มรรคาสู่สวรรค์ 15 ไหลตามและไหลทวน (1)

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 15 ไหลตามและไหลทวน (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่ต้อง​รู้​ค่า​วัน​คืน​ แต่​ยัง​ต้อง​แข่ง​กัน​เวลา​ เช่นนี้​วัน​เวลา​อัน​ยาวนาน​ถึงจะยาวนาน​ยิ่งขึ้น​

ตาม​หลัก​แล้ว​ หลัง​จิ๋งจิ่ว​คิด​ประโยค​นั้น​เสร็จ​เรียบร้อย​ก็​ควร​จากไป​ จาก​เขา​มิได้​ลุกขึ้น​ หาก​แต่​ยัง​นั่ง​เหม่อลอย​อยู่​ริม​ลำธาร​ลาวา​

เขา​ออก​มาจาก​ชิงซาน​ก็​เพื่อ​ตามหา​หิน​ลับ​กระบี่​ ตอนนี้​กระดูก​ปีศาจ​ที่​ได้​จาก​คุก​สะกด​มาร​ถูก​เขา​ใช้ไป​หมด​แล้ว​ กระดูก​ปีศาจ​ที่อยู่​ใต้​หุบเขา​จวี้​หุน​เอง​ก็​กลายเป็น​ผุยผง​ไป​หมด​แล้ว​ อย่างนั้น​ควรจะ​ไป​ที่ไหน​อีก​ล่ะ​?

เขา​ยังคง​เป็น​คน​ที่​ไม่สนใจ​เรื่องราว​ทางโลก​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ยัง​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​บางอย่าง​ขึ้น​ใน​เรื่อง​เล็กน้อย​บาง​เรื่อง​ อย่างเช่น​บางครั้ง​เขา​จะออก​มาจาก​ชิงซาน​ ใน​เวลา​ที่​ท่องเที่ยว​อยู่​ข้างนอก​ ข้าง​กาย​เขา​มักจะ​มีคน​อยู่​ด้วย​ ไม่ว่า​จะเป็น​กู้​ชิงหรือว่า​กั้วตง​ หรือไม่​ก็​เจ้าล่า​เย​วี่ย​ ตอนนี้​เขา​จึงไม่ค่อย​ชิน​กับ​การ​อยู่​คนเดียว​ รู้สึก​ค่อนข้าง​น่าเบื่อ​

เขา​ไม่ได้​หยิบ​เอา​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ออกมา​ เพราะ​อุณหภูมิ​ข้าง​ลำธาร​ลาวา​นั้น​สูงเกินไป​ อาจจะ​มีเปลวไฟ​กระเด็น​ขึ้น​มาได้​ ถ้าเกิด​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ถูก​ไฟเผา​ไป​ เช่นนั้น​มัน​ก็​น่าเสียดาย​เป็นอย่างมาก​

แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​หยิบ​เอา​จาน​กระเบื้อง​ออกมา​เช่นเดียวกัน​ ไม่รู้​ว่า​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ที่​เขา​ไม่ค่อย​ได้​เล่น​กอง​ทราย​แล้ว​

จู่ๆ เขา​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ ถอด​ชุด​สีขาว​เก็บ​ขึ้น​ เดินลง​ไป​ใน​ลำธาร​ลาวา​ กระบี่​คม​จักรวาล​ตาม​อยู่​ด้านหลัง​อย่าง​เงียบๆ​

เขา​ไม่ได้​ถูก​ช่วงเวลา​หลาย​หมื่น​ปี​ทำให้​ท้อแท้​จน​ตัดสินใจ​ที่จะ​เดินลง​ไป​ใน​ลำธาร​ลาวา​เพื่อ​ฆ่าตัวตาย​ หาก​แต่​คิด​อยาก​จะอาบน้ำ​เท่านั้น​

ลาวา​ที่​ร้อนระอุ​เป็น​เหมือน​น้ำ​สีทอง​ เขา​วัก​เอา​ลาวา​ที่อยู่​ใน​ลำธาร​ขึ้น​มาล้างหน้า​ จากนั้น​ร่างกาย​ค่อยๆ​ จมลง​ไป​ บน​ผิว​ลาวา​มีเปลวไฟ​ดวง​เล็ก​ๆ ปะทุ​ขึ้น​มาหลาย​ร้อย​ดวง​

นอกจาก​ไฟที่​ร้อน​เหมือน​ดั่ง​ดวงอาทิตย์​ที่เกิด​จาก​อาวุธ​วิเศษ​ชั้น​เซียน​และ​เตา​วิเศษ​เหล่านั้น​แล้ว​ ก็​ยาก​ที่จะ​มีเปลวไฟ​ที่​สามารถ​ทำอันตราย​เขา​ได้​ รวมไปถึง​ลาวา​ที่​ร้อนระอุ​และ​น่ากลัว​เหล่านี้​ด้วย​

อุณหภูมิ​ของ​ลาวา​นั้น​สูงเป็นอย่างมาก​ แม้จะหลับตา​อยู่​ แต่​เขา​ก็​สามารถ​รับรู้​ได้​ถึงความ​ร้อนระอุ​นั้น​ ร่างกาย​รู้สึก​เจ็บปวด​เบา​ๆ จากนั้น​ก็​เกิด​เป็น​ความรู้สึก​สบาย​

การ​อบไอน้ำ​นั้น​ไม่มีประโยชน์​ใดๆ​ สำหรับ​เขา​ การ​นวด​เอง​ก็​เช่นเดียวกัน​ คิดไม่ถึง​ว่า​วันนี้​เขา​กลับ​ค้นพบ​ความสำราญ​ที่​คล้ายคลึง​กัน​นั้น​จาก​ใน​ลำธาร​ลาวา​ที่อยู่​ใต้ดิน​

จิ๋งจิ่ว​รู้สึก​สบาย​ จึงนอนลง​ไป​ใน​ลาวา​ มือ​ทั้งสอง​ข้าง​หนุน​อยู่​ด้านหลัง​ศีรษะ​ เหม่อ​มองดู​เพดาน​ถ้ำที่​ดู​คล้าย​ท้องฟ้า​ยาม​เย็น​

……

……

ความจริง​ผู้​บำเพ็ญพรต​จำนวนมาก​ต่าง​ไม่เข้าใจ​ ความจริง​แล้ว​การ​บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​กับ​การ​เป็น​อมตะ​นั้น​มิได้​มีความ​ข้องเกี่ยว​ใน​ลักษณะ​ที่​ไม่สามารถ​ตัดขาด​ออก​จากกัน​ได้​

การ​บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​นั้น​มิได้​หมายความว่า​จะอยู่​เป็น​อมตะ​ เซียน​รุ่น​ก่อน​ๆ ที่​จาก​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ไป​เหล่านั้น​อาจจะ​ตาย​ไป​ตั้ง​นาน​แล้วก็​เป็นได้​

การ​เป็น​อมตะ​ก็​มิได้​หมายความว่า​จะได้​บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​ จาก​ที่​จิ๋งจิ่ว​สังเกต​ดู​ หยวน​กุย​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​เทียน​กวง​อย่าง​น้อย​ก็​อยู่​ไป​ได้​อีก​หลาย​ร้อย​ปี​ หรือ​อาจจะ​ยาวนาน​กว่า​นั้น​

เป็น​อมตะ​ก็​เพื่อ​จะได้​ใช้ชีวิต​

บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​เพื่อ​จะได้​ออก​ไป​

การ​ใช้ชีวิต​และ​การออกไป​ก็​เพื่อ​จะได้​ตามหา​ความสำราญ​ใหม่​ๆ อยู่​เรื่อยๆ​

ความสำราญ​เช่นนี้​รวมไปถึง​ความสำราญ​ที่​เกิดขึ้น​จาก​สัญชาตญาณ​ของ​ชีวิต​ด้วย​ ทว่า​มัน​ไม่ได้​จำกัด​แค่​เพียงเท่านี้​ มัน​ยัง​หมายถึง​การ​ที่​เรา​ได้​ค้นพบ​ความรู้​ที่​ไม่เข้าใจ​ ได้​ค้นพบ​กฎเกณฑ์​ที่​ไม่เคย​ได้​สัมผัส​ ได้​ค้นพบ​โลก​แปลก​หน้าที่​ไม่เคย​จินตนาการ​ถึงมาก่อน​ เช่นนั้น​การอาบน้ำ​ใน​ลาวา​ ได้​แช่อยู่​ใน​ลาวา​เหมือน​แช่อยู่​ใน​น้ำพุ​ร้อน​ก็​เป็น​ความสำราญ​อย่างหนึ่ง​เช่นเดียวกัน​

จาก​นิสัย​ของ​จิ๋ว​จิ๋ว​ ต่อให้​บางครั้ง​เขา​จะรู้สึก​สำราญ​กับ​เรื่อง​พวก​นี้​ แต่​เขา​ก็​ไม่มีทาง​หลง​อยู่​ใน​ความสำราญ​เหล่านี้​นาน​นัก​

เพราะ​ประสบการณ์​แปลกใหม่​เหล่านี้​ยังคง​เป็น​สิ่งที่​สามารถ​อนุมาน​ออกมา​ได้​ เป็น​สิ่งที่อยู่​ใน​การคาดการณ์​

วันนี้​เขา​นอน​แช่อยู่​ใน​ลาวา​เป็นเวลา​นาน​

ก่อนที่จะ​ลง​มายัง​ใต้ดิน​ เขา​นั่ง​อยู่​ริม​ทะเลสาบ​เป็นเวลา​หนึ่ง​คืน​เต็ม​

ตอน​ที่อยู่​ตรง​บ่อ​ผ่านฟ้า​ริมทะเล​ตะวันออก​ใน​ตอนนั้น​ เขา​ก็​มอง​ลง​ไป​ยัง​ด้านล่าง​เป็นเวลา​นาน​

นั่น​ล้วนแต่​เป็น​เพราะ​เขา​กำลัง​ลังเล​

ก่อน​เดินทาง​ลงมา​เขา​ได้​คาดการณ์​เอาไว้​แล้ว​ว่า​ด้านล่าง​หุบเขา​จวี้​หุน​คงจะ​หา​กระดูก​ปีศาจ​ที่​เหมาะสม​ได้​ยาก​ แล้วก็​อาจจะ​มีอันตราย​อะไร​บางอย่าง​ แต่​สุดท้าย​เขา​ก็​ยัง​มา

เพราะ​ที่นี่​อยู่​ใกล้​กับ​หุุบเหวลึก​ และ​อีก​ฝั่งหนึ่ง​ของ​หุบเหว​ลึก​ก็​คือ​ดินแดน​หมิง​

เขา​ไม่อยาก​ไป​ที่ราบ​หิมะ​ เพราะ​ที่ราบ​หิมะ​อันตราย​ เขา​ยิ่ง​ไม่อยาก​ไป​ดินแดน​หมิง​ เพราะ​ทาง​ด้าน​นั้น​ก็​อันตราย​อย่าง​มาก​เช่นเดียวกัน​

ตาม​หลัก​แล้ว​ เขา​ควรจะ​หมุนตัว​แล้ว​เดิน​จากไป​อย่าง​ไม่ลังเล​ แต่​เหตุใด​ในเวลานี้​เขา​กลับ​ยัง​นอน​อยู่​ใน​ลาวา​ เหม่อ​มองดู​เพดาน​สีส้มแดง​ที่​เหมือน​ท้องฟ้า​ยาม​เย็น​?

……

……

น้อย​คน​นัก​ที่จะ​รู้​ว่า​จิ๋งจิ่ว​ชอบ​อะไร​

หลิ่ว​สือซุ่ย​รู้​เพียง​ว่า​เขา​ชอบ​นอน​บน​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ ดังนั้น​ไม่ว่า​จะเป็น​บน​ยอดเขา​เทียน​กวง​หรือ​ที่วัด​กั่วเฉิง​ เขา​ก็​ไม่ลืม​ที่จะ​ปลูก​ต้น​ไผ่​เอาไว้​ เพื่อ​จะได้​สะดวก​ใน​การซ่อมแซม​เก้าอี้​ให้​จิ๋งจิ่ว​

กู้​ชิงรู้​เพียง​ว่า​เขา​ชอบ​ดู​หิมะ​ ดังนั้น​ทุกปี​ใน​ตอนที่​หิมะ​ตก​ลงมา​ เขา​และ​หยวน​ฉวี่​จะย้ายออก​มาจาก​ใน​ตำหนัก​เต๋า​ เพื่อ​เอา​ตำแหน่ง​ริม​หน้าต่าง​มอบให้​แก่​ผู้​เป็น​อาจารย์​

เจ้าล่า​เยวี่ย​รู้​เพียง​ว่า​เขา​ชอบ​ให้​ตัวเอง​ไว้​ผม​ยาว​ ดังนั้น​นาง​จึงไม่ไว้​ แต่​ก็​ยัง​ยืนกราน​ที่จะ​ให้​เขา​หวี​ผม​ให้​ตัวเอง​

แต่​กระทั่ง​พวกเขา​ทั้ง​สามคน​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​แท้ที่จริง​จิ๋งจิ่ว​ชอบ​อะไร​กัน​แน่​

มีหลาย​เรื่อง​ที่​เขา​ไม่ยอม​ทำ​ นั่น​เป็น​เพราะว่า​เขา​ขี้เกียจ​ หรือไม่​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​ไม่มีความหมาย​ แต่​ไม่ได้​หมายความว่า​เขา​ไม่ชอบ​

อย่างเช่น​เขา​ไม่กิน​หม้อไฟ​ เป็น​เพราะ​เขา​รู้สึก​ว่า​การเคลื่อนไหว​ในขณะที่​กิน​มัน​น่าเบื่อ​ ไม่ได้​หมายความว่า​เขา​ไม่ชอบ​หม้อไฟ​

ใน​อดีต​ตอน​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​ซั่งเต๋อ​ ใน​ตอนที่​ศิษย์​พี่​ หยวน​ฉีจิงและ​หลิ่ว​ฉือ​กิน​หม้อไฟ​ เขา​มักจะ​ชอบ​นั่ง​ดู​อยู่​ข้างๆ​

ความเคยชิน​เช่นนี้​คงอยู่​มาจนถึง​ปัจจุบัน​

ตอนนี้​ เขา​ชอบ​นั่ง​ดู​เจ้าล่า​เยวี่ย​กิน​หม้อไฟ​

ใน​เหลา​สุรา​จำนวน​นับไม่ถ้วน​บน​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ล้วนแต่​มีน้ำแกง​สีขาว​ที่​เคย​ถูก​เขา​มองดู​มัน​เดือด​จน​เหือดแห้ง​

มีเพียง​กั้วตง​ที่​รู้​คำตอบ​

สิ่งที่​จิ๋งจิ่ว​ไม่ชอบ​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​การ​ติดค้าง​คนอื่น​

ไม่ว่า​จะเป็น​น้ำใจ​หรือว่า​เงิน​หรือว่า​สิ่งอื่น​

ใน​อดีต​หลังจากที่​เขา​บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​ไป​แล้ว​ เขา​ขึ้นไป​อยู่​ใน​โลก​ที่อยู่​ห่างไกล​ ภายใน​ร่างกาย​เขา​ยังคง​มีพลัง​ที่​ไม่สะอาด​หลง​เหลืออยู่​เล็กน้อย​

สิ่งที่​ยัง​หลง​เหลืออยู่​นั้น​ก็​คือ​กรรม​ที่​ยัง​ไม่สิ้นสุด​ คือ​ชะตา​ที่​ยัง​ไม่จบสิ้น​

ที่​เขา​บรรลุ​เป็น​เซียน​ล้มเหลว​ก็​เพราะ​สิ่งเหล่านี้​ เขา​ย่อม​ไม่ชอบ​มาก​ที่สุด​

ดังนั้น​หลังจากที่​เกิดขึ้น​มาใหม่​ เขา​จึงระวัง​เรื่อง​เหล่านี้​เป็นอย่างมาก​ สิ่งที่​เคย​ติดค้าง​เหล่านั้น​ล้วน​คิด​อยาก​จะชดเชย​ให้​ไป​ให้​หมด​ แต่กลับ​มีหนี้​ใหม่​ๆ เพิ่มขึ้น​มาอีก​

เจ้าของ​หนี้​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​

ใน​คุก​สะกด​มาร​ จักรพรรดิ​แห่ง​หนึ่ง​ได้​ถ่ายทอดวิชา​บัญชา​เพลิง​วิญญาณ​ให้​แก่​เขา​ เขา​รับปาก​ว่า​จะช่วย​จักรพรรดิ​แห่ง​หมิง​หา​ผู้สืบทอด​ และ​เอา​ลัญจกร​แห่ง​จักรพรรดิ​หมิง​กับ​วิชา​บัญชา​เพลิง​วิญญาณ​ถ่ายทอด​ให้​แก่​คน​ผู้​นั้น​

ผ่าน​ไป​สิบ​สามปี​ เขา​ยัง​ไม่สามารถ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​เรียบร้อย​ได้​

เขา​เอา​กระบี่​คม​จักรวาล​เก็บ​ไว้​ใน​ภาชนะ​แห่ง​ความว่างเปล่า​ จากนั้น​หลับตา​แล้ว​ดำ​ลง​ไป​ยัง​ด้านล่าง​ลาวา​

ลาวา​มีความหนาแน่น​สูง คน​ทั่วไป​หาก​ไม่ได้​ถูก​เผา​จน​เป็น​เถ้าถ่าน​ก็​ไม่มีทาง​ที่จะ​ดำ​ไป​ได้​ แต่​เขา​ย่อม​ไม่เหมือน​คน​เหล่านั้น​

เขา​ไหล​ตาม​ลำธาร​ลาวา​ออก​ไป​ คล้าย​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​

ห่าง​ออก​ไป​สิบ​กว่า​ลี้​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​ลำธาร​ลาวา​แยก​ออก​เป็น​สอง​สาย​ สาย​หนึ่ง​ไหล​ไป​ด้านบน​ อีก​สาย​หนึ่ง​ไหล​ไป​ด้านล่าง​

ไหล​ตาม​และ​ไหล​ทวน​ ตัว​ลำธาร​จะเป็น​คน​เลือก​เอง​

นี่​คือ​การ​ไหล​ตาม​กระแส​ลำธาร​ไป​เรื่อยๆ​ โดย​ไม่สนใจ​อะไร​ หรือ​เป็นการ​ปล่อยไป​ตาม​โชคชะตา​อย่าง​ที่วัด​กั่วเฉิง​ชอบ​พูด​กัน​ หรือว่า​เป็น​ความขี้เกียจ​?

กระทั่ง​ตัว​จิ๋งจิ่ว​เอ็ง​ก็​อาจจะ​ไม่มีคำตอบ​ เขา​ได้​แต่​รับรู้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ยิ่ง​ไหล​ตาม​ลาวา​ไป​ไกล​เรื่อยๆ​ อุณหภูมิ​รอบตัว​ก็​ยิ่ง​สูงขึ้น​ มือขวา​ของ​เขา​อ่อนนุ่ม​ลง​ และ​นี่​ก็​คือ​สิ่งที่​เขา​ต้องการ​

เขา​ไหล​ตาม​ลำธาร​ลาวา​ไป​เป็นเวลา​นาน​ ใน​วันหนึ่ง​จู่ๆ ก็​ไป​ชน​เข้ากับ​อะไร​บางอย่าง​ จึงลืมตา​ขึ้น​มา พบ​ว่า​สิ่งที่​ขวางทาง​อยู่​คือ​กำแพง​แถบ​หนึ่ง​

กำแพง​แถบ​นี้​โปร่งใส​

ลำธาร​ลาวา​เมื่อ​เจอ​กับ​กำแพง​นี้​ก็​ไม่สามารถ​ไหล​ต่อไป​ข้างหน้า​ได้​ พวก​มัน​ไหล​ย้อนกลับ​ เกิด​เป็น​น้ำวน​เล็ก​ๆ จำนวน​นับไม่ถ้วน​ เปลวไฟ​จำนวนมาก​ปะทุ​ขึ้น​มา ดู​คล้าย​เตาไฟ​นับ​พัน​

หาก​กลับ​ไป​บน​พื้นดิน​ ก็​จะมองเห็น​แต่เพียง​ท้องฟ้า​ มองไม่เห็น​กำแพง​ ดังนั้น​ที่นี่​คือ​ใต้ดิน​

จิ๋งจิ่ว​เดิน​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ไป​ตรงหน้า​กำแพง​ที่​โปร่งใส​ ทอดตา​มองออก​ไป​

กำแพง​แถบ​นี้​สูงเป็นอย่างมาก​ ไม่รู้​ว่า​สูงกี่​ลี้​ มองไม่เห็น​ปลาย​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​กำแพง​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​กำแพง​คือ​หุบเหว​ลึก​อัน​มืดมิด​

ปลาย​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​หุบเหว​คือ​ดินแดน​หมิง​

หาก​อยาก​จะกลายเป็น​ผู้นำ​สำนัก​ฝ่าย​ธรรมะ​ของ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​ ความยิ่งใหญ่​คือ​เงื่อนไข​ที่​จำเป็น​ แต่​มิใช่ทั้งหมด​ เจ้ายัง​ต้อง​แบก​ความรับผิดชอบ​ต่อ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​เอาไว้​มากมาย​ ต้อง​เสียสละ​เป็นอย่างมาก​ อย่างเช่น​คอย​เฝ้าเส้นทาง​ที่​เชื่อมต่อ​ระหว่าง​ดินแดน​มนุษย์​และ​ดินแดน​หมิง​เอาไว้​

สำนัก​ที่​มีชื่อเสียง​โด่งดัง​และ​มีประวัติศาสตร์​อัน​ยาวนาน​บน​แผ่นดิน​เฉาเทียน​เหล่านั้น​ล้วนแต่​มีเส้นทาง​ที่​ตนเอง​ต้อง​คอย​เฝ้ารักษา​

เส้นทาง​ที่​สำนัก​อู๋เอิน​เห​มิน​ต้อง​เฝ้ารักษา​คือ​เส้นทาง​ที่อยู่​ใต้​ภูเขา​ว่าน​โซ่ว​ บ่อ​ผ่านฟ้า​ที่อยู่​ริมทะเล​ตะวันตก​มีสำนัก​แม่ชีสุ่ยเยวี่ย​และ​วัด​กั่วเฉิง​คอย​ดูแล​ร่วมกัน​ ระเบียง​ลม​พัน​ลี้​มีเรือน​อี้​เหมา​คอย​เฝ้าอยู่​

ตำแหน่ง​ของ​สำนัก​จงโจว​อยู่​สูงที่สุด​ แข็งแกร่ง​ที่สุด​ ความรับผิดชอบ​ก็​ย่อ​มมาก​ที่สุด​ ชางหลง​แปลงกาย​เป็น​คุก​สะกด​มาร​คอย​เฝ้าเมือง​เจาเก​อ​เอาไว้​ ขณะเดียวกัน​ก็​รับผิดชอบ​เฝ้าเส้นทาง​ที่อยู่​ใต้​หุบเขา​จวี้​หุน​

กำแพง​ยักษ์​โปร่งใส​ที่​ไม่รู้​ว่า​ทอด​ยาว​ออก​ไป​กี่​ลี้​ถ้าแบบนี้​ก็​คือ​ผนึก​ของ​สำนัก​จงโจว​ เมื่อ​ดู​จาก​พลัง​ที่​แผ่​ออกมา​ มัน​มีความ​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ มิอาจ​ทำลาย​ลง​ได้​

สำนัก​ชิงซาน​ไม่มีเส้นทาง​ที่​ทะลุ​ไป​ยัง​ดินแดน​หมิง​ต้อง​คอย​เฝ้า เพราะ​ทางใต้​เต็มไปด้วย​แม่น้ำ​ลำธาร​ รอยแยก​ใต้ดิน​ถูก​ถมจน​เต็ม​ แต่​พวกเขา​ก็​ต้อง​เสียสละ​อย่าง​มาก​เช่นเดียวกัน​

หาก​บอ​กว่า​สิ่งที่​สำนัก​จงโจว​ต้อง​เสียสละ​คือ​สัตว์​เทพ​ถูก​กักขัง​และ​ข่าย​พลัง​กับ​ของ​วิเศษ​อัน​แข็งแกร่ง​ที่​ต้อง​ใช้ใน​การ​ผนึก​เส้นทาง​ สิ่งที่​สำนัก​ชิงซาน​ต้อง​เสียสละ​ก็​คือ​กระบี่​และ​เลือด​

จิ๋งจิ่ว​ยืน​สอง​มือ​ไพล่หลัง​มองดู​กำแพง​ยักษ์​ที่​โปร่งใส​ สายตา​จ้อง​มองดู​หุบเหว​ลึก​ที่อยู่​ทาง​ด้าน​นั้น​อย่าง​เงียบๆ​

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด