ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่293 ประตูหินลึกลับ

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่293 ประตูหินลึกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​293 ประตู​หิน​ลึกลับ​

ฉีเล่ย​จำได้​แม่นยำ​ว่า​ เมื่อ​ตอนที่​เดิน​เข้ามา​ครั้งแรก​นั้น​ พวกเขา​ทั้งคู่​ยัง​ไม่มีอาการ​อะไร​เลย​ ร่างกาย​ของ​ฮวา​โหล่​ว​ก็​ยัง​เป็นปกติ​ไม่มีอะไร​เปลี่ยนแปลง​ไป​ แต่​ดูเหมือน​จะเริ่ม​เปลี่ยนไป​ใน​ตอนที่​พบ​ศพ​เหล่านี้​

‘เป็นไปได้​ไหม​ว่า​จะเป็น​เพราะ​ศพ​พวก​นี้​?’

ฉีเล่ย​ได้​แต่​แอบ​คิด​อยู่​ใน​ใเงียบๆ​ ไม่กล้า​ที่จะ​พูด​อะไร​ออกมา​ หลังจาก​ถ่ายเท​พลัง​หยิน​และ​หยาง​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​ฮวา​โหล่​ว​แล้ว​ จึงค่อย​นั่งลง​ตรวจดู​สภาพ​ศพ​อย่าง​ละเอียด​อีกครั้ง​ และ​ได้​พบเห็น​อะไร​บางอย่าง​ที่​ดู​แปลกประหลาด​

บน​แผ่น​หลัง​ด้าน​ขวา​ของ​ศพ​ๆหนึ่ง​ ดู​คล้าย​กับ​มีอะไร​บางอย่าง​อยู่​ มัน​มีลักษณะ​คล้าย​กับ​แมลง​ตัวเล็ก​ๆ ซึ่งมีรูปร่าง​คล้าย​กับ​หนอน​กู่​ของ​ชน​เผ่า​เหมี่ยว​ แต่​ก็​มีความแตกต่าง​กัน​อยู่​หลาย​แห่ง​

“น่าจะเป็น​เพราะ​แมลง​พวก​นี้​แน่ๆ​”

ฉีเล่ย​จ้องมอง​แมลง​เหล่านั้น​ที่​คลาน​อยู่​รอบ​ๆ ก่อน​จะหยิบ​เอา​ขวด​เล็ก​ๆใบ​หนึ่ง​ออกมา​ แล้ว​ลอง​หยด​ยา​ใน​ขวด​เข้าไป​ที่​ร่าง​ของ​พวก​มัน​ดู​ เพียงแค่​ประเดี๋ยวเดียว​ ร่าง​ของ​แมลง​ตัว​น้อย​เหล่านั้น​ก็​ถูก​เผาไหม้​เหลือ​เพียงแค่​เถ้าถ่าน​เท่านั้น​

“แค่นี้​ก็​น่าจะ​พอแล้ว​ล่ะ​”

เมื่อ​แมลง​เล็ก​ๆพวก​นั้น​เริ่ม​เผาไหม้​ มัน​ก็​ส่งกลิ่น​เหม็น​ที่​น่ารังเกียจ​โชย​ออกมา​

“นี่​! อย่า​บอก​นะ​ว่าที่​นาย​ทำ​แบบนี้​ เพราะ​กลัว​คนอื่นๆ​ที่จะ​ตาม​เข้ามา​ทีหลัง​เกิด​อันตราย​? ช่างเป็น​พ่อ​พระ​ซะจริงๆ​เชียว​!”

ทันทีที่​ร่างกาย​ของ​ฮวา​โหล่​ว​เริ่ม​เข้าสู่​ความ​เป็นปกติ​ ปาก​ของ​เธอ​ก็​เริ่ม​ใช้งาน​ได้​ เมื่อ​เห็น​ฉีเล่ย​เผา​แมลง​พวก​นั้น​จนตาย​ เธอ​ก็​พอ​จะคาดเดา​ความตั้งใจ​ดี​ของ​เขา​ได้​ไม่ยาก​ จึงได้​แต่​พูด​หยอกเย้า​พร้อมกับ​หัวเราะ​คิกคัก​

“อย่า​คิด​ว่า​คนอื่นๆ​จะโชคดี​เหมือน​พวกเรา​สอง​คน​สิ ผม​ว่า​คงจะ​มีคน​เข้ามา​ก่อนหน้า​เรา​เป็น​สิบ​แล้ว​ล่ะ​ แต่กลับ​มีคน​นอนตาย​อยู่​ไม่กี่​ศพ​ตรงนี้​ นั่น​หมายความว่า​ หลาย​คน​มีโอกาส​รอดชีวิต​ไป​ต่อ​ได้​ แต่​ดูเหมือน​คน​กลุ่ม​นี้​ รวมทั้ง​เรา​สอง​คน​จะอยู่​ใน​กลุ่มคน​โชคร้าย​ที่สุด​”

ตอนนี้​ฉีเล่ย​เริ่ม​รู้สึก​ว่า​ ไม่น่าจะ​ใช่เรื่อง​ผิดปกติ​อะไร​ คน​เหล่านี้​เข้ามา​คงจะ​ไม่รู้​ว่า​ภายใน​ถ้ำมีอะไร​อยู่​บ้าง​ และ​อาจจะ​บังเอิญ​มาถูก​แมลง​พิษ​พวก​นี้​ทำร้าย​เอา​ และ​ปลดปล่อย​พิษ​เข้า​ร่าง​ไป​เป็น​จำนวนมาก​ ในที่สุด​ก็​ต้อง​มานอนตาย​อยู่​ตรงนี้​

ส่วน​คนอื่นๆ​ที่​เข้ามา​ทีหลัง​นั้น​ ทุกคน​อาจจะ​เห็น​ศพ​ แต่​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​ที่จะ​เข้าไป​ดูใกล้​ๆเหมือนกับ​ฉีเล่ย​ รัศมี​ของ​พิษ​ที่​ไม่ได้​กระจาย​ออกมา​เป็น​วงกว้าง​นัก​ จึงไม่ได้​ทำให้​คน​พวก​นั้น​ถูก​พิษ​ของ​แมลง​เข้าไป​ด้วย​ และ​สามารถ​ผ่าน​เข้าไป​ด้านใน​ได้​อย่าง​ปลอดภัย​

หลังจาก​หา​สาเหตุ​ และ​จัดการ​กับ​มัน​ได้​แล้ว​ ฮวา​โหล่​ว​ก็​เดาะ​ลิ้น​ดัง​เต๊าะ​ ก่อน​จะดึง​ร่าง​ของ​ฉีเล่ย​ให้​รีบ​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ต่อ​

ภายใน​เขา​จิ่ว​เหลียน​นั้น​ ดู​ราวกับ​วัง​ใต้ดิน​ก็​ไม่ปาน​ แต่​สิ่งหนึ่ง​ที่​น่าจะ​แตกต่าง​จาก​วัง​ใต้ดิน​นั้น​ ก็​ดูเหมือน​จะเป็น​ช่อง​รับ​แสงที่​เปิด​อยู่​ และ​ปล่อย​ให้​มีแสงสว่าง​เจิดจ้า​สาดส่อง​เข้ามา​นั่นเอง​

หลังจาก​เดิน​ต่อไป​อีก​ครู่หนึ่ง​ ฉีเล่ย​ก็​เริ่ม​ได้ยิน​เสียง​คน​พูดคุย​กัน​

“ดูเหมือน​จะมีคน​กำลัง​เดิน​เข้ามา​ใช่ไหม​?”

ภายใน​สถานที่​แบบนี้​ ไมใช่เรื่อง​ง่าย​เลย​ที่จะ​พบ​เจอ​ และ​ได้ยิน​เสียง​ผู้คน​คุย​กัน​แบบนี้​ ฮวา​โหล่​ว​ไม่สนใจ​ว่า​คน​พวก​นั้น​จะเป็น​ใคร​ หรือ​จะคิด​ดี​คิดร้าย​กับ​ตนเอง​อย่างไร​ เธอ​หันไป​มอง​ฉีเล่ย​ด้วย​สีหน้า​ตื่นเต้น​ดีใจ​ พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​อย่าง​ลิงโลด​ว่า​

“ในที่สุด​พวกเรา​ก็​เจอ​คนอื่นๆ​ซะที​!”

ฉีเล่ย​เพียงแค่​ยิ้ม​เล็กน้อย​ และ​ยังคง​เดิน​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ต่อไป​เรื่อยๆ​ หลังจาก​เดิน​ไป​ได้​อี​กราว​สอง​สามร้อย​เมตร​ ในที่สุด​เขา​ก็​พบ​กลุ่มคน​กว่า​ยี่สิบ​คน​ยืน​อยู่​ จึงได้​เอ่ย​ถามออก​ไป​ว่า​

“พวกคุณ​มาถึงที่นี่​นาน​รึ​ยัง​ครับ​?”

เมื่อ​พบเห็น​คน​จำนวนมาก​อยู่​ด้านใน​แบบนี้​ สัญชาติ​ญาณใน​การระมัดระวัง​ตัว​ของ​ฉีเล่ย​ก็​พุ่ง​สูงขึ้น​ในทันที​ นั่น​เพราะ​คน​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​คู่แข่ง​ของ​เขา​ใน​วันข้างหน้า​ ฉีเล่ย​จึงไม่มั่นใจ​ว่า​ คน​เหล่านี้​จะคิด​ทำ​อะไร​ไม่ดี​บ้าง​?

“นอกจาก​พวกคุณ​สอง​คน​แล้ว​ ยังมี​คนอื่น​เข้ามา​เพิ่ม​อีก​ไหม​?”

หลังจากที่​ฉีเล่ย​เอ่ย​ถามออก​ไป​ ใคร​บาง​คนใน​กลุ่ม​ก็​ร้อง​ตะโกน​ถามกลับมา​เช่นกัน​

“ก็​ไม่มีนะ​ครับ​ ผม​เดิน​มาร่วม​ชั่วโมง​แล้ว​ ก็​ยัง​ไม่เห็น​มีใคร​ตาม​เข้ามา​อีก​เลย​”

ฉีเล่ย​มอง​ไป​ข้างหลัง​ขณะ​เอ่ย​ตอบ​ หลังจากที่​เขา​กับ​ฮวา​โหล่​ว​เดิน​ฝ่าความมืด​เข้ามา​นั้น​ ก็ได้​เสียเวลา​ไป​กับ​เรื่อง​แมลง​พิษ​นั่น​อยู่​เกือบ​ชั่วโมง​ แต่​ก็​ยัง​ไม่เห็น​มีใคร​ตามหลัง​ตนเอง​มาอีก​เลย​

“ทุกคน​! ผม​ว่า​นอกจาก​เป้าหมาย​ของ​พวกเรา​แล้ว​ ก็​คงจะ​เป็น​โชคชะตา​ที่​นำพา​พวกเรา​ทุกคน​ให้​มารวมกัน​อยู่​ที่นี่​”

ชาย​ร่าง​กำยำ​คน​หนึ่ง​เดิน​ฝ่ากลุ่มคน​ออกมา​ ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “ถึงแม้พวกเรา​จะไม่รู้​ว่า​สอง​สามศพ​ก่อนหน้านี้​ตาย​เพราะ​สาเหตุ​อะไร​ แต่​พวกเรา​ก็​จะขอ​จดจำ​พวกเขา​ใน​ฐานะ​ที่​เป็นหนึ่ง​ใน​จำนวน​คน​ที่มา​รวมกัน​อยู่​ที่นี่​”

น้ำเสียง​ของ​ชาย​ร่าง​กำยำ​ฟังดู​มีเสน่ห์​ชวน​ฟังอย่าง​มาก​

“นี่​น้องชาย​ มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​งั้น​เหรอ​? ผม​เพิ่งจะ​มาถึง ก็​เลย​ไม่เข้าใจ​สิ่งที่​เขา​พูด​จริงๆ​”

ฉีเล่ย​รีบ​ดึง​ร่าง​ของ​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​ดูเหมือน​จะพูดคุย​ด้วย​ง่าย​หน่อย​เข้า​มาหา​ พร้อมกับ​กระซิบ​ถามด้วย​ความอยากรู้​ เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​ถอนหายใจ​ออกมา​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ว่า​

“เฮ้อ​!! คุณ​เอง​ก็​คงจะ​ได้รับ​จดหมาย​ด้วย​สินะ​ครับ​ ไม่งั้น​คงจะ​ไม่มาที่นี่​เหมือนกัน​”

หลังจาก​พูด​กับ​ฉีเล่ย​ไป​แบบ​นั้น​แล้ว​ เขา​ก็​พูด​ต่อว่า​ “หลังจากที่​พวกเรา​ทั้งหมด​เดิน​มาถึงที่นี่​ ก็​เห็น​ประตู​หิน​ลึกลับ​นี่​ปิด​อยู่​ ไม่ว่า​จะพยายาม​ช่วยกัน​เปิด​ยังไง​ก็​เปิด​ไม่ออก​ ไม่รู้​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

จากนั้น​ ชายหนุ่ม​ก็​ส่าย​หัว​ไปมา​พร้อมกับ​พูด​ต่อว่า​ “ทั้งหมด​นี่​น่าจะเป็น​แค่​เรื่อง​หยอกเย้า​กัน​แน่ๆ​ คงจะ​มีใคร​สัก​คนใน​เมือง​นี้​ หรือไม่​ก็​ใน​เมือง​ใกล้​ๆกัน​นึก​สนุก​ สร้างเรื่อง​หลอก​ให้​ผู้คน​มาที่นี่​ เพื่อ​กระตุ้น​เศรษฐกิจ​ใน​เมือง​ก็​เป็นได้​”

‘เรื่อง​สนุก​งั้น​เหรอ​?’

ฉีเล่ย​หรี่ตา​มอง​ และ​ดูเหมือน​เขา​จะไม่เชื่อ​ว่า​เป็น​แบบ​นั้น​ เพราะ​ถ้าเป็นเรื่อง​ล้อเล่น​ หรือ​เป็น​กลอุบาย​เพื่อ​กระตุ้น​เศรษฐกิจ​ของ​เมือง​จริงๆ​ ทำไม​จดหมาย​แบบ​เดียวกัน​ถึงถูก​ส่งไป​ให้​เฉพาะคน​เป็น​หมอ​?

แต่​ฉีเล่ย​ก็​เพียงแค่​คิด​อยู่​ใน​ใจคนเดียว​เงียบๆ​ ไม่ได้​เอ่ย​บอก​ข้อสงสัย​นี้​ให้​ใคร​ฟัง จากนั้น​ ก็ได้​ยก​มือขึ้น​ชี้ไป​ทาง​ชาย​ร่าง​กำยำ​ที่​พูดจา​น่าฟัง​เมื่อ​ครู่​ พร้อมกับ​กระซิบ​ถามต่อว่า​

“แล้ว​ผู้ชาย​คน​นั้น​ล่ะ​เป็น​ใคร​กัน​? ใช่ลูกพี่​ของ​คุณ​รึเปล่า​?”

“เห้ย..​ ใช่ที่ไหน​กัน​ล่ะ​?”

ชายหนุ่ม​คน​นั้น​หันไป​มอง​ชาย​ร่าง​กำยำ​ด้วย​สีหน้า​แววตา​ดูถูก​ ก่อน​จะหันมา​ตอบ​ฉีเล่ย​ว่า​

“เขา​ไม่ใช่ลูกพี่​อะไร​หรอก​ครับ​ เขา​เป็น​ประธาน​สมาคม​แพทย์​จงหยวน​ แล้ว​คน​ที่อยู่​ตรงนี้​กว่า​ครึ่ง​ก็​เป็น​คน​ของ​เขา​ทั้งนั้น​ เขา​ก็​เลย​เจ้ากี้เจ้าการ​สั่งการ​ทุกคน​ไป​เรื่อย​ แต่​พวกเรา​มากัน​คนเดียว​บ้าง​ สอง​คน​บ้าง​ ก็​เลย​ไม่มีใคร​กล้า​ขัดคำสั่ง​ของ​เขา​น่ะ​สิ!”

คำพูด​ของ​ชายหนุ่ม​คน​นี้​บ่งบอก​ชัดเจน​ว่า​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​จำนวน​คน​ที่​มากกว่า​ ไม่แน่​ว่า​หลาย​ๆคน​ในที่นี้​ก็​อาจจะ​ไม่สนใจ​ฟังคำพูด​ของ​ชาย​ร่าง​กำยำ​คน​นี้​ด้วยซ้ำ​ไป​

“เวลานี้​เป็นเวลา​ที่​พวกเรา​ควรจะ​ต้อง​สามัคคี​กัน​ให้​มาก​ หลังจากที่​ค้นหา​คัมภีร์​เล่ม​นี้​พบ​ ผม​ยินดี​ที่จะ​รับหน้าที่​เป็น​ผู้นำ​ใน​การ​ค้นหา​คัมภีร์​ที่​ถ่ายทอดวิชา​ฝังเข็ม​ขั้น​เทพ​ และ​เทคนิค​การรักษา​ของ​บรรดา​หมอ​เทวดา​ใน​สมัยโบราณ​นี้​ให้​เอง​ หลังจาก​พบ​เจอ​แล้ว​ ก็​จะทำหน้าที่​เป็น​ผู้​ศึกษา​ และ​ถ่ายทอดวิชา​ความรู้​เหล่านี้​ให้​กับ​ทุกๆ​ท่าน​ในที่นี้​ต่อไป​”

น้ำเสียง​ของ​ประธาน​สมาคม​แพทย์​จงหยวน​ฟังดู​ตื่นเต้น​อย่าง​มาก​ แต่​นอกเหนือจาก​กลุ่ม​แพทย์​และ​คน​ของ​สมาคม​ที่​สนใจ​ฟังแล้ว​ คนอื่นๆ​ดูเหมือน​จะไม่สนใจ​ และ​ไม่มีปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ใดๆ​เลย​

“นี่​ประธาน​หวง​ ผม​ขอ​เสนอ​ความคิดเห็น​บ้าง​ ผม​คิด​ว่า​พวกเรา​ทุกคน​ในที่นี้​ควรจะ​มีสิทธิ์​ใน​การ​ค้นหา​คัมภีร์​ที่ว่า​นี้​ ไม่ว่า​ใครก็ตาม​ที่​เป็น​คน​หา​เจอ​ก่อน​ จะต้อง​นำมา​แบ่ง​ให้​ทุกคน​ในที่นี้​ได้​ศึกษา​เรียนรู้​ไป​พร้อม​ๆกัน​ถึงจะถูก​ อย่า​เอาเรื่อง​พรสวรรค์​ หรือ​ตำแหน่ง​มาอ้าง​จะดีกว่า​”

เมื่อ​ใคร​บาง​คนพูด​แบบ​นั้น​ออกมา​ สีหน้า​ของ​ประธาน​หวง​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที​ เขา​หันไป​มองหน้า​คนพูด​พร้อม​เอ่ย​ถามกลับ​ไป​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดุดัน​

“ทำ​แบบ​นั้น​มัน​จะไม่เป็นการ​เสียเวลา​ไป​หน่อย​รึ​ไง? ใน​เวลา​แบบนี้​ พวกเรา​ควร​ต้อง​สามัคคี​กัน​ถึงจะถูก​”

ความสามัคคี​และ​ความร่วมมือ​ที่​พูด​ขึ้น​นั้น​ เป็น​เพียงแค่​คำพูด​สวยหรู​เท่านั้น​ และ​ด้วย​อำนาจ​ของ​ประธาน​หวง​ คน​ที่​พูด​เมื่อ​ครู่​ก็​ไม่กล้า​ที่จะ​พูด​ต่อ​ นอกจาก​ต้อง​เอ่ย​ขอโทษ​ประธาน​หวง​ซ้ำๆ เพราะ​เขา​เอง​เดินทาง​มาที่นี่​เพียง​คนเดียว​ จะไป​สู้รบ​ปรบมือ​กับ​คน​ของ​ประธาน​หวง​ตั้ง​มากมาย​ได้​ยังไง​กัน​

“เอาล่ะ​ๆ จากนี้ไป​ขอให้​ทุกคน​เชื่อฟัง​คำสั่ง​ของ​ผม​ เข้าใจ​ไหม​?”

หลังจาก​จัดการ​กับ​คน​ที่​ไม่เชื่อ​ฟังได้​สำเร็จ​แล้ว​ ประธาน​หวง​ก็​กวาดสายตา​มอง​ทุก​คนใน​ที่​นั้น​ด้วย​สีหน้า​พึงพอใจ​

แต่​ฉีเล่ย​ดูเหมือน​จะไม่ยอม​ง่ายๆ​ เขา​ไม่รอ​ให้​ประธาน​หวง​พูด​ต่อ​ และ​รีบ​พูดแทรก​ขึ้น​ในทันที​

“ผม​ว่า​พวกเรา​ควรจะ​แยกย้าย​กัน​ค้นหา​ได้​ตามใจชอบ​ โดยไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​คุณ​เป็น​ผู้นำ​”

คำพูด​ของ​ฉีเล่ย​นั้น​เป็น​คำพูด​ที่​หลาย​ๆคน​ในที่นี้​ต้องการ​จะพูด​ แต่​เพราะ​แรงกดดัน​บางอย่าง​ทำให้​พวกเขา​ไม่กล้า​ที่จะ​พูด​ออกมา​ และ​พวกเขา​ก็​แอบ​เห็นด้วย​และ​สนับสนุน​ฉีเล่ย​อยู่​เงียบๆ​

“นี่​คุณ​พูด​อะไร​นะ​?”

ประธาน​หวง​ร้องถาม​พร้อมกับ​จ้องมอง​ฉีเล่ย​แน่นิ่ง​

ฉีเล่ย​ยิ้ม​บาง​พร้อม​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ “ผม​พูด​ผิด​ตรงไหน​เหรอ​ครับ​?”

หาก​ประธาน​หวง​ไม่แสดงท่าที​ที่​เห็นแก่ตัว​ออก​มาถึงเพียงนี้​ ฉีเล่ย​เอง​ก็​คงจะ​ไม่ได้​สนใจ​อะไร​ หรือ​คิด​ที่จะ​แสดงท่าที​คัดค้าน​มาก​ขนาด​นี้​

แต่​ดู​จาก​ลักษณะ​ท่าทาง​ของ​ประธาน​หวง​แล้ว​ เขา​ดู​ไม่เหมือน​คน​มีน้ำใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ และ​สาเหตุ​ที่​เขา​ออกหน้า​ทำตัว​เป็น​ผู้นำ​สั่งการ​ทุกคน​นั้น​ ก็​เพื่อ​เป้าหมาย​ของ​ตัวเอง​เท่านั้น​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด