มรรคาสู่สวรรค์ 14 หนึ่งวันสั้นเกินไป ได้แต่ต้องช่วงชิงเวลาหมื่นปี (1)

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 14 หนึ่งวันสั้นเกินไป ได้แต่ต้องช่วงชิงเวลาหมื่นปี (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

……

……

เปลวไฟ​ดวง​เล็ก​ๆจำนวน​นับไม่ถ้วน​ค่อยๆ​ ดับ​ลง​ไป​ เหมือนกับ​ดาวตก​ที่​หาย​ไป​ใน​สายลม​

ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​น่าจะเป็น​คน​ที่​มีชื่อเสียง​อย่าง​มาก​คน​หนึ่ง​ เขา​หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ที่​หุบเขา​จวี้​หุน​มานาน​ รวบรวม​วิญญาณ​หลอม​เป็น​อาวุธ​ ดู​แล้ว​คง​คิด​อยาก​จะทำการ​ใหญ่​เป็นแน่​ ภายหลัง​หาก​กลับ​ขึ้นไป​ยัง​โลก​ด้านบน​ เกรง​ว่า​คงจะ​ทำให้เกิด​ความวุ่นวาย​ขึ้น​มากมาย​

แต่​เขา​ตาย​อยู่​ภายใต้​กระบี่​ของ​จิ๋งจิ่ว​ มิได้​ทำให้เกิด​ความวุ่นวาย​ กระทั่ง​ชื่อ​ก็​มิได้​ทิ้ง​เอาไว้​

เมื่อ​คิดถึง​จุด​นี้​ก็​อด​ทำให้​รู้สึก​ทอดถอนใจ​ขึ้น​มาไม่ได้​

จิ๋งจิ่ว​มองดู​ภาพ​ที่อยู่​ใน​ลำธาร​ลาวา​ จากนั้น​หลับตา​ลง​ นิ่งเงียบ​ไป​ครู่ใหญ่​

มิได้​เป็น​เพราะ​ทอดถอนใจ​ เพราะ​สำหรับ​คน​ที่​ไม่รู้จัก​แล้ว​ เขา​ไม่ได้​มีความรู้สึก​ที่​ไม่จำเป็น​หรือ​กระทั่ง​รู้สึก​ไม่ดี​ เขา​เพียงแต่​กำลัง​ปรับ​ลมหายใจ​เพื่อ​ฟื้นฟู​ปราณ​กระบี่​

การสังหาร​ผู้​บำเพ็ญพรต​คน​นั้น​ดูเหมือน​ง่ายดาย​ แต่​ความจริง​แล้ว​ยากลำบาก​เป็นอย่างมาก​

สภาวะ​ของ​ผู้​บำเพ็ญพรต​คน​นั้น​สูงส่ง ฝีมือ​ร้ายกาจ​ รู้จัก​ลำธาร​ลาวา​ที่อยู่​ใน​ถ้ำเป็น​อย่าง​ดี​

ต่อให้​เป็น​ผู้อาวุโส​ขั้น​แหวก​ทะเล​ของ​สำนัก​ชิงซาน​ก็​ยาก​ที่จะ​สังหาร​คน​ผู้​นี้​ที่นี่​ได้​

จิ๋งจิ่ว​อยู่​ใน​สภาวะ​ขั้น​คเนจร​ระดับ​กลาง​ ถึงแม้ความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ที่​แท้จริง​จะมิใช่เพียงเท่านี้​ แต่​การ​จะสังหาร​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​คน​นี้​ก็​ยัง​เป็นเรื่อง​ที่​ยากลำบาก​อย่าง​มาก​ ทำให้​เขา​สูญเสีย​พลัง​ไป​ไม่น้อย​

พลัง​เหล่านั้น​มิใช่พลัง​ใน​การต่อสู้​ หาก​ไป​เป็น​พลัง​ใน​การ​คิด​คำนวณ​

ใน​ตอนที่​เขา​เก็บ​อาวุธ​วิเศษ​เช่นนั้น​ขึ้น​มา และ​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​คน​นั้น​ยัง​ไม่ปรากฏ​กาย​ เขา​ก็ได้​จัดการ​เรื่อง​ไป​สอง​เรื่อง​

เขา​ให้​กระบี่​คม​จักรวาล​ไป​รอ​อยู่​อีก​ฟาก​หนึ่ง​ของ​ลำธาร​ลาวา​อย่าง​เงียบๆ​ ขณะเดียวกัน​ก็​เก็บ​ผ้า​ที่​ใช้พัน​กระบี่​คม​จักรวาล​เอาไว้​ใน​มือซ้าย​

ผ้า​ผืน​นั้น​มีประโยชน์​อย่าง​มาก​ใน​การต่อสู้​หลังจากนั้น​ มัน​ถูก​ลาวา​ที่อยู่​ใน​ลำธาร​เผา​จน​กลายเป็น​เปลวไฟ​ขึ้น​มา

การ​จะสังหาร​ผู้​บำเพ็ญพรต​ที่​มีสภาวะ​สูงกว่า​ตนเอง​ ไม่ว่า​รายละเอียด​ใดๆ​ ก็​ล้วน​มิอาจ​ปล่อย​ให้​เกิด​ปัญหา​ได้​

ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​มองดู​เปลวเพลิง​ที่​เกิดขึ้น​มาจาก​ผ้า​ผืน​นั้น​ นึก​ว่า​เป็นตัว​เขา​กำลัง​ถูก​เผาไหม้​อยู่​ใน​ลาวา​ จึงคลาย​ความระมัดระวัง​ลง​

ไม่มีผู้​บำเพ็ญพรต​คน​ไหน​ที่​สามารถ​มีชีวิต​อยู่​ใน​ลาวา​ได้​ นอกจาก​ยอด​คน​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​หรือ​วัตถุ​วิเศษ​ที่​มีความ​พิเศษ​บางอย่าง​

ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​คิดไม่ถึง​ว่า​จิ๋งจิ่วจะ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ อีก​ทั้ง​ยัง​สามารถ​สาด​ลาวา​ให้​ขึ้น​มาโจมตี​ตนเอง​เหมือน​อย่าง​น้ำพุ​ได้​ แล้วก็​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่า​จะมีกระบี่​เซียน​ที่​มีความ​กว้าง​อย่าง​มาก​เล่ม​หนึ่ง​รอคอย​ตนเอง​อยู่​ใน​ความมืด​ด้านหลัง​

ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ เขา​จะไม่ตาย​ได้​อย่างไร​

พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​มิได้​ถูก​จิ๋งจิ่ว​ใช้กระบี่​ฆ่าตาย​ หาก​จะตกหลุมพราง​ของ​เขา​จนตาย​

จิ๋งจิ่ว​คิด​คำนวณ​การ​เดิน​ทั้งหมด​ใน​การต่อสู้​ครั้งนี้​เอาไว้​อย่าง​ชัดเจน​ แต่​แน่นอน​ว่า​สิ่งที่​เขา​คาดการณ์​เอา​มิใช่ว่า​จะเกิดขึ้น​จริง​ทั้งหมด​ เพราะ​ความคิด​ของ​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​และ​วิธีการ​รับมือ​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​ไป​ได้​ตลอดเวลา​ แต่ว่า​รูปการณ์​ทั้งหมด​นั้น​ได้​ถูก​กำหนด​เอาไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ รายละเอียด​ใดๆ​ ก็​มีอาจ​เปลี่ยนแปลง​ผลลัพธ์​สุดท้าย​ได้​

นี่​ต่างหาก​ถึงจะเรียก​ว่า​วิถี​กระบี่​แห่ง​ชิงซาน​ที่​แท้จริง​

ไท่​ผิง​ย่อม​ต้อง​ถนัด​ใน​วิถี​นี้​ เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​ด้อย​เช่นเดียวกัน​

นับตั้งแต่​ตอน​ที่อยู่​ใน​หมู่บ้าน​บน​ภูเขา​ จิ๋งจิ่ว​ได้​แสดง​ออกมา​ว่า​ตนเอง​ไม่รู้เรื่อง​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​บน​โลก​ อีก​ทั้ง​ความจำ​ก็​ไม่ค่อย​ดี​ แต่​ความจริง​สำหรับ​เขา​แล้ว​ เรื่อง​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​บน​โลก​เหล่านั้น​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่มีความหมาย​อะไร​ แต่​ถ้าหาก​เป็นเรื่อง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​และ​วิถี​กระบี่​ล่ะ​ก็​ นั่น​ย่อม​ต้อง​แตก​ต่างกัน​

……

……

ลำธาร​ลาวา​ค่อยๆ​ ไหล​เอื่อย​ ไม่มีเสียง​คลื่น​ มีเพียง​เสียง​เบา​ๆที่​เกิดขึ้น​ใน​ตอนที่​ลำธาร​ลาวา​เสียดสี​กับ​ริมฝั่ง​

จิ๋งจิ่ว​ลืมตา​ขึ้น​ มอง​ไป​บน​ผิว​ของ​ลำธาร​ลาวา​

ผิว​ลำธาร​สัมผัส​กับ​อากาศ​ อุณหภูมิ​ค่อยๆ​ ลดลง​ ผิว​ลำธาร​กลับ​ไป​อยู่​ใน​ลักษณะ​ที่​มืด​สลัว​อีกครั้ง​

ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​คงจะ​ตาย​สนิท​แล้ว​

เขา​หยิบ​เอา​อาวุธ​วิเศษ​นั้น​ขึ้น​มาดู​ สีหน้า​ดู​แปลกใจ​เล็กน้อย​

อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​นี้​มีลักษณะ​เป็น​เหมือน​เกล็ด​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เกล็ด​ของ​สิ่งมีชีวิต​ชนิด​ไหน​ เมื่อ​ดู​จาก​น้ำหนัก​และ​ขนาด​แล้ว​ สิ่งมีชีวิต​ชนิด​นั้น​น่าจะ​มีขนาดใหญ่​ไม่น้อย​ แต่​ไม่อาจ​เทียบ​กับ​ชางหลง​ได้​ แล้วก็​ไม่ได้​ใหญ่​เท่า​กุ่ยมู่ห​ลิง​

ระดับชั้น​และ​ขนาด​ของ​สิ่งมีชีวิต​นั้น​มิได้​มีความเกี่ยวข้องกัน​ ไม่อย่างนั้น​เพื่อน​ของ​เขา​ที่อยู่​ใน​ทะเล​ที่​ห่างไกล​ผู้​นั้น​ก็​คงจะ​เป็น​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​บน​โลก​นี้​แล้ว​ เอาล่ะ​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ยาก​มีใคร​ที่จะ​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​เจ้ายักษ์​นั่น​เหมือนกัน​

จิ๋งจิ่ว​ปล่อย​จิต​จำแนก​ลง​ไป​ ก่อน​จะรับรู้​ได้​ถึงพลัง​เพลิง​ที่​บริสุทธิ์​อย่าง​มาก​ใน​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​นี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่ธรรมดา​ เจ้าของ​เกล็ด​ชิ้น​นี้​อาจจะ​เป็น​มังกร​เพลิง​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ลำธาร​ลาวา​ใต้ดิน​หรือไม่​ก็​ปีศาจ​อะไร​สัก​อย่าง​

เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​ตอนที่​เกล็ด​ชิ้น​นี้​หลุด​ร่วง​ลงมา​ เจ้าของ​เกล็ด​ตัว​นั้น​ยัง​ไม่โต​เต็มที่​ ความสามารถ​ที่​แท้จริง​ของ​เกล็ด​ยัง​ไม่ทัน​ได้​แสดง​ออกมา​ ก็​ถูก​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​พยายาม​อย่าง​ยากลำบาก​จนกระทั่ง​เปลี่ยน​ให้​มัน​กลายเป็น​อาวุธ​วิเศษ​

ภายใน​เกล็ด​แฝงเอาไว้​ด้วย​พลัง​เพลิง​ที่​บริสุทธิ์​เช่นนี้​ น่าจะ​สามารถ​ควบคุม​ไฟได้​ ก่อนหน้านี้​ที่​มัน​ถูก​มือขวา​ของ​จิ๋งจิ่ว​ลวก​จน​เป็นควัน​ขึ้น​มา เป็น​เพราะว่า​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​พยายาม​ฝืน​ที่จะ​ใส่ภูติ​ผี​และ​วิญญาณ​ร้าย​ลง​ไป​เป็น​จำนวนมาก​ จน​ทำลาย​ความสามารถ​ของ​ตัว​เกล็ด​ไป​

จิ๋งจิ่ว​ส่าย​ศีรษะ​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ผู้​นั้น​ไม่ถนัด​ใน​การหลอม​อาวุธ​ ค่อนข้าง​น่าเสียดาย​วัตถุ​ดิบดี​ๆ เช่นนี้​

เขา​ไม่ได้​รู้สึก​เสียใจ​อะไร​นัก​ เพราะ​อาวุธ​วิเศษ​และ​วัตถุ​ดิบดี​ๆ เช่นนี้​เขา​เคย​เห็น​มามากมาย​แล้ว​ ยิ่งไปกว่านั้น​ที่​เขา​ต้องการ​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​นี้​ก็เพราะว่า​มัน​มีความแข็ง​ที่​มาก​พอ​ สามารถ​เอา​มาใช้ลับ​กระบี่​ได้​

ใน​เมื่อ​เอา​มาใช้ลับ​กระบี่​ สุดท้าย​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​นี้​ก็​จะต้อง​กลายเป็น​ผุยผง​ เช่นนั้น​มัน​ก็​ไม่มีอะไร​ให้​น่าเสียดาย​

……

……

ธาร​ลาวา​ค่อยๆ​ ไหล​เอื่อย​ บางครั้ง​ผิว​ลาวา​แตก​ออก​ แสงสีแดง​ที่​เป็น​เหมือน​กำแพง​สาด​ออกมา​ ส่องสว่าง​พื้น​ถ้ำอัน​มืดมิด​

เสียง​เสียดสี​ที่​เกิดขึ้น​เบา​ๆ และ​เปลวไฟ​ที่​ปะทุ​ขึ้น​มาเป็น​บางครั้งบางคราว​ไม่ได้​ส่งผล​อะไร​ต่อ​จิ๋งจิ่ว​ เขา​นั่งลง​ริม​ธาร​ มือขวา​ถูไป​บน​อาวุธ​วิเศษ​ไม่หยุด​ สีหน้า​แน่วแน่​ คอย​ปรับ​มุมและ​น้ำหนัก​ตาม​การสึกหรอ​ของ​อาวุธ​วิเศษ​

จริงอยู่​ที่​อาวุธ​วิเศษ​ที่​หลอม​ขึ้น​มาจาก​เกล็ด​ชิ้น​นี้​มีความแข็ง​เป็นอย่างมาก​ ยิ่งไปกว่านั้น​มิได้​มีแต่​ความแข็ง​เพียง​อย่าง​เดียว​ แต่​มัน​ยังมี​ความคล้ายคลึง​กับ​กระดูก​ของ​ปีศาจ​ยักษ์​ที่อยู่​ใน​คุก​สะกด​มาร​ตัว​นั้น​ ความรู้สึก​กระชับ​มือ​ ละมุน​เหมือน​หยก​ เพียงแต่​เสียดาย​ที่​เปราะ​ไป​เสียหน่อย​

หลาย​วัน​หลังจากนั้น​ก็​มีเสียงดัง​เป๊าะ​ๆ ดัง​ขึ้น​หลาย​เสียง​ อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​นั้น​แตก​ออก​เป็น​ชิ้นเล็กชิ้นน้อย​

ภูตผี​และ​วิญญาณ​ร้าย​จำนวน​นับไม่ถ้วน​กรู​กัน​ออก​มาจาก​ใน​อาวุธ​วิเศษ​ เกิด​เป็นลม​เย็นยะเยือก​วูบ​ไหว​ขึ้น​มา

ตาม​หลัก​แล้ว​ เมื่อ​อาวุธ​วิเศษ​แตก​ออก​ ภูตผี​และ​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ไม่มีอะไร​มาคอย​ควบคุม​น่าจะ​หนี​ออก​ไป​ตาม​สัญชาตญาณ​ จากนั้น​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ตาม​รอยแยก​ของ​แผ่นดิน​หรือไม่​ก็​ที่​ที่​ลึก​ลง​ไป​กว่า​นั้น​เพื่อ​ตาม​หาอาหาร​

แต่​ภูตผี​และ​วิญญาณ​ร้าย​เหล่านี้​กลับ​มองดู​จิ๋งจิ่ว​ลับ​อาวุธ​วิเศษ​อยู่​หลาย​วัน​ ใน​สัญชาตญาณ​เกิด​ความหวาดกลัว​ขึ้น​มาเป็นอย่างมาก​ ไม่กล้า​หนี​ไป​ไหน​ ลอย​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​แบบนี้​

หาก​มีคน​มาเห็นภาพ​นี้​ จะต้อง​คิด​ว่า​เขา​เป็น​ผู้​บำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ที่​สังหาร​ผู้บริสุทธิ์​จำนวน​นับไม่ถ้วน​เพื่อ​เอา​วิญญาณ​มาหลอม​เป็น​อาวุธ​มาร​อย่าง​แน่นอน​

นี่​คือ​การ​เชื่อฟัง​อย่างนั้น​หรือ​?

หาก​เปลี่ยนเป็น​ตัวเอก​ของ​เรื่อง​อื่น​ บางที​เขา​อาจจะ​เก็บ​เอา​ภูตผี​และ​วิญญาณ​ร้าย​เหล่านี้​เอาไว้​ก่อน​ เพื่อ​ดู​ว่า​จะจัดการ​อย่างไร​ถึงจะได้ประโยชน์​มาก​ที่สุด​ ทว่า​จิ๋งจิ่ว​กลับ​มิได้​สนใจ​ เตรียม​เดิน​จากไป​

แต่​ในเวลานี้​เอง​ เขา​พลัน​คิดถึง​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มา

เมื่อ​สามร้อย​ปีก่อน​ คลื่น​อสูร​จาก​แคว้น​เสวี่ย​บุก​ลง​ใต้​ ยอด​ฝีมือ​ของ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​ต่าง​เข้าไป​ช่วยเหลือ​ หลิ่ว​ฉือ​และ​หยวน​ฉีจิงพา​ยอด​ฝีมือ​ของ​ยอดเขา​ต่างๆ​ เดินทาง​ไป​ยัง​แคว้น​เสวี่ย​ ใน​ชิงซาน​เหลือ​เพียงแต่​ศิษย์​หนุ่มสาว​ไม่กี่​คน​

หมิง​ซือ​สบโอกาส​พา​ลูกน้อง​ผ่าน​ข่าย​พลัง​ชิงซาน​ขึ้นไป​ยัง​ยอดเขา​เสินม่อ​ คิด​อยาก​จะชิงเอา​ลัญจกร​แห่ง​จักรพรรดิ​หมิง​กลับมา​ จากนั้น​ก็​ถูก​เขา​สังหาร​

นอกจาก​หมิง​ซือ​แล้ว​ ยอด​ฝีมือ​ของ​เผ่า​หมิง​ที่​เหลือ​ล้วนแต่​ตาย​ไป​จน​หมด​

หลังจาก​หลิ่ว​ฉือ​กลับมา​ อีก​ฝ่าย​ได้​แนะนำ​ให้​เขา​จัดการ​ศพ​ให้​เรียบร้อย​ แต่​เขา​ปฏิเสธ​เพราะว่า​ขี้เกียจ​

หลังจากนั้น​ ดวงจิต​ของ​ยอด​ฝีมือ​แห่ง​เผ่า​หมิง​ที่​เหลืออยู่​เหล่านั้น​ก็​ล่องลอย​อยู่​ใน​ยอดเขา​เสินม่อ​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ สุดท้าย​ก็​กลายเป็น​วิญญาณ​ร้าย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด