ยอดคุณหมอสกุลเฉินตอนที่313 คฤหาสน์วังมังกร

Now you are reading ยอดคุณหมอสกุลเฉิน Chapter ตอนที่313 คฤหาสน์วังมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​313 คฤหาสน์​วัง​มังกร​

คำพูด​ของ​ผู้เฒ่า​จิน​นั้น​ ทำให้​ฉีเล่ย​รู้สึก​อบอุ่นใจ​เป็นอย่างมาก​

“ไม่ต้อง​ห่วง​ครับ​ ผม​จะคว้า​ชัยชนะ​ครั้งนี้​มาให้ได้​”

ฉีเล่ย​เอ่ย​ตอบ​ชาย​ชรา​ใน​ระหว่าง​ที่​รอคอย​ให้​เครื่องบิน​ส่วนตัว​ลง​จอด​

หลังจากที่​เครื่องบิน​ส่วนตัว​ลง​จอด​แล้ว​ ฉีเล่ย​ก็ได้​ร่ำลา​ชาย​ชรา​ก่อน​จะก้าว​เดินลง​ไป​ จากนั้น​ ชาย​ชรา​ก็ได้​จากไป​ในทันที​

“วัง​มังกร​งั้น​เหรอ​?”

ทันทีที่​ก้าว​ลง​มาจาก​เครื่องบิน​ส่วนตัว​ ฉีเล่ย​ก็ได้​แต่​ยืน​จ้องมอง​ป้าย​ตระหง่าน​ตรงหน้า​ จนกระทั่ง​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เขา​จึงได้​มอง​สำรวจ​ไป​รอบตัว​ และ​พบ​ว่า​ การ​จัด​การแข่งขัน​แพทย์​แผน​จีน​ครั้งนี้​ถูก​จัด​ขึ้น​กลาง​หุบเขา​ ฉีเล่ย​ถึงกับ​ร้อง​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความประหลาดใจ​

“ว้าว​! การแข่งขัน​จัด​ขึ้น​ที่นี่​จริงๆ​เหรอ​เนี่ย​?!”

นี่​นับ​เป็น​ความรู้สึก​ที่​ใหม่​สำหรับ​ฉีเล่ย​เป็นอย่างมาก​ เขา​เพิ่งจะ​เคย​มาสถานที่​แห่ง​นี้​เป็นครั้งแรก​ และ​พบ​ว่า​ มัน​เป็น​สถานที่​ที่​งดงาม​อย่าง​มาก​ ไม่ว่า​จะมอง​ไป​ทาง​ไหน​ก็​สวยงาม​ ผ่อนคลาย​ ชวน​ให้​มีความสุข​อย่าง​ที่สุด​

กลาง​เขา​ด้านหน้า​นั้น​ มีคฤหาสน์​หลัง​ใหญ่​ตั้งอยู่​ และ​ถึงแม้ว่า​มัน​จะเป็น​คฤหาสน์​ แต่​ก็​ไม่ได้​ให้​ความรู้สึก​ว่า​ว่า​เป็น​ปราสาท​เก่าแก่​แต่อย่างใด​เลย​ ตรงกันข้าม​ มัน​ดู​เป็น​คฤหาสน์​ใหญ่โต​ที่​ดู​ทันสมัย​อย่าง​มาก​

ที่​หน้า​ทางเข้า​นั้น​เป็น​จุด​ตรวจสอบ​เอกสาร​ชี้บ่ง​ฐานะ​ของ​ผู้เข้าแข่งขัน​ ฉีเล่ย​นำ​เอกสาร​ที่​ผู้เฒ่า​จิน​เตรียม​ไว้​ให้​ออกมา​ ก่อน​จะยื่น​ให้​เจ้าหน้าที่​ตรวจดู​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามออก​ไป​ว่า​

“เอกสาร​พร้อม​ ไม่มีปัญหา​อะไร​ใช่ไหม​ครับ​?”

เจ้าหน้าที่​จ้องมอง​เอกสาร​พร้อมกับ​ป้าย​เข้าร่วม​ครู่หนึ่ง​ ในที่สุด​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​สำรวจ​ฉีเล่ย​ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ว่า​ “ตัวแทน​จาก​ตระกูล​จิน​งั้น​เหรอ​?”

ฉีเล่ย​หัวเราะ​พร้อมกับ​เอ่ย​ถามออก​ไป​ว่า​ “ฟังดู​น่ากลัว​สินะ​ครับ​?”

“นี่​พ่อ​หนุ่ม​ อย่า​เพิ่ง​จองหอง​อวดดี​ไป​ ทุกคน​ที่มา​เข้าแข่งขัน​ใน​วันนี้​ ล้วนแต่​ไม่ธรรมดา​ทั้งนั้น​ ระมัดระวัง​ตัว​ไว้​บ้าง​ก็ดี​ อย่า​อวดเก่ง​ให้​มากเกินไป​นัก​!”

ฉีเล่ย​ยิ้ม​ตอบ​อย่าง​ไม่ใส่ใจกับ​คำพูด​ของ​อีก​ฝ่าย​มาก​นัก​ และ​เมื่อ​เห็น​ว่า​มีคน​มาถึงยัง​ไม่มาก​เท่าไหร่​ เขา​จึงได้​หันไป​พูด​กับ​เจ้าหน้าที่​อีก​คน​ที่อยู่​ข้างๆ​

“บรรยากาศ​กับ​ทิวทัศน์​ที่นี่​งดงาม​มาก​จริงๆ​เลย​นะ​ครับ​!”

“ก็​ใช่น่ะ​สิ! นี่​คุณ​ไม่รู้​เหรอ​ว่า​วัง​มังกร​เป็น​สถานที่​แบบ​ไหน​?”

เจ้าหน้าที่​คน​นั้น​ตอบกลับ​ฉีเล่ย​ด้วย​สีหน้า​ภาคภูมิใจ​ “ที่นี่​เป็น​ดินแดน​แพทย์​ศักดิ์สิทธิ์​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​เหตุผล​อะไร​บางอย่าง​ สถานที่​แห่ง​นี้​คงจะ​ต้อง​กลายเป็น​โรงพยาบาล​แพทย์​แผน​จีน​ ที่​ทรงอิทธิพล​ที่สุด​ของ​ประเทศ​ไป​แล้ว​!”

เมื่อ​ได้ยิน​อีก​ฝ่าย​พูดถึง​วัง​มังกร​อย่าง​สวยหรู​เช่นนี้​ ฉีเล่ย​เอง​ก็​ไม่กล้า​แม้แต่​จะเชื่อ​ ถึงอย่างนั้น​เขา​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออก​ไป​ และ​เจ้าหน้าที่​คน​เดิม​ก็​เอ่ย​บอก​กับ​ฉีเล่ย​ว่า​

“อีก​สอง​สามวัน​ถึงจะเริ่ม​การ​แข่ง​ขั​ ถึงตอนนั้น​ ก็​จะมีคน​มาเต็ม​วัง​มังกร​ไป​หมด​ เอาเป็นว่า​ ช่วงนี้​คุณ​ก็​เดินเที่ยว​ชมรอบ​ๆไป​ก่อน​ก็ได้​”

ฉีเล่ย​รู้สึก​ว่า​ ที่นี่​ดู​แปลก​ๆพิกล​อย่างไร​ก็​ไม่รู้​ กระทั่ง​เจ้าหน้าที่​เอง​ก็​แปลก​ด้วย​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​บอก​ได้​ว่า​ แปลกประหลาด​ยังไง​ จึงคร้าน​ที่จะ​คิด​หา​เหตุผล​

ฉีเล่ย​หยิบ​คีย์​การ์ด​ที่​ได้รับ​มา จัดการ​รูด​เปิด​ประตู​เข้าไป​ภายใน​วัง​มังกร​ หลังจาก​ผ่าน​มาตร​การรักษา​ความปลอดภัย​สอง​สามขั้นตอน​ ในที่สุด​ฉีเล่ย​ก็​เข้าไป​ด้านใน​ได้​

แม้ที่นี่​จะถูก​เรียกขาน​ว่า​เป็น​เดิน​แดน​แพทย์​ศักดิ์สิทธิ์​ แต่​ภายใน​กลับ​ดู​มีความ​สมัย​อย่าง​มาก​ ไม่ว่า​จะเป็น​ตึกระฟ้า​ที่​สูงตระหง่าน​ หรือ​ศูนย์​วิจัย​ที่​ทันสมัย​ เรียก​ได้​ว่า​เหนือกว่า​ที่​สภาแพทย์​แผน​จีน​ของ​เขา​เสีย​อีก​

ฉีเล่ย​เห็น​แล้ว​ถึงกับ​แอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​ แต่​ในระหว่างนั้น​ ก็​มีเสียง​ร้องถาม​ดัง​ขึ้น​ข้างๆ​หู​ของ​เขา​

“ยอดเยี่ยม​ใช่ไหม​ล่ะ​?”

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉีเล่ย​มาที่นี่​ และ​เขา​ก็​ยัง​ไม่ได้​รู้จัก​ใคร​เป็นพิเศษ​ แต่​จู่ๆ ก็​มีคน​มาพูด​ข้าง​หู​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ฟังดู​สนิทสนม​ จึงรีบ​หันกลับ​ไป​ถามทันที​

“คุณ​รู้จัก​…”

ฉีเล่ย​ที่​กำลังจะ​หันหลัง​กลับ​ไป​ถามว่า​ รู้จัก​ตนเอง​ด้วย​งั้น​หรือ​? ถึงกับ​นิ่งอึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ เมื่อ​พบเห็น​ใบหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​ สีหน้า​ของ​ฉีเล่ย​เปลี่ยนเป็น​ตกใจ​สุดขีด​ พร้อมกับ​ร้อง​ตะโกน​ออกมา​เสียงดัง​

“ฮวา​โหล่​ว!”​

หลังจากนั้น​ เขา​ก็​ร้องถาม​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ความ​ดีอกดีใจ​ “ทำไม​คุณ​ถึงมาอยู่​ที่นี่​ได้​?”

ที่​ฉีเล่ย​ร้องถาม​ออก​ไป​เช่นนั้น​ก็เพราะว่า​ แม้จะมีแพทย์​แผน​จีน​หลาย​ต่อ​หลาย​คน​ที่​สนใจ​จะเข้าร่วม​การแข่งขัน​ครั้งนี้​ แต่​ก็​ใช่ว่า​ทุกคน​จะมีคุณสมบัติ​ผ่าน​เข้าร่วม​ได้​ อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​เป็น​ทายาท​ของ​ตระกูล​แพทย์​ที่​สืบเชื้อสาย​กัน​มาตั้งแต่​โบราณ​ หรือไม่​ก็​เป็น​คน​ที่​ตระกูล​ใหญ่​ให้การ​สนับสนุน​อย่างเช่น​ฉีเล่ย​ ซึ่งได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​ตระกูล​จิน​เป็นต้น​

แต่​ฮวา​โหล่​ว​นั้น​…

“ทำไม​?! แล้ว​ฉัน​เข้าร่วม​ไม่ได้​รึ​ไง?”

ฮวา​โหล่​ว​เอ่ย​ตอบ​พร้อมกับ​ยิ้ม​ซุกซน​ “นาย​พูด​อย่าง​กับ​ว่า​ฉัน​ไม่ได้​เป็น​หมอ​งั้น​ล่ะ​!”

ฉีเล่ย​เคย​เห็น​ทักษะ​ทางการแพทย์​ของ​ฮวา​โหล่​ว​มาก่อน​ และ​รู้ดี​ว่า​ ทั้ง​ในแง่​ของ​ทักษะ​และ​จรรยาบรรณ​นั้น​ ฮวา​โหล่​ว​นับว่า​เป็น​หมอ​แผน​จีน​ที่​น่าชื่นชม​มาก​คน​หนึ่ง​ทีเดียว​

“แต่ว่า​…”

ฉีเล่ย​ยิ้ม​กระอักกระอ่วน​ใจ ก่อน​จะพูด​ออก​ไป​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “แต่​คุณ​เป็น​หมอ​ที่​มาจาก​หมู่บ้าน​ใน​เขา​…”

หลังจาก​ได้​ฟังคำพูด​ของ​ฉีเล่ย​ ฮวา​โหล่​ว​ก็​ถึงกับ​หัวเราะ​จน​ตัว​โยก​ เธอ​จ้องหน้า​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ตอนแรก​ ฉัน​ก็​แค่​คิด​ว่า​คุณ​โง่ แต่​ตอนนี้​ฉัน​รู้​แล้ว​ว่า​คุณ​นี่​มัน​โง่จริงๆ​!”

ฉีเล่ย​ไม่เข้าใจ​ว่า​ฮวา​โหล่​ว​หมายถึง​อะไร​ แต่​ท้ายที่สุด​ เขา​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ ตอน​ที่อยู่​เขา​จิ่ว​เหลียน​ด้วยกัน​มาตลอด​หลาย​วันนั้น​ ฮวา​โหล่​ว​น่าจะ​ปกปิด​ฐานะ​ที่​แท้จริง​ของ​เธอ​ เหมือน​ที่​เขา​เอง​ก็​ทำ​กับ​เธอ​เช่นกัน​

ความจริง​แล้ว​ ฉีเล่ย​ควรจะ​ต้อง​โกรธ​ที่​อีก​ฝ่าย​โกหก​ตนเอง​ แต่​เขา​กลับ​ไม่รู้สึก​เช่นนั้น​เลย​แม้แต่น้อย​ และ​เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ฮวา​โหล่​ว​ เขา​ก็ได้​แต่​ยิ้ม​น้อย​ๆ

“ฉัน​บอก​คุณ​ก่อน​จะจากกัน​ไม่ใช่เหรอ​ว่า​ พวกเรา​อาจ​ได้​พบกัน​อีกครั้ง​?”

ฮวา​โหล่​ว​เอ่ย​บอก​ฉีเล่ย​พร้อมกับ​ขยิบตา​ให้​ และ​หลังจากที่​ฮวา​โหล่​ว​พูด​เตือน​ความจำ​ ฉีเล่ย​ก็​จำได้​ทันที​ว่า​ หญิงสาว​เคย​บอก​กับ​เขา​เช่นนั้น​จริงๆ​ แต่​ตอนนั้น​ เขา​ไม่คิด​ว่า​จะได้​พบ​กับ​ฮวา​โหล่​ว​ที่นี่​ แต่​คิด​ว่า​หญิงสาว​อาจ​ไป​เยี่ยมเยียน​เขา​ที่​ปักกิ่ง​

“คิดไม่ถึง​จริงๆ​ว่า​คุณ​จะร้ายกาจ​แบบนี้​! พวกเรา​เข้าไป​เดิน​ดู​กัน​ดีกว่า​”

ฉีเล่ย​เอ่ย​ชวน​ฮวา​โหล่​ว​เดิน​ชมวัง​มังกร​ที่​ยิ่งใหญ่​ จะมีใคร​คิด​ว่า​ กลาง​เขา​แบบนี้​ จะมีคฤหาสน์​ใหญ่โต​มากมาย​ถึงเพียงนี้​ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​

“นี่​.. ว่า​กัน​ว่า​คฤหาสน์​วัง​มังกร​แห่ง​นี้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ถึงสี่ครั้ง​เชียว​นะ​กว่า​จะเสร็จ​สมบูรณ์​ แต่ละครั้ง​ที่​ก่อสร้าง​ ก็​เป็น​โปรเจ็ค​ที่​ใหญ่​มาก​ๆเลย​ล่ะ​ ฟังดู​น่า​ตกใจ​ใช่ไหม​?”

ฮวา​โหล่​ว​เล่า​ให้​ฉีเล่ย​ฟัง และ​ดูเหมือน​เธอ​จะคุ้นเคย​กับ​สถานที่​แห่ง​นี้​มาก​ทีเดียว​ หญิงสาว​ยก​มือขึ้น​ชี้ไป​ทาง​อาคาร​ใหญ่​ตรงหน้า​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​

“ตรง​โน้น​เป็น​อาคาร​ที่พัก​ นอกจาก​เจ้าของ​คฤหาสน์​วัง​มังกร​แห่ง​นี้​แล้ว​ คนอื่นๆ​ก็​พัก​กัน​ที่นั่น​ล่ะ​”

ฉีเล่ย​พยักหน้า​รับรู้​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามเธอ​ว่า​ “นี่​คุณ​เข้าใจ​กฏ​กติกา​การแข่งขัน​ดีแล้ว​ใช่ไหม​?”

ระหว่าง​การ​เดิน​ชมคฤหาสน์​วัง​มังกร​กับ​กฏ​กติกา​ร​แข่งขัน​ อะไร​สำคัญ​กว่า​กัน​อย่างนั้น​หรือ​?

ฮวา​โหล่​วต​อบ​กลับ​ยิ้ม​ๆ “กติกา​ก็​ไม่มีอะไร​ซับซ้อน​ การแข่งขัน​จะมีทั้งหมด​สอง​รอบ​ รอบ​แรก​เป็น​การแข่งขัน​เก็บ​แต้ม​ ผู้เข้าแข่งขัน​ที่​สามารถ​เก็บ​แต้ม​ได้​มาก​ที่สุด​ 16 คน​แรก​ จะได้​ผ่าน​เข้าไป​แข่งขัน​ใน​รอบ​สอง​”

ฮวา​โหล่​ว​หยุด​ยิ้ม​ ก่อน​จะอธิบาย​ต่อว่า​ “ส่วน​ใน​รอบ​สอง​นั้น​ จะเป็นการ​คัดออก​ทีละ​คน​ โดย​จะมีการ​ทดสอบ​ความรู้​ทางทฤษฎี​ 20% ที่​เหลือ​จะให้​ผู้เข้าแข่งขัน​ได้​โชว์​ทักษะ​ใน​การรักษา​ผู้ป่วย​ และ​ใคร​ที่​สามารถ​รักษา​ผู้ป่วย​ให้​หาย​ได้​เร็ว​ที่สุด​ คน​นั้น​ก็​จะเป็น​ฝ่าย​ชนะ​”

ฮวา​โหล่​ว​บอกเล่า​ให้​ฉีเล่ย​ฟังด้วย​สีหน้าท่าทาง​ที่​สบาย​ๆ ดูเหมือน​เธอ​จะไม่หนักใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ ไม่ว่า​จะเป็นการ​แข่ง​ใน​รอบ​แรก​ หรือ​รอบ​ที่สอง​

“ส่วน​รอบ​สุดท้าย​ ก็​เป็น​การคัดเลือก​แชมป์​สินะ​?”

ฮวา​โหล่​ว​พยักหน้า​ แต่​แล้วก็​เหมือน​เพิ่ง​นึก​อะไร​ออกมา​ได้​ จึงรีบ​ร้องบอก​ฉีเล่ย​ไป​ว่า​ “อ่อ​ มีเรื่อง​หนึ่ง​ที่​คุณ​จะต้อง​จำไว้​ให้​ดี​!”

“การแข่งขัน​ใน​ครั้งนี้​ก็​ไม่ต่าง​จาก​ที่​เขา​จิ่ว​เหลียน​ จิตใจ​ของ​มนุษย์​นั้น​น่ากลัว​มาก​ที่สุด​!”

“นี่​คุณ​พูด​ให้​ดู​น่ากลัว​เกินไป​รึเปล่า​?” ฉีเล่ย​เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่อยาก​จะเชื่อ​

ฉีเล่ย​ไม่รู้​ว่า​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​หรือไม่​ ที่​ชะตา​กำหนดให้​พวกเขา​ทั้งคู่​ได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​ และ​ไม่เพียงแค่​ได้​พบ​เจอ​ แต่​ห้องพัก​ของ​ทั้งคู่​ยังอยู่​ติดกัน​อีกด้วย​

“คุณ​พัก​อยู่​ห้อง​ไหน​?”

“ห้อง​ 1405 แล้ว​คุณ​ล่ะ​?” ฉีเล่ย​มองดู​คีย์​การ์ด​ใน​มือ​พร้อมกับ​เอ่ย​ตอบ​

ฮวา​โหล่​ว​เอง​ก็​หยิบ​คีย์​การ์ด​ออกมา​ดู​เช่นกัน​ พร้อมกับ​ยกขึ้น​โบก​ไปมา​ และ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ “1407 ช่างบังเอิญ​จริงๆ​เลย​!”

ฉีเล่ย​หัวเราะ​ออกมา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ดี​เลย​! จะได้​มีเพื่อน​”

ฮวา​โหล่​ว​เอง​ก็​พยักหน้า​และ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ “นั่นสิ​นะ​! ไม่งั้น​คงจะ​เหงา​แย่​เลย​!”

ระหว่างทาง​ที่​เดิน​ไป​นั้น​ ฉีเล่ย​ก็​สังเกตเห็น​ใคร​บางคน​ยืน​อยู่​ และ​มีผู้คน​พา​กัน​ห้อมล้อม​ทั้ง​หน้า​และ​หลัง​ ด้วย​สัญชาติ​ญาณ ฉีเล่ย​รู้สึก​ว่า​คน​ๆนี้​ต้อง​ไม่ธรรมดา​ จึงได้​หันไป​ถามฮวา​โหล่​ว​ว่า​

“คุณ​รู้จัก​คน​นั้น​ไหม​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด