้ากระดานนี้เยอะอยู่เหมือนกัน

 

และมันมีบางคนลืมปิดนาฬิกาที่ตั้งเอาไว้ด้วย

 

“ประกาศผลแล้วครับ!!”

 

พวกเขาดึงผ้าที่คลุมอยู่ลง

 

มันเป็นตัวเลขที่เรียงกัน และเลขของฉัน.. ไหนลองหาดูสิ…

 

“อ่ะไรอ่ะ…”

 

อยู่ๆคุณแม่ก็มากอดฉันเฉยเลย

 

เจ็บนะคะ เจ็บน้าาา มองไม่เห็นด้วยง่าาา

 

ตอนที่ฉันกำลังพยายามแกะแขนของคุณแม่ที่กอดเอาไว้อยู่ออก ก็เริ่มมีสิ่งที่เหมือนฝนได้หยดลงมา

 

“อิโรฮะจ๊ะ อิโรฮะลูกทำได้แล้ว ลูกทำได้..! ลูกผ่านแล้ว มีลูกอยู่ด้วยล่ะ อิโรฮะ!”

 

“โม๊ว….!”

 

ฉันหัวเราะอย่างแผ่วเบา กับเสียงที่ออกมาเริ่มไม่เป็นประโยค

 

ฉันคิดว่าคุณแม่น่าจะจริงจังกับเป็นห่วงกว่าที่ฉันคิดเยอะเลย

 

“หนูบอกแล้วไงคะ ว่ามันโอเคแน่นอน!”

 

ฉันเขินอายหน่อยๆ แต่ก็ยังกอดคุณแม่กลับไป และลูบหัวของคุณแม่เบาๆ  

 

อ่ะ.. เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกง่ะ

 

“แม่ภูมิใจในตัวลูกมากเลยนะ!”

 

“คุณแม่ค๊าา หนูอายสุดๆแล้วนะะ อย่าชมดังขนาดนั้นสิคะ!”

 

จากช่องว่างระหว่างแขนของเธอ ฉันเลยสามารถมองเห็นกระดานได้ และมีตัวเลขของฉันอยู่บนกระดาน

และแน่นอนคำที่ต่อท้ายนั่นก็คือ [ นักเรียนห้องพิเศษ ]  

 

ฉันคิดในใจก็แบบ ก็แน่นอนอยู่แล้ว

 

ฉันกังวลนิดๆก็แค่ในตอนที่ฉันป่วยหลังจากสอบไปได้ครึ่งหนึ่ง

 

แต่ยังไงก็ผ่านไปได้ แล้วสงสัยไหมล่ะว่าฉันเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่ยากขนาดนี้ได้ยังไง

 

จากการเรียนแบบธรรมดา ธรรมด๊า  

 

อะไรคือ ‘ ท่าไม้ตาย ’ ที่ฉันใช้กันนะ ?

 

เดียวฉันจะอธิบายให้พวกนายฟังเอง  

 

 

 

 

โดเนทได้ที่ 1532747585 กสิกร คชภัค

 

 

 

การที่คุณโดเนทผมสิ่งที่คุณจะได้ – ความรักจากผม

 

 

 

ขอบคุณครับ  

 

 

 

 

 

*นั่งชงกาแฟ*

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด