มู่หนานจือบทที่ 353 หลบร้อน
หลี่ฉางชิงอดไม่ได้ที่จะทบทวนความทรงจำอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่ง
จำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ!
บางทีอาจจะบอกแล้ว แต่เขาไม่ได้สนใจฟัง
ตอนนั้นเขาเห็นเกาเมี่ยวหรงรู้สึกผิดมาก และนึกถึงที่เกาเมี่ยวหรงคอยช่วยเหลือคนสกุลเหอหลายปีนี้ จึงมัวแต่ปลอบใจนาง จนไม่ได้สนใจว่านางพูดอะไรบ้างกันแน่
หลี่เชียนแค่เห็นก็เข้าใจ
บิดาของเขาดูเข้มงวด ทว่าความเข้มงวดนี้มอบให้แต่ลูกชายในตระกูล ด้วยมักจะคิดว่าลูกสาวนั้นเลี้ยงให้คนอื่น เวลานี้แค่เป็นแขกที่บ้านของตนเอง ปกติก็จะเกรงใจมาก ขอเพียงไม่เกิดข้อผิดพลาดใหญ่ก็พอ ไว้หาตระกูลที่ดีแต่งลูกสาวออกไป ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับเขามากแล้ว
ตอนที่เกาเมี่ยวหรงมาตระกูลหลี่นั้นตงจื้อยังไม่เกิด เด็กผู้ชายสามคนในบ้าน บวกกับเกาเมี่ยวหวาก็เป็นสี่คนแล้ว ดังนั้นหลี่ฉางชิงจึงใจกว้างและอ่อนโยนกับเกาเมี่ยวหรงเป็นพิเศษ ประกอบกับนางเป็นหลานสาวของเกาฝูอวี้อีก ต่อให้ทำผิดเขาก็ไม่มีสิทธิไปยุ่งอยู่ดี ในความใจกว้างและอ่อนโยนจึงเพิ่มความรักมากไปอีกเล็กน้อย
หลี่เชียนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ และเอ่ยว่า “ท่านพ่อคงจะไม่ได้ยินว่าตงจื้อทะเลาะกับคนอื่นก็รู้สึกโกรธจนไม่ได้ถามอะไรเลยใช่หรือไม่?”
หลี่ฉางชิงหัวเราะแห้งๆ
หลี่เชียนจึงเล่าเรื่องที่คุณหนูจวงนินทาเจียงเซี่ยนลับหลังให้หลี่ฉางชิงฟัง
หลี่ฉางชิงได้ยินแล้วก็โกรธจนตบโต๊ะ “เรื่องนี้ตระกูลหลี่ของพวกเราไม่จบกับตระกูลจวงของพวกเขา!” และเอ่ยอีกว่า “เรื่องนี้เจ้าอย่ายุ่งเลย ข้าจะไปพบตระกูลจวงของพวกเขาด้วยตนเอง ข้าจะดูว่าตระกูลจวงของพวกเขามีความสามารถอะไร! ไม่เพียงแต่นินทาลูกสะใภ้ข้าลับหลัง ยังพาคนมาตีถึงบ้าน ข้ามีชีวิตอยู่มาสี่สิบกว่าปี ก็ไม่เคยเจอตระกูลที่ไร้เหตุผลแบบนี้!”
แต่หลี่เชียนกลับไม่อยากให้หลี่ฉางชิงเข้าไปก้าวก่าย
ในความคิดของเขา นี่เป็นการเหยียดหยามเขา ไม่เกี่ยวกับหลี่ฉางชิง
“ท่านพ่อ เรื่องนี้ข้ามีความคิดในใจแล้ว ท่านก็อย่ายุ่งเลย!” หลี่เชียนโน้มน้าวบิดา “หากข้าพลาดค่อยว่ากัน”
หลี่ฉางชิงรู้สึกผิดต่อเจียงเซี่ยนมาก จึงปรึกษาหลี่เชียนว่า “ตระกูลของเรายังมีที่ดินเล็กๆ แปลงหนึ่งที่หยางฉวี่ไม่ใช่หรือ? ข้าว่า…มอบที่ดินเล็กๆ แปลงนั้นให้เจียหนานเป็นการปลอบใจดีกว่า!”
หลี่เชียนนึกถึงตั๋วเงินปึกนั้นที่เจียงเซี่ยนให้เซี่ยหยวนซีส่งต่อให้เขา แล้วก็อดที่จะพึมพำในใจไม่ได้ ‘ตั๋วเงินปึกนั้นที่เป่าหนิงให้เขาก็พอที่จะซื้อที่ดินเล็กๆ แบบนี้หลายแปลงแล้ว…’
“ไม่ต้องแล้ว!” เขาบอกปฏิเสธบิดา “คนในครอบครัวเดียวกัน เอาแต่คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้ ก็ไม่สนิทสนมและอบอุ่นแล้ว”
เขาควรจะบอกบิดาให้ชัดเจนเรื่องที่เจียงเซี่ยนดีกับเขา ทว่าเขากลับไม่อยากบอกอย่างอธิบายไม่ได้ อยากเก็บเรื่องพวกนี้เอาไว้ มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ดี…
หลี่ฉางชิงนึกถึงเรื่องที่เขามอบเงินให้เจียงเซี่ยนครั้งก่อน แล้วก็หัวเราะอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย และเอ่ยว่า “ก็ได้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ยุ่งเรื่องของพวกเจ้าแล้ว แต่เจ้าต้องจำไว้ว่า ต่อให้ตระกูลหลี่ของพวกเราตกอับแค่ไหน ก็ไม่เคยปล่อยให้สะใภ้ของตนเองถูกคนนอกรังแกเช่นกัน”
“ข้ารู้!” หลี่เชียนยิ้ม และลุกขึ้นเติมชาให้บิดา พลางถามถึงเรื่องไปหลบร้อนที่ภูเขามังกรเมฆ “ข้าอยากออกเดินทางเร็วหน่อย เจียหนานจะได้ไปผ่อนคลายอารมณ์ด้วย”
หลีกหนีจากพวกความขัดแย้งในเมือง
พอนางกลับมาจากภูเขามังกรเมฆ เขาก็น่าจะจัดการเรื่องราวทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
หลี่ฉางชิงรู้ใจลูกชาย จึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นอีกสามวันก็ออกเดินทางแล้วกัน บ้านที่นั่นเป็นของตอนนี้ และก็เก็บกวาดเรียบร้อยตั้งนานแล้ว ตงจื้อตามไป จะได้ควบคุมนิสัยของนางด้วย”
บ้านที่ภูเขามังกรเมฆ ยังเป็นสิ่งที่ตระกูลหลี่ซือตอนอยู่ซานซี
ตอนนั้นพวกเขามีเงินก้อนใหญ่อยู่ในมือ แล้วก็เพื่อเหลือทางหนีทีไล่ไว้ให้ตนเองสักทาง บ้านหลังนี้จึงจดชื่ออยู่ในนามหนิวหวาพี่น้องร่วมสาบานอีกคนหนึ่งของหลี่ฉางชิง
ตระกูลหลี่ไม่เพียงแต่มีบ้านหลังใหญ่ที่นั่น ทว่ายังมีทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์แปลงใหญ่ด้วย เวลานี้หนิวหวาก็เป็นคนดูแลอยู่เช่นกัน
ฮูหยินเหอไม่เคยไปมาก่อน จึงไม่รู้จักบ้านหลังนี้
ได้ยินหลี่ฉางชิงสั่งนางว่าอีกสามวันจะออกเดินทางไป นางตกใจมาก จึงเอ่ยว่า “เวลาสามวัน ไม่พอที่จะเก็บกวาดบ้านด้วยซ้ำ…”
หลี่ฉางชิงหงุดหงิดที่นางนิ่งเฉยเรื่องหลี่ตงจื้อ จึงทำท่าฉุนเฉียวเล็กน้อย และเอ่ยว่า “ข้าให้เจ้าเก็บของเจ้าก็เก็บของ จะอยู่ได้หรือไม่นั่นเป็นเรื่องของข้า เจ้าจะพูดมากขนาดนี้ทำไม?”
ฮูหยินเหอโกรธ ทว่าก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับหลี่ฉางชิง พลางคิดว่าทุกครั้งที่เจียงเซี่ยนออกเดินทางจะมีคนรับใช้เป็นสิบยี่สิบคน จึงรีบส่งแม่นมเฉิงไปบอกเจียงเซี่ยนด้วยตนเอง
“เดิมทีฮูหยินจะมาด้วยตนเอง” เวลาแม่นมเฉิงเจอเจียงเซี่ยน จะอ่อมน้อมถ่อมตนและมีมารยาทมาก นางยืนอยู่ข้างๆ อย่างนอบน้อมพร้อมทำตามคำสั่งตลอดเวลา เหมือนอยู่ต่อหน้าฮูหยินเหอ พลางเอ่ยว่า “แต่ใต้เท้าสั่งอย่างฉุกละหุก ฮูหยินของพวกเรากำลังยุ่งอยู่กับการเก็บของของคุณหนูใหญ่ คุณชายรอง และคุณชายสาม กลัวจะทำให้ท่านหญิงล่าช้า จึงสั่งให้ข้ามาโดยเฉพาะเจ้าค่ะ”
“เร็วขนาดนี้เชียว!” เจียงเซี่ยนก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน
สองวันก่อนยังคุยกันอยู่ว่าจะค่อยไปภูเขามังกรเมฆหลังจากส่งของขวัญแต่งงานให้คุณหนูสามตระกูลหยวนแล้ว แต่จู่ๆ วันนี้ก็เปลี่ยนใจ
นางแอบรู้สึกว่าตระกูลหลี่กลัวว่านางจะขัดแย้งกับตระกูลจวงอีก จึงคล้อยตาม และสั่งให้พวกไป่เจี๋ยเริ่มเก็บของ
ทว่าฮูหยินเหอกลับลำบากใจว่าต้องชวนเกาเมี่ยวหรงไปด้วยหรือไม่
เมื่อก่อนเกาเมี่ยวหรงมักจะอยู่กับพวกนาง
ตั้งแต่เจียงเซี่ยนแต่งเข้ามา พวกนางก็เหมือนห่างเหินกับเกาเมี่ยวหรง
ทว่าหากคิดดูให้ดี ก็รู้สึกว่าพวกนางไม่ได้เมินเฉยหรือละเลยเกาเมี่ยวหรงตรงไหน
เพียงแค่ไม่รู้ว่าห่างกันแบบนี้ได้อย่างไร
ฮูหยินเหอขาดความมั่นใจเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก จึงถามหลี่ตงจื้อว่า “เจ้าว่า…พวกเราต้องชวนเกาเมี่ยวหรงไปด้วยหรือไม่?”
หลี่ตงจื้อกำลังเขียนตัวอักษรตามแบบคัดก็ชะงักไป และเอ่ยว่า “ท่านลองไปถามพี่สะใภ้ดีหรือไม่? ข้ารู้สึกว่าพี่สะใภ้ทำอะไรมีระเบียบมาก ท่านไปถามนาง ไม่ผิดอย่างแน่นอน!”
ฮูหยินเหอพยักหน้า และรู้สึกว่าลูกสาวตอบได้ไม่ตรงใจนางนัก คิดแล้ว สุดท้ายก็ยังตัดสินใจชวนเกาเมี่ยงหรงไปด้วย ถึงอย่างไรเมื่อวานเกาเมี่ยวหรงก็ยังมาบอกนางว่า ตนเองช่วยตงจื้อในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูสามตระกูลซืออย่างไร
เกาเมี่ยวหรงนั้นจู่ๆ ก็ได้รับคำชวน จึงตกใจมาก หลังจากรู้ว่านี่เป็นความประสงค์ของฮูหยินเหอ ก็ครุ่นคิดอยู่นานมาก ถึงจะตอบตกลง
คนทั้งตระกูลจัดเตรียมสัมภาระเรียบร้อย รอออกเดินทาง
เจียงเซี่ยนไม่ชอบที่มักจะมีของที่ลืมเอาไป
หลี่เชียนยิ้มและเอ่ยว่า “จะเป็นไรไป ภูเขามังกรเมฆอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หากลืมของอะไรไว้ เจ้าให้ปิงเหอนำจดหมายมาให้ข้า ข้าจะให้คนส่งไปให้เจ้า”
เจียงเซี่ยนตกใจ และเอ่ยว่า “เจ้าไม่ไปกับข้าหรือ?”
หลี่เชียนอยากให้ตระกูลจวงหลาบจำก่อนที่เขาจะไปเสฉวน
“แน่นอนว่าข้าต้องไปส่งเจ้าอยู่แล้ว” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เพียงแต่ข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่นั่นได้แค่สองสามวัน ทางเมืองไท่หยวนยังมีเรื่องจุกจิกเล็กน้อย ไว้ข้าจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว ข้าค่อยไปอยู่ที่ภูเขามังกรเมฆเป็นเพื่อนเจ้าสักระยะ”
เจียงเซี่ยนยังไม่ได้แยกกับหลี่เชียน ก็อาลัยอาวรณ์แล้ว จนเผลอถามไปว่า “เจ้ามีธุระอะไรหรือ?”
หลี่เชียนยิ้มและเอ่ยว่า “เดือนเก้าต้องเริ่มเกณฑ์ทหารแล้ว เรื่องบางเรื่องต้องจัดการล่วงหน้าหน่อย”
เจียงเซี่ยนรู้สึกอับอาย
นางลืมเรื่องที่หลี่เชียนยังเป็นแม่ทัพโหยวจีของกองบัญชาการซานซีไปอย่างสิ้นเชิง
เขายังมีงานราชการต้องทำ!
“ถ้าเจ้ายุ่งมาก ก็ไม่ต้องไปส่งข้าแล้ว!” เจียงเซี่ยนเอ่ย “ข้าไปกับฮูหยินก็ได้”
“ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็เจียดเวลามาส่งเจ้าได้” หลี่เชียนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ และเอ่ยว่า “และภูเขาหลังบ้านที่นั่นปลูกพุทรามากมาย เจ้าสามารถพาตงจื้อไปเก็บพุทราเล่นได้พอดี”
เจียงเซี่ยนเริ่มตั้งตารอเล็กน้อย
นางไม่เอ่ยถึงเรื่องตระกูลจวง
คิดว่าหากตระกูลจวงมาหาถึงบ้านอีก หลี่เชียนจะจัดการพวกเขาเอง
นางส่งของขวัญขอบคุณไปให้คุณหนูตระกูลลู่ ติงหวั่น และคุณหนูสามตระกูลหยวนที่ช่วยหลี่ตงจื้อในวันนั้นก่อน แล้วก็ไปภูเขามังกรเมฆกับหลี่เชียนอย่างมีความสุข
————————————
Comments