ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่310 ท้าแข่งกับหลินชูวโม่

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่310 ท้าแข่งกับหลินชูวโม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​310 ท้า​แข่ง​กับ​หลิน​ชูว​โม่

รถไฟ​ขบวน​นี้​ไม่ได้​วิ่ง​เข้าไป​ถึงตัวเมือง​ปักกิ่ง​จริงๆ​ ผู้โดยสาร​จะต้อง​ลง​ที​สถานี​สุดท้าย​ และ​เดินทาง​ต่อไป​ที่​ตัวเมือง​เอง​ ระหว่างทาง​ที่​ฉีเล่ย​อุ้ม​เจ้าลิง​น้อย​เดิน​ไป​นั้น​ จะมีเสียง​ผู้คน​พูดถึง​มัน​อยู่​แทบจะ​ตลอดทาง​

“ลิง​ตัว​นั้น​น่ารัก​จังเลย​!”

ทุกคน​ที่​ได้​เห็น​เจ้าลิง​น้อย​ที่นอน​เกาะ​อยู่​บน​ไหล่​ของ​ฉีเล่ย​อย่าง​เชื่อง​มาก​นั้น​ ต่าง​ก็​อด​ที่จะ​เอ่ย​ชมออก​มาถึงความ​น่ารักน่าเอ็นดู​ของ​มัน​ไม่ได้​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ ตนเอง​ต้อง​ตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​ผู้คน​แบบนี้​ ฉีเล่ย​ก็​เริ่ม​รู้สึก​อึดอัด​ และ​รีบ​ๆสาวเท้า​เดิน​ให้​เร็ว​เข้า​

หาก​เปรียบเทียบ​ระหว่าง​เขา​จิ่ว​เหลียน​กับ​ปักกิ่ง​แล้ว​ ปักกิ่ง​นับ​เป็น​สังคมเมือง​ที่​เต็มไปด้วย​ความทันสมัย​ ซึ่งแตกต่าง​จาก​เขา​จิ่ว​เหลียน​ราว​ฟ้ากับ​ดิน​

หลิน​ชูว​โม่มารอ​รับ​ฉีเล่ย​อยู่​ที่​ชาน​ชะลาก่อน​แล้ว​ แต่​เธอ​กลับ​ไม่มีปฏิกิริยา​ตื่นเต้น​กับ​เจ้าลิง​น้อย​เหมือนกับ​คนอื่นๆ​

“เป็น​ยังไง​บ้าง​?”

เมื่อ​ขึ้นไป​นั่ง​บน​รถ​ หลิน​ชูว​โม่ก็ได้​เอ่ย​ถามฉีเล่ย​ออก​ไป​ ในขณะเดียวกัน​ก็​เล่น​กับ​เจ้าลิง​น้อย​ไป​ด้วย​ ฉีเล่ย​เห็น​หญิงสาว​ไม่สนอกสนใจ​ จึงได้​แต่​พูด​ขึ้น​ว่า​

“นี่​คุณ​ ถ้าจะคุย​กับ​ผม​ก็​กรุณา​มองหน้า​ผม​ด้วย​!”

“มองหน้า​นาย​นี่​นะ​?!”

หลิน​ชูว​โม่เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​หัวเราะ​คิกคัก​ ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “เชอะ​ มองหน้า​นาย​ จะมีความสุข​เท่ากับ​มองหน้า​เสี่ยว​หวง​ได้​ยังไง​?”

หลิน​ชูว​โม่เห็น​หน้า​เจ้าลิง​น้อย​ไม่ถึงสิบ​นาที​ เธอ​ก็​ตั้งชื่อ​ให้​กับ​มัน​ทันที​ โดย​ไม่สนใจ​ที่จะ​ถามความคิดเห็น​ของ​ฉีเล่ย​เลย​แม้แต่น้อย​

“ฉัน​ไม่สน​หรอก​นะ​ว่า​ก่อนหน้านี้​นาย​จะเรียก​เสี่ยว​หวง​ว่า​อะไร​ แต่​จากนี้ไป​เจ้าลิง​น้อย​ตัว​นี้​ก็​คือ​เสี่ยว​หวง​ของ​ฉัน​!”

ระหว่าง​ที่​พูด​นั้น​ หลิน​ชูว​โม่ก็​กอด​เจ้าลิง​น้อย​แน่น​ ราวกับว่า​มัน​เเป็นสัตว์เลี้ยง​ของ​เธอ​เอง​ตั้งแต่แรก​ แล้ว​เสี่ยว​หวง​เอง​ก็​ไม่มีท่าที​ฮึดฮัด​อะไร​เลย​ ฉีเล่ย​คิด​ว่า​เดี๋ยว​มัน​คงจะ​ต้อง​กระโดด​กลับ​มาหา​ตนเอง​ แต่กลับ​กลายเป็น​ว่า​ เจ้าลิง​น้อย​ยังคง​นอน​อยู่​บน​ไหล่​ของ​หลิน​ชูว​โม่แน่นิ่ง​

ฉีเล่ย​เห็น​แล้ว​ก็ได้​แต่​ส่ายหน้า​ไปมา​ และ​ได้​แต่​นั่ง​มอง​หญิงสาว​เล่น​อยู่​กับ​เจ้าลิง​น้อย​อย่าง​มีความสุข​

“ผม​ได้​สิ่งที่​ต้องการ​มาแล้ว​ อีกไม่นาน​ผม​ก็​ต้อง​เข้าร่วม​การแข่งขัน​แพทย์​แผน​จีน​”

“ห๊ะ?! ​นี่​นาย​จะต้อง​ไป​อีกแล้ว​เหรอ​?”

หลิน​ชูว​โม่ร้องถาม​ออกมา​ด้วย​ความตกใจ​

“ก็​ใช่น่ะ​สิ! นี่​คุณ​จะตกใจ​ทำไม​? ผม​เคย​บอก​คุณ​ก่อนหน้านี้​แล้ว​ไม่ใช่เหรอ​ว่า​ หลัง​กลับ​จาก​เขา​จิ่ว​เหลียน​ ผม​จะต้อง​เข้าแข่งขัน​แพทย์​แผน​จีน​?”

แต่​ใน​ระหว่าง​ที่​พูด​นั้น​ ฉีเล่ย​ก็​สังเกตเห็น​ท่าที​ที่​เปลี่ยนไป​ของ​หลิน​ชูว​โม่ เขา​รู้​ได้​ทัน​ว่า​ต้อง​มีอะไร​บางอย่าง​เกิดขึ้น​

“มีเรื่อง​อะไร​งั้น​เหรอ​?”

ระหว่าง​ที่​เอ่ย​ถาม สายตา​ของ​เขา​ก็​จับจ้อง​อยู่​ที่​สีหน้า​ซึ่งเปลี่ยนไป​อย่าง​เห็นได้ชัด​ของ​หลิน​ชูว​โม่ และ​ในที่สุด​ หลิน​ชูว​โม่ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​

“เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​ขึ้น​ที่​สภาแพทย์​แผน​จีน​”

“อะไร​นะ​?!”

ฉีเล่ย​รู้สึก​ตกใจ​อย่าง​มาก​ เขา​รู้สึก​ราวกับ​ถูก​สายฟ้า​ฟาด​ลง​กลาง​ศรีษะ​ สภาแพทย์​แผน​จีน​เปรียบเสมือน​ชีวิต​ของ​เขา​ และ​ยัง​เป็น​แผนการ​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ของ​เขา​อีกด้วย​ หาก​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สภาแพทย์​แผน​จีน​ ย่อม​สร้าง​ความเสียหาย​ให้​กับ​เขา​อย่าง​ใหญ่หลวง​แน่นอน​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?” ฉีเล่ย​เอ่ย​ถามด้วย​น้ำเสียง​กระวนกระวายใจ​

“ฉัน​ก็​อธิบาย​ไม่ถูก​หรอก​นะ​ แต่​สมาชิก​หลาย​ๆคน​ต่าง​ก็​ไม่มีใคร​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​ฉัน​เลย​ ตอนนี้​ทุกคน​ต่าง​ก็​พา​กัน​ทำ​ตามอำเภอใจ​ของ​ตัวเอง​”

ฉีเล่ยพอ​จะเข้า​ใจความ​ลำบากใจ​ของ​หลิน​ชูว​โม่ เพราะ​นอกจาก​เธอ​จะเป็น​เพียงแค่​ผู้ช่วย​ประธาน​แล้ว​ เธอ​ก็​ยังมี​กิจการ​ของ​ตัวเอง​ต้อง​ดูแล​ จึงไม่แปลกที่​คนอื่นๆ​จะไม่เชื่อฟัง​เธอ​นัก​

“เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​?”

“เพิ่งจะ​สอง​สามวันนี้​เอง​ อาจ​เป็น​เพราะว่า​นาย​ไป​เขา​จิ่ว​เหลียน​ไม่ได้​บอก​ใคร​ ก็​เลย​มีคน​ฉวยโอกาส​นี้​สร้างสถานการณ์​วุ่นวาย​ขึ้น​มา

หลังจาก​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ เดิมที​ฉีเล่ย​คิด​ที่จะ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​บ้าน​ แต่​เขา​กลับ​สั่งให้​คนขับรถ​ มุ่งหน้า​ไป​ที่​สภาแพทย์​แผน​จีน​แทน​

เมื่อ​รถ​แล่น​ไป​จอด​ที่​หน้า​ประตู​ ฉีเล่ย​ปล่อย​ให้​หลิน​ชูว​โม่เดิน​เข้าไป​ก่อน​ และ​เขา​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​ กระทั่ง​แผนกต้อนรับ​ก็​ไม่กระตือรือร้น​เหมือน​ก่อนหน้านี้​ แต่​ทั้งคู่​ก็​ยัง​ลุกขึ้น​ทักทาย​หลิน​ชูว​โม่อย่าง​มีมารยาท​ ในขณะที่​คนอื่น​ที่อยู่​ใกล้​ๆ กลับ​เพียงแค่​ชะโงก​มอง​ แล้วก็​ไม่สนใจ​

ฉีเล่ย​มอง​ภาพ​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ตรงหน้า​ด้วย​ความโกรธ​ สภาแพทย์​แผน​จีน​ที่​เขา​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ไป​ เพียงแค่​ไม่กี่​วัน​ก็​กลับ​กลายเป็น​แบบนี้​ไป​แล้ว​

“ไม่! ฉัน​ต้อง​จัดการ​อะไร​สัก​อย่าง​”

ความจริง​แล้ว​ เรื่อง​นี้​ต้อง​ถือว่า​เป็น​ความผิด​ของ​เขา​ด้วย​เช่นกัน​ เพราะ​ก่อนที่จะ​ออกเดินทาง​นั้น​ เขา​คิด​ว่า​ สมาคม​แพทย์​แผน​จีน​เป็น​สถานที่​แลกเปลี่ยน​ความรู้​ สมาชิก​ทุกคน​รวมถึง​พนักงาน​คนอื่นๆ​ น่าจะ​อยู่​ร่วมกัน​ได้​อย่าง​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ เขา​จึงไม่คิด​ที่จะ​ตั้ง​กฏ​เกณฑ์​ใดๆ​ขึ้น​มา

สมาชิก​กลุ่ม​แรก​ๆที่​สมัคร​มาพร้อมกับ​จงอี้​ห่า​ว​นั้น​ ดูเหมือน​จะไม่ได้​สร้าง​ปัญหา​อะไร​ให้​ แต่​คน​ใหม่​ๆนี่​สิ ยิ่ง​มีคน​เพิ่มขึ้น​มาก​เท่าไหร่​ ปัญหา​ที่​ตามมา​ก็​มากขึ้น​เท่านั้น​ ฉีเล่ย​เอง​ก็​ลืม​นึกถึง​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​สนิท​เช่นกัน​

ฉีเล่ย​สั่งให้​หลิน​ชูว​โม่ว​เรียก​ประชุม​ด่วน​ ส่วน​เขา​ก็​เดิน​เข้า​ไปหา​จงอี้​ห่า​ว​ที่​สวนสมุนไพร​

“ประธาน​ฉี! กลับมา​แล้ว​เหรอ​ครับ​”

จงอี้​ห่า​ว​ร้อง​ตะโกน​ทักทาย​ฉีเล่ย​ด้วย​ท่าทาง​ดีอกดีใจ​ ภายใน​สภาแพทย์​แผน​จีน​นั้น​ มีเพียง​จงอี้​ห่า​ว​ที่​รู้เรื่อง​ฉีเล่ย​เดินทาง​ไป​เขา​จิ่ว​เหลียน​ และ​เมื่อ​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนี้​ขึ้น​ใน​องค์กร​ ตัว​เขา​เอง​ก็​รู้สึก​กังวลใจ​ไม่น้อย​เช่นกัน​ แต่​เมื่อ​เห็น​ฉีเล่ย​กลับมา​แบบนี้​ เขา​เอง​ก็​ค่อย​สบายใจ​ขึ้น​มา

“ฉัน​รู้เรื่อง​ทั้งหมด​แล้ว​ ไม่ต้อง​ห่วง​ ฉัน​จะจัดการ​เอง​!”

……

ไม่นาน​นัก​ ทุกคน​ก็​เข้ามา​นั่ง​รวมตัวกัน​อยู่​ใน​ห้องประชุม​ รวมถึง​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​เอาแต่​เล่น​โทรศัพท์มือถือ​ จน​เดิน​ชน​ฉีเล่ย​แล้ว​ยัง​ไม่รู้จัก​ขอโทษ​อีกด้วย​

ภายใน​ห้องประชุม​ก่อนที่​ฉีเล่ย​จะเข้ามา​นั้น​ดู​ว​ุ่นว​ายไม่น้อย​ทีเดียว​ ใครคนหนึ่ง​กำลัง​ปลุกปั่น​ทุก​คนใน​ห้อง​ อีก​ทั้ง​ยัง​พูดถึง​หลิน​ชูว​โม่อย่าง​ไม่ให้เกียรติ​ด้วย​

ฉีเล่ย​เฝ้ามอง​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​เพื่อ​เก็บ​ข้อมูล​ จึงยัง​ไม่ยอม​เปิดเผย​ตัว​ ตลอดเวลา​ตั้งแต่​เข้ามา​ เขา​ยังคง​สวม​หมวก​และ​แว่นกันแดด​ปิดบัง​ใบหน้า​ไว้​

“ทุกท่าน​คะ​ ตั้งแต่​ที่​มีการ​ก่อตั้ง​สภาแพทย์​แผน​จีน​มา และ​เริ่ม​มีสมาชิก​เพิ่มขึ้น​มากมาย​เช่นนี้​ ทาง​เรา​ยัง​ไม่เคย​มีการ​จัด​ประชุม​สามัญขึ้น​เลย​สักครั้ง​ ดังนั้น​ ที่​ดิฉัน​เรียก​ประชุม​ใน​วันนี้​ ก็​เพราะ​ต้องการ​เน้นย้ำ​สมาชิก​ทุกท่าน​ให้​รับทราบ​ถึงวัฒนธรรม​ของ​องค์กร​เรา​ด้วย​…”

แต่​ยัง​ไม่ทัน​ที่​หลิน​ชูวูม่​จะพูด​จบ​ ใคร​บางคน​ก็​พูดแทรก​ขึ้น​อย่าง​ไร้​มารยาท​

“นี่​คุณ​ผู้ช่วย​คนสวย​ คุณ​ไม่ใช่ประธาน​สักหน่อย​ ไม่ต้อง​ทำ​สีหน้า​เคร่งเครียด​แบบ​นั้น​ก็ได้​ อีก​อย่าง​ คุณ​เอง​ก็​ไม่ได้​มีความรู้​เรื่อง​การแพทย์​แผน​จีน​เลย​ แต่​ทำไม​ถึงได้​นั่ง​ตำแหน่ง​ผู้ช่วย​ประธาน​ได้​ เอ๊ะ​! หรือ​เป็น​เพราะว่า​…”

หลังจากที่​ใคร​บาง​คนพูด​ออกมา​แบบ​นั้น​ หลาย​คน​ที่อยู่​ใน​ห้องประชุม​ก็​พา​กัน​หัวเราะ​คิกคัก​

แต่​หลิน​ชูว​โม่ซึ่งอยู่​บน​เวที​ใน​ตอนนี้​ กลับ​สงบนิ่ง​ไร้​ท่าที​โกรธเกรี้ยว​ เธอ​เป็น​นักธุรกิจ​ ย่อม​เคย​พบ​เจอ​เหตุ​การณ์ลักษณะ​นี้​มาค่อน​ข้างมาก​แล้ว​ และ​ได้​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​

“คุณ​สงสัย​อะไร​ก็​ถามออกมา​ตรงๆ​เลย​จะดีกว่า​?”

“ไม่ใช่ผม​คนเดียว​ที่​สงสัย​ใน​ความสามารถ​ของ​คุณ​ คนอื่นๆ​ก็​เหมือนกัน​! ถ้าคุณ​อยาก​ให้​คน​เชื่อถือ​ ก็​ต้อง​พิสูจน์​ให้​คนอื่น​เห็น​สิครับ​!”

หลิน​ชูว​โม่ไม่ใช่หญิงสาว​ไร้เดียงสา​ที่​ไร้​เล่ห์เหลี่ยม​ เธอ​รู้ดี​ว่า​จะต้อง​จัดการ​กับ​คน​เช่นนี้​อย่างไร​ จึงได้​เดินลง​เวที​และ​ตรง​ไปหา​ชาย​คน​นั้น​ พร้อมกับ​ถามออก​ไป​ว่า​

“คุณ​ชื่อ​อะไร​เหรอ​คะ​?”

“เฉิน​หยาง​”

“น่าแปลก​! ทำไม​ฉัน​ถึงไม่เคย​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​คุณ​มาก่อน​? ปกติ​ใบสมัคร​ของ​สมาชิก​ใน​ห้อง​นี้​จะต้อง​ผ่านสายตา​ฉัน​ก่อน​ทั้งหมด​”

หลิน​ชูว​โม่ขมวดคิ้ว​พร้อมกับ​เอ่ย​ถามขึ้น​ด้วย​ความสงสัย​

“แต่​ไม่เป็นไร​ ฉัน​ยินดี​ที่จะ​รับ​การ​ทดสอบ​ อยาก​จะทดสอบ​ยังไง​ก็​ว่า​มา!”

แม้หลิน​ชูว​โม่จะตอบกลับ​ไป​อย่าง​มั่นอกมั่นใจ​แบบ​นั้น​ แต่​ใช่ว่า​เธอ​จะมีความรู้​และ​ทักษะ​ทาง​แพทย์​แผน​จีน​ แม้จะเคย​ได้ยิน​ได้​ฟังฉีเล่ย​พูด​อยู่​บ่อยครั้ง​ แต่​สิ่งเหล่านั้น​ก็​ไม่เคย​เข้า​หัว​เธอ​เลย​แม้แต่น้อย​

แต่​ที่​เธอ​ยังคง​มีท่าที​มั่นอกมั่นใจ​ได้​เช่นนี้​ก็เพราะว่า​ มีฉีเล่ย​นั่ง​อยู่​ใน​ห้องประชุม​ด้วย​นั่นเอง​ และ​เวลานี้​ เขา​ก็​กำลัง​นั่ง​อยู่​มุมห้อง​พร้อมกับ​ยก​หนังสือ​ขึ้น​บังหน้า​ไว้​ ทำที​ว่า​กำลัง​สนอกสนใจ​หนังสือ​ตรงหน้า​อย่าง​มาก​ จึงไม่มีใคร​สนใจ​เขา​เลย​

ก่อน​จะเริ่ม​การประชุม​ ได้​มีการ​เตรียมการ​รับมือ​เหตุการณ์​ที่จะ​เกิดขึ้น​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​เวลานี้​หลิน​ชูว​โม่ก็ได้​ใส่หูฟัง​ไร้สาย​ไว้​ เพื่อ​คอย​ฟังคำสั่ง​ของ​ฉีเล่ย​

เมื่อ​เห็น​ผู้ช่วย​ประธาน​สมาคม​ยอม​รับปาก​ง่ายๆ​แบบนี้​ เฉิน​หยาง​ก็​ถึงกับ​ยิ้ม​ออกมา​ และ​ได้​แต่​คิด​ว่า​ โอกาส​ของ​เขา​มาถึงแล้ว​

เหตุผล​ที่​เฉิน​หยาง​เข้ามา​ก่อกวน​หลิน​ชูว​โม่นั้น​ ความจริง​แล้ว​ เขา​ต้องการ​เข้ามา​นั่ง​ตำแหน่ง​ผู้ช่วย​ประธาน​สภาแพทย์​แผน​จีน​แทน​เธอ​นั่นเอง​ และ​เมื่อ​เห็น​โอกาส​มาถึง เขา​จึงรีบ​ร้องบอก​หญิงสาว​ไป​ว่า​

“พวกเรา​มาแข่งขัน​กัน​ทาย​ชื่อ​สมุนไพร​กัน​ ถ้าคุณ​แพ้​ คุณ​ต้อง​ลา​ออกจาก​ตำแหน่ง​ผู้ช่วย​ประธาน​ ตกลง​ไหม​?”

“ได้​!”

หลิน​ชูว​โม่ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้าท่าทาง​มั่นอกมั่นใจ​ มีฉีเล่ย​อยู่​ด้วย​แบบนี้​ เธอ​ไม่มีอะไร​ต้อง​หวาดกลัว​ และ​ได้​ย้อนถาม​เฉิน​หยาง​กลับ​ไป​ว่า​

“แล้ว​ถ้าคุณ​เป็น​ฝ่าย​แพ้​ล่ะ​?”

เฉิน​หยาง​หัวเราะ​ออกมา​ราวกับ​กำลัง​ฟังเรื่อง​ตลกขบขัน​ ก่อน​จะตอบกลับ​ไป​ว่า​ “นี่​คุณ​คิด​ว่า​คน​อย่าง​ผม​จะแพ้​ให้​กับ​ผู้หญิง​อย่าง​คุณ​เหรอ​? มัน​ไม่มีวัน​เกิดขึ้น​แน่​! เอาล่ะ​ เริ่ม​การแข่งขัน​เลย​ อย่า​มัว​เสียเวลา​พูด​ดีกว่า​”

ภายใน​ห้องประชุม​ถูก​จัด​ใหม่​เป็น​วงกลม​ และ​ใช้ตรงกลาง​เป็น​เวที​แข่งขัน​ประลอง​ความ​รู้เรื่อง​สมุนไพร​

สีหน้า​ของ​ฉีเล่ย​ใน​ตอนนี้​ไม่สู้ดี​นัก​ เมื่อ​ครู่​เขา​จำต้อง​ให้​หลิน​ชูว​โม่รับคำ​ท้า​ เพราะ​นี่​เป็น​โอกาส​เดียว​ที่จะ​แก้ไข​วิกฤต​ภายใน​สภาแพทย์​แผน​จีน​แห่ง​นี้​

และ​วันนี้​ หลิน​ชูว​โม่จะต้อง​เป็น​ผู้ชนะ​เท่านั้น​!

การแข่งขัน​บอกชื่อ​สมุนไพร​ครั้งนี้​ จงอี้​ห่า​ว​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​ โดย​เขา​จะนำ​เอา​สมุนไพร​หลาก​หลายชนิด​มาวาง​เรียงราย​ไว้​ให้​คน​ทั้งคู่​ผลัดกัน​บอกชื่อ​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​สมุนไพร​หลายชนิด​ เป็น​สมุนไพร​ที่​เขา​นำ​มาจาก​เขา​หง​ห​ยา​ซาน​ และ​อาจารย์​ของ​ฉีเล่ย​ได้​บอกชื่อ​ของ​พวก​มัน​ให้​เขา​รู้​แล้ว​ล่ะ​ก็​ วันนี้​ฉีเล่ย​เอง​ก็​คงจะ​ไม่มั่นใจ​เช่นกัน​ เพราะ​สมุนไพร​เหล่านี้​ ไม่ใช่สมุนไพร​ทั่วไป​ที่​หลาย​คนรู้จัก​

“การ​ทดสอบ​ก็​ง่ายๆ​ ขอให้​พวกคุณ​ทั้งสอง​คน​ผลัดกัน​บอกชื่อ​สมุนไพร​ทั้ง​สามสิบ​ชนิด​นี้​มา ใคร​ตอบ​ไม่ได้​คน​นั้น​จะเป็น​ฝ่าย​แพ้​!”

จงอี้​ห่า​ว​เอ่ย​บอก​ขณะที่​ค่อยๆ​ บรรจง​หยิบ​สมุนไพร​ใน​กล่อง​ออกมา​วาง​เรียง​บน​โต๊ะ​

“โอ้ว​! ทำไม​ถึงได้​มีสมุนไพร​หา​ยาก​มากมาย​ขนาด​นี้​ล่ะ​?”

สมาชิก​คน​หนึ่ง​ถึงกับ​ร้อง​อุทาน​ออกมา​ นั่น​เพราะ​สวนสมุนไพร​ของ​สภาแพทย์​แผน​จีน​นั้น​ นับ​เป็น​สถานที่​ที่​เข้าไป​ได้​ยาก​มาก​ ใช่ว่า​แพทย์​ทุกคน​จะสามารถ​เข้าไป​ได้​

เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​เกิด​ความเสียหาย​กับ​สวนสมุนไพร​ของ​เขา​ จงอี้​ห่า​ว​จึงได้​ให้​แพทย์​ที่​ต้องการ​สมุนไพร​สำหรับ​นำ​ไป​วิจัย​นั้น​ ส่งใบ​คำขอ​มา แล้ว​เขา​จะให้​คน​นำ​ไป​ให้​เอง​ นี่​จึงเป็นครั้งแรก​ที่​บรรดา​เหล่า​สมาชิก​ได้​เห็น​สมุนไพร​หลากหลาย​จาก​สวนสมุนไพร​แห่ง​นี้​ จึงไม่แปลก​ที่จะ​ค่อนข้าง​ตกใจ​อย่าง​มาก​

“สมแล้ว​ที่​เป็น​สวนสมุนไพร​ที่​สร้าง​ขึ้น​โดย​ประธาน​ฉี!”

และ​นับตั้งแต่​ที่​ฉีเล่ย​เดิน​เข้ามา​ใน​สำนักงาน​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้ยิน​คน​เอ่ยถึง​ประธาน​ฉี!

ทาง​ด้าน​เฉิน​หยาง​นั้น​ก็​เร่งเร้า​ให้​รีบ​เริ่ม​การแข่งขัน​โดยเร็ว​ และ​ดูเหมือน​เขา​จะมั่นใจ​อย่าง​มากว่า​ ชัยชนะ​จะต้อง​เป็น​ของ​ตนเอง​ ในขณะที่​หลิน​ชูว​โม่นั้น​ อย่า​ว่าแต่​จะรู้จัก​เลย​ ต่อให้​มีชื่อ​ติด​อยู่​ด้วย​ ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เธอ​จะสามารถ​อ่าน​ออกเสียง​ได้​ถูกต้อง​หรือเปล่า​?

“สือ​หู​”

“หลินจือ​”

ทั้งสองฝ่าย​เริ่ม​ผลัดกัน​บอกชื่อ​สมุนไพร​แต่ละ​ชนิด​ไป​เรื่อยๆ​ แต่​ยิ่ง​ผ่าน​ไป​ ก็​ยิ่ง​เป็น​สมุนไพร​หา​ยาก​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ กระทั่ง​บาง​ต้น​นั้น​ ฉีเล่ย​ยัง​ต้อง​หยุด​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​

จนกระทั่ง​มาถึงต้น​สุดท้าย​ ซึ่งหลิน​ชูว​โม่จะต้อง​เป็น​คน​ตอ​บ.​..

หลิน​ชูว​โม่แสร้ง​ทำเป็น​ครุ่นคิด​ แต่​ความจริง​แล้ว​เธอ​กำลัง​รอคอย​คำตอบ​จาก​ฉีเล่ย​อยู่​ และ​ถ้าครั้งนี้​เธอ​ไม่สามารถ​ตอบ​ได้​ก็​เป็นอัน​จบ​

หลิน​ชูว​โม่เริ่ม​มีสีหน้า​วิตกกังวล​เมื่อ​ฉีเล่ย​ยังคง​เงียบกริบ​…

“ไม่เป็นไร​ครับ​คุณ​หลิน​ ไม่ต้อง​บีบ​ตัวเอง​มาก​นัก​ ตอบ​ไม่ได้​ก็​ไม่ต้อง​ฝืน​”

เฉิน​หยาง​พูดจา​เย้ยหยัน​ แต่​การ​ที่​หลิน​ชูว​โม่สามารถ​ตอบ​ชื่อ​สมุนไพร​ได้​ถูกต้อง​มากมาย​ขนาด​นี้​ ก็​นับว่า​ทำให้​เขา​รู้สึก​ทึ่ง​มาก​แล้ว​

“ไม่ต้อง​รีบร้อน​ไป​ ขอ​ผม​คิด​ดูก่อน​!”

เสียง​ของ​ฉีเล่ย​ดัง​เข้ามา​ใน​หู​ของ​หลิน​ชูว​โม่ ทำให้​เธอ​คลายกังวล​ลง​ได้​บ้าง​

ฉีเล่ย​รู้สึก​ละอายใจ​ไม่น้อย​ ที่​ไม่สามารถ​จดจำ​ชื่อ​สมุนไพร​ที่​ตนเอง​นำมา​ได้​ไม่หมด​ จึงได้​รีบ​พยายาม​ที่จะ​นึก​ให้​ออก​โดยเร็ว​

“นี่​คุณ​ผู้ช่วย​ พวกเรา​ไม่สามารถ​รอ​นาน​ได้​นะ​ ถ้าอีก​หนึ่ง​นาที​ไม่ตอบ​ ถือว่า​คุณ​เป็น​ฝ่าย​แพ้​นะ​ครับ​”

แต่​แล้ว​จู่ๆ ฉีเล่ย​ก็​นึก​จำได้​ว่า​ เขา​ได้​สมุนไพร​ชนิด​นี้​มาจาก​ที่ไหน​ มัน​อยู่​ใน​สวน​ของ​บ้าน​อาจารย์​เขา​เอง​ และ​เขา​เป็น​คน​หยิบ​มัน​ติดมือ​กลับมา​ เขา​ยังคง​จำใบ​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความเสียดาย​ของ​ชาย​ชรา​ใน​ครั้งนั้น​ได้​

“หงจิ่น​เทียน​”

ฉีเล่ย​ร้อง​ตะโกน​ออกมา​ด้วย​ความตื่นเต้น​ดีใจ​ ซึ่งคำพูด​ของ​ฉีเล่ย​นั้น​ ได้​ดัง​จน​คน​ทั้ง​ห้อง​ได้ยิน​อย่าง​ทั่วถึง​

“เสียง​ใคร​?!”

เฉิน​หยาง​ถึงกับ​นิ่งอึ้ง​ไป​ด้วย​ความตกใจ​ และ​กำลัง​มอง​หาว่า​ใคร​เป็น​คน​ร้อง​ตะโกน​ตอบ​ออกมา​

“ใคร​?! เมื่อ​ครู่​ใคร​เป็น​คน​ตอบ​?”

เฉิน​หยาง​รู้สึก​โกรธ​มาก​ ทั้งที่​เขา​กำลังจะ​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​อยู่แล้ว​ แต่กลับ​ถูก​ใคร​ไม่รู้​ทำลาย​แผนการ​แบบนี้​ เขา​โมโห​จน​ถึงกับ​ทุบ​โต๊ะ​เสียงดัง​ พร้อมกับ​ร้อง​ตะโกน​ถามออก​ไป​ว่า​

“ใคร​?! ถ้าไม่แสดงตัว​ ฉัน​ก็​จะไม่เกรงใจ​แล้ว​นะ​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด