มรรคาสู่สวรรค์ 19 เดินออกมาจากที่ราบหิมะ (2)

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 19 เดินออกมาจากที่ราบหิมะ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหล่า​ศิษย์​ชิงซาน​ต่าง​ตกใจ​

คน​ผู้​นั้น​เดิน​ออกมา​จาก​ที่ราบ​หิมะ​ มาถึงด้านหน้า​ค่ายทหาร​ จีวร​ที่อยู่​บน​ร่างกาย​ขาดวิ่น​ ดู​ยุ่งเหยิง​คล้าย​กับ​ผม​ที่​เพิ่งจะ​งอก​ยาว​ออกมา​

สายตา​ที่​ทุกคน​มองดู​เห​อ​จาน​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป​

กู้​หา​นข​มวด​คิ้ว​พลาง​กล่าวว่า​ “ผู้สืบทอด​ที่​ลงมา​ธุดงค์​ยัง​โลก​ปุถุชน​แล้ว​เปิดเผย​ตัว​ตั้งแต่แรก​ นี่​ถือเป็น​คน​แรก​หรือเปล่า​?”

ใน​เมื่อ​จะลงมา​ธุดงค์​ยัง​โลก​ปุถุชน​ ก็​ย่อม​ต้อง​ปิดบัง​ตัวตน​ เช่นนั้น​ถึงจะสามารถ​รู้แจ้ง​ถึงความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​โลก​ปุถุชน​ได้​ ใน​อดีต​ที่ผ่านมา​ผู้สืบทอด​ของวัด​กั่วเฉิง​ที่​ลงมา​ธุดงค์​ยัง​โลก​ปุถุชน​ล้วนแต่​ปฏิบัติ​เช่นนี้​ จนกระทั่ง​บุญบารมี​เต็มเปี่ยม​ถึงจะเปิดเผย​ตัวตน​ ผู้สืบทอด​ที่​ลงมา​ธุดงค์​ยัง​โลก​ปุถุชน​คน​ก่อน​หรือ​ก็​คือ​เทพ​ดาบ​เฉาหยวน​ใน​ปัจจุบัน​ได้​เลือก​ที่จะ​อยู่​ที่​ดินแดน​ทางเหนือ​ ไม่กลับ​ไป​เป็น​เจ้าอาวาส​อยู่​ที่วัด​กั่วเฉิง​ แต่​ตอน​ที่อยู่​ใน​นิกาย​เฟิงเตา​ใน​ตอนแรก​เขา​ก็​ปิดบัง​ชื่อ​แซ่ของ​ตัวเอง​อยู่​นาน​หลาย​ปี​

……

……

เห็นได้ชัด​ว่า​เห​อ​จาน​ผ่าน​การต่อสู้​อัน​ยากลำบาก​ใน​ที่ราบ​หิมะ​มาหลายครั้ง​ ได้รับบาดเจ็บ​ไม่เบา​ แต่​ภายใน​ค่ายทหาร​กลับ​ไม่มีใคร​ออก​ไป​รับ​เขา​

มิใช่เป็น​เพราะ​สมณะของวัด​กั่วเฉิง​ยุ่ง​เกินไป​ หรือว่า​ไต้​ซือ​เหล่านั้น​รังเกียจ​ที่​เขา​ปฏิบัติตัว​โอ้อวด​เกินไป​จน​ทำลาย​เจตนารมณ์​ของ​การ​ลงมา​ธุดงค์​ยัง​โลก​ปุถุชน​ หาก​แต่​เป็น​เพราะ​มีคน​ออก​ไป​แล้ว​

เสียง​กระดิ่ง​ที่​ใสกระจ่าง​ดัง​ขึ้น​ เซ่อ​เซ่อ​ซึ่งเป็น​นาย​น้อย​ของ​สำนัก​เสวียน​ห​ลิง​พุ่งตัว​มาถึงตรงหน้า​เห​อ​จาน​ ก่อน​จะพยุง​แขน​ของ​เขา​เอาไว้​ บน​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​เป็นห่วง​

“ไม่เป็นไร​ใช่ไหม​”

เห​อ​จาน​ส่าย​ศีรษะ​

เซ่อ​เซ่อ​โล่งใจ​ จากนั้น​กล่าวถาม​ว่า​ “งานฉลอง​วันเกิด​ของ​เหล่า​ไท่จ​วิน​เจ้าจะไป​หรือไม่​? ข้า​อยู่​ที่นี่​นาน​ไม่ได้​นะ​ ยังมี​อีก​หลาย​เรื่อง​ต้อง​ไป​จัดการ​”

เห​อ​จาน​ส่าย​ศีรษะ​อีกครั้ง​

เซ่อ​เซ่อ​เชิดหน้า​ขึ้น​เล็กน้อย​ กล่าว​ร้องขอ​ว่า​ “เจ้าก็​ไป​หน่อย​เถอะ​ ท่าน​แม่อยาก​เจอ​เจ้า”

เห​อ​จาน​มิได้​กล่าว​กระไร​

เซ่อ​เซ่อ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เศร้าสร้อย​ “วันนั้น​จะต้อง​เกิดเรื่อง​แน่​ ข้า​กลัว​ เมื่อ​ถึงตอนนั้น​ข้า​อยาก​ให้​เจ้าอยู่​ข้าง​ข้า​”

เห​อ​จาน​ยังคง​ไม่พูด​อะไร​

เซ่อ​เซ่อ​โมโห​ สะบัดมือ​ของ​เขา​ออก​พลาง​กล่าวว่า​ “เจ้าไม่ต้อง​มาหลอก​ข้า​อีกแล้ว​ ข้า​ถามพี่​ล่า​เยวี่ย​มาแล้ว​ วัด​กั่วเฉิง​ของ​เจ้าไม่มีวิชา​ปิด​วาจา​!”

เห​อ​จาน​ปิดปาก​ ก้าวเดิน​ต่อไป​ข้างหน้า​โดย​ไม่พูด​อะไร​

เซ่อ​เซ่อ​หยุด​ฝีเท้า​ ยืน​อยู่​บน​พื้น​หิมะ​พลาง​มองดู​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ จากนั้น​กล่าว​เสียงสะอื้น​ว่า​ “ข้า​จะร้อง​แล้ว​นะ​ นี่​ ข้า​จะร้อง​แล้ว​นะ​!”

ร่าง​ของ​เห​อ​จาน​ชะงัก​ลง​เล็กน้อย​ ก่อน​จะค่อยๆ​ หมุนตัว​กลับมา​มอง​นาง​ พลาง​กล่าวว่า​ “ข้า​เห็น​ศพ​ของ​ของ​เจียง​รุ่ย​อยู่​ใน​ที่ราบ​หิมะ​”

เดิม​เซ่อ​เซ่อ​แสร้ง​ทำเป็น​ร้องไห้​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​นี้​ เสียงสะอื้น​ใน​น้ำเสียง​พลัน​หาย​ไป​ทันที​ นาง​กล่าว​อย่าง​จริงจัง​และ​เต็มไปด้วย​ความเห็นใจ​ว่า​ “นี่​ช่างเป็นเรื่อง​ที่​น่าเสียใจ​จริงๆ​”

เห​อ​จาน​กล่าว​ “เจ้าปล่อย​เขา​ไป​จะเป็น​อะไร​?”

เซ่อ​เซ่อ​กล่าว​อย่าง​หยิ่งยโส​ว่า​ “ข้า​จะฆ่าเขา​ แล้​วจะ​เป็น​อะไร​?”

เห​อ​จาน​ถอนใจ​ หมุนตัว​เดิน​จากไป​ การเคลื่อนไหว​ดู​เลื่อนลอย​คล้าย​วิญญาณ​

เซ่อ​เซ่อ​รู้​ว่า​ตนเอง​ไล่ตาม​เขา​ไม่ทัน​ ทั้ง​โกรธ​แล้วก็​สงสัย​ ใน​ใจครุ่นคิด​ว่า​การเคลื่อนไหว​ที่​แปลกประหลาด​นี้​ เจ้าไป​เรียน​มาจาก​ที่ไหน​กัน​?

ทันใดนั้น​นาง​พลัน​คิดถึง​วิชา​ที่​เห​อ​จาน​เรียน​กับ​ขันที​ชรา​แซ่หง​ใน​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ จึงเอา​มือขึ้น​มาปิดปาก​ด้วย​ความตกใจ​ คิดในใจ​ว่า​หรือ​เจ้าตัด​ไอ​นั่น​ของ​ตัวเอง​ไป​จริงๆ​ แล้ว​?

……

……

ด้านหลัง​เมือง​ไป๋​เฉิงมีภูเขา​อยู่​ลูก​หนึ่ง​

ด้านล่าง​ภูเขา​มีวัด​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​

ภายใน​วัด​มีพระพุทธรูป​ทองคำ​อยู่​องค์​หนึ่ง​

ที่ผ่านมา​ใน​วัด​นี้​ไม่มีพระ​ แต่​ตอนนี้​มีอยู่​องค์​หนึ่ง​

พระ​น้อย​รูป​หนึ่ง​ที่​มีสถานะ​สูงสุด​ใน​สำนัก​ฌาน​

ฉาน​จึมาอยู่​เมือง​ไป๋​เฉิงได้​เจ็ด​ปี​แล้ว​

ใน​ช่วงเวลา​เจ็ด​ปี​นี้​เขา​เอาแต่​เล่น​โคลน​ เล่น​ดึง​แท่ง​ไม้อยู่​ใน​วัด​ บางครั้ง​ก็​จะโผล่​หน้า​ออก​ไป​ข้างนอก​บ้าง​

หาก​เปลี่ยน​ฉาน​จึเป็น​กั้วตง​อย่าง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ เทพ​ดาบ​น่าจะ​พอใจ​เป็นอย่างมาก​

ตัว​ฉาน​จึเอง​ก็​รู้สึก​ไม่พอใจ​ เขา​รู้สึก​เบื่อ​

จู่ๆ แท่ง​ไม้ก็​พัง​ลงมา​ กระจัดกระจาย​อยู่​บน​พื้น​ตรงหน้า​ธรณีประตู​

นี่​ไม่รู้​เป็น​ลาง​อะไร​หรือเปล่า​

ฉาน​จึมองดู​แท่ง​ไม้ แต่​ไม่ได้​ทำนาย​อะไร​ออกมา​ เขา​ยืดตัว​บิดขี้เกียจ​แล้ว​กล่าวว่า​ “เมื่อไร​ข้า​ถึงจะกลับ​ได้​?”

เสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​แต่​คล้าย​มีอะไร​บางอย่าง​ขาดหาย​ไป​ดัง​ขึ้น​มาภายใน​วัด​ “ท่าน​รีบ​หรือ​?”

ฉาน​จึกล่าว​ “ใน​วัด​เกิด​ความวุ่นวาย​ ตู้​ไห่​เกือบ​ทำ​เรื่อง​ที่​ผิด​มหันต์​ แต่​ข้า​กลับ​ไม่สามารถ​กลับ​ไป​ได้​ แล้​วจะ​ไม่ให้​ข้า​รีบ​หรือ​?”

เทพ​ดาบ​กล่าว​ “เอาไว้​ใน​ที่ราบ​หิมะ​รู้​แพ้รู้​ชนะ​ เดี๋ยว​ก็​สงบ​เอง​”

สายตา​ของ​ฉาน​จึเย็นยะเยือก​ขึ้น​มา กล่าวว่า​ “ไท่​ผิง​ปรากฏตัว​ขึ้น​บน​โลก​อีกครั้ง​ ไม่แน่​เจ้าเอง​ก็​อาจจะ​ต้อง​กลับ​ไป​”

เทพ​ดาบ​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​ ก่อน​กล่าวว่า​ “ไม่รู้​ว่า​ความเคลื่อนไหว​ที่​เขา​เห​ลิ่ง​ซาน​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​นักพรต​คน​นั้น​ด้วย​หรือเปล่า​”

ฉาน​จึกล่าวว่า​ “เรื่อง​สำนัก​เสวียน​ไม่ต้อง​กังวล​อะไร​มาก​นัก​ หลังจากที่​เคย​ถูก​สำนัก​ชิงซาน​ถล่ม​ไป​ครั้งนั้น​ ตอนนี้​ก็​เหลือ​เพียง​ธงอันนั้น​เท่านั้น​”

เทพ​ดาบ​กล่าวว่า​ “ธงอันนั้น​มัน​ค่อนข้าง​แปลก​”

ฉาน​จึกล่าว​ “แน่นอน​ ไม่อย่างนั้น​สำนัก​ชิงซาน​ก็​บุกเข้าไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​”

สำนัก​ชิงซาน​และ​สำนัก​เสวียน​อิน​มีความแค้น​ที่​สืบทอด​มารุ่น​ต่อ​รุ่น​ หาก​มิเป็น​เพราะ​ธงสุริยัน​ถูก​ปลุก​ขึ้น​มาใหม่​ จึงรับมือ​ได้​ค่อนข้าง​ลำบาก​ สำนัก​ชิงซาน​มีหรือ​ที่จะ​มองดู​สำนัก​เสวียน​อิน​กระทำการ​เหิมเกริม​ ถึงขนาด​กล้า​เปลี่ยน​ชื่อ​จาก​สำนัก​กลายเป็น​นิกาย​โดย​ไม่ทำ​อะไร​

ในเวลานี้​ ด้านหลัง​วัด​พลัน​มีเสียง​ครืน​ดัง​ขึ้น​มา

นั่น​คือ​เสียง​อัน​น่ากลัว​ที่​เกิดขึ้น​จาก​หน้าผา​ที่​บิดเบี้ยว​เปลี่ยน​รูปร่าง​และ​เสียง​ชั้นหิน​ที่​เสียดสี​กันเอง​

ฉาน​จึลุกขึ้น​เดิน​ไป​ด้านนอก​ธรณีประตู​

บ้านเรือน​ภายใน​เมือง​ไป๋​เฉิงพัง​ถล่ม​ไป​เป็น​จำนวนมาก​ ฝุ่น​ควัน​ฟุ้งกระจาย​ โชคดี​ที่​นิกาย​เฟิงเตา​ได้​อพยพ​ชาวบ้าน​และ​สาวก​ออก​ไป​ทั้งหมด​แล้ว​ มิเช่นนั้น​คง​ต้อง​มีคน​ที่​บาดเจ็บ​ล้มตาย​เป็น​จำนวนมาก​แน่​

ความเคลื่อนไหว​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ที่ราบ​หิมะ​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​ยิ่ง​น่า​ตกใจ​ พายุ​หิมะ​โหมกระหน่ำ​ขึ้น​มา ฟุ้งกระจาย​สูงขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​หลาย​ร้อย​จ้าง ด้านหลัง​คล้าย​มองเห็น​ภูเขา​สีดำ​เหล่านั้น​กำลัง​โคลงเคลง​ไปมา​

แผ่นดินไหว​อัน​น่ากลัว​

สายตา​ของ​ฉาน​จึมอง​ทะลุ​ฝุ่น​ควัน​และ​พายุ​หิมะ​ ข้าม​ผ่าน​ภูเขา​สีดำ​ที่​กำลัง​โคลงเคลง​เหล่านั้น​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​ที่ราบ​หิมะ​

ใน​ดวงตา​ของ​เขา​มีความระแวดระวัง​อย่าง​รุนแรง​ปรากฏ​ขึ้น​มา

พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​

เหล่า​ผู้​บำเพ็ญพรต​ของ​มนุษย์​ที่อยู่​ตรง​ริม​ที่ราบ​หิมะ​เริ่ม​รู้ตัว​ พวกเขา​พา​กัน​ลอย​ขึ้นไป​บน​ฟ้า เตรียมรับมือ​ศัตรู​

ลำแสง​กระบี่​สว่าง​วาบ​ ลำแสง​อาวุธ​วิเศษ​ทะลวง​ไป​ใน​อากาศ​ เจตน์​กระบี่​ที่​แข็งแกร่ง​และ​น่ากลัว​อย่าง​มาก​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​ตรง​ด้านหน้า​สุด​

“ฟางจิ่งเทียน​มิใช่คู่ต่อสู้​”

เสียง​ของ​ฉาน​จึเย็นยะเยือก​เล็กน้อย​ “ให้​ทุกคน​ถอยกลับ​ไป​”

ชื่อเสียง​ของ​ฟางจิ่งเทียน​ใน​โลก​แห่ง​การ​บำเพ็ญพรต​นั้น​มิได้​โดดเด่น​อะไร​ แต่​ฉาน​จึและ​เทพ​ดาบ​ต่าง​รู้​ว่า​นั่น​เป็น​เพราะ​เจ้าแห่ง​ยอดเขา​ซีไหล​ของ​สำนัก​ชิงซาน​ผู้​นี้​ทำตัว​เงียบๆ​ มาเป็นเวลา​สามร้อย​ปี​

ฟางจิ่งเทียน​เป็น​ศิษย์​อันดับ​สี่ของ​นักพรต​ไท่​ผิง​ สภาวะ​ขั้น​แหวะ​ทะเล​ระดับ​สูงสุด​ มีหวัง​ขึ้นไป​ถึงทะลวง​สวรรค์​ ย่อม​ต้อง​เป็นยอด​คน​ที่อยู่​ใน​จุดสูงสุด​ของ​มนุษย์​ ต่อให้​เป็น​ปู้​ชิว​เซียว​ที่​เป็น​เจ้าแห่ง​เรือน​อี้​เหมา​ก็​เพียงแต่​เสมอ​กับ​เขา​เท่านั้น​ ใน​เมือง​ไป๋​เฉิงในเวลานี้​นอกจาก​เทพ​ดาบ​กับ​ฉาน​จึแล้ว​ ก็​เป็น​เขา​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​

กระทั่ง​ฟางจิ่งเทียน​ยัง​มิใช่คู่ต่อสู้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ผู้​ที่มา​เป็น​ใคร​ มิน่า​ฉาน​จึถึงได้​เคร่งเครียด​ถึงเพียงนี้​

ภายใน​วัด​มีเสียง​ระฆัง​ดัง​ขึ้น​มา เพื่อ​บอก​ให้​ผู้​บำเพ็ญพรต​ทุกคน​ออก​มาจาก​สนามรบ​ให้​เร็ว​ที่สุด​

“ใหญ่​หรือ​เล็ก​?”

เสียง​ที่​ทุ้ม​ต่ำ​และ​เหมือน​ขาด​อะไร​ไป​บางอย่าง​เสียง​นั้น​พลัน​ฟังดู​นุ่มนวล​ขึ้น​มาเป็นอย่างมาก​ คล้าย​กับ​เสียง​ระฆัง​ที่​ในเวลานี้​ยัง​ดัง​สะท้อน​ไปมา​ตรง​ริม​ที่ราบ​หิมะ​

นั่น​เป็น​เพราะ​ใน​ช่วง​ระยะเวลา​สั้น​ๆ เจ้าของ​เสียง​นี้​ได้​เตรียมพร้อม​ที่จะ​สู้ตาย​แล้ว​

ดาบ​เดียวดาย​สะกด​หิมะ​ ยาวนาน​กว่า​ร้อย​ปี​

เขา​เคย​เข้าไป​ใน​ส่วนลึก​ของ​ที่ราบ​หิมะ​เพื่อ​สู้กับ​ราชินี​แคว้น​เสวี่ย​มาหลายครั้ง​ ทุก​ครั้่งล้วนแต่​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​กลับมา​ ไม่มีโอกาส​ชนะ​แม้แต่น้อย​

ก็​เหมือน​อย่าง​ที่​จิ๋งจิ่ว​เคย​พูด​เอาไว้​ ราชินี​แคว้น​เสวี่ย​คือ​สิ่งมีชีวิต​ที่อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​แผ่นดิน​เฉาเทียน​ นอกจาก​ตัว​เขา​ใน​ตอนที่​บรรลุ​กลายเป็น​เซียน​แล้วก็​ไม่มีใคร​เป็น​คู่ต่อสู้​ของ​นาง​ได้​

หาก​อีก​ฝ่าย​เดิน​ออก​มาจาก​ที่ราบ​หิมะ​จริงๆ​ ใคร​จะหยุด​นาง​เอาไว้​?

เขา​เคย​คิดถึง​ปัญหา​นี้​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​แล้ว​

จนกระทั่ง​สุดท้าย​เขา​ก็​ไม่ได้​คำตอบ​ออกมา​ แต่​เขา​กลับ​เข้าใจ​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​

ไม่ว่า​ใคร​ที่​สามารถ​หยุด​นาง​ได้​ สุดท้าย​ก็​ต้อง​ลอง​เข้าไป​หยุด​ดู​

เช่นนั้น​วันที่​ราชินี​แคว้น​เสวี่ย​เดิน​ออก​มาจาก​ที่ราบ​หิมะ​ วันนั้น​ก็​น่าจะเป็น​วัน​ตาย​ของ​ตัวเอง​

………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด