ยอดนักรบจอมราชัน 952 ความได้เปรียบ

Now you are reading ยอดนักรบจอมราชัน Chapter 952 ความได้เปรียบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 952 ความได้เปรียบ

ฮาเซงาวะเซตะก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่งและไม่รู้จะพูดอะไรยังไงดีเพราะเขายังต้องยอมรับว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดนั้นเป็นความจริงเพราะมันเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะทำอะไรภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันโดยอาศัยองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องพูดถึงองค์กรอื่นๆเลยเพราะเพียงแค่แก๊งยากูซ่าก็เพียงพอแล้วที่จะรับมือกับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ซึ่งนี่ไม่ได้หมายความว่าการสังหารหัวหน้าแก๊งยามากุจิแล้วจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลเรื่องนี้ก็มีต้นตอมาจากม่อหนานและถ้าหากเจรจากับม่อหนานได้ก็อาจจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา

เย่เชียนก็คิดในใจว่าถ้าหากม่อหนานรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของม่อหลงล่ะก็เขาจะสามารถลบล้างความเกลียดชังทั้งหมดและหันหลังกลับได้หรือไม่? อย่างน้อยๆเขาก็จะได้รู้ว่าทำไมม่อหนานถึงทำเช่นนี้และเหตุผลคืออะไรเพราะเย่เชียนเชื่อว่าชายชาตินักสู้จีนโบราณจะไม่มีวันทรยศต่อประเทศชาติอย่างไร้เหตุผลอย่างแน่นอน

นากาซาวะเคโกะก็ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ม่อหนานเป็นฝ่ายติดต่อเรามาก่อนทุกครั้งและเราไม่มีทางติดต่อเขาได้เลย..แต่ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตรวจสอบที่อยู่ของม่อหนานให้..หากทางเราได้ข่าวอะไรฉันจะรีบแจ้งคุณเย่ทันที”

ในตอนนี้มีหน่วยข่าวกรองที่สุดยอดถึงสององค์กร ซึ่งองค์กรหนึ่งคือสาวกหมิงม่อที่รู้ข้อมูลเชิงลึกในหลายๆด้าน ส่วนอีกองค์กรคือชาโด้ซากุระเจ้าถิ่นของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นคงใช้เวลาไม่นานก็น่าจะได้ข่าวอย่างรวดเร็ว “ถ้าแบบนั้นผมต้องขอรบกวนคุณนากาซาวะด้วย” เย่เชียนพูด

“ว่าแต่คุณเย่..สิ่งที่คุณพูดก่อนหน้านี้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะโต้กลับนั้นคุณหมายความว่าไง?..คุณเย่ช่วยบอกพวกเราหน่อยจะได้หรือเปล่า” ฮาเซงาวะเซตะอดทนต่อความอยากรู้อยากเห็นในใจเอาไว้ไม่ได้จึงเอ่ยปากถาม

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าก่อนที่เราจะทำสิ่งต่างๆเราต้องมาตกลงกันก่อน”

“ถ้าคุณเย่อยากจะพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆได้เลย” ฮาเซงาวะเซตะพูดต่อ “ฉันพูดไปแล้วว่าพวกเราคนกันเองเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”

“ครับผมจะพูด” เย่เชียนพูดต่อ “ในเมื่อคุณฮาเซงาวะรู้เบื้องหลังของผมดีเพราะงั้นคุณก็น่าจะชัดเจนว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นเป็นยังไง..การที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะสั่นคลอนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงเพราะในแง่ของเงินเราสามารถหาได้จากทุกที่ในโลกและไม่ใช่แค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นใช่มั้ย?”

“คุณเย่หมายความว่าไง?” ฮาเซงาวะเซตะพูดด้วยความประหลาดใจ

“สิ่งที่ผมจะสื่อนั้นง่ายมาก..ถ้าผมช่วยให้คุณชนะการเลือกตั้งแล้วผมจะได้ประโยชน์อะไร” เย่เชียนพูดต่อ “แน่นอน..ผมรู้ดีว่าคุณฮาเซงาวะอาจจะประสบความสำเร็จได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผมแต่นั่นก็เพื่อเพิ่มโอกาสและลดความเสี่ยงต่างๆใช่มั้ย?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮาเซงาวะเซตะก็ขมวดคิ้วแน่น เพราะถึงแม้ว่าเขาจะได้เปรียบในตอนนี้แต่ก็ยังมีศึกอีกยาวนานกว่าที่การเลือกตั้งจะสิ้นสุด ซึ่งความได้เปรียบเดียวของเขาในตอนนี้คือการสนับสนุนจากองค์กรชาโด้ซากุระแต่เขาไม่สามารถตั้งความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่องค์กรชาโด้ซากุระได้เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ฮาเซงาวะเซตะเองย่อมรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นการเมืองหรือหุ้นส่วนธุรกิจก็ตามความจริงๆแล้วมันก็คือความสัมพันธ์ของผลประโยชน์และความร่วมมือกัน แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะขอให้เย่เชียนช่วยเขาโดยไม่มีเหตุผลซึ่งค่อนข้างไร้สาระไปหน่อยถ้าหากทำเช่นนั้น หลังจากหยุดไปชั่วขณะฮาเซงาวะเซตะก็พูดว่า “แล้วคุณเย่ต้องการอะไรล่ะ”

จากนั้นเย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “คุณฮาเซงาวะ..ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องเป็นคนบอกผมไม่ใช่หรอครับ..เพราะงั้นคุณมีอะไรจะให้ผมบ้าง”

“ถ้าฉันชนะการเลือกตั้งและได้รับเลือกล่ะก็ฉันสัญญาเลยว่าในอนาคตกิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมดของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปในประเทศญี่ปุ่นจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและแม้กระทั่งการช่วยให้คุณเย่ผูกขาดอุตสาหกรรมต่างๆหรือการจัดตั้งองค์กรใดๆก็ตามภายใต้การดูแลของคุณ” ฮาเซงาวะเซตะพูด

เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆเพราะผลประโยชน์เหล่านี้ช่างน่าดึงดูดใจจริงๆ แต่เย่เชียนก็รู้ด้วยว่าหากวันหนึ่งในอนาคตเขาขัดแย้งกับฮาเซงาวะเซตะล่ะก็ไม่เพียงแค่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปเท่านั้นที่ไม่สามารถอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้เพราะแม้แต่เขาเองก็ยังไม่สามารถเผชิญกับรัฐบาลญี่ปุ่นได้เลย ในเวลานั้นหากมีอะไรผิดพลาดฮาเซงาวะเซตะสามารถยุติเครือน่านฟ้ากรุ๊ปได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีนี้ การลงทุนและสิ่งที่พยายามมาทั้งหมดจะไม่เปล่าประโยชน์หรือ?

“ไม่ว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจะอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญอะไร..เพราะด้วยทรัพยากรทางการเงินในปัจจุบันของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นผมและพี่น้องทั้งหมดสามารถอยู่ได้ไปทั้งชีวิต..ถ้าคุณฮาเซงาวะคิดว่าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปไม่เหมาะสำหรับการพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นจริงๆล่ะก็ผมสามารถถอนการลงทุนให้คุณได้เลย” เย่เชียนพูด

นี่เป็นเพียงแผนของเย่เชียนเท่านั้นเพราะถ้าเขาบรรลุข้อตกลงกับฮาเซงาวะเซตะจริงๆล่ะก็ต่อให้เขาจะถอนการลงทุนของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปทั้งหมดออกจากประเทศญี่ปุ่นถึงยังไงฮาเซงาวะเซตะก็ไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้นอยู่ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วรายได้ที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปสร้างขึ้นในประเทศญี่ปุ่นทุกๆปีนั้นเป็นเงินจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่างๆและแก้ปัญหาใหญ่ๆได้ เช่น ปัญหาการจ้างงานที่ยากลำบาก

ฮาเซงาวะเซตะก็หายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “แล้วคุณเย่ต้องการผลประโยชน์แบบไหน..คุณเย่บอกมาตามตรงได้เลย..ตราบใดที่เป็นสิ่งที่ฉันทำได้ฉันก็จะทำให้”

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดคุณเย่ต้องการพัฒนาองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในประเทศญี่ปุ่นและสร้างฐานบัญชาการในอนาคตใช่หรือเปล่า?” นากาซาวะเคโกะพูดด้วยรอยยิ้ม

ฮาเซงาวะเซตะก็หันไปมองเย่เชียนด้วยใบหน้าที่ดูสงสัยและเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณนากาซาวะนี่รู้ใจผมดีจริงๆ..นั่นก็ไม่ผิดแต่คุณพูดถูกแค่ครึ่งเดียว” เย่เชียนพูดต่อ “องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของผมนั้นมีสมาชิกจำนวนจำกัด..ดังนั้นมันจึงและไม่เหมาะสำหรับการพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นและผมก็รู้ดีว่าพวกองค์กรใต้ดินทั้งหมดในญี่ปุ่นเป็นองค์กรที่ขึ้นตรงต่อกฎหมายและมีสายแฝงอยู่ในกรมตำรวจทั่วประเทศ..เพราะงั้นเงื่อนไขของผมคือถ้าหากคุณฮาเซงาวะเซตะได้รับการเลือกตั้งล่ะก็..นโยบายเก่าๆของรัฐบาลทั้งหมดจะต้องถูกยกเลิกและจะมีเพียงองค์กรเดียวเท่านั้นที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล..พูดง่ายๆก็คือผมจะเป็นองค์กรใต้ดินเพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่นในอนาคต..ส่วนองค์กรที่เหลือทั้งหมดจะผิดกฎหมายและรัฐบาลต้องร่วมมือกับเราในการปราบปรามขั้นเด็ดขาด”

ฮาเซงาวะเซตะก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาเพราะเงื่อนไขแบบนี้ค่อนข้างน่าตกตะลึง ถ้าหากเขายอมรับเงื่อนไขของเย่เชียนจริงๆล่ะก็เย่เชียนจะแข็งแกร่งแค่ไหนในอนาคต? ซึ่งยังมีอิทธิพลต่อการพัฒนาทางการเมืองของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย แน่นอนว่าเย่เชียนนั้นเห็นถึงความกังวลใจของฮาเซงาวะเซตะดังนั้นเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฮาเซงาวะไม่ต้องกังวลไปหรอก..เพราะผมไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆทั้งสิ้น..เพราะถึงยังไงคุณฮาเซงาวะก็จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างและปกครองระบอบของประเทศเหมือนเดิม..แต่ถ้าคุณมอบกองกำลังใต้ดินทั้งหมดให้ผมแล้วล่ะก็ผมจะสามารถมีบทบาทอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนคุณในการเลือกตั้งในอนาคตทุกๆสมัย..ทั้งหมดคือเราจะไว้วางใจซึ่งกันและกันและจะร่วมมือกันตลอดไป”

ฮาเซงาวะเซตะก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เงื่อนไขนี้ไม่มีปัญหาหรอกแต่ฉันอยากรู้ว่าคุณเย่จะช่วยให้ฉันประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งได้ยังไง”

เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จริงๆแล้วคำถามนี้ไม่ได้ตอบยากอะไรเลย..ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าใครว่านาโอกิอิชิอินั้นเป็นใคร..เขาเป็นผู้บัญชาการทหารที่เผด็จการมาก..ผมคิดว่าประเด็นสำคัญที่สำคัญที่สุดระหว่างคุณกับเขาตอนนี้คือใครจะได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติมากกว่ากัน..สำหรับการสนับสนุนระดับประเทศเหล่านี้ผมคิดว่าตราบใดที่เราทำให้นานาชาติรู้ได้ว่านาโอกิอิชิอิทำอะไรลงไปบ้างล่ะก็นานาชาติจะต้องไม่อนุมัติและเข้ามาแทรกแซงอย่างแน่นอน..ส่วนสมาชิคพรรคเหล่านั้นผมคิดว่าพวกเขาไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับคุณใช่ไหม?..ส่วนข้อมูลความสัมพันธ์และการกระทำต่างๆของสมาชิกในพรรคผมคิดว่าคุณนากาซาวะน่าจะรวบรวมมาได้เยอะพอสมควร..ถ้างั้นเราก็แค่ใช้ข้อมูลเหล่านั้นไปข่มขู่สมาชิกของพรรคจากนั้นพวกเขาจะต้องสนับสนุนเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

“ฉันเองก็คิดแบบนั้นแต่มันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ” ฮาเซงาวะเซตะพูด “ไม่กี่วันที่ผ่านมาความขัดแย้งระหว่างพวกนินจาทำให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นต่างก็หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและฉันก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะจัดการเรื่องพวกนี้..ซึ่งดูเหมือนว่าคำตอบของคุณจะธรรมดาไปหน่อยนะ”

“ถ้าคุณต้องการได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติล่ะก็คุณไม่จำเป็นต้องแสดงตัวเองว่าคุณเก่งแค่ไหนเลย..แต่คุณต้องแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณนั้นมีเล่ห์เหลี่ยมมากแค่ไหนนั่นเอง” เย่เชียนพูด “ใครคือประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น?..นั่นคือประเทศสหรัฐอเมริกาใช่มั้ย?..เพราะงั้นตราบใดที่คุณสามารถได้รับการสนับสนุนจากประเทศอเมริกาได้ล่ะก็โอกาสของคุณที่จะชนะการเลือกตั้งก็มากขึ้น”

ทุกคนรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับประเทศจีนนั้นไม่ค่อยดีนัก ซึ่งฮาเซงาวะเซตะเป็นคนที่สนับสนุนประเทศจีนเพราะงั้นมีแต่ก็นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศเท่านั้น ดังนั้นสิ่งนี้จึงทำให้ฮาเซงาวะเซตะหมดหนทางแต่เมื่อได้ยินเย่เชียนพูดเช่นนี้เขาก็เริ่มสนใจขึ้นมาในทันที

“จริงเหรอ..คุณเย่ลองบอกรายละเอียดมาหน่อยสิ..ถ้าหากมันเป็นไปได้จริงๆล่ะก็ฉันจะยอมทำตามที่คุณขอทุกอย่างเลย” ฮาเซงาวะเซตะพูด

เย่เชียนก็ฉีกยิ้มด้วยความพึงพอใจและในที่สุดเขาก็ได้เปรียบในการต่อรองกับฮาเซงาวะเซตะ “เท่าที่ผมรู้มาเกี่ยวกับแผนการของนาโอกิอิชิอิหลังจากได้รับการเลือกแล้ว..เขาวางแผนที่จะยุบฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่ประจำการอยู่ในประเทศญี่ปุ่นออก..เพราะงั้นสิ่งที่เราต้องทำคือนำไฟล์และหลักฐานเหล่านั้นมา..ด้วยสิ่งนี้เราจะมีชัยไปกว่าครึ่ง!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฮาเซงาวะเซตะก็หันไปมองนากาซาวะเคโกะและดูเหมือนจะถามว่าเธอรู้ข่าวนี้หรือเปล่า ซึ่งนากาซาวะเคโกะก็พยักหน้าและพูดว่า “เราเคยได้ข้อมูลนี้มาก่อนแต่ท้ายที่สุดแล้วเราพบว่ามันเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นและยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด..ซึ่งถึงแม้ว่านาโอกิอิชิอิจะมีไฟล์และข้อมูลนี้อยู่จริงๆล่ะก็เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันอยู่ที่ไหนแล้วเราจะเริ่มจากที่ไหนดี”

“คุณไม่จำเป็นต้องกังวลไปเพราะเรื่องนี้แค่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม” เย่เชียนพูด

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด